kH, gH จริงๆแล้วมันก็คือค่าความกระด้างของน้ำ (Water Hardness) นั่นเองครับ
น้ำกระด้าง หมายถึง น้ำที่มีปริมาณสารประกอบในรูปแคลเซี่ยมคาร์บอเนต หรือ แมกนีเซียมคาร์บอเนตละลายอยู่ โดยน้ำกระด้างจะแบ่งออกเป็น 2ประเภทคือ
1. น้ำกระด้างถาวร (General Hardness, gH) ซึ่งมาจากค่าของประจุ Calcium, Magnesiumn Other salt (เช่น K+, Na+,..) ที่เป็น Cation
2. น้ำกระด้างชั่วคราว (Carbonate Hardness, kH) บางทีเรียกว่าค่าความเสถียรของน้ำ เกิดจากสารประกอบคาร์บอเนต (CO3 2-) ที่เป็น Anion
ดังนั้นจะเห็นได้ว่าค่า gH เป็นค่าที่มีผลต่อสี, การลอกคราบ เนื่องจากเป็นตัวที่บอกระดับของ Cation อย่าง Calcium, Magnesium ซึ่งมีความจำเป็นสำหรับกุ้งดังนี้ครับ
Calcium
กุ้งนำไปใช้ควบคู่กับฟอสฟอรัสในอัตราส่วน 1:1 และการดูดซึมแคลเซี่ยมจะเกิดได้ดีและมากขึ้นเมื่อมีวิตตามินดีอยู่ด้วย แคลเซียมจะถูกสะสมที่ตับ, ตับอ่อนในรูปของเกลือแคลเซี่ยมฟอสเฟต และถูกนำไปใช้เป็นองค์ประกอบของโครงสร้างภายนอก* ของกุ้ง ดังนั้นเมื่อขาดแคลเซี่ยมจะทำให้เปลือกบางนิ่ม, เปลือกแข็งตัวช้าหลังจากลอกคราบ
Magnesium
เป็นองค์ประกอบของโครงสร้างร่างกายของกุ้ง 70% และอีก 30% พบในเนื้อเยื่อและเลือด กุ้งใช้ Mg ในการกระตุ้นการทำงานของ Enzyme ช่วยให้อาหารเปลี่ยนเป็นพลังงานที่นำไปใช้ได้ ช่วยกระตุ้นการทำงานของ ATP (สารชีวโมเลกุลที่ทำหน้าที่ให้พลังงานในสิ่งมีชีวิต) ดังนั้นเมื่อขาด Mg จะทำให้กุ้งลอกคราบแล้วเปลือกแข็งช้า กล้ามเนื้อหดเกร็งและเกิดสภาวะหัวใจล้มเหลวได้ครับ
มาดูความสำคัญของค่า kH กันบ้าง :) [on_018]
อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าบางทีค่านี้ถูกเรียกว่าค่าความเสถียรของน้ำ เนื่องมาจากความสามารถในการยับยั้งการเปลี่ยนแปลงของ pH โดยผ่านสารประกอบคาร์บอเนต (CO3 2-) หรืออาจจะพูดได้ว่า kH เป็นค่าที่บอกถึงระดับของ Alkalinity (ความสามารถในการรักษาความเป็นกรด-ด่างให้คงที่)
ดังนั้นค่า
kH ที่ต่ำเกินไป (น้อยกว่า 4) จะมีผลทำให้ระดับของ Alkalinity ลดลงทำให้เมื่อมีกรดหรือเบสลงไปในน้ำเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำให้ pH เปลี่ยนอย่างรวดเร็ว (pH แกว่ง) มีผลต่อระบบกรอง(ความเป็นกรดสูง) ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ, ปลา(น้ำจืด)มีปัญหาเรื่องแรงดันออสโมซิส
kH ที่สูงเกินไป (มากกว่า 6.7) จะมีผลทำให้ pH สูงขึ้น และ *อาจเกิดอันตรายขึ้นได้ถ้าใช้การเติม CO2 อัตโนมัติผ่าน pH probe เพราะเครื่องจะใช้การลดลงของ pH ในการบอกปริมาณ CO2 ที่ละลายในน้ำ แต่เมื่อ CO2 ละลายมากขึ้นความเป็นกรดจะไปละลายเอา Carbonate จากหินปูนในวัสดุปลูกออกมาทำให้ KH สูงขึ้นค่า pH ก็ไม่ลดลงเครื่องจะปล่อย CO2 ออกมามากขึ้นเรื่อยๆจนเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตได้* ( Credit คุณ banx จากห้องไม้น้ำ ^__^)
การเพิ่มค่า kH และ gH อาจทำได้โดย [on_055]
- เติม Calcium Carbonate (CaCO3) ( 1/2 ช้อนชาต่อน้ำ 100L ) ซึ่งมีมีผลเพิ่มทั้ง kH และ gH เนื่องจากแตกตัวได้ทั้ง Calcium ion และ Carbonate
CaCO3 + CO2 + H2O ---> Ca(HCO3)2 ---> Ca2+ + 2HCO3-
- เติม Sodium Hydrogen Carbonate (NaHCO3) ( 1/2 ช้อนชาต่อน้ำ 100L ) มีผลเพิ่มค่า kH แต่ต้องระวังเพราะมันไปเพิ่ม pH ด้วยครับ เนื่องจากแตกตัวให้ NaOH ซึ่งมีฤทธิ์เป็นเบส
NaHCO3 + 2H2O ---> H2CO3 + 2NaOH
NaHCO3 ---> Na+ + HCO3-
การลดค่า gH/kH อาจทำได้โดย [on_055]
- อาศัยกระบวนการ Ion Exchange โดยการผ่านวัสดุกรองประเภท Resin โดยจะสามารถทำให้ gH ต่ำลงเท่าไรขึ้นอยู่กับ Rentention Time และประสิทธิภาพของตัว Resin เอง
- เติมน้ำ RO ( มี kH ประมาณ 0)
ข้อสังเกตุ** จะเห็นว่าค่า kH, gH ที่แสดงค่าสารประกอบทั้ง Cation อย่าง Ca,Mg หรือ Anion อย่าง Carbonate (Total Hardness) เมื่อมีค่าสูงขึ้นย่อมมีผลทำให้ค่า TDS ที่เป็นค่าของแข็งละลายน้ำทั้งหมด มีค่าสูงตามไปด้วยครับ สรุปคือ ทั้ง TH และ TDS มีค่าแปรผันตรงต่อกันนั่นเองคราฟฟฟ
จบละพิมพ์เหนื่อยเลย หวังว่าจะตอบคำถาม ข้อสงสัยภายในใจหลายๆคนได้น้ะครับ ^^
-= PEE =-
น้ำกระด้าง หมายถึง น้ำที่มีปริมาณสารประกอบในรูปแคลเซี่ยมคาร์บอเนต หรือ แมกนีเซียมคาร์บอเนตละลายอยู่ โดยน้ำกระด้างจะแบ่งออกเป็น 2ประเภทคือ
1. น้ำกระด้างถาวร (General Hardness, gH) ซึ่งมาจากค่าของประจุ Calcium, Magnesiumn Other salt (เช่น K+, Na+,..) ที่เป็น Cation
2. น้ำกระด้างชั่วคราว (Carbonate Hardness, kH) บางทีเรียกว่าค่าความเสถียรของน้ำ เกิดจากสารประกอบคาร์บอเนต (CO3 2-) ที่เป็น Anion
ดังนั้นจะเห็นได้ว่าค่า gH เป็นค่าที่มีผลต่อสี, การลอกคราบ เนื่องจากเป็นตัวที่บอกระดับของ Cation อย่าง Calcium, Magnesium ซึ่งมีความจำเป็นสำหรับกุ้งดังนี้ครับ
Calcium
กุ้งนำไปใช้ควบคู่กับฟอสฟอรัสในอัตราส่วน 1:1 และการดูดซึมแคลเซี่ยมจะเกิดได้ดีและมากขึ้นเมื่อมีวิตตามินดีอยู่ด้วย แคลเซียมจะถูกสะสมที่ตับ, ตับอ่อนในรูปของเกลือแคลเซี่ยมฟอสเฟต และถูกนำไปใช้เป็นองค์ประกอบของโครงสร้างภายนอก* ของกุ้ง ดังนั้นเมื่อขาดแคลเซี่ยมจะทำให้เปลือกบางนิ่ม, เปลือกแข็งตัวช้าหลังจากลอกคราบ
Magnesium
เป็นองค์ประกอบของโครงสร้างร่างกายของกุ้ง 70% และอีก 30% พบในเนื้อเยื่อและเลือด กุ้งใช้ Mg ในการกระตุ้นการทำงานของ Enzyme ช่วยให้อาหารเปลี่ยนเป็นพลังงานที่นำไปใช้ได้ ช่วยกระตุ้นการทำงานของ ATP (สารชีวโมเลกุลที่ทำหน้าที่ให้พลังงานในสิ่งมีชีวิต) ดังนั้นเมื่อขาด Mg จะทำให้กุ้งลอกคราบแล้วเปลือกแข็งช้า กล้ามเนื้อหดเกร็งและเกิดสภาวะหัวใจล้มเหลวได้ครับ
มาดูความสำคัญของค่า kH กันบ้าง :) [on_018]
อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าบางทีค่านี้ถูกเรียกว่าค่าความเสถียรของน้ำ เนื่องมาจากความสามารถในการยับยั้งการเปลี่ยนแปลงของ pH โดยผ่านสารประกอบคาร์บอเนต (CO3 2-) หรืออาจจะพูดได้ว่า kH เป็นค่าที่บอกถึงระดับของ Alkalinity (ความสามารถในการรักษาความเป็นกรด-ด่างให้คงที่)
ดังนั้นค่า
kH ที่ต่ำเกินไป (น้อยกว่า 4) จะมีผลทำให้ระดับของ Alkalinity ลดลงทำให้เมื่อมีกรดหรือเบสลงไปในน้ำเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำให้ pH เปลี่ยนอย่างรวดเร็ว (pH แกว่ง) มีผลต่อระบบกรอง(ความเป็นกรดสูง) ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ, ปลา(น้ำจืด)มีปัญหาเรื่องแรงดันออสโมซิส
kH ที่สูงเกินไป (มากกว่า 6.7) จะมีผลทำให้ pH สูงขึ้น และ *อาจเกิดอันตรายขึ้นได้ถ้าใช้การเติม CO2 อัตโนมัติผ่าน pH probe เพราะเครื่องจะใช้การลดลงของ pH ในการบอกปริมาณ CO2 ที่ละลายในน้ำ แต่เมื่อ CO2 ละลายมากขึ้นความเป็นกรดจะไปละลายเอา Carbonate จากหินปูนในวัสดุปลูกออกมาทำให้ KH สูงขึ้นค่า pH ก็ไม่ลดลงเครื่องจะปล่อย CO2 ออกมามากขึ้นเรื่อยๆจนเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตได้* ( Credit คุณ banx จากห้องไม้น้ำ ^__^)
การเพิ่มค่า kH และ gH อาจทำได้โดย [on_055]
- เติม Calcium Carbonate (CaCO3) ( 1/2 ช้อนชาต่อน้ำ 100L ) ซึ่งมีมีผลเพิ่มทั้ง kH และ gH เนื่องจากแตกตัวได้ทั้ง Calcium ion และ Carbonate
CaCO3 + CO2 + H2O ---> Ca(HCO3)2 ---> Ca2+ + 2HCO3-
- เติม Sodium Hydrogen Carbonate (NaHCO3) ( 1/2 ช้อนชาต่อน้ำ 100L ) มีผลเพิ่มค่า kH แต่ต้องระวังเพราะมันไปเพิ่ม pH ด้วยครับ เนื่องจากแตกตัวให้ NaOH ซึ่งมีฤทธิ์เป็นเบส
NaHCO3 + 2H2O ---> H2CO3 + 2NaOH
NaHCO3 ---> Na+ + HCO3-
การลดค่า gH/kH อาจทำได้โดย [on_055]
- อาศัยกระบวนการ Ion Exchange โดยการผ่านวัสดุกรองประเภท Resin โดยจะสามารถทำให้ gH ต่ำลงเท่าไรขึ้นอยู่กับ Rentention Time และประสิทธิภาพของตัว Resin เอง
- เติมน้ำ RO ( มี kH ประมาณ 0)
ข้อสังเกตุ** จะเห็นว่าค่า kH, gH ที่แสดงค่าสารประกอบทั้ง Cation อย่าง Ca,Mg หรือ Anion อย่าง Carbonate (Total Hardness) เมื่อมีค่าสูงขึ้นย่อมมีผลทำให้ค่า TDS ที่เป็นค่าของแข็งละลายน้ำทั้งหมด มีค่าสูงตามไปด้วยครับ สรุปคือ ทั้ง TH และ TDS มีค่าแปรผันตรงต่อกันนั่นเองคราฟฟฟ
จบละพิมพ์เหนื่อยเลย หวังว่าจะตอบคำถาม ข้อสงสัยภายในใจหลายๆคนได้น้ะครับ ^^
-= PEE =-