แฮร์กราสส์ ไม้น้ำรุ่นเก่าที่ยังคงความเรียบหรูสง่างามอยู่ไม่คลาย
ช่วงนี้ดูเหมือนต้นแฮร์กราสส์จะไม่ค่อยได้รับความนิยมปลูกกันมากเหมือนแต่ก่อนนี้
อาจเป็นเพราะมีไม้น้ำชนิดใหม่ๆเพิ่มมาเป็นตัวเลือกเยอะยิ่งขึ้น
จริงๆแล้วส่วนตัวผมนั้น ต้นแฮร์กราสส์นี้ถือเป็นไม้น้ำที่สวยที่สุด ๓ อันดับแรกในใจผมเลยทีเดียว
ผมรักมันมากตั้งแต่แรกได้เห็นมันจากหนังสือเล่มหนึ่งเมื่อ ๒๕ ปีก่อน
(หนังสือเล่มนี้ผมก็ยังเก็บเอาไว้จนถึงทุกวันนี้เลยครับ ถึงจะโดนปลวกแทะไปบ้างเล็กน้อย
รักมากทั้งหนังสือและเจ้าต้นแฮร์กราสส์นี่)
ในสมัยนั้น วงการปลาสวยงามในประเทศไทยยังไม่มีใครปลูกแฮร์กราสส์ขายกัน
จะมีก็เพียงไม้น้ำพื้นๆอย่างพวกอเมซอนใบกลมและใบดาบ (Echinodorus sp.),
สาหร่ายฉัตร (Cabomba caroliniana), สาหร่ายพุงชะโด (Ceratophyllum demersum),
สาหร่ายหางกระรอก (Egeria densa), ขาไก่และดาวกระจาย (Hygrophilla sp.)
และก็ เทปทั้งหลาย (Vallisneria sp.) เท่านั้นเอง
จะเห็นได้ว่าสมัยนั้นความหลายหลายของไม้น้ำยังน้อยมาก
จนอีกไม่กี่ปีต่อมาก็พอจะมีไม้น้ำชนิดใหม่ๆเพิ่มขึ้นมาบ้างซึ่งจะหาซื้อได้ก็จากร้านไวท์เครน
ซึ่งจะน้ำไม้น้ำมาใส่ถุงพลาสติกขายในวันขายส่งที่ตลาดซันเดย์
(เป็นอะไรที่แปลกใหม่ครับ เพราะสมัยนั้นไม้น้ำสมัยนั้นจะมัดขัดใส่กระถางดินเผาขายกัน)
ตอนนี้ผมก็ได้พบไม้น้ำใหม่ๆ อย่างพวก โรทาลา (Rotala sp.), ไส้ปลาไหล (Baclaya sp.)
หรือ อนูเบียส (Anubias sp.) เพิ่มขึ้นมาบ้าง
แต่ที่สำคัญก็คือยังไม่มีไม้คลุมดินเลยซักชนิดเดียว
จนกระทั่งผมเลิกเลี้ยงปลาไปไม่ได้แตะต้องอีกเลยเกือบ ๒๐ ปี
จนเมื่อประมาณ ๒ ปีที่แล้วก็ได้กลับมาเลี้ยงใหม่เพราะหัวใจมันเรียกร้อง
(คงให้กลับมาตามหาความทรงจำที่ค้างเอาไว้อยู่แหงๆ)
คราวนี้ก็เลยได้พบสิ่งที่ตามหามานานแล้วครับ เจ้าต้นแฮร์กราสส์น้อยๆที่แสนสง่างาม
"แฮร์กราสส์ (hairgrass)" หรือแปลตรงตัวว่า "หญ้าเส้นผม" นี้
เป็นไม้น้ำที่อยู่คู่กับวงการไม้น้ำมาตั้งแต่ยุคบุกเบิกที่อาจารย์อามาโนได้ริเริ่มเติม CO2 ลงในตู้เลี้ยงไม้น้ำ
จัดเป็นไม้น้ำคลุมดินยุคแรกๆเคียงคู่กับ "กลอสโซ (Glossostigma elatinoides)
และ เทเลนุส (Echinodorus tellenus)
ซึ่งจัดเป็น ๓ สหายไม้น้ำคลุมดินที่อาจารย์อามาโนนิยมใช้ในตู้รุ่นแรกๆแทบจะทุกตู้ที่จัด
แต่ในสมัยแรกเริ่มนั้นแฮร์กราสส์ที่นิยมใช้ยังมีกันอยู่แค่ ๒ ชนิด คือ
แฮร์กราสส์ธรรมดา กับแฮร์กราสส์แคระ
ส่วนวิวิพารานั้นจะเริ่มเห็นได้จากในตู้รุ่นกลางๆของอาจารย์เป็นต้นมา
ในปัจจุบันได้มีการเสาะหาและนำแฮร์กราสส์ชนิดใหม่ๆมาใช้จัดตู้ไม้น้ำเพิ่มขึ้นอีกหลายชนิด
แต่ที่นิยมปลูกกันทั่วไปในวงการไม้น้ำขณะนี้จะมีอยู่ ๕ ชนิด ดังนี้ครับ
- Eleocharis belem (Japanese Hairgrass) > "แฮร์กราสส์ใบม้วน"
- Eleocharis parvula (Dwarf Hairgrass) > "แฮร์กราสส์แคระ"
- Eleocharis acicularis (Normal Harigrass) > "แฮร์กราสส์ธรรมดา"
- Eleocharis vivipara (Tall Hairgrass) > "วิวิพารา"
- Eleocharis montevidensis (Giant Hairgrass) > "แฮร์กราสส์ยักษ์"
จากแฮร์กราสส์ทั้ง ๕ ชนิดนี้ เราสามารถแบ่งตามความสูงได้ ๒ กลุ่ม คือ
กลุ่มต้นเตี้ยสำหรับปลูกเป็นไม้คลุมดิน และกลุ่มต้นสูงสำหรับปลูกแซมเพื่อเพิ่มมิติให้กับตู้ไม้น้ำ
หรือปลูกเป็นไม้พื้นหลังครับ
[on_014]
กลุ่มแฮร์กราสส์ต้นเตี้ย
แฮร์กราสส์ใบม้วน (Eleocharis belem) หรือในภาษาอังกฤษนิยมเรียกกันว่า Japanese hairgrass นี้
เป็นแฮร์กราสส์ต้นเตี้ยที่คนไทยเรารู้จักกันดี นิยมใช้ปลูกคลุมพื้นตู้
มีลักษณะทุกอย่างคล้ายกันกับแฮร์กราสส์แคระ (Eleocharis parvula) ครับ
แต่ต่างกันตรงที่แฮร์กราสส์ใบม้วนนั้นจะมีใบน้ำที่ม้วนและบานแผ่ออกมาจากโคนต้น
ไม่เหมือนแฮร์กราสส์แคระที่จะมีใบตั้งตรงธรรมดา ลองดูจากในรูปจะเห็นความแตกต่างครับ
รูปนี้เป็นแฮร์กราสส์แคระ (Eleocharis parvula) ต้นเตี้ย ใบตรง


รูปนี้คือแฮร์กราสส์ใบม้วน (Eleocharis belem) ต้นเตี้ย ใบม้วนและบานออก


กลุ่มแฮร์กราสส์ต้นสูง
แฮร์กราสส์ต้นสูงโดยทั่วๆไปจะมีใบยาวมากกว่า ๖ นิ้วขึ้นไปครับ
ปกตินิยมนำมาปลูกในแนวหน้าตู้หรือกลางตู้เพื่อเพิ่ม perspective ให้กับตู้ไม้น้ำ
และที่นิยมที่สุดก็คือปลูกเป็นไม้แนวหลังตู้นั่นเองครับ
แฮร์กราสส์ธรรมดา (Eleocharis acicularis) เป็นแฮร์กราสส์ต้นสูงระดับกลางๆ
โดยทั่วไปจะสูงราวๆ ๖ - ๑๒ นิ้ว ต้นหญ้าชนิดนี้เป็นต้นที่อาจารย์อามาโนนิยมใช้มากๆ
ใช้ในเกือบจะทุกตู้ไม้น้ำรุ่นแรกๆที่อาจารย์จัดเลยครับ
และมันก็เป็นไม้ที่มอบความสง่างามให้กับทุกตู้ที่ปลูกได้อย่างไม่เคยผิดหวังเลย
เหมือนเป็นพรจากสวรรค์ของเจ้าแฮร์กราสส์ชนิดนี้
ตู้ไหนมีตู้นั้นจะเกิดความรู้สึกสงบและเรียบหรูขึ้นมาทันที
ไม้น้ำกลุ่มแฮร์กราสส์ต้นสูงนี้เป็นต้นไม้ที่มีพลังในการดึงดูดสายตาสูงมาก
ถึงจะมีแค่เพียงเล็กน้อยในตู้ แต่เจ้าต้นแฮร์กราสส์ก็จะดึงสายตาคนดูให้มองมันเป็นต้นแรกทุกครั้งได้เสมอ
แต่เป็นที่น่าแปลกที่เจ้าแฮร์กราสส์ธรรมดาต้นนี้ ไม่มีขายในประเทศไทยครับ
ไม่แน่ใจว่าเคยมีหรือมาก่อนหรือเปล่า
แต่ที่แน่ๆในปัจจุบันผมตามหามาหลายที่แล้วยังหามาปลูกไม่ได้เลยครับผม
รูปตัวอย่างของแฮร์กราสส์ธรรมดาครับ ต้นตรง สูงสง่า



ต่อมาก็ต้นวิวิพารา (Eleocharis vivipara) ซึ่งเป็นแฮร์กราสส์ที่แตกต่างจากต้นอื่นๆ
ตรงที่เป็นหญ้าน้ำที่ชอบแตกต้นลูกที่ปลายใบครับ ปกติวิวิพาราจะสูงไม่ต่ำกว่า ๑๒ นิ้ว
เจ้าต้นวิวิพารานี้เป็นแฮร์กราสส์ต้นสูงเพียงชนิดเดียวที่คนไทยนิยมปลูกและมีขายทั่วไปในปัจจุบันนี้ครับ
ส่วนเจ้าแฮร์กราสส์ธรรมดากับแฮร์กราสส์ยักษ์นั้น ผมยังไม่พบเห็นว่ามีใครปลูกหรือมีคนจำหน่ายแต่ประการใด
หน้าตาของวิวิพาราที่เราคุ้นเคยครับ สูงตรง
และมีลูกๆที่ปลายยอดเหมือนต้นกกปาปิรุสขนาดย่อส่วน


สุดท้ายก็คือ แฮร์กราสส์ยักษ์ (Eleocharis montevidensis) หรือ Giant hairgrass
ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในต่างประเทศนี้ เป็นแฮร์กราสส์ที่เพิ่งมีจำหน่ายในช่วงไม่กี่ปีมานี่เอง
บางครั้งก็ยังไม่เป็นที่สรุปว่าชื่อวิทยาศาสตร์ของมันคือชื่อไหนกันแน่
แต่ชื่อที่นิยมใช้กันช่วงนี้ หากไม่เรียกเป็น Eleocharis sp. แล้ว ก็มักจะเรียกเป็น Eleocharis montevidensis ครับ
ในอนาคตอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ หากมีการพิสูจน์ยืนยันทาง DNA อย่างถูกต้องแน่นอนแล้ว
แฮร์กราสส์ยักษ์นี้หน้าตาโดยทั่วไปจะคล้ายๆกับวิวิพารา
จะต่างกันตรงที่แฮร์กราสส์ยักษ์ใบจะอวบกว่า ต้นสูงกว่า ไม่แตกต้นลูกที่ยอดใบ
และจะขยายออกด้านข้างโดยการแตกไหลครับ
หญ้าที่มีลักษณะคล้ายแฮร์กราสส์ชนิดนี้ ผมเองเคยพบเห็นมีบางท่านปลูกอยู่และก็เคยขอมาปลุกเองดูด้วย
แต่จากที่ได้ปลูกมา ลักษณะใบและลักษณะในการเจริญเติบโตขยายพันธุ์นั้นดูแล้ว
ส่วนตัวผมรู้สึกว่าไม่น่าจะใช่ Eleocharis montevidensis ครับ
น่าจะเป็น Eleocharis ชนิดอื่นๆมากกว่า เนื่องจากใบแข็งกว่ามาก
และยังไม่พบว่าออกดอกหรือแตกไหลแต่อย่างใด
เจ้าแฮร์กราสส์ยักษ์นี้เป็นแฮร์กราสส์ที่สูงที่สุดในบรรดาแฮร์กราสส์ทั้งหมดที่นิยมปลูกกันในตู้ไม้น้ำปัจจุบันนี้เลยครับ
สูงได้ตั้งแต่ 16 นิ้ว จนถึง 30 นิ้วเลยทีเดียว
แต่ถึงแม้ใบจะยาวมาก แต่ถ้ายังเป็นใบน้ำอยู่แม้ยาวจรดผิวน้ำแล้วก็ยังอ่อนตัวลู่ไปกับผิวน้ำได้ด้วยเช่นกันครับ
ลองมาดูรูปแฮร์กราสส์ยักษ์กันครับ



จากแฮร์กราสส์ทั้ง ๕ ชนิดนี้ จะมีวิวิพาราชนิดเดียวที่ขยายพันธุ์โดยการแตกต้นลูกที่ปลายยอด
ส่วนต้นอื่นๆทั้งหมดจะแตกต้นลูกโดยการแตกไหลออกไป
เพราะงั้นใครปลูกวิวิพาราแล้วอยากให้มันขยายออกไปด้านข้าง ก็ต้องขยันตัดต้นลูกมาปักครับ
เพราะเจ้าต้นวิวิพารานี้ปกติมันจะไม่แตกไหลออกด้านข้างเหมือนต้นอื่นๆเค้า
ต้นหญ้าน้ำในสกุล Eleocharis ผมยกตัวอย่างมาในที่นี้เพียง ๕ ชนิด
แต่จริงๆหญ้าน้ำในกลุ่ม Eleocharis นี้ยังมีอีกมากมาย
อย่างเช่นต้นหญ้าหัวแมลงวัน (Eleocharis geniculata), ต้นกกเล็ก (Eleocharis spiralis)
หรือต้นแห้วที่เราชอบทานกันก็ Eleocharis dulcis ครับ
มาปลูกแฮร์กราสส์กานนน น น ... . . .
[on_055] [on_055] [on_055]