Aqua.c1ub.net
*
  Fri 18/Jul/2025
หน้า: 1 2 3   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: มีเรื่องสีของไฟมาเล่าสู่กันฟังครับ จากประสบการณ์ตรง  (อ่าน 34330 ครั้ง)
o<n>e ออฟไลน์
Club Brother
« เมื่อ: 28/11/10, [18:37:54] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

      พอดีเปลี่ยนไฟตู้ที่บ้านแล้วเห็นความแตกต่างก็เลยเก็บมาเล่าสู่กันฟังซึ่งทั้งนี้สาเหตุเกิดจากไม่เก่งเรื่องวัตย์กับเรื่องคำนวนนะครับ
      เริ่มจากตู้ไม้น้ำที่บ้านตอนแรกใช้ไฟสีขาวออกฟ้าของฮอป้าหนะครับใครเคยใช้คงรู้ว่าสีเป็นแบบไหนขนาด 55 วัตย์ กับ บอยู่ 36 วัตย์ สีขาวเหลืองใช้ไปได้เกือบ 3 เดือน ผลที่ได้คือ ต้นไม้ทุกชนิด/ทุกต้นโดนกดหมดโตค่อนข้างช้า (หมายถึงมันไม่ค่อยยืดขึ้นสู่ผิวน้ำนะครับ) พูดง่าย ๆ คือปลูกมา 2 เดือนกว่าไม่ต้องตัดแต่งต้นไม้เลยโดยเฉราะไม้หน้าตู้ เช่น พวกกรอสโซ่กับอีเล่นไทม์โดนกดแบนติดพื้นไม่ยอมเลื้อยไม่ยอมโตแต่รู้ว่าไม่ตายรากก็ออกดีส่วนใบค่อนข้างเหลิองตอนแรกผมไม่คิดว่าจะเป็นไฟคิดว่าน่าจะเป็นเพราะขาดปุ๋ย คาร์บอน แร่ธาตุบางตัวหรือ อาจเป็นเพราะกรอง (ตอนแรกใช้กรองแขวนกังเรื่องระบบถ่ายเทน้ำและความสะอาด) ซึ่งผมก็แก้ปัญทุกอย่างตามที่สันนิฐานไว้จนหมดแต่ก็ไม่ดีขึ้นจึงลองเปลี่ยนไฟดูโดยเปลี่ยนจากบอยู่สีขาวเหลืองเ 36 วัตย์เป็นฮอป้าขาวฟ้า 55 วัตย์สรุปว่าต้นไม่ในตู้ทุกต้นที่ปลูกมา 2 เดือนกว่าแทบไม่มีความคืบหน้าด้านการเจริญเติบโตกลับโตไวขึ้นหลายเท่าหลังจากเปลี่ยนไฟประมาณ 2-3 สัปดาห์ก็สามารถตัดแต่งเอาลงมาปักเสริมต้นแม่ได้ส่วนกรอสโซ่และอีเลนไทม์ก็เลื้อยชูยอดเขียวสด สวยงามผิดหูผิดตาทุกวันนี้ผมก็เลยยังงงกับตัวเองว่าที่เข้าใจเรื่องวัตย์กับสีของไฟมันตลอดมาถูก หรือ เปล่าซึ่งในความเข้าใจของผมในตอนแรกแล้วสีของไฟนั้นแทบจะไม่มีผลกับต้นไม่อาจมีบ้างแต่ก็ไม่ถึงกับแสดงความแตกต่างของต้นไม้ออกมาได้อย่างเด่นชัดแต่ที่มีผลกับต้นไม้น่าจะเป็นเรื่องวัตย์กำลังไฟมากกว่า กล่าวคือ เมื่อนำวัตย์ไฟมาคำนวนแล้วได้ 0.7/ลิตร หรือ มากกว่าต้นไม้สามารถเจริญเติบโตได้...แต่เมื่อเกิดเหตุการแบบนี้ขึ้นจึงทำให้ผมเปลี่ยนความคิดเพิ่มขึ้นอีกนิดหน่อยจากเดิมคือ...ไฟ 0.7/ลิตร หรือ มากกว่าต้นไม้สามารถเจริญเติบโตได้แต่ต้นไม้จะเจริญเติบโตสวยงามได้ดีแค่ไหนขึ้นอยู่กับสีของซึ่งก็ไม่ทราบว่าที่คิดแบบนี้ถูกหรือไม่แต่ที่ทำให้คิดแบบนั้นเพราะประสบกับตัวเองมาจึงทำให้เชื่อ
      ทั้งนี้หากผู้รู้มีข้อคิดเห็นประการณ์ไดสามารถชี้แจงและอธิบายหลักการที่ถูกต้องได้ครับ
Art_of_Nature ออฟไลน์
Club Champion
« ตอบ #1 เมื่อ: 28/11/10, [18:52:11] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

สีของหลอดไฟมีผลกับไม้น้ำโดยตรงแน่นอนครับ  เพราะความยาวของคลื่นแสงของแต่ละสีไม่เท่ากัน
อย่างตู้24ของไฟใช้ไฟ55W 2โคม โคมนึงใช้หลอดฟ้าชาว  อีกโคมใช้ออกเหลืองแบบ ฟิลลิปส์865
ลองหาอ่านดูในห้องสมุดได้ครับเหมือนเคยเห็นมีเรื่องความยาวของคลื่นแสงอยู่
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28/11/10, [18:57:55] โดย sun_un »
NP ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #2 เมื่อ: 28/11/10, [23:08:14] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

คำแนะนำที่ว่า สีของแสงไม่เกี่ยวนั้น จะว่าผิดก็ไม่ใช่ ถูกก็ไม่เชิง

ที่ว่าผิดก็ไม่ใช่ เพราะหลอดที่ให้สีต่างกัน อาจจะปลูกต้นไม้ได้งามเท่ากันก็ได้
ส่วนที่ว่าถูกก็ไม่เชิง เพราะถ้าคุณเอาหลอด LED แบบมีแต่คลื่นแสงสีเขียว (ซึ่งก็แหงละ คุณจะเห็น
เป็นแสงสีเขียวแน่ๆ) มันก็ไม่น่าจะดีกับต้นไม้ ไม่ว่าจะสว่างแค่ไหน

อธิบายแบบง่ายที่สุดภายในสองบรรทัดก็คือ

"แสงที่คุณเห็นว่าสีเดียวกัน อาจจะประกอบด้วยคลื่นแสงที่ต่างกันมากก็ได้ การสังเคราะห์แสงของต้นไม้จะใช้
ช่วงความยาวคลื่นอยู่ช่วงหนึ่งเท่านั้น ทำให้หลอดบางยี่ห้อโตดีกว่าอีกยี่ห้อ ทั้งที่วัตต์เท่ากัน สีของแสงก็คล้ายกัน"

ดังนั้น การตัดสินว่าหลอดไหนดีโดยไม่ต้องซื้อไปทดลองปลูก ก็คือ การใช้เครื่องมือวัดแสงที่เรียกว่า
PAR Meter ซึ่งจะวัดเฉพาะคลื่นแสงที่พืชหรือปะการังเอาไปสังเคราะห์แสงได้ (ไม่ได้ใช้ Lux Meter ซึ่ง
วัดแสงที่ตาเห็น หรือดูเอาว่าแสงมันออกเหลือง เขียว หรือฟ้า ฯลฯ)


สองหลอดนี้ให้สีต่างกันมาก แต่ค่า PAR กลับได้ใกล้เคียงกัน
เครดิต: http://www.plantedtank.net/forums/lighting/85667-par-data-spiral-power-saver-bulbs-2.html



รูป PAR Meter (ใช้ได้ทั้งตู้ไม้น้ำและตู้ทะเล)
เครดิตรูป: reefbuilders.com



สรุปแบบเปรียบเทียบนะครับ โอเค สมมุติคุณยึดถือเอาว่า ของรสหวาน = ให้พลังงาน

การยึดถือแบบนี้มันใช้ไม่ได้จริงครับ เพราะน้ำตาลเทียมหวานเจี๊ยบก็มีรสหวาน แต่ไม่มีพลังงาน
ส้มที่เปรี้ยวจี๊ดยังให้พลังงานมากกว่าอีก

ประสาทตาเราถูกหลอกได้เช่นเดียวกับต่อมรับรสบนลิ้นครับ คลื่นแสงที่ต่างกันบางช่วง
สามารถกระตุ้นมันได้พอๆ กัน

หลอดไฟที่ให้สีเหมือนกัน ก็เลยอาจปลูกต้นไม้ดีไม่เท่ากัน และในทางตรงข้าม หลอดไฟ
ที่ให้สีต่างกัน อาจจะปลูกต้นไม้ได้ดีพอๆ กันก็ได้



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29/11/10, [00:18:52] โดย NP »
Champies ออฟไลน์
Hot Member
« ตอบ #3 เมื่อ: 28/11/10, [23:50:18] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ยี่ห้อไหนดีก็ใช้ยี่ห้อนั้น [on_065]
OoKabukioO ออฟไลน์
Sponsor
« ตอบ #4 เมื่อ: 28/11/10, [23:52:03] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

คำแนะนำที่ว่า สีของแสงไม่เกี่ยวนั้น จะว่าผิดก็ไม่ใช่ ถูกก็ไม่เชิง

ที่ว่าผิดก็ไม่ใช่ เพราะหลอดที่ให้สีต่างกัน อาจจะปลูกต้นไม้ได้งามเท่ากันก็ได้
ส่วนที่ว่าถูกก็ไม่เชิง เพราะถ้าคุณเอาหลอด LED แบบมีแต่คลื่นแสงสีเขียว (ซึ่งก็แหงละ คุณจะเห็น
เป็นแสงสีเขียวแน่ๆ) มันก็ไม่น่าจะดีกับต้นไม้ ไม่ว่าจะสว่างแค่ไหน

อธิบายแบบง่ายที่สุดภายในสองบรรทัดก็คือ

"แสงที่คุณเห็นว่าสีเดียวกัน อาจจะประกอบด้วยคลื่นแสงที่ต่างกันมากก็ได้ การสังเคราะห์แสงของต้นไม้จะใช้
ช่วงความยาวคลื่นอยู่ช่วงหนึ่งเท่านั้น ทำให้หลอดบางยี่ห้อโตดีกว่าอีกยี่ห้อ ทั้งที่วัตต์เท่ากัน สีของแสงก็คล้ายกัน"

ดังนั้น การตัดสินว่าหลอดไหนดีโดยไม่ต้องซื้อไปทดลองปลูก ก็คือ การใช้เครื่องมือวัดแสงที่เรียกว่า
PAR Meter ซึ่งจะวัดเฉพาะคลื่นแสงที่พืชหรือปะการังเอาไปสังเคราะห์แสงได้ (ไม่ได้ใช้ Lux Meter ซึ่ง
วัดแสงที่ตาเห็นแบบที่บ้านเรายึดถือกัน หรือดูเอาว่าแสงมันออกเหลือง เขียว หรือฟ้า ฯลฯ)


สองหลอดนี้ให้สีต่างกันมาก แต่ค่า PAR กลับได้ใกล้เคียงกัน



รูป PAR Meter (ใช้ได้ทั้งตู้ไม้น้ำและตู้ทะเล)






สุดยอดมากครับ ขอบคุณมากครับ อ่านเข้าใจง่ายดี  [เจ๋ง]
Anubias ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #5 เมื่อ: 29/11/10, [01:10:38] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ในใจ ยกให้ Azoo สว่าง เฉดสีสวย และโตดี ทนด้วย
siegheart ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #6 เมื่อ: 29/11/10, [03:25:10] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

สีของหลอดไฟนั้นมันขึ้นอยู่กับประเภทไม้ที่ปลูกด้วยรึเปล่าครับ คืออ่านแล้วยังไม่แน่ใจน่ะครับ
o<n>e ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #7 เมื่อ: 29/11/10, [06:09:59] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

อธิบายแบบง่ายที่สุดภายในสองบรรทัดก็คือ

"แสงที่คุณเห็นว่าสีเดียวกัน อาจจะประกอบด้วยคลื่นแสงที่ต่างกันมากก็ได้ การสังเคราะห์แสงของต้นไม้จะใช้
ช่วงความยาวคลื่นอยู่ช่วงหนึ่งเท่านั้น ทำให้หลอดบางยี่ห้อโตดีกว่าอีกยี่ห้อ ทั้งที่วัตต์เท่ากัน สีของแสงก็คล้ายกัน"

ขอโทษครับอยากถามว่ามีวิธีอธิบายแบบลูกทุ่งหรือชี้เฉพาะเจาะจงได้ไหมครับเผื่อคนที่โคตะระโง่อย่างผมอ่านแล้วไม่เข้าใจงะอย่าเพิ่งด่านะครับแม่กับพ่อให้มาน้อยครับ
ซามูไรศพหมา ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #8 เมื่อ: 29/11/10, [08:16:01] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ตอนนี้ผมก็กำลังงงกับ T5HO ทำกรอซโซยืดเอาๆ  [on_008]
Anubias ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #9 เมื่อ: 29/11/10, [12:03:00] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ไหนๆก็ตั้งกระทู้เกี่ยวกับสีของหลอดละ ขอยกตัวอย่างของร้านขายปลาที่เลี้ยงคู่กับไม้น้ำในสวนนะครับ ผมสังเกตุว่า เขาเลี้ยงแค่หลอด Toshiba T8 Aquarium & plant หลอดเดียว สีชมพูอมม่วง ดูเหมือนไม่ค่อยจะสว่างเลย (ย้ำว่าหลอดเดียวจริงๆ)ขั้วหลอดก็ดำเหมือนใช้มานานแล้ว แต่สภาพต้นไม้คืออยู่ได้ มีการแตกใบใหม่ สีสันอยู่ในเกณฑ์ที่ว่าโอเคนะ เพราะเลี้ยงแบบไม่มีปัุจจัยอะไรเลย พืชที่เลี้ยงก็เป็นพวกคริป รากดำใบแคบ บัวไทเกอร์ มอสจาว่า ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ สามารถอยู่ได้ ถึงจะโตไม่เร็ว ไม่ดก ไม่เขียวสด แต่ไม่เคยมีอาการเน่า ใบละลาย ตะไคร่รุมเร้าหรือเหลืองตายจากการขาดปัจจัยต่างๆเลย ผมชอบไปถามๆพี่ร้านนี้ เขาก็บอกว่า ไม่ได้ทำอะไรกะมันเลย เลี้ยงปล่อยๆ จิ้มๆแล้วก็ไม่ได้สนใจ แต่สังเกตุได้ประเด็นนึงคือ เขาเปลี่ยนน้ำอยู่เป็นระยะ เพราะเขาต้องเอาปลามาลงเยอะๆเพื่อขาย  นี่ก็เป็นอีกขัอสังเกตุนึงว่า ทำไมเขายังเลี้ยงได้ แต่ทำไม่เราเลี้ยงไม่รอดหรือมีปัญหา ลองกลับไปเริ่มต้นแบบเบสิกกันดู เผื่อจะมีมุมมองอะไรที่ง่ายและเลี้ยงได้รอดก็ได้ เราจะได้มีอีกโลกทัศน์นึงของความเข้าใจในการเลี้ยงไม้น้ำ  
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11/10/11, [07:58:27] โดย Anubias »
Anubias ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #10 เมื่อ: 29/11/10, [12:09:42] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

อ่อ และจุดเด่นของการเลี้ยงด้วยหลอดยี่ห้อที่ว่านี้ มันมักจะทำให้ต้นไม้มีขนาดที่แคระลงมา สั้น ใบแผ่ออกด้านข้างดี ซึ่งในมุมมองของผมเอง มันเป็นอะไรที่เหมาะกับตู้ขนาดเล็ก เพราะจะได้ไม่ต้องตัดแต่งบ่อย สัดส่วนของต้นไม้กับตู้ก็ดูไม่รกตา...เห็นแล้วชอบอะ พูดแค่นี้
John-Amazonas ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #11 เมื่อ: 29/11/10, [12:45:08] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

สุดยอดครับผมมม [เจ๋ง]
gungo ออฟไลน์
Club Champion
« ตอบ #12 เมื่อ: 29/11/10, [13:40:40] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ตามความเข้าใจของผมนะครับอธิบายง่ายเลยแบบลูกทุ่งๆ
สีของหลอดไฟที่แสดงนั้นมันจะหลอกสายตาเรา(ถ้าคลื่นแสงไม่ได้ทำมาเพื่อไม้น้ำมันนั้นก็จะทำให้ต้นไม้สังเคราะห์แสงได้ไม่เต็มที่)
แต่คลื่นแสงนั้นรู้ไม่สามารถมองเห็นว่ามันแสดงออกมาทางสีอะไร(หลอดไฟไม้น้ำที่ทำเฉพาะจึ่งแพง) [on_051]
[on_018] เพราะหลังจากที่ผมทดลองด้วยตัวผมเองนั้นถึงไฟจะแรงแต่หลอดไม่ได้มีคลื่นแสงที่เหมาะสมกับไม้น้ำนั้นต้นไม้ก็ไม่ค่อยจะโตเท่าไหร่ แต่หลอดที่คลื่นแสงเหมาะกับไม้น้ำนั้นถึงไฟจะเบากว่าแต่ต้นไม้ก็โตดีกว่าและสวยกว่าครับ
Correct!สีของน้ำก็มีผลต่อการหักเหของแสงครับบางคนบอกไม่เกี่ยวแต่สำหรับผมนั้นเต็มๆครับ
underdog ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #13 เมื่อ: 29/11/10, [14:19:12] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

สรุป HOPAR ดีหรือเปล่าครับเนี่ย

ผมก็ใช่อยู่ แต่ผสมกับ AZOO ด้วย
ต้นไม้เจริญงอกงาม แสงสวยดี ปนๆมั่วๆกันไป
gungo ออฟไลน์
Club Champion
« ตอบ #14 เมื่อ: 29/11/10, [15:18:53] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

สรุป HOPAR ดีหรือเปล่าครับเนี่ย

ผมก็ใช่อยู่ แต่ผสมกับ AZOO ด้วย
ต้นไม้เจริญงอกงาม แสงสวยดี ปนๆมั่วๆกันไป

hopar ดีในระดับนึง(สมราคาครับ)
Soda-Yen ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #15 เมื่อ: 29/11/10, [16:09:01] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

อยากรู้ พวกหลอดแสงจันทร์เนี่ยมันเลี้ยงได้ไหมครับ
Coffman ออฟไลน์
Sponsor
« ตอบ #16 เมื่อ: 29/11/10, [16:22:31] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

คำแนะนำที่ว่า สีของแสงไม่เกี่ยวนั้น จะว่าผิดก็ไม่ใช่ ถูกก็ไม่เชิง

ที่ว่าผิดก็ไม่ใช่ เพราะหลอดที่ให้สีต่างกัน อาจจะปลูกต้นไม้ได้งามเท่ากันก็ได้
ส่วนที่ว่าถูกก็ไม่เชิง เพราะถ้าคุณเอาหลอด LED แบบมีแต่คลื่นแสงสีเขียว (ซึ่งก็แหงละ คุณจะเห็น
เป็นแสงสีเขียวแน่ๆ) มันก็ไม่น่าจะดีกับต้นไม้ ไม่ว่าจะสว่างแค่ไหน

อธิบายแบบง่ายที่สุดภายในสองบรรทัดก็คือ

"แสงที่คุณเห็นว่าสีเดียวกัน อาจจะประกอบด้วยคลื่นแสงที่ต่างกันมากก็ได้ การสังเคราะห์แสงของต้นไม้จะใช้
ช่วงความยาวคลื่นอยู่ช่วงหนึ่งเท่านั้น ทำให้หลอดบางยี่ห้อโตดีกว่าอีกยี่ห้อ ทั้งที่วัตต์เท่ากัน สีของแสงก็คล้ายกัน"

ดังนั้น การตัดสินว่าหลอดไหนดีโดยไม่ต้องซื้อไปทดลองปลูก ก็คือ การใช้เครื่องมือวัดแสงที่เรียกว่าPAR Meter ซึ่งจะวัดเฉพาะคลื่นแสงที่พืชหรือปะการังเอาไปสังเคราะห์แสงได้ (ไม่ได้ใช้ Lux Meter ซึ่ง
วัดแสงที่ตาเห็น หรือดูเอาว่าแสงมันออกเหลือง เขียว หรือฟ้า ฯลฯ)



สองหลอดนี้ให้สีต่างกันมาก แต่ค่า PAR กลับได้ใกล้เคียงกัน
เครดิต: http://www.plantedtank.net/forums/lighting/85667-par-data-spiral-power-saver-bulbs-2.html



รูป PAR Meter (ใช้ได้ทั้งตู้ไม้น้ำและตู้ทะเล)
เครดิตรูป: reefbuilders.com



สรุปแบบเปรียบเทียบนะครับ โอเค สมมุติคุณยึดถือเอาว่า ของรสหวาน = ให้พลังงาน

การยึดถือแบบนี้มันใช้ไม่ได้จริงครับ เพราะน้ำตาลเทียมหวานเจี๊ยบก็มีรสหวาน แต่ไม่มีพลังงาน
ส้มที่เปรี้ยวจี๊ดยังให้พลังงานมากกว่าอีก

ประสาทตาเราถูกหลอกได้เช่นเดียวกับต่อมรับรสบนลิ้นครับ คลื่นแสงที่ต่างกันบางช่วง
สามารถกระตุ้นมันได้พอๆ กัน

หลอดไฟที่ให้สีเหมือนกัน ก็เลยอาจปลูกต้นไม้ดีไม่เท่ากัน และในทางตรงข้าม หลอดไฟ
ที่ให้สีต่างกัน อาจจะปลูกต้นไม้ได้ดีพอๆ กันก็ได้




ในเรื่องเครื่องวัดหรือ ค่า par  ใช้เปรียบเทียบหากมีการทดสอบหลอดไฟที่มีขายกันเกลื่อนก็คงเป็นอานิสงค์ไม่น้อยกับคนเลี้ยงไม้น้ำอย่างเราท่าน

แต่การใช้งาน Lux meter กับ Quantum meter ต่างกันพอสมควร
 
Lux meter ใช้วัด ความส่องสว่าง (อิลูมิแนนซ์) หมายถึงปริมาณแสงที่กระทบลงบนวัตถุต่อพื้นที่ มีหน่วยเป็น ลูเมนต่อตารางเมตร หรือ ลักซ์ ประโยชน์ในตู้ไม้น้ำจริงๆน่าจะเกี่ยวกับการเปลี่ยนหลอด เนื่องจากเมื่อหลอดมีอายุการใช้งานยาวนาน ความส่องสว่างย่อมลดลง

ขออธิบายค่า PAR ไว้สักนิดนะครับ
ค่า   Photosynthetically Active Radiation (PAR) ที่เราใช้ตัดสินว่า หลอดนั้นมีช่วงคลื่นของช่วงที่เหมาะสมในการสังเคราะห์แสงเหมาะสมจริง จะใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า The quantum meter  

ซึ่งจะแสดงตัวเลขตอบสนองวิ่งตั้งแต่   of 400 to 700 nm. ซึ่งเป็นช่วงความยาวคลื่นแสงที่ตาสามารถมองเห็นได้  มีหน่วยเป็น   micromols per square meter per second ของ Photo Synthetic Photon Flux (PPF)  หรือมักย่อๆว่า   micromols   หรือบางทีก็ไม่ใส่หน่วย



แต่ Quantum  meter ที่ใช้วัดค่า PAR เป็นค่า spectrum เฉลี่ย ที่ได้จากช่วงคลื่นที่ตอบสนองจากเซ็นเซอร์ แน่นอนว่ามันรวมช่วงคลื่นที่เป็นสี แดง- ม่วง ไปด้วย คุณภาพคงต้องขึ้นกับผู้ผลิตว่าตอบสนองแล้วเฉลี่ยออกมาเป็นค่าเท่าไหร่ %  response ของแต่ละยี่ห้อก็ไม่เท่ากัน

The LI-COR model LI-190SA Quantum Sensor  

อันนี้ยี่ห้อ apogee



หากเอามาตัดสินว่าหลอดอะไร เหมาะกับการเลี้ยงไม้น้ำได้ต้องมากำหนดพารามิเตอร์กันยกใหญ่ แน่เพราะ มันวัดได้เหมารวมๆแค่ ช่วงแสงเฉลี่ยที่หัวเซ็นเซอร์(ต่างยี่ห้อต่างคุณสมบัติ) ไป ถึง จุดที่ไม้น้ำปลูกได้เท่าไหร่ การรายงานผล PAR จึงต้องกำหนดระยะก่อนคุยกันทุกครั้ง เช่นกระทู้นี้ http://www.nano-reef.com/forums/index.php?showtopic=151365 การรายงานต้องมีระยะกำกับทุกครั้ง และเห็นได้ชัดเจนว่าค่า par ที่วัดได้ยังไม่ได้บอกถึงช่วงคลื่นแสง ที่โคมไฟ(ในที่นี้ใช้ MH) ว่าโน้มเอียงไปทางไหน
PAR - 151 micromoles @ 12" ระยะสำคัญมากถ้าคุยเรื่อง PAR


แล้วอย่างเราท่านที่ไม่มีมิเตอร์ วัดทำยังไง ?
ผมแนะนำให้ดูช่วงค่า K บนหลอด ร่วมกับดู Lumen ครับ ส่วนใหญ่ เขียนไว้ที่ขั้วหลอด
ค่าที่แนะนำ 6500k-10000k
lumen กำลังส่องสว่างที่มักขึ้นกับชนิดของหลอดไฟ
องศาเคลวิน
การบอกสีทางด้านการส่องสว่างมักด้วยอุณหภูมิสี ซึ่งหมายถึงสีที่เกิดจากการเผาไหม้วัสดุสีดำซึ่งมีการดูดซับความร้อนได้สมบูรณ์ด้วยอุณหภูมิที่กำหนด  เช่น หลอดฟลูออเรสเซนต์คูลไวท์มีอุณหภูมิสี 6500 องศาเคลวิน หมายถึง เมื่อเผาวัตถุสีดำให้ร้อนถึงอุณหภูมิ 6500  เคลวิน วัตถุนั้นจะเปล่งแสงออกมาเป็นสีคูลไวท์หรือขาวปนน้ำเงิน เป็นต้น
ตัวอย่างอุณหภูมิสีของหลอดต่างๆเป็นดังนี้น
เทียนไข                                                          1900    เคลวิน
หลอดอินแคนเดสเซนต์                                       2800    เคลวิน
หลอดฟลูออเรสเซนต์- เดย์ไลท์ (Daylight )            6500    เคลวิน
- คูลไวท์ (Cool White )                                     4500   เคลวิน
- วอร์มไวท์ (Warm White )                     3500   เคลวิน

ค่า K บอกอะไร บอกสัดส่วนของช่วงคลื่นครับ เช่น
Philips 175-watt 4,000° K metal halide  จะเห็นว่าสัดส่วนค่า สีเฉลี่ย แดงเขียวเท่าๆกัน น้ำเงินน้อยกว่านิดหน่อย



แต่หลอด Aquarium Lighting Systems 175-watt 12,000°K "Sunburst" metal halide lamp
กลับมีช่วงสีน้ำเงินมากกว่า


ช่วงค่าที่ 10000 k ขึ้นไป เมื่อเทียบกับ 6500 k แล้ว

ความรู้บางส่วนเกี่ยวกับค่า K ที่น่าสนใจในการเลี้ยงไม้น้ำ
      * คลอโรฟิลล์ในพืช ส่วนใหญ่ต้องการความยาวคลื่นที่   300 - 700 nm ( ช่วงสมดุลย์ที่ดีที่สุดประมาณ 6400 K)  
      * ค่า K ที่ต่ำลง ไฟจะมีสีค่อนไปทางเหลือง The lower the "K", the more yellow, then red the light appears, such as a 4500 K bulb.
      * ค่า K ที่สูงขึ้น ไฟจะมีสีค่อนไปทางน้ำเงิน
      * ค่า K ที่สูงขึ้น จะสามารถส่งแสงสว่างผ่านน้ำไปได้ลึกกว่า (ทั้งน้ำจืดและน้ำทะเล ทำไมเลี้ยงก้นตู้ถึงต้องการหลอดบลู)

     * ดวงตามนุษย์เห็นแสงที่มีช่วงความยาวคลื่นส่วนใหญ่ 5500K
      *ช่วงแสง 6500K เหมาะสมและเพียงพอต่อการเลี้ยงไม้น้ำ  แต่ในน้ำทะเลที่มีความหนาแน่นของน้ำ เข้ามาเกี่ยวข้อง แสง 6500K จึงไม่สามารถส่องลึกลงถึงก้นตู้        
      *แสง 10,000K  สามารถเลี้ยงไม้น้ำและให้ผลการเติบโตที่ดี แต่ช้ากว่า แสง 6500K ในตู้ไม้น้ำที่ไม่ลึกมาก  
      *หลอด 10,000K จะให้ค่า PAR ที่ดี ที่ระดับความลึกมากกว่าหลอด 6500K (เทียบกันที่ความลึกมากกว่า 20 นิ้วจะเห็นผลชัดเจน)

      *หลอดที่มีค่า K มากเกินไป 12000K++ สามารถชักน้ำให้ตะไคร่เติบโตขึ้นได้ (ความลึกของแสงสว่างก็มีส่วนเกี่ยวข้องให้เกิดตะไคร่ก้นตู้มากขึ้นได้)  
      *การเลือกใช้หลอดต้องดูระยะความลึกของตู้ กำลังส่องสว่าง lumens per watt, watts, focused lumensให้เหมาะสมกับชนิดหลอดนั้นๆ เช่นหลอด T8 6400K กับ หลอด MH 6400K  
      

http://www.tieathai.org/know/general/general0.htm
http://www.advancedaquarist.com/issues/feb2002/Feature.htm <<< แนะนำ
http://www.americanaquariumproducts.com/Aquarium_Lighting.html <<<<แนะนำ ผู้เลี้ยงตู้ทะเลครับ
http://www.plantedtank.net/forums/lighting/85667-par-data-spiral-power-saver-bulbs-2.html
http://aquariumdigest.wordpress.com/2010/10/05/photosynthesis-and-par/
https://premiumaquatics.com/aquatic-supplies/20k-400U.html
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29/11/10, [20:27:27] โดย coffman »
Near ออฟไลน์
C1ub Event Staff
« ตอบ #17 เมื่อ: 29/11/10, [16:36:19] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ผมว่ามันมีสองเรื่องอ่ะ
เรื่องหนึ่งคือ หลอดไหนกันแน่ที่เหมาะกับต้นไม้ (คลื่นแสงที่ต้นไม้ต้องการ และเติบโตได้เต็มที่)
เรื่องที่สองคือ หลอดไหนกันแน่ที่เหมาะกับเรา (ดูแล้วสวยสบายตา และอยู่ในงบประมาณที่มี)

ทำความเข้าใจทั้งสองเรื่องแล้วหาความพอดีให้เจอ แล้วก็เลี้ยงไปอย่างมีความสุข เท่าที่ใจต้องการ [on_047]

อธิบายแบบง่ายที่สุดภายในสองบรรทัดก็คือ

"แสงที่คุณเห็นว่าสีเดียวกัน อาจจะประกอบด้วยคลื่นแสงที่ต่างกันมากก็ได้ การสังเคราะห์แสงของต้นไม้จะใช้
ช่วงความยาวคลื่นอยู่ช่วงหนึ่งเท่านั้น ทำให้หลอดบางยี่ห้อโตดีกว่าอีกยี่ห้อ ทั้งที่วัตต์เท่ากัน สีของแสงก็คล้ายกัน"

ขอโทษครับอยากถามว่ามีวิธีอธิบายแบบลูกทุ่งหรือชี้เฉพาะเจาะจงได้ไหมครับเผื่อคนที่โคตะระโง่อย่างผมอ่านแล้วไม่เข้าใจงะอย่าเพิ่งด่านะครับแม่กับพ่อให้มาน้อยครับ
ลองมองแบบนี้ดูครับ
อาหารจานเดียวกัน ทั้งๆที่ในจานนั้นมีชูรส มะนาว น้ำปลา พริก น้ำส้มสายชู ครบหมด
อะไรจะมากน้อย จะน้อยก็อยู่ที่รสมือแม่ครัว สมมติว่าถ้าอาหารจานนั้นรสกลมกล่อม
คือมันสมดุลย์กัน คนกินส่วนมากบอกอร่อย แต่คนชอบทานเค็มจัด เปรี้ยวจัด ก็จะบอกว่ามันจืด ไม่น่าทาน

อาหารก็คือหลอดไฟ (ที่ข้างในก็มีทุกรสนั่นแหละ อะไรมากอะไรน้อยก็ว่ากันไป ตามรุ่น ตามยี่ห้อ)
คนทานอาหารก็คือเรา (ที่ชอบมองแสงโทนไหนมากกว่ากัน มักอ้างอิงง่ายๆจากค่า K)
ต้นไม้ก็คือคนที่ชอบทาน เค็มจัด เปรี้ยวจัด (เช่นความยาวคลื่นแสงสีแดงคือเค็ม สีเขียวฟ้า(จำผิดๆ)คือเปรี้ยว)

คราวนี้คนชอบเค็มจัด เปรี้ยวจัด จะให้เค้า้มาอร่อยกับอาหารรสกลมกล่อมมันก็ใช่ที่ จริงมะ [on_065]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29/11/10, [17:13:43] โดย Near »
Soda-Yen ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #18 เมื่อ: 29/11/10, [16:37:23] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

โห...มาเต็มกันทุกคน  [mo_001] [mo_001]
NP ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #19 เมื่อ: 29/11/10, [16:41:51] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ครับ PAR หรือ Quantum Meter มันวัดไม่ได้ละเอียด ว่าเน้นช่วงไหนบ้าง (เพราะถ้าจะเอาละเอียด
แบบนั้น ต้องใช้ Spectrophotometer ครับ ผมเคยมีใช้อันนึง เคยมีอาชีพที่ต้องใช้)

แต่มันราคาถูกครับ คงไม่มีใครอยากซื้อ Spectro อันละหลายหมื่นมาใช้
Soda-Yen ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #20 เมื่อ: 29/11/10, [16:42:37] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

สงสัย

ค่า W ที่ต่างกัน แต่ค่า K เท่ากัน  ทำไมผลถึงต่างกัน

เช่น โคม 24 นิ้ว

T5HO 24 w 10000K  VS   T5  14 w 10000K  
NP ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #21 เมื่อ: 29/11/10, [16:46:26] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

สงสัย

ค่า W ที่ต่างกัน แต่ค่า K เท่ากัน  ทำไมผลถึงต่างกัน

เช่น โคม 24 นิ้ว

T5HO 24 w 10000K  VS   T5  14 w 10000K  

อันนี้ง่ายครับ วัตต์สูงกว่ามักจะสว่างกว่า

อ้อ K เหมือนกันไม่ใช่ว่าจะมี PAR เท่ากันนะครับ
ความเคยชิน ยึดมั่นถือมั่นเรื่องค่า K มันแก้ยากแฮะ

บอกอีกทีนะว่า ค่า K เป็นเรื่องความสวยงามเฉยๆ
ไม่ได้บอกเลยว่ามันจะปลูกต้นไม้ได้ดีมั้ย
อันนั้นต้องดูที่ค่า PAR
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29/11/10, [17:31:51] โดย NP »
NP ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #22 เมื่อ: 29/11/10, [16:48:33] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ค่า K มันบอกแค่ว่าเราเห็นเป็นสีอะไรครับ ไม่ควรยึดเป็นสรณะว่า
ค่า K เหมือนกัน จะได้ค่า PAR ตรงกันตามไปด้วย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29/11/10, [17:32:52] โดย NP »
NP ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #23 เมื่อ: 29/11/10, [16:50:03] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

อ้างถึง
สีของหลอดไฟนั้นมันขึ้นอยู่กับประเภทไม้ที่ปลูกด้วยรึเปล่าครับ คืออ่านแล้วยังไม่แน่ใจน่ะครับ

อ้างถึง
อธิบายแบบง่ายที่สุดภายในสองบรรทัดก็คือ

"แสงที่คุณเห็นว่าสีเดียวกัน อาจจะประกอบด้วยคลื่นแสงที่ต่างกันมากก็ได้ การสังเคราะห์แสงของต้นไม้จะใช้
ช่วงความยาวคลื่นอยู่ช่วงหนึ่งเท่านั้น ทำให้หลอดบางยี่ห้อโตดีกว่าอีกยี่ห้อ ทั้งที่วัตต์เท่ากัน สีของแสงก็คล้ายกัน"


ขอโทษครับอยากถามว่ามีวิธีอธิบายแบบลูกทุ่งหรือชี้เฉพาะเจาะจงได้ไหมครับเผื่อคนที่โคตะระโง่อย่างผมอ่านแล้วไม่เข้าใจงะอย่าเพิ่งด่านะครับแม่กับพ่อให้มาน้อยครับ

ไม่รู้สิ ผมไม่รู้ว่าแบบลูกทุ่งที่คุณว่ามันหมายถึงอะไร ถ้าคุณอ่านแล้วยังไม่เข้าใจ วิธีเดียวเท่าที่ตอนนี้ผม
นึกออกคือ อธิบายให้ละเอียดขึ้น ลองอ่านดูนะ


ไอ้เซลล์รับแสงในตาคนเราที่เขาบอกว่ามันไวต่อแสงสีเขียว สีแดง สีน้ำเงินเนี่ย มันจริงแค่ส่วนนึงเท่านั้น
เขาบอกอย่างนั้นเพื่อให้คนทั่วไปเข้าใจง่าย แต่การอธิบายที่ง่ายเกินไปแบบนั้น มันไม่สามารถอธิบาย
บางเรื่องที่เฉพาะเจาะจงได้ เช่น "อ้าว หลอดสองยี่ห้อนี้มันให้แสงดูแดงๆ เหมือนกัน ทำไมเอ็งว่ามันอาจจะ
มีคลื่นแสงไม่เหมือนกัน ?"

มันต้องเริ่มที่ ไอ้สีสันต่างๆ ที่คุณมองเห็นน่ะ มันเกิดจากการที่เซลล์รับแสงรูปกรวยทั้งสามชนิดในลูกตา
ถูกกระตุ้นมากน้อยต่างกันแค่ไหน

แต่ทีนี้เรื่องของเรื่องก็คือว่า ไอ้เซลล์รูปกรวยที่ว่าไวกับคลื่นแสงในช่วงสีเขียวเนี่ย มันดันไวกับแสงสีแดงด้วย
ส่วนเซลล์รูปกรวยชนิดที่บอกว่าไวกับแสงสีแดง มันก็ไวกับแสงสีเขียวด้วยเหมือนกัน


เครดิตรูป http://en.wikipedia.org/wiki/Color_vision

แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าหลอดไฟดวงนึง ให้แสงที่มีคลื่นพีคส่วนใหญ่ที่แถวๆ 500-550 ซึ่งเป็นช่วงที่พืช
ไม่ค่อยได้ใช้สังเคราะห์แสง ?

...เราก็จะเห็นว่ามันสว่างดี ( เซลชนิด M ถูกกระตุ้นมากกว่าเซลชนิด L นิดหน่อย) แต่ต้นไม้โตไม่ดีครับ

แล้วถ้าเทียบกับอีกหลอดล่ะ ที่พีคเป็นช่วงสั้นๆ (ยอดแหลมชัน) แถว 540 nm แล้วไปพีคอีกทีที่แถว 660 nm?

คุณก็จะยังเห็นว่าแสงจะยังดูคล้ายกันครับ เพราะโดยรวมแล้วเซล M ก็ยังถูกกระตุ้นมากกว่า L นิดหน่อยเหมือนเดิม
แม้สเปคตรัมจะไม่เหมือนกัน เพราะแถว 660 เซลชนิด L ไม่ค่อยไว แต่ต้นไม้โตดีครับ

รูปนี้แสดงช่วงคลื่นที่พืชใช้สังเคราะห์แสงครับ จะเห็นว่าแถวๆ 470-560 นาโนเมตรนั้น พืชไม่ค่อยใช้ประโยชน์


เครดิตรูป: http://www.bio.miami.edu/dana/226/226F08_10.html

รูปนี้เป็นรูปช่วงคลื่นต่างๆ ของหลอด Grolux ครับ หลอดนี้จะให้แสงออกแดงๆ เพราะมันพีคแถวๆ
650 nm และแทบจะไม่มีพีคในช่วงอื่นๆ เลย (ซึ่งถ้ามี เราจะเห็นเป็นแสงสีขาวๆ ดูเป็นธรรมชาติขึ้น)
อ้อ หลอด Grolux จะดูไม่ค่อยสว่างนะ เพราะเซลล์รูปกรวยของตาเราไม่ไวกับช่วง 650 nm




เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องเบสิกที่ยอมรับกันทั่วไปว่า เป็นข้อเท็จจริงครับ

ส่วนเรื่องแสงที่พีคต่างกันในบางช่วง เช่น หลอดที่มีพลังงานส่วนใหญ่อยู่แถวๆ 420-430 nm จะทำให้
ต้นไม้มีฟอร์มต่างไปจากแสงจากหลอดที่เน้นไปในช่วงแถว 650 nm หรือไม่นั้น (คลื่นทั้งสองช่วงสามารถ
ใช้สังเคราะห์แสงได้ดี) ยังไม่เป็นข้อเท็จจริงครับ





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06/12/10, [15:20:51] โดย NP »
NP ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #24 เมื่อ: 29/11/10, [16:53:42] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ผมว่ามันมีสองเรื่องอ่ะ
เรื่องหนึ่งคือ หลอดไหนกันแน่ที่เหมาะกับต้นไม้ (คลื่นแสงที่ต้นไม้ต้องการ และเติบโตได้เต็มที่)
เรื่องที่สองคือ หลอดไหนกันแน่ที่เหมาะกับเรา (ดูแล้วสวยสบายตา และอยู่ในงบประมาณที่มี)

ทำความเข้าใจทั้งสองเรื่องแล้วหาความพอดีให้เจอ แล้วก็เลี้ยงไปอย่างมีความสุข เท่าที่ใจต้องการ [on_047]

ใช่ครับ [on_055]
RK` ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #25 เมื่อ: 29/11/10, [17:05:16] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ความรู้ทั้งนั้นลงชื่อไว้ก่อนรดน้ำต้นไม้เสร็จจะมาอ่าน [กู้ดครับ!]
siegheart ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #26 เมื่อ: 29/11/10, [17:10:28] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ระดับเกจิมาทั้งนั้น  heaven heaven
SM ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #27 เมื่อ: 29/11/10, [17:28:04] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ระดับเกจิมาทั้งนั้น  heaven heaven
เกจิเพียบเลย ต้องติดตามหน่อยกระทู้นี้
Champies ออฟไลน์
Hot Member
« ตอบ #28 เมื่อ: 29/11/10, [19:04:26] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ลูกทุ่งแบบผม ของผ่าน  asspain
o<n>e ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #29 เมื่อ: 29/11/10, [19:25:14] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

อธิบายง่าย ๆ แบบลูกทุ่งเข้าใจก็คือ หลอด10000 เค จะมีสีฟ้า หลอด 6400 เค จะมีสีเหลือง ซึ่งทั้ง 2 หลอดนี้สามารถปลูกไม้น้ำได้เหมือนกันแต่แต่ต้องใช้ให้ถูกทาง ง่าย ๆ ก็คือ หลอดสีเหลือง 6400 เค เหมาะกับตู้ที่มีความสูง 20 นิ้วลงมาโดยวัดจากผิวน้ำถึงหน้าดิน สวนหลอดสีฟ้า 10000 เค เหมาะกับตู้ที่มีความลึกมากกว่า 20 นิ้วขึ้นไปโดยวัดจากผิวน้ำถึงหน้าดิน ซึ้งโดยมากแล้วพวกความจำสั้นสมองโบ๋แบบตัวผมเนี่ยจะชอบตัดสินอะไรต่าง ๆ จากความรู้สึกอย่างเช่น เห็นสีเหลืองสว่างกว่าเหมือนแสงอาทิตย์มากกว่าก็คิดว่าน่าจะดีและกว่าสว่างกว่าสีฟ้าซึ่งหารู้ไม่ว่าสีฟ้ามันส่องได้ลึกกว่า..ผมสรุปแบบนี้ได้ใช้ได้ปะท่านอาจารย์...เนี่ยผมอยากได้คำอธิบายแบบเนี้ยง่าย ๆ ชี้ไปเลยอันไหนดีไม่ดีแบบว่าเดินไปร้านปุ๊ปสั่งแบนี้ แบบนี้ได้เลยปั๋บ ไม่ต้องไปอธิบายไปถามให้เจ้าของร้านงง
อะครับ ปล.ขออภัยถ้าคำพูดไม่เหมาะสมนะคร๊าบบ
หน้า: 1 2 3   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: