ตู้เลี้ยง
ขนาดตู้ที่เหมาะสมสำหรับการเลี้ยงกุ้งแคระนั้น ก็ไม่มีกฏเกณฑ์ตายตัวอะไร ตู้ใบเล็กจิ๋วขนาดไม่กี่นิ้วก็สามารถเลี้ยงกุ้งแคระได้ หรืออาจจะเลี้ยงในตู้ไมน้ำนาโน ทรงลูกบาศก์ขนาด1ฟุต ตกแต่งด้วยพรรณไม้น้ำสวยงาม ก็กำลังเป็นที่นิยม ตู้เลี้ยงที่มีขนาดใหญ่โตก็เหมาะสมดีเช่นกัน เพราะว่าตู้เลี้ยงจะมีปริมาตรน้ำมากพอที่จะรองรับปริมาณของเสีย รักษาค่าต่างๆของน้ำ และอุณหภูมิให้ไม่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพราะว่ากุ้งแคระนั้นค่อนข้างsensitiveต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันของอุณหภูมิและค่าไนเตรท ไนไตรท์ การเลี้ยงในตู้ใบเล็กจึงเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ เป็นเหตุให้กุ้งอ่อนแอและตายได้ง่าย กุ้งแคระส่วนมากชอบค่าphเป็นกรดอ่อนph6.5-7 ซึ่งการใส่ขอนไม้ลงไปในตู้เลี้ยงอาจจะช่วยเรื่องค่าphได้ และขอนไม้ยังเป็นแหล่งอาหารของกุ้งแคระด้วย ในธรรมชาติแล้วกุ้งแคระเหล่านี้ จะอาศัยอยู่ตามลำธารของน้ำตกสูง ที่ตั้งอยู่ตามทำเลค่อนข้างห่างไกล ซึ่งความบริสุทธิ์ของน้ำยังปลอดภัยจากมลพิษในเมือง ด้วยเหตุที่แหล่งอยู่อาศัยตามธรรมชาตินั้นห่างไกลจากทะเล จึงทำให้กุ้งแคระเหล่านี้ไม่ค่อยค่อยชอบความเค็มเสียเท่าไหร่ ผู้เลี้ยงไม่ควรใส่เกลือลงในตู้เลี้ยง
การตกแต่งตู้เลี้ยง
ในตู้เลี้ยงกุ้งแคระ ควรจะมีพืชน้ำบ้างเพื่อให้เป็นที่หลบซ่อนสำหรับพ่อแม่กุ้ง และเป็นที่หลบภัยสำหรับตัวอ่อนไว้สักหน่อย พืชน้ำที่นิยมใช้กันคือชวามอส กุ้งแคระนั้นชอบชวามอสมาก เพราะเป็นทั้งที่หลบซ่อนและเป็นอาหารโปรดด้วย กุ้งมักจะไปเกาะเก็บกินอาหารตามดงชวามอส ชวามอสที่ขายกันเป็นขอนๆมาใส่เลยก็สะดวกดี หรือจะซื้อแบบที่เป็นขยุยๆ หรือเป็นแผ่นมาตกแต่งตู้เลี้ยงก็ได้ การใส่ขอนไม้ลงไปในตู้เลี้ยงนั้นจะช่วยเรื่องสภาพน้ำที่เป็นกรดอ่อนๆ และเป็นแหล่งอาหารอย่างดีสำหรับกุ้งแคระ
ระบบกรอง
ระบบกรองนั้นค่อนข้างจำเป็นมากสำหรับการเลี้ยงกุ้งแคระ เพราะว่าเมื่อคุณภาพน้ำเริ่มลดต่ำลง กุ้งแคระจะตายได้ง่ายและรวดเร็วมาก เนื่องจากกุ้งแคระนั้นsensitiveต่อปริมาณแอมโมเนียไนเตรทและไนไตรท์อย่างที่สุด ระบบกรองอาจจะใช้กรองแขวนหลังตู้ เลือกซื้อให้มีปริมาณน้ำหมุนเวียนพอดีกับความจุของตู้ แต่อย่าให้มีกระแสน้ำที่รุนแรงเกินไปเพราะอาจจะกลายเป็นวันน้ำวนสำหรับกุ้งน้อยๆได้ ระบบกรองข้างนั้นก็สามารถใช้ได้ เพราะกุ้งแคระนั้นจะเป็นกุ้งที่ค่อนข้างชอบเกาะกับกรวดทรายรองตู้ หรือกิ่งไม้ขอนไม้ และพรรณไมน้ำ ไม่ค่อยว่ายไปในกรองข้าง แต่ในกรณีที่ต้องการเพาะพันธุ์กุ้งแคระ ก็อาจจะปิดกรองข้างแล้วใช้กรองฟองน้ำในช่วงเวลาที่กุ้งแคระตั้งท้องเป็นการชั่วคราว เพื่อป้องกันลูกกุ้งน้อยๆ จะไถลเข้าไปในระบบกรองเสียหมด แต่ถ้าจะให้ว่ากันจริงๆสำหรับระบบกรองแบบฟองน้ำนั้นก็เพียงพอแล้ว สำหรับกุ้งแคระชนิดที่เลี้ยงง่ายอย่างกุ้งเชอรี่, กุ้งพินอคคิโอ ไม่มีความจำเป็นต้องซื้อกรองนอก กรองถังเครื่องละหลายตังค์ แต่ถ้ากุ้งแคระที่ค่อนข้างsensitiveอย่างกุ้งคริสตัลเรด หรือBee Shrimp ระบบกรองที่มีประสิทธิภาพในการบำบัดของเสีย และรักษาคุณภาพน้ำอย่างกรองนอก หรือกรองข้างจะดูเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า
ซิลเลอร์หรือเครื่องทำความเย็น
จากที่กล่าวมา กุ้งแคระหลายสายพันธุ์ที่มาจากแถบเอเชียตะวันออก อย่างญี่ปุ่นหรือประเทศจีนนั้น ต้องการอุณหภูมิน้ำที่ค่อนข้างเย็น ซึ่งควรอยุ่ที่ประมาณ25-28องศา เพราะฉนั้นการเลี้ยงกุ้งแคระเหล่านั้นให้ได้ในระยะยาวในประเทศเมืองร้อนอย่างบ้านเรานั้น ชิลเลอร์สามารถช่วยได้เยอะเลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้กุ้งคริสเตัลเรดหรือบีชริมนั้น จึงเหมาะสำหรับเลี้ยงในตู้ไม้น้ำที่ตกแต่งไว้อย่างสวยงามอลังการ มีการติดตั้งชิลเลอร์ไว้อย่างเพียบพร้อม
แสง
ตู้เลี้ยงควรได้รับแสงเพื่อให้เกิดตะไคร่เพื่อเป็นอาหารหลัก และอาหารตามธรรมชาติของเหล่ากุ้งตัวน้อย แต่ข้อควรระวังเมื่อติดดวงไฟสำหรับให้แสงสว่างคือ กุ้งแคระเป็นกุ้งที่อาศัยในน้ำที่มีอุณหภูมิค่อนข้างเย็น ระหว่าง21-28องศา เพราะฉนั้นตู้ที่รับแสงไฟหรือแสงแดดตลอดเวลา อาจจะทำให้น้ำร้อนและเป็นสาเหตุให้กุ้งตายได้ สรุปคือแค่จัดให้มีแสงเพียงพอเพื่อให้พืชน้ำเจริญเติบโตได้ และระวังอุณหภูมิที่สูงเกินไปเท่านั้น

**************************************************
ดูเนื้อหาเพื่มเติม เกี่ยวกับกุ้งสวยงามต่างๆ ได้ที่นี่ครับ
http://myaqualove.blogspot.com/search/label/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%86%20%28%20Thai%20Language%20%29