โคลนออกไปเสียที เพื่อจะเอาไปทำปุ่ย หรืออื่นๆ ตามแต่ประโยชน์สรรหา เพื่อความครบวงจร ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง แหม่
ช่วงนี้ มะเฟืองบ้านเรา ออกลูกดกดีจริงๆ อิอิอิ [เขิลลลล]
***********************************************************************
เอ้าปั๊มน้ำอัดเข้าไป ๆ ปื๊ด ๆๆๆ ปู๊ดๆๆ ป๊าดๆๆๆ ( อันหลังนี่ชักไม่ชัวร์แล้วว่าเสียงน้ำหรือเสียงอะไร )

น้ำนองไปหมด ดำปี๋ แถมโคลนหนาหลายชั้นด้วยนะเนี่ย

มือก็ควานๆเอาพวกเศษใบไม้ ไปใส่ในกระถางต้นไม้อ่ะครับ แหม เยอะทีเดียว

แต่แล้วก็ได้เจออะไรขยุกๆ อยู่ที่มือครับ พอนำออกมาล้างมือให้สะอาด ปรากฏว่าเป็นเจ้าตัวนี้ครับ

ดูใกล้ๆ สีสรรของเค้ายังสดใสมากๆเลย ไม่มีร่องรอยของแผลเป็นจากเชื้อโรค หรืออะไร สีเข้มสวยดีแท้เลยหนอ

แบบนี้เลยต้องนำมาปล่อยเป็นพ่อแม่พันธุ์ในอนาคตเลยนะเนี่ย อิอิอิ

เพียงแต่นึกสงสัยอยู่อ่ะครับ ว่าทำไม ในสภาพแวดล้อม ที่เราคิดว่ามันแย่ขนาดนี้ โคลนขุ่นคลั่ก น้ำดำปี๋
กุ้งถึงสามารถมีชีวิตอยู่มาได้ ทั้งๆที่จะว่าไปแล้ว ก็ไม่น่าจะมีอาหารอะไร มากไปกว่าเศษใบไม้เปื่อยๆ และก็
แหนอ่ะครับ แลผมก็ได้นำเรื่องนี้ไปเล่าให้เพื่อนที่ร้านขายสัตว์น้ำที่รู้จักกัน เขาก็บอกว่า บางทีอาจจะเป็นเพราะ
ระบบมันเซ็ตตัวของมันเอง จนคล้ายๆกับลักษณะของบ่อโคลนในธรรมชาติ ที่เป็นแหล่งที่กุ้งเคร ฯ สามารถอยู่
อาศัยได้ก็เป็นได้ ( อ่างโดนแสงอาทิตย์เป็นเวลานาน เนื่องจากเป็นที่โล่งแสงส่องถึง จึงโดนแดดและฝนเหมือน
อยู่ในธรรมชาติเป๊ะ ๆ ) ทำให้กุ้งเคร ฯ สามารถอยู่อาศัย และเจริญเติบโตมาได้โดยปราศจากโรคภัยเบียดเบียน
ฟังๆดูแล้วก็น่าคิดอยู่เหมือนกันครับ ก็เลยได้นำประสบการณ์มาแบ่งปันให้พี่ๆน้องๆได้ชมกันครับผม hawaii
ป.ล.
หลังจากนั้นก็ถ่ายน้ำให้ขุ่นน้อยลงไปนิด ( มั้ง ) และก็เอาไว้ในสภาพคล้ายๆเดิมครับ มีตะกอนดำๆเหมือนเดิม
คลาสสิคดี เอาไว้เลี้ยงแหนให้กุ้งทานจ้า

ส่วนดินตะกอน เอาไว้เท เลี้ยงต้นไม้ต่อไปครับ
