หัวข้อ: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: Django ที่ 20/05/09, [14:07:09] ช่วยกันหาข้อสรุปได้มั้ยครับ ว่าตกลงไอ้ขนดำเนี่ย มีสาเหตุจากอะไรกันแน่ ตู้ของผมถ่ายนำ้สมำ่เสมอก็ยังมา เคยไปค้นดูในกระทู้เก่าๆก็มีหลายคำตอบแตกต่างกันไป งงไปหมด วิธีปราบมันก็มีหลายทาง ตั้งแต่ยา Azoo ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ลดไฟ เพิ่ม co2 เก็บออกด้วยมือ เอาแผ่นเหล็กไปแขวน ๆลๆ
เลยอยากถามผู้รู้ครับว่ามันยังไงกัน แบ่งออกเป็นข้อย่อยๆตามนี้นะครับ 1 ถ้าใช้ไฮโดรเจน ผมเคยอ่านเจอว่าหลังจากใช้ไฮโดรเจนโดยฉีดลงไปตรงๆที่พบปัญหา แล้วให้เปิดไฟ ก็เลยงงว่าไฟเกี่ยวอะไรกับเจ้าไฮโดรเจนด้วยครับ 2 ช่วยอธิบายวงจรของไฮโดรเจนด้วยครับว่ามันมีฤทธิ์ที่เป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตประเภทใหนบ้าง แล้วหลังจากใช้แล้วจะตกค้างในตู้หรือไม่ มีวิธีกำจัดออกจากระบบยังไง 3 เคยอ่าานเจอว่ามันมักจะมาจากสาเหตุที่ตู้เรามีธาตุเหล็กเยอะเกินกว่าที่ต้นไม้จะนำไปใช้ได้หมด อยากทราบว่านอกจากในปุ๋ยแล้ว ธาตุเหล็กพบได้ในอะไรอีกครับที่เราอาจไม่รู้เช่น อาหารเม็ด อาหารสดประเภทหนอนแดง ไรทะเล ขี้ปลา เศษอาหาร ๆลๆ 4 แอลจี้น๊อกซ์และยา Azoo ที่มีไว้จัดการกับตะไคร่ขนดำเนี่ย ถ้าเริ่มใช้แล้วจะเริ่มสังเกตเห็นผลหลังการใช้กี่วัน และ จะมีผลไปในทิศทางใดครับ เวลาลองหยดยาจะได้คอยสังเกตแถมได้กำลังใจเพิ่มขึ้นด้วย ว่ายาได้ผล ช่วยหน่อยนะครับ ถามซะยาวเลย เชื่อว่าคงมีอีกหลายๆคนงงเหมือนผมแน่เลย hide2 หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: ํีYuth ที่ 20/05/09, [14:19:04] ยังหาข้อมูลที่ตรงๆไม่ได้เช่นกันครับ แต่ก็ประสพปัญหาเดียวกัน
1.และ 2. การใช้ไฮโดรเจน เปอร์ออกไซด์ มันมีฤทธิ์เป็นตัวออกซิไดส์ครับ ดังนั้นก็จะไปทำลายเซลล์ พืขหรือตะไคร่ครับ พ่นไปในระยะใกล้ๆ ขนดำก็จะตายครับ มีพิษต่อสิ่งมีชีวิต ถ้าใช้ในระดับความเข้มข้นสูงๆ เพราะเซลล์ถูกทำลาย วิธีกำจัดออกก็การเปิดไฟ เพราะ มันจะสลายตัวเมื่อถูก แสงครับ 3. ไม่ทราบครับ แต่อ่านเจอเช่นกันว่า ธาตุเหล็กเยอะจะทำให้ มีขนดำเกิดขึ้น ตู้ผมไม่ใส่ปุ๋ยเหล็กเลย ใส่แต่ปุ๋ย ไนโตรเจน ก็เกิดครับ คงไม่ใช่แค่ธาตุเหล็กธาตุเดียว คงเป็นจากที่ว่า ตู้มีสารอาหารเยอะเกิน ตู้ที่เป็นขนดำก็เป็นตู้ปอม ให้อาหารเยอะและ ปอมขับถ่ายของเสียเยอะ แม้ จะเปลี่ยนน้ำ สองครั้งต่ออาทิตย์ก็ยังพบครับ 4. เคยใช้ยาเอซูครับไม่ค่อยเห็นผลที่ดีเท่าไหร่ แต่ใช้ seachem flora excel เห็นผลครับ อาการดีขึ้น จนต้องไปซื้อขวดที่สองมาใช้ แต่ราคา แพงกว่า azoo มากครับ ระยะหลังๆ ก็ทำใจ ว่าไม่หายก็ไม่เป็นไร ขออย่าขึ้นเยอะและปลา สุขภาพดีละกันครับ [ปิ๊งๆๆ] ช่วยกันหาข้อสรุปได้มั้ยครับ ว่าตกลงไอ้ขนดำเนี่ย มีสาเหตุจากอะไรกันแน่ ตู้ของผมถ่ายนำ้สมำ่เสมอก็ยังมา เคยไปค้นดูในกระทู้เก่าๆก็มีหลายคำตอบแตกต่างกันไป งงไปหมด วิธีปราบมันก็มีหลายทาง ตั้งแต่ยา Azoo ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ลดไฟ เพิ่ม co2 เก็บออกด้วยมือ เอาแผ่นเหล็กไปแขวน ๆลๆ เลยอยากถามผู้รู้ครับว่ามันยังไงกัน แบ่งออกเป็นข้อย่อยๆตามนี้นะครับ 1 ถ้าใช้ไฮโดรเจน ผมเคยอ่านเจอว่าหลังจากใช้ไฮโดรเจนโดยฉีดลงไปตรงๆที่พบปัญหา แล้วให้เปิดไฟ ก็เลยงงว่าไฟเกี่ยวอะไรกับเจ้าไฮโดรเจนด้วยครับ 2 ช่วยอธิบายวงจรของไฮโดรเจนด้วยครับว่ามันมีฤทธิ์ที่เป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตประเภทใหนบ้าง แล้วหลังจากใช้แล้วจะตกค้างในตู้หรือไม่ มีวิธีกำจัดออกจากระบบยังไง 3 เคยอ่าานเจอว่ามันมักจะมาจากสาเหตุที่ตู้เรามีธาตุเหล็กเยอะเกินกว่าที่ต้นไม้จะนำไปใช้ได้หมด อยากทราบว่านอกจากในปุ๋ยแล้ว ธาตุเหล็กพบได้ในอะไรอีกครับที่เราอาจไม่รู้เช่น อาหารเม็ด อาหารสดประเภทหนอนแดง ไรทะเล ขี้ปลา เศษอาหาร ๆลๆ 4 แอลจี้น๊อกซ์และยา Azoo ที่มีไว้จัดการกับตะไคร่ขนดำเนี่ย ถ้าเริ่มใช้แล้วจะเริ่มสังเกตเห็นผลหลังการใช้กี่วัน และ จะมีผลไปในทิศทางใดครับ เวลาลองหยดยาจะได้คอยสังเกตแถมได้กำลังใจเพิ่มขึ้นด้วย ว่ายาได้ผล ช่วยหน่อยนะครับ ถามซะยาวเลย เชื่อว่าคงมีอีกหลายๆคนงงเหมือนผมแน่เลย hide2 หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: Anubias ที่ 20/05/09, [14:42:44] ธาตุเหล็กน่าจะมาจากอาหารสดนะครับ จากตรงไหน..คือ เลือดของสัตว์จำพวกหนอนและไรทะเล มันมีธาตุเหล็กเหมือนๆกันกับเลือดของคนนี่หละครับ ถ้าให้เยอะก็จะมีเหล็กสะสมแล้วแขวนลอยอยุ่ในน้ำ ตะไคร่ก็มาในที่สุด ทางที่ดีนะ คือการเปลี่ยนน้ำที่สม่ำเสมอ และควบคุมปริมาณการให้ปุ๋ยสักนิด ควรให้หลังจากการเปลี่ยนน้ำสัก 2 วัน เพราะรอให้พืชน้ำได้ปรับตัวหลังการเปลี่ยน้ำ เพราะเมื่อน้ำใหม่เข้ามา อุณหภูมิมันก็เปลี่ยน ต้นไม้ก็จะยังไม่ดูดกินปุ่ยในระยะนี้ ก็น่าจะช่วยลดได้นะครับ แต่ให้ไม่มีเลย นี่ต้องหาคนมาผลิตปุ๋ยที่แยกเป็นธาตุเป็นตัวๆไปเลย เราจะสามารถกำหนดได้ว่า ธาตุตัวไหนไห้ได้โดยไม่ทำให้เกิดตะไคร่น้ำ คงจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด อยากทำปุ๋ยแบบนี้นะ ต้องรอไปคุยกับบริษัท.
หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: นอยสะตอรี่™ ที่ 20/05/09, [14:47:44] เฮ๊ย!!~ น้าๆ แนะนำตระกรับหน้าแดง กินกระจายเลยขอบอก
ตู้หมอแคระ ตอนแรกว่าจะรื้อทิ้งแล้ว ตะใคร่เขียวเอย ตะใคร่ขนดำเอย เต็มตู้ไปหมด แต่พอเอาตระกรับหน้าแดงลง คืนเดียวเท่านั้นละ เห็นผลทันตาเลย ปล. ถ้าจะไปซื้อ เผื่อด้วยสองหน่วย :P หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: Django ที่ 20/05/09, [14:59:27] อ้างจาก: □[◎□◎ □~ ไอ้แสบนี่ ไม่อยากยุ่งกับมันเลยจริงๆ เคยลงไปตอนตั้งตู้ใหม่ๆเจอตะไคร่เส้นผมนะ โหรักมันยังกะลูก พะตะไคร่หมด มันซัดกลอซโซ นำ้ตาเทียนกระจายเลย จับออกก็ยาก หลังจากนั้นซักระยะ เจอตะไคร่อีกทีเลยกลั้นใจไปซื้อมาตัวนึง ไอ้เวรนี่นิสัยแย่กว่าชุดแรกอีก ไมสนใจตะไคร่เลย กัดแต่หางปลาตัวอื่น แล้วก็รอเตทตร้าบิท กวนชะมัด บอกตรงๆตอนนั้นซื้อมา50บาทมั้ง แต่ถ้ามีคนมาเสนอขายยาเบื่อปลาตะกรับที่หยดแล้วมีผลแต่กับตะกรับนะ ซัก300-500บาท ผมหยดใส่มันจริงๆให้ตายเหอะlink=topic=56700.msg660756#msg660756 date=1242805664] เฮ๊ย!!~ น้าๆ แนะนำตระกรับหน้าแดง กินกระจายเลยขอบอก ตู้หมอแคระ ตอนแรกว่าจะรื้อทิ้งแล้ว ตะใคร่เขียวเอย ตะใคร่ขนดำเอย เต็มตู้ไปหมด แต่พอเอาตระกรับหน้าแดงลง คืนเดียวเท่านั้นละ เห็นผลทันตาเลย ปล. ถ้าจะไปซื้อ เผื่อด้วยสองหน่วย :P ........ พูดแล้วขึ้น hide2 หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: นอยสะตอรี่™ ที่ 20/05/09, [15:03:22] ไอ้แสบนี่ ไม่อยากยุ่งกับมันเลยจริงๆ เคยลงไปตอนตั้งตู้ใหม่ๆเจอตะไคร่เส้นผมนะ โหรักมันยังกะลูก พะตะไคร่หมด มันซัดกลอซโซ นำ้ตาเทียนกระจายเลย จับออกก็ยาก หลังจากนั้นซักระยะ เจอตะไคร่อีกทีเลยกลั้นใจไปซื้อมาตัวนึง ไอ้เวรนี่นิสัยแย่กว่าชุดแรกอีก ไมสนใจตะไคร่เลย กัดแต่หางปลาตัวอื่น แล้วก็รอเตทตร้าบิท กวนชะมัด บอกตรงๆตอนนั้นซื้อมา50บาทมั้ง แต่ถ้ามีคนมาเสนอขายยาเบื่อปลาตะกรับที่หยดแล้วมีผลแต่กับตะกรับนะ ซัก300-500บาท ผมหยดใส่มันจริงๆให้ตายเหอะ ้hahaha ้hahaha ทำตู้พักต้นไม้ซักตู้ดิ๊ เอาไว้ลงพวกไม้โคม่า........ พูดแล้วขึ้น hide2 หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: kenII ที่ 20/05/09, [15:29:31] ช่วยกันหาข้อสรุปได้มั้ยครับ ว่าตกลงไอ้ขนดำเนี่ย มีสาเหตุจากอะไรกันแน่ ตู้ของผมถ่ายนำ้สมำ่เสมอก็ยังมา เคยไปค้นดูในกระทู้เก่าๆก็มีหลายคำตอบแตกต่างกันไป งงไปหมด วิธีปราบมันก็มีหลายทาง ตั้งแต่ยา Azoo ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ลดไฟ เพิ่ม co2 เก็บออกด้วยมือ เอาแผ่นเหล็กไปแขวน ๆลๆ เลยอยากถามผู้รู้ครับว่ามันยังไงกัน แบ่งออกเป็นข้อย่อยๆตามนี้นะครับ 1 ถ้าใช้ไฮโดรเจน ผมเคยอ่านเจอว่าหลังจากใช้ไฮโดรเจนโดยฉีดลงไปตรงๆที่พบปัญหา แล้วให้เปิดไฟ ก็เลยงงว่าไฟเกี่ยวอะไรกับเจ้าไฮโดรเจนด้วยครับ ได้ยินมาว่าแสงทำให้ H2O2 สลายไปครับ แล้วอีกอย่างถ้าใช้เยอะ ขณะใช้ปิดกรองด้วยครับไม่งั้นอาจกรองล่ม 2 ช่วยอธิบายวงจรของไฮโดรเจนด้วยครับว่ามันมีฤทธิ์ที่เป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตประเภทใหนบ้าง แล้วหลังจากใช้แล้วจะตกค้างในตู้หรือไม่ มีวิธีกำจัดออกจากระบบยังไง สลายตัวในระบบได้เองครับ 3 เคยอ่าานเจอว่ามันมักจะมาจากสาเหตุที่ตู้เรามีธาตุเหล็กเยอะเกินกว่าที่ต้นไม้จะนำไปใช้ได้หมด อยากทราบว่านอกจากในปุ๋ยแล้ว ธาตุเหล็กพบได้ในอะไรอีกครับที่เราอาจไม่รู้เช่น อาหารเม็ด อาหารสดประเภทหนอนแดง ไรทะเล ขี้ปลา เศษอาหาร ๆลๆ ขอผ่านครับ ยากไป [เขิลลลล] 4 แอลจี้น๊อกซ์และยา Azoo ที่มีไว้จัดการกับตะไคร่ขนดำเนี่ย ถ้าเริ่มใช้แล้วจะเริ่มสังเกตเห็นผลหลังการใช้กี่วัน และ จะมีผลไปในทิศทางใดครับ เวลาลองหยดยาจะได้คอยสังเกตแถมได้กำลังใจเพิ่มขึ้นด้วย ว่ายาได้ผล ช่วยหน่อยนะครับ ถามซะยาวเลย เชื่อว่าคงมีอีกหลายๆคนงงเหมือนผมแน่เลย hide2 ผมเคยใช้แต่ตัวแรกครับ แล้วผมเองก็อาจใช้ผิดวิธี(อาจอ่านฉลากแล้วเข้าใจผิด [งง] มั้ง) แต่สรุปว่าผมใช้มันไม่ได้ผลครับ ส่วนตัวผมรู้สึกว่าถ้าต้นไม้แข็งแรง และค่อนข้างเต็มพื้นที่ แล้วพวกขนดำมันจะไม่มีที่อยู่ไปเองอ่ะครับ หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: Mr.F ที่ 20/05/09, [15:43:19] ถ้าเจอบ่อยๆ ก็ตอนฝังปุ๋ยไม่ลึกพอครับ ปุ๋ยฝังธาตุเหล็กน่าจะเยอะ
ถ้าถามว่ามาจากไหน ที่เคยอ่านเจอบางทีมันก็อาจมากับน้ำที่เราใส่ตู้ หรือลอยมาเป็นสปอร์ทางอากาศ ก็ได้นะ emb01 ลอง cabon น้ำของ Azoo ถูกดีครับ Excel ก็ดีครับ แต่ไม่เคยลอง ไม่ค่อยมีปัญหากะต้นไม้ แต่ปริมาณเยอะอาจมีผลต่อสัตว์ได้ครับ หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: Django ที่ 20/05/09, [17:22:14] ถ้าเจอบ่อยๆ ก็ตอนฝังปุ๋ยไม่ลึกพอครับ ปุ๋ยฝังธาตุเหล็กน่าจะเยอะ คาร์บอนนำ้ที่ว่าคืออะไรครับ คือ Co2 รึเปล่า ถ้าไช่ก็แปลว่าเพิ่ม Co2 ที่ถังก็ได้รึเปล่าครับ เหมือนเคยอ่านเจอที่พี่กบแนะนำไว้ว่าไอ้ขนดำเนี่ยมันเกลียดนำ้ที่มีสภาพความเป็นกรด ว่าแต่ถ้าเร่งที่ถังได้จริงทำไมถึงต้องซื้อกันเหรอครับไอ้เจ้าคาร์บอนนำ้เนี่ย มันมีอะไรที่พิเศษกว่ามั้ยครับถ้าถามว่ามาจากไหน ที่เคยอ่านเจอบางทีมันก็อาจมากับน้ำที่เราใส่ตู้ หรือลอยมาเป็นสปอร์ทางอากาศ ก็ได้นะ emb01 ลอง cabon น้ำของ Azoo ถูกดีครับ Excel ก็ดีครับ แต่ไม่เคยลอง ไม่ค่อยมีปัญหากะต้นไม้ แต่ปริมาณเยอะอาจมีผลต่อสัตว์ได้ครับ หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: Champies ที่ 20/05/09, [18:09:44] ผมล่ะโคดกลัวเลยไอ้ขนดำเนี่ย n032
หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: shaharun ที่ 20/05/09, [18:16:01] มันน่ากัวมากๆๆๆๆ เคยเอาขอนที่มันติดอยู่ไปต้ม ก็หาย นะ idea1
หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: บัง! ที่ 20/05/09, [18:56:27] จริงๆมันเป็นตะไคร่ที่กำจัดง่ายนะ เพราะมันลามช้ากว่าตัวอื่น
แต่จะจังไรมาก ถ้าตู้มีไม้โตช้าเยอะๆ ขออธิบายลักษณะเฉพาะของมันก่อน จากการทดลอง มันโตช้า ลามช้า แย่งอาหารกับต้นไม้ไม่ค่อยทัน เสนอหน้าไปแย่งแสงได้ยาก โดนบังแสงหน่อยก็ตาย แต่มันทน ถึก เหนียว แน่น หนึบ ฉะนั้นวิธีที่ใช้กับตะไคร่ตัวอื่นได้ผล ไม่ว่าจะเปิดปิดไฟ4-4 ลดปุ๋ย ลดแสง เปลี่ยนน้ำบ่อยๆ เอาปลาเอากุ้งลง ก็เลยแทบจะไม่ได้ผลเลย ผมทดลองหลายอย่างกับตะไคร่ตัวนี้มาเกือบสองปีได้มั้ง รวมถึงที่ฝากเพื่อนไปทดลองด้วยอีก พยายามเลี้ยงๆมันไว้หลายๆตู้ ไม่ให้ตาย เอาไว้ทดลองต่อ แต่ในตู้ทดลอง กำจัดจนหมดแบบ 99% ไปหลายรอบแล้ว 99%เพราะว่ายังไงก็ยังมีเชื้อเหลือ ถ้าสภาพตู้แย่อีก มันก็มาอีก ขอกล่าวถึงวิธีที่ได้ผลชัดเจนแล้วกัน 1. สุดยอดมาก Mega Powerful Nitrate and Phosphate Remover - DIY! (http://www.aquaticplantcentral.com/forumapc/equipment/58708-mega-powerful-nitrate-phosphate-remover-diy.html) ลองตามลิ๊งไปดู เพราะมันดูดไนเตรทฟอสเฟทออกได้เรี่ยมจริงๆ ชนิดว่ากระทั่งตู้ปลาทองที่เคยมีตะไคร่เขียวเกาะเต็ม ยังใสกิ๊ง (ต้องถูกระจกด้วยนะ) แต่ทำยาก เสีย CO2 ไปตอนน้ำหล่น และบางที ดูดไปมากซะจนต้นไม้หงอยเลย ดีไป 2. ลงต้นไม้โตเร็วเยอะๆ ปกติมันก็ลามได้แต่ตามขอนตามหินเท่านั้นแหละ เจอไอ้นี่นะ อย่าไปลดไฟ เปิดเลย เยอะๆ CO2 เอาแบบนับฟองไม่ได้ ฝังปุ๋ยไปเลย เดี๋ยวต้นไม้โตหนีหมด มัวกลัวใส่ปุ๋ย ต้นไม้โทรม ทีนี้ล่ะ เสร็จมัน เหลือแต่ตามขอน ค่อยไล่เอา H2O2 ฉีดเอา ตะไคร่ขนดำจะแทบทำอะไรต้นไม้สภาพดีๆไม่ได้เลยครับ 3. เอา H2O2 ฉีดเอา ถ้าตู้ไม่ใหญ่ ฉีดทีสองทีก็หมด กว่าจะขึ้นมาก็อีกนาน ค่อนข้างปลอดภัยมาก 4. Seachem Flourish Excel อันนี้เพื่อนลองให้ ไม่มีตังซื้อ ได้ผลพอควร ประมาณของจานยุทธครับ ไม่ถึงกับหาย แต่ดีขึ้น แถมวีดิโอ เจ้านี้ส่องด้วย led โรงงิ้วเลย เค้าว่าโตดีมาก http://www.youtube.com/watch?v=9-44XUi8gXg ใครสงสัยก็ถามไว้ในนี้แล้วกัน อย่า pm มาถามเลย ขี้เกียจตอบทีละคนครับ หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: NP ที่ 20/05/09, [20:08:31] ผมเห็นด้วยนะว่าปัญหาตะไคร่คือ ต้นไม้ไม่โต ตะไคร่เลยโตแทน
งดปุ๋ยไม่ดี เพราะต้นไม้ก็ต้องการปุ๋ย แต่พอค้นในเว็บนี้ส่วนใหญ่จะบอกว่า ให้ลดปุ๋ยๆๆ และลองค้น ด้วยคีย์เวิร์ด Tom Barr ซึ่งเป็นคนที่แอนตี้วิธีลดปุ๋ย ก็ปรากฎว่าไม่เจอเลย ทั้งที่เขา “ดัง” มาเป็นสิบปีแล้ว นาย Tom Barr บอกว่าขนดำเกิดจาก แสงเยอะเกิน แต่ CO2 น้อยเกิน ต้นไม้ไม่โต ขนดำได้โอกาส ที่ผมเจอในตู้ พวกที่มีขนดำคือต้นที่ไม่โต (ตอนนี้โตดีแล้วโดยใช้วิธี แบบนาย Tom Barr นี่แหละ เหลือขนดำเฉพาะในใบที่เก่ามากๆ) คอนเซ็ปท์การให้ปุ๋ยแบบ Estimative Index (EI) ของเขา มีอยู่ว่า สารอาหารอย่าง Nitrate, Phosphate เหล็ก และอาหารธาตุรองอื่นๆ ไม่ใช่สาเหตุของตะไคร่ จึงสามารถโอเวอร์โดสเล็กน้อยได้ และเปลี่ยนน้ำ 50% ทุกอาทิตย์เพื่อป้องกันไม่ให้ปุ๋ยที่สะสมจากการ โอเวอร์โดสนั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นอันตรายต่อปลา การให้ปุ๋ยแบบโอเวอร์โดส (เล็กน้อย) จะทำให้เราแน่ใจได้ว่า ต้นไม้ได้รับสารอาหารครบแน่ๆ จึงไม่ต้องใช้เครื่องมือวัดราคาแพง (เครื่องมือวัดระดับมืออาชีพนั้นขายกัน ชุดนึงเป็นหมื่น เชื่อถือได้ ส่วนแบบมือสมัครเล่นนั้นพันนิดๆ แต่การวัดบางอย่าง จะเชื่อไม่ค่อยได้ มาใส่ปุ๋ยแบบ EI กันเถอะ—เขาบอกงี้นะ ไม่ใช่ผม...) แต่ให้ใส่ปริมาณปุ๋ยตามสัดส่วน PPM ที่เขาบอก หรือจะใช้สูตร คำนวนจากที่นี่ก็ได้ http://atlas.csd.net/~cgadd/aqua/art_plant_dosage_calc.htm เขาให้ความเห็นว่า พวกที่บอกว่า ให้ปุ๋ยเยอะเป็นสาเหตุของตะไคร่นั้น “เชย” “หัวโบราณ” “ไม่รู้จริง” (คอนเซ็ปท์ EI มาหลัง PMDD ที่บอกว่า ฟอสเฟตคือตัวการของตะไคร่) เพราะใช้วิธีทดลองผิด คือ ทำไมถึงไปใช้วิธี ควบคุมตะไคร่ในการหาสาเหตุของตะไคร่? วิธีที่ถูกต้องในการหาสาเหตุของตะไคร่ คือ หาทางปลูกตะไคร่ให้งอกงามสิ และเขาทดลองมาเป็นสิบๆ ปี โดสปุ๋ยอย่างหนัก Nitrate, Phosphate, เหล็ก และสารอาหาร รองอื่นๆ ปรากฎว่า ตะไคร่ไม่ยักขึ้น แต่พอใส่ NH4 ตะไคร่มาทันที เขาจึงบอกว่าสาเหตุของตะไคร่คือ แอมโมเนียในรูปแบบของ NH4 ที่ต้นไม้ดูดไปใช้ไม่หมดต่างหาก (พอต้นไม้สุขภาพดี ก็จะมี NH4 เหลือน้อย ตะไคร่เลยเจริญได้ไม่ดี—อันนี้ผมคิดต่อเองนะ Tom Barr ไม่ได้พูด) เขาบอกต่ออีกว่าควรดูดขึ้ปลาออกจาก Substrate บ่อยๆ ด้วย ส่วนตู้ที่เลี้ยงปลามากเกินไป ต้องแก้โดยการลดจำนวนปลาลง เพื่อลดการเกิด NH4 (ผมเคยวัดหา NH4 ในช่วงที่ตะไคร่บุกแล้วไม่เจอเลย แต่มีคนบอกว่า ที่ไม่เจอก็เพราะมันกลายเป็นต้นตะไคร่ไปแล้วไง ก็รู้ๆ อยู่ว่าตะไคร่อย่างพวกเส้นผมนี่ มันโตเร็วแบบข้ามคืน) เขาเคยเคลมว่า ตัวเองสามารถแก้ปัญหาตะไคร่ทุกชนิดได้ภายใน 3-4 อาทิตย์ และเท่าที่ Search ดู ยังไม่เห็นใครปรามาสเขาว่าเก่งแต่ปากเลย แถมบริษัทผลิตปุ๋ยไม้น้ำหลายแห่ง ก็เริ่มทะยอยออกปุ๋ยที่ให้ Nitrogen กับ ฟอสเฟต กันแล้ว (เมื่อก่อนกลัวกันจริง ไนโตรเจน/ไนเตรท กับฟอสเฟต—ให้แต่โปแตสเซียม อย่างเดียว) สงสัยคล้อยตามคอนเซ็ปท์ EI คอนเซ็ปท์การให้ปุ๋ยแบบ EI http://www.barrreport.com/showthread.php/62-The-Estimative-Index-of-Dosing-or-No-Need-for-Test-Kits (หลังจากมีการปรับปรุงเว็บ barrreport.com รูปประกอบในโพสต์แรกของลิ้งค์นี้บางรูปเกิดการขัดข้อง แต่ยังสามารถดูได้โดยคลิกที่รูปตัวอย่างเล็กๆ ในส่วนของ Attached Thumbnails ที่อยู่ด้านล่างของโพสต์แรก) ปล. ผมยังมือใหม่นะปลูกมาได้แค่ 5 เดือนเองเลยยังไม่มี “ความเห็นส่วนตัว” มากนัก แค่เอามาแนะนำให้ลองอ่าน หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: Django ที่ 20/05/09, [20:54:04] ผมเห็นด้วยนะว่าปัญหาตะไคร่คือ ต้นไม้ไม่โต ตะไคร่เลยโตแทน นี่ก็เป็นอีกมุมนึงที่คนส่วนใหญ่ไม่เคยมองกันเนอะ น่าคิดครับแถมมีความเป็นไปได้สูงมากๆเลยซะด้วย ต้องลอง งดปุ๋ยไม่ดี เพราะต้นไม้ก็ต้องการปุ๋ย แต่พอค้นในเว็บนี้ส่วนใหญ่จะบอกว่า ให้ลดปุ๋ยๆๆ และลองค้น ด้วยคีย์เวิร์ด Tom Barr ซึ่งเป็นคนที่แอนตี้วิธีลดปุ๋ย ก็ปรากฎว่าไม่เจอเลย ทั้งที่เขา “ดัง” มาเป็นสิบปีแล้ว นาย Tom Barr บอกว่าขนดำเกิดจาก แสงเยอะเกิน แต่ CO2 น้อยเกิน ต้นไม้ไม่โต ขนดำได้โอกาส ที่ผมเจอในตู้ พวกที่มีขนดำคือต้นที่ไม่โต (ตอนนี้โตดีแล้วโดยใช้วิธี แบบนาย Tom Barr นี่แหละ เหลือขนดำเฉพาะในใบที่เก่ามากๆ) คอนเซ็ปท์การให้ปุ๋ยแบบ Estimative Index (EI) ของเขา มีอยู่ว่า สารอาหารอย่าง Nitrate, Phosphate เหล็ก และอาหารธาตุรองอื่นๆ ไม่ใช่สาเหตุของตะไคร่ จึงสามารถโอเวอร์โดสเล็กน้อยได้ และเปลี่ยนน้ำ 50% ทุกอาทิตย์เพื่อป้องกันไม่ให้ปุ๋ยที่สะสมจากการ โอเวอร์โดสนั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นอันตรายต่อปลา การให้ปุ๋ยแบบโอเวอร์โดส (เล็กน้อย) จะทำให้เราแน่ใจได้ว่า ต้นไม้ได้รับสารอาหารครบแน่ๆ จึงไม่ต้องใช้เครื่องมือวัดราคาแพง (เครื่องมือวัดระดับมืออาชีพนั้นขายกัน ชุดนึงเป็นหมื่น เชื่อถือได้ ส่วนแบบมือสมัครเล่นนั้นพันนิดๆ แต่การวัดบางอย่าง จะเชื่อไม่ค่อยได้ มาใส่ปุ๋ยแบบ EI กันเถอะ—เขาบอกงี้นะ ไม่ใช่ผม...) แต่ให้ใส่ปริมาณปุ๋ยตามสัดส่วน PPM ที่เขาบอก หรือจะใช้สูตร คำนวนจากที่นี่ก็ได้ http://atlas.csd.net/~cgadd/aqua/art_plant_dosage_calc.htm เขาให้ความเห็นว่า พวกที่บอกว่า ให้ปุ๋ยเยอะเป็นสาเหตุของตะไคร่นั้น “เชย” “หัวโบราณ” “ไม่รู้จริง” (คอนเซ็ปท์ EI มาหลัง PMDD ที่บอกว่า ฟอสเฟตคือตัวการของตะไคร่) เพราะใช้วิธีทดลองผิด คือ ทำไมถึงไปใช้วิธี ควบคุมตะไคร่ในการหาสาเหตุของตะไคร่? วิธีที่ถูกต้องในการหาสาเหตุของตะไคร่ คือ หาทางปลูกตะไคร่ให้งอกงามสิ และเขาทดลองมาเป็นสิบๆ ปี โดสปุ๋ยอย่างหนัก Nitrate, Phosphate, เหล็ก และสารอาหาร รองอื่นๆ ปรากฎว่า ตะไคร่ไม่ยักขึ้น แต่พอใส่ NH4 ตะไคร่มาทันที เขาจึงบอกว่าสาเหตุของตะไคร่คือ แอมโมเนียในรูปแบบของ NH4 ที่ต้นไม้ดูดไปใช้ไม่หมดต่างหาก (พอต้นไม้สุขภาพดี ก็จะมี NH4 เหลือน้อย ตะไคร่เลยเจริญได้ไม่ดี—อันนี้ผมคิดต่อเองนะ Tom Barr ไม่ได้พูด) เขาบอกต่ออีกว่าควรดูดขึ้ปลาออกจาก Substrate บ่อยๆ ด้วย ส่วนตู้ที่เลี้ยงปลามากเกินไป ต้องแก้โดยการลดจำนวนปลาลง เพื่อลดการเกิด NH4 (ผมเคยวัดหา NH4 ในช่วงที่ตะไคร่บุกแล้วไม่เจอเลย แต่มีคนบอกว่า ที่ไม่เจอก็เพราะมันกลายเป็นต้นตะไคร่ไปแล้วไง ก็รู้ๆ อยู่ว่าตะไคร่อย่างพวกเส้นผมนี่ มันโตเร็วแบบข้ามคืน) เขาเคยเคลมว่า ตัวเองสามารถแก้ปัญหาตะไคร่ทุกชนิดได้ภายใน 3-4 อาทิตย์ และเท่าที่ Search ดู ยังไม่เห็นใครปรามาสเขาว่าเก่งแต่ปากเลย แถมบริษัทผลิตปุ๋ยไม้น้ำหลายแห่ง ก็เริ่มทะยอยออกปุ๋ยที่ให้ Nitrogen กับ ฟอสเฟต กันแล้ว (เมื่อก่อนกลัวกันจริง ไนโตรเจน/ไนเตรท กับฟอสเฟต—ให้แต่โปแตสเซียม อย่างเดียว) สงสัยคล้อยตามคอนเซ็ปท์ EI คอนเซ็ปท์การให้ปุ๋ยแบบ EI http://www.barrreport.com/estimative-index/62-estimative-index-dosing-no-need-test-kits.html ปล. ผมยังมือใหม่นะปลูกมาได้แค่ 5 เดือนเองเลยยังไม่มี “ความเห็นส่วนตัว” มากนัก แค่เอามาแนะนำให้ลองอ่าน ส่วนที่คุณบังแนะนำมาเนี่ยก็ว่าจะลองดูเหมือนกันครับ ขอบคุณทุกๆความเห็นนะครับ กระทู้ดีๆแบบนี้ทำให้เลี้ยงไม้นำ้ได้สนุกขึ้นเยอะเลยครับ [เจ๋ง] หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: บัง! ที่ 20/05/09, [21:32:53] เคยอ่านของตาทอมแล้วล่ะครับ หลักการแกปึ้กจริงๆ
แต่ผมลองไปแล้วสงสัยอยู่สองสามข้อ ให้กังขามานาน คือแกว่า ไนเตรท ไม่ทำให้ตะไคร่บูม แต่ตอนที่ผมเพาะตะไคร่ในกะละมัง (ตอนนั้นจะเอามาให้ออตโตกิน ตู้ดีจัด ไม่มีตะไคร่ เอาให้กินแล้วมันอ้วนดี ดูมันชอบกว่าอาหารปลา) ผมก็ใส่ปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ ในนั้นก็ไม่มี NH4+ NH3 ซักกะติ๊ด ตะไคร่เขียวรึ่ม ไม่เห็นเป็นอย่างที่เค้าบอกว่าให้ลองดูกี่ครั้งก็ได้ เป็นอย่างที่ว่าแน่นอน แล้วตามสูตรเคมี ถ้า PH สูงๆ NH4+ จะกลายเป็น NH3 (ในตู้ปลา พวกแอมโมเนียปกติมันจะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่สองตัวนี้แหละ) ผมก็ซํดซะ PH 9 ซึ่งก็น่าจะไม่มีตะไคร่ขนดำ หรือตะไคร่อื่น ตามสูตรรูเตี๋ยวของตาทอม ที่ไหนได้ เหมือนเดิม เดือนนึงก็แล้ว สองเดือนก็แล้ว เหมือนเดิ๊ม นอกนั้นหลักการโดยรวมก็เหมือนทั่วๆไป คือเอาปัจจัยของตะไคร่ออก เสริมปัจจัยให้ต้นไม้โตดีๆ มันก็หมดไปเอง ไอ้แบบตาทอมนี่ก็ลองแล้ว ปรากฎว่า แม่งโคตรยากเลยครับ มานั่งคำนวณอัตราส่วนเนี่ย เพราะปุ๋ยต้นไม้ที่ขายๆกันก็ไม่ได้แจ้งอัตราส่วนไว้ ต้องใช้ปุ๋ยแยกตัว หาซื้อก็ยาก ซื้อทีคนขายก็มองแล้วมองอีก มันจะเอาไปทำระเบิดป่าววะ แถมปัจจัยในตู้แต่ละตู้ที่เลี้ยงๆกันก็มั่วเหลือเกิน แสงแค่ไหนถึงเรียกว่าจัด/เยอะ? อุณหภูมิน้ำ ระบบกรอง แต่ละคนมันไม่ได้เหมือนกันเลย และที่สำคัญคือ ใช้ไม่ได้กับคนเลี้ยงส่วนใหญ่ เพราะแค่ระบบกรองหรือ ไนโตรเจนไซเคิลง่ายๆยังไม่รู้เรื่องกันเลย ไอ้แบบนี้เหรอ ตายตั้งกะสองบรรทัดแรก ตอนนั้นผมยังนั่งอ่านอยู่หลายวัน ภาษาแกก็พิลึกๆ เหมือนวิชาการจัด หรือภาษา eng ชาติไหนซักชาติ ผมมันดันถนัดแต่อังกฤษภาษาพูด พวกตามหนัง ตามบอร์ด ตามการ์ตูนโป๊ emb01 หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: NP ที่ 20/05/09, [22:05:08] อ้างจาก: บั่งบั๊ง เคยอ่านของตาทอมแล้วล่ะครับ หลักการแกปึ้กจริงๆ แต่ผมลองไปแล้วสงสัยอยู่สองสามข้อ ให้กังขามานาน คือแกว่า ไนเตรท ไม่ทำให้ตะไคร่บูม แต่ตอนที่ผมเพาะตะไคร่ในกะละมัง (ตอนนั้นจะเอามาให้ออตโตกิน ตู้ดีจัด ไม่มีตะไคร่ เอาให้กินแล้วมันอ้วนดี ดูมันชอบกว่าอาหารปลา) ผมก็ใส่ปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ ในนั้นก็ไม่มี NH4+ NH3 ซักกะติ๊ด ตะไคร่เขียวรึ่ม ไม่เห็นเป็นอย่างที่เค้าบอกว่าให้ลองดูกี่ครั้งก็ได้ เป็นอย่างที่ว่าแน่นอน ไม่รู้ว่าปุ๋ยนั้นคือ ออสโมโค้ทหรือเปล่า คือ ออสโมโค้ทนี่ ตัวไนโตรเจนของมันจะมีทั้ง NH4 และ ไนเตรท รูปนี้แช๊ะมาจาก http://scottspro.com/_documents/tech_sheets/osmocoteclassic.pdf (http://img190.imageshack.us/img190/8602/osmocotenh4.jpg) คือ ถ้าจะเอาไนเตรทอย่างเดียวแบบชัวร์ๆต้องเป็นปุ๋ยที่บอกว่ามี NO3 ไม่มีคำว่า NH4 ครับ เช่นที่ผมใช้อยู่นี่ KNO3 (โปแตสเซียมไนเตรท หรือปุ๋ยสูตร 13-0-46 ซื้อจากศึกษาภัณฑ์ก็ได้) แต่ถ้าของคุณแน่ใจว่าเป็นไนเตรท (ไม่มี NH4) อยู่แล้ว ก็ไม่รู้เหมือนกัน อ้างถึง แล้วตามสูตรเคมี ถ้า PH สูงๆ NH4+ จะกลายเป็น NH3 (ในตู้ปลา พวกแอมโมเนียปกติมันจะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่สองตัวนี้แหละ) ผมก็ซํดซะ PH 9 ซึ่งก็น่าจะไม่มีตะไคร่ขนดำ หรือตะไคร่อื่น ตามสูตรรูเตี๋ยวของตาทอม ที่ไหนได้ เหมือนเดิม เดือนนึงก็แล้ว สองเดือนก็แล้ว เหมือนเดิ๊ม ตรงนี้จริงๆ แล้วก็สงสัยเหมือนกัน กะว่าจะถาม (ทอม) อยู่เหมือนกัน แต่ดูเหมือนเขาจะไม่เคยบอกว่า NH3 ไม่ทำให้เกิดตะไดร่นะ หรือเขาละไว้ ในฐานที่เข้าใจ? (เพราะปุ๋ย NH3 มันไม่มี? มีแต่ NH4? ใครอยากได้ NH3 ก็เอาแอมโมเนียไปใส่ในน้ำ PH สูงๆ เอาเอง? อันนี้ผมสงสัยแบบ ยังไม่ลงมือค้นนะ) อัพเดท: เจอแล้ว มีคนสงสัยเหมือนคุณเลย และถ้าเข้าใจไม่ผิด ดูเหมือนเขาจะตอบว่าพืชสามารถนำ NH3 มาแปลงเป็น NH4 ได้ เพราะมี H+ อยู่ในน้ำเยอะแยะ http://www.barrreport.com/showthread.php/3456 อีกอย่างที่สงสัยคือ ตะไคร่มันกินไนเตรทไม่เป็นจริงๆ เหรอ? คือ ถ้าเอาน้ำกลั่นมาใส่ไนเตรทแล้วเอาไปตากแดด มันจะไม่มีตะไคร่เหรอ มันควรจะมีสิ ทีนี้ ที่เค้าบอกไม่มีนี่ หมายถึง ในนั้นไม่ใช่มีแต่น้ำเปล่ากับปุ๋ย แต่ต้องมีไม้น้ำด้วย เพื่อให้ไม้น้ำแข่งกับตะไคร่ หรือเปล่า? โอเค ถ้าหมายถึงให้ต้นไม้มันแข่งกับตะไคร่ มันก็ต้องมีไนเตรทเหลือให้ตะไคร่ด้วยใช่มั้ย (ตามหลักของ EI) แล้วตะไคร่ถูกจำกัด (ไม่ใช่กำจัด) ได้ยังไง? ต้นไม้ปล่อยสารเคมีที่ต่อต้านตะไคร่เหรอ? หรือว่าตะไคร่ไม่สามารถนำไนเตรทไปใช้ได้เก่งนักเพราะเป็นพืชชั้นต่ำ ...คิดจะถามแกทำนองนี้ด้วย อ้างถึง นอกนั้นหลักการโดยรวมก็เหมือนทั่วๆไป คือเอาปัจจัยของตะไคร่ออก เสริมปัจจัยให้ต้นไม้โตดีๆ มันก็หมดไปเอง Correct! อ้างถึง ไอ้แบบตาทอมนี่ก็ลองแล้ว ปรากฎว่า แม่งโคตรยากเลยครับ มานั่งคำนวณอัตราส่วนเนี่ย เพราะปุ๋ยต้นไม้ที่ขายๆกันก็ไม่ได้แจ้งอัตราส่วนไว้ ต้องใช้ปุ๋ยแยกตัว หาซื้อก็ยาก ซื้อทีคนขายก็มองแล้วมองอีก มันจะเอาไปทำระเบิดป่าววะ ตัวที่จำเป็นที่สุดหาซื้อไม่ยากเลยนะ ผมซื้อจากร้านสาขาของศึกษาภัณฑ์ (ผมอยู่ตจว.) ก็ได้มาสองอย่าง: K2SO4 (โปแตสเซียมซัลเฟต หรือปุ๋ย 0-0-50) KNO3 (โปแตสเซียมไนเตรท หรือปุ๋ย 13-0-46) ส่วน MgSO4 (แมกนีเซียมซัลเฟต) ก็คือ ดีเกลือฝรั่ง หรือ Epsom Salt นี่ซื้อได้จากร้านยาจีน CaSO4 (แคลเซียมซัลเฟต) หรือเจี๊ยะกอ หรือหินเต้าหู้ ซื้อได้จากร้านยาจีน ที่หายากหน่อย แต่ใช้น้อย และบางตู้อาจไม่จำเป็น คือ KH2PO4 หรือ โมโนโปแตสเซียมฟอสเฟต หรือปุ๋ย 0-52-34 เพิ่งเจอที่เขาขายปลีก จาก http://www.thaigreenagro.com/product/productList_4.aspx สั่งซื้อไปแล้ว ส่วนพวกธาตุอาหารเสริม ที่จริงกะใช้ ยูทิไลซ์ + ปุ๋ยเหล็กคีเลต แต่หาซื้ออย่างแรกไม่ได้ แถมอย่างหลังก็แพงและโดนบังคับซื้อเป็นกิโล ใช้ไปชาตินึงก็คง ไม่หมด เลยใช้ Ferka Aquatilizer แทน (ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามีเหล็กพอหรือเปล่า) ส่วนวิธีตวงนั้น ซื้อช้อนตวงจากซูเปอร์มาร์เก็ตมา แล้วดูว่าตู้เราควรใส่เท่าไหร่จาก http://atlas.csd.net/~cgadd/aqua/art_plant_dosage_calc.htm ผมเพิ่งซื้อที่ตวงดิจิตอลมาจากอีเบย์ รวมค่าส่งแล้วไม่ถึงสี่ร้อยเอง เอาไว้ชั่งอย่างอื่นได้ด้วย ลองแล้วมันแม่นมากเลย ระดับจุดทศนิยมสองตำแหน่งแน่ะ เคยมีคนสิงคโปร์ บ่นกับตาทอมว่าหาซื้อปุ๋ยยาก ซึ่งเขาเองก็บอกว่าน่าเห็นใจ แต่เชื่อว่ามันมีขายในทุกประเทศแน่ๆ (อยากถามแกเหมือนกันว่าแล้ว ในประเทศวาติกันมีขายป่ะ ้hahaha ) แล้วเปรยให้เพื่อนร่วมชาติ (อเมริกัน?) ฟังว่า ดูเอาเถิด สูเจ้าจงตระหนักถึงความโชคดีที่อยู่ในประเทศที่ซื้่อหาอะไร ก็ง่ายเอาไว้นะ (ทำนองว่า Don't take it for granted) อ้างถึง แถมปัจจัยในตู้แต่ละตู้ที่เลี้ยงๆกันก็มั่วเหลือเกิน แสงแค่ไหนถึงเรียกว่าจัด/เยอะ? อุณหภูมิน้ำ ระบบกรอง แต่ละคนมันไม่ได้เหมือนกันเลย อันนี้เขาเองก็เห็นด้วย โดยบอกว่าปริมาณที่เค้าว่าไว้นั้น เป็นแบบรวมๆ ให้เริ่มจากตรงนั้นก่อน แล้วค่อยๆ ปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับตู้แต่ละตู้ โดยดูจาก อาการต้นไม้และสัตว์ในนั้น อ้างถึง และที่สำคัญคือ ใช้ไม่ได้กับคนเลี้ยงส่วนใหญ่ เพราะแค่ระบบกรองหรือ ไนโตรเจนไซเคิลง่ายๆยังไม่รู้เรื่องกันเลย ไอ้แบบนี้เหรอ ตายตั้งกะสองบรรทัดแรก ตอนนั้นผมยังนั่งอ่านอยู่หลายวัน ภาษาแกก็พิลึกๆ เหมือนวิชาการจัด หรือภาษา eng ชาติไหนซักชาติ ผมมันดันถนัดแต่อังกฤษภาษาพูด พวกตามหนัง ตามบอร์ด ตามการ์ตูนโป๊ emb01 ก็จริงนะ ผมต้องอ่านเรื่องเกี่ยวกับไม้น้ำอย่างอื่นจนชินภาษาและศัพท์ที่ใช้ในแวดวงไม้น้ำก่อน ถึงจะอ่านของแกได้คล่องขึ้น อีกอย่างนึง ตาทอมแกชอบ พิมพ์ตกหล่น ทำให้บางตัวอ่านไม่ออก ้hahaha หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: Champies ที่ 20/05/09, [22:09:14] กระทู้นี้เจ๋งแฮะ
หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: Django ที่ 20/05/09, [23:41:53] เยี่ยมครับ ช่วยกันวิเคราห์อย่างนี้สนุกจัง ว่าแต่ผมเองก็เคยได้ยินมานะครับว่าถ้าต้นไม้มันอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์สุดๆ มันจะผลิตเคมีออกมาต่อสู้กับตะไคร่ คล้ายกับพวกปะการังมั้ง ตรงนี้เฮียอามาโน่เลยผลิต Phyton-git ออกมาขายแล้วอ้างสรรพคุณว่าช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของต้นไม้ให้ต่อสู้กับตะไคร่ได้ดีขึ้น ( อันนี้ e-mail ไปถาม ada เลย ) แต่พอถามกลับไปว่ามีส่วนประกอบมาจากอะไรบ้าง ทางนั้นไม่ยอมตอบ แต่ยันว่าเป็นนโยบายของทางบริษัท ผู้บริโภคต้องพิจรณาเอาเองว่าจะเชื่อถือในสินค้าของเค้ารึเปล่า อันนี้ทำเอาเซ็งไปเลย น่าจะมีใครเซียนๆเคมีลองแกะสูตรดูนะครับ คิดว่าไม่น่าจะยากเกินไป ผมลองซื้อมาใช้ดูก็ยังไม่เห็นผลชัดเจนนัก แต่ก็ทำใจไว้แล้วเพราะในสลากก็ระบุเอาไว้ว่าผลิตจากส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติ ซึ่งผลที่จะได้รับคงไม่รวดเร็วเหมือนเคมีแน่ๆ เพราะชอบแนวคิดที่ว่า ไม่ฆ่าตะไคร่ซึ่งต้นไม้เองต้องได้รับผลกระทบบ้างแน่นอน หากแต่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ต้นไม้นั้นแข็งแรงพอที่จะแย่งพื้นที่กลับคืนมาจากตะไคร่ได้ด้วยวิธีธรรมชาติน่ะครับ
ป.ล ตกลงไอ้คาร์บอนนำ้ที่ด้านบนเค้าแนะนำมาเนี่ย ( Seachem ) ฟลอร่าๆอะไรนั่น มมันคือ Co2 แบบนำ้ธรรมดาๆหรือมีอะไรพิเศษครับ เพราะถ้าเป็น Co2 ธรรมดา เราก ้น่าจะเร่งที่ Regulator เองได้นี่ครับทำไมต้องไปซื้อด้วยก็ไม่รู้ [งง] หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: NP ที่ 21/05/09, [00:03:27] มันคือตัวนี้ครับ
http://www.seachem.com/Products/product_pages/FlourishExcel.html ไม่เคยใช้นะ อ่านดูคร่าวๆ เห็นอธิบายเรื่อง CO2 ทำนองว่า มัน Longer Chain Carbon Compound อะไรทำนองนี้ (อ่านแล้วงงเหมือนกัน) บวกกับการเปลี่ยน ธาตุเหล็กในรูป Fe+3 ให้เป็น Fe+2 ให้พืชนำไปใช้ได้ง่ายขึ้น หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: OoKabukioO ที่ 21/05/09, [01:09:33] เข้ามาเก็บความรู้ กระทู้นี้น่าจะปักหมุดไว้นะ [เจ๋ง]
หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: MenN*OSK 128 ที่ 21/05/09, [02:09:13] แหล่มดีครับ อ่านแล้วได้เยอะเลย
หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: Mr.F ที่ 21/05/09, [08:48:24] คาร์บอนนำ้ที่ว่าคืออะไรครับ คือ Co2 รึเปล่า ถ้าไช่ก็แปลว่าเพิ่ม Co2 ที่ถังก็ได้รึเปล่าครับ เหมือนเคยอ่านเจอที่พี่กบแนะนำไว้ว่าไอ้ขนดำเนี่ยมันเกลียดนำ้ที่มีสภาพความเป็นกรด ว่าแต่ถ้าเร่งที่ถังได้จริงทำไมถึงต้องซื้อกันเหรอครับไอ้เจ้าคาร์บอนนำ้เนี่ย มันมีอะไรที่พิเศษกว่ามั้ยครับ เยี่ยมครับ ช่วยกันวิเคราห์อย่างนี้สนุกจัง ว่าแต่ผมเองก็เคยได้ยินมานะครับว่าถ้าต้นไม้มันอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์สุดๆ มันจะผลิตเคมีออกมาต่อสู้กับตะไคร่ คล้ายกับพวกปะการังมั้ง ตรงนี้เฮียอามาโน่เลยผลิต Phyton-git ออกมาขายแล้วอ้างสรรพคุณว่าช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของต้นไม้ให้ต่อสู้กับตะไคร่ได้ดีขึ้น ( อันนี้ e-mail ไปถาม ada เลย ) แต่พอถามกลับไปว่ามีส่วนประกอบมาจากอะไรบ้าง ทางนั้นไม่ยอมตอบ แต่ยันว่าเป็นนโยบายของทางบริษัท ผู้บริโภคต้องพิจรณาเอาเองว่าจะเชื่อถือในสินค้าของเค้ารึเปล่า อันนี้ทำเอาเซ็งไปเลย น่าจะมีใครเซียนๆเคมีลองแกะสูตรดูนะครับ คิดว่าไม่น่าจะยากเกินไป ผมลองซื้อมาใช้ดูก็ยังไม่เห็นผลชัดเจนนัก แต่ก็ทำใจไว้แล้วเพราะในสลากก็ระบุเอาไว้ว่าผลิตจากส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติ ซึ่งผลที่จะได้รับคงไม่รวดเร็วเหมือนเคมีแน่ๆ เพราะชอบแนวคิดที่ว่า ไม่ฆ่าตะไคร่ซึ่งต้นไม้เองต้องได้รับผลกระทบบ้างแน่นอน หากแต่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ต้นไม้นั้นแข็งแรงพอที่จะแย่งพื้นที่กลับคืนมาจากตะไคร่ได้ด้วยวิธีธรรมชาติน่ะครับ ป.ล ตกลงไอ้คาร์บอนนำ้ที่ด้านบนเค้าแนะนำมาเนี่ย ( Seachem ) ฟลอร่าๆอะไรนั่น มมันคือ Co2 แบบนำ้ธรรมดาๆหรือมีอะไรพิเศษครับ เพราะถ้าเป็น Co2 ธรรมดา เราก ้น่าจะเร่งที่ Regulator เองได้นี่ครับทำไมต้องไปซื้อด้วยก็ไม่รู้ [งง] ไม่ใช่นะครับ ไม่เหมือนกัน มันไม่ได้เป็น CO2 = Carbon 1 อะตอม + Oxigen 2 อะตอม โดยต้นไม้ดึง Carbon ไปใช้แล้วคลาย Oxigen ออกมา นะครับ แต่มันเป็นสารประกอบอะไรซักอย่าง ที่ทำให้ต้นไม้ดึง Carbon ไปใช้ได้อะครับ ถ้าจำไม่ผิด หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: Champies ที่ 21/05/09, [09:26:37] พอมาอ่านดีๆแล้ว รู้สึกว่ามันยากเกินกว่าพวกโง่ๆอย่างผมจะเข้าใจแฮะ
แต่เคยมีอยู่ตู้นึง เป็นตู้พักต้นไม้ พักปลา 24 นิ้ว ไม่มี CO2 มีต้นอะไรเหลือเอาไปโยนๆใว้ กรองแขวนตัวนึง ไฟอีก36 วัตต์ เอาใบหูกวางไปหมักด้วย น้ำออกเหลืองๆหน่อย สังเกตุุว่าต้นไม้ก็พออยู่รอด ยิ่งพวกเฟิร์น มอส พิเลีย งอกงามอีกตะหาก ที่สำคัญ ตะไคร่ ไม่มีเลย เอามาจากตู้อื่นนี่ รากดำมีขนดำติดใบติดไรโซมแบบรึ่มๆ เอามาใส่ ซัก1อาทิตย์ หายเกลี้ยง ไม่ได้มีปลากินตะไคร่ด้วย ก็เลยสรุปได้ว่า การที่แสงไม่มาก น้ำหมักๆหน่อย ตะไคร่อยู่ไม่ได้ตายเรียบ ตู้หลังๆมาก็เลยพยายามเลียนแบบตู้พักต้นไม้นี้ คือช่วงแรกๆพยายามไม่เปิดไฟเยอะเอาพอให้ต้นไม้อยู่ได้ ใส่ใบหูกวางลงไปในกรอง หน่อย ก็ค่อนข้างได้ผลดี รอจนต้นไม่สมบูรณ์ขึ้น เอาใบหูกวางออก เปลี่ยนน้ำ เปิดไฟเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่เจอขนดำอีกเลย เจอเขียวจุดนิดหน่อย อีกแบบนึงก็คือไฟแรงๆ แต่ต้นไม้สมบูรณ์จัดๆ ไม่มีตะไคร่ให้เห็นเช่นกัน มีแค่ช่วงแรกๆ ตามทฤษฎีเป๊ะๆ http://i192.photobucket.com/albums/z300/championchampies/DSC_2220blacke.jpg หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: Mr.F ที่ 21/05/09, [09:45:14] พอมาอ่านดีๆแล้ว รู้สึกว่ามันยากเกินกว่าพวกโง่ๆอย่างผมจะเข้าใจแฮะ แต่เคยมีอยู่ตู้นึง เป็นตู้พักต้นไม้ พักปลา 24 นิ้ว ไม่มี CO2 มีต้นอะไรเหลือเอาไปโยนๆใว้ กรองแขวนตัวนึง ไฟอีก36 วัตต์ เอาใบหูกวางไปหมักด้วย น้ำออกเหลืองๆหน่อย สังเกตุุว่าต้นไม้ก็พออยู่รอด ยิ่งพวกเฟิร์น มอส พิเลีย งอกงามอีกตะหาก ที่สำคัญ ตะไคร่ ไม่มีเลย เอามาจากตู้อื่นนี่ รากดำมีขนดำติดใบติดไรโซมแบบรึ่มๆ เอามาใส่ ซัก1อาทิตย์ หายเกลี้ยง ไม่ได้มีปลากินตะไคร่ด้วย ก็เลยสรุปได้ว่า การที่แสงไม่มาก น้ำหมักๆหน่อย ตะไคร่อยู่ไม่ได้ตายเรียบ ตู้หลังๆมาก็เลยพยายามเลียนแบบตู้พักต้นไม้นี้ คือช่วงแรกๆพยายามไม่เปิดไฟเยอะเอาพอให้ต้นไม้อยู่ได้ ใส่ใบหูกวางลงไปในกรอง หน่อย ก็ค่อนข้างได้ผลดี รอจนต้นไม่สมบูรณ์ขึ้น เอาใบหูกวางออก เปลี่ยนน้ำ เปิดไฟเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่เจอขนดำอีกเลย เจอเขียวจุดนิดหน่อย อีกแบบนึงก็คือไฟแรงๆ แต่ต้นไม้สมบูรณ์จัดๆ ไม่มีตะไคร่ให้เห็นเช่นกัน มีแค่ช่วงแรกๆ ตามทฤษฎีเป๊ะๆ http://i192.photobucket.com/albums/z300/championchampies/DSC_2220blacke.jpg เออหวะที่บ้านก็เหมือนกันตู้พักต้นไม้ น้ำเหลืองๆ ไฟอ่อนๆ รากดำ โบบิ ใบดูดีกว่าตู้ที่ตั้งใจอีก asspain หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: NoFuturian[Chonburi] ที่ 21/05/09, [10:00:39] ปักหมุดเลยครับพี่ Correct!
หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: ~คุโรซากิ~ ที่ 21/05/09, [10:11:10] ช่ายแล้ว กะลังงงกะตู้ตัวเองเหมือนกัน ตั้งใหม่ๆ ดูแล ตามคู่มือในห้องสมุดเป๊ะๆ ปู๋ยรองพื้น ปุ๋ยน้ำตามสูตร ผล... ตะไคร่ตรึม มีหมดทุกอย่าง เหมือนตามคู่มือเหมือนกัน suicide แก้ไขโดยใส่สัตว์กินตะไคร่ ตามสเต็ป ก็ดีขึ้น ขนเขียวขนน้ำตาล ลดลง แต่ก็ยังไม่หมดทีเดียว และก็ขนดำเนี่ยแหล่ะอยู่เหมือนเดิม ออกยากมากๆ เลยรื้อเอากรอสโซ่ออก เพราะขนดำติดกรอสโซ่เยอะมาก และก็เริ่มเลี้ยงปลาแพะ มันคุ้ยลอยหมด เลยเอาออกดีก่า แล้วลดไฟลง 1 แถว ตู้ 24" มี PL24*2 กับ PL55w *1 เอา PL55w ออกเพราะดูแสงมันออกเหลืองไม่ค่อยชอบ อย่างอื่นเหมือนเดิม ทุกอย่าง การถ่ายน้ำ ปุ๋ย ระยะเวลาเปิดไฟ ผล... หายหมดแล้วครับ ไม่มีตะไคร่เหลือเลย ทั้งขนดำ ขนน้ำตาล จุดเขียว เหลือ แต่ขนเขียว นิดๆหน่อยๆ พอให้ อ๊อตโต กะ สอดดำ กินบ้าง แต่พักหลังมัน กินแต่อาหารปลาแล้วอ่ะ ว่าจะเอาสอดดำออกดีกว่า มันชอบไปดูดก้นตัวอื่น ถ้าเอาไปปล่อยในคลอง มันจะอยู่ได้มั้ยครับ หรือจะกลายเป็น อาหารปลาอื่นครับ [เจ๋ง] หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: (^X^) Sama-bat ที่ 21/05/09, [10:19:22] ไม่ใช่นะครับ ไม่เหมือนกัน มันไม่ได้เป็น CO2 = Carbon 1 อะตอม + Oxigen 2 อะตอม เพิ่งอ่านมาครับ การใช้ co2 น้ำ ที่มีผลทำให้ช่วยควบคุมตะไคร่ โดยหมอแบงค์โดยต้นไม้ดึง Carbon ไปใช้แล้วคลาย Oxigen ออกมา นะครับ แต่มันเป็นสารประกอบอะไรซักอย่าง ที่ทำให้ต้นไม้ดึง Carbon ไปใช้ได้อะครับ ถ้าจำไม่ผิด http://aqua.c1ub.net/forum/index.php?topic=29734.0 (http://aqua.c1ub.net/forum/index.php?topic=29734.0) หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: Mr.F ที่ 21/05/09, [11:31:56] เพิ่งอ่านมาครับ การใช้ co2 น้ำ ที่มีผลทำให้ช่วยควบคุมตะไคร่ โดยหมอแบงค์ http://aqua.c1ub.net/forum/index.php?topic=29734.0 (http://aqua.c1ub.net/forum/index.php?topic=29734.0) เนี่ยะหละๆ พี่หมอเค้าบอกไว้แล้ว ปล. มันไม่ค่อยเห็นผลทันตา เท่าๆพวกยา นะครับ แต่ก็ช่วยได้เยอะ ค่อยๆน้อยลง แต่ไม่เยอะขึ้น หรือใส่กันไว้ก่อนก็ดีนะ หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: TEOS! ที่ 21/05/09, [13:01:49] มาเก็บความรู้คร้าบ
หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: aenaluck ที่ 21/05/09, [15:33:50] เห็นคุณแชมป์คอนเฟิร์มไว้หลายรอบแล้ว อย่างงี้ต้องไปลองทำมั่ง.. [เจ๋ง]
หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: NP ที่ 21/05/09, [19:52:38] พอมาอ่านดีๆแล้ว รู้สึกว่ามันยากเกินกว่าพวกโง่ๆอย่างผมจะเข้าใจแฮะ แต่เคยมีอยู่ตู้นึง เป็นตู้พักต้นไม้ พักปลา 24 นิ้ว ไม่มี CO2 มีต้นอะไรเหลือเอาไปโยนๆใว้ กรองแขวนตัวนึง ไฟอีก36 วัตต์ เอาใบหูกวางไปหมักด้วย น้ำออกเหลืองๆหน่อย สังเกตุุว่าต้นไม้ก็พออยู่รอด ยิ่งพวกเฟิร์น มอส พิเลีย งอกงามอีกตะหาก ที่สำคัญ ตะไคร่ ไม่มีเลย เอามาจากตู้อื่นนี่ รากดำมีขนดำติดใบติดไรโซมแบบรึ่มๆ เอามาใส่ ซัก1อาทิตย์ หายเกลี้ยง ไม่ได้มีปลากินตะไคร่ด้วย ก็เลยสรุปได้ว่า การที่แสงไม่มาก น้ำหมักๆหน่อย ตะไคร่อยู่ไม่ได้ตายเรียบ ตู้หลังๆมาก็เลยพยายามเลียนแบบตู้พักต้นไม้นี้ คือช่วงแรกๆพยายามไม่เปิดไฟเยอะเอาพอให้ต้นไม้อยู่ได้ ใส่ใบหูกวางลงไปในกรอง หน่อย ก็ค่อนข้างได้ผลดี รอจนต้นไม่สมบูรณ์ขึ้น เอาใบหูกวางออก เปลี่ยนน้ำ เปิดไฟเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่เจอขนดำอีกเลย เจอเขียวจุดนิดหน่อย อีกแบบนึงก็คือไฟแรงๆ แต่ต้นไม้สมบูรณ์จัดๆ ไม่มีตะไคร่ให้เห็นเช่นกัน มีแค่ช่วงแรกๆ ตามทฤษฎีเป๊ะๆ http://i192.photobucket.com/albums/z300/championchampies/DSC_2220blacke.jpg ที่อ่านมาที่ Tom Barr ตอบนะครับ ถ้าจะแยกประเภทตู้จากงบประมาณ ไม่ใช่ทฤษฎี มันก็จะแยกได้สองแบบ คือตู้โลว์เทค กับตู้ไฮเทค ตู้โลว์เทค ไฟน้อย ไม่มี CO2 ไม่อัดปุ๋ย—ใส่แต่ตอนแรกเท่านั้น ตอนหลังใช้ขี้ปลาที่สะสมแทน ตะไคร่น้อยเพราะแสงน้อย CO2 ไม่ต้อง เพราะแสงทำให้ต้องการอาหารน้อย ส่งผลให้ไม่ต้องอัดปุ๋ย (ปลาต้องไม่มากเกินด้วยนะ) ต้นไม้โตไม่เร็ว น้ำไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย (Tom Barr บอกว่าไม่ต้องเปลี่ยนน้ำเลยด้วยซ้ำถ้าสมดุลย์จริงๆ แค่เติมน้ำที่ระเหยไปก็พอ) เป็นตู้ที่ดูแลง่าย ตู้ไฮเทค ก็อย่างที่เราชินกัน มี CO2 อัดปุ๋ย อัดแสง ฯลฯ ต้นไม้โตเร็ว เปลี่ยนน้ำทุกอาทิตย์ ดูแลเหนื่อยหน่อย แต่ตื่นเต้นดี เหมือนขับรถเร็วๆ ถ้าเจออะไรขวางทางแล้วหลบไม่ทันก็คว่ำไปเลย (ตะไคร่มา) ที่ว่าทั้งสองตู้นี้ใช้คอนเซ็ปท์เดียวกันก็คือ ความสมดุลย์ในการใช้สารอาหาร (โดยเฉพาะ NH4) ของพืช ในสภาพต่างๆ (แสงมากแสง/น้อย, มี CO2/ไม่มี) แต่เราเข้าใจผิดว่าใช้คนละแนวทางเพราะไปยึดรูปแบบภายนอก เขายังเคยบอกเวลามีคนบอกว่า แนวความคิด EI ขัดแย้งกับ ADA ซึ่งเขาตอบว่า โดยทั่วไปแล้ว คนที่คิดว่า มันขัดแย้งมักจะเป็นคนที่ไม่รู้ ส่วนคนที่รู้ก็จะคิดเหมือนๆ กันน่ะแหละ (ทำนองว่า เวลามีสองลัทธิ ทะเลาะกันในแนวความคิด คนที่ทะเลาะกันมักจะเป็นลูกศิษย์ แต่พอหัวหน้าลัทธิทั้งสองมาเจอกัน ปรากฎว่าคุยกันถูกคอ เพราะแท้จริงแล้ว หัวหน้าทั้งสองคิดเหมือนกัน—ในวงเล็บนี้ผมเสริมขึ้นมาเองนะ Tom Barr ไม่ได้พูด) อีกอย่างนึงที่ผมอ่านเจอและคิดว่าสำคัญ เพราะเห็นหลายตู้ในนี้ ที่ระยะแรกไม่มีตะไคร่ แต่พอผ่านไป หลายๆ เดือนตะไคร่รึ่มทั้งที่ใส่ปุ๋ยเหมือนเดิม ผมว่าเป็นเพราะขี้ปลาสะสมใน Substrate ครับ เรื่องนี้ Tom Barr ให้ความสำคัญเหมือนกัน ขี้ปลาสะสมใน Substrate จึงเป็นแหล่งหนึ่งของ NH4 [ขอตัดเรื่อง Redox ออกไป เพราะผมกลัวว่าตัวเองจะตีความผิด] สรุปแล้วผมว่า EI โดยแก่นของมันแล้วไม่ซับซ้อน คือ อัดปุ๋ยที่ไม่ใช่ NH4 ได้ ไม่ให้พืชขาดอาหาร หรือถูกจำกัดการเติบโตด้วยสารอาหาร แต่อย่ามากเกินไปจนสิ่งมีชีวิตในตู้เดือดร้อน และหาทาง จำกัดปริมาณ NH4 ที่พืชใช้ไม่หมด ส่วนใครจะทำยังไงในการจำกัดปริมาณ NH4 นั้นก็ขึ้นอยู่กับ ประสบการณ์และวิธีที่แต่ละคนจะคิดขึ้นมาเอง (เพิ่ม CO2 ให้พืชดึงมันไปใช้ได้มากขึ้น, หรือถ้าตู้มีสารอาหารสำหรับพืชน้อย ก็อย่าใช้ CO2 และลดแสงด้วย เพื่อไม่ให้พืชอ่อนแอ จากการถูกบังคับให้โตโดยไม่มีสารอาหาร ฯลฯ) ตรงนี้แหละที่ผมคิดว่าเป็นรายละเอียดปลีกย่อยที่ต้องอาศัยประสบการณ์ เป็นสิ่งที่แยกสิ่งที่มือเก๋าๆ ออกจากมือใหม่ ทำตามวิธีในคู่มือแล้วก็ยังมีตะไคร่—ก็เพราะแต่ละตู้ไม่เหมือนกันจะให้ใช้วิธีเดียวกันได้ยังไง แต่สิ่งที่อยู่เหนือวิธีการคือ แนวคิดครับ ทำนองว่าแนวคิดหนึ่งๆ สามารถทำได้โดยใช้วิธีการที่ไม่เหมือนกัน ปล. ที่เขียนมานี้ ส่วนใหญ่ในนี้เป็นการสรุปและเรียบเรียงจากที่ตามอ่านคำตอบของตา Tom Barr ในเว็บบอร์ดต่างๆ บางส่วนเป็นความคิดเห็นของผมที่มีต่อแนวคิด EI ไม่ใช่ประสบการณ์ของผมนะ (เพราะยังมีน้อย) หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: Django ที่ 21/05/09, [21:15:02] ขอบคุณหลายๆครับ ตามไปเรื่อยๆก็พอจะเข้าใจพอสมควร ส่วนใหนที่งงคงต้องอาศัยประสบการณ์ช่วยสอนให้อีกที ว่าแต่คำศัพท์ที่ย่อชื่อเฉพาะขององค์ประกอบเคมีต่างๆเนี่ย ช่วยแปลให้ด้วยได้มั้ยครับ รู้จักแต่ว่าไม่ครบทุกตัว เรียนศิลปะมาน่ะครับ ไม่เคยเรียนไอ้พวกนี้เลย ที่ผ่านๆมาก็ครูพักลักจำทั้งนั้น เผื่อใครมาอ่านจะได้เข้าใจเคลียร์ๆไปเลยครับ ช่วยหน่อยนะครับ [เขิลลลล]
หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: NP ที่ 22/05/09, [00:25:24] ตัวย่อไหนครับที่ไม่เข้าใจ คิดว่าในนี้มีสองตัวมั้งที่ยังไม่ใส่วงเล็บอธิบาย: FE, NH4
เอาแบบคร่าวๆ (เพราะผมก็ไม่ได้รู้เรื่องเคมีหรอก) FE = เหล็ก ส่วน FE2 FE3+ อะไรนี่ ผมไม่รู้ซื้งหรอก เห็นมันมีพลิกแพลงไปมา บางรูปแบบต้นไม้เอาไปใช้ไม่ได้ ต้องอาศัยแบคทีเรียช่วย แต่รวมๆ คือ...เหล็ก hide2 NH4 (ถ้าจะเขียนให้ถูกต้องจริงๆ จะเป็น NH4+ คือแอมโมเนียที่อยู่ในน้ำที่มีค่า PH ตั้งแต่ 7 ลงไป แต่ถ้าอยู่ในน้ำที่มี PH มากกว่า 7.5 ก็จะเริ่มกลายเป็น NH3 (ไม่ยักมีเครื่องหมายบวกนิ) แล้วถ้าอยู่ระหว่าง 7-7.5 ล่ะ...ไม่รู้ สงสัยคงมีอย่างละครึ่งมั้ง ซึ่งเจ้า NH3 (ขอพิมพ์ธรรมดานะ) นี่ เป็นอันตรายกับปลามากกว่า NH4 แอมโมเนียประกอบด้วยธาตุไนโตรเจน (N) กับไฮโดรเจน (H) ตัว N ในแอมโมเนียก็ คือหนึ่งในตัวย่ออาหารหลักของต้นไม้ N, P, K (ไนโตรเจน, ฟอสฟอรัส, โปแตสเซียม) ปุ๋ยโปแตสเซียมเดี่ยวๆ ที่นิยมใช้กับไม้น้ำก็มี K2SO4 (โปแตสเซียมซัลเฟต) กับ KCl (โปแตสเซียมคลอไรด์) ผมเริ่มใส่โปแตสเซียม โดยใช้ Balance-K ของ Ferka ตอนหลังหันมาใช้ K2SO4 ผสมน้ำ แทน เพราะถูกกว่า และกะปริมาณได้แม่นกว่า (เพราะของเดิมไม่รู้ว่าเหยาะลงไปพอแล้วยัง) เห็นผลกับแฮร์กลาสธรรมดาแบบทันตายาวขึ้นเกือบสี่น้ิวในห้าวัน รู้สึกเห่อมาก เลยติดใจ ปุ๋ยไนเตรท (ไนโตรเจน) เดี่ยวๆ ที่ใช้กับไม้น้ำนี่ ผมไม่เห็นว่ามีใครในแนว EI ใช้กัน (ก็ไม่รู้ว่าที่เป็นขวดปุ๋ยน้ำไนโตรเจนที่เขาขายกันนั้นคืออะไร) มีแต่ใช้ KNO3 (โปแตสเซียมไนเตรท) ซึ่งมีทั้งไนเตรทและโปแตสเซียมใครใช้ KNO3 เยอะๆ ก็ไม่ต้องใช้ K2SO4 แต่ตู้ผมมีไนเตรทเยอะอยู่แล้ว (จากการย่อยสลายขี้ปลา) ก็เลยใช้ K2SO4 มากกว่าจะใส่ KNO3 ก็เฉพาะตอนเปลี่ยนน้ำ (เพราะพอวันต่อๆ มา ก็จะมีไนเตรทเพิ่มขึ้นมาเองจากขี้ปลา ปลาในตู้เยอะเกิน hide2 ) KH2PO4 โมโนโปแตสเซียมฟอสเฟต มีทั้งโปแตสเซียมและฟอสเฟต เหตุที่ปุ๋ยธาตุหลัก (NPK) ที่ใช้มีโปแตสเซียมกันทุกตัวก็เพราะ มันเป็นธาตุอาหาร ที่โอเวอร์โดสได้ยาก คือ ใส่เยอะไปก็ไม่ค่อยเป็นอันตราย ทั้งกับปลาและไม้น้ำ ยกเว้นกรณีที่มากเกินไปจริงๆ จะทำให้พืชดูดแคลเซียมไปใช้ได้ไม่ดี ตู้ผมใส่ MgSO4 (แมกนีเซียมซัลเฟต) กับ CaSO4 (แคลเซียมซัลเฟต) ด้วย เพราะน้ำอ่อนเกินไป (ไม่เคยเจอคราบหินปูนในห้องน้ำเลย วัดค่า GH ดูแล้วก็ต่ำจริงๆ) และดูต้นเทปใบหงิกๆ (เป็นมาตั้งแต่เริ่มปลูก เมื่อปีที่แล้ว) ซึ่งเป็นอาการขาดแคลเซียม (เป็นก่อนผมจะใส่โปแตสเซียม) ทั้งที่อัดปุ๋ยธาตุรอง (Ferka Aquatilizer) วันละ 4 ซีซี (ตู้ 24") กับ Ferka Rosetta (ออสโมโค้ทด้วย) แล้วก็ยังไม่หาย ตอนนี้กำลังรอดูผลว่ายอดใหม่มันหายหงิกหรือเปล่า เพิ่งใส่ MgSO4 กับ CaSO4 ได้ไม่ถึงอาทิตย์เอง [เขิลลลล] ไหนบอกว่า EI ไม่ต้องใช้ตัวเทสต์? นายทอมบอกว่า ในคอนเซ็ปท์การให้ปุ๋ยแบบอื่น (PMDD กับ PPS Pro) เนี่ย เขาเน้นการใช้ ตัวเทสต์เพื่อป้องกันไม่ให้มีปุ๋ยเกิน แต่ EI นี่ ไม่กลัวปุ๋ยเกิน เพราะไม่เชื่อว่าปุ๋ยเกินทำให้เกิดตะไคร่ และอาศัยการเปลี่ยนน้ำทุกอาทิตย์ ตัดยอดสะสมของปุ๋ย โดยก่อนเริ่มให้ปุ๋ยก็ให้ถามสเปคน้ำจากการประปาท้องถิ่นครับ (แต่บ้านเราไม่รู้ขอได้หรือเปล่า) น้ำประปาบางแห่งมีไนเตรท,แคลเซียม, แมกนีเซียมอยู่แล้ว เลยไม่จำเป็นต้องโดสพวกนี้ให้เปลือง (ส่วนไนเตรทถ้าเยอะเกินปลาจะเครียด) จึงไม่จำเป็นต้องมีตัวเทสต์ (แต่มีไว้ก็ดี—อันนี้ตาทอมพูดปิดท้ายนะ ้hahaha ) หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: NP ที่ 22/05/09, [01:51:39] (http://img132.imageshack.us/img132/9987/whiptaileatingbba.jpg)
เทเนลุสของผมเมื่อก่อนเจอขนดำเคลือบทุกใบจนไม่โต แต่พอเอาวิปเทลมาใส่ ปรากฎว่ามันกินหน้าตาเฉยจนบางใบสะอาดขึ้นเยอะ ไม่ยักรู้ว่ามันกิน คิดว่ามีแต่เล็บมือนางที่กินตะไคร่ชนิดนี้ (http://img132.imageshack.us/img132/8167/tenellus.jpg) แล้วเทเนลุสก็โตดีขึ้นทันตา แตกต้นใหม่จนกลัวว่าจะไม่มีที่เหลือให้ปลาแพะคุ้ย (พอดีช่วงนั้นเริ่มเลิกลดปุ๋ย หันมาเพิ่มปุ่ยแทนด้วย ก็เลยไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะ ปลาหรือปุ๋ยที่ช่วย หรือเพราะสองอย่าง) จากรูป ใบเก่าที่อยู่ล่างๆ จะเห็นมี ตะไคร่ขนดำเหลือติดอยู่นิดหน่อยตรงใต้ใบกับปลายใบ (มีตะไคร่จุดเขียวขึ้นแทน แต่ก็โอเค รับได้ ดูไม่น่าเกลียดเท่า) เหตุที่มีมันอยู่ใต้ใบด้วย เพราะตอนอาการหนัก ใบมันม้วนบิดเป็นริบบิ้นดำๆ หงิกๆ เลยถูกแสงทั้งล่างและบน) ยังไม่กล้าให้ดูทั้งตู้นะครับ อาย [เขิลลลล] หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: Revenge ที่ 22/05/09, [04:51:50] เฮ๊ย!!~ น้าๆ แนะนำตระกรับหน้าแดง กินกระจายเลยขอบอก มาเอาไปทีที่ร้านอดอยากมากๆตะไคร่ขาดแคลนตู้หมอแคระ ตอนแรกว่าจะรื้อทิ้งแล้ว ตะใคร่เขียวเอย ตะใคร่ขนดำเอย เต็มตู้ไปหมด แต่พอเอาตระกรับหน้าแดงลง คืนเดียวเท่านั้นละ เห็นผลทันตาเลย ปล. ถ้าจะไปซื้อ เผื่อด้วยสองหน่วย :P หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: Revenge ที่ 22/05/09, [04:54:47] ปล.สำหรับตู้เล็กๆเช่น 14 นิ้วใส่ยามาโต๊ะหิวซัก 30 เช้ามาเกลี้ยง
หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: มัจฉาเพลินสุรา <ได้เวลารุก> ที่ 22/05/09, [10:07:19] อายอ่ะ emb01 คนเลี้ยงมา 5 เดือน ความรู้ดีกว่า เลี้ยงมา 4 ปีอีก เป็นกระทู้ที่เยี่ยมมาก [เจ๋ง]
หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: SaHaRa ที่ 22/05/09, [10:29:34] ตะไคร่เนี่ยเท่าที่สังเกตุดู
มันเกิดมาจากความใคร่ส่วนหนึ่งด้วย แล้วความใคร่มันก็พัวพันไปถึงเจ้าขนดำนี่หละ หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: Django ที่ 22/05/09, [12:07:49] อืมม์ สรุปว่าการไม่ลดปุ๋ยนี่ก็เป็นอีกรูปแบบนึงที่น่าทดลองเนอะ เพราะมันอาจจะเป็นเรื่องเส้นผมบังภูเขาจริงๆก็ได้ ถ้าต้นไม้ขาดอาหารแล้วสุขภาพไม่ดีพอก็จะเป็นการเปิดโอกาสให้ตะไคร่เจริญเติบโตได้ดี ส่วนเกินของปุ๋ยต่างๆก็อาศัยเปลี่ยนนำช่วยเอากับหาหน่อยเล็มตะไคร่ ว่าแต่เจ้าวิปเทลนี่น่าสนแฮะ ชื่อเต็มๆของมันชื่ออะไรครับ แล้วจะลองหามาเลี้ยงมั่งนี่ไม่ทราบว่าหาได้ที่ร้านใหนมั่งเอ่ย hide2
และก็คำถามต่อไปเลยนะจะได้ไม่เปลืองกระทู้ ความเข้มข้นของคาร์บอนไดออกไซด์ในนำควรมีบริมาณเท่าไหร่ครับ ถ้าต้นไม่มาก เพราะกะไม่ถูกครับ ปลาเยอะด้วย แถมระบบกรองก็เป็นระบบกรองตู้ล่างที่ใช้กับปลาทะเลน่ะ เท่าที่ทราบระบบนี้จะช่วยเพิ่มออกซิเจนให้กับนำในปริมาณมาก นั่นแปลว่าระบบบำบัดนำก็จะช่วยไล่ให้คาร์บอนไดออกไซด์ระเหยออกจากนำเร็วขึ้นด้วยไช่หรือไม่ เพราะฉะนั้นใน Case ของผมคงจะกะเอาว่ากี่หยดต่อวินาทีเหมือนคนอื่นเค้าไม่ได้มั้ง อยากวัดดูให้ชัวร์ครับ เท่าที่สังเกตดูต้นไม้ประเภทไม้ข้อเช่นลัดวิเจียคิวบา เพิลวีด นำตาเทียนก็เจริญเติบโตได้ดียกเว้นโรทาล่าซึ่งก็อยู่ในตู้เดียวกันและภายใต้องค์ประกอบเดียวกันทั้งหมด ไม่มีอะไรไปบังแสงหรือแย่งปัจจัยอื่นๆจากมันเลย และเราจะวัดได้จากอะไร ทาง PH หรือหาชุดทดสอบความเข้มข้นของคาร์บอนโดยตรงมาใช้เลยครับ [เขิลลลล] หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: Mr.F ที่ 22/05/09, [12:52:33] ตะไคร่เนี่ยเท่าที่สังเกตุดู มันเกิดมาจากความใคร่ส่วนหนึ่งด้วย แล้วความใคร่มันก็พัวพันไปถึงเจ้าขนดำนี่หละ sho01 ทำไมของผมมันไม่เห็นมีเลย สงสัยอายุไม่ถึง ้hahaha หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: Champies ที่ 22/05/09, [19:59:34] บทความเจ๋งดีครับ ดีมากๆ รายละเอียดเยอะและลึกมากๆ ใช้อ้างอิงได้ดีเลย [เจ๋ง] แต่ผมไม่ค่อยเข้าใจแฮะ ขนาดเรียนวิทย์มานะเนี่ย สงสัยยากเกิน และดูเหมือนว่ามันลำบากชีวิตมากเกินไปสำหรับผม ส่วนใหญ่ผมจะยึดหลักของ จารจุ่นอ่ะครับ แบบบ้านๆ โลเทคๆ คือพยายามระวังไม่ให้ตะไคร่ขึ้นแต่แรก โดยอาศัยประสบกาณ์ อาศัยการเปลี่ยนน้ำ ใสปุ๋ย ฝังปุ๋ย ให้ถูกต้อง แต่ถ้าตะไคร่ขึ้นมาแล้ว ก็ปล่อยมันไป ลงสัตว์กินตะไคร่ไปควบคุมหน่อย แต่ก็กำจัดไม่หมดซะทีเดียวหรอก จากนั้นกะเวลาดีๆ ใส่ยาฆ่าตะไคร่ แล้วค่อยลงต้นไม้ที่แพ้ยาฆ่าตะไคร่ทีหลัง หลังจากตะไคร่หายไปหมดแล้ว ยกตู้ไปประกวด ได้รางวัลที่ 1 กลับมาก็ดูแลนิดหน่อยเพราะต้นไม้อยู่ตัวแล้วตะไคร่ไม่ค่อยมี พอเสื่อโทรมหรือเบื่อก็รื้อ จัดใหม่รอประกวดงานหน้า นี่แหละ STEP ของจารจุ่น ถ้าอยากรู้ STEP แบบละเอียด การเปลี่ยนน้ำ ใส่ปุ๋ย รวมทั้งการใส่ยาฆ่าตะไคร่ เดี๋ยวผมจะไปสัมภาษณ์มาลงให้อย่างละเอียดทีหลังครับ แกบอกมาหลายทีแล้วหล่่ะ แต่ไม่ได้จดใว้ ลืม n032 หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: NP ที่ 22/05/09, [21:35:00] อืมม์ สรุปว่าการไม่ลดปุ๋ยนี่ก็เป็นอีกรูปแบบนึงที่น่าทดลองเนอะ เพราะมันอาจจะเป็นเรื่องเส้นผมบังภูเขาจริงๆก็ได้ ถ้าต้นไม้ขาดอาหารแล้วสุขภาพไม่ดีพอก็จะเป็นการเปิดโอกาสให้ตะไคร่เจริญเติบโตได้ดี ส่วนเกินของปุ๋ยต่างๆก็อาศัยเปลี่ยนนำช่วยเอากับหาหน่อยเล็มตะไคร่ ว่าแต่เจ้าวิปเทลนี่น่าสนแฮะ ชื่อเต็มๆของมันชื่ออะไรครับ แล้วจะลองหามาเลี้ยงมั่งนี่ไม่ทราบว่าหาได้ที่ร้านใหนมั่งเอ่ย hide2 วิปเทล (Whiptail) ผมคือ ตัวนี้อะครับ บ้านเราชอบเรียกว่าวิปเทล แต่บางร้านเรียกผิดเป็นพานาเม้นส์ http://www.planetcatfish.com/catelog/species.php?species_id=747 แต่ผมว่าไม่น่าจะเหมาะกับตู้คุณนะ เพราะมันชอบหม่ำยอดน้ำตาเทียน (หม่ำยอดน้ำตาเทียนผมบ่อย เหมือนกัน) กลัวคุณจะเกลียดขี้หน้ามันเหมือนตะกรับหน้าแดง hide2 อ้างถึง และก็คำถามต่อไปเลยนะจะได้ไม่เปลืองกระทู้ ความเข้มข้นของคาร์บอนไดออกไซด์ในนำควรมีบริมาณเท่าไหร่ครับ ถ้าต้นไม่มาก เพราะกะไม่ถูกครับ ปลาเยอะด้วย แถมระบบกรองก็เป็นระบบกรองตู้ล่างที่ใช้กับปลาทะเลน่ะ เท่าที่ทราบระบบนี้จะช่วยเพิ่มออกซิเจนให้กับนำในปริมาณมาก นั่นแปลว่าระบบบำบัดนำก็จะช่วยไล่ให้คาร์บอนไดออกไซด์ระเหยออกจากนำเร็วขึ้นด้วยไช่หรือไม่ เพราะฉะนั้นใน Case ของผมคงจะกะเอาว่ากี่หยดต่อวินาทีเหมือนคนอื่นเค้าไม่ได้มั้ง อยากวัดดูให้ชัวร์ครับ เท่าที่สังเกตดูต้นไม้ประเภทไม้ข้อเช่นลัดวิเจียคิวบา เพิลวีด นำตาเทียนก็เจริญเติบโตได้ดียกเว้นโรทาล่าซึ่งก็อยู่ในตู้เดียวกันและภายใต้องค์ประกอบเดียวกันทั้งหมด ไม่มีอะไรไปบังแสงหรือแย่งปัจจัยอื่นๆจากมันเลย และเราจะวัดได้จากอะไร ทาง PH หรือหาชุดทดสอบความเข้มข้นของคาร์บอนโดยตรงมาใช้เลยครับ [เขิลลลล] ระดับ CO2 ตามสูตรนายทอม เขาว่าประมาณ 30PPM วิธีวัดดีที่สุดคือใช้ Drop Checker วัดโดยดูจากสีของน้ำยาในนั้นครับว่าได้แล้วยัง เผื่อคุณยังไม่รู้ว่าเขาวัด CO2 กันยังไง ไอ้ที่เราใช้ๆ กันอยู่นี่มันไม่ได้วัดปริมาณ CO2 ตรงๆ หรอก แต่วัดจากทางอ้อม ก็แบบรู้ๆ กันอยู่ว่า CO2 มันทำให้ PH ในน้ำต่ำลง ทีนี้น้ำยาวัด CO2 มันก็เลยวัดโดย ดูจากความเปลี่ยนแปลงของค่า PH ในน้ำยาแทน อ้อ มีตัวแปรอีกอย่างที่มีผลต่อค่า PH ในน้ำ ซึ่งนั่นก็คือ ค่า KH (Carbonate Hardness) น้ำบ้านไหนที่มี ค่า KH สูงๆ ค่า PH ก็จะสูงกว่าน้ำของบ้านที่มีค่า KH ต่ำๆ แม้ว่าปริมาณ CO2 ในน้ำของทั้งสองบ้านจะ เท่ากันก็ตาม ก็ตรงนี้แหละที่ทำให้เรานิยมใช้ Drop Checker กัน อะไรคือ Drop Checker? (http://eaquaplant.com/images/dropchecker2in_1.jpg) มันก็คือวัตถุหน้าตาคล้ายลิ้นไก่งอๆ บรรจุน้ำยาอยู่ข้างใน โดยรูปร่างของมันทำให้น้ำในตู้ไม่สามารถ เข้าไปปนกับน้ำยาข้างในได้ เพื่อตัดตัวแปรเรื่อง KH ของน้ำในตู้แต่ละบ้านที่ไม่เท่ากันออกไป น้ำยาใน Drop Checker ก็คือ ส่วนผสมของสารละลายที่มีค่า KH เท่ากับ 4dKH กับน้ำยาวัดค่า PH ทีนี้พอ CO2 จากน้ำในตู้มันระเหยเข้าไปเจอกับน้ำยาใน Drop Checker ก็ทำใให้ PH ในน้ำยาเปลี่ยน และเกิดการเปลี่ยนสี ทำให้รู้ได้ว่าตอนนี้มี CO2 ในตู้เท่าไหร่โดยดูจากสีน้ำยา (สีอะไรเป็นกรด-ด่าง ขนาดไหนจะมีบอกไว้ในคู่มือใช้น้ำยา) แต่ทีนี้ นายทอมบ่นว่า น้ำยาบางยี่ห้อมันรายงานผลแตกต่างกันไป (ไม่ค่อยตรงกัน) ทำให้เวลาเขา ตอบปัญหาไปว่า “CO2 ของตู้นายน้อยไป” ก็โดนบอกกลับมาว่า “ไม่จริ๊ง ดูจากสี Drop Checker แล้วพอแน่ๆ” ดังนั้นเพื่อให้แน่ใจว่าน้ำยาที่เราใช้นั้นรายงานตรง มันก็เลยมีวิธีการที่ค่อนข้างยุ่งยากหน่อย ซึ่งก็คือ ทำน้ำที่มีค่า 4dKH ขึ้นมาใช้เอง โดยเอาน้ำกลั่นมาผสมผงเบคกิ้งโซดาตามสัดส่วน (สัดส่วนเท่าไหร่ดูจากลิ้งค์นะครับ) แล้วจะได้สารละลาย ที่ใกล้เคียง 4dKH แน่ๆ แล้วก็เอาน้ำยาวัดค่า PH ที่ใช้กับ Drop Checker มาวัดดูว่ามันออกมาตรง หรือเปล่า ถ้าคลาดเคลื่อนเราก็จะได้รู้ว่ามันคลาดเคลื่อนไปเท่าไหร่ ทีนี้เราก็จะรู้ว่าน้ำยาใน Drop Checker ที่เราใช้ควรมีสีประมาณไหนจึงแน่ใจได้ว่ามี CO2 ในตู้พอแน่ๆ ลิ้งค์วิธีทำสารละลาย 4dKH ใช้เอง http://www.aquariumadvice.com/forums/f24/how-to-make-a-reference-kh-solution-for-co2-measurement-88293-2.html (ขั้นตอนเอาผงเบคกิ้งโซดาไปอบนั้นที่เห็นในนั้น ความจริงแล้วไม่ต้องทำนะครับ เขาตัดออกไปแล้วแต่ดัน ไม่ลบรูปออกไปด้วย—การอบมันทำให้คุณสมบัติเปลี่ยนไป) คุณต้องมีตาชั่งที่ละเอียดๆ (วัดหน่วยกรัมได้ถึงทศนิยมสองตำแหน่ง) นะ ผมซื้อตาชั่งดิจิตอลมาก็เพื่อการนี้แหละ แต่ก็อย่างว่า ผมชอบอ่านมากกว่าลงมือทำ ก่อนซื้ออุปกรณ์ละโคตรอยากลองเลย แต่พอได้ของมาแล้วกลับเอาไป ชั่งเหรียญบาท พอเห็นว่ามันทำงานเชื่อถือได้แล้วก็เอามันไปวางเก็บซะงั้น [แคะขี้มูก] ตู้ผมพัฒนาช้าในแง่ความหมดจดของตำไคร่ ก็เพราะแบบนี้ด้วยแหละ (แต่ขอแก้ตัวหน่อยว่า อีกสาเหตุนึง ตู้ที่มีอยู่มันไม่ใช่ตู้ของผมตั้งแต่แรก เคยเป็นของคนอื่นมาก่อน แล้วมันก็ไม่มีเวลาดูแล จนปลาตายหมดเหลือ เทวดาอยู่ตัวเดียว ผมสงสารปลาก็เลยรับช่วงต่อ และเจ้าเทวดาตัวนี้แหละที่ทำให้หาสัดว์กำจัดตะไคร่มาลงยาก ยามาโตะเหรอ? เสร็จมันอะดิ ใส่ปลาสอดลงไป มันก็ขู่ปลาสอดซะหงอจนไม่กล้าออกมาทำงานนอกกอต้นเทป ออตโตดูดกระจกนานก็ไม่ได้ วิปเทลไต่ขึ้นไปดูดยอดไม้สุงหน่อย ก็ไม่ได้—แต่พอไปหม่ำยอดน้ำตาเทียน ปลาเทวดากลับเฉยซะงั้น จะเอาเล็บมือนางมาลงมันก็ตัวใหญ่ไปสำหรับตู้ขนาด 24" จะงอกตู้ใหม่ก็ไม่มี ที่เหมาะๆ อีกแล้ว เซ็ง [ฮึ๊ยยย]) เมื่อกี้ลองค้นเว็บนี้ด้วยคำว่า Drop Checker อ้าว จุดไต้ตำตอซะแล้ว มีกระทู้+บทความดีๆ เรื่องนี้เยอะเลย อันนึงก็คือ http://aqua.c1ub.net/forum/index.php?topic=18156.0 หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: NP ที่ 22/05/09, [21:58:38] บทความเจ๋งดีครับ ดีมากๆ รายละเอียดเยอะและลึกมากๆ ใช้อ้างอิงได้ดีเลย [เจ๋ง] แต่ผมไม่ค่อยเข้าใจแฮะ ขนาดเรียนวิทย์มานะเนี่ย สงสัยยากเกิน และดูเหมือนว่ามันลำบากชีวิตมากเกินไปสำหรับผม ส่วนใหญ่ผมจะยึดหลักของ จารจุ่นอ่ะครับ แบบบ้านๆ โลเทคๆ คือพยายามระวังไม่ให้ตะไคร่ขึ้นแต่แรก โดยอาศัยประสบกาณ์ อาศัยการเปลี่ยนน้ำ ใสปุ๋ย ฝังปุ๋ย ให้ถูกต้อง แต่ถ้าตะไคร่ขึ้นมาแล้ว ก็ปล่อยมันไป ลงสัตว์กินตะไคร่ไปควบคุมหน่อย แต่ก็กำจัดไม่หมดซะทีเดียวหรอก จากนั้นกะเวลาดีๆ ใส่ยาฆ่าตะไคร่ แล้วค่อยลงต้นไม้ที่แพ้ยาฆ่าตะไคร่ทีหลัง หลังจากตะไคร่หายไปหมดแล้ว ยกตู้ไปประกวด ได้รางวัลที่ 1 กลับมาก็ดูแลนิดหน่อยเพราะต้นไม้อยู่ตัวแล้วตะไคร่ไม่ค่อยมี พอเสื่อโทรมหรือเบื่อก็รื้อ จัดใหม่รอประกวดงานหน้า นี่แหละ STEP ของจารจุ่น ถ้าอยากรู้ STEP แบบละเอียด การเปลี่ยนน้ำ ใส่ปุ๋ย รวมทั้งการใส่ยาฆ่าตะไคร่ เดี๋ยวผมจะไปสัมภาษณ์มาลงให้อย่างละเอียดทีหลังครับ แกบอกมาหลายทีแล้วหล่่ะ แต่ไม่ได้จดใว้ ลืม n032 เอาครับ ขอบคุณครับ lau01 หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: Django ที่ 23/05/09, [13:14:29] รออยู่เน้อ บทความอาจารย์จุ่นน่ะ
หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: คุณลุงปลา ที่ 23/05/09, [21:11:25] hawaii
เข้ามานั่งอ่านตั้งหลายคนแต่ก็ยังไม่จบเลย [เขิลลลล] ความรู้แน่นไปหมด ตอนนี้ก็ไปซื้ออตะกรับมาโซโล่ขนดำไปพลางๆ n032 แต่เคยได้ยินมาว่า ถ้าตั้งตู้ใหม่ๆก็ทำให้เกิดตะไคร่ ขนดำได้ด้วยงะ n032 เพราะตอนแรกผมก็เคยเป้น เซทตู้ลงดินครั้งแรกปล่อยไว้ 2วันขึ้นเต็มไปหมด n032 หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: minova ที่ 23/05/09, [21:53:15] ความรู้ทั้งนั้น ขอเก็บเกี่ยวหน่อยนะ เดี๋ยวมาอ่านต่อ ไปเปลี่ยนน้ำตู้ก่อน
หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: มือใหม่หัดขับ ที่ 23/05/09, [23:49:41] เข้ามารับความรู้เหมือนกันขอรับ เพราะตอนนี้พี่ตะไคร่ก็รุมเร้าตู้เหลือเกิน
surrender หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: คุณลุงปลา ที่ 24/05/09, [00:23:25] [ปิ๊งๆๆ]ใส่ตะกรับไปเห้นผลเลยครับ
เส้นผมหายไป80เปอร์เซนเลย ใส่ไปแค่6hrก็เกือบหมดแล้ว [ปิ๊งๆๆ] [ปิ๊งๆๆ] [ปิ๊งๆๆ] แต่ขนดำไม่เห็นกระเตื้องเลย n032 n032 n032 หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: มือใหม่หัดขับ ที่ 24/05/09, [00:28:18] [ปิ๊งๆๆ]ใส่ตะกรับไปเห้นผลเลยครับ เส้นผมหายไป80เปอร์เซนเลย ใส่ไปแค่6hrก็เกือบหมดแล้ว [ปิ๊งๆๆ] [ปิ๊งๆๆ] [ปิ๊งๆๆ] แต่ขนดำไม่เห็นกระเตื้องเลย n032 n032 n032 ก็อยากจะลองอยู่ครับ แต่กลัวว่าแฮร์กลาสมินิจะกระจายหน่ะสิ หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: 【 Cℓαяέт™ 】 ที่ 24/05/09, [02:37:35] วันนี้ใส่ตะกรับไปค่ะ
รุมตอดปลา กินมอส dea02 dea02 เกลียดมานนนนนนนนนนนนน fire1 fire1 หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: 【 Eνєяפяєєи™ 】 ที่ 24/05/09, [06:51:29] วันนี้ใส่ตะกรับไปค่ะ รุมตอดปลา กินมอส dea02 dea02 เกลียดมานนนนนนนนนนนนน fire1 fire1 ไหนบอกว่าอยากได้นักหยากได้หนาไงล่ะ [แคะขี้มูก] [แคะขี้มูก] หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: คุณลุงปลา ที่ 24/05/09, [08:05:44] ก็อยากจะลองอยู่ครับ แต่กลัวว่าแฮร์กลาสมินิจะกระจายหน่ะสิ ตู้ผมก็ ปักแฮกราสมินิไว้เต็มไม่เห็นมีตอดเลยนะครับ(บางตัวรึเปล่าก็ไม่ทราบ) emb01 วันนี้ใส่ตะกรับไปค่ะ รุมตอดปลา กินมอส dea02 dea02 เกลียดมานนนนนนนนนนนนน fire1 fire1 n032 แต่ผมเริ่มชอบมันขึ้นมาแล้วสิ [เขิลลลล] เมื่อวานใส่ตะกรับไปเห้นผลเลยว่าเส้นผมหายไป90% อย่างทันตาเลยครับ idea1 idea1 idea1 เหลือแต่ขนดำเจ้าปัญหา แต้ขนดำก็ลดจำนวนไปนิดหน่อย n032 ต้องใช้เวลาน่าดู die1 hawaii หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: 【 Cℓαяέт™ 】 ที่ 24/05/09, [14:50:51] ไหนบอกว่าอยากได้นักหยากได้หนาไงล่ะ [แคะขี้มูก] [แคะขี้มูก] evi01 evi01 evi01ตู้ผมก็ ปักแฮกราสมินิไว้เต็มไม่เห็นมีตอดเลยนะครับ(บางตัวรึเปล่าก็ไม่ทราบ) emb01 พอดีที่บ้านมันเป็นขนดำน่ะสิคะ มันแทบไม่แตะเลย ต้องจับทำปลาสลิดแห้งซะ [เอ๊ะ!!!] [เอ๊ะ!!!]n032 แต่ผมเริ่มชอบมันขึ้นมาแล้วสิ [เขิลลลล] เมื่อวานใส่ตะกรับไปเห้นผลเลยว่าเส้นผมหายไป90% อย่างทันตาเลยครับ idea1 idea1 idea1 เหลือแต่ขนดำเจ้าปัญหา แต้ขนดำก็ลดจำนวนไปนิดหน่อย n032 ต้องใช้เวลาน่าดู die1 hawaii หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: chaic ที่ 24/05/09, [16:00:23] บทความเจ๋งดีครับ ดีมากๆ รายละเอียดเยอะและลึกมากๆ ใช้อ้างอิงได้ดีเลย [เจ๋ง] แต่ผมไม่ค่อยเข้าใจแฮะ ขนาดเรียนวิทย์มานะเนี่ย สงสัยยากเกิน และดูเหมือนว่ามันลำบากชีวิตมากเกินไปสำหรับผม ส่วนใหญ่ผมจะยึดหลักของ จารจุ่นอ่ะครับ แบบบ้านๆ โลเทคๆ คือพยายามระวังไม่ให้ตะไคร่ขึ้นแต่แรก โดยอาศัยประสบกาณ์ อาศัยการเปลี่ยนน้ำ ใสปุ๋ย ฝังปุ๋ย ให้ถูกต้อง แต่ถ้าตะไคร่ขึ้นมาแล้ว ก็ปล่อยมันไป ลงสัตว์กินตะไคร่ไปควบคุมหน่อย แต่ก็กำจัดไม่หมดซะทีเดียวหรอก จากนั้นกะเวลาดีๆ ใส่ยาฆ่าตะไคร่ แล้วค่อยลงต้นไม้ที่แพ้ยาฆ่าตะไคร่ทีหลัง หลังจากตะไคร่หายไปหมดแล้ว ยกตู้ไปประกวด ได้รางวัลที่ 1 กลับมาก็ดูแลนิดหน่อยเพราะต้นไม้อยู่ตัวแล้วตะไคร่ไม่ค่อยมี พอเสื่อโทรมหรือเบื่อก็รื้อ จัดใหม่รอประกวดงานหน้า นี่แหละ STEP ของจารจุ่น ถ้าอยากรู้ STEP แบบละเอียด การเปลี่ยนน้ำ ใส่ปุ๋ย รวมทั้งการใส่ยาฆ่าตะไคร่ เดี๋ยวผมจะไปสัมภาษณ์มาลงให้อย่างละเอียดทีหลังครับ แกบอกมาหลายทีแล้วหล่่ะ แต่ไม่ได้จดใว้ ลืม n032 แล้วตู้ทีใส่ใบหูกวาง ขนาดไหนหรือครับ ใส่ไปกี่ใบ ปลาเป็นอะไรหรือเปล่า ผมเพิ่งเปลียน เลเอาท์ ใหม่ มันก็เริ่มมาแล้วครับ ผมว่าใช้ใบหูกวางนี่แหละ ธรรมชาติบำบัด ผมชอบวิธีนี้นะครับ แต่กลัวเป็นอันตรายกับสิ่งมีชีวิต เมื่อกี้ก็แอบไปเพิ่มคาร์บอนมา ้hahaha หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: NP ที่ 25/05/09, [19:33:04] แบบว่าผมก็สงสัยในความคิดของนายทอม ที่ว่าการลดปุ๋ย (ที่ไม่ใช่ NH4) ไม่ช่วยแก้ปัญหาตะไคร่
ไม่ช่วยลดตะไคร่ แถมซ้ำยังทำให้ต้นไม้อ่อนแอ และทำให้ตะไคร่ได้โอกาส... สงสัยตรงที่ แล้วตะไคร่มันไม่สนธาตุอาหารอื่นเลยเหรอ? [งง] และแล้วก็อ่านเจอทฤษฎีของแกที่เขียนไว้ในปี 2003 (ไม่รู้ว่าในปี 2009 นี้แกจะมีความคิดใหม่ มาแย้งทฤษฎีนี้หรือเปล่า แต่เท่าที่ค้น ยังไม่มี) ทำไมเวลาต้นไม้เติบโต ตะไคร่ถึงหยุดโต? http://www.aquaticquotient.com/forum/showthread.php?t=9374 แกบอกว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับสารเคมีต่อต้านตะไคร่ที่พืชปล่อยออกมาเวลามีสุขภาพดี เพราะไม้น้ำกว่า 300 ชนิดที่แกเคยลองเลี้ยงนั้น สามารถทำให้ตะไคร่หยุดโตเวลามันมีสุขภาพดีได้ทั้งสิ้น... แกไม่เชื่อว่าไม้น้ำทั้ง 300 กว่าชนิดนั้นจะมีพฤติกรรมและปล่อยสารเคมีออกมาเหมือนๆ กันทุกชนิด ต้นไม้มันจะมีพฤติกรรมเหมือนกันขนาดนั้นได้ยังไง สรุปสั้นๆ คือ แกว่า NH4 เป็นตัวกระตุ้นให้ตระไคร่โต มันถูกโปรแกรมมาว่า ถ้าเมื่อไหร่ ที่มี NH4 เยอะ ก็หมายความว่าไม่มีคู่แข่ง หรือมี แต่กำลังอ่อนแอจนนำ NH4 ไปใช้ได้ ไม่เต็มที่ ส่วนเหตุที่การลดสารอาหาร (ปุ๋ย) ไม่สามารถแก้ปัญหาตะไคร่ได้ก็เพราะ ถ้าเทียบกัน ด้วยขนาดเท่าๆ กันแล้ว ตะไคร่จะมีพื้นที่สัมผัสน้ำได้เยอะกว่าไม้น้ำมาก ไม้น้ำจึงไม่มีทางแข่ง กับตะไคร่ในสภาพแวดล้อมที่มีปุ๋ยเจือจางได้ อีกตัวการนึงที่กระตุ้นให้ตะไคร่โตในความคิดของแกคือ ความไม่คงที่ของระดับ CO2 (คงหมายถึงเฉพาะช่วงที่เปิดไฟ เพราะแกเองก็ปิด CO2 ตอนปิดไฟ) แกบอกว่ามีตัวกระตุ้น อื่นๆ อีก แต่โดยทั่วไป สิ่งที่กระตุ้นตะไคร่คือ การขาดหายไปของอะไรบางอย่างมากกว่า การมีบางอย่างมากเกินไป http://www.barrreport.com/showthread.php/73 อ้างถึง This is one reason why algae can persist for months even when the aquarist performs many water changes, uses nutrient chemical removers and activated carbon. The plants just stop growing and waits, algae can do the same thing and produces resting spores that are activated when ammonium (NH4+) or large CO2 variations occurs (Barr 1998). There are other algae inducers, generally these involve a lack of something rather than an excess. Algae possess much higher surface to volume ratios than plants, this allows them to be far more competitive and responsive at low concentrations of nutrient substrates. เจออีกตัวอย่างนึงของการแก้ปัญหาขนดำโดยใช้ CO2 ตอนแรกเจ้าของตู้ไม่เชื่อว่าตู้ตัวเอง มี CO2 ไม่พอ แต่สุดท้ายก็เชื่อทอม และเร่ง CO2 ขึ้นอีกหน่อย ปรากฎว่าขนดำหยุดโต http://www.plantedtank.net/forums/algae/33522-arresting-bba-growth-why-cant-i.html อ้อ ผมไม่อยากให้บางคนเข้าใจผิด ว่านายทอมไม่ใช้สัตว์กำจัดตะไคร่ แกใช้ทั้งกุ้ง, ปลา, และหอย (แถมยังใช้ยากำจัดตะไคร่ แต่เฉพาะในเวลาที่เร่งด่วน ต้องการเห็นผลเร็วๆ เท่านั้น) ผมก็ยังไม่ได้เชื่อทฤษฎีแกหรอกนะ เพียงแต่เห็นว่าน่าสนใจ หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: 【 Cℓαяέт™ 】 ที่ 26/05/09, [01:13:43] ง่าา อ่านแล้วงง
มีหลายคำถามเลย คือว่า ของเสียที่ออกมาจากสัตว์ มันก็คือ Urea (NH2CONH2) ซึ่งจะเปลี่ยนไปเป็น Ammonia (NH4+) ได้ (มันเหมือนชิ้งฉ่องคนเราน่ะค่ะ แรกๆจะไม่เหม็น ถ้าไว้นานๆจะเหม็นนรกเลย เพราะยูเรียสลายเป็นแอมโมเนียซึ่งมีกลิ่นเหม็นน่ะค่ะ) ส่วนปุ๋ยที่ใส่กัน น่าจะอยู่ในรูปสารประกอบของ Nitrate (NO3-) ที่สงสัยก็คือโครงสร้างที่ต่างกัน มีผลต่อการเกิดตะไคร่มั้ยคะ คือ ตะไคร่โตเพราะ แอมโมเนีย หรือ ไนเตรท กันแน่ หรือทั้ง 2 อย่างเลย? รบกวนผู้รู้ด้วยค่ะ หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: NP ที่ 26/05/09, [01:33:49] [จำเอามาตอบ]
ปุ๋ยที่เราใส่กัน โดยเฉพาะปุ๋ยน้ำไนโตรเจน มีส่วนผสมของ NH4 ปุ๋ยฝังก็มี ยิ่งปุ๋ยที่เข้าข่ายเป็นอินทรีย์สารมากๆ ก็ยิ่งมีส่วนทำให้ เกิด NH4 มาก (มันต้อง “เน่า” หรือย่อยโดยแบคทีเรียให้เป็น NH4 ก่อนจะกลายเป็นตัวอื่นต่อไป) เวลาปุ๋ยฝังฟุ้ง ตะไคร่เลยตรึมทุกที Tom Barr บอกว่า NH4 เป็นตัวกระตุ้นให้ตะไคร่โต เพราะในตู้ทดลองที่ใส่ปุ๋ยที่ไม่มี NH4 มีแต่ไนเตรทสำหรับไนโตรเจนอย่างเดียว (KNO3 โปตัสเซียมไนเตรท) ปรากฎว่าไม่มีตะไคร่ แต่พอใส่ NH4 ตะไคร่มาทันที ทดลองซ้ำกี่ครั้งก็ได้ผลเหมือนกัน ถ้าคุณอ่านข้อความในลิ้งค์ก่อนๆ จะเห็นว่าตามความคิดของเขา การมี NH4 ในปริมาณระดับหนึ่ง จะส่งสัญญาณให้ตะไคร่ทำนองว่า ไม่มีคู่แข่ง (ซึ่งก็คือพืชชั้่นสูง และแบคทีเรียที่ย่อย NH4 ให้เป็น NO2 และเป็น NO3) หรือมีคู่แข่ง แต่คู่แข่งกำลัง อ่อนแอ (เพราะถ้าคู่แข่งสบายดี NH4 จะถูกดูดกินไปเกือบหมด) รีบโตเพื่อฉวยโอกาสชิงพื้นที่เถอะ โครงสร้าง NO3 ต่างจาก NH4 มีผลตรงที่พืชสามารถนำไป NH4 ไปใช้ได้โดยเสีย พลังงานในการ (ย่อย?) น้อยกว่า http://www.barrreport.com/showthread.php/2405 อ้างถึง Plants use more energy to use NO3, but they can store and have a lot more access to larger amounts by a factor of 100-1000X more than NH4. เราจะมองง่ายๆ ว่าพื้นฐานแล้ว NO3, NH4, NO2 ก็คือ มีไนโตรเจน และมันควร จะมีผลเหมือนกันไม่ได้ เพราะก็อย่างที่รู้กันว่า NH4 กับ NO2 ในปริมาณนิดเดียว เป็นพิษต่อสัตว์น้ำมากกว่า NO3 ปริมาณเยอะๆ เสียอีก ประเด็นหลักที่ผมตั้งคือ การลดปุ๋ย (ที่ไม่ใช่ NH4) ไม่ช่วยเรื่องตะไคร่ เพราะ ไม่ว่าเราจะลดปุ๋ยยังไง มันก็ต้องมีเหลืออยู่ในน้ำอยู่ดี ยิ่งเจือจาง พืชยิ่งตาย แต่ตะไคร่กลับอยู่ได้ หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: NP ที่ 26/05/09, [02:05:10] ถ้าอ่านดีๆ จะเห็นว่า วิธีเอาชนะตะไคร่ของนายทอมก็แทบไม่ต่างจากชาวบ้าน
ถ้ามีตะไคร่ ก็จัดการเอามันออกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้, เปลี่ยนน้ำ ทำความสะอาด ดูดขี้ปลา เศษใบไม้เน่า (เพื่อลดการเกิด NH4), ใส่สัตว์กินตะไคร่, ทำกระแสน้ำให้ไหลเวียนดี (นำสารอาหารและ CO2 ให้พืชอย่างทั่วถึง), ปรับปริมาณ CO2 ให้ได้ 30PPM (ให้พืช เจริญอาหาร ดูดกิน NH4 ได้เยอะ และมีสุขภาพดี), ลดแสงลงถ้า CO2 ไม่เจ๋งพอ (ตะไคร่โตในสภาพแสงจัดๆ แต่มี CO2 น้อยๆ ได้เก่งกว่าไม้น้ำมาก), ใช้กรองดีๆ (มีประสิทธิภาพในการย่อยสลาย NH4 ให้เป็น NO3) ฯลฯ ส่วนที่ต่างกันก็ตรง คนอื่นคิดว่า ไนเตรท (NO3) ฟอสเฟต (PO4) และเหล็ก (Fe) รวมทั้งสารอาหาร “ส่วนเกิน” ทำให้เกิดตะไคร่ แต่นายทอมว่า ไม่ใช่หรอก สารอาหารที่ทำให้เกิดตะไคร่คือ NH4 ตะหาก ดังนั้น อย่าไปทำให้พืชอ่อนแอลง ไปอีกด้วยการลดปุ๋ย (ที่ไม่ใช่ NH4) เลย ทำอย่างนั้นเอาชนะตะไคร่ไม่ได้หรอก หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: Champies ที่ 26/05/09, [12:13:52] แล้วตู้ทีใส่ใบหูกวาง ขนาดไหนหรือครับ ใส่ไปกี่ใบ ปลาเป็นอะไรหรือเปล่า ผมเพิ่งเปลียน เลเอาท์ ใหม่ มันก็เริ่มมาแล้วครับ ผมว่าใช้ใบหูกวางนี่แหละ ธรรมชาติบำบัด ผมชอบวิธีนี้นะครับ แต่กลัวเป็นอันตรายกับสิ่งมีชีวิต เมื่อกี้ก็แอบไปเพิ่มคาร์บอนมา ้hahaha ใส่ไปพอให้น้ำมันเหลืองๆนิดหน่อยครับ เพราะผมอยากให้ออกแนวน้ำหมักๆเหมือนในแม่น้ำแถบอเมซอน แต่ผมก็ไม่รู้ทฤษฎีแฮะ เพียงแต่ว่ามันฟลุคอ่ะครับ ไม่แน่น้ำที่เหลืองๆหน่อยอาจจะไปเปลี่ยนช่วงแสงในน้ำ เป็นช่วงแสงที่ตะไคร่ไม่ชอบ อันนี้ก็ไม่รู้แฮะ รู้แต่ว่า กระทู้นี้ สาระเพียบเลยฮ่าๆๆ หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: Mr.F ที่ 26/05/09, [14:24:01] พออ่านไปอ่านมา ใส่ยา ตัวไหนแพ้ ลงใหม่ จบข่าว ไม่ปวดหัวดี ไหนๆมันก็งานอดิเรก [เขิลลลล]
หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: Champies ที่ 26/05/09, [14:26:03] พออ่านไปอ่านมา ใส่ยา ตัวไหนแพ้ ลงใหม่ จบข่าว ไม่ปวดหัวดี ไหนๆมันก็งานอดิเรก [เขิลลลล] วิธีจารจุ่นเค้าล่ะ แบบนี้อ่ะ หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: Anubias ที่ 26/05/09, [17:07:46] นับเป็นกระทู้ที่วิเคราะห์กันในเชิงลึกเลยนะ ดีๆครับ บางอย่างผมก็ไม่คิดว่าจะเป็นสารเหตุได ้ ความรู้ใหม่ครับ...ดีๆ
หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: บัง! ที่ 26/05/09, [18:31:53] ถ้าใครอ่านเข้าใจแล้วก็ลองดูเลยครับ
แต่ผมยืนยันได้อีกคนว่าลดปุ๋ยน้ำ ไม่ช่วยลดขนดำ , ขนเขียวเลย (ตัวอื่นยังไม่เคยลอง พอดีมันไม่มา) เพราะลองแล้วกับตู้ที่มีตะไคร่ขนดำ ตู้ 48 มาตรฐาน น้ำราวๆ 200 ลิตร ไฟเมทัล 150w+ฟลู 36wx2 วันละ 8 ชม. ตัวละลายกระบอกปั่น ใส่ในตู้กรองล่าง ชุดแรก CO2 2ฟอง/วิ ปุ๋ยน้ำ Tropica ขวดฟ้า Trace สูตรไม่มีไนโตรเจน (จำได้ว่าอีกอันมี) วันละ 2-3 ml ต้นไม้โตปกติ ตะไคร่ขนดำปกติ (เยอะเป็นปกติ) ชุดสอง CO2 นับฟองไม่ทัน น่าจะราวๆ 7-8 ฟอง/วิ สาดปุ๋ยน้ำ วันละ 10ml ตะไคร่เหมือนเดิม ไม่เพิ่มขึ้น ไม่ลดลง แต่ต้นไม้กลายเป็นไม้ยักษ์ ขาไก่ด่างใบเท่านิ้วชี้ เพิลวีดช่อเท่าเหรียญห้า โรทาล่าแดง แดงขึ้น ยังไม่สุด แต่ใบใหญ่บรม เห็นไหมครับว่าปริมาณปุ๋ยน้ำไม่เกี่ยวเลย แต่ถ้าปุ๋ยฝัง ไม่ควรฝังมากครับ ฝังมากไป ตะไคร่ตรึมแน่ๆ คอนเฟิม จริงๆเรื่องปุ๋ยน้ำนี่เคยลงไว้ตั้งแต่ตอนตู้เก่าผมนู้นแล้วนะ ตอนที่เจอขนเขียว ว่าลดไปมันไม่ช่วยอะไรเลย มาหายตอนที่ได้ความรู้จากกอล์ฟ Angel007 ที่เน้นบำรุงต้นไม้ให้โตดีๆ เน้นระบบกรอง ความสมบูรณ์และสมดุลของพื้นปลูก มันก็หายไปเอง เพียงแต่ตอนนู้นข้อมูลหลายอย่างมันยังกำกวม ไม่ชัดเจน ตอนที่เจอของคุณทอม บาร์ นี่ก็ยังไม่ค่อยชัดเจน มันคาบเกี่ยวกันส่วนหนึ่ง แต่ก็ไม่ทั้งหมด บางอย่างยังขัดกัน ส่วนนึงอาจจะเพราะผมอ่านบทความแกไม่ค่อยเข้าใจด้วยแหละ เดี๋ยวมาต่อ นัดสาวดินเนอร์ไว้ ไปล่ะ หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: _Kong_ ที่ 01/06/09, [21:09:38] กลับมาต่อได้แล้วป๋า
ดินเนอร์อะไรเกือบอาทิตย์ ไปดินเนอร์ถึงเฮลเซงกิเร้ออ หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: taga ที่ 15/06/09, [14:11:44] รอมาต่อด้วย Correct! Correct! evi01
หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: NP ที่ 26/06/09, [00:00:17] จากที่ทำความเข้าใจกับแนวคิดของคุณ ทอม บาร์ ก็เข้าใจขึ้น
แต่ก็ยังไม่เข้าใจว่า ปริมาณ CO2 ที่แกว่งไปแกว่งมาจะทำให้เกิดตะไคร่ได้ยังไง จนเพิ่งค้นเจอคำตอบของเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ (ซึ่งพออ่านไปก็ทำให้รู้ว่า เขายังไม่เปลี่ยนใจจากทฤษฎีการเกิดตะไคร่ที่เคยเอ่ยไว้เมื่อหลายปีก่อน) อ้อ คุณ ทอม บาร์ นี่เรียนจบปริญญาตรีชีวะทางน้ำ (ไม่รู้ว่าภาษาไทยจะเรียกว่าอะไร), ปริญญาโทเกี่ยวกับพืช, ผ่านหลักสูตร (หรืออบรม?) การบำบัดน้ำกับรัฐซาคราเมนโต้มา ตอนนี้กำลังทำปริญญาเอกด้านวิทยาศาสตร์ทางพืช (ดูจะรักและเอาดีทางนี้จริงๆ) http://www.aquaticplantcentral.com/forumapc/library/15098-get-know-tom-barr.html ต่อเรื่องขนดำนะ http://www.barrreport.com/showthread.php/5205 เขาบอกว่า จากการสังเกตสิ่งที่เกิดในธรรมชาติ ได้สมมุติฐานว่า: เมื่อฤดูกาลเปลี่ยนแปลง จะมีสารอินทรีย์ (ใบไม้, สิ่งที่ถูกชะมา, ฯลฯ) ไหลสู่สายน้ำ ซึ่งมักจะทำให้ปริมาณ CO2 ในสายน้ำเหล่านี้สูงขึ้นจากการย่อยสลายสารอินทรีย์ โดยแบคทีเรีย การเปลี่ยนแปลงของระดับ CO2 นี้เป็นสัญญาณหนึ่งที่บอกให้สปอร์ ของตะไตร่ให้เริ่มกระบวนการเติบโต สมมุติฐานนี้น่าจะใช้ได้กับสภาพส่วนใหญ่ ในธรรมชาติ และเราสามารถทดสอบได้ด้วยการเติมสารอินทรีย์ลงไปเยอะๆ แล้ววัดปริมาณ CO2 กับจับตาดูการเจริญเติบโตของสปอร์ตะไคร่ สปอร์ของตะไคร่สามารถรับรู้สิ่งบอกเหตุในสภาพแวดล้อมได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น CO2, NH4, แสงที่สว่างจ้า, ระยะเวลาของช่วงที่มี แสงแดดต่อวันที่ผันแปรไปตามฤดูกาล, ฯลฯ ตะไคร่แต่ละชนิดจะไว ต่อสิ่งเหล่านี้แตกต่างกันไปตามวิถีการตำรงเผ่าพันธุ์ของมัน โอเค งั้นการเพิ่ม CO2 ขึ้นจากเดิมก็จะช่วยเร่งตะไคร่ (ขนดำ) สิ? [งง] ทั้งใช่และไม่ใช่ http://www.aquaticplantcentral.com/forumapc/algae/1717-get-rid-black-brush-algae-100-a-3.html เวลาเปลี่ยนน้ำ น้ำที่เราใส่มักจะมีปริมาณ CO2 มากกว่าน้ำเก่าในตู้ จึงทำให้ปริมาณ CO2 โดยรวมในตู้เพิ่มขึ้น และกระตุ้นให้ทั้งตะไคร่ และต้นไม้เกิดอาการตอบสนอง ตะไคร่ขนดำดูเหมือนจะชอบปริมาณ CO2 ที่สูงขึ้น แต่มันชอบเมื่อ CO2 สูงขึ้นเพียงระดับหนึ่งเท่านั้น ปริมาณที่ตะไคร่ขนดำดูจะชอบคือระดับ 5-10 PPM ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้ก็สามารถสังเกตได้จากในธรรมชาติด้วย การบังคับให้ตะไคร่ขนดำหันไปใช้คาร์บอนจาก KH ในน้ำ หรือจำกัดปริมาณ CO2 ในน้ำลงให้เหลือน้อยมากๆ ดูเหมือนจะทำให้มันหยุดการเติบโตและทำให้สปอร์ใหม่ตั้งตัวได้ยากขึ้น แต่สิ่งเดียวกันนี้ก็เกิดขึ้นเช่นกันเมื่อปริมาณ CO2 ในน้ำสูงกว่า 15 PPM โดยตราบใดที่ปริมาณ CO2 ไม่ลดลงน้อยกว่านี้มากนัก ตะไคร่ขนดำก็จะหยุดการเติบโต เขาเชื่อว่ากุญแจสำคัญในการกำจัดตะไคร่ชนิดนี้คือสปอร์ที่จะเกิดใหม่ของมัน สปอร์พวกนี้จะเริ่มวงจรชีวิตของมันเมื่อได้เวลาที่เหมาะสม เวลาปริมาณ CO2 ไม่คงที่ เกิดการเปลี่ยนแปลงไปมามากๆ ตะไคร่ก็จะคิดว่า สภาพแวดล้อมรอบตัวกำลังเลวร้ายลง จึงเริ่มปล่อยสปอร์ออกมาด้วยความหวังที่ว่า สปอร์เหล่านั้นจะได้ไปเติบโตในที่ที่อื่น ซึ่งมีสภาพแวดล้อมดีกว่านี้ เขาบอกว่าถ้าคุณปล่อยให้ปริมาณ CO2 แกว่งไปมามากๆ คุณจะยิ่งเจอปัญหาตะไคร่ขนดำหนัก ถ้าคุณรักษาปริมาณ CO2 ของคุณให้อยู่นอกช่วงที่ตะไคร่ชอบมากๆ เช่น มี CO2 ต่ำมากๆ หรือสูงๆ ไปเลย เมื่อนั้นมันก็จะหยุดสร้างสปอร์ และตัวมันเองจะตายไปในที่สุดเพราะไม่มีสปอร์ใหม่มาแทนที่ คุณควรกำจัดตะไคร่ที่ยังอยู่ด้วย แม้มันจะไม่โตก็ตาม เพราะมันยังคง มีความสามารถที่จะสร้างสปอร์ได้ ตะไคร่ขนดำที่เขาเคยเห็นในสายน้ำที่ใสและไหลแรง มักจะจับติดกับก้อนหินและต้นไม้บางชนิด ถ้าใครเคยไปที่ Ichetucknee ในฟลอริด้าแล้วเห็นว่า ต้นซาจิกับต้นเทปแถวนั้นมีตะไคร่ขนดำติดอยู่ละก็ให้รู้ด้วยว่า น้ำที่นั่นมีค่า pH อยู่ราวๆ 7.6-7.8 (เขาตอบตรงนี้เพราะ มีคนบอกว่าตะไคร่ขนดำจะไม่เกิดในน้ำที่มีความเป็นด่าง) ปล. ที่ว่ารักษาปริมาณ CO2 ให้คงที่นี่ หมายถึงช่วงที่เปิดไฟนะ เพราะตัวเขาเองก็เปิด CO2 เฉพาะเวลาเปิดไฟเท่านั้น เพราะ สงสารสัตว์ในตู้ หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: taga ที่ 29/06/09, [12:18:30] lau01 lau01 lau01เอาอีกๆ ตอนนี้กำลังสู้กับขนเขียวอยู่
หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: NP ที่ 29/06/09, [21:10:39] ขนเขียวมันมีหลายพันธุ์น่ะ และบางพันธุ์ อย่าง Spirogyra
เป็นพันธุ์ที่ ทอม บารร์ คิดว่ากำจัดยากที่สุด เพราะลักษณะ ของมันเกือบเหมือนต้นไม้ชั้นสูงแล้ว ทำให้ปัจจัยการเติบโต ของมันคล้ายกับไม้น้ำ (โดยเฉพาะพวกมอส) มาก เดี๋ยวไปรวบรวม (เรื่องขนเขียว) มาให้ได้เยอะประมาณนึงก่อน แล้วค่อยโพสต์นะครับ และอาจเป็นกระทู้ใหม่ เกรงใจว่าจะเป็น การไฮแจ็คกระทู้มากไปกว่านี้ เพราะเจ้าของกระทู้ถามเกี่ยวกับขนดำ hah1 หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: 【 M a R s™ 】• ที่ 17/07/09, [00:56:09] ง่วง .. มึน .. หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: MASTERMATH ที่ 28/08/09, [00:47:07] แวะมาเก็บข้อมูลครับ [ไอ้แว่น] [ไอ้แว่น]
แต่พออ่านไปได้ซักพัก ชักสับสนในตัวเองแล้วสิ อิอิ [หมัดดาวหาง] [หมัดดาวหาง] หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: get ที่ 28/08/09, [00:48:27] เบลอเลย
หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: nikimaroo ที่ 03/09/09, [22:13:38] สุดยิดกับข้อมูลจริงๆครับ [เจ๋ง]
หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: Palaloi ที่ 03/09/09, [22:37:29] อ่านมาถึงตรงนี้.. รู้สึกว่า ..
รื้อตู้ใหม่น่าจะง่ายกว่า asspain หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: Em'M ที่ 03/09/09, [22:44:59] พึ่งจะมาเห็นกระทู้นี้ สุดยอดมาก เอาซะงงเลย... [เขิลลลล]
หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: L a k e I o n . ที่ 22/09/09, [16:17:16] รบกวนถามครับตู้ผมมีเทเนลุซกับหญ้าแแห้วหมูเป็นหลักปริมาตรตู้350ลิตร กรองเซตตัวได้ดีพอสมควรตอนนี้ถูกขนดำกับขนเขียวบุกอย่างหนัก!!!! อาศัยเปลี่ยนน้ำอาทิตย์ละ2ครั้งและเริ่มใช้ปุ๋ยเม็ดกับปุ่ยน้ำ ไม่อยากใช้ยาเพราะห่วงปลา ช่วยสันนิฐานวิธีจัดการคร่าวๆด้วยครับ
..........ตอนนี้มันหนักมากๆด้วย หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: pheng ที่ 22/09/09, [20:56:00] กระทู้นี้สุดยอดทุกท่านเลย
หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: leklek ที่ 23/09/09, [09:40:16] ขอถามคุณ Spirit เรื่อง Algae Scrubber ครับ
ใช้เวลานานขนาดไหนถึงจะเห็นผลว่าตะไคร่ลดลงครับ หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: Phumiphat ที่ 08/10/09, [11:09:21] เข้ามาเก็บความรู้ กระทู้นี้น่าจะปักหมุดไว้นะ [เจ๋ง] ดีหวะหัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: dernero ที่ 15/10/09, [22:39:03] ขอขอบคุณเจ้าของกระทู้และผู้ร่วมอภิปรายทะกท่านจริงๆ [เจ๋ง]
ผมก็เพิ่งได้เห็นกระทู้นี้ เป็นอีกหนึ่งแนวทางในการเลี้ยงต้นไม้ให้งามและป้องกันตะไคร่ต่างๆได้ดีมากๆเลย ขอขอบคุณมากๆเลยครับ ขอบคุณครับ [เจ๋ง] [เจ๋ง] ป.ล.เพราะกระทู้คุณ KORN ทำให้ผมเจอกระทู้นี้เลยนะเนี่ย ทั้งๆที่นั่งคุยกันอยู่บ่อยๆอะ ้hahaha หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: myacc ที่ 26/10/09, [02:35:23] 036 ซื้อเผื่อด้วยคับ...
หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: seasoned999 ที่ 06/01/10, [13:31:36] suicide เยอะจิง ๆ
หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: teana3086 ที่ 08/01/10, [22:58:51] รออ่านต่อ
หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: pheng ที่ 01/02/10, [02:39:27] เข้ามาเก็บความรู้ lau01 lau01 lau01
หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: techtoy ที่ 01/02/10, [19:48:36] กระทู้แรกๆ อ่านๆๆๆๆ Correct!
กระทู้หลังๆ รูดดๆๆๆๆ (อ่านผ่านๆ) surrender สรุป ช่างแม่งงเหอะ ทำเท่าที่รู้ก็พอ รู้มากไปก็คิดมาก [แคะขี้มูก] หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: pockeydips ที่ 09/04/10, [15:51:38] จริงๆมันเป็นตะไคร่ที่กำจัดง่ายนะ เพราะมันลามช้ากว่าตัวอื่น แต่จะจังไรมาก ถ้าตู้มีไม้โตช้าเยอะๆ ขออธิบายลักษณะเฉพาะของมันก่อน จากการทดลอง มันโตช้า ลามช้า แย่งอาหารกับต้นไม้ไม่ค่อยทัน เสนอหน้าไปแย่งแสงได้ยาก โดนบังแสงหน่อยก็ตาย แต่มันทน ถึก เหนียว แน่น หนึบ ฉะนั้นวิธีที่ใช้กับตะไคร่ตัวอื่นได้ผล ไม่ว่าจะเปิดปิดไฟ4-4 ลดปุ๋ย ลดแสง เปลี่ยนน้ำบ่อยๆ เอาปลาเอากุ้งลง ก็เลยแทบจะไม่ได้ผลเลย ผมทดลองหลายอย่างกับตะไคร่ตัวนี้มาเกือบสองปีได้มั้ง รวมถึงที่ฝากเพื่อนไปทดลองด้วยอีก พยายามเลี้ยงๆมันไว้หลายๆตู้ ไม่ให้ตาย เอาไว้ทดลองต่อ แต่ในตู้ทดลอง กำจัดจนหมดแบบ 99% ไปหลายรอบแล้ว 99%เพราะว่ายังไงก็ยังมีเชื้อเหลือ ถ้าสภาพตู้แย่อีก มันก็มาอีก ขอกล่าวถึงวิธีที่ได้ผลชัดเจนแล้วกัน 1. สุดยอดมาก Mega Powerful Nitrate and Phosphate Remover - DIY! (http://www.aquaticplantcentral.com/forumapc/equipment/58708-mega-powerful-nitrate-phosphate-remover-diy.html) ลองตามลิ๊งไปดู เพราะมันดูดไนเตรทฟอสเฟทออกได้เรี่ยมจริงๆ ชนิดว่ากระทั่งตู้ปลาทองที่เคยมีตะไคร่เขียวเกาะเต็ม ยังใสกิ๊ง (ต้องถูกระจกด้วยนะ) แต่ทำยาก เสีย CO2 ไปตอนน้ำหล่น และบางที ดูดไปมากซะจนต้นไม้หงอยเลย ดีไป 2. ลงต้นไม้โตเร็วเยอะๆ ปกติมันก็ลามได้แต่ตามขอนตามหินเท่านั้นแหละ เจอไอ้นี่นะ อย่าไปลดไฟ เปิดเลย เยอะๆ CO2 เอาแบบนับฟองไม่ได้ ฝังปุ๋ยไปเลย เดี๋ยวต้นไม้โตหนีหมด มัวกลัวใส่ปุ๋ย ต้นไม้โทรม ทีนี้ล่ะ เสร็จมัน เหลือแต่ตามขอน ค่อยไล่เอา H2O2 ฉีดเอา ตะไคร่ขนดำจะแทบทำอะไรต้นไม้สภาพดีๆไม่ได้เลยครับ 3. เอา H2O2 ฉีดเอา ถ้าตู้ไม่ใหญ่ ฉีดทีสองทีก็หมด กว่าจะขึ้นมาก็อีกนาน ค่อนข้างปลอดภัยมาก 4. Seachem Flourish Excel อันนี้เพื่อนลองให้ ไม่มีตังซื้อ ได้ผลพอควร ประมาณของจานยุทธครับ ไม่ถึงกับหาย แต่ดีขึ้น แถมวีดิโอ เจ้านี้ส่องด้วย led โรงงิ้วเลย เค้าว่าโตดีมาก http://www.youtube.com/watch?v=9-44XUi8gXg ใครสงสัยก็ถามไว้ในนี้แล้วกัน อย่า pm มาถามเลย ขี้เกียจตอบทีละคนครับ ชอบจัง---ความคิดดีคับ emb01 หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: far_blue ที่ 18/05/10, [22:27:24] สุดยอดขอบคุณมากๆ หาวิธีกำจัดเส้นผมต่อดีกว่า [on_012]
หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: n.c.a. ที่ 27/05/10, [21:25:39] ตอนนี้ของเค้ากะลังโดนตะไคร่สีเขียวเกาะที่ใบเต็มเลย(เป็นเส่นยาวๆเล็กๆ)จะลองทำตามในกระทู้ดูครับ ใด้เรืองอย่างไรจะแจ้งให้ทราบครับ
หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: ^Value Of The Hopless^ ที่ 01/12/11, [12:38:15] ไอ้แสบนี่ ไม่อยากยุ่งกับมันเลยจริงๆ เคยลงไปตอนตั้งตู้ใหม่ๆเจอตะไคร่เส้นผมนะ โหรักมันยังกะลูก พะตะไคร่หมด มันซัดกลอซโซ นำ้ตาเทียนกระจายเลย จับออกก็ยาก หลังจากนั้นซักระยะ เจอตะไคร่อีกทีเลยกลั้นใจไปซื้อมาตัวนึง ไอ้เวรนี่นิสัยแย่กว่าชุดแรกอีก ไมสนใจตะไคร่เลย กัดแต่หางปลาตัวอื่น แล้วก็รอเตทตร้าบิท กวนชะมัด บอกตรงๆตอนนั้นซื้อมา50บาทมั้ง แต่ถ้ามีคนมาเสนอขายยาเบื่อปลาตะกรับที่หยดแล้วมีผลแต่กับตะกรับนะ ซัก300-500บาท ผมหยดใส่มันจริงๆให้ตายเหอะ ........ พูดแล้วขึ้น hide2 ใจร้าย... หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: TeRa ที่ 04/12/11, [22:13:44] อัดแน่นด้วยคุณภาพ ความรู้จริงๆคะ
ตามอ่านๆค่ะ [on_055] หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: send2big ที่ 05/02/13, [22:13:39] ของผมงามแต่ขนเขียว คืนเดียวยาวเป็นครึ่งคืบ ต้นไม้แกร็นๆ จะดูดีหน่อยก็มอส ความรู้ในนี้ต้องไปลองบ้าง
หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: thanabat ที่ 22/02/13, [17:14:04] ผมเป็นหน้าใหม่นะครับ แต่ที่อยากจะแชร์คือผมเรียนทางวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมครับ มีการเลี้ยงสาหร่ายเพื่อการบำบัดน้ำเสีย การเจริญเติบโตของสาหร่ายนั้น มันมีมากับน้ำ หรือพืชอื่นๆอยู่แล้วครับเพียงแค่มันเล็กเรามองไม่เห็น แต่การที่มันเจริญเติบโตจนเต็มตู้นั้นเกิดจากมีธาตุอาหารมากภายในตู้ ธาตุอาหารที่สำคัญคือ ไนโตรเจนและฟอสฟอรัสครับ เพราะสองตัวนี้จะทำให้พืชน้ำเกิดการเจริญเติบโตเกินกว่าปกติครับ และยิ่งมีแสงจะทำให้กระบวนการสังเคราะห์แสงเกิดตลอดเวลาที่มีแสงเลยครับทำให้สาหร่ายโตเร็ว โดยจะรวมกับสาหร่ายจะมีเวลาในการเจริญเติบโตเป็นสองเท่าตามสายพันธุ์อยู่แล้ว และสาเหตุที่ไนโตเจนและฟอสฟอรัสเพิ่มมากขึ้นในตู้ มาจากอาหารปลา ขี้ปลา หรือพืชน้ำที่ตาย หรือในน้ำเองครับ *ไนโตเจนที่ผมบอก นี้คือรวมไนเตรท แอมโมเนียม แอมโมเนีย ด้วยนะครับ
ผิดพลาดประการใดหรือมีอะไรเพิ่มเติม หรือผมเข้าใจอะไรผิดไป เพิ่มเติมและแนะนำผมด้วยนะครับ หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: Black ที่ 17/05/13, [15:36:14] ขอบคุณ กระทู้นี้ครับ และขอบคุณข้อความที่ทิ้งไว้ให้อ่านกัน เป็นความรู้ดีๆ ครับ (มือใหม่) ขอบคุณมากครับผม [เจ๋ง]
หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: Seed Of Best ที่ 09/06/13, [10:06:46] thx ka
หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: bokazies ที่ 13/06/13, [16:02:16] ขอบคุณ มากๆครับ เป็นประโยช์ มากครับ [เจ๋ง]
หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: veerasakfish ที่ 15/04/14, [19:51:48] เก็บความรู้ครับ [เจ๋ง]
หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: goojae ที่ 22/05/14, [17:32:45] ดีมากครับ ช่วยได้เยอะเลย [on_018]
หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: sakurathai ที่ 09/03/15, [23:13:51] ตู้ 36" ตอนนี้ตระใครมาเต็มเลย ไปที่ร้าน ขอซื้อยากำจัดตระใคร่ที่ใช้ตามบ่อปลาคราฟ แต่คนขายบอกว่า ตระใคร่ตาย ต้นไม้ก็ตายด้วย (ไม่เป็นอันตรายต่อสัตว์) ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า ้hahaha ้hahaha ้hahaha
หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: T0Ns ที่ 30/05/15, [02:37:35] อ่านละมึนหนักเลย 036
หัวข้อ: Re: ตะไคร่เจ้าปัญหา เริ่มหัวข้อโดย: Nongmiw39 ที่ 29/06/15, [10:47:31] เจ๋งมากๆเลยค่ะ ขอบคุณคำแนะนำเหล่านี้ด้วยนะค่ะ [on_066] [on_066]
ในรูปแบบใหม่ล่าสุดจาก ปอยเปต รีสอร์ท ได้ที่นี่ (https://www.royal-1688.net) |