


a G. dicrozoster
b G. abalios
c G. winemilleri
d G. brokopondo
e G. brachybranchus
f G. surinamensis
g G. proximus
h G. megasema
i G. camopiensis
j G. altifrons
เนื่องด้วย ช่วงนี้รู้สึกว่ามีผู้นิยมปลาหมอในกลุ่ม Eartheater มากมายเหลือเกิน เลยอยากมีส่วนร่วมบ้าง
แม้ว่า ณ ตอนนี้จะมีเลี้ยงอยู่ชนิดเดียวคือ biotodoma cupido
แต่เชื่อว่า ถ้ายังไม่หยุดโพสรูปให้ดูกัน ตบะคงแตก
และคงไปหามาเลี้ยงอย่างคนอื่นเขา... [on_007]
อีกอย่าง เป็นไข้ตั้งแต่วันจันทร์ เวียนหัวมากมาย งานการก็ทำไม่ได้เต็มร้อยนัก <<<เลยขี้เกียจทำ [on_008]
จึงพอมีเวลามานั่งจิ้ม นั่งเทียนทำกระทู้นี้ให้ได้ดูกัน
ชอบกด + จะเอาตังไปซื้อ skill slot และ Magic Arrow ้hahaha
ถ้าไม่ชอบ อยู่เฉยๆ แล้วกดปิดไป คนไม่สบายใจน้อยทุกคน ชิชะ... แต่หัวไม่ล้านนะเออ [on_009]
อ่ะๆ คิดว่าจะมาแนะนำปลากันล่ะซิ เปล่าเลยครับ
วันนี้แค่โพสชื่อและรูปเท่านั้น
เอ๊!.......อย่ามาเซ้าซี้น่ะ ยิ่งไม่สบายอยู่ เดี๋ยวไอใส่หน้าเลย hur04
เริ่มเลยแล้วกัน
Geophagus abalios
abalios <<< a ในภาษากรีกหมายถึง ไม่มี + กับคำว่า balios มาจากภาษากรีก ที่หมายถึง ด่าง
ชื่อวิทย์นี้อธิบายถึง การขาดเครื่องหมายบนกระดูกส่วน preopercular <<<แถวๆ แผ่นปิดเหงือกบริเวณแก้มปลา ลองหาเอาแล้วกันนะ


Geophagus altifrons
altifrons ชื่อมาจากภาษาลาติน altus แปลว่าสูง frons หมายถึงหน้าผาก
แปลแบบบ้านๆ เยี่ยงลูกชาวสวนว่า หน้าผากสูง หรือ หน้าผากโหนก อาจจะมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น จำต้องเลาะกระดูกปลามาวัดกันเลยทีเดียว... (ดูรูปวาดด้านบนประกอบ)
อ่อ จุดสังเกตุ Geophagus altifrons อีกอย่างคือ จุดกลางตัวจะเล็กกว่าเพื่อนร่วมสกุลทั้งหมดนะครับ
อะไรนะ! รูปในnetก็มีบางตัวจุดใหญ่ก็มี
หันไปไอ แค่กๆ สองทีแล้วบอกว่า "เออ~ เรื่องของเอ็ง จนปัญญาแล้ว..."


Geophagus argyrostictus
argyrostictus = Argyros แปลว่า เงิน ส่วน stictos หมายถึงจุด
แปลง่ายมากๆ จุดสีเงิน อธิบายถึงจุดบนลำตัวปลา



Geophagus brachybranchus
"Brachys"= สั้น,"branchus"= เหงือก
แปลง่ายๆ ว่าเหงือกสั้น ใครไม่เชื่อลองสั่งปลาเข้ามาแล้ววัดความยาวเหงือกดูครับ


Geophagus Brokopondo
Brokopondo มาจากคำว่า Brokopondosee ซึ่งเป็นคำเรียกภาษาท้องถิ่นใน Suriname


Geophagus camopiensis
camopiensis ตั้งชื่อตาม แม่น้ำCamopi ใน French Guiana



Geophagus dicrozoster
dicrozoster มาจากคำว่า dikros ในภาษากรีก หมายถึง คดเคี้ยว
อธิบายถึงลายบนตัวปลาที่เป็นรูปตัว Y
ดูรูปปลาให้ตาแตกก็มองไม่เห็น ถ้าอยากเห็น ให้ไปดูรูปวาด ปลาตัวแรก (a)
นั่นแหละ ลายตัว Y ที่ว่า





Geophagus harreri
harreri <<< ตั้งชื่อตามผู้ช่วยศาสตราจารย์ Heinrich Harrer และท่าน ผศ. Heinrich Harrer แกก็มีวีรกรรมไม่เบา ลองหาอ่านดู...
http://en.wikipedia.org/wiki/Heinrich_Harrer
ส่วนเรื่องปลา ปลาตัวนี้แปลกกว่าเพื่อนร่วมสกุลหลายอย่าง เช่นลำตัวที่ยาว จุดดำที่กลางลำตัวก็เหมือนจะกลายเป็นเส้นแนวตั้งสีดำได้ แถมมีจุดดำที่ปลายฐานครีบหลังอีกต่างหาก นับว่าปลาตัวนี้มีเอกลักษณ์ดี จำง่าย
Geophagus parnaibae
ตั้งชื่อตามแหล่งที่พบ พบใน Rio Parnaiba
เมื่อก่อนถูกตั้งชื่อเป็น Geophagus sp. "Pindare" (Parnaiba)
แต่ปัจจุบันได้รับการยืนยันแล้ว และมีชื่อวิทย์ฺเป็นของตนเองในที่สุด... lau01



Geophagus proximus
proximus เป็นคำละติน แปลว่า the next ก็ยังไม่เข้าใจเหมือนกันนะครับว่ามัน the next ตรงไหน ยังไง
ชื่อวิทย์ก็แบบนี้ ถ้าไม่กระจ่าง ก็ งง-งวยสิ้นดี
proximus นั้นเคยมีขายในบ้านเรา แต่อยู่ในวงจำกัด เมื่อลองโทรไปสอบถามได้ความว่า จุดขาวพาปลาไปนอนคุยกับรากมะขามเสียแล้ว ฟังอยากจะร้องไห้... [on_007]
จุดสังเกตุอีกอย่างนั่นคือ จุดที่กลางลำตัวของ proximus นั้นจะเป็นรูปสี่เหลี่ยม ไม่เหมือนเพื่อนร่วมสกุลตัวอื่นๆ
(ลองดูรูปแรกด้านบนประกอบ)



Geophagus surinamensis
surinamensis ได้ชื่อมาจากแหล่งที่พบนั่นเอง ปลาชนิดนี้พบเจอตัวอย่างครั้งแรกได้ในประเทศสุรินัม
Eartheater ยุคพระเจ้าเหาตัวนี้ถือเป็นปลาชนิดแรกๆ ที่มีเข้ามาให้เลี้ยงเลยทีเดียวนะครับ
ด้วยรูปร่างที่ใหญ่โต สง่างาม สีสวย
พบเจอมากมายหลายแหล่งในทวีปอเมริกาใต้ แต่ละแหล่งก็มีความแตกต่างกันนิดๆ หน่อยๆ
ที่ทำให้สับสนมากคือ เมื่อนำ Geophagus surinamensis มาเปรียบเทียบกับ Geophagus altifrons
เพราะปลาทั้งสองชนิดนี้มีลักษณะที่คล้ายกันมากๆ แถมยังมีความหลากหลายเยอะด้วยกันทั้งคู่
แต่มีสอง-สามจุดที่พอจะแยกออกได้นั่นคือ ลักษณะกระดูกส่วนหน้าของ สุรินัม นั้นจะหักลงมา
ส่วนของ อัลติฟรอน นั้นจะมีลักษณะที่นูนยื่นออกมาเล็กน้อย
ต่อมาคือจุดดำที่กลางตัว สุรินัมจะมีจุดดำใหญ่กว่า
หางของปลาทั้งสองชนิดนี้จะมีลวดลายที่ไม่เหมือนกัน
และหางครึ่งล่างของสุรินัมนั้นจะมีสีแดง ส่วนอัลตริฟรอนจะแดงเพียงขอบเท่านั้น
(ลองดูรูปวาดด้านบนประกอบ)
สุดท้าย อย่าเชื่อ จนกว่าจะได้ลองตรวจสอบด้วยตนเอง โดยการนำปลาทั้งสองชนิดมาเปรียบเทียบ
อย่าใช้รูปภาพทางอินเตอร์เน็ทมาเปรียบเทียบเด็ดขาด เพราะจะ งง ถึง งง มาก...
เตื่อนด้วยความหวังดี เพราะลองมาแ้ล้ว... n032


Geophagus taeniopareius
"Taenia" หมายถึง ผูกพันธุ์ / เชื่อมต่อกัน = "pareia" = แก้ม <<<งง กันล่ะซิ... งง เหมือนกัน แต่เข้าใจว่าน่าจะอธิบายถึงลายสีดำที่ลากยาว (เพราะชื่อวิทย์ส่วนใหญ่จะเน้นที่จุดเด่นของปลา)

Geophagus winemilleri
ในที่สุดก็มาถึงพระเอกของผมเสียที ขอบอกว่าปลาตัวนี้ เขียวจริง แดงจริง สวยจริง!!!
อย่ามาทำหน้าทำตาอยากเลี้ยง เพราะไม่มีขายหรอก ในเมืองไทยบ้านเรา...
winemilleri <<<ตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่ Dr. Kirk O. Winemiller benannt Winemiller
(ดูรูป C ด้านบน)







แถมสกุล Satanoperca ให้ด้วยแล้วกัน เพราะไหนๆ ก็แก้ไขรูปใหม่หมดแล้ว
เอาที่ความหมายชื่อสกุลก่อนเลยแล้วกัน
Satanoperca มากจากคำว่า satanas ในภาษาลาติน หมายถึง ปีศาจ
เนื่องจากปลาในสกุลนี้หน้าตาดันไปเหมือนภูติผีปีศาจของคนแถบนั้น
perca มาจากภาษลาติน หมายถึงปลาในกลุ่ม perch
ชื่อสกุลเมื่อนำมารวมกันจึงแปลแบบกำปั้นทุบดินว่า ปลา perch ที่หน้าเหมือนภูติผี ปีศาจ
ทีนี้ก็เริ่มแต่ละชนิดเลยแล้วกันนะครับ
Satanoperca acuticeps
acuticeps มาจากสองคำคือ "Acute" = ยื่น ชี้, "ceps" = หัว
แปลรวมๆ ว่าหัวยื่นยาว
จุดสังเกตุปลาในตัวนี้คือ ให้ดูที่จุดบนตัวปลา จะมี 3 จุด ไม่รวมจุดที่ข้อหาง


Satanoperca daemon
daemon เป็นคำภาษาลาติน แปลว่า ผี ปัศาจ
สรุปปลาตัวนี้เป็นปีศาจกำลังสอง เพราะทั้งชื่อสกุลและชื่อวิทย์ก็หมายถึงปีศาจทั้งคู่...
จุดสังเกตุคือ จุดบนตัวปลาชนิดนี้มี 2 จุด ไม่รวมจุดที่ข้อหาง


Satanoperca jurupari
jurupari ในภาษาของคนในท้องถิ่นหมายถึง "แองเจิ้ล - มาร"

Satanoperca leucosticta
leucosticta "Leucos"= สีขาว,"stiktos"= จุด, ด่าง
รวมๆ แล้วอธิบายถึงจุดบนตัว หัว หน้า ของปลาครับ



Satanoperca lilith
lilith Lilith เป็นคำเรียกปีศาจหญิงออกหากินเวลากลางคืนในคติของชาว Babylonian ชื่อนี้ได้รับเลือกให้แสดงความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างชนิดนี้และ Satanoperca daemon


Satanoperca mapiritensis
mapiritensis ตั้งชื่อตามแหล่งที่พบ คือ Rio Mapirito ในประเทศเวเนซูเอล่า

Satanoperca pappaterra
คำว่า pappaterra เป็นคำของชาว Mato Grosso แปลว่า eartheater หรือผู้กินดิน


ขอจบเท่านี้นะครับ แม้ว่าในสกุลนี้จะยังมีอีกหลายชนิดที่ยังไม่ได้เขียนถึง
อ่อ นอกจากนี้ยังมีปลาใหม่ที่เพิ่งถูกตั้งชื่อเมื่อปีที่แล้วด้วย นั่นคือ Geophagus neambi และ Geophagus sveni ลองไล่หาอ่านดู อ่านแล้ว งง ดี
ส่วนพวก sp. ทั้งหลาย ขอบายครับ เยอะเหลือเกิน เขียนแล้วสับสน
กระทู้นี้เป็นเพียงสารตั้งต้นเท่านั้น หากท่านอยากรู้จักชนิดไหนเพิ่มเติม ก็เอาชื่อวิทย์ไปหาได้เลยใน google
หาไปเถอะ ได้ดูรูปสวยๆ ได้ข้อมูลใหม่บ้าง เก่าบ้าง ได้เห็นว่าคนอื่นเขาเลี้ยงยังไง ดูแลยังไง จัดตู้ยังไง
สนุกดี และได้ความรู้โดยไม่ต้องรอนโยบายจากรัฐบาลเลย
หวังว่าคงมีประโยชน์กับทุกๆ ท่านบ้างไม่มากก็น้อย


อันการเลี้ยงปลานั้น...
เลี้ยงร้อยชนิดปลา แต่ไม่รู้เรื่องปลาสักชนิด
มิสู้่เลี้ยงเพียงชนิด แต่รู้เรื่องราวมากมายชนิดปลา


สวัสดี... [on_055]