Aqua.c1ub.net
*
  Wed 01/Oct/2025
หน้า: 1   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ตู้20อยากเลี้ยงปลาทะเล  (อ่าน 2199 ครั้ง)
shockbomb ออฟไลน์
Club Member
« เมื่อ: 10/07/10, [22:22:37] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ช่วยแนะนำทีว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง และควรเลี้ยงปลาอะไรดี และวิธีการดูแลรักษาสภาพน้ำ มีกรองแขวนอยู่อ่ะครับ แนะนำที
Rienheart ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #1 เมื่อ: 10/07/10, [23:16:19] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ถ้าจะเลี้ยงแต่ปลาก็พอไหวนะครับแต่ถ้าจะเลี้ยงพวกปะการังไม่รอดแน่หรือถ้าจะเอาให้รอดก็ดูจะเป็นการขี่ช้างจับตั๊กแตนเกินไป เริ่มจากระบบกรองควรจะเป็นกรองนอกจะอีฮามหรือโบยูก็สุดแท้แต่งบครับแต่ควรมีอัตราการหมุนเวียนของนำ้ให้มากซักหน่อยเช่นตู้จุนำ้50ลิตร ก็ควรคำนวนให้กรองสามารถหมุนเวียนนำ้ในตู้ให้ได้ซัก 3-5 รอบต่อชั่วโมงเป็นอย่างน้อย โปรตีนสกิมเมอร์คงไม่ต้องเพราะตู้แค่นี้ถ้าจะหย่อนสกิมเมอร์ลงไปอีกคงจะเต็มตู้แล้ว พัดลมซักชุดเพราะถ้านำ้ร้อน ปลาเดี้ยงแน่ ไฟอะไรก็ตามชอบเลยเพราะไม่มีปะการังอยู่แล้ว เตือนไว้อีกอย่างว่าปะการังที่เห็นในสวนสีสะท้องแสงดูเหมือนจะซีดๆหน่อยนั่นไม่ต้องไปยุ่งนะ นั่นแหละปะการังฟอกขาวที่เป็นข่าวจากภาวะโลกร้อนล่ะ เอามาก็ตายอยู่ดี เผื่อจะฮึดทำตู้ปะการัง แต่ยังยืนยันนะครับว่าตู้นี้ไม่เหมาะ แต่ถ้าจะเอาจริงๆ ชิลเลอร์เป็นสิ่งจำเป็นที่คุณจะเลี่ยงไม่ใช้ไม่ได้เลย
ก่อนจะเลี้ยงปลาเบสิคก็คล้ายกันกับปลานำ้จืดครับ คือต้องเลี้ยงนำ้ก่อน เตรียมนำ้ที่เลี้ยงแล้วตั้งตู้เดินเครื่องกรองทิ้งเอาไว้สักสองอาทิตย์ถึงหนึ่งเดือน คอยเติมจุลินทรีย์สำหรับนำ้ทะเลลงไปให้ระบบเซ็ทซักหน่อย หย่อนเนื้อกุ้งชิ้นเล็กๆลงไปอาทิตย์ละชิ้นเพื่อเร่งให้แบคทีเรียมีมากๆ ระหว่างนี้คอยเทสไนไตรท์ด้วย สังเกตดีๆ อาทิตย์แรกๆเทสปุ๊บแดงแปร๊ด หลังๆพอระบบเริ่มเซ็ทตัวจะค่อยๆดีขึ้น
เทคนิคในการคำนวนนิดนึงนะครับ ปลาขนาดเล็กๆนั้นต้องการนำ้ประมาณ 25 ลิตรเป็นอย่างตำ่ นั่นหมายความว่าคุณอาจจะเลี้ยงปลาได้ไม่มากนัก เริ่มเลี้ยงใหม่ๆแนะนำให้ลองเลี้ยงปลาตระกูลเด็มเซลฟิชก่อนนะครับเพราะอดทน เลี้ยงง่าย และเวลาซื้อปลาลงปลา อย่าซื้อมาทีเดียว ค่อยๆปล่อยปลาทีละตัวไม่เกินสองตัวแล้วเว้นระยะเวลาสังเกตอาการถ้าไม่มีอะไร อีกอาทิตย์นึงค่อยลงปลาชุดต่อไปครับ  ส่วนเรื่องการถ่ายนำ้ก็อาทิตย์ละครั้งครับ ถ้านำ้ระเหยนี่เติมนำ้ประปาได้เลยนะ ไม่ต้องเติมนำ้เค็มเดี๋ยวนำ้จะเค็มขึ้นไปอีกแย่เลย เพราะเกลือยังคงอยู่ในตู้หลังจากการระเหยครับ หลังจากเติมนำ้เปล่าลงไปแล้วความเค็มจะเท่าเดิมเองไม่ต้องกังวล ขอให้เลี้ยงปลาให้สนุกนะ มีอะไรสงสัย pm มาได้เรยครับ อ้อ ถ้าเลือกได้ แนะนำให้เลี้ยงปลาที่ได้จากการเพาะนะครับ ราคาอาจสูงแต่เราไม่ได้ทำลายธรรมชาติและอีกอย่างมันมีนำ้อดนำ้ทน แข็งแรงกว่าปลาที่รวมมาจากแหล่งนำ้ธรรมชาติเน้อ [เจ๋ง]
LoveKung ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #2 เมื่อ: 11/07/10, [00:14:50] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ชอบคำแนะนำแบบนี้จัง   มีกำลังใจขึ้นเยอะ
 [เจ๋ง] [เจ๋ง] [เจ๋ง]
tumcool ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #3 เมื่อ: 11/07/10, [00:20:55] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ปลาเพาะน่าจะถูกกว่าน่ะครับแต่สีไม่สวยเท่าที่จับมาด้วยยาแต่แข็งแรงกว่า แล้วน้ำควรเป็นน้ำ Ro อย่างต่ำ กดตู้ลิตรละบาท น้ำปะปาก็ได้ครับ แต่ทิ้งไว้นานๆ หน่อย
Rienheart ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #4 เมื่อ: 11/07/10, [02:33:59] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เหรอครับ ทำปลาเพาะได้ถูกกว่าแล้วหรือนี่ ไม่น่าเชื่อเลย ผมเลิกเลี้ยงไปนานคงจะไม่อัพเดดนักเรื่องราคาน่ะครับ เท่าที่ทราบการเพาะนี่มีต้นทุนสูงเพราะต้องเลี้ยงปลาทั้งพ่อแม่ปลาและลูกๆของมัน กว่าจะได้ไซส์ที่พอจะจับขายได้  ใหนจะจัดการดูแลบริหารฟาร์มและอื่นๆอีกจิปาถะ  สงสัยต้องลดราคาลงแบบยอมเจ๊งเพราะคนไม่ซื้อแหงๆเลยถึงมีราคาถูกกว่าปลาจับที่ต้นทุนถูกกว่ามาก 036
หน้า: 1   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: