วันพฤหัสบดีที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2567 [11:02:53]

พ102 วัสดุปลูก

พ102 วัสดุปลูก เมื่อ: 01/11/2559 [18:46:39]
วัสดุปลูกคือสิ่งที่เราใส่ไว้ที่พื้นตู้ปลาเพื่อให้พืชใช้รากยึดเกาะ และเป็นแหล่งอาหารทางรากที่พืชใช้ในการเจริญเติบโต สามารถแบ่งออกได้เป็นสองชนิดหลักๆคือ วัสดุปลูกจากธรรมชาติ และวัสดุปลูกสำเร็จรูปที่ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อใช้กับไม้น้ำโดยเฉพาะ

1. วัสดุปลูกจากธรรมชาติ

1.1 กรวด

กรวดสำหรับเป็นวัสดุปลูกไม้น้ำที่ดี ต้องไม่เพิ่มค่า pH ไม่ทำให้น้ำกระด้าง ขนาด 2-3 มิลลิเมตร และไม่มีคมมากนัก เพราะมันจะบาดต้นไม้เวลาปักได้

กรวดที่เหมาะสมกับตู้ไม้น้ำ

กรวดแม่น้ำโขงกรวดแก้ว
เป็นหนึ่งในกรวดที่แนะนำให้ใช้เป็นวัสดุปลูก กลมดิก ไม่มีเหลี่ยม สีจะเป็นสีโทนคล้ำๆปนๆกันหลายสี จัดตู้แล้วจะออกแนวเข้มๆหน่อยนี่ก็แนะนำเหมือนกันครับ เนื่องจากมีเหลี่ยมคมที่จะทำอันตรายรากและลำต้นของไม้น้ำน้อย สีสันเป็นธรรมชาติในโทนออกขาวหน่อย หาซื้อได้ง่ายตามร้านขายกรวดทุกร้านครับ กิโลละ 10-20 บาท ขนาดที่นิยมก็จะเป็นเบอร์ 0 (ใหญ่กว่า 00 หน่อย) กับ 00 (เล็กสุด)
กรวดลูกรังกรวดนิล
เป็นกรวดที่ใช้ได้อีกอันนึงครับ มีธาตุเหล็กเยอะ เป็นการเสริมปุ๋ยเหล็กให้กับต้นไม้ได้ดีอีกทางหนึ่ง เพราะจะปล่อยธาตุเหล็กออกมาช้าๆ เสียตรงตัวหินมันละลายป่นออกมาอยู่ตลอด อาจจะทำให้น้ำขุ่นได้ถ้าดูแลไม่ดี และทำให้ใยกรองสกปรกเร็วกว่าปกติ แต่ก็ถือว่าใช้ได้ครับ อารมณ์คล้ายๆดินแดงๆอันนี้พอใช้ได้ครับ รูปร่างยังเหลี่ยมอยู่ แต่มักไม่มีคมเท่าไหร่ ที่ไม่แนะนำคือ บ่อยครั้งที่จะเจอแบบที่มีแร่เหล็กผสมอยู่มาก ทำให้มันติดแม่เหล็กขัดตู้ครับ ทีนี้มันติดเป็นเศษเล็กๆ ถ้าขัดตู้ไป จะเป็นยังไงล่ะครับ แต่ถ้าไม่ได้ใช้แม่เหล็กขัดตู้ และชอบความดำของมัน ก็ใช้ได้ครับ อาจจะหาเม็ดเล็กๆยากสักหน่อย

กรวดที่ควรหลีกเลี่ยง





หินเกล็ดสีต่างๆ เป็นกรวดที่มีเหลี่ยมคมค่อนข้างมาก อันตรายกับรากต้นไม้และมือคุณ ไม่ควรใช้ครับ ยิ่งแบบย้อมสียิ่งไม่ดีใหญ่



ทรายทะเลและเศษปะการัง ได้จากการย่อยสลายตัวของซากปะการังตามธรรมชาติ ใช้แล้วทำให้ pH ขึ้น ใช้ได้ถ้าปริมาณน้อยๆ แต่จะให้ดี หาทรายที่ไม่ใช่ทรายทะเลจะดีกว่า
เศษปะการังนี่ไม่ควรใช้ด้วยประการทั้งปวงครับ pH ขึ้น น้ำกระด้าง และทำลายแนวปะการัง

1.2 ทราย

จริงๆมันก็คือกรวดนั่นแหละ แต่เม็ดเล็กละเอียดกว่า สามารถใช้ได้ในการตบแต่งตู้ เช่นโรยด้านหน้าพื้นตู้ แต่ถ้าจะเอามาเป็นวัสดุปลูกเลยจะไม่ค่อยเหมาะ เพราะเม็ดละเอียดเกินไป ทำให้เวลาฝังปุ๋ยแล้วต้นไม้ไม่ค่อยได้ปุ๋ย การแลกเปลี่ยนออกซิเจนกับด้านบนก็ไม่ดี เกิดชั้นดำได้ง่าย ถ้าจะใช้เป็นวัสดุปลูกควรจะเป็นทรายหยาบ เม็ดใหญ่กว่า 1mm ขึ้นไปถึงจะใช้ได้ครับ และก็ควรจะเป็นทรายที่ดูดจากแม่น้ำ หรือแหล่งน้ำจืด ไม่ใช่ทรายทะเล ทรายก่อสร้างนี่ก็ใช้ได้นะครับ เพราะเป็นทรายดูดจากก้นแม่น้ำ เอาเบอร์หยาบๆหน่อย ที่สำหรับผสมปูนเท


ทรายของ Naturism ที่ล้างมาแล้วและมีคุณสมบัติเหมาะสมสำหรับใช้ในตู้ไม้น้ำ

ข้อดีของวัสดุปลูกจากธรรมชาติ

  • อายุการใช้งานเป็นอนันต์ ไม่ป่นเละเมื่อเวลาผ่านไปหลายๆปีเหมือนดิน สามารถล้างนำกลับมาใช้ใหม่ได้เรื่อยๆ
  • มีน้ำหนักที่จะยึดต้นไม้ที่เราปักไว้ไม่ให้มันหลุดได้ดีกว่าดิน โดยเฉพาะทรายหยาบ ทำให้ง่ายต่อการปักสำหรับมือใหม่ที่ยังไม่เชี่ยวชาญในการปักต้นไม้เล็กๆ
  • ราคาถูก กิโลละ 10-20 บาท
  • หาซื้อได้ง่าย แม้ในพื้นที่ห่างไกลที่ไม่มีแม้แต่ร้านขายปลาตู้ อย่างน้อยก็ต้องมีร้านอุปกรณ์ก่อสร้างที่ขายทรายหยาบและกรวดล้าง ก็ยังใช้ปลูกไม้น้ำได้

ข้อเสียของวัสดุปลูกจากธรรมชาติ

  • ไม่มีแร่ธาตุหรือปุ๋ยให้ต้นไม้
  • น้ำหนักมาก ขนกลับบ้านมาใส่ตู้ลำบาก
  • บางครั้งสกปรก กรวดบางชนิดถูกขายมาในสภาพที่ไม่เคยผ่านการล้างมาก่อน โดยเฉพาะเมื่อซื้อยกกระสอบใหญ่ๆ มักจะมีฝุ่นผงปะปนมามาก ต้องนำมาล้างก่อนหลายๆน้ำ สิ้นเปลืองน้ำและเวลา และเมื่อยด้วย

วิธีใช้งานวัสดุปลูกจากธรรมชาติ

เนื่องจากกรวดและทรายนั้นไม่มีการปลดปล่อยแร่ธาตุอาหารอะไรให้กับพืช ดังนั้นเราจึงต้องมีวิธีการให้ปุ๋ยกับพืชทางรากเพิ่มเติม ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 3 วิธีคือ

1. ปุ๋ยรองพื้นชนิดผงที่ทำมาเฉพาะสำหรับไม้น้ำ
2. ปุ๋ยสำหรับไม้บก เช่น ปุ๋ยเคมีละลายช้าของออสโมโค้ท หรือปุ๋ยอินทรีย์ขี้ไส้เดือน
3. ดินปลูกต้นไม้บก เป็นวิธีที่ใช้ดินสำหรับปลูกไม้บกไม้กระถางทั่วไป เทรองพื้นตู้ไว้ชั้นล่างสุดให้หนาสัก 2-3ซม.

โดยการใช้งานก็จะเหมือนๆกันคือโรยผงปุ๋ยรองพื้นลงไปที่พื้นตู้ แล้วเทกรวดทับเหมือนเลี้ยงปลาทั่วไป ให้มีความหนาประมาณ 5-10 ซม.

คำเตือน: การใช้ดินหรือปุ๋ยอินทรีย์สำหรับไม้บกนั้นเราแทบจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าในดินนั้นมีอะไรอยู่บ้าง และควบคุมการปลดปล่อยสารละลายต่างๆได้ยากมาก ดังนั้นจึงอาจจะทำให้ตะไคร่บานทุ่งได้ง่าย ไม่เหมาะกับผู้เริ่มต้นนะครับ




2. วัสดุปลูกสำเร็จรูป

เป็นวัสดุปลูกที่ผลิตขึ้นมาด้วยการนำดินและสารอื่นๆที่เป็นผงละเอียดมาเขย่า,ปั้น ฯลฯ ด้วยเครื่องจักร ให้รวมตัวกันเป็นเม็ดดินเล็กๆ เหมือนกรวด และนำไปผ่านกรรมวิธีต่างๆ ทำให้ดินนั้นไม่ละลายน้ำเป็นโคลน และแตกตัวยาก ซึ่งทำให้มันเหมาะสมกับการใช้งานเป็นวัสดุปลูกในตู้ไม้น้ำ และเป็นวัสดุปลูกที่แนะนำสำหรับมือใหม่หรือผู้เลี้ยงที่เพิ่งเริ่มต้น เพราะในวัสดุปลูกเหล่านี้จะมีคุณสมบัติที่เป็นตัวช่วยให้การเลี้ยงไม้น้ำของเราง่ายขึ้นมาก เช่น การดูดสี, การปรับค่า pH, ปลดปล่อยปุ๋ยและแร่ธาตุที่ไม้น้ำต้องการ ซึ่งก็จะแบ่งเป็นดินสำเร็จรูปสำหรับปลูกไม้น้ำ และเม็ดดินเผา แต่เนื่องจากเม็ดดินเผานั้นน้ำหนักเบาเกินไปและไม่มีปุ๋ยให้ไม้น้ำ จึงไม่เป็นที่นิยมอีกต่อไปและหาซื้อได้ยาก แถมยังมีราคาแพงพอกับดินสำเร็จรูป ในที่นี้จึงขอกล่าวถึงแต่เฉพาะดินสำหรับตู้ไม้น้ำ

ดินสำหรับตู้ไม้น้ำ

ข้อดีของดินสำหรับตู้ไม้น้ำ

  • เนื้อนุ่ม ดินอัดเม็ดหรือที่บางทีเรียกกันว่าดินภูเขาไฟ (แต่มันก็ไม่ได้มาจากภูเขาไฟ) จะมีความอ่อนนุ่มในตัว เหมาะกับการปักและแทงรากของต้นไม้มากกว่ากรวด
  • ดินมีแร่ธาตุที่ต้นไม้ต้องการ ทำให้ต้นไม้มักจะเติบโตได้ดีกว่ากรวด ลดโอกาสที่ต้นไม้จะชะงักการเจริญเติบโตเนื่องจากปุ๋ยขาดช่วงได้ส่วนหนึ่ง ทำให้เราสามารถหลงลืมการฝังปุ๋ยได้บ้าง โดยไม่มีผลกระทบกับต้นไม้มากนัก
  • ทำให้น้ำอ่อน ดินหลายตัวมีคุณสมบัติจับตะกอน ช่วยให้น้ำใสขึ้น และในดินมีกรดฮิวมิค ช่วยลด pH ทำให้น้ำอ่อน เหมาะกับการเจริญเติบโตของต้นไม้
  • ทำให้ตู้ดูเป็นธรรมชาติ สีเข้มๆของดินทำให้ตู้ดูดิบเป็นธรรมชาติ อารมณ์ประมาณใต้น้ำในป่าอเมซอน ตัดสีต้นไม้ให้ดูเข้มขึ้น และสัตว์น้ำต่างๆ มักจะปรับสีของตัวเองตามสีพื้น ให้เข้มขึ้น สดขึ้น

ข้อเสียของดินสำหรับตู้ไม้น้ำ

  • อายุการใช้งานจำกัด ส่วนมากมีอายุประมาณ 1-2 ปี ก็จะเริ่มป่น พอเกิน 5 ปี ก็จะเริ่มเละเป็นโคลนจนใช้งานไม่ได้อีกต่อไป
  • อาจทำให้น้ำเปลี่ยนสี กรดฮิวมิคและสารอินทรีย์ในดิน อาจทำให้น้ำเปลี่ยนเป็นสีเหลืองได้ โดยเฉพาะช่วงแรกๆที่ยังมีฮิวมัสอยู่เยอะ
  • ดินมักจะปล่อยปุ๋ยออกมามากเกินไปในช่วงแรก โดยเฉพาะดินที่มีฮิวมัสอยู่เยอะอย่างดิน ADA Amazonia
  • ราคาสูง ถุงขนาด 8-9 ลิตร จะราคาราวๆ 800-1200 บาท

แม้จะแพงกว่า อายุการใช้งานสั้นกว่า และมีการดูแลที่ลำบากกว่ากรวด แต่ด้วยข้อดีข้างต้น ก็เลยทำให้ตอนนี้ดินเป็นวัสดุปลูกที่เป็นที่นิยม และเป็นวัสดุปลูกที่แนะนำสำหรับมือใหม่หรือผู้เลี้ยงที่เพิ่งเริ่มต้น เพราะในวัสดุปลูกเหล่านี้จะมีคุณสมบัติที่เป็นตัวช่วยให้การเลี้ยงไม้น้ำของเราง่ายขึ้นมาก เช่น การดูดสี, การปรับค่า pH, ปลดปล่อยปุ๋ยและแร่ธาตุที่ไม้น้ำต้องการ


ดินสำหรับตู้ไม้น้ำ Crazy Stone Amazon Soil


"แล้วมีขั้นตอนยังไงมั่ง ใช้แต่ดินอย่างเดียวพอไหม?"

ใช้แต่ดินเพียวๆได้มั้ย ได้ครับ แต่ไม่ดี เพราะว่าดินมีการแตกตัวได้เมื่อระยะเวลาผ่านไปพื้นด้านล่างจะมีแต่เศษดินป่นๆเต็มไปหมด ออกซิเจนจากน้ำจะลงไปไม่ถึงบริเวณนั้น ทำให้เกิดการเน่าเสีย เกิดชั้นดำ และก๊าซไข่เน่าได้ง่าย ต้นไม้หงอย ตะไคร่ก็จะมา แถมยังเป็นสาเหตุของพลานาเรียบุกตู้ในตู้ที่ไม่มีปลาอีกด้วย
ปกติเราจึงจะรองพื้นชั้นล่างสุดด้วย "หินพัมมิส" (Pumice Stone) เป็นหินภูเขาไฟ เกิดจากการเย็นตัวลงอย่างรวดเร็วของลาวา ทำให้มีความพรุนในเนื้อหิน มีน้ำหนักเบา มักจะลอยน้ำในระยะแรก ต้องแช่น้ำสักระยะหนึ่งถึงจะจมหากเอามาเป็นวัสดุกรอง แต่ถ้าจะเอามารองพื้นก็ไม่ต้องแช่ก็ได้ เพราะยังไงมันก็โดนดินทับให้จมอยู่แล้ว


หินพัมมิสผสมแร่ธาตุและแบคทีเรียสำเร็จรูป RAW Base


หินพัมมิส ใช้เพื่อให้ชั้นล่างของพื้นปลูก คงความโปร่งไว้ได้นานขึ้น แถมด้วยความที่มันมีรูพรุนในเนื้อมาก ทำให้เป็นแหล่งที่อยู่ชั้นดีของจุลินทรีย์และแบคทีเรียที่จะคอยย่อยสลายของเสียที่ตกลงไปในพื้นปลูกให้กลายเป็นแร่ธาตุที่ต้นไม้ดึงไปใช้ได้

"แล้วจะใส่ดินเท่าไหร่ พัมมิสเท่าไหร่ หนาเท่าไหร่?"

ตามเบสิคทั่วไปที่นิยมกัน ในตู้ขนาดกลาง-ใหญ่ คือ 24 นิ้วขึ้นไป จะลงวัสดุปลูกให้หนา 4-6 นิ้ว

สมมุติเราจะลงวัสดุปลูกให้หนา 4 นิ้ว ปริมาณที่เหมาะสมของพัมมิสคือหนาประมาณ 1/3 หรือประมาณ1 นิ้วถึง 1 นิ้วครึ่ง อีก 2-2.5 นิ้วก็เป็นดิน

ที่แนะนำความหนา 4-6 นิ้ว คือสามารถปลูกไม้ได้เกือบทุกชนิด แต่หากเราปลูกแต่ไม้คลุมพื้น เช่นแฮร์กลาส กลอสโซ่ จะลงวัสดุปลูกหนาสัก 2-3 นิ้วก็ได้ เพราะไม้พวกนี้รากจะลงไม่ลึกนัก แค่ไม่ถึงนิ้วเท่านั้น ดินแค่นิ้วกว่าๆก็เพียงพอ

หรือลงดินด้านหลังปกติ แต่ด้านหน้าบางๆนิ้วเดียวโดยไม่มีพัมมิส สำหรับตู้ที่ต้องการลงไม้พื้นที่ด้านหน้าตู้

ไม่จำเป็นต้องเอาตามนี้เป๊ะๆ ปรับได้ตามปัจจัยและสถานการณ์ต่างๆ รวมถึงรูปแบบหรือเลย์เอาท์ฺที่เราต้องการ

หากจะใส่ปุ๋ยรองพื้น ก็คลุกไปกับพัมมิสก่อน พอลงพัมมิสแล้วก็เอาดินถมให้หนาตามต้องการได้เลย

ลักษณะการลงพัมมิส ลงดิน ดูตัวอย่างของคุณ PorscH เลยครับ



ในช่องสุดท้าย เส้นๆนั่นคือเทปกาว แกแปะไว้เพื่อประโยชน์ในการกะระยะจัดเลย์เอาท์ครับ

แถมให้อีกอัน เป็นการลงดินโดยมีกรวดละเอียดลงด้านหน้าด้วย จากเว็บ Aquaplant Central







ปิดท้าย

  • เรื่องการจัดสโลปของพื้นปลูก ทั้งดินและกรวด เช่นให้ด้านหลังสูงกว่าด้านหน้าสองนิ้ว หรือซ้ายขวาสูงกว่าตรงกลาง  อันนี้ก็แล้วแต่ความต้องการของเรา ว่าจะให้ตู้ออกมาแบบไหน แต่อย่างน้อยควรจะให้ด้านหลังสูงกว่าด้านหน้า ไม่ว่าจะจัดสโลปแบบไหน เพราะจะทำให้ตู้มองดูแล้วมีมิติ มีระดับมากกว่าพื้นเท่าๆกันในทุกกรณี อันนี้ถ้าจะศึกษาเพิ่มเติม แนะนำให้อ่านบทความ พ201 ศิลปะแห่งการจัดตู้ไม้น้ำ

    พยายามหาดูงานจัดของคนอื่นมากๆ ทั้งในเว็บนี้และของต่างชาติ จะเข้าใจและได้ไอเดียมากขึ้น
  • การใช้วัสดุบางอย่าง รองคั่นระหว่างชั้นดินกับพัมมิส โดยมากก็เป็นตะแกรงพลาสติก หรือใช้การเอาพัมมิสใส่ถุงตาข่ายแล้ววางเรียงแทน ที่ทำแบบนี้กันมักจะมีเหตุผลอยู่ 2 อย่าง คือ 1) ป้องกันไม่ให้พัมมิสติดรากต้นไม้ขึ้นมาเวลาที่ถอนต้นไม้ ทำให้ดูไม่สวยงาม 2) ป้องกันการปนกันของดินกับพัมมิสเมื่อรื้อตู้ และต้องการที่จะใช้ดินเก่าในการจัดตู้ใหม่
  • ปุ๋ยรองพื้น สามารถใส่ได้ทั้งในตู้กรวดและตู้ดิน โดยในตู้ดินที่มีการรองพื้นด้วยพัมมิสเปล่าๆ จะคลุกปุ๋ยรองพื้นไปกับพัมมิส ไม่นิยมเอาดินมาคลุกด้วย เพราะมันจะเละ
  • ตู้กรวดของหลายคน ก็มีการรองพื้นด้วยพัมมิสเช่นกัน โดยหวังผลในเรื่องเป็นที่อยู่ของแบคทีเรีย และความโปร่งของวัสดุปลูก
  • แม้จะไม่ได้มีการรองพื้นด้วยปุ๋ยรองพื้นมาก่อน ก็สามารถใส่เพิ่มทีหลังได้ ด้วยการกรอกใส่แคบซูลเปล่า แล้วฝังเหมือนปุ๋ยฝังปกติ แคบซูลเปล่าหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป และร้านขายยาแผนโบราณ, ยาสมุนไพร
  • การรองพื้นด้วยพัมมิส ควรเว้นที่บริเวณขอบด้านหน้าและด้านข้างไว้นิดหน่อย เพื่อเวลาลงดินทับ จะได้ไม่เห็นชั้นของพัมมิส ทำให้ดูเรียบเนียน สวยงาม ถ้าลงไปแล้ว ไม่ได้เว้นช่อง ไม่อยากให้เห็นพัมมิส ทำไงดี? ใช้ไม้บรรทัดหรือบัตรพลาสติก แงะๆตรงขอบให้มีช่องว่าง แล้วโกยดินยัดลงไปแทน ก็ใช้ได้



พ101 พรรณไม้น้ำเบื้องต้น
พ102 วัสดุปลูก
พ103 แสงสว่างสำหรับตู้ไม้น้ำ
พ104 ระบบคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2)
พ105 ระบบกรองสำหรับตู้ไม้น้ำ
พ106 การเลือกและเตรียมต้นไม้น้ำ
พ107 การเซ็ตตู้ไม้น้ำ ภาคปฎิบัติ
พ108 ปุ๋ยสำหรับไม้น้ำ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18/03/2563 [11:07:23] โดย บัง »
ขอความกรุณาปิด Ad-Blocker เวลาเปิดเว็บนี้ด้วยครับ
เว็บไซต์ของเรามีรายได้เพียงทางเดียวคือรายได้จากการโฆษณา และหนึ่งในช่องทางโฆษณาของเราคือ Google adsense หากคุณใช้ โปรแกรมหรือตัวเสริมที่บล็อกโฆษณาประเภท Ad-Blocker กับเว็บของเรา ก็จะทำให้ทางเว็บขาดรายได้ส่วนนี้ไป โฆษณาที่ทางเว็บเลือกก็เป็นแบบที่ไม่รบกวนผู้ใช้งานมากนักอยู่แล้ว ไม่ชอบก็เลื่อนผ่านๆไปได้ครับ ดังนั้นขอความกรุณาใส่ c1ub.net ไว้ใน whitelist ของโปรแกรมหรือปิดการทำงานของโปรแกรมบล็อกโฆษณาด้วยครับ (หากคุณเห็นข้อความนี้โดยที่ไม่ได้ใช้โปรแกรม Ad-Blocker ใดๆ รบกวนจิ้ม --> ส่ง PM บอกแอดมิน ทีครับ)