Aqua.c1ub.net
*
  Sat 20/Apr/2024
หน้า: 1 2   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: มาคุยเรื่องอาหารปลากันดีกว่า  (อ่าน 27581 ครั้ง)
chaikitti ออฟไลน์
Hot Member
« เมื่อ: 15/11/09, [09:50:35] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ช่วงนี้อารมณ์ดีครับ น้องๆ หลายคนเลยงงว่าทำไมลูกพี่มาเฟียขึ้นมานั่งเขียนบทความ ฮ่าๆๆๆ ไม่รู้เหมือนกันหวะ แค่รู้สึกว่าพอตัวเองได้รับความรู้หรือว่าไปอ่านเจออะไรมาก็อยากจะแบ่งปันครับ ไม่ได้จะมาโอ้อวดอะไรหนะครับ

วันนี้มาคุยเรื่องอาหารปลากันดีกว่าเพราะว่าเห็นหลายคนเคยถามกันว่า

- อาหารปลายี่ห้อไหนดีที่สุด?
- อาหารปลาตัวไหนทำให้ปลาโตไว?
- ทำไมปลาไม่กินอาหารยี่ห้อนี้?
- ต้องให้อาหารจมหรือว่าลอย?

พอดีผมได้มีโอกาสไปอ่านเจอมา แล้วก็พอรู้อยู่บ้างเลย มาลงเป็นความรู้ให้ครับ

เริ่มกันเลย..........คือปกติปลาเนี่ยมันก็เหมือนสิ่งมีชีวิตทั่วๆไปที่ต้องการอาหารมาเพื่อสร้างพลังงานในการดำรงชีพ สร้างความเจริญเติบโตตามช่วงอายุ และสร้างภูมิคุ้มกันโรคภัยต่างๆ ที่มาเยือนในยามอ่อนแอ แต่ปลาทีพวกเราเลี้ยงมันจะแตกต่างจากสัตว์ประเภทอื่นคือว่า มันไม่สามารถหาอะไรกินเองได้ ต้องรอคนเลี้ยงเอามาให้กินอย่างเดียว ดังนั้นมีอะไรก็ต้องกิน ไม่งั้นอดตายแน่นอน จะเห็นได้ว่า ปลาบางบ้านตัวโตมาก แต่ปลาบางบ้านโตช้ากว่า มันมีหลายปัจจับครับ ไม่ว่าจะเป็นขนาดตู้ที่เลี้ยง จำนวนปลา คุณภาพน้ำ และที่สำคัญ "ชนิดของอาหาร"

ผมเข้าใจว่าส่วนใหญ่ตอนนี้คนเลี้ยงปลาจะให้อาหารปลาสำเร็จรูปที่มีขายในท้องตลาดกันมากกว่าที่จะไปนั่งช้อนลูกน้ำมาให้กินเหมือนสมัยก่อนแล้ว คิดดูขนาดหนอนแดงพี่แกยังทำแบบแห้งอัดใส่กระป๋องมาขายากันเฉยเลย แต่ผมว่าการให้อาหารอะไรก็ได้โดยไม่คำนึงถึงความต้องการของปลามันเป็นวิธีที่ผิดนะครับเพราะว่าปลาจะโตไม่ตามเกณฑ์แถมบางทีจะแกร็นเอาดื้อๆ เลย

คราวนี้เราลองมาดู ชนิดของปลาก่อนว่าปลาแต่ละชนิดมีความต้องการอาหารแบบไหน

1. Carnivore หมายถึงปลากินเนื้อ คือพวกนี้จะล่อแต่เนื้อเป็นหลัก กินพืชน้อยมาก เช่น พวก ปลาอะโรวน่า ปอมปาดัวร์ ปลาเทวดา ปลากัด ปลาหมอกลุ่มต่างๆ

2.   Herbivore ตรงข้ามกับข้อแรกเลยครับ กินแต่พืชอย่างเดียว เพราะว่าเอมไซน์ในระบบย่อย ไม่สามารถย่อยสารอาหารประเภทเนื้อได้ครับ ถ้าเผลอกินเข้าไปอาจจะถึงตายได้เลย ปลาในกลุ้มนี้ก็จะมีพวก ปลาซักเกอร์ ปลากลุ่มเลคแทงค์บางชนิด ปลาหมอแคระบางกลุ่ม

3. Omnivore ปลากลุ่มนี้เป็นประเภทได้หมดครับ กินหมดทั้งเนื้อทั้งพืช เช่น ปลาทอง ปลาคราฟ ปลากระดี่ ปลาบู่ ปลาในกลุ่มทรอปิคอลฟิช (ปลาเล็กที่เลี้ยงในตู้ไม้น้ำแหละ)

พอเรารู้แล้วว่าปลาแต่ละชนิดมีความต้องการอาหารประเภทไหน เราก็ต้องมาดูว่าเราเองมีความสามารถในการหาอาหารให้เค้ากินได้ขนาดไหน วันนี้ผมจะเน้นเรื่องการเลือกอาหารสำเร็จรูปที่มีอยู่ในท้องตลาดแล้วกันนะครับ

สมมติว่าเราได้เลือกสารอาหารหลักที่เหมาะกับปลาเราแล้ว หมายถึงกินเนื้อ กินพืช หรือว่ากินทั้งสองอย่าง คาวนี้เวลาไปดูที่ข้างกระป๋องของอาหารทุกยี่ห้อจะเห็นส่วนผสมต่างๆ มากมาย ดูแล้วปวดหัว แนะนำว่าให้ดู 3-4 ตัวหลักๆ เป็นพอ

Fat, Protein, Fiber และ Mositure แต่ละตัวมันมีความหมายต่างกันครับ

Fat = ปริมาณพลังงานที่ให้ออกมาต่อหน่วย มันจะบอกเป็น % ครับ แนะนำว่าปลาจำพวกกินเนื้อเป็นหลักไม่ควรเกิน 8% และไม่ควรเกิน 3% สำหรับปลากินพืชครับ ส่วนปลาในกลุ่มทรอปปิคลอจะใช้หพลังงานในการว่ายก็แนะนำว่า 6-7% เป็นพอครับ

Protein = สารอาหารที่สร้างการเจริญเติบโต ด้วยส่วนผสมกลักของกรดอะมิโน ปลาที่กินเนื้อและปลากลุ่มทรอปปิคอลควรจะได้อยู่ไม่ตำกว่า 45% และปลากินพืชไม่ควรให้เกิน 30% ครับ เพราะว่าระบบย่อยเค้าจะทำงานได้ไม่ดีเท่าปลากินเนื้อครับ

Fiber = กากใยอาหาร ทำให้ปลาขับถ่ายได้สบายขึ้น ปลากินเนื้อควรจะเลือกค่าไม่เกิน 4% แต่ปลากินพืชควรจะอยู่ระหว่าง 5-10%

Moisture = ค่าความชื้นในอาหาร เพราะว่าใรกระบวนการผลิตอาหารนั้น ผู้ผลิตจะต้องผสมวัตถุดิบต่างๆ รวมทั้งน้ำ ดังนั้นจะมีค่าความชื้นจากสิ่งเหล่านี้ปนอยู่ ยิ่งค่าความชื้นมากหมายถึงอาหารจะเก็บได้สั้นลงเมื่อได้ทำการเปิดซีลออกแล้ว ดังนั้นค่าความชื้นไม่ควรเกิน 6-8% ครับ ยิ่งน้อยยิ่งเก็บได้นานนะครับ


อย่าเพิ่งงนะครับว่าจะยุ่งยากอะไรมากมายในการเลือกอาหารปลา แนะนำง่ายๆว่า เลือกอาหารปลาให้ถูกประเภทแล้วหลังจากนั้นก็มาเทียบค่าสี่ตัวด้านบนของแต่ละยี่ห้อเป็นพอครับ

อ้อ แล้วก็จะบอกว่า อย่าให้อาหารปลายี่ห้อเดียวนะครับ ลองดูสลับกันไปหลายยี่ห้อเพราะว่านอกจากสี่ตัวด้านบนแล้ว แต่ละผู้ผลิตเค้าก็จะผสมสารอาหารต่างๆ ตามสูตรของเค้าเพิ่มเติมเค้าไป เช่น วิตามินซี ธาตุเหล็ก แคลเซี่ยม โพแตทเซียม ฯลฯ

เหนือสิ่งอื่นใด นอกจากเรื่องอาหารก็คือการดูแลเอาใจใส่ปลาของท่าน ถ้าอาหารดี ราคาแพง แต่ท่านไม่เคยดูแลระบบคุณภาพน้ำ และสังเกตุความผิดปกติของปลา ต่อให้ท่านให้อาหารราคาแพงเกรดสูงปลาท่านก็ไม่มีความสุขครับ

วันนี้ฝากไว้แค่นี้ก่อนนะครับ ไปหละ  [เย้ะ]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15/11/09, [09:55:23] โดย chaikitti »
Kasama ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #1 เมื่อ: 15/11/09, [09:52:49] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ขอบคุณครับ สุดหล่อ  deepkiss
ยาจกพิลึก ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #2 เมื่อ: 16/11/09, [17:18:38] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ดีครับ
Longhairguy ออฟไลน์
Shrimp Admin
« ตอบ #3 เมื่อ: 16/11/09, [17:21:29] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ช่วงนี้ดูพลังงานล้นเหลือนะนี่ [เจ๋ง]
chaikitti ออฟไลน์
Hot Member
« ตอบ #4 เมื่อ: 17/11/09, [11:12:51] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ช่วงนี้ดูพลังงานล้นเหลือนะนี่ [เจ๋ง]

ไม่หรอกเอ ช่วงนี้พอดีได้พบเจอคนเก่งๆ เรื่องปลาเยอะ แต่ไม่ชอบเปิดเผยตัว ไม่เคยเรียกตัวเองว่าเทพ ได้นั่งคุยกันทีเป็นชั่วโมง และบางทีผมเองก็ไปอ่านจากหนังสือมาก็เลยอยากแบ่งปันหนะครับ บางทีอาจจะผิดบ้าง มั่วบ้าง แต่ก็อยากแบ่งปันจริงๆ

เพราะว่ากำลังรู้สึกว่าสังคมเราทุกวันนี้การโอ้อวด การแข่งขัน ชิงดีชิงเด่น มันมากมายเหลือเกิน เลยอยากทำอะไรที่ไม่ได้เป็นแนวนั้นบ้างหนะเพื่อน
KnOt~ ออฟไลน์
หมอแคระ mania
« ตอบ #5 เมื่อ: 17/11/09, [11:42:53] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ไม่หรอกเอ ช่วงนี้พอดีได้พบเจอคนเก่งๆ เรื่องปลาเยอะ แต่ไม่ชอบเปิดเผยตัว ไม่เคยเรียกตัวเองว่าเทพ ได้นั่งคุยกันทีเป็นชั่วโมง และบางทีผมเองก็ไปอ่านจากหนังสือมาก็เลยอยากแบ่งปันหนะครับ บางทีอาจจะผิดบ้าง มั่วบ้าง แต่ก็อยากแบ่งปันจริงๆ

เพราะว่ากำลังรู้สึกว่าสังคมเราทุกวันนี้การโอ้อวด การแข่งขัน ชิงดีชิงเด่น มันมากมายเหลือเกิน เลยอยากทำอะไรที่ไม่ได้เป็นแนวนั้นบ้างหนะเพื่อน


โดน ใจ ครับ พี่ชาย
[K]aNate~* ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #6 เมื่อ: 17/11/09, [12:05:02] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

 [เจ๋ง] [เจ๋ง] [เจ๋ง] เพิ่มเติม อย่าลืมดูวันหมดอายุก่อนซื้อนะครับ

เหมือนเคยอ่านเจอ แต่สุดท้ายเวลาซื้อก็ไม่ได้ดูอยุ่ดี  ้hahaha ใช้ hikari tetra newlifespectum สลับไปมา แล้วก็เลือกให้มันตรงกับปลาที่เราเลี้ยงก็พอ  ้hahaha
spound ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #7 เมื่อ: 18/11/09, [20:42:05] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับผม
ได้ความรู้เพิ่มเยอะเลยครับ  [เจ๋ง]
clubwolf ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #8 เมื่อ: 18/11/09, [20:55:12] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

อาววววเป็นเรื่องสิ อาหารของพี่กบไม่มีบอก [เขิลลลล]
TEOS! ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #9 เมื่อ: 22/11/09, [15:16:33] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เป็นประโยชน์ดีครับ ขอบคุณคร้าบ deepkiss
ossca ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #10 เมื่อ: 22/11/09, [15:22:41] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ขอบคุณที่แบ่งปันค่ะ
kv ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #11 เมื่อ: 27/11/09, [21:29:31] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

 Correct!
9-jay ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #12 เมื่อ: 05/12/09, [14:32:59] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ขอบคุณครับ  ตั้งซื้ออาหารปลามาไม่เคยสนใจเรื่องพวกนี้เลย
lau01
HoNDa ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #13 เมื่อ: 25/12/09, [16:16:28] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ความรู้ใหม่ๆ ขอบคุณครับ  lau01
Bobi ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #14 เมื่อ: 27/12/09, [22:48:06] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ขอบคุณท่าน chaikitti มากคับ ปีใหม่นี้ขอให้แฟนอยู่ในโอวาทตลอดปี 2010 นะคับ  die1
toopsi ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #15 เมื่อ: 29/01/10, [22:26:13] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ขอบคุณมากมายเลยครับ
ตี๋อ้วน ออฟไลน์
Club Veteran
« ตอบ #16 เมื่อ: 08/02/10, [18:11:38] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ขอบคุณครับที่นำสิ่งดีๆมาให้อ่านกัน [เจ๋ง] deepkiss
Coffman ออฟไลน์
Sponsor
« ตอบ #17 เมื่อ: 18/02/10, [19:50:57] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

iรักนะ จุ๊บๆ [ปิ๊งๆๆ]
natsary ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #18 เมื่อ: 24/02/10, [09:19:25] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

การให้อาหารปลาก็เหมือนกันกับเราเลือกกินอาหารอาหารอร่อยเราก็จะกินได้เยอะทำให้โตเเข็งเเรงถ้าอาหารไม่อร่อยก็จะกินได้น้อยเเล้วก็ไม่เเข็งเเรงด้วย
ดังนั้นถ้าเราจะเลี้ยงปลาจิงๆๆจังๆๆเราก็ควรศึกษาของมูลของปลาชนิดนั้นๆครับเเล้วเราจะได้ผลตอบรับที่ดีมากๆๆๆครับสำหรับคนรักปลา
wizard99 ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #19 เมื่อ: 12/03/10, [22:51:16] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ขอบคุณครับ
gooice ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #20 เมื่อ: 08/04/10, [17:48:09] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ขอบคุงครับ
blackjack-02 ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #21 เมื่อ: 18/04/10, [12:05:05] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

โทษครับที่นอกเรื่อง
ที่บ้านมีปลาอยู่ตัวนึงไม่รู้เรียกปลาอะไร [งง]
ตัวคร้ายปลาเข็ม(ดูจากด้านบน)
ดูด้านข้างเหมือนม้าน้ำที่ไม่ม้วนหางครับ
-ไม่รู้มันกินอะไร
-ชื่ออะไรก้อไม่รู้
-เขาไห้มา
-หาในเน็ตก้อไม่เจอ
-แล้วตอนนี้มันเรื่อมมีอาการผิดปกติแล้วด้วยเหมือนจะไม่สบายอะ
-ร้อนจัยหนักหนา
ขอโทษด้วยครับที่ไม่มีรูปกล้องหายครับ
๐๛Q๛๐ ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #22 เมื่อ: 10/05/10, [22:26:27] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ปลาแพะอยู่ในกลุ่มปลาประเภทไหนครับ  emb01
mokjang_kill ออฟไลน์
Club Veteran
« ตอบ #23 เมื่อ: 21/05/10, [15:32:44] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ก้ออยากรู้เหมือนกันเลยไปเสาะหามาแล้วเอามาบอกเลย
อันดับปลาหนัง หรือ ตระกูลปลาหนัง เป็นอันดับทางอนุกรมวิธาน (order) ของปลาจำนวนหนึ่ง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Siluriformes มีชื่อภาษาสามัญอังกฤษว่า catfish ตระกูลปลาหนังเป็นตระกูลที่มีจำนวนปลามากถึง 35 วงศ์ และ 2,867 ชนิด ซึ่งประกอบไปด้วยปลาที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ เช่น ปลาดุก ปลาสวาย ปลาบึก ปลาเนื้ออ่อน ปลากด
[แก้] ลักษณะ

ปลาในตระกูลนี้ เป็นปลาที่ไม่มีเกล็ด จึงเป็นที่มาของชื่อปลาหนัง ปลาหลายชนิดในตระกูลนี้มีผิวหนังอ่อนนุ่ม แต่บางชนิดก็มีเกราะแข็งหุ้มร่างกาย เช่น ปลาเทศบาล และปลาแพะ ปลาหนังส่วนใหญ่มีหนวดใช้ช่วยหาอาหาร ซึ่งจำนวนหนวดจะแตกต่างกันไปตามชนิด โดยปลาหนังที่มีหนวดมากที่สุด จะมีหนวดสี่คู่ แบ่งเป็น หนวดที่รูจมูกหนึ่งคู่ หนวดที่ข้างปากหนึ่งคู่ และหนวดใต้คางสองคู่ ปลาหนังเกือบทุกชนิด มีเงี่ยงแข็งบนครีบกระโดงหลังและครีบอก ซึ่งไว้ใช้ป้องกันตัว เงี่ยงของปลาหนังบางชนิดมีพิษเป็นอันตรายต่อมนุษย์ได้

ปลาหนังมีถิ่นกำเนิดกว้าง สามารถพบได้ในทุกทวีป ยกเว้นแต่เพียงขั้วโลกใต้ ปลาส่วนใหญ่เป็นปลาน้ำจืด แต่ก็มีข้อยกเว้น เช่น ปลาในวงศ์ปลากดทะเลและวงศ์ปลาดุกทะเล ซึ่งอาศัยในน้ำกร่อยและน้ำทะเลได้
[แก้] วงศ์

ตระกูลปลาหนังในปัจจุบัน สามารถแบ่งย่อยออกไปได้ 35 วงศ์ ตัวอย่างวงศ์ที่สำคัญและพบในประเทศไทย ได้แก่

    * วงศ์ปลาขยุย (Akysidae)
    * วงศ์ปลาดัก (Amblycipitidae)
    * วงศ์ปลากดทะเล (Ariidae) รวมทั้ง ปลาริวกิว ปลาอุก
    * วงศ์ปลากด (Bagridae) รวมทั้ง ปลาแขยง
    * วงศ์ปลากะแมะ (Chacidae)
    * วงศ์ปลาดุก (Clariidae) รวมทั้ง ปลาจีด
    * วงศ์ปลาสวาย (Pangasiidae) รวมทั้ง ปลาสังกะวาด ปลาเผาะ ปลาโมง ปลาบึก ปลาเทโพ ปลาเทพา
    * วงศ์ปลาดุกทะเล (Plotosidae)
    * วงศ์ปลาหวีเกศ (Schilbeidae) รวมทั้ง ปลาสังกะวาด ปลายอนทอง ปลายอนโล่
    * วงศ์ปลาเนื้ออ่อน (Siluridae) รวมทั้ง ปลาก้างพระร่วง ปลาเบี้ยว ปลาสายยู ปลาปีกไก่ ปลาชะโอน ปลาเค้า
    * วงศ์ปลาแค้ (Sisoridae) รวมทั้ง ปลาค้างคาว ปลายะคุย

นอกจากนี้ ยังมีวงศ์ปลาหนังจากต่างประเทศ ซึ่งนิยมเลี้ยงเป็นปลาสวยงามทั่วไป คือ

    * Callichthyidae (ปลาแพะ)
    * Loricariidae (ปลาเทศบาล ปลาซัคเกอร์)
    * Malapteruridae (ปลาดุกไฟฟ้า)
    * Mochokidae (ปลากลับหัว)
    * Pimelodidae (ปลาเรดเทลแคท
Fibo ออฟไลน์
Club Champion
« ตอบ #24 เมื่อ: 26/06/10, [19:24:10] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ขอบคุณสำหรับความรู้เรื่องอาหารครับ
jejujung2009 ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #25 เมื่อ: 05/07/10, [20:51:21] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

 [on_066] [on_055] [on_026] [on_062] [on_066] [on_065] cryingrun emb01 asspain เอาหนอนเเดงตราเเพ็คสีเขียวมากกว่าของดีเเพ็คใหญ่ดีกว่าใครใครนะดีที่สุด ลองตั้งเยอะหนอนเเดงเเพ็คเขียวดีที่สุด
Riccia ออฟไลน์
Club Veteran
« ตอบ #26 เมื่อ: 22/07/10, [06:51:46] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

โทษครับที่นอกเรื่อง
ที่บ้านมีปลาอยู่ตัวนึงไม่รู้เรียกปลาอะไร [งง]
ตัวคร้ายปลาเข็ม(ดูจากด้านบน)
ดูด้านข้างเหมือนม้าน้ำที่ไม่ม้วนหางครับ
-ไม่รู้มันกินอะไร
-ชื่ออะไรก้อไม่รู้
-เขาไห้มา
-หาในเน็ตก้อไม่เจอ
-แล้วตอนนี้มันเรื่อมมีอาการผิดปกติแล้วด้วยเหมือนจะไม่สบายอะ
-ร้อนจัยหนักหนา
ขอโทษด้วยครับที่ไม่มีรูปกล้องหายครับ

เค้าเรียกว่า ปลาจิ้มฟันจระเข้ ครับ กินสัตว์น้ำขนาดเล็กกว่าปาก อย่างหนอนแดง ไรทะเล ลูกกุ้งตัวเล็กๆ
อ๊อด Melanochromis ออฟไลน์
หมอแคระ mania
« ตอบ #27 เมื่อ: 22/07/10, [08:04:14] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ก้ออยากรู้เหมือนกันเลยไปเสาะหามาแล้วเอามาบอกเลย
อันดับปลาหนัง หรือ ตระกูลปลาหนัง เป็นอันดับทางอนุกรมวิธาน (order) ของปลาจำนวนหนึ่ง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Siluriformes มีชื่อภาษาสามัญอังกฤษว่า catfish ตระกูลปลาหนังเป็นตระกูลที่มีจำนวนปลามากถึง 35 วงศ์ และ 2,867 ชนิด ซึ่งประกอบไปด้วยปลาที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ เช่น ปลาดุก ปลาสวาย ปลาบึก ปลาเนื้ออ่อน ปลากด
[แก้] ลักษณะ

ปลาในตระกูลนี้ เป็นปลาที่ไม่มีเกล็ด จึงเป็นที่มาของชื่อปลาหนัง ปลาหลายชนิดในตระกูลนี้มีผิวหนังอ่อนนุ่ม แต่บางชนิดก็มีเกราะแข็งหุ้มร่างกาย เช่น ปลาเทศบาล และปลาแพะ ปลาหนังส่วนใหญ่มีหนวดใช้ช่วยหาอาหาร ซึ่งจำนวนหนวดจะแตกต่างกันไปตามชนิด โดยปลาหนังที่มีหนวดมากที่สุด จะมีหนวดสี่คู่ แบ่งเป็น หนวดที่รูจมูกหนึ่งคู่ หนวดที่ข้างปากหนึ่งคู่ และหนวดใต้คางสองคู่ ปลาหนังเกือบทุกชนิด มีเงี่ยงแข็งบนครีบกระโดงหลังและครีบอก ซึ่งไว้ใช้ป้องกันตัว เงี่ยงของปลาหนังบางชนิดมีพิษเป็นอันตรายต่อมนุษย์ได้

ปลาหนังมีถิ่นกำเนิดกว้าง สามารถพบได้ในทุกทวีป ยกเว้นแต่เพียงขั้วโลกใต้ ปลาส่วนใหญ่เป็นปลาน้ำจืด แต่ก็มีข้อยกเว้น เช่น ปลาในวงศ์ปลากดทะเลและวงศ์ปลาดุกทะเล ซึ่งอาศัยในน้ำกร่อยและน้ำทะเลได้
[แก้] วงศ์

ตระกูลปลาหนังในปัจจุบัน สามารถแบ่งย่อยออกไปได้ 35 วงศ์ ตัวอย่างวงศ์ที่สำคัญและพบในประเทศไทย ได้แก่

    * วงศ์ปลาขยุย (Akysidae)
    * วงศ์ปลาดัก (Amblycipitidae)
    * วงศ์ปลากดทะเล (Ariidae) รวมทั้ง ปลาริวกิว ปลาอุก
    * วงศ์ปลากด (Bagridae) รวมทั้ง ปลาแขยง
    * วงศ์ปลากะแมะ (Chacidae)
    * วงศ์ปลาดุก (Clariidae) รวมทั้ง ปลาจีด
    * วงศ์ปลาสวาย (Pangasiidae) รวมทั้ง ปลาสังกะวาด ปลาเผาะ ปลาโมง ปลาบึก ปลาเทโพ ปลาเทพา
    * วงศ์ปลาดุกทะเล (Plotosidae)
    * วงศ์ปลาหวีเกศ (Schilbeidae) รวมทั้ง ปลาสังกะวาด ปลายอนทอง ปลายอนโล่
    * วงศ์ปลาเนื้ออ่อน (Siluridae) รวมทั้ง ปลาก้างพระร่วง ปลาเบี้ยว ปลาสายยู ปลาปีกไก่ ปลาชะโอน ปลาเค้า
    * วงศ์ปลาแค้ (Sisoridae) รวมทั้ง ปลาค้างคาว ปลายะคุย

นอกจากนี้ ยังมีวงศ์ปลาหนังจากต่างประเทศ ซึ่งนิยมเลี้ยงเป็นปลาสวยงามทั่วไป คือ

    * Callichthyidae (ปลาแพะ)
    * Loricariidae (ปลาเทศบาล ปลาซัคเกอร์)
    * Malapteruridae (ปลาดุกไฟฟ้า)
    * Mochokidae (ปลากลับหัว)
    * Pimelodidae (ปลาเรดเทลแคท

เอามาจากวิกิพีเดียไทยใช่ไหมครับ
บทความนี้ผมเขียนเองแหล่ะ  emb01

ว่าจะกลับไปปรับปรุง แต่ก็ยังไม่มีเวลาซักที
MannyMonomania ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #28 เมื่อ: 06/09/10, [23:04:04] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เอามาจากวิกิพีเดียไทยใช่ไหมครับ
บทความนี้ผมเขียนเองแหล่ะ  emb01

ว่าจะกลับไปปรับปรุง แต่ก็ยังไม่มีเวลาซักที
เพิ่งมาเห็น
สุดยอดครับพี่อ๊อด [เจ๋ง]
เขียนบทความดีๆอีกเด้อ emb01
JeDI ออฟไลน์
Club Veteran
« ตอบ #29 เมื่อ: 26/10/10, [22:19:43] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

อันนี้มีประโยชน์มากเลย 
หน้า: 1 2   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: