Aqua.c1ub.net
*
  Tue 24/Jun/2025
หน้า: 1   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: หัดตั้งตู้ทะเล ฉบับอ่านไม่เยอะ  (อ่าน 57878 ครั้ง)
Por Sea ออฟไลน์
Club Member
« เมื่อ: 24/09/12, [20:36:51] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

Chapter 00 – ทำความเข้าใจ

การเลี้ยงปลาทะเลนั้นแตกต่างจากการเลี้ยงปลาน้ำจืดอย่างมาก เพราะเรากำลังจะจำลองระบบนิเวศน์ในทะเลที่มีขนาดใหญ่เท่ากับ 3/4ของโลก ให้เหลือขนาดเล็กเท่าตู้ของเราถึงได้ไม่เรียกว่าตู้ปลาทะเลแต่เป็น“ตู้ทะเล” โดยระบบปิดที่เรากำลังจะจำลองนี้มีปัจจัยพื้นฐานบางอย่างเหมือนกับตู้ปลาน้ำจืด คือ แสงสว่าง ออกซิเจน การกรองน้ำ ที่เพิ่มขึ้นมาสำหรับตู้เลี้ยงปลาทะเลล้วนจะเป็น อุณหภูมิ ค่ากรดด่าง(PH) ค่าความเค็ม ค่าไนไตรท(NO2) ถ้าเลี้ยงปะการังด้วยก็จะมี ไนเตรท(NO3) ฟอสเฟต(PO4) แมกนีเซียม(Mg) Alkalinity(akl) Calcium(Ca) Strontium(Sr) ฯลฯ เห็นได้ว่าถ้าต้องการเลี้ยงปะการังแล้วจะเพิ่มตัวแปรทางเคมีเข้ามาอีกหลายตัว สำหรับผู้ที่จะเริ่มต้นจัดตู้ทะเลแล้วนั้นแนะนำให้เริ่มจากการศึกษาวิธีการเลี้ยงปลาทะเลอย่างถูกต้องก่อนจะดีกว่า ซึ่งมีข้อมูลให้ศึกษามากมายทั้งจากหนังสือตีพิมพ์ บทความในเว็ปไซด์ไทย-อังกฤษ แต่ถ้าให้ผู้มีประสบการณ์ในการเลี้ยงสอนให้จะได้พื้นฐานไวที่สุด

Chapter 01 – To Buy List

หลังจากมีพื้นฐานความรู้บ้างแล้ว เราสามารถที่จะออกแบบตู้ทะเลในความคิดของเราได้ ตั้งแต่ขนาดตู้ แสงสว่าง การคุมอุณหภูมิ การไหลเวียนของน้ำ ระบบแยกเมือก(Protein Skimmer) ระบบกรอง การทำคลื่น ระบบฆ่าเชื้อ ปลาที่จะเลี้ยง ประเภทและตำแหน่งที่จะวางของปะการัง เราสามารถที่จะออกแบบตู้ทะเลบนกระดาษเพื่อทำ To Buy List ออกมาว่ามีอุปกรณ์อะไรบ้างที่ต้องใช้ในการจัดตู้ทะเล ขนาดตู้ที่จะเลี้ยงต้องสัมพันธ์กับขนาดของปลาที่ต้องการ ความแรงของปั้มน้ำหลักเพื่อให้น้ำไหลเวียนได้หลายรอบต่อชม. การเจาะรูน้ำขึ้น-น้ำลง ขนาดของชิลเลอร์ไม่เล็กเกินไปจนคุมอุณหภูมิไม่อยู่ ขนาดของสกิมเมอร์ต่อปริมาตรน้ำในตู้ โดยเฉพาะขนาดกรองล่างที่จะต้องสัมพันธ์กับอุปกรณ์ที่จะใช้ซึ่งการทำเช่นนี้จะช่วยลดค่าอุปกรณ์ที่ไม่จำเป็นต้องใช้หรือซื้อมาผิดขนาดหรือไม่ตรงสเป๊กที่ต้องการได้  

Chapter 02 – ติดตั้งอุปกรณ์
การสั่งตัดตู้ทะเลควรเน้นที่ความแข็งแรงเป็นอับดับหนึ่งเพื่อป้องกัน"ตู้แตก"เพราะปัญหาอื่นๆยังสามารถแก้ไขได้ด้วยอุปกรณ์เสริม การแก้ไขตัวตู้กระจกนั้นเสียทั้งเงินและเวลา สั่งตัดใหม่อาจคุ้มกว่า ควรคิดให้ดีหรือหากไม่มั่นใจควรปรึกษาผู้มีประสบการณ์


ก่อนสั่งตัดตู้ควรเริ่มต้นคำนึงถึงตำแหน่งที่จะวางตู้ว่ามีพื้นที่พอจะวางตู้และอุปกรณ์ที่อยู่นอกตู้รึเปล่า การเปลี่ยนถ่ายน้ำทำได้สะดวกมั๊ยไม่งั้นจะพาลทำให้เราขี้เกียจเปลี่ยนน้ำ ที่สำคัญที่สุดคือไม่ควรตั้งไว้ในบริเวณที่อุณหภูมิมีการเปลี่ยนแปลงในช่วงรอบวันมากเช่นแดดส่องโดน
เมื่อได้ตู้หลัก+กรองล่าง+ขาไม้ อันเป็นที่พอใจแล้วก็เรามาเริ่มจัดตู้กันเล้ย...!!!


เริ่มจากการติดพื้นหลังของตู้ นี่คือสติ๊กเกอร์สีน้ำทะเลที่เราจะเอามาติดหลังตู้สามารถหาซื้อได้ตามร้านเครื่องเขียนทั่วไป ควรตัดสติ๊กเกอร์ให้ขนาดใหญ่กว่าพื้นที่กระจกสัก1/2นิ้วโดยรอบ เมื่อติดเสร็จถ้ามีส่วนเกินก็ใช้คัตเตอร์ติดทิ้งไป การเผื่อไว้จะทำให้เราติดง่ายขึ้น


ก่อนติดให้ใช้ฟองน้ำชุบใน้มาดๆเช็ดเอาสิ่งสกปรกฝุ่นทรายออกก่อน แล้วทิ้งกระจกให้มาดๆไว้


ค่อยๆลอกและติดสติ๊กเกอร์ โดยใช้ฟองน้ำลูบไล่เม็ดอากาศไปด้วย


เจาะสติกเกอร์แล้วต่อท่อน้ำลง การติดสติกเกอร์พื้นหลังก่อนจะทำให้ไม่มีรอยตัดสติกเกอร์


ต่อท่อยางลงกรองล่างแบบนี้น้ำจะลงทีเดียวถึงกรองล่างเลยจะได้ไม่มีของเสียค้างภายในท่อ


ถุงกรองตะกอนขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 4นิ้ว


ติดไว้กับที่แขวนถุงกรอง สวยงามเรียบร้อยดี


ใช้ใยกรองเจาะรูให้ท่อยางผ่านลงถุงกรองเพื่อกันละอองน้ำเค็ม ทำให้พื้นไม่เหนียว ทำให้สะอาดและคนในบ้านไม่บ่น


ปั้มน้ำพระเอกองค์ที่1 การเลือกปั้มน้ำต้องเลือกให้เหมาะสมกับตู้ของเรา กำลังของปั้มที่เหมาะสมจะทำให้ตู้ของเรามีการไหลเวียนของตะกอนที่ดีและปลามีสุขภาพที่แข็งแรง ซึ่งกำลังปั้มจะมีเขียนไว้ข้างกล่องว่า เช่น 1000L/hr (หลายยี่ห้อกำลังปั้มไม่ถึงตามที่ระบุข้างกล่อง) แนะนำให้น้ำมีการไหลเวียนสัก 3-5เท่าต่อชม.
ถ้าตู้มีปริมาตร 500ลิตร ควรใช้ปั้มน้ำที่ทำน้ำ(ได้ถึงจริงๆ) 2000L/hr ซึ่งก็จะได้ 4รอบต่อชม.
ห้ามใช้ปั้มแกนเหล็กกับตู้น้ำเค็มเด็ดขาด ควรใช้ปั้มน้ำที่คุณภาพที่ดีเพราะถ้าปั้มน้ำหยุดทำงานน้ำจะหยุดไหลเวียน ระบบทำอุณหภูมิ ระบบบำบัด ระบบกรอง ระบบทำอ๊อกซิเจนจะหยุดไปด้วย ถ้าหยุดทำงานนานๆตู้ล่มได้เลยทีเดียว จึงเรียกได้ว่าเป็นหัวใจของตู้เลยก็ว่าได้


เนื่องจากว่าตู้นี้จะต่อท่อน้ำเข้าชิลเลอร์ก่อนขึ้นตู้หลัก การต่อท่อกรองไว้ข้างหน้าปั้มจะกรองตะกอนไม่ให้เข้าตู้ชิลเลอร์และขึ้นตู้หลักของเราได้อีกต่อหนึ่ง


ภาพของกรองล่าง น้ำเสียจะลงจากตู้หลักมาผ่านถุงกรอง ผ่านช่องกั้นน้ำเพื่อให้น้ำไหลช้าลง ตรงกลางเว้นว่างไว้สำหรับสกิมเมอร์ ช่องขวาสุดปั้มน้ำขึ้นติดวาล์วน้ำ2อัน อันหนึ่งไว้สำหรับขึ้นตู้หลัก อีกอันหนึ่งไว้สำหรับเปลี่ยนน้ำ นอกจากนี่วาล์วน้ำขึ้นยังใช้ในการลดแรงดันน้ำได้ด้วยกรณีปั้มหลักแรงเกินไป เวลาเปลี่ยนน้ำปิดท่อน้ำขึ้นตู้หลัก-เปิดวาล์วน้ำทิ้ง-ต่อสายยางทิ้งน้ำ ทำอย่างนี้จะเปลี่ยนน้ำได้สะดวกไม่เลอะเทอะทำให้เราขยันเปลี่ยนน้ำบ่อยๆ ^^ จาก Spec. ของตู้นี้คำนวณจากช่องน้ำขึ้น(ขวาสุด)จะสามารถเปลี่ยนน้ำได้ครั้งละ 10%   


ติดขาแขวนโคมไฟไว้ที่ข้างหลังตู้แล้วก็..แต่น แต้น ตู้24นิ้วของเราก็สามารถรันน้ำได้แล้ว

ยังมีต่ออีกหลาย Chapterครับ ถ้าบทความดีช่วยเข้าไปกด Like เพจกันนิดนึงนะครับ
https://www.facebook.com/ideaquarium

ข้อมูลส่วนไหนไม่ถูกต้อง หรือ มีส่วนไหนควรเพิ่มเติม รบกวนเพื่อนสมาชิกช่วยชี้แนะด้วยนะครับ จะได้แก้ไขให้ดีขึ้น
ชอบฟังคำตำหนิครับ   ขอบคุณครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15/10/12, [11:52:08] โดย Por Sea »
Por Sea ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #1 เมื่อ: 24/09/12, [20:42:07] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ


Chapter 03 – การจัดหินและคลื่นน้ำภายในตู้หลัก
การจัดหินและคลื่นน้ำนอกจากจะจัดโดยคำนึงถึงความสวยงามของตู้ปลาแล้ว ยังต้องคำนึงถึงการไหลเวียนของน้ำภายในตู้ด้วย ซึ่งคลื่นน้ำจะเป็นส่วนสำคัญในการพัดพาเองของเสียและตะกรอนจากพื้นตู้ขึ้นมายังท่อน้ำลงสู่ขบวนการกรองต่อไป จุดอับของตู้จะทำให้เกิดการหมักหมมภายในตู้หลักจะก่อให้เกิดค่า แอมโนเนีย ซึ่งเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตในตู้ทะเล ทำให้สุขภาพของปลาอ่อนแอจนป่วยตายในที่สุด


เริ่มจากการเลือกหินซึ่ง “หินตาย หินเป็น หินม่วง หินเน่า หินเทียม” สำหรับมือใหม่แล้วเป็นเรื่องที่น่างงทีเดียว เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดระบบบำบัดภายในตู้หรือตู้ล่มได้เลยทีเดียว เราจะนำหินเหล่านี้มาจัดเรียงภายในตู้ทะเลของเราให้เกิดความสวยงามและการบำบัดอีกด้วย
หินตาย – หินปะการังที่แห้งสนิท ไม่มีสิ่งมีชีวิตเหลือภายในก้อนหิน มีสีขาว ไม่มีกลิ่น น้ำหนักเบา 
หินเป็น – หินปะการังที่มากจากหินตายที่บำบัดจนมีแบคทีเรียอาศัยอยู่ภายในหินแล้ว หรือ หินที่นำขึ้นมาจากทะเลไม่นาน ซึ่งหินที่พึ่งขึ้นมาจากทะเลนั้นจะมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ เช่น ปู หอย หนอน ปลิง บางคนเคยได้ปลาที่อาศัยในหินติดมาด้วยก็มี ซึ่งหินเป็นที่ดีนั้นต้องมีกลิ่นน้ำเค็ม หากมุมไหนของหินมีกลิ่นเหม็นแปลกๆอย่านำมาใส่ในตู้เด็ดขาด   
หินม่วง – หินปะการังที่มีสินม่วงเข้ม ซึ่งมาจากคราบ coralline algae มีประโยชน์ในการบำบัดน้ำในตู้ทะเล ควรมีกลิ่นน้ำทะเลและไม่ควรมีกลิ่นเน่าเช่นกัน
หินเน่า – หินเป็นหรือหินม่วงที่สิ่งมีชีวิตภายในตายอยู่ภายในและเน่าเสียจนมีกลิ่น ไม่ต่างอะไรจากของเสีย ถ้านำไปใส่ในตู้ทะเลของเราได้ล่มจมกันแน่นอน - -‘
หินเทียม – เป็นหินที่คนเราประดิษฐ์ขึ้นเพื่อการจัดตู้ทะเลและการบำบัดน้ำโดยเฉพาะ หลังจากบำบัดแล้วมีคุณสมบัติเหมือนหินเป็นเลยทีเดียว ควรสนับสนุนในการใช้หินเทียมเป็นอย่างยิ่ง ^^
***ห้ามนำหินที่มีในน้ำจืด หรือหินที่นิยมจัดในตู้ปลาน้ำจืดมาใส่ในตู้น้ำเค็ม จะทำให้มีผลต่อค่าน้ำภายในตู้แตกต่างกันตามชนิดของหินที่ใส่ลงไป เช่น บางชนิดจะทำให้ค่า PH ในตู้ต่ำผิดปกติ***


ใช้เรือเรซิ่นจำลองที่ผ่านการบำบัดน้ำมาแล้วมาจัดตู้ ตามคอนเซ็ป Idea Aquarium


กาวอิฟ๊อกซี่ ใช้เป็นกาวครอบจักรวาลสำหรับตู้ปลา ติดหิน ซ่อมอุปกรณ์ ติดปะการัง ฯลฯ
วิธีใช้คือ นำกาวจาก2หลอดอย่างละเท่าๆกันมาปั้นให้เข้ากันแล้วนำไปติดจุดที่ต้องการ  กาวที่ยังไม่ได้ผสมกันสามารถเก็บไว้ใช้ทีหลังได้โดยเก็บแยกจากกัน


ติดตามจุดที่ต้องการได้ทุกซอกทุกมุม ติดเสร็จแล้ววางทิ้งไว้ประมาณ 4ชม.จะแข็งสนิท กาวชนิดนี้สามารถติดใต้น้ำได้แต่ใช้เวลาในการแข็งตัวประมาณ 1วันหรือมากกว่านั้น


การจัดหินแบบโปร่งๆจะช่วยให้น้ำไหลเวียนได้ทุกจุด ไม่เกิดจุดอับน้ำหรือจุดหมักหมมภายในตู้
จำไว้เสมอว่า การจัดหินแห้งๆง่ายกว่ามาก การจัดหินใต้น้ำจะทำให้จั๊กกะแร้เปียกได้


เหลือพื้นที่โดยรอบหินไว้สำหรับแปรงแม่เหล็กขัดกระจก ช่วยให้ง่ายเวลาทำความสะอาดกระจก 


ใช้ทรายทะเลรองพื้นตู้บางๆเพื่อความสวยงามเป็นหลัก จากในรูปเป็นทรายทะเลเบอร์ 000 นักเลี้ยงบางท่านอาจจัดตู้โดยไม่รองพื้นทรายเลยก็มี


รองพื้นเสร็จก็โฆษณาเพจ Ideaquarium ไปในตัว


โฆษณาเพจอีกสักมุมหนึ่ง ^.^


ตกแต่งตู้ด้วยโครงหินเสร็จเรียบร้อย เริ่มเห็นหน้าตาของตู้ทะเลของเรา


ตู้อาจจะยังดูโล่งๆ แต่เชื่อเถอะครับเดี๋ยวเวลาเลี้ยงจริงๆก็จะแน่นเอง จนบ่นว่าตู้นี้จะใหญ่กว่านี้ ^^


การวัดระดับน้ำจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับตู้ปลาทุกชนิดโดยเฉพาะตู้ที่มีขนาดใหญ่ การตั้งตู้ปลาบนระนาบพื้นที่เอียงไปทางใดทางหนึ่ง จะทำให้น้ำในตู้ปลาถ่วงน้ำหนักไปฝั่งที่ต่ำกว่าจะเกิดแรงฉีกตู้ปลาภายในตู้ เมื่อใดก็ตามที่กระจกหรือกาวซิลิโคนรับไม่ไหวก็จะเกิดอาการ “ตู้ระเบิด” เป็นโศกนาฏกรรมที่ไม่อยากแม้แต่จะฝันถึง


เริ่มเติมน้ำเข้าไปในตู้ของเราเป็นครั้งแรก ตื่นเต้นจริงๆ^.^  ในขั้นตอนนี้ใช้น้ำประปาเลยครับ เพราะยังไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆ แถมน้ำประปายังมีคลอรีนใช้ฆ่าเชื้อบางอย่างภายในตู้ของเราได้ด้วย


หลังจากเติมน้ำเสร็จแล้วดูใกล้ความเป็นจริงมากขึ้น แต่ถึงตรงนี้พึ่งยังจะแค่ครึ่งทางเองนะ
 

ทดลองปิดปั้มน้ำดูว่าหากเกิดเหตุการณ์ไฟดับหรือปั้มน้ำเสียน้ำจากตู้หลักจะไม่ไหลลงจนล้นออกจากกรองล่าง หากคำนวนปริมาตรน้ำมาอย่างดีแล้ว กรองล่างจะสามารถรับน้ำจากตู้หลักได้ตามภาพ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27/10/12, [15:15:13] โดย Por Sea »
Por Sea ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #2 เมื่อ: 24/09/12, [20:42:23] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ


Chapter 04 – การสร้างระบบปิดภายในตู้ทะเล
จากการเตรียมและติดตั้งอุปกรณ์ทั้งหมดที่ผ่านมาหลังจากเริ่มเปิดปั้มน้ำแล้วจะทำให้เกิดการไหลเวียนของน้ำในระบบ จากตู้หลักไหลลงสู่ตู้กรองล่างผ่านการบำบัดน้ำแล้วเข้าสู่ปั้มน้ำหลักส่งกลับขึ้นไปยังตู้หลักอีกครั้ง ซึ่งใน Chapter นี้จะว่าด้วยการเซ็ตน้ำให้เกิดระบบบำบัดภายในตู้ทะเลของเราอันเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้ปลาทะเลสำเร็จรอดได้ในตู้ทะเลของเรา ว่าแล้วเราก็มาเริ่มเซ็ตน้ำกันเลยดีกว่า


การตีเกลือ - ให้ใช้น้ำขังในบ่อได้เลยหรือสามารถใช้น้ำจากท่อประปาได้แต่ต้องพักน้ำทิ้งไว้ก่อนอย่างน้อย1คืนแล้วจึงนำมาผสมเข้ากับเกลือวิทยาศาสตร์ ให้ได้ความเค็มตามที่ต้องการ โดยทั่วไปจะใช้กันที่ Salinity 30-34ppt เมื่อผสมได้ความเค็มที่ต้องการแล้วให้ใส่หัวทรายทิ้งไว้สัก1คืนก่อนนำไปใช้ เพื่อให้เกลือละลายเข้ากับน้ำเต็มที่ ในการเซ็ตตู้ครั้งแรกจะยังไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆภายในตู้เราสามารถตีเกลือในตู้ได้เลย


เตรียมเนื้อกุ้งสดหรือกุ้งแห้ง เพื่อเป็นอาหารให้กับสิ่งมีชีวิตชนิดแรกสุดได้เพาะพันธุ์ ได้แก่พวก แบคทีเรีย
ซึ่งแบคทีเรียนั้นมีบทบาทสำคัญอย่างมากต่อระบบของตู้ทะเลตั้งแต่เริ่มตั้งจนตลอดไป


ใส่ลงไปในตู้หลักและตู้กรองล่าง ในช่วงเวลานี้ต้องเปิดปั้มน้ำให้ทำงานตลอด เพื่อให้เกิดการไหลเวียนของน้ำ และให้อ๊อกซิเจนกับแบคทีเรียใช้ในการย่อยสลายชิ้นกุ้ง


หลังจากผ่านไป1เดือน ที่แสนยาวนาน รูปนี้เป็นชิ้นกุ้งแห้งที่อยู่ในกรองล่างจุดที่น้ำเอื่อย ส่วนชิ้นอื่นๆเน่าเปื่อยละลายหายไปหมดแล้วถือว่าเป็นนิมิตรหมายที่ดีต่อระบบในตู้ของเรา


สกิมเมอร์ – อุปกรณ์พระเอกอันดับที่สองของเรา อุปกรณ์ชิ้นนี้มีหน้าที่คัดกรองเมือกสัตวทะเลออกจากน้ำ ซึ่งเมือกนี้มีส่วนประกอบของโปรตีนและถือเป็นของเสียอย่างนึงในระบบตู้ทะเล หากเมือกถูกทิ้งไว้ในตู้จะถูกเปลี่ยนไปเป็นแอมโมเนียซึ่งจะเป็นอันตรายต่อสัตว์ทะเลโดยเฉพาะพวกปลา จึงถือได้ว่าเป็นอุปกรณ์จำเป็นที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับการตั้งตู้ทะเล ในธรรมชาติน้ำทะเลจะถูกซัดเข้าฝั่งแล้วถูกกรองโดยทรายบนชายหาดแต่ในตู้ทะเลของเราคงไม่สามารถจำลองชายหาดได้อย่างแน่นอน จึงได้มีการประดิษฐ์อุปกรณ์ตัวนี้ขึ้นมา


ชิลเลอร์ – อุปกรณ์พระเอกอันดับที่สาม อุปกรณ์ชนิดนี้สนนราคาค่อนข้างสูงแต่จำเป็นในการควบคุมอุณหภูมิของตู้ทะเลให้คงที่ เนื่องจากปลาทะเลจะป่วยได้ง่ายหากอุณหภูมิระหว่างวันเปลี่ยนแปลงเกิน 3 องศา โดยเฉพาะปลาบางชนิดที่ถิ่นกำเนิดอยู่ในน่านน้ำที่เย็น รวมถึงการเลี้ยงปะการังก็จำเป็นที่จะต้องคุมอุณหภูมิให้ได้ต่ำกว่า 30องศา ซึ่งอากาศในประเทศไทยปกติมักจะร้อนกว่า 30องศา แต่สำหรับเมืองหนาวแล้วชิลเลอร์จะถูกทดแทนด้วยฮิตเตอร์เพื่อรักษาอุณหภูมิของตู้ทะเลให้ได้อุ่นในระดับที่ต้องการ


โคมไฟ – อุปกรณ์พระเอกอันดับที่สี่ สำหรับตู้ปลาล้วนแล้วโคมไฟจะทำหน้าที่เพียงส่องสว่างให้กับปลาและช่วยให้ปลาแข็งแรง  แต่กับตู้ที่เลี้ยงปะการังแล้วถือว่าเป็นอุปกรณ์ตัวตัดสินว่าจะเลี้ยงปะการังได้หรือไม่ สัตว์ทะเลจำพวกปะการังส่วนมากอาศัยแสงจากดวงอาทิตย์ในการสังเคราะห์แสงผ่านสาหร่ายเซลล์เดียวที่เรียกว่า ซูซานเทลลี (Zooxanthellae) เป็นอาหารหลักในการเจริญเติบโตและขยายพันธุ์ โคมไฟที่ใช้เลี้ยงปะการังจึงจำเป็นที่จะต้องมีช่วง Spectum ที่เหมาะสมสำหรับสาหร่ายซูซานในการสังเคราะห์แสง ด้วยแสงไฟที่ไม่เหมาะสมในช่วงแรกปะการังจะเริ่มกินซูซานเพื่อดำรงชีพต่อไป เมื่อซูซานหมดแล้วปะการังหดตัวและเริ่มละลายจนตายในที่สุด อาจใช้เวลาหลายวันถึงหลายเดือนกว่าปะการังจะตาย การเลือกแสงไฟให้เหมาะสมจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก หากต้องการเลี้ยงปะการังแล้วละก็ลืมไฟนีออนไปได้เลย  


ทดลองเปิดไฟดู สว่างใช้ได้ทีเดียวและการติดสติกเกอร์พื้นหลังมีส่วนช่วยให้แสงสว่างมากขึ้น


ว้าวเริ่มเห็นความสวยงามของตู้ทะเลแล้ว


อีกสักหนึ่งมุม


ในระหว่างที่ชิ้นกุ้งถูกย่อยสลายโดยแบคทีเรียในตู้ ค่าไนเตรทเองจะค่อยๆลดลงเรื่อยๆเนื่องจากแบคทีเรียที่ทำหน้าที่เปลี่ยน Nitrite ให้เป็น Nitrate เพื่อตรวจสอบว่าในตู้ทะเลของเรานั้นมีระบบย่อยสลายสมบูรณ์พร้อมที่จะลงสิ่งมีชีวิตรึยัง เราจึงต้องทำการวัดค่าไนไตรท์ (NO2) ในน้ำ ซึ่งไนไตรทเป็นอันตรายกับสิ่งมีชีวิต จึงควรให้มีค่าเท่ากับศูนย์ตลอดเวลาจะทำให้ปลาไม่ได้รับอันตรายและไม่เจ็บป่วย


อีกหนึ่งตัวแปรที่สำคัญไม่แพ้กันคือ ค่ากรด-ด่าง (Ph) ค่า Phของน้ำทะเลจะอยู่ที่ 8.1-8.3 ซึ่งค่า Phในตู้ของเราจะเปลี่ยนแปลงได้ตลอดในระหว่างวัน เวลาที่เปิดไฟค่าPhจะสูงขึ้นเรื่อยๆและในระหว่างที่ปิดไฟค่าPhจะลดลงเรื่อยๆ ในช่วงแรกๆของการตั้งตู้ทะเลควรหมั่นวัดค่าน้ำให้ดี ในตู้ทะเลที่มีอายุนานแล้วค่า Phจะค่อนข้างเสถียร เมื่อสามารถคุมค่า ความเค็ม No2  Ph  และอุณหภูมิได้ ตู้ทะเลของเราก็พร้อมที่จะลงสิ่งมีชีวิตได้แล้ว


Chapter 05– ปล่อยปลาและสิ่งมีชีวิตลงตู้
ช่วงเวลาที่รอคอยสำหรับนักเลี้ยงทุกท่าน โดยเฉพาะมือใหม่แกะกล่องถือเป็นช่วงเวลาที่ทรมานใจเวลาเห็นปลาทะเลสีสันสดสวยเจ็บดวงตาที่ร้านขายปลาทะเลแล้วอยากจะควักแบ็งค์พันขึ้นมาจับจ่าย
แต่ช้าก่อน!!! มีข้อควรคำนึงก่อนการจ่ายเงินซื้อชีวิตเค้ามา
1. ศึกษาปลาก่อนซื้อ ไม่ใช่ซื้อแล้วค่อยมาศึกษา ปลาแต่ละชนิดมีความต้องการไม่เหมือนกัน ปลาบางตัวไม่เหมาะกับการเลี้ยงในตู้เล็ก ปลาบางตัวตอนเช้าตะกละตอนเย็นกลับทะเล ปลาบางตัวกินสมาชิกในตู้ ปลาบางตัวมีพิษคันๆ ปลาหมึกและหอยบางตัวมีพิษถึงตาย!!!
2. วางแผนการเลี้ยงปลาว่าจะเลี้ยงปลาอะไรบ้าง ประมาณกี่ตัว
3. ลำดับการลงปลาสำคัญมาก เลือกลงปลาไม่ดุก่อนลงปลาดุมากทีหลัง ลงปลาตัวเล็กก่อนปลาตัวใหญ่ ลงผิดมีไล่กันจนตาย
4. เลือกปลาที่สภาพดี โดยทั่วไปปลาต้องว่ายตรง ไม่หง่อย ไม่มีร่องรอยบาดแผล เกล็ดเรียบเนียน การหายใจเป็นจังหวะ ไม่หอบ ไม่มีจุดขาว ดวงตาไม่มีการปูดโปนออกมา สำหรับมือใหม่แนะนำให้ซื้อปลาที่กินเม็ดมาแล้วดีที่สุดเพราะปลาแข็งแรงเท่านั้นที่จะกินอาหารเม็ด
5. หาร้านขายปลาที่เชื่อถือได้ ถามจากเพื่อนที่มีประสบการณ์แนะนำ คนขายไม่ได้สักแต่ว่าจะขาย

จำไว้นะครับว่า “เราเลือกปลาได้ แต่ปลาเลือกเราไม่ได้”


หลังจากวางแผนว่าจะเลี้ยงปลาอะไรบ้างแล้วเราก็จับจ่ายซื้อปลาที่ต้องการมาลง โดยซื้อครั้งละน้อยตัวไม่ต้องซื้อมาทีเดียวครบ ตู้ทะเลไม่ได้สวยได้ในวันเดียว ครั้งนี้เราเริ่มลงจากปลาทองก่อนเพราะเป็นปลาที่ไม่ดุกับปลาตัวอื่นๆ
ก่อนการลงปลาหรือสิ่งมีชีวิตทุกชนิดต้องทำการปรับสภาพน้ำ เพราะค่าน้ำจากร้านค้าย่อมไม่เหมือนกับค่าน้ำในตู้ของเรา เปรียบเทียบได้กับการจับคนไทยโยนผ่านประตูทุกแห่งทุกหนของโดราเอมอน ไปปล่อยที่อลาสก้าทันที จะต้องป่วยอย่างแน่นอน ขั้นตอนการปรับน้ำให้ดูจาก Link ข้างล่างครับ
http://www.facebook.com/media/set/?set=a.197573987042855.50691.185201938280060&type=3


ตัวต่อไปคือปลาการ์ตูนลายปล้อง มือใหม่มักเข้าใจว่าปลาการ์ตูนเป็นปลาที่ไม่ดุ แต่จริงๆแล้วสายพันธุ์นี้เป็นสายพันธุ์ที่มีการหวงอาณาเขต และอยู่ในวงศ์เดียวกันกับDamsel ปลาการ์ตูนจะไล่กัดปลาที่มีขนาดเล็กกว่า มีรูปทรงคล้ายกันและปลาการ์ตูนด้วยกันเอง ไม่แนะนำให้เลี้ยงมากกว่า2ตัว หากจะลงมากกว่านั้นควรลงเป็นฝูงและมีตัวเมียตัวใหญ่คุม1ตัว


เบลนนี่หน้าผี เอาไว้กินเศษอาหารที่ปลากินไม่หมดและตะไคร่ตามกระจกตู้


ปลาดาวเซรามิก สวยๆแปลกๆ ไว้กินเศษอาหารและตะไคร่เช่นกัน ปลาดาวบางประเภทกินก้นตู้และปลาก่อนนำมาเลี้ยงตรวจสอบข้อมูลให้ดี


ปลึงดำหยึยๆ น่าเกลียด แต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีประโยชน์อีกประเภทหนึ่ง ปลึงดำจะกินทรายเข้าไปเพื่อคัดกรองจุลสารที่มีในทราย พร้อมทั้งบำบัดไปในตัว แล้วอึทรายสะอาดออกมา ถ้าเคยเห็นปลึงอึละก็คุณจะหลงเสน่ห์ตู้ทะเล ^^


เบลลนี่หน้าผีลงไปจับจองพื้นที่เรียบร้อย


ในวันแรกๆที่พึ่งลงปลา ปลาจะมีอาการตื่นที่และไม่ยอมกินอาหาร ต้องปล่อยไว้สักระยะวัน ขึ้นอยู่สภาพปลาและชนิดปลา ปลาบางตัวปรับสภาพนานมากอาจจะใช้เวลาเป็นอาทิตย์กว่าจะเริ่มกินอาหาร หรือบางตัวอาจจะยอมอดจนตายเลยก็ได้ ควรศึกษาให้ดีก่อนซื้อมาลง


หลังจากเริ่มมีสิ่งมีชีวิตในตู้หลายตัว จะทำให้ตะกอนเยอะขึ้น เราสามารถใส่คาร์บอนลงไปดักตะกอนใสตู้ได้ โดยการใส่ในตำแหน่งที่น้ำไหลผ่านในกรองล่าง จะทำให้น้ำในตู้ใสสะอาดจนเราแทบอยากลงไปว่ายด้วยที่เดียวเชียว


ขอย้ำอีกครั้งว่าตู้ทะเลไม่ได้สวยในวันเดียว การลงปลาคนลงครั้งละน้อยๆ เพื่อให้ระบบบำบัดของเสียในตู้ปรับเข้ากับจำนวนของเสียของปลาที่เพิ่มขึ้นได้ทัน หากลงปลามากเกินระบบบำบัดรับได้ ค่าแอมโมเนีย ค่าไนไตรทจะเพิ่มขึ้นสูงทำให้ปลาตายทั้งตู้ ทำให้ผู้เลี้ยงประสบกับ “ตู้ล่ม” ทำเอาร้องไห้และเลิกเลี้ยงไปได้เลยทีเดียว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27/11/12, [18:30:58] โดย Por Sea »
Por Sea ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #3 เมื่อ: 24/09/12, [20:42:50] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

จองพื้นที่
Nano-Life ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #4 เมื่อ: 24/09/12, [23:18:55] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เยี่ยมครับ [เจ๋ง]
Por Sea ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #5 เมื่อ: 01/10/12, [12:50:46] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

อัพข้อมูลครับ
mai2610 ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #6 เมื่อ: 01/10/12, [13:18:30] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ตามทาง เฟส [on_026]
แล้วเมื่อไรผมจะได้ ตุ๊กตา นีโม อ่ะ
Fibo ออฟไลน์
Club Champion
« ตอบ #7 เมื่อ: 01/10/12, [14:59:34] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

พอใช้ได้เลย  เยี่ยม   [เจ๋ง]
นายบรรเจิด ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #8 เมื่อ: 02/10/12, [15:22:57] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ในรูปตู้เจาะรู กี่หุนอะครับ
Por Sea ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #9 เมื่อ: 15/10/12, [12:00:59] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

อัพข้อมูลครับ ^^
Por Sea ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #10 เมื่อ: 15/10/12, [12:26:56] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ตามทาง เฟส [on_026]
แล้วเมื่อไรผมจะได้ ตุ๊กตา นีโม อ่ะ

รอลุ้น ดอลลี่แทนละครับ  ตอนนี้มี Mr.Brown แจกด้วย   [เจ๋ง]

ในรูปตู้เจาะรู กี่หุนอะครับ

ในรูปเจาะ 1นิ้วครับ 
Por Sea ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #11 เมื่อ: 27/10/12, [15:23:50] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

อัพนิดหน่อย
Dillinger ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #12 เมื่อ: 27/10/12, [18:52:25] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ติดตาม ในเฟจ ตลอดเลยครับ ^^ ชอบๆ [เจ๋ง]
Por Sea ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #13 เมื่อ: 27/11/12, [18:33:17] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

อัพนิดนึงครับ ถึง Chapter 5 ละ  ้hahaha
mai2610 ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #14 เมื่อ: 06/09/13, [23:21:35] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

อัพมาอ่าน
B>A>S=Bas ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #15 เมื่อ: 06/09/13, [23:56:27] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เข้าใจง่าย.... เข้าประเด็นลึก ค่อนข้างเหมาะกับคนที่ไม่ชอบอ่าน (เพราะมีรูปประกอบ) แต่ยังไงอ่านเยอะมักดีกว่า
ขอบคุณครับ ขอใช้เป็นแนวทางในบางเรื่องครับ  [on_066]
mido ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #16 เมื่อ: 03/11/13, [05:58:15] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

กระทู้ดีเหมาะสำหรับมือใหม่มากๆ เลยอัพมาให้อ่านกัน  [เจ๋ง]
หน้า: 1   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: