หลังจากที่ผมได้เขียนเกี่ยวกับ "เตือนภัย น้องๆ กุ้ง ทั้งหลาย" มา 1 อาทิตย์แล้ว ก็เพิ่งมารู้ครับว่า ที่กุ้งตายมันไม่ใช่เพราะอุหณภูมิที่ลดลง ที่กลับเป็น สารเคมีตกค้างในต้นไม้น้ำที่ซื้อมาปลูก หลังจากที่กุ้งล้มตายทั้งตู้ผมก็ได้ล้างตู้ใหม่ทั้งหมด ทีแรกก็นึกว่าอุหณภูมิ ก็ไปที่หอพักเพื่อนแต่ปรากฏว่า เพื่อนเลี้ยง เชอรี่ กุ้งเขียว กุ้งเหลือง ไทเกอร์ ไม่เป็นไรสักอย่าง อุณหภูมิก็ใกล้เคียงกันคือ 19-20องศา เท่าที่บ้าน คาร์บอนก็เปิดเหมือนกัน แต่ทำไมที่บ้านถึงตายยกตู้ก็เริ่มสงสัย หลังจากผมตั้งตู้ใหม่ได้วันสองวันก็ลองลงเชอรี่ดู 5 ตัว ปรากฏว่าแรกๆไม่เป็นไรว่ายน้ำปกติดีอยู่ แต่พอผ่านไปสัก 3-4 ชั่วโมง ก็เริ่มซึ่มๆ คือ ไม่ค่อยว่าย ไม่กินอาหาร ว่ายไปสักพักเริ่มนิ่งแ้ล้วก็จม ผมก็เลยรีบตักออกใส่ ขันน้ำไว้ สักชั่วโมงก็อาการดีเหมือนเดิม ผมเลยเปลี่ยนน้ำใหม่อีกรอบ เหนื่อยจริงๆ - -* แล้วทิ้งไว้ 2 วันแล้วคิดว่าค่อยลองลงใหม่ ผลปรากฏว่าเหมือนเดิมครับพี่น้อง อาการเดิม เลยคิดได้ว่าต้องเป็นที่ต้นไม้แน่ๆ เพราะเพิ่งซื้อมาใส่ใหม่ ก่อนใส่ ก็เปิดคาร์บอน น้ำก็ 19-20 องศา ไม่ตาย ไม่มีอาการอะไรเลย แต่พอลงไปวันเดียวเองครับ ยกตู้ ต้นที่ผมซื้อมาก็มี เดซ่า ตำลึงน้ำ ต้นแดงๆ(ไม้รู้ชื่อครับ) และต้นอะไรไม้รู้อีกต้น ที่มันคายฟอง(ไม่ใช่ริกเซียนะครับ) ก็ไม่ขอเอ่ยชื่อร้านแล้วกันเพราะคิดว่าเจ้าของเขาก็คงไม่รู้เขาก็มีหน้าที่รับมาขาย ทุกทีซื้อร้านนี้ก็ไม่มีปัญหาที่เพิ่งเจอเหมือนกันครับ แล้วอีกอย่างหนึ่งครับที่แปลกคือว่าปลาทุกตัวไม่ตาย!! หอยที่ติดมากับพืชน้ำก็ไม่ตายเป็นหอยอ่างบัวครับทำให้ผมไม่รู้ว่ามันมีสารเคมีจริงรึป่าว สุดท้ายก็ไม่รู้จะทำยังไง เลยลองวิธีสุดท้ายเพราะว่าถ้ารอจนกว่าสารเคมีจะจางหายก็คงนานเหมือนกัน ก็เลยไปซื้อด่างทับทิมที่ร้านขายยามา 17 บาท แล้วก็ใส่ทีละนิดๆ จนนน้ำเป็นสีม่วงเกือบๆเข้ม แล้วทิ้งไว้ ประมาณ 15-20 นาที แล้วจึงถ่ายน้ำแล้วใส่น้ำใหม่ จนน้ำใส แล้วรออีกประมาณ 1 วันแล้วใส่กุ้งลงไป ผลปรากฏว่าเริศครับแม่เจ้ากู้ตู้กุ้งได้แล้ว ห้าห้าห้า ***ตอนที่ใส่มีปลา หอย อยู่ครับ ไม่ตายครับ***
สรุปถ้าไม่แน่ใจว่าต้นไม้ที่ซื้อมามันมีสารเคมีตกค้างรึป่าว ก็ควรล้างด่างทับทิมก่อนนะครับ เพื่อที่จะไม่ได้เป็นอย่างผมเพราะไม่รู้ว่าต้นนั่นจะมีหรือไม่มีเราดูไม่ออกครับไม่มีสีไม่มีกลิ่นแต่อันตรายนะครับ ฝากไว้เป็นอุทาหรณ์ ไว้ด้วยแล้วกันครับ เพื่อที่ใครไม่ต้องเจออย่างผมอีกครับ
|