Aqua.c1ub.net
*
  Fri 20/Jun/2025
หน้า: 1   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ใช้กรองใต้กรวดตู้ทะเลได้ไหมครับ  (อ่าน 1846 ครั้ง)
Jonut_WSJ2015 ออฟไลน์
Club Member
« เมื่อ: 04/01/16, [22:12:27] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

คือผมอยากใส่กรองใต้กรวด แล้วก็ปูกรวดทับ แล้วค่อยปูเป็นทรายทะเลอีกที สามารถทำแบบนี้ได้ไหมครับ กะจะเลี้ยงแค่นีโม่ส้มขาวคู่เดียวไม่เอาปะการังครับ  036
Guntapong ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #1 เมื่อ: 05/01/16, [01:01:11] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ถ้าแค่นั้นจริงๆได้ครับ ออกจะเก่าไปหน่อยแฮะ แต่รุ่นพี่เก่าๆก็เริ่มจากกรองแบบนี้แหละครับ
Jonut_WSJ2015 ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #2 เมื่อ: 05/01/16, [07:06:36] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ขอบคุณมากนะครับ อ้อขออีกเรื่องนะครับกรองใต้กรวดกับกรองแขวนอันไหนดีกว่ากันครับ
bill2517 ออฟไลน์
Club Champion
« ตอบ #3 เมื่อ: 05/01/16, [11:15:03] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ขนาดตู้ครับ

ถ้าเป็นตู้เล็กๆ ปูกรวด-ทรายไว้ + เพิ่มกรองแขวนก็ดี น้ำใสสะอาด   แต่ต้องขยันเปลี่ยนน้ำและดูแลบ่อยๆ ตู้เล็กของเสียขึ้นเร็วแต่เปลี่ยนน้ำได้ง่ายและสะดวกเพราะปริมาณน้ำน้อย
rater ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #4 เมื่อ: 07/01/16, [22:13:01] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

สมัยก่อนอุปกรณ์ยังไม่ดีแบบตอนนี้ผมก็ใช้กรองใต้กรวดปูด้วยปะการังแบบละเอียด มันก็พอเลี้บงได้นะครับ อยากกลับมาทะเลเหมือนกัน
bboy01 ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #5 เมื่อ: 07/01/16, [23:43:57] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ส่วนตัวเคยใช้ตอนเลี้ยงปลาน้ำจืด เวลาเปลี่ยนน้ำทีเห็นตะกอนข้างใต้เยอะมาก ซึ่งระบบของปลาทะเลเมื่อเซ็ทตัวนิ่งดีแล้วไม่น่าไปรบกวนพวกวัสดุรองพื้นมาก แต่ถ้าไม่ทำความสะอาดนานๆเกรงว่าจะเกิดการสะสมของตะกอนน่ะครับ
ส่วนกรองแขวนมีข้อดีตรงทำความสะอาดง่าย แต่ข้อเสียคือการไหลเวียนของน้ำอาจไม่ทั่วทั้งตู้ครับ  ลองพิจารณาดูอีกทีนะครับ สมัยนี้อุปกรณ์ต่างๆทันสมัยน่าจะมีตัวช่วยในการเลี้ยงได้ดีกว่าสมัยก่อนครบ
tajaba ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #6 เมื่อ: 08/01/16, [20:54:46] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

นานๆไปมันจะมีปัญหาครับ (ซักปีนึง) ไนเตรทสะสม ตั่งตู้ใหม่ผมไม่แนะนำนะ เด๋วงบบาน
Puzzle ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #7 เมื่อ: 10/01/16, [08:49:14] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

กรองใต้กรวด ถ้ากรองแบบสำเร็จรูปเฉยๆก็คือมีท่ออากาศ มันก็จะดึงเอาตะกอนไปไว้ใต้แผ่น ซึ่งจะหมักหมมอยู่ข้างล่าง
เวลาล้างก็ต้องรื้อออกมาล้าง....
แต่ก็สามารถประยุกต์ได้โดยการ หาวิธีใดก็ได้ที่จะดูดตะกอนข้างใต้ออกมา
เช่นการเจาะรูต่อท่อแล้วปิดไว้ เป็นจุดๆ สำหรับดูดตะกอนออกเวลาถ่ายน้ำ เป็นต้น
ซึ่งก็จะช่วยไม่ให้มีตะกอนหมักหมมมากนัก
การปูกรวดแล้วเอาทรายหรือเศษปะการังเล็กๆลงตาม พวกที่เล็กกว่าก็จะแทรกลงไปตามช่่องว่าง
หลุดไปใต้แผ่น กลายเป็นไม่มีประโยชน์ ต้องใช้ตาข่ายที่มีขนาดเล็กกว่าเศษปะการัง
เพื่อไม่ให้เศษปะกาะรัง กรวด ตกไปใต้แผ่นกรอง
แม้ว่ารูตาข่ายจะตัน ก็จะกลายเป็นเหทือนวิธีการปูทรายอย่างเดียว
ถ้าทำแบบนี้ก็จะช่วยลดระยะเวลาการดูดทรายออกมาทำความสะอาดได้...

.....
ต่างจากการปูทราย อย่างเดียว
การปูทราย ดูๆไปก็อาจจะยุ่งยากกว่า ช่องว่างระหว่างเม็ดทราย
จะถูกตะกอนเข้าไปแทรก จนกระทั่งทุกช่องว่างมีตะกอน ค่าของเสียเพิ่มขึ้น
แม้ว่าทรายจะเป็นที่อยู่ของแบคทีเรีย แต่ตะกอน ของเสียมากไป ระบบก็รับไม่ไหว
การจะตีให้ทรายฟุ้งก็ไม่ควรทำ เพราะถ้าเราใช้ปั๊มเป่าที่ทราย ก็จะฟุ้ง
ถ้าใช้ปั๊มไม่ได้แล้วตะกอนจะลอยไปตกกรองได้ หรือท่อน้ำลง...ได้อย่างไร
อีกประเด็นคือเมื่อทรายฟุ้ง เม็ดทรายก็ทำให้ปะการังเกิดความระคายเคือง...
การใช้สัตว์พรวนทราย ก็แค่พรวนให้ตะกอนมาอยู่ที่ผิวหน้า สัตว์กินตะกอนก็ขี้ออกมาก็วนอยู่ตรงนั้น
การทำความสะอาดทรายก็คือ การดูดออก นำมาล้างแล้วใส่กลับลงไปใหม่ ทุกๆ 6 เดือน อาจจะน้อยหรือมากกว่า
ขึ้นอยู่กับความสกปรก

หน้า: 1   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: