Aqua.c1ub.net
*
  Sun 03/Aug/2025
หน้า: 1 ... 167 168 169 170 171 ... 201   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: มาเล่นเกมทายภาพจากภาพยนตร์เรื่องดังกัน  (อ่าน 758062 ครั้ง)
จอมใจไร้รัก ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #5040 เมื่อ: 16/11/13, [11:58:07] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ







เรื่องอะไรครับ ?

The Assassins  โจโฉ
จอมใจไร้รัก ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #5041 เมื่อ: 16/11/13, [12:00:06] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ






เรื่องอะไรครับ ?

John Carter นักรบสงครามข้ามจักรวาล
จอมใจไร้รัก ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #5042 เมื่อ: 16/11/13, [12:04:04] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ






เรื่องอะไรครับ ?

2012 วันสิ้นโลก
TeW ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #5043 เมื่อ: 16/11/13, [13:44:11] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

The Hunger Games เกมล่าเกม(ภาค 2 เข้าฉาย  21 เดือนแล้วนี้ครับ)
ถูกต้องครับ  [เจ๋ง]
TeW ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #5044 เมื่อ: 16/11/13, [13:44:23] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

One Piece Film Z
ถูกต้องครับ [เจ๋ง]
 [on_055]
TeW ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #5045 เมื่อ: 16/11/13, [13:46:14] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ








เรื่องอะไรครับ ?
Rango  [on_055]
หนุกมาเลยครับเรื่องนี้ ภาพก็โครตชัดเลย
จอมใจไร้รัก ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #5046 เมื่อ: 16/11/13, [14:03:02] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เรื่องอะไรครับ ?

ถูกต้องครับ

 ฮิต แอนด์ รัน ล่าทะลุเมือง

เป็นหนังที่หน้าหนังดูก็พอรู้ว่าน่าจะเป็นเพียงแค่หนังที่ดูเพลินๆ และพอเอาฆ่าเวลาเท่านั้น ซึ่งหลังจากที่ดูจบก็คิดไม่ผิดเลยจริงๆ เพราะถึงแม้จะมีถึงชื่อ โปรดิวเซอร์ ของ Wedding Crashers และนักแสดงมากหน้าคับตามามากมาย แต่ตัวหนังกลับทำออกมาแค่ดูได้เพลินๆ และ ฆ่าเวลา เท่านั้นเองหละครับทุกท่าน

Hit & Run หนังเล่าถึงเรื่องราวของ ชาร์ลี บรอนสัน (แด็กซ์ เช็พเพิร์ด) อดีตนักขับรถในทีมปล้นธนาคารที่หนีออกจากโครงการคุ้มครองพยาน เพื่อขับรถพาแฟนสาว (คริสเตน เบลล์) ของเขาไปยังลอส แอนเจลิสเพื่อสานฝันของเธอ ด้วยการเป็นคุณครูสายอาชีพที่เธอเรียนมา แต่การเดินทางของพวกเขาก็ไม่ราบรื่นเมื่อถูกไล่ล่าโดยเจ้าหน้าที่รัฐ (ทอม อาร์โนลด์) ที่ต้องการจะนำตัวเขากลับมาคุ้มครองพยาน และวุ่นวายมากยิ่งขึ้นเมื่อหัวหน้าแก๊งปล้นธนาคารของเขา (แบรดลีย์ คูเปอร์) ที่เพิ่งออกจากคุกมา ก็มาตามล่าเขาอีกคนด้วยความแค้น การตามล่าสุดป่วนที่มีเสียงฮามาเป็นตัวชูโรงจึงเริ่มขึ้นพร้อมฉากแอ็คชั่นขับรถไล่ล่า

หนัง โร้ด มูฟวี่ แนวตลกก็มีไปแล้วไม่ว่าจะเป็น Due Date หรือแม้แต่ The Hangover ส่วนแนวดราม่าก็เพิ่งจะมีผ่านไปอย่าง On the Road เพราะฉะนั้นก็คงถึงเวลาสักทีที่จะมีหนัง โร้ด มูฟวี่ แนวใหม่ๆอย่าง แอ็คชั่น ที่ Hit & Run เป็นหนังโร้ด มูฟวี่ ไม่กี่เรื่องที่ทำแนวนั้น โดยหนังเป็นการกำกับของ 2 ผู้กำกับอย่าง เดวิด พลามเมอร์ และ แด็กซ์ เช็พเพิร์ด ที่รายแรกนั้นเป็นผู้กำกับโนเนม ที่มีประวัติเคยกำกับหนังสั้นมากมาย ส่วนรายหลังนั้นเป็นนักแสดงตลกที่เราคงเคยคุ้นหน้าจาก When in Rome ที่ในเรื่องนี่ควบทั้ง 3 ตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็น ผู้กำกับ , มือเขียนบท และ แสดงนำ ซึ่งถ้าหากฟังจากคอนเซปคร่าวๆของ Hit & Run ก็ถือว่าเป็นหนังที่น่าสนใจมากทีเดียว ที่จะนำเอาความเป็นหนัง โร้ด มูฟวี่ มาผสมเข้ากับ ฉากแอ็คชั่น และ ความฮานิดหน่อย ตามสไตล์ติดตลกของผู้กำกับรายนี้

ซึ่งนั้นจะเป็นการเปิดโอกาสให้หนังเรื่องนี้สามารถมีฉากแอ็คชั่นได้มากมาย โดยไม่ต้องหยุดพักกันเลยสักนิด เพราะเนื่องจากตัวหนังนั้นเป็น โร้ด มูฟวี่ จึงไม่ต้องเสียเวลาหยุดพักเพื่อใส่ฉากแอ็คชั่น แต่สามารถใส่ฉากขับรถไล่ล่าเข้ามาเพื่อให้ตัวเรื่องดำเนินต่อได้เลยอย่างสบาย และก็ดูเหมือนว่าผู้กำกับจะทำตามแบบที่ว่า โดยการอัดแน่นมาด้วยฉากแอ็คชั่น ขับรถไล่ล่า แทบตลอดทั้งเรื่อง พร้อมทั้งพยายามจะใส่เสียงฮาผ่านมุกตลกแนวอเมริกันที่เน้นเรื่อง คำหยาบ และ เซ็กห์ แนว Wedding Crashers เป็นหลัก โดยถ้าหากผู้กำกับเป็นคนที่เคยมีความเชี่ยวชาญด้าน ฉากแอ็คชั่น และ มุกตลก Hit & Run ก็คงจะเป็นหนังที่โอเคอยู่นะ

แต่มันกลับไม่ใช่อย่างที่ว่า เพราะเนื่องด้วยประสบการณ์ของผู้กำกับที่ไม่ได้มีความเชี่ยวชาญด้านอย่างว่ามาก่อน หนำซ้ำหนังที่พวกเขาเพิ่งกำกับไปอย่าง Brother’s Justice ในแนวเดียวกันนี่ ก็ดูเหมือนจะโดนสับเละจากนักวิจารณ์เช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นก็จงอย่าหวังที่จะได้อะไรมากกว่านั้นจากเรื่อง Hit & Run เพราะเอาเข้าจริงๆถึงแม้ว่าตัวหนังจะเต็มไปด้วยฉากขับรถไล่ล่าที่ถ้าหากดูแต่ภาพ โดยไม่เปิดเสียงก็คงคิดเองเออเองไปได้ว่า ‘มันส์จริงๆ’ แต่เนื่องด้วยในโรงภาพยนตร์ไม่มีตัวเลือกอย่างว่า มันจึงกลายเป็นว่าเราต้องมานั่งทนดูฉากแอ็คชั่นที่กำกับคิวออกมาค่อนข้างดี แต่ในด้านของเสียงประกอบกลับกลายเป็นความหายนะครั้งใหญ่ เนื่องจากผู้กำกับไม่สามารถตัดต่อเพลงแนว อินดี้ คันทรี่ และ ร็อค ให้เข้ากับฉากแอ็คชั่นได้เลยสักนิด จึงทำให้หนังเสียวัตถุดิบหลักไปแล้วหนึ่ง

โดยถ้าหากหนังเสียวัตดุดิบดีๆไป หนึ่งอย่าง แต่สามารถนำเอาเครื่องปรุงมาใส่เพิ่มรสชาติให้ตัวอาหารกลับมาอร่อยได้ ก็จะดูเหมือนว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ก็น่าเสียดายที่ Hit & Run กลับทำแบบนั้นไม่ได้เช่นกัน เพราะในด้านประเด็นรองอย่าง มุกตลก ก็กลับทำออกมาได้แป๊กและจืดสนิท ถึงแม้จะเต็มไปด้วยมุกสถานการณ์มากมาย แต่เนื่องด้วยความห่าม และ ดิบ เกินไป จึงทำให้จากที่มันน่าจะขำกลายเป็นเอือมระอาเสียมากกว่า เพราะฉะนั้นสิ่งที่ดีที่สุดจึงเห็นจะเป็นด้านของนักแสดงที่สร้างสีสันได้พอควรไม่ว่าจะเป็น คริสเต็น เบล และ แบรดลี่ คูเปอร์ ที่รายหลังถึงแม้ตัวบทจะจืดสุดๆ แต่ด้วยเสน่ห์ความเป็นหนุ่มฮ๊อตจึงไม่แปลกที่ออร่าจะประกายมาเป็นระยะๆ ไม่ต่างอะไรจากนักแสดงสาวอย่าง คริสเต็น เบล ที่ออกแนวรั่วๆ แต่ก็ยังมีความน่ารักออกมาเป็นช่วงๆเลยทีเดียวหละครับ

เพราะฉะนั้นสรุปลแล้ว Hit & Run จึงถือว่าเป็นหนังที่เหมาะกับคนที่อยากฆ่าเวลาด้วยหนังแนว โร้ด มูฟวี่ แอ็คชั่นไล่ล่า ที่ทำออกมาพอดูได้แค่เพลินๆเอียงไปทางน่าเบื่อ ซึ่งจุดเด่นของหนังนั้นไปอยู่ที่ตัวของนักแสดงอย่าง คริสเต็น เบล และ แบรดลี่ คูเปอร์ ที่สามารถฉายแสงออร่าขายเสน่ห์กันได้แบบไม่อายใคร

เรื่องนี้ผมให้ 6/10 ครับ

จอมใจไร้รัก ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #5047 เมื่อ: 16/11/13, [14:03:10] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เรื่องอะไรครับ ?

ถูกต้องครับ

Bait 3D โคตรฉลามคลั่ง

?หนังฉลามบุกห้าง? เป็นคำแรกที่รู้จักก่อนชื่อหนัง Bait 3D เสียอีก จนต้องรีบเสาะแสวงหาตัวอย่างมาชมอย่างรวดเร็วในอินเทอร์เน็ตในทันทีว่า ฉลามมันเข้าไปในห้างได้อย่างไร? (รวมถึงน้ำจำนวนมหาศาลมันเข้าไปได้อย่างไร?) และก็เป็นอย่างที่คิดเมื่อตัวอย่างให้ความรู้สึกถึงหนังเกรดบีมาแต่ไกล กับหนังที่คนต้องหาทางไม่ให้ฉลามเขมือบ!

Bait 3D กำกับโดย คิลเบิล เรนดัลล์ เป็นเรื่องราวของเมืองหนึ่งที่ตั้ง อยู่ติดชายหาด ช่วงเวลาหนึ่งของทุกปีเหล่าฉลามจะเข้ามาล่าเหยื่อใกล้กับชายฝั่งที่คนทั่วไป ใช้ออกกำลังกายและพักผ่อนย่อนใจและเคยคร่าชีวิตของผู้คนมาแล้ว จนกระทั่งวันหนึ่งเกิดเหตุการณ์สึนามิขนาดใหญ่พัดพาทุกอย่างให้พังทลาย และได้นำเจ้านักล่าแห่งท้องทะเลอย่างฉลามเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่ง ซึ่งที่นี่มีกลุ่มคนผู้รอดชีวิตจากสึนามิและกำลังหาทางออกจากซูเปอร์ มาร์เก็ตที่จมน้ำแห่งนี้ แต่พวกเขาก็ต้องเคยระวังกับฉลามที่พร้อมจะกัดกินทุกคนที่เข้ามาอยู่ในรัศมี ทำการของมัน!

หากว่ากันแบบตรงไปตรงมา Bait 3D เป็นหนังสุดโม้แบบไม่ต้องคำนึงถึงตรรกะ ความสมเหตุสมผลอะไรทั้งสิ้น สาเหตุของเหตุการณ์สำคัญตามท้องเรื่องคือเกิดสึนามิอันรุนแรงขึ้น เข้าทำลายชายฝั่งกลืนกินอาหารบ้านช่อง ผู้คนจำนวนมหาศาล จุดสนใจในหนังเรื่องนี้ก็คือ ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง (เอาจริงๆ แล้วก็ซูเปอร์มาร์เก็ตนั่นแหละ) ที่กลุ่มตัวละครหลักได้มาอยู่ในที่แห่งนี้พร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย เมื่อสึนามิผ่านไปก็พบว่าภายในซูปเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้ได้กลายเป็นอ่างเก็บ น้ำ ที่เต็มไปด้วยซากสินค้า ผู้เสียชีวิต และซากรถยนต์ที่ถูกจำสภาพไม่ได้เกาะเกยกันอยู่

และยิ่งไปกว่านั้นตัวละครที่เหลือรอดอยู่นี้ต่างเป็นตัวละครที่มีปมในใจด้วยกันทั้งนั้น เช่น จอช (ซาเวียร์ ซามูเอล) อดีตไลฟ์การ์ดที่พันตัวเองมาเป็นพนักงานในซูเปอร์มาร์เก็ต ต้องมาพบกับ ทีน่า (ชาร์นี วินสัน) อดีตคนรักเก่า ที่เมื่อปีที่แล้วกำลังจะได้แต่งงานกันถ้าไม่เกิดเหตุการณ์ที่พี่ชายของที น่าถูกฉลามฆ่าตาย! ซึ่งถือเป็นปมใหญ่สุดในเรื่องชะตาของตัวละครมีความเกี่ยวข้องกับฉลามโดยตรง ที่เหลือก็เช่น 2 โจรที่บุกปล้นเงินจากซูเปอร์มาร์เก็ตก่อนที่สึนามิจะถล่มเพียงไม่กี่นาที ที่หนึ่งในสองคนร้ายต้องปล้นด้วยความจำใจ เพราะต้องการเคลียร์หนี้ให้กับพี่ชายของเขา ในขณะที่ตำรวจนายหนึ่งมาพบเหตุการณ์เข้าพอดี ทั้งที่ความจริงแล้วเขากำลังหาทางเคลียร์กับลูกสาวที่ริอ่านเป็นโจรปล้น สินค้า

หนังค่อนข้างเอาใจใส่ในการบอกเล่าปมต่างๆ ของแต่ละกลุ่มตัวละครให้เราได้รู้ที่มาที่ไปว่าทำไมแต่ละตัวละครถึงได้มา อยู่ ซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้ได้ ซึ่งนับว่านำเสนอปมปัญหาต่างๆ ได้ค่อนข้างดี และทำให้เราติดตามว่าบทสรุปของแต่ละตัวละครจะเป็นอย่างไร เพราะลำพังแค่เพียงตัวฉลามที่เป็นตัวเอกของเรื่อง กลับไม่มีความน่าสนใจอะไรเป็นพิเศษแถมไม่ดึงดูดให้เราติดตาม หากไม่ได้ปมปัญหาของตัวละคร Bait 3D ก็กลายสภาพเป็นหนังที่น่าเบื่อสุดๆ ในทันที

สิ่งที่โดดเด่นอีกอย่างคือดนตรีประกอบที่ช่วยเสริมสร้างบรรยากาศของความ น่าสะพรึงกลัวได้พอสมควร รวมถึงฉาก 3 มิติ ก็นับว่าทำได้ดีพอใช้ ทำให้เรารู้สึกว่ามีอะไรพุ่งเ้ข้าหาเราได้ แต่ในแง่ของความสมเหตุสมผล Bait 3D ถือว่าสอบตก เพราะมันค้านสายตาเกินจะเชื่อว่า ฉลามสามารถหลุดเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ตได้ ในสภาพแวดล้อมอันเลวร้ายที่ปรากฎให้เห็นในตอบจบ รวมถึงการกระทำเสี่ยงตายด้วยการช็อตไฟฟ้าใส่ปลาฉลาม

อย่างไรก็ตาม ฺBait 3D เป็นหนังที่ให้ความบันเทิงในระัดับหนึ่ง แม้จะทำให้นึกถึงหนังเรื่อง Jaws (1975) ผลงานเกี่ยวกับฉลามสุดคลาสสิคของ สตีเว่น สปีลเบิร์ก แต่เอาเข้าจริงๆ แล้ว มันก็ไม่สามารถพาตัวเองไปสู่จุดนั้นได้ อาจจะเป็นเพราะลักษณะงานแบบนี้ที่เชื่อว่าหลายคนคงเคยผ่านมาแล้วหลายเรื่อง จนเกิดความชินชาแล้วก็ได้

4/10
จอมใจไร้รัก ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #5048 เมื่อ: 16/11/13, [14:03:17] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เรื่องอะไรครับ ?

ถูกต้องครับ

The Assassins โจโฉ

ต้องขอขอบคุณบริษัท ไจแอ้นท์ พิคเจอร์ส บริษัทผู้ที่เคยอยู่เบื้องหลังหนังไทยอภิมหาซีจีอย่าง The Scout บิดพิภพทะลุโลก ที่ได้ซื้อหนังจีนเรื่อง The Assassins มาเข้าฉายแบบไม่หวังผลกำไร โดยการจัดคิววันเข้าฉายพร้อมกับที่ประเทศบ้านเกิดอย่าง จีน เลยทีเดียว โดยโจโฉฉบับนี่จะเป็นไงกันบ้างหละทีนี่

ในปี 198 โจโฉ แม่ทัพแห่งราชวงศ์ฮั่น เดินทางไปทิศตะวันออกและเอาชนะนักรบผู้ยิ่งใหญ่ของจีนนามหลูปู่ ทำให้นักรบทั่วหล้าต่างเกรงกลัว หลายปีต่อมาหลังจากชิงราชวงศ์ฮั่นมาได้ โจโฉตั้งตนเป็นอ๋องเว่ย เขาสร้างหอคอยธนูทองแดงขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจของเขาและข่าวลือก็ แพร่สะพัดออกไปว่าเขาจะขึ้นครองราชย์แทนจักรพรรดิ ขณะนั้น หนุ่มสาวคู่หนึ่ง มู่ชาน และ หลิงจู ได้ถูกนำตัวออกมาจากคุกมายังสุสานลับที่พวกเขาอยู่ด้วยกันนานกว่า 5 ปีเพื่อรับการฝึกฝนให้เป็นนักฆ่าในภารกิจลับ ในปี 220 การทำนายทางดาราศาสตร์ได้คาดการณ์ถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ซึ่งทำให้ โจโฉ ต้องคอยระวังศัตรูทุกคน

The Assassins กำกับการแสดงโดย ลินเชน เฉาน์ ผู้กำกับชาวจีนที่ดูเหมือนตามในผลงานที่ IMDB ได้เขียนไว้ เขาจะไม่เคยหยิบจับ และ กำกับหนังเรื่องไหนมาก่อนเลย เพราะฉะนั้นดูเหมือนว่า โจโฉ ฉบับ โจวเหวินฟะ จะเป็นผลงานการเปิดซิงค์เรื่องแรกของเขา ซึ่งเรานั่นคงเคยเห็น โจโฉ ในหลายเวอร์ชั่นกันมามากมายพอสมควร ไม่ว่าจะเป็น โจโฉ ในแบบฉบับที่ ดุร้าย โหดเหี้ยม ใน หนังแผ่นชุด สามก๊ก ทั่วไป ตลอดจนกระทั่งในเวอร์ชั่น จอห์น วู ใน Red Cliff ทั้ง 2 ภาค หรือแม้แต่ โจโฉ ที่ตัวละครดูเหมือนจะเป็นคนจิตใจดี แต่แอบซ่อนความเหี้ยมไว้ภายใน อย่างในเรื่อง The Lost Bladesman ที่ ดอนนี่ เยน แสดงนำ แต่ก็ดูเหมือนว่าใน The Assassins จะเปิดเผย โจโฉ ในด้านที่คนดูไม่เคยเห็นมา โดยทำให้ตัวละคร โจโฉ นั่นเป็น คนดี มีจิตใจสูงส่ง และกลัวเป็น อ่อนแอเป็น นั่นเอง

เพราะถึงแม้ว่าในวรรณกรรมชุด สามก๊ก ที่ใครหลายคนเคยอ่านมา อาจจะไม่ได้มีการวางตัวอย่างแน่นอนว่า โจโฉ นั่นเป็นตัวละครร้ายของเรื่อง แต่เป็นเพราะหนัง และ ซีรี่ย์ หลายๆเรื่องเสียมากกว่าที่ทำให้ตัวละคร โจโฉ กลายเป็นตัวร้ายหลักของวรรณกรรมชุด สามก๊ก เพราะฉะนั้นในการที่หนังเรื่อง The Assassins ถ่ายทอดตัวละคร โจโฉ ออกมาในลักษณะแบบนี่ก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจพอสมควร และนั่นก็ถือได้ว่าเป็นประเด็นหลักในเรื่องนี่เลยก็ว่าได้ เพราะตลอด 75% ของเรื่อง หนังได้วนเวียนอยู่กับการที่พยายามถ่ายทอดให้ตัวละคร โจโฉ เป็นคนที่ยิ่งใหญ่ น่าเกรงขาม แต่หารู้ไม่ว่า ภายใต้หน้ากากนั่น ก็กลับมีความกลัวซ่อนอยู่

ซึ่งหนังพยายามจะนำหลักข้อนั่นมาเสนอแก่คนดูว่า ไม่ว่าคนเราจะเป็นบุคคลที่กล้าหาญ หรือ ยิ่งใหญ่เพียงไหน แต่มนุษย์เราแท้จริงแล้วก็ยังมีความกลัวที่ถูกซ่อนอยู่ข้างใน พร้อมทั้งหนังยังนำเสนอออกมาผสมไปกับเรื่องที่ซื่อตรงกับตัวละคร โจโฉ ในวรรณกรรม นั่นคือ ผู้ชายทุกคนก็ต้องสยบให้กับเสน่ห์ของสตรี ซึ่งตัวละคร สตรี ที่ว่านี่ หนังก็ไม่ได้หยิบเอาตัวละคร เตียวเสี๋ยน มาเล่น แต่กลับนำเอาตัวละคร หลิงจู มาเพื่อที่ตัวหนังจะได้ผูกเรื่องราวความรักอันซับซ้อน ที่ผสมไปกับฉากการทำสงครามอันยิ่งใหญ่ ที่แลดูน่าเกรงขามในระดับหนึ่ง โดยทางด้านการรับบทเป็น โจโฉ ของ โจวเหวินฟะ ก็ถือว่าทำออกมาได้ในระดับที่ดีเกินคาด เพราะเฮียโจวนี่เอง ที่ทำให้ตัวละคร โจโฉ แลดูมีมิติ จับต้องได้ และน่าเกรงขามแต่กลับซ่อนไปด้วยความอ่อนที่งดงาม ไม่ต่างอะไรกับตัวละคร หลิวอี้เฟย

ที่ถึงแม้ตัวบทจะไม่ส่งนางมากนัก แต่คงเป็นเพราะเสน่ห์ที่อยู่ในตัวเธออยู่แล้ว จึงทำให้ตัวละคร หลิงจู แลดูไม่เสียปล่าวในการใส่เข้ามา โดยดูเหมือนว่า The Assassins อาจจะมีวัตถุดิบดีๆเพรียบพร้อมไปซะทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น นักแสดง , เครื่องแต่งกาย , เรื่องราว และ ฉากสงครามที่น่าเกรงขาม แต่ก็น่าเสียดายเหมือนกันที่ในท้ายสุดถึงแม้ตัวหนังอาจจะมีพร้อมทุกอย่าง แต่ผู้กำกับกลับนำเสนอมันออกมาได้ค่อนข้าง ไร้รสชาติ ไปมากพอสมควร จนทำให้ท้ายสุด The Assassins มันจึงกลายเป็นเหมือนกับว่าแค่มาเล่าประวัติช่วงนึงของชีวิต โจโฉ แล้วก็จากไปอย่างที่ตัวหนังไม่ได้ให้อะไรเก็บไปคิดกับดูเลยสักนิดเดียว

เพราะฉะนั้น The Assassins จึงเป็นหนังที่มีข้อเสียใหญ่ๆตรงด้านของการเล่าเรื่อง และ ปิดบทสรุป ของผู้กำกับที่ยังทำได้ไม่ดีพอ แต่นอกจากนั้นไม่ว่าจะเป็น การแสดง , เครื่องแต่งกาย และ ฉาก , เรื่องราวด้านดีของตัวละคร โจโฉ และ ฉากสงคราม ก็ต่างถือว่าทำออกมาได้คุ้มค่าตั๋วทุกบาททุกสตางค์เลยทีเดียวครับ

เรื่องนี้ผมให้ 7/10 ครับ
จอมใจไร้รัก ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #5049 เมื่อ: 16/11/13, [14:03:25] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เรื่องอะไรครับ ?

ถูกต้องครับ

Motorway 2 สิงห์ซิ่งเดือด

มาอีกแล้วกับหนังที่มีฉากหน้าเป็นเรื่องราวของตำรวจ แต่เนื้อในจริงๆแล้วกลับเป็นหนังแนวขับรถไล่จับผู้ร้าย แนวที่เรียกได้ว่าเอา Initial D มาผสมกับ Fast and the Furious ของฝรั่ง ซึ่งตัวหนังไม่รู้เป็นไงมาไง แต่ตอนนี้ก็ได้เข้าฉายเฉพาะที่โรงภาพยนตร์ เฮ้าส์ อาร์ซีเอ เป็นเรียบร้อยแล้วกับหนังแอ็คชั่นเรื่องนี้

Motorway เป็นโปรเจกต์ที่จะเต็มไปด้วยฉากขับรถด้วยความเร็ว ทั้งเสี่ยงและหวาดเสียว ข้อมูลระบุว่าหนังได้รับแรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง พระเอกหน้าหล่อ ชอว์น หยู จะมารับบท สายตรวจวัยละอ่อน ที่ต้องไล่ตามผู้ร้ายรายหนึ่ง ที่หลบหนีการจับกุมมากว่า 15 ปีแล้ว แต่การไล่ล่าไม่มีที่ท่าว่าจะจบสิ้น เมื่อผู้ร้ายคนดังกล่าว ใช้ทักษะการขับรถหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ทว่าพระเอกของเราก็ไม่ลดละ ขอไปฝึกเทคนิคดังกล่าว เพื่อจะขับรถไล่จี้จนรวบตัวคนร้ายไว้ได้ แต่อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของเกมไล่ล่าเท่านั้น เพราะเซอร์ไพรส์อีกชุดใหญ่กำลังรอคอยผู้ชมและพระเอกของเราอยู่เฉพาะในโรงภาพยนตร์

Motorway กำกับการแสดงโดย ส่อยเฉิง ผู้กำกับที่เมื่อปี 2009 เคยกำกับหนังจนพาไปกวาดรางวัลมาแล้วใน Accident ที่คนไทยเราคงได้มีผ่านตากันมาบ้างตามแผงดีวีดีลดราคา และ เทศกาลหนังฮ่องกง ที่เพิ่งผ่านไป โดยในคราวนี้ผู้กำกับ ส่อยเฉิง ก็ได้กลับมาแล้ว หลังจากได้ไปเก็บตัวอยู่นานถึง 3 ปี ที่กลับมาพร้อมกับหนังแอ็คชั่น ไล่ล่า แนวรถแข่งกับ Motorway ที่หยิบเอา 2 ดาราอย่าง ชอว์น หยู และ แอนโธนี่ หว่อง ซึ่งผมเป็นคนนึงที่ค่อนข้างชื่นชอบกับผลงานเก่าของผู้กำกับคนนี่อย่าง Accident มากพอสมควร เพราะนอกจากมันเป็นหนังที่พูดถึงเรื่อง โชคชะตา และ อุบัติเหตุ ได้อย่างน่าคิดแล้ว ฉากทริลเลอร์ จารชน ก็ถือว่าทำออกมาค่อนข้างดูดีระดับฮอลลีวู้ดอีกด้วย เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกที่ผมจะหวังว่าในหนังเรื่อง Motorway จะมีฉากขับรถไล่ล่า ที่น่าตื่นเต้นเช่นนั้นนะ

แต่ก็น่าเสียดายที่หลังจากได้ดู Motorway แล้ว มันกลับไม่ได้เป็นอย่างที่คาด เพราะเอาเข้าจริงๆ ถึงแม้ว่าตัวหนังจะมีฉากหน้าเป็นหนังแนวตำรวจ ไฮเวย์ ไล่ล่าคนร้าย ที่ดูเหมือนจะมีแต่ฉากขับรถไล่ล่าตลอดเรื่อง แต่ก็ดูเหมือนว่าผู้กำกับจะไม่ค่อยได้หยิบเรื่องเหล่านั้นมาใช้สักเท่าไหร่ แต่กลับไปสร้างเรื่องใหม่ออกแนวผูกปมปัญหาที่ทำให้ตัวเอกต้องแก้ไข ที่ดูไปดูมาก็ไม่ต่างอะไรกับ Initial D ในฉบับของตำรวจคู่หู จนทำให้ท้ายสุดนอกจากผู้กำกับจะจบแบบค่อนข้าง มัดมือชก โดยการทำให้ปัญหานั้นแก้ไขได้อย่างง่ายดายแล้ว ในด้านของฉากขับรถไล่ล่าในหลายช่วงก็เรียกได้ว่า ไม่สามารถทำออกมาได้ถึงพริกถึงขิง อีกด้วยหละ

เพราะถึงแม้ว่า Motorway อาจจะมีลีลาในการขับรถจากทีมสตันท์ที่ทำให้เกิดฉากการไล่ล่า ที่เต็มไปด้วย เทคนิคเจ๋งๆ มากมาย แต่ดูเหมือนว่าผู้กำกับกลับไม่รู้วิธีที่ทำให้เครื่องร้อนได้อย่างถูกต้อง จึงทำให้ฉากเหล่านั้นกลายเป็นวัตถุดิบดีๆที่เสียของไปอย่างน่าเสียดาย หนำซ้ำการที่หนังมีความยาวเพียง 90 นาที จึงยิ่งทำให้หนังค่อนข้างสั้น และ ยิ่งบีบตัวเนื้อเรื่องให้เล็กลงไปอีก จนทำให้ผู้กำกับไม่มีเวลาพอที่จะอธิบายทั้งเรื่องราว ปมปัญหาหลัก ของการเอาชนะความกลัวของพระเอกในครั้งนี่ หรือแม้แต่ด้านของปูมหลังตัวละครของตัวเอก และ ตัวรอง ที่ท้ายสุดจึงกลับกลายเป็นว่า Motorway จึงเป็นหนังฮ่องกงเรื่องนึงที่มีทีเด็ดตรงที่ฉากขับรถไล่ล่าถ่ายจริง แสดงจริง แต่กลับนำมาใช้ไม่ถูกวิธี พร้อมกับเนื้อเรื่องที่สั้น ตามสูตรหนังเดิมๆ และดูเหมือนจะไม่มีเวลาพอจะอธิบายเรื่องต่างๆมากนัก

จึงทำให้ Motorway เปรียบเสมือนหนังแอ็คชั่น ที่มีความขาดๆเกินๆอยู่หลายส่วน โดยทางด้านการแสดงของ 2 ดารานำอย่าง ชอว์น หยู และ แอนโธนี่ หว่อง ก็ดูเหมือนจะยิ่งกลายเป็นการฉุดตัวหนังลงไปอีก เพราะทั้งคู่นั้นต่างมีความสามารถด้านการแสดงอยู่มากพอสมควร เพราะฉะนั้นเมื่อทั้งคู่มาอยู่ด้วยกัน เคมี จึงต่างแยกย้ายกันไปคนละทาง ต่างขั้วต่างสไตล์ก็เลยก็ว่าได้ จึงเปรียบเสมือนว่าทั้งคู่มายืนโชว์พาวเวอร์ที่ไม่ได้มีความเข้ากันเลยสักนิด และเรื่องนี้ก็เป็นการพิสูจน์แล้วว่า เสือ 2 ตัวก็อยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้จริงๆ โดยเพราะฉะนั้นผมคิดว่า Motorway จึงเปรียบเสมือนเป็นหนังที่เหมาะสำหรับท่านใดที่ช่วงนี้ต้องการหนังดู

เล่นเพลินๆมากกว่าจะต้องการดูหนังที่มันส์แบบจริงจัง เพราะ Motorway จะให้สิ่งนั้นแก่คุณไม่ได้อย่างแน่นอนเลยหละครับ ป.ล. อย่าหวังว่าจะได้เห็นรถสวยๆ หรูๆแบบ Fast and the Furious เพราะใน Motorway ทั้งเรื่องจะมีใช้รถอยู่แค่ 3-4 คัน และส่วนมากจะเป็นรถธรรมดาที่ตำรวจใช้จับผู้ร้ายทั่วไปนั่นแหละครับ

เรื่องนี้ผมให้ 6/10 ครับ
จอมใจไร้รัก ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #5050 เมื่อ: 16/11/13, [14:03:38] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เรื่องอะไรครับ ?

ถูกต้องครับ

Savages คนเดือดท้าชนคนเถื่อน

เป็นหนังที่ถึงแม้เนื้อเรื่องจะออกแนวซ้ำซาก และ เดิมๆ เกี่ยวกับธุรกิจเถื่อนค้ายา แต่ด้วยตัวอย่างที่สามารถตัดต่อออกมาได้อย่างน่าสนใจ พร้อมทั้งยังเป็นผลงานการกำกับของ โอลิเวอร์ สโตน ที่นำทัพดารามายกโหล ทั้งหน้าใหม่อย่าง เทเลอร์ คิชต์ และหน้าเก่าอย่าง จอห์น ทราโวลต้า ก็มีหรือที่ผมจะพลาดไป

เบน และ ชอน ได้ร่วมกันดำเนินธุรกิจในท้องถิ่นที่ได้กำไรงาม ด้วยการปลูกดอกฝิ่นพันธุ์ดีที่สุดเท่าที่เคยมีการพัฒนาขึ้นมา นอกจากนี้ ทั้งคู่ยังมีความรักที่พิเศษสุดให้กับหญิงงาม โอ เหมือนๆ กันด้วย ชีวิตของพวกเขาช่างสมบูรณ์แบบจนกระทั่ง แก๊งค้ายาชาวเม็กซิกันย้ายเข้ามาและเรียกร้องให้ทั้งสามคนเป็นหุ้นส่วนกับเขาเมื่อเอเลนา หัวหน้าผู้ไร้ปรานีของแก๊งค้ายาเม็กซิกันและลาโด ลูกสมุนผู้โหดเหี้ยมของเธอ ประเมินค่าความผูกพันที่แน่นแฟ้นระหว่างเพื่อนสามคนต่ำไป เบนและชอน ภายใต้ความช่วยเหลือแบบจำยอมจากเจ้าหน้าที่ยาเสพติดที่โกงกิน จึงได้เริ่มต้นทำสงครามที่ดูราวกับไม่มีหนทางชนะกับแก๊งค้ายาสุดเถื่อนนี่

Savages กำกับการแสดงโดย โอลิเวอร์ สโตน ที่คนรุ่นใหม่น่าจะได้ผ่านชื่อของเขามาบ้างกับ Wall Street : Money Never Sleep หรือแม้แต่ World Trade Center แต่ถ้าหากเป็นคนยุคเก่าจะรู้ดีว่าสมัยนั้นผู้กำกับคนนี่รุ่งเรืองแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็นหนังคัลท์คลาสสิคขึ้นหิ้งอย่าง Natural Born Killers หรือแม้แต่หนังสงครามอย่าง Platoon ก็ล้วนแต่เป็นหนังที่นักวิจารณ์อเมริกายกย่องว่าควรดูก่อนตายทั้งนั้น แต่ดูเหมือนว่าช่วงหลังๆนี่ผู้กำกับจะฝีมือตกไปหน่อยถ้าเทียบกับผลงานเก่านับตั้งแต่ World Trade Center เพราะฉะนั้นการที่ผู้กำกับได้ห่างหายจากจอเงินไปนานนับ 2 ปี เขาก็คงจะมีไม้เด็ดๆมานำเสนอคนดูใน Savages ได้บ้างอย่างแน่นอน โดยถ้าหากใครมาถามผมว่า Savages นั้นเป็นหนังที่เป็นการคืนฟอร์มของ สโตน ได้หรือไม่ ผมก็คงต้องเสียใจที่ต้องตอบว่า ไม่เลยสักนิด

เพราะไม่รู้ว่าการที่ผู้กำกับ โอลิเวอร์ สโตน พยายามที่จะทำให้ Savages เป็น Natural Born Killers ในฉบับกวนตีนขึ้นมากไปรึปล่าว จนทำให้ท้ายสุดตัวหนังจึงดูเหมือนจะหาทางออก และ สไตล์ ของตัวเองไม่เจอ แถมด้านของ ตัวบท ก็ดูเหมือนจะเปรียบเสมือนกับสุนัขไล่งับหางตัวเองอยู่เกือบชั่วโมงกว่าที่จะหาทางกลับเข้าเนื้อเรื่องหลักได้ จนทำให้แฟนๆปู่ โอลิเวอร์ สโตน สมัยหนังเรื่อง JFK มีผิดหวังและบ่นพึมพัมกันตั้งแต่ครึ่งแรกอย่างแน่นอน แต่สำหรับผมเป็นคนที่ค่อนข้างเฉยๆกับหนังของ สโตน มาตั้งแต่ไหนแต่ไร จึงคิดว่า ถึงแม้ Savages จะมีบทที่อืดอาด ธรรมดา และ หาทางออกให้กับบทสรุป และ สไตล์ไม่เจอก็ตาม

แต่มันถือว่าสามารถหักล้าง และ พอถูไถ ไปได้ เมื่อเทียบกับสิ่งที่ผู้กำกับ โอลิเวอร์ สโตน พยายามจะปรับเปลี่ยนให้ตัวหนังเข้ากับตลาดสมัยนี่ได้อย่าง ฉากแอ็คชั่น , การหักเหลี่ยม และ โทนตัวหนังสไตล์ แม็กซิกัน แก็งส์เตอร์ ที่ทั้งหมดที่กล่าวมานั้นสำหรับผมถือว่าผู้กำกับ โอลิเวอร์ สโตน ล้วนทำได้ผล โดยเฉพาะด้านของ ฉากแอ็คชั่น และ บทการหักเหลี่ยม ที่ถึงแม้จะค่อนข้างธรรมดาและสามารถเห็นได้จากหนังหลายเรื่องแล้ว แต่เมื่อมันมาผสมรวมกับอารมณ์ความเป็นหนัง แก๊งส์เตอร์ แบบ แม็กซิกัน ผลที่ออกมาจึงค่อนข้างน่าประทับใจในระดับนึง ที่มาพร้อมกับมุกตลกร้ายแนวรุนแรง พร้อมกับการยัดคติให้คนดูไปทีละนิดว่า ‘ที่จริงแล้วเราทุกคนก็เป็นคนเถื่อน’ จะต่างกันแค่ว่าเถื่อนแบบไหน เถื่อนแบบรูปลักษณ์ , จิตใจ หรือแม้แต่ อารมณ์ แต่เราทุกคนก็ต่างเถื่อนด้วยกันทั้งนั้น

ซึ่งหนังโปรยปรายด้านของเรื่อง ‘ความเถื่อน’ ออกมาผ่านจากการกระทำของตัวละคร และ ฉากความรุนแรง เซ็กห์ กัญชา และ อารมณ์บ้าๆในการกระทำ ที่ชี้ชัดว่าเมื่อมีสถานการณ์นึงมากดขี่ให้ตัวเราต้องลุกขึ้นมาทำอะไรบางอย่าง เราทุกคนก็ไม่ต่างอะไรกับ คนเถื่อน ทั้งนั้น โดยด้านของนักแสดงแถวหน้าที่ผู้กำกับเหมาโหลถูกกว่าสองมานั้น ก็ถือว่าสามารถสร้างสีสันได้แพ้สไตล์จัดจ้านของหนังเลยสักนิดไม่ว่าจะเป็น เทเลอร์ คิชต์ , แอร์รอน จอห์นสัน , เบลค ไลฟ์ลี่ , จอห์น ทราโวลต้า และ เบนนิซิโอ เดล โทโร่ ที่ล้วนแต่เป็นส่วนเติมเต็มให้ Savages ที่ถึงแม้จะไม่ใช่หนังที่เทียบกับยุคเก่าๆของสโตนได้ แต่ก็ดูสนุกพอถูไถได้อีกเรื่อง

โดยสรุปแล้ว Savages จึงเป็นหนังที่ออกมาค่อนข้างน่าประทับใจในระดับนึง เพราะว่าหนังเต็มไปด้วย ความรุนแรง เซ็กห์ กัญชา และ นิสัยเถื่อนๆของมนุษย์ ที่มาด้วยอารมณ์หนัง แก๊งสเตอร์ แม็กซิกัน ที่ถึงแม้มันจะไม่สามารถเทียบกับ Natural Born Killers ได้ แต่ก็ถือว่าไม่ได้เป็นหนังที่ขี้เหร่อะไรมากมายนักครับ

เรื่องนี้ผมให้ 8/10 ครับ
จอมใจไร้รัก ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #5051 เมื่อ: 16/11/13, [15:30:36] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เรื่องอะไรครับ ?
จอมใจไร้รัก ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #5052 เมื่อ: 16/11/13, [15:31:02] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เรื่องอะไรครับ ?
จอมใจไร้รัก ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #5053 เมื่อ: 16/11/13, [15:31:22] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เรื่องอะไรครับ ?
จอมใจไร้รัก ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #5054 เมื่อ: 16/11/13, [15:31:40] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เรื่องอะไรครับ ?
จอมใจไร้รัก ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #5055 เมื่อ: 16/11/13, [15:32:00] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เรื่องอะไรครับ ?
ROMMY ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #5056 เมื่อ: 16/11/13, [15:39:32] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เรื่องอะไรครับ ?

dredd 
ROMMY ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #5057 เมื่อ: 16/11/13, [15:41:14] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เรื่องอะไรครับ ?
ปาดังเบซาร์   [on_024]
ROMMY ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #5058 เมื่อ: 16/11/13, [15:42:36] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เรื่องอะไรครับ ?
Resident Evil Retribution
ROMMY ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #5059 เมื่อ: 16/11/13, [15:47:39] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

น้องแยมจาก Yes or No 2  รักไม่รัก อย่ากั๊กเลย อีกเรื่องไม่เคยผ่านตาครับ

ถูกต้องครับบ   [เจ๋ง] 
Yes or No 2 





ส่วนอีกเรื่องขอเฉลยเลยนะครับ



" วุ่นรักพักนิ้ว fingering "

เอสวา ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #5060 เมื่อ: 17/11/13, [05:38:47] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เรื่องอะไรครับ ?
The Intouchables ด้วยใจแห่งมิตร พิชิตทุกสิ่ง
เอสวา ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #5061 เมื่อ: 17/11/13, [05:40:24] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เรื่องอะไรครับ ?
Painted SkinThe Resurrection โปเยโปโลเย ศึกรักหน้ากากทอง
เอสวา ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #5062 เมื่อ: 17/11/13, [05:56:28] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

อหิงสาจิ๊กโก๋มีกรรม

เอาไป 1
ถูกต้องครับ  [เจ๋ง] อหิงสา จิ๊กโก๋มีกรรม
เรื่องราวของเวรกรรมที่ตามหลอกหลอนอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เมื่ออหิงสา (บริวัตร อยู่โต) จิ๊กโก๋วัยทีน ต้องเผชิญหน้ากับตัวเวรกรรม (ธีรดนัย สุวรรณหอม) ที่จ้องเล่นงานเขาแบบไม่ให้ผุดไม่ให้เกิด โดยเขาไม่รู้เลยว่าเคยไปก่อกรรมอะไรไว้กับใครที่ไหน รู้แต่เพียงว่ากำลังชดใช้ "กรรม" อย่างแสนสาหัส แม้เขาจะพยายามหาวิธีสลัด "บ่วงกรรม" ให้พ้นตัว แต่มันยิ่งกลับทำให้เขา "ก่อกรรม" มากขึ้นเท่านั้น...
เอสวา ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #5063 เมื่อ: 17/11/13, [06:05:51] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ดรีมทีม
ถูกต้องครับ  [เจ๋ง] ดรีมทีม ฮีโร่ฟันน้ำนม

เรื่องย่อ Dream Team  ดรีมทีม ฮีโร่ฟันน้ำนม
โค้ชเบิร์ด (เกียรติ กิจเจริญ) เป็นโค้ชทีมฟุตบอลโก้ๆเท่ห์ก็ดีอยู่แล้ว กลับถูก ครูหนูเล็ก (ศกลรัตน์ วรอุไร) ชักชวน แกมแม่บังคับด้วยให้มาช่วยเป็นโค้ชชักเย่อของเด็กอนุบาลลงแข่ง กีฬาอนุบาลแห่งชาติ ครั้งที่18 หัวแก้ว (กฤษฎา ชนะภัยเจริญสุข) รวมตัวกับเพื่อนๆมาตั้งทีม ดรีมทีม เพื่อแข่งขันชักเย่อ คุณพ่อของหัวแก้ว (อัมรินทร์ นิติพน) ที่เป็นคุณพ่อรุ่นใหม่ งานก็ต้องทำ แต่อยากให้ลูกชายแข็งแรงจึงส่งเสริมและผลักดันให้เล่นกีฬาได้เต็มที่ , เป๊ะ (ธนทัต ขวัญไสวธรรม) ลูกชายของคุณแม่ยุคสมัยใหม่ (เมย์ ภัทรวรินทร์) ทำงานเลี้ยงลูกตามลำพัง แต่ไม่ค่อยมีเวลาให้กับเป๊ะมากนักความหวังของเป๊ะก็คืออยากให้แม่มาดูตัวเองตอนวันแข่งขัน , เซน 1 (สรรภวัต สุระเกรียงศักดิ์) รูปร่างอาจจะตุ้ยนุ้ย แต่น่ารักน่าหยิกไปทั้งตัว มีหม่ามี้(เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์) ที่ทุ่มสุดตัว สุดฤทธิ์ สุดเดช ให้น้องเซน 1 ได้เป็นหัวหน้าทีมให้ได้ เพราะทั้งจ้ำม่ำแถมแรงดีอย่างนี้แต่ก็ดันไม่ได้เป็นหัวหน้าทีมซะงั้น , เซน 2 (ธนกร เมธาวุฒิเกียรติ) มีคุณพ่อเป็นด็อกเตอร์นักวิทยศาสตร์ที่มีความรู้เยอะ (คมสัน นันทจิต) มีไอคิวสูง มีความเป็นเลิศในทุกๆด้านทำให้เซน 2กดดันเพราะ เค้าห้ามแพ้อย่างเด็ดขาด, ภูมิ (ภูริ สรีระศาสตร์ ) แม้รูปร่างออกจะผอมบาง หน้าตาก็ดูจะขี้โรค เป็นลูกของสามี (ธรธร สิริพันธ์วราภรณ์) กับ ภรรยา (ศรีพรรณ บุนนาค)ที่พูดมากจนลิงหลับ ภูมิเป็นเด็กหัวอ่อน ว่านอนสอนง่าย ใครบอกอะไรก็ทำ เป็นอะไรก็เป็น , อะตอม (ธนพล บุญเจริญสุข) หน้าตาหล่อใสแต่หัวหยิก แรงดี แต่ตื่นเต้นเป็นไม่ได้ต้อง ขี้แตกทุกที คุณพ่อ (เอกราช เก่งทุกทาง) ต้องเตรียมกางเกงไว้ให้เปลี่ยนมาเสมอ แต่เสียอยู่อย่างหนึ่งก็คือ กางเกงที่คุณพ่อเตรียมมาให้นั้นสีสันนั้นแสบได้ใจเสียเหลือเกิน รวบรวมเป็นแก็งค์ ดรีมทีมได้แล้วก็จะต้องมีกองหนุนหนังหน้าทีม ริชชี่ (ศุภโชติ รัชวรพงศ์) , เจ็ส (เจษฎาพร บุญสอน) , จุ้ย (พชธกร ธนพัฒนากุล) และสตางค์ (อัจฉริยะ อุปารดี) แต่แล้วเส้นบางๆ ที่คั้นระหว่างฮีโร่ กับ ตัวสำรองกองหนุน ก็เกิดขึ้นเพราะกติกาการแข่งขันกำหนดให้นักกีฬามีทั้งหมด 9 คนหมายถึง 1 ใน 10 ของดรีมทีมต้องมานั่งเก้าอี้สำรอง ซึ่งพ่อแม่ของแต่ละคนของเด็ก ต่างก็ลุ้นกันตัวโก่ง เป็นอย่างนี้แล้วทั้งโค้ช ครู และพ่อแม่ กองเชียร์ที่ฝากความหวังกันอย่างเต็มที่จะทำอย่างไร ต้องติดตามว่าเหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไปเพราะกีฬาก็คือกีฬามีทั้งแพ้และชนะน้ำใจนักกีฬา
เอสวา ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #5064 เมื่อ: 17/11/13, [06:11:24] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

Unleashed คนหมาเดือด
ถูกต้องครับ  [เจ๋ง] Unleashed คนหมาเดือด
บาร์ท (บ็อบ ฮอสกินส์) เลี้ยงดูสั่งสอน แดนนี่ (เจท ลี) เยี่ยงสุนัขในอาณัติ แดนนี่ได้รับการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ และขัดเกลาฝีมือจนได้เป็นอาวุธเด็ดของเจ้านาย เมื่อตกอยู่ภายใต้อำนาจเช่นนี้ แดนนี่รับรู้เพียงว่าต้องเชื่อฟัง และทำตามคำสั่งของบาร์ท และไม่เคยได้รับอิสรภาพและมีชีวิตอยู่อย่างเสรี
แดนนี่ตัดขาดจากโลกภายนอก รู้จักแต่เพียงความรุนแรงในการต่อสู้ จนกระทั่งเขาบังเอิญได้พบกับ แซม (มอร์แกน ฟรีแมน) นักตั้งเสียงเปียโนตาบอด แซมและ วิคตอเรีย (เคอร์รี่ คอนด็อน) บุตรสาว ค้นพบและขัดเกลาความเป็นคนมีมนุษยธรรมในตัวของแดนนี่ ที่แม้แต่เจ้าตัวเองยังไม่เคยสัมผัส
นับแต่นั้น แดนนี่เริ่มตั้งตัวเป็นปฏิปักษ์กับบาร์ท และบรรดาลูกสมุนคนอื่น ๆ ที่เห็นความตายเป็นเรื่องง่ายกว่าการให้อิสรภาพ แดนนี่จึงต้องต่อสู้ เพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นจากวงจรโหดร้าย และค้นหาอดีตของตัวเอง รวมทั้งเพื่อทำตามความมุ่งหวังของตัวเอง แดนนี่ต้องทำลายพันธนาการทั้งหมดให้ราบคาบ ในขณะเดียวกัน เขาก็ต้องปกป้องแซมและครอบครัวด้วย ภารกิจนี้ยิ่งใหญ่และอันตรายถึงขีดสุด..
เอสวา ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #5065 เมื่อ: 17/11/13, [06:16:06] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

The Tin Mine  มหาลัย เหมืองแร่
ถูกต้องครับ  [เจ๋ง] The Tin Mine  มหาลัยเหมืองแร่ เป็นหนังที่ดีมากเรื่องหนึ่งครับ ให้ 8/10
ปี พ.ศ. 2492 โชคชะตาของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ได้นำพาให้เขาต้องเดินทางข้ามฟากจากโลกศิวิไลซ์ในเมืองหลวง ไปสู่อีกโลกหนึ่งอันไกลแสนไกล อาจินต์ ปัญจพรรค์ ในวัย 22 ปี คือเด็กหนุ่มคนนั้น เขาถูกให้ออกจากคณะวิศวะฯ ปี 2 นั่นเองเป็นจุดสิ้นสุดของความเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย แต่ในขณะเดียวกัน คือจุดเริ่มต้นของการเดินทางไปสู่การเรียนรู้ชีวิตจริง ที่ไม่สามารถเรียนรู้จากตำราเล่มไหน ไม่ได้มีวางขายทั่วไปและหาซื้อได้ด้วยเงิน ต้องแลกด้วยเวลาและหัวใจ สู้ ท้อแท้ สนุก เศร้า พบ จากขณะที่ อาจินต์ นั่งอยู่บนรถขนหมูที่วิ่งจากภูเก็ตไปพังงา ยังไม่รู้เลยว่าอนาคตจะเป็นเช่นไร ไม่รู้จักกระทั่งสถานที่ที่เขากำลังจะไป สำหรับเขา จ.พังงา อ.ตะกั่วทุ่ง ต.กระโสม เคยเป็นเพียงสถานที่อันไม่มีความสำคัญใดใดแม้เพียงจะจุดลงบนแผนที่ แต่ในวันนี้ กำลังจะกลายเป็นสถานดัดสันดานที่ถูกพ่อส่งให้ไปอยู่อาจินต์มาถึงเหมืองกระโสม ที่นี่เขาได้พบและสัมภาษณ์งานกับนายฝรั่ง และนายฝรั่งก็รับเขาเข้าทำงานในตำแหน่งที่นายฝรั่งเรียกว่าเป็นสมุดพกให้กับแก นั่นหมายถึงการฝึกงาน การติดตามนายฝรั่ง และทำงานแทนคนงานที่ขาดงาน อาจินต์ภูมิใจกับงานที่ได้รับ และที่นี่ วันนี้ ชีวิตปี 1 ในมหา'ลัย เหมืองแร่ได้เริ่มขึ้นแล้ว
เอสวา ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #5066 เมื่อ: 17/11/13, [06:19:22] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ






เรื่องอะไรครับ ?
เอสวา ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #5067 เมื่อ: 17/11/13, [06:20:06] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



[/u





เรื่องอะไรครับ ?
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17/11/13, [12:55:28] โดย เอสวา »
เอสวา ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #5068 เมื่อ: 17/11/13, [06:20:55] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ







เรื่องอะไรครับ ?ภาคอะไร ?
เอสวา ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #5069 เมื่อ: 17/11/13, [06:21:26] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ








เรื่องอะไรครับ ?
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17/11/13, [06:24:57] โดย เอสวา »
หน้า: 1 ... 167 168 169 170 171 ... 201   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: