Aqua.c1ub.net
*
  Mon 27/Oct/2025
หน้า: 1   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: นมแม่  (อ่าน 5161 ครั้ง)
นางฟ้าไร้ใจ ออฟไลน์
Club Brother
« เมื่อ: 01/12/10, [19:31:24] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เอามาให้อ่าน  เพราะจากกระทู้ก่อน คุ้น ๆ ว่า  หลายคนมีความเข้าใจเรื่องนี้ผิด

****************
เขียนโดย พญ. สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ
นมแม่มีประโยชน์สำหรับเด็กทุกอายุ  หากให้นานจนฟันแท้มา คือ อายุ 6-7 ปี  แม่และลูกจะได้ประโยชน์เต็มที่  หากให้น้อยกว่านั้น จะได้ประโยชน์ลดหลั่นกันไป  งานวิจัยพบว่า

·  ยิ่งให้นมแม่นาน  ยิ่งมีประโยชน์ต่อแม่ลูกคู่นั้น  ช่วยลดความเสี่ยงหลายโรค  (ในลูก  อาทิเช่น เบาหวาน  หัวใจ  ไขมันในเลือด  อ้วน   มะเร็งต่อมน้ำเหลือง  ภูมิแพ้  โรค SIDS  ทางเดินปัสสาวะอักเสบ  ลำไส้อักเสบ  ในแม่ อาทิเช่น เบาหวาน  หัวใจ  ไขมันในเลือด  อ้วน  มะเร็งเต้านม  มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก  มะเร็งรังไข่  กระดูกพรุน  กระดูกหัก  ไขข้ออักเสบรูมาตอยด์  โรคซึมเศร้า)
·  เม็ดเลือดขาว  สารภูมิคุ้มกันในนมแม่จะช่วยป้องกันไม่ให้ลูกป่วยบ่อย  จนกระทั่งร่างกายของลูกเริ่มสร้างภูมิคุ้มกันได้เต็มที่ เมื่ออายุ 6-7 ปี  จึงทำให้เด็กที่กินนมแม่ป่วยน้อยกว่า
·  ลูกมีระดับสติปัญญามากขึ้นตามระยะเวลาที่ได้กินนมแม่  เนื่องจากได้รับสารบำรุงสมองต่อเนื่อง  จนสมองพัฒนาเต็มที่ เมื่ออายุ 6-7 ปี
·  ระดับสารอาหาร  สารภูมิคุ้มกัน ที่อยู่ในนมแม่  บางอย่างมากขึ้น  บางอย่างเท่าเดิม  ตราบจนถึงวันที่นมแม่หยุดไหล  ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานกี่ปีก็ตาม  โดยที่แม่ไม่ได้เป็นโรคขาดอาหารขั้นรุนแรง
·  เด็กเริ่มจำความได้เมื่ออายุ 4-5 ปี  หากได้กินนมแม่นาน  ลูกจะจำได้เองว่าแม่ทำอะไรเพื่อเขาบ้าง  แม่รักเขามากเพียงใด  โดยที่เราไม่ต้องบอก  เขาจะเป็นเด็กไม่ดื้อ (งานวิจัยพบว่า นมแม่ช่วยลดปัญหาเด็กดื้อ  เด็กมีปัญหา)

งานวิจัยเหล่านี้  เป็นการศึกษาเปรียบเทียบเด็กสองกลุ่ม คือ เด็กที่กินนมแม่  เทียบกับเด็กที่กินนมผงค่ะ  ในเมื่อข้อเท็จจริงพบว่า  นมแม่ช่วยลดความเสี่ยงตามข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้น  อาจพูดได้ว่าการกินนมผงเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคต่างๆเหล่านี้นั่นเอง   ดังนั้น ผู้ผลิตนมผง  จึงควรเขียนเตือนไว้ข้างกระป๋องนมตัวโตๆว่า (เหมือนกับการเขียนเตือนข้างซองบุหรี่  สุรา)
“ไม่เหมาะสำหรับเลี้ยงทารก  เนื่องจากเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรค  อ้วน  เบาหวาน  โรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน โรคไขมันในเลือดสูง  โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ฯลฯ  ในลูก และเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งเต้านม  โรคกระดูกพรุน  ฯลฯ ในแม่   อาจทำให้ลูกสติปัญญาด้อยกว่าที่ควรจะเป็น  ระดับไอคิวลดลง 2-11 จุด  อาจทำให้ลูกป่วยบ่อย เนื่องจากไม่มีภูมิคุ้มกัน   อาจทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกถูกกระทบกระเทือน  ดังนั้น  จึงควรใช้ด้วยความระมัดระวัง  ควรใช้เมื่อจำเป็นจริงๆ   คิดให้ดีๆก่อนใช้  และต้องปรึกษาแพทย์  เพื่อพิจารณาหาวิธีเพิ่มน้ำนมคุณแม่ให้เต็มที่ก่อนที่จะตัดสินใจใช้นมผง”

       แต่ความเป็นจริงคือ  ในโลกของการค้าเสรี  และคนที่มีความรู้เรื่องนมแม่มีน้อย  จึงเป็นโอกาสของผู้ผลิตนมผง  ในการบิดเบือนข้อมูลแก่ผู้บริโภค  การโฆษณาในทีวี  นิตยสาร  คอลล์เซ็นเตอร์โทรหาคุณแม่อย่างไม่หยุดหย่อน  บอกให้เลิกนมแม่ได้แล้ว  ไม่มีประโยชน์แล้ว  และแนะนำให้กินนมยี่ห้อนี้  มีสารอาหารระดับพรีเมี่ยม  เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะตัว  บลาๆๆๆ    การจัดอีเว้นท์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับพัฒนาการของเด็ก  ความฉลาดของเด็ก  เสริมศักยภาพนู่นนี่  ทำให้ผู้บริโภคหลงเชื่อว่า  นมผงราคาแพงเหล่านี้  มีคุณภาพดีเทียบเท่ากับนมแม่  หรือ  ดีมากกว่านมแม่เสียอีก   ในฐานะที่เป็นแม่และเป็นหมอ  ได้แต่แอบหวังว่า  ในอนาคตจะมีผู้เห็นความสำคัญของสุขภาพเด็กอย่างแท้จริง  จะได้มีการสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างจริงจังและควบคุมการทำการตลาด ที่บิดเบือนอย่างรุนแรงของบริษัทนมผงเหล่านี้  ไม่ให้มากเกินไป
              ส่วนเรื่องน้ำหนักตัวขึ้นน้อย  ก่อนที่จะโทษว่าเป็นเพราะนมแม่ไม่พอ  ควรหาสาเหตุที่แท้จริง เช่น พ่อแม่อาจเป็นคนตัวเล็ก  ลูกอาจเป็นเด็กที่กินไม่เก่ง   ควรได้รับการประเมินว่านมแม่มีปริมาณน้อยจริงหรือไม่จากคลินิคนมแม่  หรือผู้เชี่ยวชาญ   ส่วนเรื่องคุณภาพของนมแม่  ไม่ต้องหวั่นไหว  คุณภาพดีตลอดอายุการใช้งาน  หากคุณแม่ไม่ได้เป็นโรคขาดสารอาหารขั้นรุนแรง
ถ้านมแม่เริ่มไม่พอ  วิธีการเพิ่มนมแม่ คือ การปั๊มให้บ่อยขึ้น  กินอาหารกระตุ้นน้ำนม  หาความรู้เพิ่มเติมจากเว็บนมแม่ (www.thaibreastfeeding.org , www.breastfeedingthai.com)   หรือ ปรึกษาคลินิกนมแม่

การให้นมแม่  สามารถใช้ชีวิตได้เกือบปกติค่ะ  เวลาแม่ป่วย หรือได้รับยาบางอย่าง  ส่วนใหญ่ให้นมได้  (หาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเว็บนมแม่   แต่ผู้ไม่ทราบเรื่องนมแม่  มักจะห้ามนู่นนี่หลายอย่างจนทำให้คุณแม่ใช้ชีวิตลำบาก)   ยกเว้นแต่กรณีที่ลูกมีปัญหาแพ้อาหารหลายอย่าง  ที่ทำให้คุณแม่ต้องงดอาหารเหล่านั้นด้วย  แต่บางทีวิกฤตก็เป็นโอกาสค่ะ  เช่น  กรณีที่ลูกแพ้นมวัว  คุณแม่ต้องหยุดกินนมวัวและผลิตภัณฑ์นมวัว  ปรากฏว่า  คุณแม่มีสุขภาพที่ดีขึ้นด้วย  เพราะที่จริงแล้วคุณแม่ก็เป็นโรคภูมิแพ้  ซึ่งก็แพ้นมวัวด้วยเหมือนกัน  แต่ที่ผ่านมาไม่ทราบ  ทำให้คุณแม่เป็นผื่นแพ้ หรือ เป็นหวัดบ่อย  หลังจากเลิกกินนมวัว  อาการผิดปกติของคุณแม่ก็ดีขึ้นด้วย  นอกจากนี้ยังทำให้คุณแม่ควบคุมน้ำหนักได้ด้วย  เพราะอาหารที่มีนมวัวเป็นส่วนประกอบ  ประเภทอร่อยๆทั้งหลาย เช่น ไอศกรีม  เค้ก  ชีส  ล้วนแต่เป็นอาหารเพิ่มน้ำหนัก หรือ ทำให้เป็นโรคอ้วนได้ง่าย  วิกฤตเป็นโอกาสอีกอย่าง คือ ทำให้คุณแม่สนใจหาความรู้เรื่องอาหารที่มีคุณภาพมากขึ้น  สนใจเรื่องความอร่อยถูกปากลิ้นน้อยลง  เพราะห่วงใยสุขภาพของลูก  ทำให้ดูแลเรื่องอาหารของตัวเองดีขึ้น  ไม่กินซี้ซั้วตามใจชอบเหมือนเดิม
                ส่วนเรื่องความยุ่งยากลำบากในการใช้ชีวิต เช่น การปั๊มนม  การถูกปลุกกลางดึกเวลาลูกกินนม (เด็กกินนมผง  ก็มีตื่นกลางดึกเหมือนกัน  แต่อาจไม่บ่อยเท่า)   เวลาท้อเวลาเหนื่อย   ให้คิดเสียว่า  ดีกว่าเหนื่อยเวลาลูกป่วยค่ะ  เพราะเวลาลูกป่วย  คุณพ่อคุณแม่ทุกท่านจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า  อยากจะป่วยแทนลูก  (เพราะเห็นลูกทรมานเวลาไข้ขึ้น  ต้องโดนเจาะเลือด  ให้น้ำเกลือทางเส้นเลือด  พ่นยาเคาะปอดดูดเสมหะ)   คุณแม่ทนเหนื่อยปั๊มนมให้นมลูกต่อไปอีกนานหน่อย  ส่วนคุณพ่อก็คอยให้กำลังใจคุณแม่  สู้ๆค่ะ  หมอเป็นกำลังใจให้

***************
เครดิต
http://mothercorner.com/index.php?topic=1775.0
waranz ออฟไลน์
Club Veteran
« ตอบ #1 เมื่อ: 02/12/10, [01:23:24] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ชอบมาก ตอน ไปเทิร์น ที่ตึกหญิงหลังคลอด ,,
มีพี่พยาบาลลคนนึง บอกแม่ กะยาย ว่า
"อยากใหห้ลูกเป็นลูกคน ก็ต้องให้กินนมแม่ นมคน ไม่ใช่ไปคนนนมวัว"
แล้วก็เพิ่งมารุ้ ว่า ,, ไอ้ GOS LCfos ที่ โฆษณากันตรึมในทีวี ว่าทำให้ลูกฉลาดอ่ะ
มันสังเคราะห์ขึ้นมาจากสัตว์ชนิดอื่นที่ไม่ใช่คน - - ,, แล้วเด็กอ่ะ จะไม่ดูดซึมเอา เพราะ ใช้ receptor  คนละตัวกัน - -
กะที่ได้จากนมคน นมแม่ !
หว่า ,, ระวังโดนหลอก ๆ ๆ ๆ  [on_003]
li13ra ออฟไลน์
Club Veteran
« ตอบ #2 เมื่อ: 02/12/10, [11:40:53] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

จริงๆ ตอนผมเรียน เค้าบอกว่า ให้นมแม่อย่างเดียวจน 6 เดือน
จากนั้นให้นมแม่ผสมอาหารอื่นๆ จน 1-2 ปี หรือจนอายุมากกว่านั้น

แต่ในความเป็นจริงที่ผู้ ญ ส่วนใหญ่ต้องทำงานคงให้นมแม่จนอายุ 1-2 ปีไม่ได้

อย่างไรก็ตาม 6 เดือนแรกสำคัญที่สุด ต้องให้นมแม่อย่างเดียว

TeMpeRatOr ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #3 เมื่อ: 02/12/10, [15:51:25] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

สนับสนุนให้เด็กได้กินนมแม่อีก 1 เสียงครับ 
มีความรู้สึกว่าเด็กสมัยนี้ก้าวร้าวพ่อ-แม่มากเลย
ผมก็ไม่รู้ว่ามีส่วนมาจากแม่สมัยนี้ไม่ค่อยให้ลูกกินนมแม่ด้วยหรือเปล่า
แต่ในใจผมคิดว่าเกี่ยวกันนะครับ
INTHANON ออฟไลน์
Club Veteran
« ตอบ #4 เมื่อ: 02/12/10, [15:57:17] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

สนับสนุนครับ กินนมแม่จนถึงที่สุดครับอย่าพึ่งให้หย่านมเร็วเกินไปแม่บางคนกลัวไม่สวยกลัวหย่อนยาน
~][Natto][~ ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #5 เมื่อ: 02/12/10, [16:34:25] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ถ้าอยากให้ลูกกินนมแม่ให้เยอะที่สุด(แบบว่าแม่มีเวลาอยู่กับลูกทั้งวัน) ช่วงใหนถึงจะให้หย่านมแม่ได้ครับ
เท่าที่คิดนี่คือจนถึงเข้าอนุบาลเลยได้มั้ยอ่ะครับ
Charlvee ออฟไลน์
Hot Member
« ตอบ #6 เมื่อ: 02/12/10, [17:28:33] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

จริงๆ ตอนผมเรียน เค้าบอกว่า ให้นมแม่อย่างเดียวจน 6 เดือน
จากนั้นให้นมแม่ผสมอาหารอื่นๆ จน 1-2 ปี หรือจนอายุมากกว่านั้น

แต่ในความเป็นจริงที่ผู้ ญ ส่วนใหญ่ต้องทำงานคงให้นมแม่จนอายุ 1-2 ปีไม่ได้


ให้ได้ครับ กลางคืนให้ดูดเต้า กลางวันปั๊มใส่ช่องฟรีสในออฟฟิศ กลับมาถึงบ้านก็แช่ตู้แช่ เอาไว้ให้ลูกกินตอนกลางวัน
INTHANON ออฟไลน์
Club Veteran
« ตอบ #7 เมื่อ: 02/12/10, [18:52:18] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ตอนนี้ลูกผมเกีอบสองปีแล้วยังกินนมแม่อยู่เลยแต่ให้กินช่วงเวลาจะนอน
ตอนกลางวันเขาไม่กินเราหัดเขาได้ครับกินได้เวลาไหนเวลาไหนห้ามกินหัดได้ครับ
นางฟ้าไร้ใจ ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #8 เมื่อ: 02/12/10, [18:52:47] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ทุกวันนี้ กลับมาแม่เปิน ต้องพยายามปั๊มนมเก็บให้ลูก

ต้องอาศัยช่วงก่อนเคารพธงชาติ   ตอนพักเที่ยง   หลังเลิกเรียน แล้วก็ 2 ทุ่ม  5 ทุ่ม  ตื่นอีกที ตี 4 ปั๊ม  
วนไปแบบนี้เรื่อย ๆ  มา ได้ 2 อาทิตย์แล้ว  เพลียมาก  แต่ทำได้เพื่อลูก

ทุกเย็นวันศุกร์  เอานมใส่ถังพลาสติก อัดน้ำแข็ง ยกกลับบ้านให้ลูก  
ถังแบบถังน้ำกีฬาสี สูงเท่าหัวเข่าอ่ะ  หนักมากกกกก
ยกจาก รร. ที่สอนห่างจาก อ. เมือง นครสวรรค์ 90 กว่า กม  ไปขึ้นรถตู้ที่นครสวรรค์ กลับ กทม.
ต้องเดินจากฝั่งตรงข้ามทางขึ้นรถไฟฟ้า BTS อนุเสาวรียชัยฯ วนรอบไปขึ้น BTS  
ลากกระตงถังนมเปลี่ยนสายรถที่สยาม มาลงสถานีสุรศักดิ์ แล้ว ขนลงไปขึ้นรถตุ๊ก ๆ กลับบ้าน  
ยกแขนแทบหลุด   กลับบ้านจับไข้

ตอนนี้เครียดเหมือนกัน  ไม่รู้ว่าจะมีน้ำนมออกอีกนานแค่ไหน [on_053]
นางฟ้าไร้ใจ ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #9 เมื่อ: 13/08/11, [21:04:21] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

http://www.springnewstv.tv/th/video/index.php?gid=23


วันแม่  คุณหมอจัดหนัก  ลองฟังดูนะคร๊า [เจ๋ง]
Coffman ออฟไลน์
Sponsor
« ตอบ #10 เมื่อ: 13/08/11, [21:11:03] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ลูกผม 2.8 กก. ดื่มนมแม่ 1 เดือน 4.2 กก. แล้ว
โตมาจะให้เป็นนักมวยปล้ำ  [on_065]
นางฟ้าไร้ใจ ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #11 เมื่อ: 14/08/11, [14:25:17] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ลูกผม 2.8 กก. ดื่มนมแม่ 1 เดือน 4.2 กก. แล้ว
โตมาจะให้เป็นนักมวยปล้ำ  [on_065]

ตอนนี้เป็นแม่อาสาอยู่ศูนย์นมแม่  มีอะไรปรึกาาได้ตลอดเลยนะคร๊า  เบอร์ตามข้างล่างเลย

http://www.facebook.com/thaibreastfeeding   แอดนี่ไปด้วย ปรึกษาได้หมดค่ะ
kukiert03 ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #12 เมื่อ: 14/08/11, [20:43:19] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

คือ ผมมีเรื่องตลก ที่ผมไม่เข้าใจว่า 

ผมกินนมเมีย แล้วมันน่า สะอิดสะเอียน มากเหรอครับ

ไม่ได้ทะลึ่งคือ อย่างงี้ครับ  ตอนนั้น เมียผมคลอดลูก แต่ผ่าครับ  น้ำนมก็เลยยังไม่ออกครับ  พยาบาลก้เลยต้องเอา นมผงมาให้กิน  ตอนหลัง พอน้ำนมออก  ก็อุ้มมากินจากเต้า ลูกก็ไม่ยอม  แม่ยาย ก้บอกสงสัยติดขวดนมแล้วล่ะ  ผมก็เลยไปซื้อ เครื่องปั้มมา  ก็ปั้มใส่ขวด  วันแรก ก้ไม่ยอม คือ ประมาณ ติดใจนมผงซะแล้ว  ไอ้เราก็เสียดาย นมที่ปั๊มออกมา  ก็เลยกิน  แม่ยาย น้องสาวเมีย  ทำท่าเหมือนจะอ้วก 

งงงงงงงง
นางฟ้าไร้ใจ ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #13 เมื่อ: 14/08/11, [23:39:04] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ก็กินได้ ไม่มีข้อห้าม
แต่แทนที่จะฝึกลูกกินนมแม่ ดันแย่งลูกกินนี่อะน่าตี - -
 [on_065] [on_065] [on_065]


Coffman ออฟไลน์
Sponsor
« ตอบ #14 เมื่อ: 15/08/11, [00:22:27] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ลองชิมดูมันๆ ไม่คาว แหะ [on_065] [on_065]
ราศี 12 ออฟไลน์
General Moderator
« ตอบ #15 เมื่อ: 15/08/11, [07:10:32] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ลองชิมดูมันๆ ไม่คาว แหะ [on_065] [on_065]
จากขวดเหรอ  emb01
Coffman ออฟไลน์
Sponsor
« ตอบ #16 เมื่อ: 15/08/11, [08:27:51] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

จากขวดเหรอ  emb01
ในตู้เย็น  [on_065]
Naxinho ออฟไลน์
Club Veteran
« ตอบ #17 เมื่อ: 15/08/11, [09:24:26] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ลูกสาว1ขวบ5เดือน กินแต่นมแม่มันตลอด ชอบอ้อน
บางคนเขาก็ไม่มีน้ำนมนะครับ พยายามยังไงก็ออกแต่ออกมาน้อย

นางฟ้าไร้ใจ ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #18 เมื่อ: 15/08/11, [13:14:24] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ถ้าอยากให้ลูกกินนมแม่ให้เยอะที่สุด(แบบว่าแม่มีเวลาอยู่กับลูกทั้งวัน) ช่วงใหนถึงจะให้หย่านมแม่ได้ครับ
เท่าที่คิดนี่คือจนถึงเข้าอนุบาลเลยได้มั้ยอ่ะครับ

ในนมแม่จะมีภูมิต้านทานจำเป็นค่ะ   เด็กจะสามารถสร้างภูมิต้านทานเองได้เมื่อายุประมาร 6-7 ขวบ  สังเกตจากการมีฟันแท้ขึ้นเป้นตัวบอกความพร้อมของร่างกาย

ง่าย ๆ นมแม่ กินจนกว่าฟันแท้จะงอกค่ะ
นางฟ้าไร้ใจ ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #19 เมื่อ: 15/08/11, [13:15:54] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เรา ๆ ก็กินได้ค่ะ  เป็นหวัดกินแล้วยังหายเลยอะ

ลองอ่านคลิปข่าวที่ลงไว้ให้อะค่ะ   ช่วยได้มากเลย  คุณหมอสุธีรา เค้าเชี่ยวชาญเรื่งอนี้  มือวางอันดับ 1 ของเมืองไทยแล้วค่ะ   

จริง ๆ อยากให้คุณหมอได้ออกรายการ ตี 10 จัง  -*-  คนจะได้ดูเยอะ ๆ
juku ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #20 เมื่อ: 16/08/11, [16:42:18] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ลองชิมดูมันๆ ไม่คาว แหะ [on_065] [on_065]
หวานนิดๆ เนอะ
kukiert03 ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #21 เมื่อ: 16/08/11, [17:31:10] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ก็กินได้ ไม่มีข้อห้าม
แต่แทนที่จะฝึกลูกกินนมแม่ ดันแย่งลูกกินนี่อะน่าตี - -
 [on_065] [on_065] [on_065]




ผมกินไปตั้งเยอะ  คือ ยังไงลูกก็ไม่ยอมคิด  ให้อดก็แล้ว  ก็ไม่ยอม คือ คงติดนมผงจริง  แล้ว นมเมียผมก็คัด  ก็ต้องปั้มออกมา  แหม  เลือดในออกผสม กลั่นเป็นน้ำนมให้ลูกดื่มกิน จะทิ้งก็เสียดาย  ก็กินดิ

เมียมีการบอก  กินนมชั้นแล้ว   ห้ามหือ   เอากับเมียผมสิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16/08/11, [18:19:03] โดย kukiert03 »
นางฟ้าไร้ใจ ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #22 เมื่อ: 16/08/11, [18:12:56] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

แอดเพจนมแม่ในเฟสบุคค่ะ  มีวิธีเลิกนมผง ให้กลับมากินนมแม่ได้เหมือนเดิมค่ะ
หน้า: 1   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: