
การเลี้ยงปลาทะเลนั้นแตกต่างจากการเลี้ยงปลาน้ำจืดอย่างมาก เพราะเรากำลังจะจำลองระบบนิเวศน์ในทะเลที่มีขนาดใหญ่เท่ากับ 3/4ของโลก ให้เหลือขนาดเล็กเท่าตู้ของเราถึงได้ไม่เรียกว่าตู้ปลาทะเลแต่เป็นตู้ทะเล โดยระบบปิดที่เรากำลังจะจำลองนี้มีปัจจัยพื้นฐานบางอย่างเหมือนกับตู้ปลาน้ำจืด คือ แสงสว่าง ออกซิเจน การกรองน้ำ ที่เพิ่มขึ้นมาสำหรับตู้เลี้ยงปลาทะเลล้วนจะเป็น อุณหภูมิ ค่ากรดด่าง(PH) ค่าความเค็ม ค่าไนไตรท(NO2) ถ้าเลี้ยงปะการังด้วยก็จะมี ไนเตรท(NO3) ฟอสเฟต(PO4) แมกนีเซียม(Mg) Alkalinity(akl) Calcium(Ca) Strontium(Sr) ฯลฯ เห็นได้ว่าถ้าต้องการเลี้ยงปะการังแล้วจะเพิ่มตัวแปรทางเคมีเข้ามาอีกหลายตัว สำหรับผู้ที่จะเริ่มต้นจัดตู้ทะเลแล้วนั้นแนะนำให้เริ่มจากการศึกษาวิธีการเลี้ยงปลาทะเลอย่างถูกต้องก่อนจะดีกว่า ซึ่งมีข้อมูลให้ศึกษามากมายทั้งจากหนังสือตีพิมพ์ บทความในเว็ปไซด์ไทย-อังกฤษ แต่ถ้าให้ผู้มีประสบการณ์ในการเลี้ยงสอนให้จะได้พื้นฐานไวที่สุด
Chapter 01 To Buy List

หลังจากมีพื้นฐานความรู้บ้างแล้ว เราสามารถที่จะออกแบบตู้ทะเลในความคิดของเราได้ ตั้งแต่ขนาดตู้ แสงสว่าง การคุมอุณหภูมิ การไหลเวียนของน้ำ ระบบแยกเมือก(Protein Skimmer) ระบบกรอง การทำคลื่น ระบบฆ่าเชื้อ ปลาที่จะเลี้ยง ประเภทและตำแหน่งที่จะวางของปะการัง เราสามารถที่จะออกแบบตู้ทะเลบนกระดาษเพื่อทำ To Buy List ออกมาว่ามีอุปกรณ์อะไรบ้างที่ต้องใช้ในการจัดตู้ทะเล ขนาดตู้ที่จะเลี้ยงต้องสัมพันธ์กับขนาดของปลาที่ต้องการ ความแรงของปั้มน้ำหลักเพื่อให้น้ำไหลเวียนได้หลายรอบต่อชม. การเจาะรูน้ำขึ้น-น้ำลง ขนาดของชิลเลอร์ไม่เล็กเกินไปจนคุมอุณหภูมิไม่อยู่ ขนาดของสกิมเมอร์ต่อปริมาตรน้ำในตู้ โดยเฉพาะขนาดกรองล่างที่จะต้องสัมพันธ์กับอุปกรณ์ที่จะใช้ซึ่งการทำเช่นนี้จะช่วยลดค่าอุปกรณ์ที่ไม่จำเป็นต้องใช้หรือซื้อมาผิดขนาดหรือไม่ตรงสเป๊กที่ต้องการได้
Chapter 02 ติดตั้งอุปกรณ์
การสั่งตัดตู้ทะเลควรเน้นที่ความแข็งแรงเป็นอับดับหนึ่งเพื่อป้องกัน"ตู้แตก"เพราะปัญหาอื่นๆยังสามารถแก้ไขได้ด้วยอุปกรณ์เสริม การแก้ไขตัวตู้กระจกนั้นเสียทั้งเงินและเวลา สั่งตัดใหม่อาจคุ้มกว่า ควรคิดให้ดีหรือหากไม่มั่นใจควรปรึกษาผู้มีประสบการณ์

ก่อนสั่งตัดตู้ควรเริ่มต้นคำนึงถึงตำแหน่งที่จะวางตู้ว่ามีพื้นที่พอจะวางตู้และอุปกรณ์ที่อยู่นอกตู้รึเปล่า การเปลี่ยนถ่ายน้ำทำได้สะดวกมั๊ยไม่งั้นจะพาลทำให้เราขี้เกียจเปลี่ยนน้ำ ที่สำคัญที่สุดคือไม่ควรตั้งไว้ในบริเวณที่อุณหภูมิมีการเปลี่ยนแปลงในช่วงรอบวันมากเช่นแดดส่องโดน
เมื่อได้ตู้หลัก+กรองล่าง+ขาไม้ อันเป็นที่พอใจแล้วก็เรามาเริ่มจัดตู้กันเล้ย...!!!

เริ่มจากการติดพื้นหลังของตู้ นี่คือสติ๊กเกอร์สีน้ำทะเลที่เราจะเอามาติดหลังตู้สามารถหาซื้อได้ตามร้านเครื่องเขียนทั่วไป ควรตัดสติ๊กเกอร์ให้ขนาดใหญ่กว่าพื้นที่กระจกสัก1/2นิ้วโดยรอบ เมื่อติดเสร็จถ้ามีส่วนเกินก็ใช้คัตเตอร์ติดทิ้งไป การเผื่อไว้จะทำให้เราติดง่ายขึ้น

ก่อนติดให้ใช้ฟองน้ำชุบใน้มาดๆเช็ดเอาสิ่งสกปรกฝุ่นทรายออกก่อน แล้วทิ้งกระจกให้มาดๆไว้

ค่อยๆลอกและติดสติ๊กเกอร์ โดยใช้ฟองน้ำลูบไล่เม็ดอากาศไปด้วย

เจาะสติกเกอร์แล้วต่อท่อน้ำลง การติดสติกเกอร์พื้นหลังก่อนจะทำให้ไม่มีรอยตัดสติกเกอร์

ต่อท่อยางลงกรองล่างแบบนี้น้ำจะลงทีเดียวถึงกรองล่างเลยจะได้ไม่มีของเสียค้างภายในท่อ

ถุงกรองตะกอนขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 4นิ้ว

ติดไว้กับที่แขวนถุงกรอง สวยงามเรียบร้อยดี

ใช้ใยกรองเจาะรูให้ท่อยางผ่านลงถุงกรองเพื่อกันละอองน้ำเค็ม ทำให้พื้นไม่เหนียว ทำให้สะอาดและคนในบ้านไม่บ่น

ปั้มน้ำพระเอกองค์ที่1 การเลือกปั้มน้ำต้องเลือกให้เหมาะสมกับตู้ของเรา กำลังของปั้มที่เหมาะสมจะทำให้ตู้ของเรามีการไหลเวียนของตะกอนที่ดีและปลามีสุขภาพที่แข็งแรง ซึ่งกำลังปั้มจะมีเขียนไว้ข้างกล่องว่า เช่น 1000L/hr (หลายยี่ห้อกำลังปั้มไม่ถึงตามที่ระบุข้างกล่อง) แนะนำให้น้ำมีการไหลเวียนสัก 3-5เท่าต่อชม.
ถ้าตู้มีปริมาตร 500ลิตร ควรใช้ปั้มน้ำที่ทำน้ำ(ได้ถึงจริงๆ) 2000L/hr ซึ่งก็จะได้ 4รอบต่อชม.
ห้ามใช้ปั้มแกนเหล็กกับตู้น้ำเค็มเด็ดขาด ควรใช้ปั้มน้ำที่คุณภาพที่ดีเพราะถ้าปั้มน้ำหยุดทำงานน้ำจะหยุดไหลเวียน ระบบทำอุณหภูมิ ระบบบำบัด ระบบกรอง ระบบทำอ๊อกซิเจนจะหยุดไปด้วย ถ้าหยุดทำงานนานๆตู้ล่มได้เลยทีเดียว จึงเรียกได้ว่าเป็นหัวใจของตู้เลยก็ว่าได้

เนื่องจากว่าตู้นี้จะต่อท่อน้ำเข้าชิลเลอร์ก่อนขึ้นตู้หลัก การต่อท่อกรองไว้ข้างหน้าปั้มจะกรองตะกอนไม่ให้เข้าตู้ชิลเลอร์และขึ้นตู้หลักของเราได้อีกต่อหนึ่ง

ภาพของกรองล่าง น้ำเสียจะลงจากตู้หลักมาผ่านถุงกรอง ผ่านช่องกั้นน้ำเพื่อให้น้ำไหลช้าลง ตรงกลางเว้นว่างไว้สำหรับสกิมเมอร์ ช่องขวาสุดปั้มน้ำขึ้นติดวาล์วน้ำ2อัน อันหนึ่งไว้สำหรับขึ้นตู้หลัก อีกอันหนึ่งไว้สำหรับเปลี่ยนน้ำ นอกจากนี่วาล์วน้ำขึ้นยังใช้ในการลดแรงดันน้ำได้ด้วยกรณีปั้มหลักแรงเกินไป เวลาเปลี่ยนน้ำปิดท่อน้ำขึ้นตู้หลัก-เปิดวาล์วน้ำทิ้ง-ต่อสายยางทิ้งน้ำ ทำอย่างนี้จะเปลี่ยนน้ำได้สะดวกไม่เลอะเทอะทำให้เราขยันเปลี่ยนน้ำบ่อยๆ ^^ จาก Spec. ของตู้นี้คำนวณจากช่องน้ำขึ้น(ขวาสุด)จะสามารถเปลี่ยนน้ำได้ครั้งละ 10%

ติดขาแขวนโคมไฟไว้ที่ข้างหลังตู้แล้วก็..แต่น แต้น ตู้24นิ้วของเราก็สามารถรันน้ำได้แล้ว
ยังมีต่ออีกหลาย Chapterครับ ถ้าบทความดีช่วยเข้าไปกด Like เพจกันนิดนึงนะครับ
https://www.facebook.com/ideaquarium
ข้อมูลส่วนไหนไม่ถูกต้อง หรือ มีส่วนไหนควรเพิ่มเติม รบกวนเพื่อนสมาชิกช่วยชี้แนะด้วยนะครับ จะได้แก้ไขให้ดีขึ้น
ชอบฟังคำตำหนิครับ ขอบคุณครับ