แต่ก็นั่นแหละ ตู้ตามวิธีของ Diana Walstad เนี่ย พึ่งสารอินทรีย์ในตู้ช่วยสร้าง CO2 เลย มาแหวกแนว กว่าใคร
งงพอแล้วยัง ้hahaha
อย่าถามความเห็นผมนะ ผมไม่รู้ emb01
ขอบคุณ คุณ NP ที่ช่วยแก้ให้ จริงๆแล้วการใช้มอสบอลป้องกันตะไคร่ ไม่ใช่คำแนะนำของ Tom barr (ของTom barr คือตารางแรก สาเหตุและการป้องกันตะไคร่) แต่เป็นของคุณ Aziz Dhanani เขาแนะนำว่าให้ใส่มอสบอลลงตู้ เพราะ Moss Ball Heavy Eaters
Japanese Marimo moss ball are high consumers of phosphates. As the moss ball grows, it out competes algae for phosphates and other nutrients. With limited phosphates available in the water column, algae is observed to have a difficult time gaining a foothold in the planted aquarium.
ข้อมูลที่สำคัญยิ่งคืออัตราการสังเคราะห์แสง เกี่ยวกันกันโดยตรงกับระดับ CO2 ในตู้!! ถ้าเราคิดว่าตู้ไม้น้ำก็เหมือนอ่างใบหนึ่งที่ใส่สาหร่ายหางกระรอกเต็ม การสังเคราะห์แสงจะมีมากที่สุดตอนสายๆ และลดต่ำลงจากอัตราการสังเคราะห์สูงสุด น้อยกว่า 40% ในช่วงบ่าย ปัจจัยควบคุมก็คือสต๊อค CO2 หมดแล้วนั่นเอง เมื่อCO2 ถูกดึงไปจากน้ำ ตรงๆ แนวโน้มของน้ำใช่วงบ่ายๆ ในอ่างก็จะสูงขึ้นด้วย(CO2 ถูกเปลี่ยนไปทางด่าง ไบคาร์บอเนต) จากนั้นไม้น้ำไม่ทุกประเภทหรอกครับที่จะใช้ไบคาร์บอเนตในน้ำ เอามาแทน CO2 ได้ ไม้น้ำที่ใช้ไม่ได้จึงหยุดโต
CO2 จากแหล่งอื่นๆในตู้ไม้น้ำ มีมาจาก อาหารปลาและสารอินทรีย์ในดิน วัสดุปลูกที่ย่อยสลายด้วยจุลินทรีย์ที่ใช้อากาศ ใช้เลี้ยงไม้น้ำได้เช่นเดียวกันแต่ต้องถูกออกแบบให้มีการย่อยสลายเพียงพอ และมสัมพันธ์กับไม้ในตู้
อ้างถึง
แต่ก็นั่นแหละ ตู้ตามวิธีของ Diana Walstad เนี่ย พึ่งสารอินทรีย์ในตู้ช่วยสร้าง CO2 เลย มาแหวกแนว กว่าใคร
คนนี้ของคุณ NP นั้นหล่ะครับ
ในความคิดผม CO2 มากตะไคร่จะลดลงมันอยู่ที่ว่า 1.KH alkaliity(Carbonate hardness (KH) = bicarbonate (HCO3-)+carbonate (CO3--) ions) ของน้ำมันมากไปหรือน้อยไปด้วย เพราะถ้า KH สูงมากไป CO2 ที่เร่งฉีดเข้าไปตอนแรก จะถูกใช้ในการลด(สะเทิน) KH ก่อน พอ pH ลดลงถึงระดับที่ มี CO2 มากพอ ต้นไม้ถึงจะดูดซับไว้ได้ ตรงนี้ผมเคยเจอผู้เลี้ยงหลายท่านที่น้ำ KH สูงๆ เลี้ยงไม้น้ำไม่ค่อยสำเร็จเพราะ ให้ CO2 เยอะนะครับแต่ไม้โทรม เพราะ KH สูงเกินไปนี่เอง(KH ควรอยู่ที่ 3-4)
2.พรรณไม้ที่ใช้ พอเร่งความเร็ว CO2 แล้วใช้ CO2 อย่างคุ่มค่าไหม? ลองคิดเทียบดูว่าเราเร่ง CO2 สุดขีดดรอปเช็ค จนปลาลาตายหมดตู้ อนูเบียสกิ่งเดียว หรือเพิลหวีดที่พึ่งปักไปเมื่อวาน!! ปัญหาตะไคร่ก็คงยังไม่หมดไป เพราะ Free CO2 ที่ให้กับตู้ไม่มีใครเอาไปใช้ [on_007]
มาถึงสรุป ที่ผมพิมพ์ ยืดยาว การเร่ง CO2 ก็ขึ้นกับตู้เองด้วยหล่ะครับ ไม่ใช่อะไรๆ ก็เร่งๆๆ
ข้อมูลที่สำคัญยิ่งคืออัตราการสังเคราะห์แสง เกี่ยวกันกันโดยตรงกับระดับ CO2 ในตู้!! ถ้าเราคิดว่าตู้ไม้น้ำก็เหมือนอ่างใบหนึ่งที่ใส่สาหร่ายหางกระรอกเต็ม การสังเคราะห์แสงจะมีมากที่สุดตอนสายๆ และลดต่ำลงจากอัตราการสังเคราะห์สูงสุด น้อยกว่า 40% ในช่วงบ่าย ปัจจัยควบคุมก็คือสต๊อค CO2 หมดแล้วนั่นเอง เมื่อCO2 ถูกดึงไปจากน้ำ ตรงๆ แนวโน้มของน้ำใช่วงบ่ายๆ ในอ่างก็จะสูงขึ้นด้วย(CO2 ถูกเปลี่ยนไปทางด่าง ไบคาร์บอเนต) จากนั้นไม้น้ำไม่ทุกประเภทหรอกครับที่จะใช้ไบคาร์บอเนตในน้ำ เอามาแทน CO2 ได้ ไม้น้ำที่ใช้ไม่ได้จึงหยุดโต
CO2 จากแหล่งอื่นๆในตู้ไม้น้ำ มีมาจาก อาหารปลาและสารอินทรีย์ในดิน วัสดุปลูกที่ย่อยสลายด้วยจุลินทรีย์ที่ใช้อากาศ ใช้เลี้ยงไม้น้ำได้เช่นเดียวกันแต่ต้องถูกออกแบบให้มีการย่อยสลายเพียงพอ และมสัมพันธ์กับไม้ในตู้คนนี้ของคุณ NP นั้นหล่ะครับ
ในความคิดผม CO2 มากตะไคร่จะลดลงมันอยู่ที่ว่า 1.KH alkaliity(Carbonate hardness (KH) = bicarbonate (HCO3-)+carbonate (CO3--) ions) ของน้ำมันมากไปหรือน้อยไปด้วย เพราะถ้า KH สูงมากไป CO2 ที่เร่งฉีดเข้าไปตอนแรก จะถูกใช้ในการลด(สะเทิน) KH ก่อน พอ pH ลดลงถึงระดับที่ มี CO2 มากพอ ต้นไม้ถึงจะดูดซับไว้ได้ ตรงนี้ผมเคยเจอผู้เลี้ยงหลายท่านที่น้ำ KH สูงๆ เลี้ยงไม้น้ำไม่ค่อยสำเร็จเพราะ ให้ CO2 เยอะนะครับแต่ไม้โทรม เพราะ KH สูงเกินไปนี่เอง(KH ควรอยู่ที่ 3-4)
2.พรรณไม้ที่ใช้ พอเร่งความเร็ว CO2 แล้วใช้ CO2 อย่างคุ่มค่าไหม? ลองคิดเทียบดูว่าเราเร่ง CO2 สุดขีดดรอปเช็ค จนปลาลาตายหมดตู้ อนูเบียสกิ่งเดียว หรือเพิลหวีดที่พึ่งปักไปเมื่อวาน!! ปัญหาตะไคร่ก็คงยังไม่หมดไป เพราะ Free CO2 ที่ให้กับตู้ไม่มีใครเอาไปใช้ [on_007]
มาถึงสรุป ที่ผมพิมพ์ ยืดยาว การเร่ง CO2 ก็ขึ้นกับตู้เองด้วยหล่ะครับ ไม่ใช่อะไรๆ ก็เร่งๆๆ
ข้อมูลที่สำคัญยิ่งคืออัตราการสังเคราะห์แสง เกี่ยวกันกันโดยตรงกับระดับ CO2 ในตู้!! ถ้าเราคิดว่าตู้ไม้น้ำก็เหมือนอ่างใบหนึ่งที่ใส่สาหร่ายหางกระรอกเต็ม การสังเคราะห์แสงจะมีมากที่สุดตอนสายๆ และลดต่ำลงจากอัตราการสังเคราะห์สูงสุด น้อยกว่า 40% ในช่วงบ่าย ปัจจัยควบคุมก็คือสต๊อค CO2 หมดแล้วนั่นเอง เมื่อCO2 ถูกดึงไปจากน้ำ ตรงๆ แนวโน้มของน้ำใช่วงบ่ายๆ ในอ่างก็จะสูงขึ้นด้วย(CO2 ถูกเปลี่ยนไปทางด่าง ไบคาร์บอเนต) จากนั้นไม้น้ำไม่ทุกประเภทหรอกครับที่จะใช้ไบคาร์บอเนตในน้ำ เอามาแทน CO2 ได้ ไม้น้ำที่ใช้ไม่ได้จึงหยุดโต
CO2 จากแหล่งอื่นๆในตู้ไม้น้ำ มีมาจาก อาหารปลาและสารอินทรีย์ในดิน วัสดุปลูกที่ย่อยสลายด้วยจุลินทรีย์ที่ใช้อากาศ ใช้เลี้ยงไม้น้ำได้เช่นเดียวกันแต่ต้องถูกออกแบบให้มีการย่อยสลายเพียงพอ และมสัมพันธ์กับไม้ในตู้คนนี้ของคุณ NP นั้นหล่ะครับ
ในความคิดผม CO2 มากตะไคร่จะลดลงมันอยู่ที่ว่า 1.KH alkaliity(Carbonate hardness (KH) = bicarbonate (HCO3-)+carbonate (CO3--) ions) ของน้ำมันมากไปหรือน้อยไปด้วย เพราะถ้า KH สูงมากไป CO2 ที่เร่งฉีดเข้าไปตอนแรก จะถูกใช้ในการลด(สะเทิน) KH ก่อน พอ pH ลดลงถึงระดับที่ มี CO2 มากพอ ต้นไม้ถึงจะดูดซับไว้ได้ ตรงนี้ผมเคยเจอผู้เลี้ยงหลายท่านที่น้ำ KH สูงๆ เลี้ยงไม้น้ำไม่ค่อยสำเร็จเพราะ ให้ CO2 เยอะนะครับแต่ไม้โทรม เพราะ KH สูงเกินไปนี่เอง(KH ควรอยู่ที่ 3-4)
2.พรรณไม้ที่ใช้ พอเร่งความเร็ว CO2 แล้วใช้ CO2 อย่างคุ่มค่าไหม? ลองคิดเทียบดูว่าเราเร่ง CO2 สุดขีดดรอปเช็ค จนปลาลาตายหมดตู้ อนูเบียสกิ่งเดียว หรือเพิลหวีดที่พึ่งปักไปเมื่อวาน!! ปัญหาตะไคร่ก็คงยังไม่หมดไป เพราะ Free CO2 ที่ให้กับตู้ไม่มีใครเอาไปใช้ [on_007]
มาถึงสรุป ที่ผมพิมพ์ ยืดยาว การเร่ง CO2 ก็ขึ้นกับตู้เองด้วยหล่ะครับ ไม่ใช่อะไรๆ ก็เร่งๆๆ