ร้านกาแฟ

[จอมใจไร้รัก]

เฉลยของโหดกันนิดนึงครับ

อันนี้คือเรื่อง headhunters ครับ ไม่สปอย์นะครับ ต้องดูเอง 555 //ผมชอบหนังเเนวนี้นะหักมุมเเละมีเนื้อเรื่องสนุกมากครับ ให้9-10/10เลยครับ  (หนังปี2011)

<a href="http://www.youtube.com/v/wkT5yzZrml8" target="_blank">http://www.youtube.com/v/wkT5yzZrml8</a>

 ้hahaha    ้hahaha     ้hahaha     ้hahaha     ้hahaha     ้hahaha     ้hahaha

ส่วนอีกเรื่องเป็นหนังใหม่ครับปี 2013

หนังก็โอเคดีครับ สะท้อนอะไรหลายๆอย่างในสังคมปัจจุบัน
เรื่อง assault on wall street

<a href="http://www.youtube.com/v/8Y-NqShTj5w" target="_blank">http://www.youtube.com/v/8Y-NqShTj5w</a>

เด่วดูคืนนี้เลยครับ

[ROMMY]

เด่วดูคืนนี้เลยครับ

55 เรื่อง assault on wall street ก็ดีเเต่ HEADHUNTER ดีมากๆครับ ยังไงคุณทอมดูเเล้วมาบอกด้วยนะครับว่าเป็นยังไงบ้าง ^^ ปล.ทั้งสองเรื่องมีเเบบ HD เเล้วครับ หาในกูเกิ้ลได้เลยยครับ

[จอมใจไร้รัก]

เรื่องอะไรครับ ?

[จอมใจไร้รัก]

เรื่องอะไรครับ ?

[จอมใจไร้รัก]

เรื่องอะไรครับ ?

[จอมใจไร้รัก]

เรื่องอะไรครับ ?

[จอมใจไร้รัก]

เรื่องอะไรครับ ?

[เอสวา]

เรื่องอะไรครับ ?

YOU'RE NEXT   คืนหอน คนโหด หนังเพิ่งจะออกจากโรงฯไม่นานนี้เอง ไม่ได้ดูครับ ไม่ชอบหนังแนวนี้เท่าไหร่ เห็นโพสเตอร์ที่โรงฯ

[T.Dark]

เรื่องอะไรครับ ?

The Host

[เอสวา]

เรื่องอะไรครับ ?

The Man Who Laughs ปาฏิหารย์รักจากโจ๊กเกอร์ เรื่องนี้สร้างย้อนยุคไปนานพอสมควร หนังแค่พอใช้ ตอนจบๆแบบห้วนๆงงไปหน่อย ให้แค่ 6.5/10 (เสียดายเงินเล็กน้อย)

[เอสวา]

เรื่องอะไรครับ ?

[เอสวา]

เรื่องอะไรครับ ?

[จอมใจไร้รัก]

เรื่องอะไรครับ ?

ถูกต้องครับ

You're Next คืนหอนคนโหด

หนังแนวไล่ฆ่ายุคหลังๆถึงแม้จะน้อยลงกว่าช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา แต่กระนั้นก็ยังมีมาให้ชมกันเรื่อยๆ และแต่ละเรื่องก็มักจะมีแต่ลูกเล่นเดิมๆ ที่ดูแล้วก็น่าเบื่อ ไม่ระทึกใจเหมือนแต่ก่อน ซึ่ง You’re Next ในแว้บแรกที่เห็นก็เกือบจะเข้าข่ายนั้น ทั้งที่เอาเข้าจริงๆดูเหมือนหนังจะทำการบ้านมาดี และมอบอะไรให้คนดูได้มากกว่าที่คาดเลยทีเดียว

You’re Next คือความหวาดผวาขั้นสุดว่าด้วยความสยองขวัญที่มาเยือนถึงหน้าประตูบ้าน เรื่องราวของครอบครัวเดวิสันที่ร่ำรวยพอๆ กับโดดเดี่ยว ออเบรย์และพอล เดวิสันจึงจัดงานเลี้ยงฉลองครบรอบวันแต่งงานโดยเชิญสมาชิกครอบครัวมารวมตัว กันที่คฤหาสน์หลังเก่าอันห่างไกลผู้คน ดูเหมือนการกลับมาคืนดีกันของพี่น้องจะเป็นไป อย่างไม่ค่อยสวย แต่แล้วสิ่งที่ครอบครัวเดวิสันไม่เคยคิดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อกลุ่มคนร้ายสวมหน้ากากสัตว์บุกเข้ามาไล่ฆ่าพวกเขาถึงในบ้าน พวกเขาไม่รู้ว่าคนร้ายเหล่านี้เป็นใคร ทำร้ายพวกเขาทำไม และพวกมันอยู่ข้างในบ้านหรือข้างนอกบ้าน สิ่งเดียวที่พวกเขารู้คือไม่มีใครสักคนที่ปลอดภัย

หนังกำกับการแสดงโดย อดัม วิงการ์ด ผู้กำกับสายหนังโหด ที่โด่งดังจากหนังแนวโฮมวีดีโอสยองขวัญอย่าง V/H/S ทั้ง 2 ภาค โดยอยู่ในแก๊งค์เดียวกับผกก.สายนี้อย่าง ไท เวสต์ และอีกมากมาย ซึ่งหนัง You’re Next เรื่องนี้ของเขาได้ฉายโชว์ตามเทศกาลต่างๆมาตั้งแต่ปี 2011 แต่เพิ่งจะมีค่ายหนังใหญ่ซื้อมาฉายในปีนี้ เนื่องจากคำวิจารณ์ที่โดดเด่นมากกว่าหนังแนวนี้ทั่วไป จนทำให้ผู้คนสนใจว่ามันดีอย่างไรกันแน่

โดยหลังจากที่ผมได้รับชมมาแล้ว ก็ต้องขอยกนิ้วให้กับ You’re Next ที่ถึงแม้โดยรวมหนังมันอาจจะไม่ได้สดใหม่มากซะทีเดียว แต่ในขณะเดียวกัน มันก็สามารถล้อขนบของหนังแนวไล่เชือดได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว โดยการที่ใส่ลูกเล่นการพลิกแพลงเกมส์ไล่เชือดครั้งนี้ ที่สามารถต่อยอดจากของเดิมที่มีแต่ความซ้ำซาก กลับออกมาให้มันเต็มไปด้วยความสนุก สะใจ และรู้สึกได้ว่ามันทำให้คนดูมีส่วนร่วมได้เหมือนตอนที่ช่วงหนังแนวนี้กำลังรุ่งเรือง ซึ่งฉากโหด เลือดสาด ทั้งหลายของหนังก็สามารถใส่เข้ามากับสถานการณ์ได้อย่างไม่ยัดเยียด โดยเหมาะสำหรับคอหนังโหดแนวนี้เป็นอย่างดี ในขณะเดียวกันด้านนักแสดงหน้าใหม่ หน้าเก่า ที่ไม่ถึงกับโด่งดังทั้ง ชาร์นี่ วินสัน, นิโคลัส ทุชชี่, เวนดี้ เกลนน์ และอีกมากมาย ก็สามารถเล่นแต่งเติมให้กับตัวละครของตนเองได้อย่างมีสีสัน

ซึ่งการจัดแจงเรื่องราวปัญหาของสมาชิกในครอบครัวก่อนเข้าสู่ช่วงของการล่านั้นจัดได้ว่าเป็นองค์ประกอบที่ทำให้เรารู้จักกับนิสัยของตัวละครได้อย่างลื่นไหลไปเช่นเดียวกับการดำเนินเรื่อง โดยไม่ต้องมีช่วงเสียเวลามานั่งแนะนำแต่ละคนเหมือนกับหนังแนวนี้เรื่องอื่นๆ พร้อมกับเดินเรื่องให้คนดูเข้าสู่ความสะใจเมื่อถึงช่วงแตกหักของเนื้อเรื่องได้อย่างยอดเยี่ยม

เพราะฉะนั้นโดยรวมแล้วผมคิดว่า You’re Next อาจจะเป็นหนังแนวไล่เชือดที่ไม่สดใหม่ซะทีเดียว แต่มันก็สามารถต่อยอดจากเนื้อเรื่องของเดิม ดัดแปลงให้กลายเป็นอะไรที่ไม่ซ้ำซาก ได้อย่างสนุก สะใจ แบบที่เราไม่เคยได้รู้สึกกันมานานแล้ว

ไปดูกัครับเรื่องนี้แนะนำ 8.5/10

[จอมใจไร้รัก]

เรื่องอะไรครับ ?

ถูกต้องครับ

the host ต้องยึดร่าง

กลับมาอีกครั้งกับภาพยนตร์ที่เกิดจากผลงานการประพันธ์ของสเตฟานี่ เมเยอร์ ที่เคยสร้างปรากฎการณ์ Twilight มาแล้ว และครั้งนี้เธอก็ยังคงมีส่วนร่วมในขั้นตอนการผลิตเช่นเดิม จะว่าไปแล้วเรื่องราวและการประชาสัมพันธ์ทำให้ The Host มีความน่าสนใจกับเรื่องราวความรักสามเส้าที่มีส่วนผสมของไซไฟเข้ามาเกี่ยวข้อง

ซึ่งตัวหนังก็ยังคงความมนต์เสน่ห์ (ความเลี่ยน) ที่เคยมีใน Twilight ได้กับสถานการณ์ความรักรูปแบบแปลกๆ ระหว่างสิ่งมีชีวิตต่างสายพันธุ์ แต่สิ่งที่รู้สึกได้อย่างหนึ่งที่ทำให้ The Host ไม่น่าจะสร้างปรากฎการณ์ได้อย่าง Twilight ก็คือ ทีมนักแสดงนำที่เหล่านักแสดงนำทั้ง เซียร์ช่า โรแนน, เจค อาเบล และ แม็กซ์ ไอร์อ่อน มีเสน่ห์สู้ทีม Twilight ไม่ได้เลย

The Host เล่าเรื่องราวบนโลกที่ถูกมนุษย์ต่างดาวเข้า ยึดครองไว้เกือบหมด โดยการเข้ายึดร่างของมนุษย์และใช้ชีวิตในร่างมนุษย์นั้น เมลานี่ สไตรย์เดอร์ (เซียร์ช่า โรแนน) คือหญิงสาวอีกคนที่ถูกเอเลี่ยนนามวันเดอเรอร์เข้ายึดร่าง แต่ว่าดวงจิตของเมลานี่ยังคงอยู่และต่อต้าน จนวันเดอเรอร์เริ่มสัมผัสได้ถึงความรู้สึกและความรักของมนุษย์!

เนื้อหาหลักของ The Host นั้น เรียกได้ว่าล้ำเกินคำบรรยาย! กับผู้หญิงที่มี 2 ดวงจิตที่แต่ละดวงจิตมีความรู้สึกรักกับชายหนุ่มที่แตกต่างซึ่งนำแสดงโดย เจค อาเบล และ แม็กซ์ ไอร์อ่อน ซึงหนึ่งในนั้นคือความรักเพี้ยนๆ ระหว่างมนุษย์กับเอเลี่ยน เรื่องความรักต่างสายพันธุ์มันอาจเป็นจุดแข็งของเรื่องนี้กับการพรรณาด้วย สำนวนชวนหลงใหล ที่ถูกใจคอนวนิยายแต่เมื่อมันมาปรากฎบนจอภาพยนตร์ที่ทำให้เราได้เห็นกันชัดๆ ว่ารูปลักษณ์ที่แท้จริงของเอเลี่ยน (ซึ่งสภาพทางกายภาพไม่ได้แตกต่างไปจากสัตว์เซลล์เดียวเลย!) กลับรู้สึกว่าเป็นการลดทอนความโรแมนติคที่พึงมีลง (ใน Twilight ยังพอทนเพราะอย่างน้อยก็มีรูปลักษณ์ทางกายภาพเหมือนคนกว่าเอเลี่ยนใน The Host เยอะ)

หนังถูกนำเสนอในอัตราเร่งที่ค่อนข้างเร็วพอสมควรซึ่งก็พอจะเข้าใจว่ามี เรื่องราวที่ต้องการเล่าเยอะ แต่นั่นก็อาจส่งผลให้บางอย่างในหนังดูง่ายดายเกินไป เช่น การเข้าร่วมกลุ่มมนุษย์ของเมลานี่ที่มีวิญญาณของวันเดอเรอร์เข้าครอบงำ ซึ่งหนังบอกเล่าในจุดนี้มักง่ายเกินไป จนดูไร้เหตุผล ซึ่งฉากนี้มีผลกับความน่าเชื่อถือของหนังในภาพรวม!

ผู้กำกับแอนดรูว์ นิคโคล ดูจะถนัดกับการทำหนังไซไฟที่มีเรื่องราวบางๆ ให้จับต้อง แต่มาขยายจินตนาการเพิ่มเติม เช่นเดียวกับที่เคยทำใน In Time (2011) ซึ่งเรื่องนี้ก็เช่นกัน หนังไม่ได้มีรายละเอียดลงลึกในเชิงเหตุและผลในแบบหนังไซไฟทั่วไป จนอาจจะกล่าวได้ว่า The Host คือหนังโรแมนติคแฟนตาซีเสียมากกว่า! แม้หลักๆ ของเรื่องจะเกี่ยวข้องกับความรัก แต่ก็ยังพยายามสร้างฉากแอ็คชั่นเล็กๆ ให้ดูใหญ่ซึ่งก็ทำได้น่าพอใจ!

เซียร์ช่า โรแนน แสดงออกทางสีหน้าได้ดีทีเดียวกับการบทที่ในหัวเต็มไปด้วยความสับสนเพราะ วิญญาณ 2 ตัว ซึ่งจังหวะที่ใส่เสียงของวิญญาณอีกหนึ่งที่ลงตัว ทำให้ตัวละคร เมลานี่ เป็นความน่าสนใจที่สุดในเรื่องนี้้ แต่กับ 2 หนุ่มพระเอก ก็ทำหน้าที่ในระดับแค่พอใช้ด้วยกันทั้งคู่ และซีคเกอร์ที่คอยตามล่าเหล่าตัวเอกที่รับบทโดย ไดแอน ครูเกอร์ ก็นับเป็นอีกตัวละครที่มีความซับซ้อนและทำให้หนังดูมีอะไรที่น่าติดตามมากกว่าเรื่องรักสามเส้า!

แม้องค์ประกอบของหนังจะไม่ได้ใหญ่มาก ทีมนักแสดงก็ไม่ได้ดึงดูดใจ รวมถึงการดัดแปลงบทภาพยนตร์ที่มีปัญหาอยู่บ้าง แต่ทั้งหมดก็ถูกปรุงออกมาจนดูดีพอสมควร เป็นงานที่ดูได้พอเพลินๆ ที่น่าจะเป็นผู้ชมเฉพาะกลุ่มเท่านั้นที่จะโดน

4/10

[จอมใจไร้รัก]

เรื่องอะไรครับ ?

ถูกต้องครับ

The Man Who Laughs ปาฏิหาริย์รักจากโจ๊กเกอร์

สุดสัปดาห์นี้ มีหนังฝรั่งเศสสุดยิ่งใหญ่ ที่สร้างจากนิยายของนักเขียน วิคเตอร์ อูโก้ ที่นิยายของเขาเคยทำให้คุณประทับใจมาแล้วในหลายหนกับ Les Miserables รวมไปถึง The Hunchback of Notre Dame กับ The Man Who Laughts หรือในชื่อไทย ปาฎิหาริย์รักจากโจ๊กเกอร์

เรื่องราวแห่งตำนานโจ๊กเกอร์เมื่อเด็กหนุ่มผู้ที่เคยมียศฐาบันดาศักดิ์กลับ ต้องเป็นผู้เคราะห์ร้ายเมื่อมีคนมากรีดใบหน้าของเขา จากนั้นเขาก็ถูกขับไล่ออกไปสู่โลกแห่งความจริงที่หนาวเหน็บและไร้คนต้อนรับ แต่แล้วชายผู้มีจิตใจเมตตาก็เลี้ยงดูเขาจนเติบใหญ่ “กวินเปลน” เติบโตขึ้นมาท่ามกลางคณะแสดงละครและเมื่อถึงวันที่เขาจะต้องเผชิญหน้ากับ ความจริง เขาจะเลือกเส้นทางไหน แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับเขากัน

หนังกำกับการแสดงโดยผู้กำกับชาวฝรั่งเศสอย่าง ชอง ปิแอร์ อเมรีย์ ซึ่งโดยส่วนตัวผมไม่เคยอ่านฉบับนิยายของเรื่องนี้มาก่อน แต่สิ่งที่ The Man Who Laughts นำเสนอให้กับคนดูก็ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยต่างไปจาก Les Miserables ของผู้เขียนเดียวกันสักเท่าไหร่ เพียงแต่ตัวหนังนำเสนอในเรื่องของ ความรัก ไปอีกในมุมนึงเท่านั้นเอง กับการที่หนังยังคงวนเวียนอยู่กับเรื่องราวของ ชนชั้น ฐานะ และ กฏหมาย ซึ่ง The Man Who Laughts นำเสนอตัวละครในภาพของเด็กหนุ่มผู้มีฐานะ ก่อนจะโดนสังคมบีบคั้นเพียงเพราะรอยแผลเป็นอันน่าเกลียด แสดงให้เห็นถึงการแบ่งชนชั้นจากรูปลักษณ์ จนกระทั่งเขาได้มีชื่อเสียง และ เป็นที่ชื่นชอบจากการแสดงละครเวที ซึ่งทำให้เขาต้องเลือกว่า จะยอมจมอยู่กับชีวิตที่ตกต่ำกับหญิงที่รัก หรือจะไปอยู่ในฐานะที่สูงศักดิ์แต่ไร้คนนับถือ

ซึ่งภายหลังหนังก็นำวัตถุดิบที่ปูผ่านตัวละครของ กวินเปลน มาวกเข้าเรื่องของ กฏหมาย และ ชนชั้น ฐานะ ว่าคนส่วนมากนั้นมักจะมองจากรูปลักษณ์ภายนอก และ ฐานะเงินทอง มากกว่าจะมองจากภายใน ไม่เหมือนกับแฟนสาวตาบอดที่เปรียบเสมือนน้องสาวของเขาอย่าง เดอา ที่รักเขาด้วยจิตใจ จนบางทีคนที่มีดวงตา อาจจะไม่ได้มองเห็นสิ่งใดเลยก็เป็นได้ โดยเรื่องราวความรักของคู่พระ นาง ก็สามารถปูเรื่องมาตั้งแต่เล็กจนโต เข้าคู่กับตัวเรื่องที่ดำเนินไปได้อย่างไม่น่าเบื่อ ถึงแม้อาจจะมีหลายๆช่วงที่การตัดต่อดูสะดุด และ ไร้ชั้นเชิง ไปบ้างก็ตาม

โดย 2 พระนางอย่าง มาร์ค อองเดรย์ กรองแดง และ คริสต้า ธีเร็ต ก็สามารถแสดงได้อย่างเข้าขา รวมไปถึงเคมีแบบแปลกๆ และความทะเยอะทะยานของ อองเดรย์ กรองแดง ในการถ่ายทอดบท กวินเปลน ซึ่งรวมไปถึงตัวประกอบที่โผล่มาขโมยซีน ก็ถือเป็นอีกสีสันนึง ที่ทำให้ตัวหนังไม่น่าอึดอัดกับ โศกนาฏกรรมชนชั้น มากจนเกินไป

เพราะฉะนั้นโดยรวมแล้วคิดว่า The Man Who Laughts อาจจะเป็นหนังแนว ดราม่า โรแมนติค ที่อาจจะขรุขระกับการเล่าเรื่องไปบ้าง แต่โดยรวมสิ่งที่หนังให้กลับมากับเรื่องราวกับประชดประชั้นเรื่องของ ความรัก และ ชนชั้น ก็ถือว่าเป็นเสน่ห์อย่างนึงของตัวหนังและนิยายของผู้เขียนคนนี้นั้นเอง

 7/10

[จอมใจไร้รัก]

เรื่องอะไรครับ ?

white house down วินาทียึดโลก 8.5/10

[จอมใจไร้รัก]

เรื่องอะไรครับ ?

รักนะ 24 ชั่วโมง 7/10

[เอสวา]

เรื่องอะไรครับ ? นางเอกเรื่องนี้แสดงเรื่องจิตพิฆาตโลก (Inception)ด้วย

[จอมใจไร้รัก]

เรื่องอะไรครับ ? นางเอกเรื่องนี้แสดงเรื่องจิตพิฆาตโลก (Inception)ด้วย

Juno : โจ๋ป่อง ใจเกินร้อย 8.5/10

[เอสวา]

A Perfect Getaway  ครับ  [on_026]

ถูกต้องครับ  [เจ๋ง] A Perfect Getaway เกาะสวรรค์ขวัญผวา
6 คนแปลกหน้า 2 ฆาตกร เมื่อ คู่แต่งงานใหม่ คลิฟฟ์กับซินดี้ (สตีฟ ซาห์น และ มิลล่า โจโววิช) เดินทางมาถึงฮาวาย เพื่อฉลองฮันนีมูนแบบผจญภัย ทั้งคู่คิดว่าพวกเขากำลังอยู่ในแดนสวรรค์ แต่หลังจากได้ยินข่าวการฆาตกรรมโหดสองรายซ้อน และได้พบกับสองนักท่องเที่ยวที่ดูก้าวร้าว อย่างเคลกับคลีโอ (คริส เฮมส์เวิร์ธ และ มาร์ลี เชลตัน) และคู่นักปีนเขาที่ไม่น่าไว้ใจ นิคกับจีน่า (ทิมโมธี โอลีแฟนท์ และ ไคลี่ ซานเชส) วันพักผ่อนในฝันของพวกเขาก็พลิกผันเป็นวันที่ต้องต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด  อีกเรื่องที่ดูแล้วการเที่ยวแบบ “แบ๊คแพ๊ค” ที่เคยชื่นชอบมันดูหลอนๆไปเลยทีเดียว...

[เอสวา]

The Time Machine ครับ

ถูกต้องครับ  [เจ๋ง] he Time Machine กระสวยแซงเวลา
นักวิทยาศาสตร์จอมประดิษฐ์ อเล็กซานเดอร์ ฮาร์ทเดอเจน มีความตั้งใจอันแรงกล้าที่จะพิสูจน์ความเป็นไปได้ในการเดินทางข้ามเวลา และกลับกลายเป็นความมุ่งมั่นจากการสูญเสียคนรัก ที่ผลักดันให้เขาต้องการกลับไปแก้ไขอดีต ขณะทดสอบทฤษฎีการเดินทางกับเครื่องข้ามเวลาที่เขาประดิษฐ์ขึ้นมา ฮาร์ทเดอเจนได้ข้ามกาลเวลาล่วงหน้าไปอีกแปดแสนปี เพื่อที่จะพบว่ามนุษยชาติได้แบ่งออกเป็นชนเผ่าผู้ล่าและผู้ถูกล่า
ภาพยนตร์จาก เค้าโครงเรื่อง The Time Machine นวนิยายวิทยาศาสตร์คลาสสิคของ เอช จี เวลส์ โดยผู้รับบท อเล็กซานเดอร์ ฮาร์ทเดอเจน คือ กาย เพียซ และ ซาแมนธา มัมบา นักร้อง/นักประพันธ์เพลงชาวดับลิน ซึ่งแสดงภาพยนตร์เป็นเรื่องแรก รับบท มาร่า มิตรในโลกอนาคตของฮาร์ทเดอเจน
The Time Machine เป็นผลงานร่วมระหว่าง ดรีมเวิร์ค พิคเจอร์ส และ วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิคเจอร์ส ซึ่งเป็นผลงานกำกับภาพยนตร์ชิ้นแรกของ ไซมอน เวลส์ ผู้เคยผ่านการร่วมงานสร้างภาพยนตร์แอนนิเมชั่นยอดนิยม The Prince of Egypt บทภาพยนต์โดย จอห์น โลแกน จากบทภาพยนตร์ดั้งเดิมของ เดวิด ดันแคน อำนวยการสร้างโดย วอลเตอร์ เอฟ พาร์กส และ เดวิด วอลด์ส ผู้บริหารและดำเนินงานสร้าง ได้แก่ ลอรี่ แม็คโดนัลด์, อาร์โนลด์ เลโบวิท และ ยอร์ก ซาราเลอกุย ร่วมกับ จอห์น โลแกน

[เอสวา]

Batman The Dark Knight แบทแมน อัศวินรัตติกาล

ถูกต้องครับ  [เจ๋ง] BATMAN The Dark Knight อัศวินรัตติกาล
มาในภาคที่สองอย่างBatman The Dark Knight ที่ตัว
เนื้อเรื่องและบทบาทได้ใจผมมากๆโดยเฉพาะนักแสดงผู้ล่วงลับอย่างฮีธ เลทเจอร์ รับบทที่สุดหินและบ้าคลั่งอย่างเจ้าโจ๊กเกอร์ผู้ซึ่งเป็นคู่ปรับที่สำคัญของbatmanในภาพยนตร์ภาคนี้เรื่องราวเข้าใกล้ความหมายของตัวละครที่เข้าไปรวมกับคำว่าชีวิตจริงของมนุษย์ มีอยู่ประโยคหนึ่งซึ่งตัวของฮาร์วี่ เดนส์พูดเอาไว้ว่า"จะตายอย่างฮีโร่หรือจะอยู่จนกว่าจะเห็นตัวเองเป็นผู้ร้าย"ซึ่งตัวแบทแมนนั้นก็เลือกที่จะเป็นทั้งสองอย่างเพราะเขาคือฮีโร่แห่งก๊อตแฮมแต่ถ้าเขาไม่สวมบทให้ดูเป็นผู้ร้ายมันก็จะเป็นเหมือนฮาร์วี่ เดนส์ผู้เปรียบเสมือนอัศวินขี่ม้าขาวแต่ในทางเดียวกันการที่เขาเป็นผ้าขาวจนเกินไปเมื่อโดนการกล่อมการเป่าหูคนประเภทนี้ก็จะเปลี่ยนหน้ามือเป็นหนังมือได้เช่นกัน ในภาคที่2 The Dark Knight สามารถเก็บรายได้รวมทั้งโลกอยู่ที่ $1,001,082,160 ซึ่งรายได้ในประเทศอยู่ที่ $533,000,000 โดยประมาณ และเป็นรายได้นอกสหรัฐฯ จำนวน $567,000,000 ซึ่งประสบความสำเร็จมาก

[เอสวา]

เรื่องอะไรครับ ?

[เอสวา]

เรื่องอะไรครับ ?

[เอสวา]

เรื่องอะไรครับ ?

[จอมใจไร้รัก]

headhunters ดูแล้วครับคุณรอมหนังดีมากๆครับหักมุมแล้วหักมุมอีก 9/10

[ROMMY]

เรื่องอะไรครับ ?

THE LONE RANGER  ครับ  [เจ๋ง]

[ROMMY]

เรื่องอะไรครับ ?

KILLERS  ครับ

ส่วนอีกเรื่องเคยดูครับเเต่จำชื่อไม่ได้ 5555

[ROMMY]

headhunters ดูแล้วครับคุณรอมหนังดีมากๆครับหักมุมแล้วหักมุมอีก 9/10

To.คุณทอม   ้hahaha  ดีใจที่ชอบหนังเรื่องนี้ครับคุณทอม ผมว่าสนุกดีนะ...ชอบตอนที่กล้องรปภ.ในบ้าน(หักมุมสุดๆ) //To.คุณเอก ลองดูเรืองนี้ดูนะครับ ^^

[เอสวา]

To.คุณทอม   ้hahaha  ดีใจที่ชอบหนังเรื่องนี้ครับคุณทอม ผมว่าสนุกดีนะ...ชอบตอนที่กล้องรปภ.ในบ้าน(หักมุมสุดๆ) //To.คุณเอก ลองดูเรืองนี้ดูนะครับ ^^

ได้เลยครับว่าจะดูอยู่เหมือนกัน ต้องขอเวลาสักพักเนื่องจากโหลดหนังมาจนเต็มพื้นที่ต้องค่อยๆเคลียร์ออกก่อนครับ