Aqua.c1ub.net
*
  Sat 02/Aug/2025
หน้า: 1 ... 141 142 143 144 145 ... 201   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: มาเล่นเกมทายภาพจากภาพยนตร์เรื่องดังกัน  (อ่าน 757852 ครั้ง)
เอสวา ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4260 เมื่อ: 13/10/13, [17:42:25] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ







เรื่องอะไรครับ ?
เอสวา ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4261 เมื่อ: 13/10/13, [17:52:07] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ






เรื่องอะไรครับ ?
T.Dark ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #4262 เมื่อ: 13/10/13, [18:28:33] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ







เรื่องอะไรครับ ?
21 And Over






เรื่องอะไรครับ ?
About Time





เรื่องอะไรครับ ?
Black Hawk Down
เอสวา ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4263 เมื่อ: 13/10/13, [19:04:49] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

   
Cop Out ครับ  [เจ๋ง]
ถูกต้องครับ  [เจ๋ง] Cop Out  คู่อึดไม่มีเอ้าท์
Cop Out เป็นหนังตลกฮาๆเรื่องใหม่และมาดใหม่ของพระเอกรุ่นใหญ่ บรู๊ซ วิลลิส ร่วมด้วยดาราดังอีกมากมาย อาทิ Michelle Trachtenberg สาวสวยจากเรื่อง 17 Again พ่วงด้วยหนุ่มอารมณ์ฮา Seann William Scott ที่เป็นขาประจำในหนังแนวตลกขบขัน อย่างเรื่อง Road trip , American Pie , Final Destination รวมไปถึง Tracy Morgan ดาราหน้ากวน ที่จะต้องมาเป็นตำรวจคู่หูของ บรู๊ซ วิลลิส เพื่อจัดการกับเหล่าร้าย ที่ทั้งบู๊และฮาไปด้วยกัน
การแท็คทีมที่น่าสนใจของยอดคนอึด บรู๊ซ วิลลิส และยอดดาวตลกหนุ่มน่าทะเล้น ฌอน วิลเลี่ยม สก็อต ในการตามหาการ์ดเบสบอลล้ำค่าที่ถูกขโมยไป แล้วยังต้องเข้าไปพัวพันกับการช่วยเหลือผู้หญิงคนหนึ่ง รวมทั้งต้องจัดการกับแก๊งค์มาเฟีย ที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินอีกด้วย
เอสวา ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4264 เมื่อ: 13/10/13, [19:25:53] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

Apollo 13 ครับ เรื่องนี้ผมว่าสนุกดีครับ ให้8/10
ถูกต้องครับ  [เจ๋ง] Apollo 13 อพอลโล่ 13 ผ่าวิกฤตอวกาศ
เหตุการณ์ นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาไม่ นานนัก หลังจากมนุษย์ได้สัมผัสพื้นผิวดวงจันทร์เป็นครั้งแรก ตามความสนใจของสาธารณชน “อพอลโล 13″ เป็นเพียงยานสำรวจอวกาศอีกหนึ่งยาน…
จนกระทั่งเสียงของขอความช่วยเหลือว่า “ฮุสตัน เราประสบปัญหา” ดังผ่านมาจากห้วงอวกาศ นี่คือเภาพยนตร์ผจญภัยระทึกใจ ที่เสนอบันทึกประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ ผลงานกำกับของ รอน โฮเวิร์ด.(Backdraft, Cocoon, Splash).พร้อมทีมนักแสดงคุณภาพ อาทิ ทอม แฮงค์ เจ้าของรางวัลออสการ์ดารานำชายยอดเยี่ยมสองปีซ้อน Philadelphia.(1993).และ.Forrest Gump.(1994).เควิน เบคอน, บิลล์ แพ็กซ์ตัน, แกรี่ ซีนีส, เอ็ด แฮร์ริส และ.แคทลีน ควินแลน
นักบินอวกาศสามนายได้แก่ จิม ลิฟเวลล์.(แฮงค์)., เฟรด เอส.(แพ็กซ์ตัน).และ.แจ็ค สวิเกิร์ท.(เบคอน).อยู่ ห่างจากโลก 205,000 ไมล์ ในยานอพอลโล 13 ที่เกิดเหตุขัดข้อง พวกเขาต้องต่อสู้กับวิกฤติที่เผชิญอย่างสุดใจ เพื่อเอาชีวิตรอด ขณะเดียวกันที่ศูนย์บังคับการภาคพื้นดิน นักบินอวกาศนาม เค็น แมททิงลี่.(ซีนีส)., ยีน ครานซ์.(แฮร์ริส).ผู้บัญชาการศูนย์ และ.บรรดาลูกทีมผู้อุทิศตน ก็ร่วมทำงานแข่งกับเวลา และ.อุปสรรคทั้งหลาย เพื่อนำเขาทั้งสามกลับบ้าน
เอสวา ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4265 เมื่อ: 13/10/13, [19:27:40] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ







เรื่องอะไรครับ ?
เอสวา ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4266 เมื่อ: 13/10/13, [19:28:39] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ









เรื่องอะไรครับ ?
Wars ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #4267 เมื่อ: 13/10/13, [19:44:59] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ









เรื่องอะไรครับ ?

Step up 3 ครับ ชอบมากกก [กรี๊ดดดด]
Wars ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #4268 เมื่อ: 13/10/13, [19:49:33] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ







เรื่องอะไรครับ ?

พยัคฆ์ร้าย กิโยติน ครับบ
จอมใจไร้รัก ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4269 เมื่อ: 13/10/13, [19:50:45] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เรื่องอะไรครับ ?

ถูกต้องครับ

Scary Movie 5 ยำหนังจี้ เรียลลิตี้หลุดโลก

เป็นโปรเจคภาคต่อที่ถือว่ารอนานอยู่เหมือนกัน กับหนังภาคต่อของ Scary Movie หนังล้อเลียนที่ภาคแรกถึงกับขึ้นหิ้งด้านความฮา เทียบเท่ากับหนังล้อเลียนเรื่องเก่าๆกันไปแล้ว แถมยังทำเงินอยู่ในระดับที่ดี จนต้องมีออกมาอีก 5 ภาค และสัญลักษณ์เด่นๆของหนังชุดนี้คงหนีไม่พ้นมุกตลกปัญญาอ่อน แนวเดินชนเสา หรือ ภาษาการพูดไร้สาระ รวมไปถึงนักแสดงสาวอย่าง แอนนา ฟาริส ที่รับบทนำในภาค 1-4 ที่น่าเสียดายที่ว่าเธอไม่ขอกลับมาในภาคที่ 5 จึงส่งบทนำให้กับด้านของนักแสดงสาวอย่าง แอชลี่ย์ ทิสเดล และ ไซม่อน เร็กซ์ ในบทคู่สามี ภรรยา แทน

เรื่องราวลึกลับสุดวายป่วงเกิดขึ้นในบ้านหลังหนึ่ง เมื่อคู่สามีภรรยา “แดน” สัตว์แพทย์หนุ่ม และ “โจดี้” สาวนักเบัลเลต์ เพิ่งย้ายเข้ามาอาศัยในบ้านหลังนี้ได้ไม่นาน แต่ทั้งสองกลับเริ่มสังเกตเห็นถึงเรื่องรา­วแปลกประหลาดบางอย่างเกิดขึ้นรอบตัวของพวก­เขา จนกระทั่งลูกหัวแก้วหัวแหวนของพี่ชายเขากลับมาจากโรงพย­าบาล เรื่องราวทั้งหมดกลับทวีความสยองปนยุ่งเหยิงแบบกู่ไม่กลับ พร้อมผสมความฮาแบบทะเล้นๆตามสไตล์หนังชุดนี้

ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วถึงแม้ Scary Movie จะเต็มไปด้วยมุกตลกที่ค่อนข้างไร้สมอง ปน เสื่อม ในบางภาค แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในฐานะของคนดู เราก็ดันทะเล้นพร้อมที่จะขำไปกับมุกตลกเหล่านั้น โดยเฉพาะในภาค 1-2 ที่เป็นสีสันที่ดีที่สุดของหนังชุดนี้เลยก็ว่าได้ โดยมาในภาค 5 นี่ หนังย้อนกลับไปเล่าเรื่องราวการล้อหนังผีสุดฮิตแนวภาค 2 อีกครั้ง ที่เน้นอยากจะผสมความฮา และ สยอง เข้าด้วยกัน โดยโครงเรื่องหลักนั้นก็หยิบมาจาก Paranormal Activity นั่นเอง ซึ่งเอาเข้าจริงๆแล้ว ผมคิดว่าหนังชุด Scary Movie ภาคอื่นๆที่ไม่ใช่ภาคแรก (ที่ยังพอมีความฉลาดในการสร้างความน่าสงสัยให้กับคนดู) นอกจากด้านของ มุกตลก ที่จะ สอบตก หรือ สอบผ่าน แล้ว ตัวหนังก็ไม่ได้มีอะไรให้พูดถึงอีกมากมายนัก เพราะถ้าคุณจะหาสาระ หรือ อะไรอย่างอื่นนอกจากความฮาที่หนังจะยัดเยียดให้คุณ คุณก็จะไม่พบเจออะไรอย่างแน่นอน

และก็เป็นเช่นเดียวกับในภาค 5 เพราะฉะนั้นถ้าจะให้สรุปคร่าวๆเพียงคำเดียว ส่วนตัวแล้วคิดว่า Scary Movie 5 นั่น สอบตก ในทุกด้านที่หนังต้องการนำเสนอ ไม่ว่าจะเป็นมุกตลกฮาๆ หรือความสยองล้อเลียน เพราะมุกตลกแต่ละอย่างนั่นถึงแม้จะออกมาค่อนข้างสร้างสรรค์ในการคิดว่า จะล้อเลียนฉากนี้ ในหนังเรื่องนี้อย่างไร แต่คงเป็นเพราะความมือใหม่ของผู้กำกับ มัลค่อม ดี ลี ที่ยังคงเสียเปรียบในด้านการนำเสนอ หรือพูดง่ายๆคือ ปล่อยมุกได้ไม่ถูกจังหวะ นั่นเอง จึงทำให้มุกตลกเหล่านั้น ต้องกลายเป็นความอึดอัดไปอย่างน่าเสียดาย (ทั้งที่หลายๆมุกส่วนตัวคิดว่าค่อนข้างเข้าท่าทีเดียว)

ถึงแม้ว่าหนังจะมี Rise of the Planet of the Apes , Inception หรือแม้แต่ Mama และ Sinister มาเป็นหนังต้นแบบให้ล้อเลียนแล้วก็ตามที ซึ่งในส่วนนึงก็คิดว่า ถึงแม้ในภาค 5 นี่หนังจะได้นักแสดงสาวคนเดิมอย่าง แอนนา ฟาริส กลับมารับบทนำ มันก็ไม่น่าจะช่วยให้หนังขำขึ้นมากว่านี้ได้มากนัก เพราะในภาค 5 หนังขายมุกตลกจาก คำพูด และ สถานการณ์ มิใช่ นักแสดง (เพราะฉะนั้นถึงแม้ตัวหนังจะมีนักร้องอย่าง สนู๊ป ด๊อกส์ และ อัชเชอร์ มาช่วยก็ตาม หนังมันก็ไม่ได้ฮาขึ้นไปกว่านี้เลย) แต่อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่าถ้าหากใครขำกับมุกตลกของหนังจำพวก Disaster Movie หรือ Epic Movie ก็น่าจะขำกับ Scary Movie 5 ได้ไม่น้อย แต่ถ้าหากใครที่ไม่ขำกับหนังล้อเลียนเรื่องดังกล่าว และเป็นแฟนหนังชุด สแกร์รี่ มาตั้งแต่ภาคแรก ก็น่าจะมีผิดหวังกันไม่มากก็น้อยครับ

 5/10
จอมใจไร้รัก ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4270 เมื่อ: 13/10/13, [19:52:25] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เรื่องอะไรครับ ?

ถูกต้องครับ

THE HAUNTING IN CONNECTICUT 2 GHOSTS OF GEORGIA คฤหาสน์ ช็อค 2

ด้วยการที่ภาคแรกทำเงินไปพอสมควรในภาคแรก จึงไม่แปลกที่สตูดิโออินดี้อย่าง Gold Circle Films เลือกที่จะสร้างภาคต่อ โดยครั้งนี้ใช้ชื่อ Ghost of Georgia เพื่อเป็นการบอกว่าเหตุการณ์ในภาคนี้เกิดขึ้นที่รัฐจอร์เจีย กับเรื่องราวที่อ้างว่าสร้างโดยอิงมาจากเรื่องจริงที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน (เช่นเดิม) ซึ่งดูจะเป็นเทรนด์ของหนังแนวนี้ในระยะหลัง ด้วยเหตุผลทางการตลาดในการสร้างความน่าเชื่อถือและเป็นจุดขายหนึ่งที่ดึง ความสนใจจากผู้ชม ที่อาจจะเบื่อกับบทหนังระทึกขวัญที่สร้างขึ้นมาและไม่ได้พัฒนาไปไหนไกล

แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า การอ้างอิงว่ามาจากเรื่องจริงแล้วจะทำให้ทุกอย่างออกมาดูดีกว่าเดิม เพราะเอาเข้าจริงมันก็แค่การหลุดออกจากรอบความคิดหนึ่งมาอยู่ในอีกกรอบความ คิดหนึ่งและดูจะเป็นกรอบที่ค่อนข้างจำกัดกว่าเสียด้วยซ้ำ เพราะจะใส่อะไรที่มันเกินเรื่องราวที่นำมาอ้างอิงก็คงจะไม่งามสักเท่าไหร่

และจะว่าไปเรื่องราวใน The Hunting in Connecticut 2: Ghost of Georgia ก็เป็นไปตามสูตรของหนังแนวระทึกขวัญที่มีเรื่องของวิญญาณเข้าไปเกี่ยวข้อง เมื่อครอบครัวหนึ่งได้เข้าไปอาศัยในบ้านกลางป่า ที่คนในครอบครัวมีสัมผัสพิเศษในการสื่อสารกับวิญญาณได้ เมื่อพวกเขาทราบว่าบ้านและบริเวณบ้านที่พวกเขาอาศัยอยู่เป็นที่หลบซ่อนตัว ของเหล่าทาสที่หลบหนีการตามล่าในยุคอดีต และนั่นจึงเป็นที่มาของความหลอนปนระทึกขวัญในเรื่อง ที่บทสรุปของเรื่องอาจไม่ใช่อย่างที่คิด!

นอกจากเรื่องจะเป็นไปตามสูตรแล้ววิธีการนำเสนอก็ตามสูตรไม่แตกต่างกัน และนี่คือกรอบที่ผู้สร้างหนังประเภทนี้ยังหาทางปลดแอกออกมาไม่ได้ กับการใช้ภาพ ความมืด ดนตรีประกอบ มาเป็นตัวบิวด์อารมณ์ระทึกขวัญแก่ผู้คน การดำเนินเรื่องแบบล่อหลอกให้จับทางไม่ได้ แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ความพยายามที่ดีเท่านั้น หนังดูจะเร่งรีบในการให้ข้อมูลแก่ผู้ชมและพลักเรื่องให้เดินไปข้างหน้าเร็ว เกินไป จนทำให้รู้สึกว่าเราเป็นเพียงผู้สังเกตการณ์เท่านั้น ไม่เกิดความรู้สึกผูกพันกับตัวละครที่จะคอยเอาใจช่วยให้พวกเขาแก้ปริศนาได้

แต่หนังก็ทำได้ดีในส่วนของที่มาของฉากระทึกขวัญ ที่นำประเด็นเรื่องของสัมผัสพิเศษมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ทำให้หนังมีเหตุผลของที่มาที่ไปเพียงพอในการมาซึ่งฉากระทีกขวัญต่างๆ ทั้งน้าสาวที่รู้ว่าตัวเองมีความพิเศษและนำไปใช้ กับลูกสาวที่เริ่มรู้ว่าตัวเองมีสัมผัสพิเศษและอยู่ในระหว่างการเรียนรู้ และแม่ผู้ปิดกั้นสัมผัสและต่อต้านมัน ที่ทั้ง 3 เป็นตัวแทนของ การยอมรับความจริงและอยู่ร่วมกับมันให้ได้!

ในส่วนของการแสดงนั้น ทีมนักแสดงต่างก็ทำหน้าที่ได้พอใช้ทั้ง แชด ไมเคิล เมอร์เรย์ และ เคธี่ แซ็คฮอฟฟ์ จะมีมิติมากหน่อยก็คือ อบิเกล สเปนเซอร์ ที่ต้องต่อสู้กับการข่มสัมผัสพิเศษที่เธอมองว่าเป็นคำสาป!

แท้ที่จริง The Hunting in Connecticut 2: Ghost of Georgia ก็ไ่ม่มีอะไรมากไปกว่าการที่เหล่าวิญญาณที่วนเวียนพยายาม เรียกร้องคนที่จะมาปลดปล่อยพวกเขาให้ไปสู่สุขคติก็แค่นั้นเอง! แต่หากมองอีกมุมมันก็เป็นหนังอีกเรื่องที่สะท้อนให้เห็นถึงความโหดร้ายของ มนุษย์ในยุคสมัยหนึ่ง ที่กฎหมายยังไม่ครอบคลุมพอที่จะตามไปมอบความยุติธรรมให้ได้ทุกที่ (ซึ่งแม้ในปัจจุบันเราก็ยังไม่พ้นไปจากจุดนี้)

บทสรุปของหนังเรื่องนี้เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงการกระทำและการตัดสินใจ ผิดๆ ของคนเรา ซึ่งเรายังคงเห็นได้อยู่ในทุกวันนี้หรือไม่เราก็เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งนี้ เสียเอง การเลือกที่จะปกปิดความจริงอันน่าหดหู่เอาไว้ โดยเลือกที่จะเชิดชูสิ่งที่น่าสรรเสริญให้กับผู้คนทั่วไปได้รับรู้อย่างใน หนัง มันก็คือการเลือกที่จะไม่ยืนหยัดอยู่กับความเป็นจริงและเลือกที่จะโกหกตัว เองต่อไป ทั้งที่การยอมรับและการแก้ไขต่างหาก คือสิ่งที่ทุกคนต้องการจะเห็นไม่ว่าจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ก็ตาม

6/10
จอมใจไร้รัก ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4271 เมื่อ: 13/10/13, [19:57:11] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เรื่องอะไรครับ ?

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13/10/13, [21:25:17] โดย จอมใจไร้รัก »
จอมใจไร้รัก ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4272 เมื่อ: 13/10/13, [19:57:44] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เรื่องอะไรครับ ?
จอมใจไร้รัก ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4273 เมื่อ: 13/10/13, [19:58:26] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เรื่องอะไรครับ ?
จอมใจไร้รัก ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4274 เมื่อ: 13/10/13, [19:58:44] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เรื่องอะไรครับ ?

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13/10/13, [21:26:27] โดย จอมใจไร้รัก »
จอมใจไร้รัก ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4275 เมื่อ: 13/10/13, [19:59:04] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เรื่องอะไรครับ ?
Wars ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #4276 เมื่อ: 13/10/13, [20:53:39] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เรื่องอะไรครับ ?

นางฟ้า Angels ครับ
Wars ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #4277 เมื่อ: 13/10/13, [20:54:54] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เรื่องอะไรครับ ?

ฤดูที่ฉันเหงา ไม่แน่ใจว่าใช่รึเปล่า
Wars ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #4278 เมื่อ: 13/10/13, [20:55:44] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เรื่องอะไรครับ ?

เกรียนฟิคชั่น คร๊าบบบ
Wars ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #4279 เมื่อ: 13/10/13, [20:58:40] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เรื่องอะไรครับ ?

จิตสัมผัส คร๊าบบบ
ROMMY ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4280 เมื่อ: 13/10/13, [21:24:22] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เรื่องอะไรครับ ?
ตั้งวง ครับ
ROMMY ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4281 เมื่อ: 13/10/13, [21:25:20] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ดูแล้วแต่จำชื่อไม่ได้

ใช่ครับเคยดูเเล้วเหมือนกันครับคุณทอม เเต่นึกชื่อไม่ออก 55555
จอมใจไร้รัก ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4282 เมื่อ: 13/10/13, [21:25:50] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เรื่องอะไรครับ ?



ถูกต้องครับ

เกรียน ฟิคชั่น

เกรียน ฟิคชั่น ผลงานล่าสุดจากผู้กำกับ มะเดี่ยว ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล เป็นงานที่หน้าหนังดูเป็นหนังแนววัยรุ่นมัธยมปลาย ที่ใช้ชีวิตสุดโต่ง ทำอะไรห่ามๆ ที่ต้องเผชิญปัญหา แก้ไขปัญหานั้น ตบท้ายด้วยความประทับใจ เหล่าตัวละครเข้าใจชีวิตมากขึ้นและเติบโตขึ้น จบ! ซึ่งจะว่าไป เกรียน ฟิคชั่น ก็เดินเรื่องไม่ได้แตกต่างจากที่กล่าวมาสักเท่าไหร่ แต่ว่าปัญหาและความเข้มข้น รวมถึงมุมมองบางอย่างที่สอดแทรกอยู่นั้น ช่วยทำให้หนังเรื่องนี้มีคุณค่าในตัว เกินกว่าจะมองข้ามและตัดสินมันจากหน้าหนัง

ในภาพยนตร์ที่มุ่งถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตวัยรุ่นนั้น ส่วนมากจะถ่ายทอดแค่เพียงผิวเผินและแม้จะพยายามใส่ของหนักเข้ามา ก็ยังดูกั๊กๆ จนไม่สามารถสะท้อนภาพความจริงของชีวิตช่วงนี้ออกมาได้ในอย่างที่มันเป็นแต่กับ เกรียน ฟิคชั่น ผู้กำกับเลือกที่จะไม่รอมชอมกับการนำเสนอบางสิ่งที่ดูแรงจนบางขณะที่ชมรู้สึกอึดอัดกับสถานการณ์ที่ตัวละครต้องเผชิญ จนเผลอนำตัวเองไปซ้อนทับกับตัวละครแล้วคิดว่า ถ้าสิ่งที่เกิดขึ้นในหนังมันเกิดกับชีวิตเรา แล้วเราจะหาทางออก คลายปมปัญหาที่ค้างคาใจให้หมดไปได้อย่างไร

เกรียน ฟิคชั่น เป็นชื่อของแก๊งวัยรุ่นมัธยมปลายกลุ่มหนึ่ง อันประกอบไปด้วย ตี๋ (พัทธดนย์ จันทร์เงิน), โอ๊ต (กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม), ม่อน (ปุริม รัตนเรืองวัฒนา) และ โมน (กิตตศักดิ์ ปฐมบูรณา) ที่มักจะอะไรแปลกๆ บางครั้งก็เท่ บางครั้งก็เกรียน! และถ่ายคลิปวีดีโอเผยแพร่ในสังคมออนไลน์ พวกเขาได้เข้าชมรมการแสดง และตี๋ก็ได้เป็นพระเอกแสดงละครเวทีกับพลอยดาว (ลักษณ์นารา เปี้ยทา) ดาวโรงเรียนที่ใครๆ ก็ชื่นชอบ รวมถึงตัวของตี๋เองด้วย แต่แล้วเมื่อวันแสดงจริงมาถึง ด้วยอุบัติเหตุทำให้ตี๋ทำให้พลอยดาวต้องอับอาย จนความทั้งคู่เข้าหน้ากันไม่ติดและเป็นปมในใจที่ตี๋ต้องหาทางแก้ไข… ซึ่งเรื่องราวต่อจากนี้คือความเข้มข้นที่ทำให้ เกรียนฟิคชั่น ยกระดับให้กับหนังที่ตีแผ่ชีวิตวัยรุ่น

หนังถ่ายทอดออกมาจากมุมมองของตี๋ตัวเอกของเรื่อง ซึ่งเจ้าตัวเปรียบเรื่องราวชีวิตวัยรุ่นของตัวเองเหมือนการเขียนบทภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง ชีวิตบางทีก็น่าแปลก เราอาจวางให้ใครบางคนได้รับบทสำคัญในภาพยนตร์ชีวิตของเรา แต่ใครบางคนนั้นอาจไม่ได้มีบทให้เราในภาพยนตร์ชีวิตของเขาก็ได้ เช่นเดียวกับตี๋ ก็เหมือนวัยรุ่นทั่วไป ที่ช่วงนี้บทบาทสำคัญก็คือเพื่อนฝูง และคนที่ตัวเองรัก และในขณะที่ตี๋ก็มีบทบาทสำคัญในชีวิตของเพื่อนๆ แต่กลับพลอยดาว! ที่ไม่ว่าด้วยความรู้สึกดีๆ หรือเพราะความรู้สึกผิดที่มีเธอ แต่พลอยดาวก็ได้บทบาทสำคัญในชีวิตของตี๋ ในขณะที่พลอยดาวกลับเป็นตรงกันข้าม

แม้ภาพรวมของ เกรียน ฟิคชั่น จะมาในโทนที่จริงจัง (ซึ่งแตกต่างกับการประชาสัมพันธ์!) แต่ก็ยังแฝงอารมณ์ขันเอาไว้ด้วยมุขจิกกัด ที่คล้ายเป็นตัวแทนเสียงสะท้อนของวัยรุ่นที่มีต่อ กฎเกณฑ์หรือกรอบบางอย่างที่พวกเขาต้องเผชิญ

หนังเต็มไปด้วยฉากสวยๆ มุมกล้องอันแปลกตาที่ไม่ค่อยปรากฎในหนังไทย รวมไปถึงลูกเล่นการถ่ายภาพชั้นเยี่ยม ที่ทำให้เกือบทุกฉาก (ที่ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่) เต็มไปด้วยความงดงาม นอกจากนี้ยังรวมไปถึงเพลงประกอบภาพยนตร์ที่สอดแทรกในหนัง ที่นอกจากจะรับใช้ฉากนั้นๆ ได้แล้ว ยังเป็นตัวแทนในการสื่ออารมณ์ความรู้สึกของตัวละครในตอนนั้นอีกด้วย

ทีมนักแสดงวัยรุ่นต่างทำหน้าที่กันได้ดีและเขาขากันดีมาก พัทธดนย์ จันทร์เงิน ในบทตี๋ ที่หน้าตาน้องดูไม่ได้โดดเด่นไปกว่าเพื่อนในแก๊งเกรียน แต่ความสามารถในการแสดงและการสื่อสารด้วยแววตา (โดยเฉพาะฉากในเมืองพัทยาทั้งหมด) ทำให้เข้าใจได้ว่า ทำไมผู้กำกับถึงมอบบทนำให้กับน้องคนนี้ ในขณะที่ กิ๊บซี่ วนิดา เติมธนาภรณ์ ในบททิพย์ ครอบครัวเพียงหนึ่งเดียวของตี๋ ซึ่งเธอก็ทำได้ดีกับการเป็นตัวแทนของปัญหาความสัมพันธ์ในครอบครัวรูปแบบหนึ่ง ส่วน ตั๊ก บริบูรณ์ จันทร์เรือง กับอาจารย์เสน่ห์ที่ไม่มีอะไรมากกว่าไปกว่าการแสดงเป็นตัวของตัวเอง! และกับมิว ลักษณ์นารา เปี้ยทา ในบทพลอยดาว ที่น่าประทับใจกับการแสดงในแบบน้อยแต่มาก

เกรียน ฟิคชั่น จะสมบูรณ์กว่านี้หากเลือกที่เล่าให้ชัดเจนเกี่ยวกับตัวละครบางตัว ซึ่งทำให้บางตัวละครแบนราบ รวมไปถึงความยาวของหนังที่มากไปนิด ซึงหากตัดบางฉากที่เน้นขายสไตล์ออกไปบางส่วน (ซึ่งมีเยอะมาก) หรือเลือกที่จะเล่าให้เรียบง่ายขึ้นเพื่อให้หนังมีขนาดที่สั้นลงกว่านี้ ก็น่าจะทำให้ภาพรวมของเรื่องกลมกล่อมกว่าที่เป็นอยู่!

เกรียน ฟิคชั่น เป็นงานชั้นดีอีกชิ้นของผู้กำกับ มะเดี่ยว ต่อจาก Home ความรัก ความสุข ความทรงจำ และยังเป็นหนังวัยรุ่นที่ไม่ได้จำกัดแค่วัยรุ่นดูเท่านั้น แต่มันยังเหมาะกับคนทุกวัย ที่เมื่อชมจบเราอาจต้องกลับมาตั้งคำถามกับการใช้ชีวิตของเราว่า เราได้ใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่าพอแล้วหรือยัง?

7/10
จอมใจไร้รัก ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4283 เมื่อ: 13/10/13, [21:26:51] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เรื่องอะไรครับ ?



ถูกต้องครับ

นางฟ้า Angels

ผู้ที่มีอาชีพบริการอยู่ตามสถานบริการในยามข้ามคืนนั้น คงปฏิเสธไม่ได้ว่าคุณค่า เกียรติของพวกเขาในสายตาของคนทั่วไปนั้นอาจจะเต็มไปด้วยความสงสัย แต่หากเรามองด้วยสายตาที่เป็นธรรม พวกเขาก็แค่ทำหน้าที่เพื่อหาเลี้ยงชีพ เพื่อปากท้อง เพื่อคนที่พวกเขารัก ไม่ได้แตกต่างกับผู้ที่มีอาชีพใต้แสงตะวันแต่อย่างใด!

นางฟ้า ถือเป็นภาพยนตร์เรื่องสำคัญของนักแสดงมากฝีมือที่ผันตัวเองมาลองงานกำกับครั้งแรกอย่าง บงกช คงมาลัย และได้ วิโรจน์ ศรีสิทธ์เสรีอมร ผู้กำกับละคร สงคราม 9 ทัพ และผู้ช่วยผู้กำกับหนัง สุริโยไท มาช่วยเรื่องการเขียนบทและกำกับ ซึ่งเธอเลือกประเด็นเรื่องชีวิตของ นางโชว์ มานำเสนอในแบบจริงจัง ที่ฉาบหน้าด้วยการแสดงการเต้นอันงดงาม

นางฟ้า เล่าเรื่องราวของ 3 นางโชว์แห่ง แองเจิล บาร์ อันได้แก่ เฟิร์น (บงกช คงมาลัย), มิ้นท์ (จุฬาลักษณ์ จุฬานนท์) และ รุ้ง (รฐา โพธิ์งาม) ที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและคราบน้ำตา หนังเล่าเหตุการณ์ในปัจจุบันและตัดสลับกับอดีตเมื่อ 15 ปีก่อน ปัจจุบัน มิ้นท์ เป็นครูสอนจัดดอกไม้ ซึ่งมีร้านดอกไม้เป็นของตัวเอง โดยมีลูกชาย เก้า (มาเรียวโน่ คอนเซนติโน่) และเพื่อนกระเทยอาศัยอยู่ด้วยกัน เก้าต้องการรู้ว่าพ่อที่แท้จริงของเขาคือใคร การตัดฉากไปเมื่อ 15 ปีก่อน ก็เพื่อที่จะเล่าที่มาของเก้าลูกชายของมิ้นท์ ที่เรียกว่ามันเป็นโศกนาฏกรรมของชีวิตก็ว่าได้

หนังเรื่องนี้นับว่ามีเนื้อเรื่องที่น่าสนใจที่ดึงให้ผู้ชมติดตามและอยาก รู้ว่าอะไร? กำลังจะเกิดขึ้นกับชีวิตของพวกเธอ ซึ่งบทภาพยนตร์เรื่องนี้ถือว่าเป็นบทภาพยนตร์ไทยที่ดีและหนักพอควรทั้ง เรื่องที่เล่า และประเด็นแฝงที่สอดแทรกลงไป ซึ่งน่าชื่นชมกับความกล้าในการเลือกเรื่องที่จะมาทำของ บงกช คงมาลัย ซึ่งถือว่าเธอก็ทำหน้าที่ทั้งกำกับและแสดงได้ดีทั้งสองด้าน ถ้าใครได้ดูก็จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเธอทุ่มเทให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้มาก แค่ไหน!

นอกจากนี้ยังมีทีเด็ดตรงที่การแสดงของเหล่านักแสดงนำที่ทำหน้าที่กันได้ดีกันทุกคน ที่โดดเด่นก็ได้แก่ จุฬาลักษณ์ จุฬานนท์ ที่เธอตีบทแตกกระจุยจนไม่น่าเชื่อว่านี่คือหนังเรื่องแรกของเธอ ซึ่งเธอแสดงออกในบทของแม่ที่รักลูกอย่างไม่มีข้อแม้ได้อย่างน่าเห็นใจในชะตา กรรมของเธอ ในส่วนของเก้า ที่รับบทโดย มาเรียวโน่ คอเซนติโน่ อาจเพราะความเป็นลูกครึ่งทำให้การพูดภาษาไทยยังไม่สามารถสื่ออารมณ์ได้ใน ช่วงแรก และเมื่อเรื่องราวหนักมากขึ้น เขาก็ทำหน้าที่่ได้อย่างน่าพอใจ

ก็ไม่เข้าใจว่าปัจจุบันทำไมยังนำเสนอแบบภาพจำเดิมๆ อยู่ เช่น การเป็นอาชีพที่ถูกดูถูกจากสังคม ขาดคนรักจริง ไม่มีทางเลือกให้ชีวิต การนำเสนอในมุมนี้ดูจะล้าสมัยไปแล้วเพราะความเป็นจริงมันไม่ใช่แบบนั้น ทั้งหมด หนังพยายามใส่ให้เห็นว่าการแสดงเต้นนั้นก็คือศิลปะ และวิถีของมืออาชีพที่แสดงให้เห็นความเอาจริงเอาจังและความตั้งใจของผู้แสดง ที่ต้องการทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เพื่อความบันเทิงของผู้ชม แต่มันก็น้อยนิดจนผู้ชมอาจผ่านเลยไป

แม้หน้าหนังจะมองว่า เป็นหนังที่ตีแผ่ชีวิตของนางโชว์ ชีวิตคนกลางคืน แต่เอาเข้าใจหนังมีเนื้อหาที่ก้าวล้ำ ในการเชื่อมโยงเรื่องความหลากหลายทางเพศ ซึ่งนับว่าเป็นความกล้าอีกอย่างของผู้ สร้างที่ใส่ประเด็นนี้เข้ามา ซึ่งเชื่อว่าคนดูชาวไทยนคงคุ้นชินกับหนังที่เล่าเรื่องราวของบุคคลผู้มีความ หลากหลายทางเพศกันพอสมควรแล้ว ซึ่งเรื่องนี้หนังแสดงให้เห็นผลผลเสียของการปกปิดอำพราง แม้การอำพลางจะมีเป้าหมายเพื่อความสุข แต่แท้ที่จริงการเปิดเผย การเปิดใจ และการยอมรับคือสิ่งที่จะนำมาสู่ความสุขที่แท้จริงมากกว่า!

แต่ข้อติดอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือ จังหวะการตัดต่อที่รวบรัว รวมถึงการคลี่คลายเรื่องราวบางช่วงนั้นดูจะง่ายดายเกินไป โดยใช้วิธีการเล่าหรือตัดภาพไปเลย ทำให้รู้สึกเหมือนถูกตัดอารมณ์ที่กำลังอินไปกับหนังอย่างน่าเสียดาย

แม้ภาพรวม นางฟ้า จะมีเนื้อหาที่หนักหน่วงจริงจัง แต่ก็ยังมีสิ่งที่ช่วยจรรโลงให้รู้สึกถึงความบันเทิงของตัวหนังอยู่บ้าง นั่นก็คือ ฉากเต้นรำที่แสดงให้เห็นถึงความสวยงามและสร้างสรรค์ของท่าเต้น มีความเซ็กซี่ที่ไม่ใช่ปลุกเร้าอารมณ์ทางเพศ และความแข็งแกร่งงดงามของสรีระของผู้เต้น ที่เข้ามาแทรกเป็นครั้งคราวได้อย่างลงตัว

6.5/10
จอมใจไร้รัก ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4284 เมื่อ: 13/10/13, [21:28:52] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เรื่องอะไรครับ ?

ถูกต้องครับ

Love In The Rain ฤดูที่ฉันเหงา

การกลับมาครั้งที่สองของ แดน วรเวช ดานุวงศ์ กับผลงานที่ยังเกี่ยวข้องกับความรัก ซึ่งครั้งนี้นำฝนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งก็ดูเป็นวิธีการที่เข้าท่า ที่พยายามหาความแตกต่างมานำเสนอให้แตกต่างจากหนังรักที่ออกมาให้เราได้ดูกัน เกือบตลอดทั้งปี และยังถือเป็นผลงานที่แดนพยายามจะใส่ สไตล์ของตัวเองลงไป แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาคือความเกินพอดีจนทำให้เกือบทั้งเรื่องเต็มไปด้วยเรื่อง ราวที่ไม่มีความเป็นธรรมชาติอยู่เลย ทั้งที่หนังรักเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับ ฝน สิ่งที่เกิดขึ้นเพราะธรรมชาติแท้ๆ

ฤดูที่ฉันเหงา คือ ชื่อของภาพยนตร์ที่ได้มาจากเพลงชื่อเดียวกันที่เคยโด่งดังมากๆ เมื่อหลายปีก่อนของ วงฟลัวร์ (Flure) ซึ่งหนังใช้ ‘ฝน’ และฤดูฝนที่ไม่แน่นอน ไม่สามารถคาดเดาได้ มาใช้ในเชิงเปรียบเทียบกับ ‘ความรัก’ ซึ่งลักษณะหนึ่งของความรักก็คือความไม่แน่นอนและไม่สามารถคาดเดาได้เช่น เดียวกัน ทั้งยังสอดแทรกประเด็นเรื่องความเหงาเข้ามาอีกด้วย

ฤดูที่ฉันเหงา เป็นเรื่องราวของรักของ คุง (แจ็ค เฉลิมพล ทีฆัมพรธีรวงศ์) ที่แอบหลงรัก นารา (นารา เทพนุภา) เพื่อนสาวโรงเรียนเดียวกัน ในขณะที่นารากลับชอบเดซี่ (โทนี่ รากแก่น) เจ้าของร้านตัดผมหนุ่มหล่อที่บ้านอยู่ใกล้ๆ กัน แต่ว่าเดซี่กลับมีความรู้สึกดีๆ ให้กับ แจน (แป้งโกะ จินตนัดดา ลัมะกานนท์) สาวลึกลับที่เข้ามาใช้บริการในวันที่ฝนตก! คุงซึ่งก็ยังคงพยายามที่จะเอาชนะใจนาราโดยพยายามใกล้ชิดทุกทาง ก็ได้พบกับนักดนตรีอิสระ (แดน วรเวช ดานุวงศ์) ที่อยู่บ้านตรงข้ามกับนารา ซึ่งเป็นชายขี้เหงาที่มักเล่นดนตรียามฝนตกเพื่อรอพบใครบางคน ที่คอยให้กำลังใจให้คุงไม่ท้อแท้ไปเสียก่อน ซึ่งสุดท้ายบทสรุปของความรักของทุกคนล้วนมีฤดูฝนมาเกี่ยวข้อง

หนังแบ่งเล่าเรื่องราว 3 ส่วน เรื่องแรกคือ เรื่องของเดซี่ช่างตัดผมและแจนลูกค้าสาว เรื่องที่สองคือศิลปินอิสระที่ทำเพลงขายเพลง โดยมีส่วนทุดท้าย คือการตามตื้อเพื่อให้ได้รักมาของคุงที่มีต่อนาราเป็นตัวเชื่อมเรื่องราว ทั้งสามเข้าด้วยกัน

ซึ่งหนังก็ไม่ได้แตกต่างจากการเล่าเรื่องราวความรักหลากรูปแบบในหนัง เรื่องเดียว แบบหนังรักของไทยหลายเรื่องก่อนหน้านี้ที่เคยออกมา เพียงแต่ว่าเรื่องราวความรักของตัวละครใน ฤดูที่ฉันเหงา ไม่ได้มีพลังดึงดูดให้เราตั้งใจติดตามเรื่องราวมากนัก รวมไปถึงการละเลยที่จะเผยจุดหมายสุดท้ายที่หนังต้องการมุ่งไปและให้ผู้ชมได้ รับคุณค่าอะไรบางอย่างในแบบที่ควรจะเป็น จนทำให้ผู้ชมเกิดความรู้สึกเหมือนถูกทิ้งให้เปียกปอนกลางสายฝนก็มิปาน!

นอกจากนี้หนังยังเต็มไปด้วยตัวละคร ที่กิจกรรมยามว่างคือการนั่งตามอ่านเพจคำคมต่างๆ ในเฟสบุ๊คแบบเข้าเส้น จนทำให้บทสนทนาการเป็นการสาดคำคมเข้าใส่กันแบบคำต่อคำเลยทีเดียว จากวิธีการที่ส่งมอบทัศนะคติบางอย่างให้ผู้ชม หรือเป็นการกระเทาะบางสิ่งที่ผู้ชมหลงลืมไปให้กลับมา กลับกลายเป็นความน่ารำคาญ เพราะขณะที่เรากำลังดื่มด่ำกับความหมายระหว่างบรรทัดของประโยคแรกยังไม่ เรียบร้อยดี ก็ถูกประโยคชุดสองแทรกเข้ามา กลายเป็นความเกินพอดีจนไม่สามารถย่อยสาระที่ควรจะได้จากประโยคเหล่านี้เท่า ที่ควร

ในส่วนของประชาสัมพันธ์ที่บอกว่า ฤดูที่ฉันเหงา มี แจ็ค เฉลิมพล เป็นพระเอก คือความน่าสนใจที่ดึงดูดพอสมควรว่าท่ามกลางนักแสดงชายหน้าตาดีอย่าง โทนี่ และตัวผู้กำกับแดน จะทำอย่างไรให้แจ็คได้โดดเด่นขึ้นมา ซึงจุดนี้ต้องพึ่งบทของตัวละครคุงที่ต้องส่งพอสมควรบวกกับการแสดงที่ดีของแจ็ค แต่เมื่อชมแล้วเราคงพูดไม่ได้เต็มปากนักว่า แจ็คคือพระเอกของเรื่องนี้้ เพราะตัวละครคุงที่แจ็ครับบทบาทนั้น เป็นบทที่เรียกได้ว่าน่ารำคาญที่สุดในเรื่องและไม่ได้โด่นเด่นอย่างเท่าที่ควร อาจเป็นไปได้ที่แจ็คตอบรับบทนี้เพราะต้องการที่จะแสวงหาบทบาทใหม่ๆ ในทางการแสดง แต่ว่า แจ็ค คือนักแสดงพิเศษที่จะแสดงได้ดีที่สุดก็ต่อเมื่อแสดงเป็นตัวของแจ็คเองเท่านั้น บทคุงจึงเป็นสิ่งที่ทำร้ายความเป็นแจ็คมากกว่าจะส่งเสริมตัวเค้า!

ส่วนหน้าใหม่อย่าง นารา และ แป้งโกะ สามารถมอบการแสดงที่น่าพอใจ นอกจากมีหน้าตาที่สดใสน่ารักสมวัยแล้ว นาราก็สามารถถ่ายทอดแก่นแก้วของเด็กเกินวัยและยังแสดงอารมณ์ออกทางสีหน้าได้ดี ในส่วนของแป้งโกะจะ เป็นผลงานการแสดงภาพยนตร์ครั้งแรกที่น่าพอใจกว่านี้ หากไม่มีบทสนทนาที่เต็มไปด้วยคำคมมาลดทอนความเป็นธรรมชาติของเธอ ส่วนผู้มีประสบการณ์อย่าง แดน และ โทนี่ ก็ถือว่าทำได้ตามมาตรฐานของทั้งสอง

หนังให้แต่ละครตัวละครมีปฏิสัมพันธ์ในช่วงที่ฝนตกเกือบตลอดทั้งเรื่อง เมื่อบวกกับการถ่ายภาพที่จัดวางองค์ประกอบของภาพได้ดี จึงทำให้ ฤดูที่ฉันเหงา มีหลายฉากที่สวยแปลกและส่งอารมณ์เหงาๆ อย่างประหลาดออกมา แต่นั่นก็มีแต่เฉพาะฉากที่ไม่มีฝน หรือฉากที่มีฝนตกตอนกลางคืนเท่านั้น เพราะฉากฝนตกตอนกลางวันนั้นถือว่าสอบไม่ผ่านอย่างแรงกับความไม่เป็นธรรมชาติ หรือธรรมชาติแปรปรวน!

ถึงภาพรวมของ ฤดูที่ฉันเหงา ดูจะด้อยกว่า คืนวันเสาร์ถึงเช้าวันจันทร์ งานกำกับชิ้นก่อนของแดน แต่มันก็เป็นงานที่แสดงให้เห็้นถึงความพยายามในการใส่สไตล์ของตัวเองลงไปแม้ จะยังไม่เด่นชัดนักก็ตาม และใส่การดำเนินเรื่องแบบมิวสิควีดีโอลงไปคือสิ่งที่ส่วนตัวมองว่านี่เป็น จุดดีมากกว่าจุดด้อย ถ้าหากตัดมุขตลกออกไป (ซึ่งหนังเรื่องนี้บอกให้รู้ด้านตลกไม่ใช่จุดเด่นของแดน) จะทำให้ภาพรวมของหนังมีสไตล์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น!

บทสรุปของเดซี่กับแจนคือเซอร์ไพรซ์เล็กๆ ที่ตอบข้อสงสัยของพฤติกรรมตัวละครที่ดูจะใกล้ชิดกันเกินไปทั้งที่เจอกัน เพียงครั้งแรก! แต่ส่วนที่ดีที่สุดคือเรื่องราวของศิลปินอิสระที่ตัวของแดนเป็น ผู้แสดงเอง ที่การเรื่องราวมีลูกเล่นหลากหลายในการถ่ายทอดเรื่องราวที่เต็มไปด้วยปริศนา อารมณ์เหงา ความน่ากลัวแบบหนังสยองขวัญ และยังสื่อให้เห็นมุมหนึ่งของความรักที่ต้องรอคอย… และจะว่าไปนี่คือตัวละครที่สื่อความหมายได้ตรงกับเพลงและชื่อเรื่อง ฤดูที่ฉันเหงา ได้มากที่สุด!

4/10
ROMMY ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4285 เมื่อ: 13/10/13, [21:32:02] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

2 เรื่องนี้ไม่น่าจะเคยผ่านตา ดูดาราแล้วไม่รู้จักหรือเคยเห็นเลยครับ ยอม  [หมูส่ายหน้า]
เฉลยของโหดกันนิดนึงครับ

อันนี้คือเรื่อง headhunters ครับ ไม่สปอย์นะครับ ต้องดูเอง 555 //ผมชอบหนังเเนวนี้นะหักมุมเเละมีเนื้อเรื่องสนุกมากครับ ให้9-10/10เลยครับ  (หนังปี2011)

<a href="http://www.youtube.com/v/wkT5yzZrml8" target="_blank">http://www.youtube.com/v/wkT5yzZrml8</a>

 ้hahaha    ้hahaha     ้hahaha     ้hahaha     ้hahaha     ้hahaha     ้hahaha

ส่วนอีกเรื่องเป็นหนังใหม่ครับปี 2013

หนังก็โอเคดีครับ สะท้อนอะไรหลายๆอย่างในสังคมปัจจุบัน
เรื่อง assault on wall street

<a href="http://www.youtube.com/v/8Y-NqShTj5w" target="_blank">http://www.youtube.com/v/8Y-NqShTj5w</a>
จอมใจไร้รัก ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4286 เมื่อ: 13/10/13, [21:34:04] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เรื่องอะไรครับ ?

ถูกต้องครับ

จิตสัมผัส 3D

จิตสัมผัส 3D หนัง 3มิติ เรื่องล่าสุดจากค่าย ไฟว์สตาร์ ที่มีทั้ง ป้อง ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์, รฐา โพธิ์งาม, ปู Blackhead และ น้องมายด์ วิรพร ใน จิตสัมผัส 3D ของผู้กำกับ กัลป์ หงษ์รัตนาภรณ์ ซึ่งยังคงถ่ายทำในระบบ 3D พร้อมด้วยความเป็นหนังสยองขวัญอยู่เช่นเดิม

เรื่องราวของ เจต ผู้มีความสามารถมองเห็นวิญญาณและล่วงรู้ “กรรม” ของผู้อื่นมาตั้งแต่เด็ก เขาเห็นเจ้ากรรมนายเวรของทุกคน ซึ่งมันทำให้เขากลายเป็นตัวประหลาดในสายตาคนอื่น เขาจึงซ่อนไว้เป็นความลับ จุ๋ม (ญาญ่าญิ๋ง รฐา โพธิ์งาม) แฟนสาวของเจตคือคนเดียวที่ล่วงรู้ว่าเจตมีความสามารถนี้ จุ๋มไม่ต้องการให้เจตเข้าไปพัวพันกับคดีของ แก้ว (มายด์ วิรพร จิรเวชสุนทรกุล) สาววัยรุ่นที่ขับรถโดยประมาทจนเป็นเหตุให้มีคนต้องตาย ทว่าด้วยความสามารถพิเศษที่เจตมี จึงรู้ว่าแท้จริงแล้ว โศกนาฏกรรมครั้งนี้ไม่ใช่ อุบัติเหตุ เจตจึงใช้ความสามารถของเขาช่วยเหลือแก้ว แต่ยิ่งเจตเข้าไปพัวพันมากเท่าไหร่ ก็เหมือนมีบางสิ่งบางอย่างไล่ล่าแก้วอย่างไม่ลดละ ในขณะที่จุ๋มก็โดนคุกคามจากวิญญาณร้ายเช่นกัน เจตจะใช้ความสามารถของตนที่มี อยู่ ช่วยเหลือจุ๋ม และแก้วได้หรือไม่ ต้องติดตาม

ในยุคที่ กรรม บาป บุญ คุณ โทษ จะดูเหมือนเป็นเพียงแค่เรื่องเอาไว้หลอกเด็กเสียมากกว่า ก็เห็นจะมีหนัง ‘จิตสัมผัส 3D’ ที่ดูเหมือนว่าจะหยิบนำเอาเรื่องพวกนี้มาใช้ให้น่าเชื่อถือ และส่อเจตนาในทางที่ดีอีกครั้ง และนั่นก็ดูเหมือนจะเป็นจุดขายจุดสำคัญ ที่ช่วยให้ จิตสัมผัส โดดเด่นไม่เหมือนใคร กับการนำเสนอเรื่องของ บาปกรรม บุญคุณ และ เรื่องของความเชื่อ ผ่านชายที่สามารถมองเห็นความตายล่วงหน้า และกรรมที่คอยตามติด ได้โดยการสัมผัสทั้งทางกายและทางจิต แต่กลับไม่คิดจะเปลี่ยนมัน ไม่ยุ่งดีกว่า จนกระทั่งลูกความสาววัยรุ่น และแฟนสาว ต้องถูกคุกคามจากวิญญาณ ด้วยเหตุผลที่ลึกลับ ซึ่งสิ่งที่ส่วนตัวชื่นชอบใน จิตสัมผัส 3D คือการที่ตัวหนังเล่าผ่านตัวละครของ เจต ให้เปรียบเสมือนเป็นกระจกส่องกรรมของผู้อื่น แต่กลับไม่สามารถที่จะส่องตัวเอง ก็เปรียบเสมือนกับผู้คน ที่ชอบ ตำหนิ ด่าว่าผู้อื่น แต่กลับไม่เคยหันมามองตัวเอง และยอมรับความจริง

เช่นเดียวกับระบบ 3D ของหนัง ที่จัดได้ว่าเป็นจุดขายสำคัญ ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีกว่า 407 เที่ยวบินผี และ ตีสาม 3D เพราะตัวหนังมีหลายฉากที่สามารถใช้ความสามารถของระบบ 3D ได้อย่างเต็มที่ แสดงถึงความ ตื้น ลึก หนา บาง ได้อย่างไม่น้อยหน้า เช่นเดียวกับการแสดงของ 3 นักแสดงนำทั้ง ป้อง ณวัตน์, ญาญ่าญิ๋ง และ มายด์ วิรพร ก็ต่างถ่ายทอดตัวละครของตนเองออกมาได้อย่างน่าสนใจในระดับเดียวกัน

หนังแสดงผลของกรรมออกมาอย่างโจ่งแจ้ง และพร่ำสอนถึงผลของการกระทำ ที่อยู่ติดตัวเราตลอดเวลา รอเวลาที่จะทวงคืน, กรรมวิธีแก้กรรมที่หลายคนอาจคุ้นกันดี และในส่วนของการสืบสวนคดีที่ค่อยๆปะติดปะต่อเป็นภาพใหญ่ ฉายให้เห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้น สาเหตุคืออะไร ดำเนินไปควบคู่กับการยั่วเย้าทางเพศ เมื่อทนายหนุ่ม ต้องใกล้ชิดกับลูกความสาว จนความสัมพันธ์ของคู่รักเข้าใกล้คำว่าพังทะลาย

และหลายๆครั้งที่หนังกำลังดำเนินไปอย่างจริงจัง ก็ถูกหักให้กลายเป็นความตลกไปซะอย่างงั้น คนดูก็ลุ้นใจคว่ำไปเถอะ บางตัวละครที่ดูเหมือนจะมีอะไร ปูมาให้น่าสงสัย แต่กลับถูกละเลยไป พาเราไปผิดทาง คิดว่าเดาถูกแล้วกลับโดนปั่นหัว แต่หลายความสงสัยทั้งหลายก็จะถูกคลี่คลายโดยไม่ต้องเปิดเพลงวนไปมาและโยกหัว

หนังเสียดสีสังคมและเหตุการณ์ในบ้านเราแบบว่าเห็นแล้วคุ้นๆ มีบางฉากที่ชอบนั่นคือ การที่บอกว่าสถานที่ที่มีอยู่จริงในบ้านเรานั้นมีบางสิ่งอยู่ในอีกมิติหนึ่งคอยคลุมๆอยู่ อาจจะเป็นเรื่องที่เล่าต่อๆกันมาแต่มันมีอยู่จริง น่าจะมีใครหยิบพล็อตนี้เอาไปทำหนังต่อนะ

หนังอาจจะสื่อออกมาโต้งๆถึงการตามมาของผลกรรมที่ทำไว้อย่างเป็นรูปร่าง แต่เชื่อเถอะเรื่องแบบนี้ ไม่เจอเข้ากับตัวก็ไม่รู้สึก

6/10
เอสวา ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4287 เมื่อ: 13/10/13, [21:34:30] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เฉลยของโหดกันนิดนึงครับ

อันนี้คือเรื่อง headhunters ครับ ไม่สปอย์นะครับ ต้องดูเอง 555 //ผมชอบหนังเเนวนี้นะหักมุมเเละมีเนื้อเรื่องสนุกมากครับ ให้9-10/10เลยครับ  (หนังปี2011)

<a href="http://www.youtube.com/v/wkT5yzZrml8" target="_blank">http://www.youtube.com/v/wkT5yzZrml8</a>

 ้hahaha    ้hahaha     ้hahaha     ้hahaha     ้hahaha     ้hahaha     ้hahaha

ส่วนอีกเรื่องเป็นหนังใหม่ครับปี 2013

หนังก็โอเคดีครับ สะท้อนอะไรหลายๆอย่างในสังคมปัจจุบัน
เรื่อง assault on wall street

<a href="http://www.youtube.com/v/8Y-NqShTj5w" target="_blank">http://www.youtube.com/v/8Y-NqShTj5w</a>
ต้องยอมรับว่าไม่เคยผ่านตาจริงๆ
จอมใจไร้รัก ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4288 เมื่อ: 13/10/13, [21:35:25] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เรื่องอะไรครับ ?

ถูกต้องครับ

Tang Wong ตั้งวง

ท่ามกลางหนังฟอร์มยักษ์ที่กำลังเข้าฉายแบบถล่มทะลายในไทย ก็มีหนังไทยเล็กๆเรื่องนึงที่เข้าฉายไปพร้อมๆกัน ซึ่งหลังจากได้จัดฉายทั้งรอบนักวิจารณ์ และ รอบสื่อ ไปเรียบร้อย หลายคนก็ยกมันให้เป็นหนึ่งในหนังที่ดีที่สุดของปี ซึ่งหนังเรื่องนั้นก็คือ ‘ตั้งวง’ ของผู้กำกับ คงเดช จาตุรันต์รัศมี

ตั้งวง เป็นหนังที่เน้นไปยังกลุ่มวัยรุ่นที่เป็นเด็กหนุ่มเกรียนๆ 4 คน ยอง / เจ  เด็กเนิรด์ประจำโรงเรียน เบส นักกีฬาผู้ ไฝ่ฝันที่อยากเป็นตัวแทนโรงเรียน และ เอ็ม เด็กหนุ่มผู้หลงรัก การเต้นคัฟเวอร์เกาหลีเป็นชีวิตจิตใจกับความคิด มักง่ายที่จะทำภารกิจรำแก้บนโดยมี พี่นัท นางรำรับจ้างรำแก้บนเป็นผู้ฝึกสอนครั้งนี้

ซึ่งถ้าหากใครเป็นคอหนังไทยอินดี้ พวกเราคงจะรู้จักกับผู้กำกับ คงเดช จาตุรันต์รัศมี เป็นอย่างดี เพราะเขาคือผู้กำกับจาก กอด, เฉิ่ม และรวมไปถึงเรื่องล่าสุดที่เข้าฉายไปปีที่แล้วอย่าง ‘แต่เพียงผู้เดียว’ แถมยังเป็นมือเขียนบทให้กับหนังดังๆหลายเรื่องอีกด้วย ซึ่งในหนังเรื่องใหม่ของเขาอย่าง ตั้งวง เขาได้กล่าวไว้ว่าเป็นหนังที่แมส ดูง่าย ที่สุดของเขา แต่เชื่อหรือไม่ว่า ในความเรียบง่ายที่ ตั้งวง ต้องการจะนำเสนอ หนังได้ค่อยๆใส่อารมณ์ความเป็นหนังที่พยายามพูดถึงเรื่อง ความเชื่อ ที่ไม่ใช่เพียงนำเอาด้าน ศาสนา มาเป็นตัวอย่าง แต่รวมไปถึงการใช้ชีวิต, ฐานะ และ ความเป็นอยู่ ที่ทั้งหมดมันเป็นตัวตัดสินมนุษย์ หรือเป็นเพียงสิ่งที่ มโน กันขึ้นมา

โดยการนำเอากลุ่มวัยรุ่น มาเป็นตัวคาแรกเตอร์หลักเพื่อสื่อสารผ่านตัวละครวัยนี้ จัดได้ว่าเป็นความคมคายอย่างนึง ที่ยิ่งเสนอประเด็น อนาคตของชาติ ออกมาได้อย่างชัดเจน และ สื่อตรง ผ่านเรื่องราวการตัดสลับความเป็น expectation vs reality ซึ่งก็คือเรื่องราวของ ความคาดหวัง ที่ถูกใส่ผ่านเข้ามาในโลกแห่งความจริง กับการที่วัยรุ่นเท่ๆ เก๋ ป๊อป จะลุกขึ้นมาทำอะไรที่น่าอายอย่าง รำแก้บน ที่หนังค่อยๆตั้งคำถามให้กับคนดูมาเรื่อยๆว่า การกระทำของเราที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้ เราทำเพราะความเชื่อ หรือเพียง เชื่อว่ามันต้องทำ ซึ่งถ้าหากนับจากหน้าหนัง ที่ดูเหมือนจะเป็นหนังวัยรุ่นเกรียนๆ สดใสๆ ก็นับว่า ตั้งวง เป็นหนังที่พาเราไปได้ไกลกว่านั้น ไกลกว่าเรื่องราวที่มีทั้งคำว่า เพื่อน ครอบครัว ชีวิต ศาสนา ความเชื่อ การกระทำ สถาบัน ฐานะ เพศ และทุกๆสิ่งทุกๆอย่างที่มนุษย์เราตั้งความหมาย ตั้งเอกลักษณ์ให้แก่มัน

ซึ่ง 4 นักแสดงวัยรุ่นหน้าใหม่ ก็นำว่าทำหน้าที่ของตนเองได้ดี สามารถสร้างคาแรกเตอร์ของตนเองออกมาในแบบที่กลุ่มวัยรุ่นสมัยนี้เป็นอยู่ทั้ง เด็กเนิร์ด, เด็กติ่ง และ เด็กเกเร ที่ตัวหนังอาจไม่ได้นำเสนอมุมชีวิตด้านอื่นๆของตัวละครอย่างเท่าเทียม แต่นั่นก็ถือว่าเป็นการตอบโจทย์การวิจารณ์สถาบันสังคมได้อย่างเจ็บแสบพอแล้ว โดยสรุปแล้วผมคิดว่า ตั้งวง เป็นหนังที่ดูง่าย ตรงไปตรงมา ไม่วือหวา แต่ทำจุกและหดหู่ได้ในขณะเดียวกัน ซึ่งหนังก็เข้าฉายแล้ววันนี้ทุกโรงภาพยนตร์ ถ้าใครเบื่อหนังบล็อคบัสเตอร์บู๊ระห่ำ และอยากได้หนังไทยดราม่าดีๆสักเรื่อง ตั้งวง ก็จัดได้ว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ณ ตอนนี้ครับ

8.5/10
ROMMY ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4289 เมื่อ: 13/10/13, [21:36:27] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ต้องยอมรับว่าไม่เคยผ่านตาจริงๆ
555  เรื่องที่สอง assault on wall street เป็นหนังใหม่มากครับ รวมๆก็โอเคดีครับ ชอบตอนจะจบที่พระเอกฉลาดมาก 55 (ไม่สปอย์ละครับต้องหาชมเองครับ)

ส่วนเรื่องเเรก Headhunter ผมว่าเป็นหนึ่งในหนังที่ผมดูเเล้วชอบมากๆ (ผมน่าจะชอบเเนวๆนี้ครับ)
หน้า: 1 ... 141 142 143 144 145 ... 201   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: