Aqua.c1ub.net
*
  Thu 16/Oct/2025
หน้า: 1   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: กุ้งเครผสมเทียมได้ไหมครับ  (อ่าน 2436 ครั้ง)
paolo
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: 20/06/08, [00:53:44] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

  lau01  ใครรู้บอกด้วย  031
PlaTeens ออฟไลน์
Club Veteran
« ตอบ #1 เมื่อ: 20/06/08, [07:56:41] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ


               อวัยวะเพศเมีย (ทีไลคัม)             อวัยวะเพศผู้ (พีแตสมา)

 กุ้งกุลาดำ เป็นกุ้งที่ได้รับสมญานามว่า จัมโบ้ หรือ ไทเกอร์ (Black tiger prawn) เนื่องจากเป็นกุ้งขนาดใหญ่  ถ้าโตเต็มที่อาจมีความยาวถึง 36.3 เซนติเมตร  ประเทศไทยเคยเป็นประเทศที่มีการเลี้ยงและ ส่งออกกุ้งกุลาดำมากที่สุดในโลก  แต่เนื่องจากการเลี้ยงกุ้งกุลาดำยังต้องพึ่งพ่อแม่พันธุ์ที่จับจากธรรมชาติ เพื่อการผลิตลูกกุ้งเข้าสู่บ่อเพาะเลี้ยง  การประสบปัญหาการขาดแคลนพ่อแม่พันธุ์ดี รวมทั้งปัญหาของโรคระบาดต่างๆ ทำให้เกษตรกรหันไปเพาะเลี้ยงกุ้งขาวมากขึ้น

          การแบ่งเพศของกุ้งกุลาดำดูจากอวัยวะเพศภายนอก  ในกุ้งเพศเมีย นอกจากอวัยวะที่ใช้ผลิตไข่แล้ว ยังมีอวัยวะเพศเมียที่เรียกว่า ทีไลคัม (thelycum) อยู่ตรงผนังด้านท้อง (ประมาณส่วนอกหรือตรงขาเดินคู่ที่ 4-5) ทำหน้าที่เป็นถุงสำหรับรับ   น้ำเชื้อของตัวผู้ สำหรับกุ้งเพศผู้มีอวัยวะเพศภายนอกเรียกว่า พีแตสมา (petasma) ตรงปลายอวัยวะดังกล่าวมีลักษณะคล้ายตะขอเพื่อใช้ผสมพันธุ์กับตัวเมีย  การผสมพันธุ์เกิดขึ้นหลังจากตัวเมียลอกคราบใหม่ เมื่อมีการจับคู่กัน ตัวผู้ปล่อยถุงน้ำเชื้อไปฝากเก็บไว้ในทีไลคัมของตัวเมีย  จากการศึกษาการปฏิสนธิของไข่ที่ผสมกับน้ำเชื้อในกุ้งกุลาดำ โดย ศ.ดร.บุญเสริม วิทยชำนาญกุล แห่งมหาวิทยาลัยมหิดล พบว่า ถุงอสุจิ หรือถุงเก็บน้ำเชื้อของตัวผู้ถูกฝากไว้ในทีไลคัมของตัวเมียเป็นเวลาหลายวันก่อนตัวเมียวางไข่  การฝากน้ำเชื้อไว้ในตัวเมีย ทำให้การพัฒนาของไข่และน้ำเชื้อมีความสมบูรณ์มากขึ้น ส่งผลต่อการปฏิสนธิภายหลัง

          การผสมพันธุ์ในธรรมชาติเกิดขึ้นทั้งในน้ำลึกหรือในบ่อดินที่ทำการเลี้ยง ในการจับพ่อแม่พันธุ์จากธรรมชาติ แม่พันธุ์อาจถูกผสมพันธุ์มาแล้ว (มีถุงน้ำเชื้ออยู่ในทีไลคัม) ในกรณีดังกล่าว แม่กุ้งจะปล่อยไข่และอสุจิมาผสมกัน เกิดการปฏิสนธิ นอกเหนือจากการผสมพันธุ์หรือจับคู่โดยธรรมชาติแล้ว ยังมีการกระตุ้นให้พ่อกุ้งปล่อยถุงเก็บน้ำเชื้อออกมา และนำถุงเก็บน้ำเชื้อไปฝากไว้ในทีไลคัมของเพศเมียโดยไม่ต้องมีการจับคู่ ซึ่งอาจเรียกว่า “การผสมเทียม” ได้

          การผสมเทียมมีส่วนช่วยให้การจัดการเพาะฟักกุ้งกุลาดำสะดวกขึ้น เพราะการลำเลียงถุงเก็บน้ำเชื้อจากต่างถิ่น ทำได้ง่ายและสะดวกกว่าการลำเลียงพ่อพันธุ์กุ้งทั้งตัว ซึ่งอาจนำโรคติดเข้ามาในโรงเพาะฟัก นอกจากนี้ถ้าเก็บรักษาถุงเก็บน้ำเชื้อได้เป็นเวลานาน จะสามารถนำมาใช้ในระยะเวลาต่างๆ ได้ รวมทั้งสามารถเก็บน้ำเชื้อของพ่อพันธุ์ที่มีคุณภาพพึงประสงค์ เพื่อใช้ในการปรับปรุงพันธุ์กุ้งกุลาดำต่อไป

.................................................................................................

ดูๆ ไปแล้ว อวัยวะสืบพันธ์ ของกุ้งกุลาดำ ก็คล้ายๆ กับ กุ้งเคร สาย P ด้วยเนอะ แต่ไหง ก้าม ไม่ยักจะมีหนาม แล้วเพิ่งรู้นะเนี้ยว่าตัวโตเต็มที่ ตั้ง ฟุตกว่าๆ เลย

เครดิต ::  สนุก!พีเดีย
 
ป๊ะป๋าดุ๊กดิ๊ก&น้องดริว&น้องดรีม ออฟไลน์
Shrimp Admin
« ตอบ #2 เมื่อ: 20/06/08, [09:36:36] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ


               อวัยวะเพศเมีย (ทีไลคัม)             อวัยวะเพศผู้ (พีแตสมา)

 กุ้งกุลาดำ เป็นกุ้งที่ได้รับสมญานามว่า จัมโบ้ หรือ ไทเกอร์ (Black tiger prawn) เนื่องจากเป็นกุ้งขนาดใหญ่  ถ้าโตเต็มที่อาจมีความยาวถึง 36.3 เซนติเมตร  ประเทศไทยเคยเป็นประเทศที่มีการเลี้ยงและ ส่งออกกุ้งกุลาดำมากที่สุดในโลก  แต่เนื่องจากการเลี้ยงกุ้งกุลาดำยังต้องพึ่งพ่อแม่พันธุ์ที่จับจากธรรมชาติ เพื่อการผลิตลูกกุ้งเข้าสู่บ่อเพาะเลี้ยง  การประสบปัญหาการขาดแคลนพ่อแม่พันธุ์ดี รวมทั้งปัญหาของโรคระบาดต่างๆ ทำให้เกษตรกรหันไปเพาะเลี้ยงกุ้งขาวมากขึ้น

          การแบ่งเพศของกุ้งกุลาดำดูจากอวัยวะเพศภายนอก  ในกุ้งเพศเมีย นอกจากอวัยวะที่ใช้ผลิตไข่แล้ว ยังมีอวัยวะเพศเมียที่เรียกว่า ทีไลคัม (thelycum) อยู่ตรงผนังด้านท้อง (ประมาณส่วนอกหรือตรงขาเดินคู่ที่ 4-5) ทำหน้าที่เป็นถุงสำหรับรับ   น้ำเชื้อของตัวผู้ สำหรับกุ้งเพศผู้มีอวัยวะเพศภายนอกเรียกว่า พีแตสมา (petasma) ตรงปลายอวัยวะดังกล่าวมีลักษณะคล้ายตะขอเพื่อใช้ผสมพันธุ์กับตัวเมีย  การผสมพันธุ์เกิดขึ้นหลังจากตัวเมียลอกคราบใหม่ เมื่อมีการจับคู่กัน ตัวผู้ปล่อยถุงน้ำเชื้อไปฝากเก็บไว้ในทีไลคัมของตัวเมีย  จากการศึกษาการปฏิสนธิของไข่ที่ผสมกับน้ำเชื้อในกุ้งกุลาดำ โดย ศ.ดร.บุญเสริม วิทยชำนาญกุล แห่งมหาวิทยาลัยมหิดล พบว่า ถุงอสุจิ หรือถุงเก็บน้ำเชื้อของตัวผู้ถูกฝากไว้ในทีไลคัมของตัวเมียเป็นเวลาหลายวันก่อนตัวเมียวางไข่  การฝากน้ำเชื้อไว้ในตัวเมีย ทำให้การพัฒนาของไข่และน้ำเชื้อมีความสมบูรณ์มากขึ้น ส่งผลต่อการปฏิสนธิภายหลัง

          การผสมพันธุ์ในธรรมชาติเกิดขึ้นทั้งในน้ำลึกหรือในบ่อดินที่ทำการเลี้ยง ในการจับพ่อแม่พันธุ์จากธรรมชาติ แม่พันธุ์อาจถูกผสมพันธุ์มาแล้ว (มีถุงน้ำเชื้ออยู่ในทีไลคัม) ในกรณีดังกล่าว แม่กุ้งจะปล่อยไข่และอสุจิมาผสมกัน เกิดการปฏิสนธิ นอกเหนือจากการผสมพันธุ์หรือจับคู่โดยธรรมชาติแล้ว ยังมีการกระตุ้นให้พ่อกุ้งปล่อยถุงเก็บน้ำเชื้อออกมา และนำถุงเก็บน้ำเชื้อไปฝากไว้ในทีไลคัมของเพศเมียโดยไม่ต้องมีการจับคู่ ซึ่งอาจเรียกว่า “การผสมเทียม” ได้

          การผสมเทียมมีส่วนช่วยให้การจัดการเพาะฟักกุ้งกุลาดำสะดวกขึ้น เพราะการลำเลียงถุงเก็บน้ำเชื้อจากต่างถิ่น ทำได้ง่ายและสะดวกกว่าการลำเลียงพ่อพันธุ์กุ้งทั้งตัว ซึ่งอาจนำโรคติดเข้ามาในโรงเพาะฟัก นอกจากนี้ถ้าเก็บรักษาถุงเก็บน้ำเชื้อได้เป็นเวลานาน จะสามารถนำมาใช้ในระยะเวลาต่างๆ ได้ รวมทั้งสามารถเก็บน้ำเชื้อของพ่อพันธุ์ที่มีคุณภาพพึงประสงค์ เพื่อใช้ในการปรับปรุงพันธุ์กุ้งกุลาดำต่อไป

.................................................................................................

ดูๆ ไปแล้ว อวัยวะสืบพันธ์ ของกุ้งกุลาดำ ก็คล้ายๆ กับ กุ้งเคร สาย P ด้วยเนอะ แต่ไหง ก้าม ไม่ยักจะมีหนาม แล้วเพิ่งรู้นะเนี้ยว่าตัวโตเต็มที่ ตั้ง ฟุตกว่าๆ เลย

เครดิต ::  สนุก!พีเดีย
 


  ข้อมูลเสริมเยี่ยมเยยเน่อ  [เจ๋ง]
หน้า: 1   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: