Aqua.c1ub.net
*
  Fri 19/Apr/2024
หน้า: 1 2 3 4   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ตะไคร่เจ้าปัญหา  (อ่าน 84079 ครั้ง)
Django ออฟไลน์
Club Follower
« เมื่อ: 20/05/09, [14:07:09] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

   ช่วยกันหาข้อสรุปได้มั้ยครับ ว่าตกลงไอ้ขนดำเนี่ย มีสาเหตุจากอะไรกันแน่ ตู้ของผมถ่ายนำ้สมำ่เสมอก็ยังมา เคยไปค้นดูในกระทู้เก่าๆก็มีหลายคำตอบแตกต่างกันไป งงไปหมด วิธีปราบมันก็มีหลายทาง ตั้งแต่ยา Azoo ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ลดไฟ เพิ่ม co2 เก็บออกด้วยมือ เอาแผ่นเหล็กไปแขวน ๆลๆ
เลยอยากถามผู้รู้ครับว่ามันยังไงกัน แบ่งออกเป็นข้อย่อยๆตามนี้นะครับ
1 ถ้าใช้ไฮโดรเจน ผมเคยอ่านเจอว่าหลังจากใช้ไฮโดรเจนโดยฉีดลงไปตรงๆที่พบปัญหา แล้วให้เปิดไฟ ก็เลยงงว่าไฟเกี่ยวอะไรกับเจ้าไฮโดรเจนด้วยครับ
2 ช่วยอธิบายวงจรของไฮโดรเจนด้วยครับว่ามันมีฤทธิ์ที่เป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตประเภทใหนบ้าง แล้วหลังจากใช้แล้วจะตกค้างในตู้หรือไม่ มีวิธีกำจัดออกจากระบบยังไง
3 เคยอ่าานเจอว่ามันมักจะมาจากสาเหตุที่ตู้เรามีธาตุเหล็กเยอะเกินกว่าที่ต้นไม้จะนำไปใช้ได้หมด อยากทราบว่านอกจากในปุ๋ยแล้ว ธาตุเหล็กพบได้ในอะไรอีกครับที่เราอาจไม่รู้เช่น อาหารเม็ด อาหารสดประเภทหนอนแดง ไรทะเล ขี้ปลา เศษอาหาร ๆลๆ
4 แอลจี้น๊อกซ์และยา Azoo ที่มีไว้จัดการกับตะไคร่ขนดำเนี่ย ถ้าเริ่มใช้แล้วจะเริ่มสังเกตเห็นผลหลังการใช้กี่วัน และ จะมีผลไปในทิศทางใดครับ เวลาลองหยดยาจะได้คอยสังเกตแถมได้กำลังใจเพิ่มขึ้นด้วย ว่ายาได้ผล
ช่วยหน่อยนะครับ ถามซะยาวเลย เชื่อว่าคงมีอีกหลายๆคนงงเหมือนผมแน่เลย hide2
Tags: ตะไคร่ 
ํีYuth ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #1 เมื่อ: 20/05/09, [14:19:04] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ยังหาข้อมูลที่ตรงๆไม่ได้เช่นกันครับ แต่ก็ประสพปัญหาเดียวกัน

1.และ 2.  การใช้ไฮโดรเจน เปอร์ออกไซด์ มันมีฤทธิ์เป็นตัวออกซิไดส์ครับ ดังนั้นก็จะไปทำลายเซลล์ พืขหรือตะไคร่ครับ พ่นไปในระยะใกล้ๆ ขนดำก็จะตายครับ มีพิษต่อสิ่งมีชีวิต ถ้าใช้ในระดับความเข้มข้นสูงๆ เพราะเซลล์ถูกทำลาย วิธีกำจัดออกก็การเปิดไฟ เพราะ มันจะสลายตัวเมื่อถูก แสงครับ

3. ไม่ทราบครับ แต่อ่านเจอเช่นกันว่า ธาตุเหล็กเยอะจะทำให้ มีขนดำเกิดขึ้น ตู้ผมไม่ใส่ปุ๋ยเหล็กเลย ใส่แต่ปุ๋ย ไนโตรเจน ก็เกิดครับ คงไม่ใช่แค่ธาตุเหล็กธาตุเดียว คงเป็นจากที่ว่า ตู้มีสารอาหารเยอะเกิน ตู้ที่เป็นขนดำก็เป็นตู้ปอม ให้อาหารเยอะและ ปอมขับถ่ายของเสียเยอะ แม้ จะเปลี่ยนน้ำ สองครั้งต่ออาทิตย์ก็ยังพบครับ

4. เคยใช้ยาเอซูครับไม่ค่อยเห็นผลที่ดีเท่าไหร่ แต่ใช้ seachem flora excel เห็นผลครับ อาการดีขึ้น จนต้องไปซื้อขวดที่สองมาใช้ แต่ราคา แพงกว่า azoo มากครับ

ระยะหลังๆ ก็ทำใจ ว่าไม่หายก็ไม่เป็นไร ขออย่าขึ้นเยอะและปลา สุขภาพดีละกันครับ  [ปิ๊งๆๆ]



   ช่วยกันหาข้อสรุปได้มั้ยครับ ว่าตกลงไอ้ขนดำเนี่ย มีสาเหตุจากอะไรกันแน่ ตู้ของผมถ่ายนำ้สมำ่เสมอก็ยังมา เคยไปค้นดูในกระทู้เก่าๆก็มีหลายคำตอบแตกต่างกันไป งงไปหมด วิธีปราบมันก็มีหลายทาง ตั้งแต่ยา Azoo ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ลดไฟ เพิ่ม co2 เก็บออกด้วยมือ เอาแผ่นเหล็กไปแขวน ๆลๆ
เลยอยากถามผู้รู้ครับว่ามันยังไงกัน แบ่งออกเป็นข้อย่อยๆตามนี้นะครับ
1 ถ้าใช้ไฮโดรเจน ผมเคยอ่านเจอว่าหลังจากใช้ไฮโดรเจนโดยฉีดลงไปตรงๆที่พบปัญหา แล้วให้เปิดไฟ ก็เลยงงว่าไฟเกี่ยวอะไรกับเจ้าไฮโดรเจนด้วยครับ
2 ช่วยอธิบายวงจรของไฮโดรเจนด้วยครับว่ามันมีฤทธิ์ที่เป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตประเภทใหนบ้าง แล้วหลังจากใช้แล้วจะตกค้างในตู้หรือไม่ มีวิธีกำจัดออกจากระบบยังไง
3 เคยอ่าานเจอว่ามันมักจะมาจากสาเหตุที่ตู้เรามีธาตุเหล็กเยอะเกินกว่าที่ต้นไม้จะนำไปใช้ได้หมด อยากทราบว่านอกจากในปุ๋ยแล้ว ธาตุเหล็กพบได้ในอะไรอีกครับที่เราอาจไม่รู้เช่น อาหารเม็ด อาหารสดประเภทหนอนแดง ไรทะเล ขี้ปลา เศษอาหาร ๆลๆ
4 แอลจี้น๊อกซ์และยา Azoo ที่มีไว้จัดการกับตะไคร่ขนดำเนี่ย ถ้าเริ่มใช้แล้วจะเริ่มสังเกตเห็นผลหลังการใช้กี่วัน และ จะมีผลไปในทิศทางใดครับ เวลาลองหยดยาจะได้คอยสังเกตแถมได้กำลังใจเพิ่มขึ้นด้วย ว่ายาได้ผล
ช่วยหน่อยนะครับ ถามซะยาวเลย เชื่อว่าคงมีอีกหลายๆคนงงเหมือนผมแน่เลย hide2
Anubias ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #2 เมื่อ: 20/05/09, [14:42:44] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ธาตุเหล็กน่าจะมาจากอาหารสดนะครับ จากตรงไหน..คือ เลือดของสัตว์จำพวกหนอนและไรทะเล มันมีธาตุเหล็กเหมือนๆกันกับเลือดของคนนี่หละครับ ถ้าให้เยอะก็จะมีเหล็กสะสมแล้วแขวนลอยอยุ่ในน้ำ ตะไคร่ก็มาในที่สุด  ทางที่ดีนะ คือการเปลี่ยนน้ำที่สม่ำเสมอ และควบคุมปริมาณการให้ปุ๋ยสักนิด  ควรให้หลังจากการเปลี่ยนน้ำสัก 2 วัน เพราะรอให้พืชน้ำได้ปรับตัวหลังการเปลี่ยน้ำ เพราะเมื่อน้ำใหม่เข้ามา อุณหภูมิมันก็เปลี่ยน ต้นไม้ก็จะยังไม่ดูดกินปุ่ยในระยะนี้  ก็น่าจะช่วยลดได้นะครับ แต่ให้ไม่มีเลย นี่ต้องหาคนมาผลิตปุ๋ยที่แยกเป็นธาตุเป็นตัวๆไปเลย เราจะสามารถกำหนดได้ว่า ธาตุตัวไหนไห้ได้โดยไม่ทำให้เกิดตะไคร่น้ำ  คงจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด อยากทำปุ๋ยแบบนี้นะ  ต้องรอไปคุยกับบริษัท.
นอยสะตอรี่™ ออฟไลน์
C.A.P. Army
« ตอบ #3 เมื่อ: 20/05/09, [14:47:44] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เฮ๊ย!!~ น้าๆ แนะนำตระกรับหน้าแดง กินกระจายเลยขอบอก
ตู้หมอแคระ ตอนแรกว่าจะรื้อทิ้งแล้ว ตะใคร่เขียวเอย ตะใคร่ขนดำเอย เต็มตู้ไปหมด
แต่พอเอาตระกรับหน้าแดงลง คืนเดียวเท่านั้นละ เห็นผลทันตาเลย

ปล. ถ้าจะไปซื้อ เผื่อด้วยสองหน่วย :P
Django ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #4 เมื่อ: 20/05/09, [14:59:27] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

อ้างจาก: □[◎□◎
□~

 link=topic=56700.msg660756#msg660756 date=1242805664]
เฮ๊ย!!~ น้าๆ แนะนำตระกรับหน้าแดง กินกระจายเลยขอบอก
ตู้หมอแคระ ตอนแรกว่าจะรื้อทิ้งแล้ว ตะใคร่เขียวเอย ตะใคร่ขนดำเอย เต็มตู้ไปหมด
แต่พอเอาตระกรับหน้าแดงลง คืนเดียวเท่านั้นละ เห็นผลทันตาเลย

ปล. ถ้าจะไปซื้อ เผื่อด้วยสองหน่วย :P
ไอ้แสบนี่ ไม่อยากยุ่งกับมันเลยจริงๆ เคยลงไปตอนตั้งตู้ใหม่ๆเจอตะไคร่เส้นผมนะ โหรักมันยังกะลูก พะตะไคร่หมด มันซัดกลอซโซ นำ้ตาเทียนกระจายเลย จับออกก็ยาก หลังจากนั้นซักระยะ เจอตะไคร่อีกทีเลยกลั้นใจไปซื้อมาตัวนึง ไอ้เวรนี่นิสัยแย่กว่าชุดแรกอีก ไมสนใจตะไคร่เลย กัดแต่หางปลาตัวอื่น แล้วก็รอเตทตร้าบิท กวนชะมัด  บอกตรงๆตอนนั้นซื้อมา50บาทมั้ง แต่ถ้ามีคนมาเสนอขายยาเบื่อปลาตะกรับที่หยดแล้วมีผลแต่กับตะกรับนะ ซัก300-500บาท ผมหยดใส่มันจริงๆให้ตายเหอะ
    ........ พูดแล้วขึ้น hide2
นอยสะตอรี่™ ออฟไลน์
C.A.P. Army
« ตอบ #5 เมื่อ: 20/05/09, [15:03:22] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ไอ้แสบนี่ ไม่อยากยุ่งกับมันเลยจริงๆ เคยลงไปตอนตั้งตู้ใหม่ๆเจอตะไคร่เส้นผมนะ โหรักมันยังกะลูก พะตะไคร่หมด มันซัดกลอซโซ นำ้ตาเทียนกระจายเลย จับออกก็ยาก หลังจากนั้นซักระยะ เจอตะไคร่อีกทีเลยกลั้นใจไปซื้อมาตัวนึง ไอ้เวรนี่นิสัยแย่กว่าชุดแรกอีก ไมสนใจตะไคร่เลย กัดแต่หางปลาตัวอื่น แล้วก็รอเตทตร้าบิท กวนชะมัด  บอกตรงๆตอนนั้นซื้อมา50บาทมั้ง แต่ถ้ามีคนมาเสนอขายยาเบื่อปลาตะกรับที่หยดแล้วมีผลแต่กับตะกรับนะ ซัก300-500บาท ผมหยดใส่มันจริงๆให้ตายเหอะ
    ........ พูดแล้วขึ้น hide2
้hahaha  ้hahaha ทำตู้พักต้นไม้ซักตู้ดิ๊ เอาไว้ลงพวกไม้โคม่า
kenII ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #6 เมื่อ: 20/05/09, [15:29:31] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

   ช่วยกันหาข้อสรุปได้มั้ยครับ ว่าตกลงไอ้ขนดำเนี่ย มีสาเหตุจากอะไรกันแน่ ตู้ของผมถ่ายนำ้สมำ่เสมอก็ยังมา เคยไปค้นดูในกระทู้เก่าๆก็มีหลายคำตอบแตกต่างกันไป งงไปหมด วิธีปราบมันก็มีหลายทาง ตั้งแต่ยา Azoo ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ลดไฟ เพิ่ม co2 เก็บออกด้วยมือ เอาแผ่นเหล็กไปแขวน ๆลๆ
เลยอยากถามผู้รู้ครับว่ามันยังไงกัน แบ่งออกเป็นข้อย่อยๆตามนี้นะครับ
1 ถ้าใช้ไฮโดรเจน ผมเคยอ่านเจอว่าหลังจากใช้ไฮโดรเจนโดยฉีดลงไปตรงๆที่พบปัญหา แล้วให้เปิดไฟ ก็เลยงงว่าไฟเกี่ยวอะไรกับเจ้าไฮโดรเจนด้วยครับ

ได้ยินมาว่าแสงทำให้  H2O2 สลายไปครับ  แล้วอีกอย่างถ้าใช้เยอะ  ขณะใช้ปิดกรองด้วยครับไม่งั้นอาจกรองล่ม

2 ช่วยอธิบายวงจรของไฮโดรเจนด้วยครับว่ามันมีฤทธิ์ที่เป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตประเภทใหนบ้าง แล้วหลังจากใช้แล้วจะตกค้างในตู้หรือไม่ มีวิธีกำจัดออกจากระบบยังไง

สลายตัวในระบบได้เองครับ
3 เคยอ่าานเจอว่ามันมักจะมาจากสาเหตุที่ตู้เรามีธาตุเหล็กเยอะเกินกว่าที่ต้นไม้จะนำไปใช้ได้หมด อยากทราบว่านอกจากในปุ๋ยแล้ว ธาตุเหล็กพบได้ในอะไรอีกครับที่เราอาจไม่รู้เช่น อาหารเม็ด อาหารสดประเภทหนอนแดง ไรทะเล ขี้ปลา เศษอาหาร ๆลๆ

ขอผ่านครับ   ยากไป   [เขิลลลล]
4 แอลจี้น๊อกซ์และยา Azoo ที่มีไว้จัดการกับตะไคร่ขนดำเนี่ย ถ้าเริ่มใช้แล้วจะเริ่มสังเกตเห็นผลหลังการใช้กี่วัน และ จะมีผลไปในทิศทางใดครับ เวลาลองหยดยาจะได้คอยสังเกตแถมได้กำลังใจเพิ่มขึ้นด้วย ว่ายาได้ผล
ช่วยหน่อยนะครับ ถามซะยาวเลย เชื่อว่าคงมีอีกหลายๆคนงงเหมือนผมแน่เลย hide2

ผมเคยใช้แต่ตัวแรกครับ  แล้วผมเองก็อาจใช้ผิดวิธี(อาจอ่านฉลากแล้วเข้าใจผิด [งง] มั้ง) แต่สรุปว่าผมใช้มันไม่ได้ผลครับ ส่วนตัวผมรู้สึกว่าถ้าต้นไม้แข็งแรง และค่อนข้างเต็มพื้นที่ แล้วพวกขนดำมันจะไม่มีที่อยู่ไปเองอ่ะครับ

Mr.F ออฟไลน์
Hot Member
« ตอบ #7 เมื่อ: 20/05/09, [15:43:19] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ถ้าเจอบ่อยๆ ก็ตอนฝังปุ๋ยไม่ลึกพอครับ ปุ๋ยฝังธาตุเหล็กน่าจะเยอะ
ถ้าถามว่ามาจากไหน ที่เคยอ่านเจอบางทีมันก็อาจมากับน้ำที่เราใส่ตู้ หรือลอยมาเป็นสปอร์ทางอากาศ ก็ได้นะ  emb01
ลอง cabon น้ำของ Azoo ถูกดีครับ Excel ก็ดีครับ แต่ไม่เคยลอง ไม่ค่อยมีปัญหากะต้นไม้ แต่ปริมาณเยอะอาจมีผลต่อสัตว์ได้ครับ
Django ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #8 เมื่อ: 20/05/09, [17:22:14] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ถ้าเจอบ่อยๆ ก็ตอนฝังปุ๋ยไม่ลึกพอครับ ปุ๋ยฝังธาตุเหล็กน่าจะเยอะ
ถ้าถามว่ามาจากไหน ที่เคยอ่านเจอบางทีมันก็อาจมากับน้ำที่เราใส่ตู้ หรือลอยมาเป็นสปอร์ทางอากาศ ก็ได้นะ  emb01
ลอง cabon น้ำของ Azoo ถูกดีครับ Excel ก็ดีครับ แต่ไม่เคยลอง ไม่ค่อยมีปัญหากะต้นไม้ แต่ปริมาณเยอะอาจมีผลต่อสัตว์ได้ครับ
คาร์บอนนำ้ที่ว่าคืออะไรครับ คือ Co2 รึเปล่า ถ้าไช่ก็แปลว่าเพิ่ม Co2 ที่ถังก็ได้รึเปล่าครับ เหมือนเคยอ่านเจอที่พี่กบแนะนำไว้ว่าไอ้ขนดำเนี่ยมันเกลียดนำ้ที่มีสภาพความเป็นกรด  ว่าแต่ถ้าเร่งที่ถังได้จริงทำไมถึงต้องซื้อกันเหรอครับไอ้เจ้าคาร์บอนนำ้เนี่ย มันมีอะไรที่พิเศษกว่ามั้ยครับ
Champies ออฟไลน์
Hot Member
« ตอบ #9 เมื่อ: 20/05/09, [18:09:44] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ผมล่ะโคดกลัวเลยไอ้ขนดำเนี่ย  n032
shaharun ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #10 เมื่อ: 20/05/09, [18:16:01] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

มันน่ากัวมากๆๆๆๆ เคยเอาขอนที่มันติดอยู่ไปต้ม  ก็หาย นะ   idea1
บัง! ออฟไลน์
in Wonderland
« ตอบ #11 เมื่อ: 20/05/09, [18:56:27] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

จริงๆมันเป็นตะไคร่ที่กำจัดง่ายนะ เพราะมันลามช้ากว่าตัวอื่น

แต่จะจังไรมาก ถ้าตู้มีไม้โตช้าเยอะๆ

ขออธิบายลักษณะเฉพาะของมันก่อน จากการทดลอง

มันโตช้า ลามช้า แย่งอาหารกับต้นไม้ไม่ค่อยทัน เสนอหน้าไปแย่งแสงได้ยาก โดนบังแสงหน่อยก็ตาย

แต่มันทน ถึก เหนียว แน่น หนึบ

ฉะนั้นวิธีที่ใช้กับตะไคร่ตัวอื่นได้ผล ไม่ว่าจะเปิดปิดไฟ4-4 ลดปุ๋ย ลดแสง เปลี่ยนน้ำบ่อยๆ เอาปลาเอากุ้งลง ก็เลยแทบจะไม่ได้ผลเลย

ผมทดลองหลายอย่างกับตะไคร่ตัวนี้มาเกือบสองปีได้มั้ง รวมถึงที่ฝากเพื่อนไปทดลองด้วยอีก

พยายามเลี้ยงๆมันไว้หลายๆตู้ ไม่ให้ตาย เอาไว้ทดลองต่อ แต่ในตู้ทดลอง กำจัดจนหมดแบบ 99% ไปหลายรอบแล้ว 99%เพราะว่ายังไงก็ยังมีเชื้อเหลือ ถ้าสภาพตู้แย่อีก มันก็มาอีก

ขอกล่าวถึงวิธีที่ได้ผลชัดเจนแล้วกัน

1. สุดยอดมาก Mega Powerful Nitrate and Phosphate Remover - DIY! ลองตามลิ๊งไปดู

เพราะมันดูดไนเตรทฟอสเฟทออกได้เรี่ยมจริงๆ ชนิดว่ากระทั่งตู้ปลาทองที่เคยมีตะไคร่เขียวเกาะเต็ม ยังใสกิ๊ง (ต้องถูกระจกด้วยนะ)

แต่ทำยาก เสีย CO2 ไปตอนน้ำหล่น และบางที ดูดไปมากซะจนต้นไม้หงอยเลย ดีไป

2. ลงต้นไม้โตเร็วเยอะๆ ปกติมันก็ลามได้แต่ตามขอนตามหินเท่านั้นแหละ เจอไอ้นี่นะ อย่าไปลดไฟ เปิดเลย เยอะๆ CO2 เอาแบบนับฟองไม่ได้ ฝังปุ๋ยไปเลย เดี๋ยวต้นไม้โตหนีหมด มัวกลัวใส่ปุ๋ย ต้นไม้โทรม ทีนี้ล่ะ เสร็จมัน เหลือแต่ตามขอน ค่อยไล่เอา H2O2 ฉีดเอา

ตะไคร่ขนดำจะแทบทำอะไรต้นไม้สภาพดีๆไม่ได้เลยครับ

3. เอา H2O2 ฉีดเอา ถ้าตู้ไม่ใหญ่ ฉีดทีสองทีก็หมด กว่าจะขึ้นมาก็อีกนาน ค่อนข้างปลอดภัยมาก

4. Seachem Flourish Excel อันนี้เพื่อนลองให้ ไม่มีตังซื้อ ได้ผลพอควร ประมาณของจานยุทธครับ ไม่ถึงกับหาย แต่ดีขึ้น

แถมวีดิโอ เจ้านี้ส่องด้วย led โรงงิ้วเลย เค้าว่าโตดีมาก

<a href="http://www.youtube.com/v/9-44XUi8gXg" target="_blank">http://www.youtube.com/v/9-44XUi8gXg</a>

ใครสงสัยก็ถามไว้ในนี้แล้วกัน อย่า pm มาถามเลย ขี้เกียจตอบทีละคนครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20/05/09, [20:10:02] โดย บั่งบั๊ง »
NP ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #12 เมื่อ: 20/05/09, [20:08:31] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ผมเห็นด้วยนะว่าปัญหาตะไคร่คือ ต้นไม้ไม่โต ตะไคร่เลยโตแทน
งดปุ๋ยไม่ดี เพราะต้นไม้ก็ต้องการปุ๋ย

แต่พอค้นในเว็บนี้ส่วนใหญ่จะบอกว่า ให้ลดปุ๋ยๆๆ และลองค้น
ด้วยคีย์เวิร์ด Tom Barr ซึ่งเป็นคนที่แอนตี้วิธีลดปุ๋ย ก็ปรากฎว่าไม่เจอเลย
ทั้งที่เขา “ดัง” มาเป็นสิบปีแล้ว

นาย Tom Barr บอกว่าขนดำเกิดจาก แสงเยอะเกิน แต่ CO2 น้อยเกิน
ต้นไม้ไม่โต ขนดำได้โอกาส

ที่ผมเจอในตู้ พวกที่มีขนดำคือต้นที่ไม่โต (ตอนนี้โตดีแล้วโดยใช้วิธี
แบบนาย Tom Barr นี่แหละ เหลือขนดำเฉพาะในใบที่เก่ามากๆ)

คอนเซ็ปท์การให้ปุ๋ยแบบ Estimative Index (EI) ของเขา
มีอยู่ว่า สารอาหารอย่าง Nitrate, Phosphate
เหล็ก และอาหารธาตุรองอื่นๆ ไม่ใช่สาเหตุของตะไคร่ จึงสามารถโอเวอร์โดสเล็กน้อยได้
และเปลี่ยนน้ำ 50% ทุกอาทิตย์เพื่อป้องกันไม่ให้ปุ๋ยที่สะสมจากการ
โอเวอร์โดสนั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นอันตรายต่อปลา

การให้ปุ๋ยแบบโอเวอร์โดส (เล็กน้อย) จะทำให้เราแน่ใจได้ว่า ต้นไม้ได้รับสารอาหารครบแน่ๆ
จึงไม่ต้องใช้เครื่องมือวัดราคาแพง (เครื่องมือวัดระดับมืออาชีพนั้นขายกัน
ชุดนึงเป็นหมื่น เชื่อถือได้ ส่วนแบบมือสมัครเล่นนั้นพันนิดๆ แต่การวัดบางอย่าง
จะเชื่อไม่ค่อยได้ มาใส่ปุ๋ยแบบ EI กันเถอะ—เขาบอกงี้นะ ไม่ใช่ผม...)
แต่ให้ใส่ปริมาณปุ๋ยตามสัดส่วน PPM ที่เขาบอก หรือจะใช้สูตร
คำนวนจากที่นี่ก็ได้ http://atlas.csd.net/~cgadd/aqua/art_plant_dosage_calc.htm

เขาให้ความเห็นว่า พวกที่บอกว่า ให้ปุ๋ยเยอะเป็นสาเหตุของตะไคร่นั้น
“เชย” “หัวโบราณ” “ไม่รู้จริง” (คอนเซ็ปท์ EI มาหลัง PMDD ที่บอกว่า
ฟอสเฟตคือตัวการของตะไคร่) เพราะใช้วิธีทดลองผิด คือ ทำไมถึงไปใช้วิธี
ควบคุมตะไคร่ในการหาสาเหตุของตะไคร่? วิธีที่ถูกต้องในการหาสาเหตุของตะไคร่
คือ หาทางปลูกตะไคร่ให้งอกงามสิ และเขาทดลองมาเป็นสิบๆ ปี
โดสปุ๋ยอย่างหนัก Nitrate, Phosphate, เหล็ก และสารอาหาร
รองอื่นๆ ปรากฎว่า ตะไคร่ไม่ยักขึ้น แต่พอใส่ NH4 ตะไคร่มาทันที

เขาจึงบอกว่าสาเหตุของตะไคร่คือ แอมโมเนียในรูปแบบของ NH4
ที่ต้นไม้ดูดไปใช้ไม่หมดต่างหาก (พอต้นไม้สุขภาพดี ก็จะมี NH4 เหลือน้อย
ตะไคร่เลยเจริญได้ไม่ดี—อันนี้ผมคิดต่อเองนะ Tom Barr ไม่ได้พูด)

เขาบอกต่ออีกว่าควรดูดขึ้ปลาออกจาก Substrate บ่อยๆ ด้วย
ส่วนตู้ที่เลี้ยงปลามากเกินไป ต้องแก้โดยการลดจำนวนปลาลง
เพื่อลดการเกิด NH4 (ผมเคยวัดหา NH4 ในช่วงที่ตะไคร่บุกแล้วไม่เจอเลย
แต่มีคนบอกว่า ที่ไม่เจอก็เพราะมันกลายเป็นต้นตะไคร่ไปแล้วไง ก็รู้ๆ
อยู่ว่าตะไคร่อย่างพวกเส้นผมนี่ มันโตเร็วแบบข้ามคืน)

เขาเคยเคลมว่า ตัวเองสามารถแก้ปัญหาตะไคร่ทุกชนิดได้ภายใน
3-4 อาทิตย์ และเท่าที่ Search ดู ยังไม่เห็นใครปรามาสเขาว่าเก่งแต่ปากเลย
แถมบริษัทผลิตปุ๋ยไม้น้ำหลายแห่ง ก็เริ่มทะยอยออกปุ๋ยที่ให้ Nitrogen กับ ฟอสเฟต
กันแล้ว (เมื่อก่อนกลัวกันจริง ไนโตรเจน/ไนเตรท กับฟอสเฟต—ให้แต่โปแตสเซียม
อย่างเดียว) สงสัยคล้อยตามคอนเซ็ปท์ EI

คอนเซ็ปท์การให้ปุ๋ยแบบ EI
http://www.barrreport.com/showthread.php/62-The-Estimative-Index-of-Dosing-or-No-Need-for-Test-Kits
(หลังจากมีการปรับปรุงเว็บ barrreport.com รูปประกอบในโพสต์แรกของลิ้งค์นี้บางรูปเกิดการขัดข้อง
แต่ยังสามารถดูได้โดยคลิกที่รูปตัวอย่างเล็กๆ ในส่วนของ Attached Thumbnails ที่อยู่ด้านล่างของโพสต์แรก)

ปล. ผมยังมือใหม่นะปลูกมาได้แค่ 5 เดือนเองเลยยังไม่มี “ความเห็นส่วนตัว” มากนัก
แค่เอามาแนะนำให้ลองอ่าน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17/01/10, [01:37:53] โดย NP »
Django ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #13 เมื่อ: 20/05/09, [20:54:04] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ผมเห็นด้วยนะว่าปัญหาตะไคร่คือ ต้นไม้ไม่โต ตะไคร่เลยโตแทน
งดปุ๋ยไม่ดี เพราะต้นไม้ก็ต้องการปุ๋ย

แต่พอค้นในเว็บนี้ส่วนใหญ่จะบอกว่า ให้ลดปุ๋ยๆๆ และลองค้น
ด้วยคีย์เวิร์ด Tom Barr ซึ่งเป็นคนที่แอนตี้วิธีลดปุ๋ย ก็ปรากฎว่าไม่เจอเลย
ทั้งที่เขา “ดัง” มาเป็นสิบปีแล้ว

นาย Tom Barr บอกว่าขนดำเกิดจาก แสงเยอะเกิน แต่ CO2 น้อยเกิน
ต้นไม้ไม่โต ขนดำได้โอกาส

ที่ผมเจอในตู้ พวกที่มีขนดำคือต้นที่ไม่โต (ตอนนี้โตดีแล้วโดยใช้วิธี
แบบนาย Tom Barr นี่แหละ เหลือขนดำเฉพาะในใบที่เก่ามากๆ)

คอนเซ็ปท์การให้ปุ๋ยแบบ Estimative Index (EI) ของเขา
มีอยู่ว่า สารอาหารอย่าง Nitrate, Phosphate
เหล็ก และอาหารธาตุรองอื่นๆ ไม่ใช่สาเหตุของตะไคร่ จึงสามารถโอเวอร์โดสเล็กน้อยได้
และเปลี่ยนน้ำ 50% ทุกอาทิตย์เพื่อป้องกันไม่ให้ปุ๋ยที่สะสมจากการ
โอเวอร์โดสนั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นอันตรายต่อปลา

การให้ปุ๋ยแบบโอเวอร์โดส (เล็กน้อย) จะทำให้เราแน่ใจได้ว่า ต้นไม้ได้รับสารอาหารครบแน่ๆ
จึงไม่ต้องใช้เครื่องมือวัดราคาแพง (เครื่องมือวัดระดับมืออาชีพนั้นขายกัน
ชุดนึงเป็นหมื่น เชื่อถือได้ ส่วนแบบมือสมัครเล่นนั้นพันนิดๆ แต่การวัดบางอย่าง
จะเชื่อไม่ค่อยได้ มาใส่ปุ๋ยแบบ EI กันเถอะ—เขาบอกงี้นะ ไม่ใช่ผม...)
แต่ให้ใส่ปริมาณปุ๋ยตามสัดส่วน PPM ที่เขาบอก หรือจะใช้สูตร
คำนวนจากที่นี่ก็ได้ http://atlas.csd.net/~cgadd/aqua/art_plant_dosage_calc.htm

เขาให้ความเห็นว่า พวกที่บอกว่า ให้ปุ๋ยเยอะเป็นสาเหตุของตะไคร่นั้น
“เชย” “หัวโบราณ” “ไม่รู้จริง” (คอนเซ็ปท์ EI มาหลัง PMDD ที่บอกว่า
ฟอสเฟตคือตัวการของตะไคร่) เพราะใช้วิธีทดลองผิด คือ ทำไมถึงไปใช้วิธี
ควบคุมตะไคร่ในการหาสาเหตุของตะไคร่? วิธีที่ถูกต้องในการหาสาเหตุของตะไคร่
คือ หาทางปลูกตะไคร่ให้งอกงามสิ และเขาทดลองมาเป็นสิบๆ ปี
โดสปุ๋ยอย่างหนัก Nitrate, Phosphate, เหล็ก และสารอาหาร
รองอื่นๆ ปรากฎว่า ตะไคร่ไม่ยักขึ้น แต่พอใส่ NH4 ตะไคร่มาทันที

เขาจึงบอกว่าสาเหตุของตะไคร่คือ แอมโมเนียในรูปแบบของ NH4
ที่ต้นไม้ดูดไปใช้ไม่หมดต่างหาก (พอต้นไม้สุขภาพดี ก็จะมี NH4 เหลือน้อย
ตะไคร่เลยเจริญได้ไม่ดี—อันนี้ผมคิดต่อเองนะ Tom Barr ไม่ได้พูด)

เขาบอกต่ออีกว่าควรดูดขึ้ปลาออกจาก Substrate บ่อยๆ ด้วย
ส่วนตู้ที่เลี้ยงปลามากเกินไป ต้องแก้โดยการลดจำนวนปลาลง
เพื่อลดการเกิด NH4 (ผมเคยวัดหา NH4 ในช่วงที่ตะไคร่บุกแล้วไม่เจอเลย
แต่มีคนบอกว่า ที่ไม่เจอก็เพราะมันกลายเป็นต้นตะไคร่ไปแล้วไง ก็รู้ๆ
อยู่ว่าตะไคร่อย่างพวกเส้นผมนี่ มันโตเร็วแบบข้ามคืน)

เขาเคยเคลมว่า ตัวเองสามารถแก้ปัญหาตะไคร่ทุกชนิดได้ภายใน
3-4 อาทิตย์ และเท่าที่ Search ดู ยังไม่เห็นใครปรามาสเขาว่าเก่งแต่ปากเลย
แถมบริษัทผลิตปุ๋ยไม้น้ำหลายแห่ง ก็เริ่มทะยอยออกปุ๋ยที่ให้ Nitrogen กับ ฟอสเฟต
กันแล้ว (เมื่อก่อนกลัวกันจริง ไนโตรเจน/ไนเตรท กับฟอสเฟต—ให้แต่โปแตสเซียม
อย่างเดียว) สงสัยคล้อยตามคอนเซ็ปท์ EI

คอนเซ็ปท์การให้ปุ๋ยแบบ EI
http://www.barrreport.com/estimative-index/62-estimative-index-dosing-no-need-test-kits.html

ปล. ผมยังมือใหม่นะปลูกมาได้แค่ 5 เดือนเองเลยยังไม่มี “ความเห็นส่วนตัว” มากนัก
แค่เอามาแนะนำให้ลองอ่าน
นี่ก็เป็นอีกมุมนึงที่คนส่วนใหญ่ไม่เคยมองกันเนอะ น่าคิดครับแถมมีความเป็นไปได้สูงมากๆเลยซะด้วย ต้องลอง
ส่วนที่คุณบังแนะนำมาเนี่ยก็ว่าจะลองดูเหมือนกันครับ ขอบคุณทุกๆความเห็นนะครับ กระทู้ดีๆแบบนี้ทำให้เลี้ยงไม้นำ้ได้สนุกขึ้นเยอะเลยครับ [เจ๋ง]
บัง! ออฟไลน์
in Wonderland
« ตอบ #14 เมื่อ: 20/05/09, [21:32:53] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เคยอ่านของตาทอมแล้วล่ะครับ หลักการแกปึ้กจริงๆ

แต่ผมลองไปแล้วสงสัยอยู่สองสามข้อ ให้กังขามานาน

คือแกว่า ไนเตรท ไม่ทำให้ตะไคร่บูม แต่ตอนที่ผมเพาะตะไคร่ในกะละมัง (ตอนนั้นจะเอามาให้ออตโตกิน ตู้ดีจัด ไม่มีตะไคร่ เอาให้กินแล้วมันอ้วนดี ดูมันชอบกว่าอาหารปลา)

ผมก็ใส่ปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ ในนั้นก็ไม่มี NH4+ NH3 ซักกะติ๊ด ตะไคร่เขียวรึ่ม ไม่เห็นเป็นอย่างที่เค้าบอกว่าให้ลองดูกี่ครั้งก็ได้ เป็นอย่างที่ว่าแน่นอน

แล้วตามสูตรเคมี ถ้า PH สูงๆ NH4+ จะกลายเป็น NH3 (ในตู้ปลา พวกแอมโมเนียปกติมันจะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่สองตัวนี้แหละ)

ผมก็ซํดซะ PH 9 ซึ่งก็น่าจะไม่มีตะไคร่ขนดำ หรือตะไคร่อื่น ตามสูตรรูเตี๋ยวของตาทอม ที่ไหนได้ เหมือนเดิม เดือนนึงก็แล้ว สองเดือนก็แล้ว เหมือนเดิ๊ม

นอกนั้นหลักการโดยรวมก็เหมือนทั่วๆไป คือเอาปัจจัยของตะไคร่ออก เสริมปัจจัยให้ต้นไม้โตดีๆ มันก็หมดไปเอง

ไอ้แบบตาทอมนี่ก็ลองแล้ว ปรากฎว่า แม่งโคตรยากเลยครับ มานั่งคำนวณอัตราส่วนเนี่ย เพราะปุ๋ยต้นไม้ที่ขายๆกันก็ไม่ได้แจ้งอัตราส่วนไว้ ต้องใช้ปุ๋ยแยกตัว หาซื้อก็ยาก ซื้อทีคนขายก็มองแล้วมองอีก มันจะเอาไปทำระเบิดป่าววะ

แถมปัจจัยในตู้แต่ละตู้ที่เลี้ยงๆกันก็มั่วเหลือเกิน แสงแค่ไหนถึงเรียกว่าจัด/เยอะ? อุณหภูมิน้ำ ระบบกรอง แต่ละคนมันไม่ได้เหมือนกันเลย

และที่สำคัญคือ ใช้ไม่ได้กับคนเลี้ยงส่วนใหญ่ เพราะแค่ระบบกรองหรือ ไนโตรเจนไซเคิลง่ายๆยังไม่รู้เรื่องกันเลย ไอ้แบบนี้เหรอ ตายตั้งกะสองบรรทัดแรก
ตอนนั้นผมยังนั่งอ่านอยู่หลายวัน ภาษาแกก็พิลึกๆ เหมือนวิชาการจัด หรือภาษา eng ชาติไหนซักชาติ

ผมมันดันถนัดแต่อังกฤษภาษาพูด พวกตามหนัง ตามบอร์ด ตามการ์ตูนโป๊  emb01
NP ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #15 เมื่อ: 20/05/09, [22:05:08] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

อ้างจาก: บั่งบั๊ง
เคยอ่านของตาทอมแล้วล่ะครับ หลักการแกปึ้กจริงๆ

แต่ผมลองไปแล้วสงสัยอยู่สองสามข้อ ให้กังขามานาน

คือแกว่า ไนเตรท ไม่ทำให้ตะไคร่บูม แต่ตอนที่ผมเพาะตะไคร่ในกะละมัง (ตอนนั้นจะเอามาให้ออตโตกิน ตู้ดีจัด ไม่มีตะไคร่ เอาให้กินแล้วมันอ้วนดี ดูมันชอบกว่าอาหารปลา)

ผมก็ใส่ปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ ในนั้นก็ไม่มี NH4+ NH3 ซักกะติ๊ด ตะไคร่เขียวรึ่ม ไม่เห็นเป็นอย่างที่เค้าบอกว่าให้ลองดูกี่ครั้งก็ได้ เป็นอย่างที่ว่าแน่นอน

ไม่รู้ว่าปุ๋ยนั้นคือ ออสโมโค้ทหรือเปล่า คือ ออสโมโค้ทนี่ ตัวไนโตรเจนของมันจะมีทั้ง NH4 และ ไนเตรท

รูปนี้แช๊ะมาจาก http://scottspro.com/_documents/tech_sheets/osmocoteclassic.pdf


คือ ถ้าจะเอาไนเตรทอย่างเดียวแบบชัวร์ๆต้องเป็นปุ๋ยที่บอกว่ามี NO3 ไม่มีคำว่า NH4 ครับ เช่นที่ผมใช้อยู่นี่ KNO3 (โปแตสเซียมไนเตรท
หรือปุ๋ยสูตร 13-0-46 ซื้อจากศึกษาภัณฑ์ก็ได้) แต่ถ้าของคุณแน่ใจว่าเป็นไนเตรท (ไม่มี NH4) อยู่แล้ว ก็ไม่รู้เหมือนกัน

อ้างถึง
แล้วตามสูตรเคมี ถ้า PH สูงๆ NH4+ จะกลายเป็น NH3 (ในตู้ปลา พวกแอมโมเนียปกติมันจะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่สองตัวนี้แหละ)

ผมก็ซํดซะ PH 9 ซึ่งก็น่าจะไม่มีตะไคร่ขนดำ หรือตะไคร่อื่น ตามสูตรรูเตี๋ยวของตาทอม ที่ไหนได้ เหมือนเดิม เดือนนึงก็แล้ว สองเดือนก็แล้ว เหมือนเดิ๊ม

ตรงนี้จริงๆ แล้วก็สงสัยเหมือนกัน กะว่าจะถาม (ทอม) อยู่เหมือนกัน แต่ดูเหมือนเขาจะไม่เคยบอกว่า NH3 ไม่ทำให้เกิดตะไดร่นะ หรือเขาละไว้
ในฐานที่เข้าใจ? (เพราะปุ๋ย NH3 มันไม่มี? มีแต่ NH4? ใครอยากได้ NH3 ก็เอาแอมโมเนียไปใส่ในน้ำ PH สูงๆ เอาเอง? อันนี้ผมสงสัยแบบ
ยังไม่ลงมือค้นนะ)

อัพเดท: เจอแล้ว มีคนสงสัยเหมือนคุณเลย และถ้าเข้าใจไม่ผิด ดูเหมือนเขาจะตอบว่าพืชสามารถนำ NH3 มาแปลงเป็น NH4 ได้
เพราะมี H+ อยู่ในน้ำเยอะแยะ
http://www.barrreport.com/showthread.php/3456

อีกอย่างที่สงสัยคือ ตะไคร่มันกินไนเตรทไม่เป็นจริงๆ เหรอ? คือ ถ้าเอาน้ำกลั่นมาใส่ไนเตรทแล้วเอาไปตากแดด มันจะไม่มีตะไคร่เหรอ
มันควรจะมีสิ ทีนี้ ที่เค้าบอกไม่มีนี่ หมายถึง ในนั้นไม่ใช่มีแต่น้ำเปล่ากับปุ๋ย แต่ต้องมีไม้น้ำด้วย เพื่อให้ไม้น้ำแข่งกับตะไคร่ หรือเปล่า?

โอเค ถ้าหมายถึงให้ต้นไม้มันแข่งกับตะไคร่ มันก็ต้องมีไนเตรทเหลือให้ตะไคร่ด้วยใช่มั้ย (ตามหลักของ EI) แล้วตะไคร่ถูกจำกัด (ไม่ใช่กำจัด)
ได้ยังไง? ต้นไม้ปล่อยสารเคมีที่ต่อต้านตะไคร่เหรอ? หรือว่าตะไคร่ไม่สามารถนำไนเตรทไปใช้ได้เก่งนักเพราะเป็นพืชชั้นต่ำ
...คิดจะถามแกทำนองนี้ด้วย

อ้างถึง
นอกนั้นหลักการโดยรวมก็เหมือนทั่วๆไป คือเอาปัจจัยของตะไคร่ออก เสริมปัจจัยให้ต้นไม้โตดีๆ มันก็หมดไปเอง

 Correct!

อ้างถึง
ไอ้แบบตาทอมนี่ก็ลองแล้ว ปรากฎว่า แม่งโคตรยากเลยครับ มานั่งคำนวณอัตราส่วนเนี่ย เพราะปุ๋ยต้นไม้ที่ขายๆกันก็ไม่ได้แจ้งอัตราส่วนไว้ ต้องใช้ปุ๋ยแยกตัว หาซื้อก็ยาก ซื้อทีคนขายก็มองแล้วมองอีก มันจะเอาไปทำระเบิดป่าววะ

ตัวที่จำเป็นที่สุดหาซื้อไม่ยากเลยนะ ผมซื้อจากร้านสาขาของศึกษาภัณฑ์ (ผมอยู่ตจว.) ก็ได้มาสองอย่าง:

K2SO4 (โปแตสเซียมซัลเฟต หรือปุ๋ย 0-0-50)
KNO3 (โปแตสเซียมไนเตรท หรือปุ๋ย 13-0-46)


ส่วน MgSO4 (แมกนีเซียมซัลเฟต) ก็คือ ดีเกลือฝรั่ง หรือ Epsom Salt นี่ซื้อได้จากร้านยาจีน
CaSO4 (แคลเซียมซัลเฟต) หรือเจี๊ยะกอ หรือหินเต้าหู้ ซื้อได้จากร้านยาจีน

ที่หายากหน่อย แต่ใช้น้อย และบางตู้อาจไม่จำเป็น คือ KH2PO4 หรือ โมโนโปแตสเซียมฟอสเฟต หรือปุ๋ย 0-52-34
เพิ่งเจอที่เขาขายปลีก จาก http://www.thaigreenagro.com/product/productList_4.aspx
สั่งซื้อไปแล้ว

ส่วนพวกธาตุอาหารเสริม ที่จริงกะใช้ ยูทิไลซ์ + ปุ๋ยเหล็กคีเลต แต่หาซื้ออย่างแรกไม่ได้ แถมอย่างหลังก็แพงและโดนบังคับซื้อเป็นกิโล ใช้ไปชาตินึงก็คง
ไม่หมด เลยใช้ Ferka Aquatilizer แทน (ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามีเหล็กพอหรือเปล่า)

ส่วนวิธีตวงนั้น ซื้อช้อนตวงจากซูเปอร์มาร์เก็ตมา แล้วดูว่าตู้เราควรใส่เท่าไหร่จาก http://atlas.csd.net/~cgadd/aqua/art_plant_dosage_calc.htm
ผมเพิ่งซื้อที่ตวงดิจิตอลมาจากอีเบย์ รวมค่าส่งแล้วไม่ถึงสี่ร้อยเอง เอาไว้ชั่งอย่างอื่นได้ด้วย ลองแล้วมันแม่นมากเลย ระดับจุดทศนิยมสองตำแหน่งแน่ะ

เคยมีคนสิงคโปร์ บ่นกับตาทอมว่าหาซื้อปุ๋ยยาก ซึ่งเขาเองก็บอกว่าน่าเห็นใจ แต่เชื่อว่ามันมีขายในทุกประเทศแน่ๆ (อยากถามแกเหมือนกันว่าแล้ว
ในประเทศวาติกันมีขายป่ะ ้hahaha ) แล้วเปรยให้เพื่อนร่วมชาติ (อเมริกัน?) ฟังว่า ดูเอาเถิด สูเจ้าจงตระหนักถึงความโชคดีที่อยู่ในประเทศที่ซื้่อหาอะไร
ก็ง่ายเอาไว้นะ (ทำนองว่า Don't take it for granted)

อ้างถึง
แถมปัจจัยในตู้แต่ละตู้ที่เลี้ยงๆกันก็มั่วเหลือเกิน แสงแค่ไหนถึงเรียกว่าจัด/เยอะ? อุณหภูมิน้ำ ระบบกรอง แต่ละคนมันไม่ได้เหมือนกันเลย

อันนี้เขาเองก็เห็นด้วย โดยบอกว่าปริมาณที่เค้าว่าไว้นั้น เป็นแบบรวมๆ ให้เริ่มจากตรงนั้นก่อน แล้วค่อยๆ ปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับตู้แต่ละตู้ โดยดูจาก
อาการต้นไม้และสัตว์ในนั้น

อ้างถึง
และที่สำคัญคือ ใช้ไม่ได้กับคนเลี้ยงส่วนใหญ่ เพราะแค่ระบบกรองหรือ ไนโตรเจนไซเคิลง่ายๆยังไม่รู้เรื่องกันเลย ไอ้แบบนี้เหรอ ตายตั้งกะสองบรรทัดแรก
ตอนนั้นผมยังนั่งอ่านอยู่หลายวัน ภาษาแกก็พิลึกๆ เหมือนวิชาการจัด หรือภาษา eng ชาติไหนซักชาติ

ผมมันดันถนัดแต่อังกฤษภาษาพูด พวกตามหนัง ตามบอร์ด ตามการ์ตูนโป๊  emb01

ก็จริงนะ ผมต้องอ่านเรื่องเกี่ยวกับไม้น้ำอย่างอื่นจนชินภาษาและศัพท์ที่ใช้ในแวดวงไม้น้ำก่อน ถึงจะอ่านของแกได้คล่องขึ้น อีกอย่างนึง ตาทอมแกชอบ
พิมพ์ตกหล่น ทำให้บางตัวอ่านไม่ออก ้hahaha

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17/01/10, [01:40:44] โดย NP »
Champies ออฟไลน์
Hot Member
« ตอบ #16 เมื่อ: 20/05/09, [22:09:14] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

กระทู้นี้เจ๋งแฮะ
Django ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #17 เมื่อ: 20/05/09, [23:41:53] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

  เยี่ยมครับ ช่วยกันวิเคราห์อย่างนี้สนุกจัง ว่าแต่ผมเองก็เคยได้ยินมานะครับว่าถ้าต้นไม้มันอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์สุดๆ มันจะผลิตเคมีออกมาต่อสู้กับตะไคร่ คล้ายกับพวกปะการังมั้ง ตรงนี้เฮียอามาโน่เลยผลิต Phyton-git ออกมาขายแล้วอ้างสรรพคุณว่าช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของต้นไม้ให้ต่อสู้กับตะไคร่ได้ดีขึ้น ( อันนี้ e-mail ไปถาม ada เลย ) แต่พอถามกลับไปว่ามีส่วนประกอบมาจากอะไรบ้าง ทางนั้นไม่ยอมตอบ แต่ยันว่าเป็นนโยบายของทางบริษัท ผู้บริโภคต้องพิจรณาเอาเองว่าจะเชื่อถือในสินค้าของเค้ารึเปล่า  อันนี้ทำเอาเซ็งไปเลย  น่าจะมีใครเซียนๆเคมีลองแกะสูตรดูนะครับ คิดว่าไม่น่าจะยากเกินไป   ผมลองซื้อมาใช้ดูก็ยังไม่เห็นผลชัดเจนนัก แต่ก็ทำใจไว้แล้วเพราะในสลากก็ระบุเอาไว้ว่าผลิตจากส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติ ซึ่งผลที่จะได้รับคงไม่รวดเร็วเหมือนเคมีแน่ๆ เพราะชอบแนวคิดที่ว่า ไม่ฆ่าตะไคร่ซึ่งต้นไม้เองต้องได้รับผลกระทบบ้างแน่นอน หากแต่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ต้นไม้นั้นแข็งแรงพอที่จะแย่งพื้นที่กลับคืนมาจากตะไคร่ได้ด้วยวิธีธรรมชาติน่ะครับ 
ป.ล ตกลงไอ้คาร์บอนนำ้ที่ด้านบนเค้าแนะนำมาเนี่ย ( Seachem ) ฟลอร่าๆอะไรนั่น มมันคือ Co2 แบบนำ้ธรรมดาๆหรือมีอะไรพิเศษครับ เพราะถ้าเป็น Co2 ธรรมดา เราก
้น่าจะเร่งที่ Regulator เองได้นี่ครับทำไมต้องไปซื้อด้วยก็ไม่รู้ [งง]
NP ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #18 เมื่อ: 21/05/09, [00:03:27] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

มันคือตัวนี้ครับ
http://www.seachem.com/Products/product_pages/FlourishExcel.html

ไม่เคยใช้นะ อ่านดูคร่าวๆ เห็นอธิบายเรื่อง CO2 ทำนองว่า มัน Longer Chain
Carbon Compound อะไรทำนองนี้ (อ่านแล้วงงเหมือนกัน) บวกกับการเปลี่ยน
ธาตุเหล็กในรูป Fe+3 ให้เป็น Fe+2 ให้พืชนำไปใช้ได้ง่ายขึ้น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21/05/09, [00:05:19] โดย NP »
OoKabukioO ออฟไลน์
Sponsor
« ตอบ #19 เมื่อ: 21/05/09, [01:09:33] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เข้ามาเก็บความรู้ กระทู้นี้น่าจะปักหมุดไว้นะ  [เจ๋ง]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21/05/09, [14:11:58] โดย OoKabukioO »
MenN*OSK 128 ออฟไลน์
Hot Member
« ตอบ #20 เมื่อ: 21/05/09, [02:09:13] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

แหล่มดีครับ อ่านแล้วได้เยอะเลย
Mr.F ออฟไลน์
Hot Member
« ตอบ #21 เมื่อ: 21/05/09, [08:48:24] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

คาร์บอนนำ้ที่ว่าคืออะไรครับ คือ Co2 รึเปล่า ถ้าไช่ก็แปลว่าเพิ่ม Co2 ที่ถังก็ได้รึเปล่าครับ เหมือนเคยอ่านเจอที่พี่กบแนะนำไว้ว่าไอ้ขนดำเนี่ยมันเกลียดนำ้ที่มีสภาพความเป็นกรด  ว่าแต่ถ้าเร่งที่ถังได้จริงทำไมถึงต้องซื้อกันเหรอครับไอ้เจ้าคาร์บอนนำ้เนี่ย มันมีอะไรที่พิเศษกว่ามั้ยครับ

  เยี่ยมครับ ช่วยกันวิเคราห์อย่างนี้สนุกจัง ว่าแต่ผมเองก็เคยได้ยินมานะครับว่าถ้าต้นไม้มันอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์สุดๆ มันจะผลิตเคมีออกมาต่อสู้กับตะไคร่ คล้ายกับพวกปะการังมั้ง ตรงนี้เฮียอามาโน่เลยผลิต Phyton-git ออกมาขายแล้วอ้างสรรพคุณว่าช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของต้นไม้ให้ต่อสู้กับตะไคร่ได้ดีขึ้น ( อันนี้ e-mail ไปถาม ada เลย ) แต่พอถามกลับไปว่ามีส่วนประกอบมาจากอะไรบ้าง ทางนั้นไม่ยอมตอบ แต่ยันว่าเป็นนโยบายของทางบริษัท ผู้บริโภคต้องพิจรณาเอาเองว่าจะเชื่อถือในสินค้าของเค้ารึเปล่า  อันนี้ทำเอาเซ็งไปเลย  น่าจะมีใครเซียนๆเคมีลองแกะสูตรดูนะครับ คิดว่าไม่น่าจะยากเกินไป   ผมลองซื้อมาใช้ดูก็ยังไม่เห็นผลชัดเจนนัก แต่ก็ทำใจไว้แล้วเพราะในสลากก็ระบุเอาไว้ว่าผลิตจากส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติ ซึ่งผลที่จะได้รับคงไม่รวดเร็วเหมือนเคมีแน่ๆ เพราะชอบแนวคิดที่ว่า ไม่ฆ่าตะไคร่ซึ่งต้นไม้เองต้องได้รับผลกระทบบ้างแน่นอน หากแต่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ต้นไม้นั้นแข็งแรงพอที่จะแย่งพื้นที่กลับคืนมาจากตะไคร่ได้ด้วยวิธีธรรมชาติน่ะครับ 
ป.ล ตกลงไอ้คาร์บอนนำ้ที่ด้านบนเค้าแนะนำมาเนี่ย ( Seachem ) ฟลอร่าๆอะไรนั่น มมันคือ Co2 แบบนำ้ธรรมดาๆหรือมีอะไรพิเศษครับ เพราะถ้าเป็น Co2 ธรรมดา เราก
้น่าจะเร่งที่ Regulator เองได้นี่ครับทำไมต้องไปซื้อด้วยก็ไม่รู้ [งง]

ไม่ใช่นะครับ ไม่เหมือนกัน มันไม่ได้เป็น CO2 = Carbon 1 อะตอม + Oxigen 2 อะตอม
โดยต้นไม้ดึง Carbon ไปใช้แล้วคลาย Oxigen ออกมา นะครับ
แต่มันเป็นสารประกอบอะไรซักอย่าง ที่ทำให้ต้นไม้ดึง Carbon ไปใช้ได้อะครับ ถ้าจำไม่ผิด
Champies ออฟไลน์
Hot Member
« ตอบ #22 เมื่อ: 21/05/09, [09:26:37] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

พอมาอ่านดีๆแล้ว รู้สึกว่ามันยากเกินกว่าพวกโง่ๆอย่างผมจะเข้าใจแฮะ

แต่เคยมีอยู่ตู้นึง เป็นตู้พักต้นไม้ พักปลา 24 นิ้ว ไม่มี CO2 มีต้นอะไรเหลือเอาไปโยนๆใว้ กรองแขวนตัวนึง ไฟอีก36 วัตต์

เอาใบหูกวางไปหมักด้วย น้ำออกเหลืองๆหน่อย สังเกตุุว่าต้นไม้ก็พออยู่รอด  ยิ่งพวกเฟิร์น มอส พิเลีย งอกงามอีกตะหาก

ที่สำคัญ ตะไคร่ ไม่มีเลย เอามาจากตู้อื่นนี่ รากดำมีขนดำติดใบติดไรโซมแบบรึ่มๆ เอามาใส่ ซัก1อาทิตย์ หายเกลี้ยง

ไม่ได้มีปลากินตะไคร่ด้วย  ก็เลยสรุปได้ว่า การที่แสงไม่มาก น้ำหมักๆหน่อย ตะไคร่อยู่ไม่ได้ตายเรียบ

ตู้หลังๆมาก็เลยพยายามเลียนแบบตู้พักต้นไม้นี้ คือช่วงแรกๆพยายามไม่เปิดไฟเยอะเอาพอให้ต้นไม้อยู่ได้ ใส่ใบหูกวางลงไปในกรอง

หน่อย ก็ค่อนข้างได้ผลดี รอจนต้นไม่สมบูรณ์ขึ้น เอาใบหูกวางออก เปลี่ยนน้ำ เปิดไฟเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่เจอขนดำอีกเลย เจอเขียวจุดนิดหน่อย



อีกแบบนึงก็คือไฟแรงๆ แต่ต้นไม้สมบูรณ์จัดๆ ไม่มีตะไคร่ให้เห็นเช่นกัน มีแค่ช่วงแรกๆ ตามทฤษฎีเป๊ะๆ

http://i192.photobucket.com/albums/z300/championchampies/DSC_2220blacke.jpg
Mr.F ออฟไลน์
Hot Member
« ตอบ #23 เมื่อ: 21/05/09, [09:45:14] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

พอมาอ่านดีๆแล้ว รู้สึกว่ามันยากเกินกว่าพวกโง่ๆอย่างผมจะเข้าใจแฮะ

แต่เคยมีอยู่ตู้นึง เป็นตู้พักต้นไม้ พักปลา 24 นิ้ว ไม่มี CO2 มีต้นอะไรเหลือเอาไปโยนๆใว้ กรองแขวนตัวนึง ไฟอีก36 วัตต์

เอาใบหูกวางไปหมักด้วย น้ำออกเหลืองๆหน่อย สังเกตุุว่าต้นไม้ก็พออยู่รอด  ยิ่งพวกเฟิร์น มอส พิเลีย งอกงามอีกตะหาก

ที่สำคัญ ตะไคร่ ไม่มีเลย เอามาจากตู้อื่นนี่ รากดำมีขนดำติดใบติดไรโซมแบบรึ่มๆ เอามาใส่ ซัก1อาทิตย์ หายเกลี้ยง

ไม่ได้มีปลากินตะไคร่ด้วย  ก็เลยสรุปได้ว่า การที่แสงไม่มาก น้ำหมักๆหน่อย ตะไคร่อยู่ไม่ได้ตายเรียบ

ตู้หลังๆมาก็เลยพยายามเลียนแบบตู้พักต้นไม้นี้ คือช่วงแรกๆพยายามไม่เปิดไฟเยอะเอาพอให้ต้นไม้อยู่ได้ ใส่ใบหูกวางลงไปในกรอง

หน่อย ก็ค่อนข้างได้ผลดี รอจนต้นไม่สมบูรณ์ขึ้น เอาใบหูกวางออก เปลี่ยนน้ำ เปิดไฟเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่เจอขนดำอีกเลย เจอเขียวจุดนิดหน่อย



อีกแบบนึงก็คือไฟแรงๆ แต่ต้นไม้สมบูรณ์จัดๆ ไม่มีตะไคร่ให้เห็นเช่นกัน มีแค่ช่วงแรกๆ ตามทฤษฎีเป๊ะๆ

http://i192.photobucket.com/albums/z300/championchampies/DSC_2220blacke.jpg

เออหวะที่บ้านก็เหมือนกันตู้พักต้นไม้ น้ำเหลืองๆ ไฟอ่อนๆ รากดำ โบบิ ใบดูดีกว่าตู้ที่ตั้งใจอีก  asspain
NoFuturian[Chonburi] ออฟไลน์
Club Veteran
« ตอบ #24 เมื่อ: 21/05/09, [10:00:39] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ปักหมุดเลยครับพี่  Correct!
~คุโรซากิ~ ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #25 เมื่อ: 21/05/09, [10:11:10] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ


ช่ายแล้ว กะลังงงกะตู้ตัวเองเหมือนกัน
ตั้งใหม่ๆ ดูแล ตามคู่มือในห้องสมุดเป๊ะๆ ปู๋ยรองพื้น ปุ๋ยน้ำตามสูตร
ผล... ตะไคร่ตรึม มีหมดทุกอย่าง เหมือนตามคู่มือเหมือนกัน   suicide

แก้ไขโดยใส่สัตว์กินตะไคร่ ตามสเต็ป ก็ดีขึ้น ขนเขียวขนน้ำตาล ลดลง
แต่ก็ยังไม่หมดทีเดียว และก็ขนดำเนี่ยแหล่ะอยู่เหมือนเดิม ออกยากมากๆ

เลยรื้อเอากรอสโซ่ออก เพราะขนดำติดกรอสโซ่เยอะมาก และก็เริ่มเลี้ยงปลาแพะ
มันคุ้ยลอยหมด เลยเอาออกดีก่า แล้วลดไฟลง 1 แถว  ตู้ 24" มี PL24*2
กับ PL55w *1 เอา PL55w ออกเพราะดูแสงมันออกเหลืองไม่ค่อยชอบ
อย่างอื่นเหมือนเดิม ทุกอย่าง การถ่ายน้ำ ปุ๋ย ระยะเวลาเปิดไฟ

ผล... หายหมดแล้วครับ ไม่มีตะไคร่เหลือเลย ทั้งขนดำ ขนน้ำตาล จุดเขียว
เหลือ แต่ขนเขียว นิดๆหน่อยๆ พอให้ อ๊อตโต กะ สอดดำ กินบ้าง แต่พักหลังมัน
กินแต่อาหารปลาแล้วอ่ะ ว่าจะเอาสอดดำออกดีกว่า มันชอบไปดูดก้นตัวอื่น
ถ้าเอาไปปล่อยในคลอง มันจะอยู่ได้มั้ยครับ หรือจะกลายเป็น อาหารปลาอื่นครับ

 [เจ๋ง]
(^X^) Sama-bat ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #26 เมื่อ: 21/05/09, [10:19:22] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ไม่ใช่นะครับ ไม่เหมือนกัน มันไม่ได้เป็น CO2 = Carbon 1 อะตอม + Oxigen 2 อะตอม
โดยต้นไม้ดึง Carbon ไปใช้แล้วคลาย Oxigen ออกมา นะครับ
แต่มันเป็นสารประกอบอะไรซักอย่าง ที่ทำให้ต้นไม้ดึง Carbon ไปใช้ได้อะครับ ถ้าจำไม่ผิด

เพิ่งอ่านมาครับ การใช้ co2 น้ำ ที่มีผลทำให้ช่วยควบคุมตะไคร่ โดยหมอแบงค์
http://aqua.c1ub.net/forum/index.php?topic=29734.0
Mr.F ออฟไลน์
Hot Member
« ตอบ #27 เมื่อ: 21/05/09, [11:31:56] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เพิ่งอ่านมาครับ การใช้ co2 น้ำ ที่มีผลทำให้ช่วยควบคุมตะไคร่ โดยหมอแบงค์
http://aqua.c1ub.net/forum/index.php?topic=29734.0

เนี่ยะหละๆ พี่หมอเค้าบอกไว้แล้ว

ปล. มันไม่ค่อยเห็นผลทันตา เท่าๆพวกยา นะครับ แต่ก็ช่วยได้เยอะ ค่อยๆน้อยลง แต่ไม่เยอะขึ้น หรือใส่กันไว้ก่อนก็ดีนะ
TEOS! ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #28 เมื่อ: 21/05/09, [13:01:49] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

มาเก็บความรู้คร้าบ
aenaluck ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #29 เมื่อ: 21/05/09, [15:33:50] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เห็นคุณแชมป์คอนเฟิร์มไว้หลายรอบแล้ว อย่างงี้ต้องไปลองทำมั่ง.. [เจ๋ง]
หน้า: 1 2 3 4   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: