สวัสดีค่ะทุกคนวันนี้เราอยากจะมาแชร์ประสบการณ์เลวร้ายเกี่ยวกับการซื้อตู้ปลากับร้านลุงจวนซึ่งขอสาบานว่าเรื่องต่อไปนี้เป็นเรื่องจริงทั้งหมด ร้านอยู่บริเวณริมรั้วหลังJJ mall อยากให้ทุกๆคนที่กำลังจะซื้อตู้ปลาได้ฟัง หวังว่าจะไม่มีใครโดนแบบเราอีก อาจจะยาวหน่อยนะค่ะแต่จะพยายามเล่าให้สั้นที่สุด
เริ่มต้นจากเราได้ไปซื้อตู้ปลาร้านลุงจวน 1 ตู้ โดยที่เมื่อนำกลับมาบ้านก็พบว่ามีรอยกรีดที่บริเวณตู้อยู่หลายรอย จึงทำการโทรกลับไปขอเปลี่ยนเนื่องจากทางร้านรับประกัน ทางร้านมีการยึกยักนิดหน่อยว่าทำไมตอนเอาไปไม่ดูให้เรียบร้อยทำเสียงห้วนๆ แต่ก็ยอมให้เอากลับมาดูและยอมเปลี่ยนให้ในที่สุดโดยจะทำการประกอบให้ใหม่ โดยทางร้านเป็นเหมือนโรงงานประกอบตู้ปลาขึ้นมาเอง เนื่องจากของที่มีอยู่ในร้านก็ล้วนมีตำหนิทุกชิ้น และนัดเราไปรับในวันรุ่งขึ้น ด้วยสีหน้าที่เบื่อหน่ายหาว่าเราเรื่องมาก Ok ช่วงนี้จบไป
แต่แล้วในวันรุ่งขึ้นที่ไปรับของ ของก็ยังมีตำหนีอยู่บ้างแต่เราก็พยายามทำใจเพราะขี้เกียจรอแล้วอยากเลี้ยงปลามาก และคิดว่าตู้มันไม่ได้แพงอะไรมาก( ราคา 1,000 บาท เป็นตู้ขนาด 24นิ้ว )จะเอาให้เนียบเลยก็คง
เป็นไปไม่ได้ทั้งที่ร้านเป็นเหมือนโรงงานและบอกกับเราว่าจะประกอบขึ้นมาใหม่ เราเลยตกลงรับของกลับมา ณ ตอนนี้ยังพูดจากันดีอยู่ทั้งเค้าและเรามีคะขาตลอด แต่หลังจากนี้ก็เกิดเรื่องขึ้น ตอนที่เด็กที่ร้านเอาตู้มาส่งที่รถเรา ก่อนเอามาเราก็บอกให้หาอะไรมารองเบาะด้วยก็ไม่มี โชคดีที่เรามีสมุดอยู่ในรถหลายเล่มพอดีเลยจัดการเอามารองซะ ในขณะที่ยกตู้ขึ้นรถกลับยกขอบตู้ปลาเบียดเสาบริเวณขอบกระจกหน้าซึ่งเบียดครั้งแรกยังไม่เป็นไรแต่เด็กยกของคนนั้นกลับทำการขูดชักไปชักมาโดยไม่สนใจรถเรา เพราะต้องการให้ตู้ปลาเข้าๆไปให้ได้เหมือนยัดใส่รถเรามากกว่า เป็นผลทำให้ผ้าเสารถเราขาดต่อหน้าต่อตา ซึ่ง ณ ตอนนั้นเราจะไม่คิดอะไรเลยอย่างมากก็อาจจะแค่ตักเตือนเพราะคิดว่าเค้าคงไม่มีปัญญามาจ่ายค่าซ่อมเราหรอก แต่เหตุการณ์มันก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้นเพราะการพูดจาของเค้าทำให้เราถึงกับฟิวส์ขาดต่อไปนี้บทสนทนาระหว่างเด็กยกของคนนั้นหลังจากที่ทำเสารถเราขาด
เค้า : ผมหนักนะพี่ (เรายังไม่ทันพูดไรซักคำกะลังอึ้งอยู่ +กริยาเค้าแย่มาก)
เรา : (พอตั้งสติได้) ทำไมทำอย่างนี้ไม่ระวังเลย
เค้า : อ่าวแล้วทำไมพี่ไม่ไปยกมาเองหล่ะ ผมก็หนักเหมือนกันนะ กริยาแย่สุดๆเหมือนมาโวยใส่เราเหมือนเป็นความผิดเราที่ไม่ยกตู้ปลามาเอง ( เอ้านี่เราเป็นลูกค้าแถมเป็นผู้หญิงไปก่ะแม่เราแค่สองคนตู้ก็หนัก คุณก็ต้องยกมาให้เป็นหน้าที่ของคุณอยู่แล้วนี่)
เรา : ฟิวส์ขาดเลย ด่ากระจายถึงตอนนี้ใครคิดว่าเราไม่ได้ด่า ไม่ต้องห่วงนะคะใส่หมดเลย ถึงตอนนี้น้ำตาไหลด้วยเพราะเราโกรธมากๆ( พอดีเป็นคนรักรถมากและรักษารถสุดๆ) แบบว่าเกิดมาไม่เคยด่าอะไรใครมากว่านี้ แบบว่าคนนี้ซวยจริงๆโดนคนแรก เหอๆ
หลังจากนั้นเราก็เดินกลับมาที่ร้านพร้อมหาคนขายซึ่งก็เป็นเจ้าของร้านซึ่งเป็นผู้หญิงหน้าตาค่อนข้างดี แหละต่อจากนี้คือบทสนทนาค่ะ
เรา : เด็กยกของคุณทำรถเราเสียหายนะคะเป็นแผลผ้าหุ้มเสาเบาะขาด คุณจะรับผิดชอบยังไง
เค้า : ทำเป็นไม่รู้เรื่องพร้อมกับปฏิเสธว่า อะไรค่ะไม่รู้ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์รอยก็ไม่เห็นจะให้ทำยังไง
เรา : งั้นก็เชิญมาดูเลยค่ะ ( พอดีรถเรามาจอดตรงข้างร้านบริเวณ JJ mall ชั้นล่างริมรั้วใกล้ๆกับร้าน เพราะจะได้ไม่ต้องยกตู้ขึ้นไปลานจอดรถ )
เค้า : โอ้ยไม่ดูหรอกค่ะดูไม่เป็น
เรา : อ้าวทำไมไม่ออกมาดูแล้วจะรู้ได้ไง
เค้า : ไม่อ่ะค่ะดูไม่เป็นหนูไม่รู้เรื่อง
เรา : แล้วจะเอายังไง
เค้า : ก็พยายามบ่ายเบี่ยงแล้วบอกให้โทรหาเจ้าของร้าน ก่อนถึงตอนนี้เถียงกันนานมาก แล้วเค้าจึงโทรหาเจ้าของอีกคนซึ่งเป็นผู้ชายให้คุย
และต่อไปนี้คือบทสนทนากับเจ้าของร้านผู้ชายค่ะ
เรา : เด็กที่ร้านคุณทำรถเราเสียหายนะคะ ยกตู้ปลาขึ้นรถเราแล้วทำที่หุ้มเสาขาดต่อหน้าต่อตาเรา
เจ้าของร้าน : อะไรมันเป็นแผลอยู่แล้วหรือป่าว (อยากบอกว่าเลวมากเค้าทำขาดต่อหน้าต่อตาเราชัดๆ)
เจ้าของร้าน: พยายามบ่ายเบี่ยงตลอด และบอกให้ให้ไปคุยก่ะคนยกเอาเองเค้าไม่เกี่ยวไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์
ถึงตอนนี้ เราโกรธมากที่เจ้าของร้านไม่รับผิดชอบใดๆเลย ไม่มีแม้แต่คำขอโทษแถมจะโบ้ยมาว่ารถเราเป็นรอยอยู่แล้วอีกแล้วจึงกลับมาคุยก่ะเด็กคนนั้น กริยาเค้าก็ยังคงไม่ดีแต่ก็ไม่ได้พูดไรนั่งเงียบอย่างเดียว คงเห็นเพราะเราร้องไห้ด้วย เราจึงด่าต่อไปจนสุดท้ายเราบอกว่าถ้าไปซ่อมจะเอาบิลมาให้ต้องจ่ายด้วยนะ(ตอนนั้นฟิวส์ขาดสุดๆไม่ได้คิดว่าเค้าจะมีปัญญาจ่ายเราหรือไม่) เค้าพูดกลับมาว่า เออๆ มาเลยๆๆ แบบท้ายทาย ซึ่งเป็นอะไรที่เลวร้ายมากสำหรับผู้หญิงอย่างเรา ที่โดนผู้ชายมาทำกริยาท้าทายแบบนี้ใส่
สรุปว่าเอาจริงๆแล้วตอนแรกเราไม่ได้คิดจะไปเอาค่าเสียหายอะไรกับเด็กยกของคนนั้นเลย เพราะเราก็พอจะประเมินได้ว่าเค้าทำงานยกของ คงไม่มีปัญญามาใช่ค่าเสียหายให้รถเรา แล้วจริงๆแผลมันก็ไม่ได้ใหญ่อะไรมากมายถ้าไปซ่อมคงแค่หลักพันแต่ก็เสียเวลาของเราที่ต้องเอาไปซ่อม หากเค้าแค่ขอโทษเราในตอนแรกและไม่ได้ทำกริยาทรามๆแบบนี้ใส่เรา เราจะไม่โกรธอะไรเค้าเลย และเจ้าของร้านก็เหมือนกันที่ไม่รับผิดชอบและไม่มีคำขอโทษใดๆ สรุปว่าพอกันทีกับร้านนี้ ทำให้ประสบการณ์ในการเลี้ยงปลาครั้งแรกในชีวิตของเราต้องกลายเป็นความทรงจำที่ไม่ดี อ้ออีกอย่างนะคะ ตู้ปลาเราที่เป็นตำหนิในตอนแรกแทนที่เค้าจะเอาไปซ่อม เค้ากลับนำไปวางที่Shelf เพื่อนำไปขายใหม่ต่อไป โดยหากใครได้ไปก็คงต้องกลับมาเปลี่ยนแล้วอาจจะซวยมีปัญหาเหมือนเราอีก ตอนนี้เราคิดว่าเราซวยมากๆที่เจอคนไม่ดีหลายคนในวันเดียวกัน ว่าจะไปทำบุญล้างซวยแล้วค่ะ ยังไงก็ขอให้ทุกคนที่ได้อ่านกระทู้นี้หากจะซื้อของร้านนี้ก็พิจารณาดีๆตรวจดูของให้ถี่ถ้วน และถ้าเป็นไปได้หลังจากซื้อแล้วควรยกตู้ขึ้นรถเราเองดีที่สุด เหอๆเพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาอย่างเราค่ะ
ป.ล. กลับบ้านมา สวดมนต์แผ่เมตตากันไป... [on_007]
|