


ควันหลงงานเลี้ยงพระกระยาหารค่ำ แด่องค์พระประมุข และอาคันตุกะผู้แทนพระองค์จากต่างประเทศจำนวน 25 ประเทศ
ที่ทรงเสด็จมาร่วมพระราชพิธีเฉลิมฉลองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2549 มีการกล่าวขานเมนูอาหารยุโรปว่าได้มีการคัดเลือกผลผลิตสดๆ จากโครงการหลวงเพื่อนำไปประกอบอาหาร และหนึ่งในผลผลิตสดและเป็นผลผลิตจากการวิจัยของกรมประมงเป็นรุ่นแรกที่ส่งไปนั้นคือ "กุ้งก้าม"
คุณหญิงโกมุท อุ่นศรีส่ง ผู้ตรวจราชการกรมประมง อาสาสมัครมูลนิธิโครงการหลวง กล่าวว่า กุ้งก้าม เป็นชื่อที่หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี ทรงเป็นผู้ตั้งชื่อเป็นภาษาไทย โดยมีชื่อภาษาอังกฤษว่า Cray Fish เป็นกุ้งน้ำจืดชนิดหนึ่งในตระลกุ้ง ปู หอย มีมากกว่า 300 ชนิด มีลักษณะขนาดเล็กตั้งแต่ 20 กรัม จนถึงขนาดใหญ่ประมาณ 2 กิโลกรัมต่อตัว พบในเขตหนาวในทวีปอเมริกาเหนือ, อเมริกาใต้, ยุโรป, เอเชียตะวันออก, ออสเตรเลีย และนิวกินี
ซึ่งมีรสชาติอร่อยคล้ายเนื้อปู มีสีแดง เนื้อนุ่มหวาน ตลาดทั่วไปนิยมบริโภคมีความต้องการของโลกประมาณ 110,000 ตัน ต่อปี ผลผลิตส่วนใหญ่มาจากประเทศสหรัฐอเมริกา, สาธารณรัฐประชาชนจีน, ทวีปยุโรป และประเทศออสเตรเลีย
โครงการหลวงได้นำมาเลี้ยงเมื่อต้นปี 2549 ที่งานวิจัยประมงที่สูงอินทนนท์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด จังหวัดเชียงใหม่ โดยเพาะเลี้ยงในบ่อดินเป็นสายพันธุ์มาจากประเทศออสเตรเลีย พบว่าสามารถเจริญเติบโตได้ดี ต่อมาได้ทดลองเพาะเลี้ยงขยายผลในที่นาของเกษตรกร หมู่ที่ 17 บ้านแม่กลางหลวง ซึ่งเกษตรกรส่วนใหญ่เป็นชาวไทยภูเขาเผ่ากะเหรี่ยง หรือปกาเกอญอ ที่มีวิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่จะต้องปลูกข้าวไว้บริโภคในครอบครัว แม้จะอาศัยในพื้นที่สูง ก็จะปลูกข้าวแบบขั้นบันได
งานวิจัยประมงพื้นที่สูงอินทนนท์ จึงเกิดแนวคิดว่า หากส่งเสริมให้เกษตรกรที่ปลูกข้าวบนที่สูงนั้น มีการเลี้ยงกุ้งก้ามร่วมกับการปลูกข้าว จะช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น จึงเริ่มต้นเช่าที่ดินของเกษตรกร เริ่มขุดพื้นที่รอบคันนา เพื่อเป็นที่เก็บกักน้ำและให้ระดับต่ำกว่าพื้นนา เป็นที่อยู่ของกุ้งก้ามในช่วงที่อากาศร้อน จากนั้นจึงปล่อยน้ำที่เหลือใช้จากการเลี้ยงปลาเรนโบว์เทร้าท์ที่อยู่ด้านบนของแปลงนาเข้ามาใช้ในแปลงนาข้าว
นอกจากจะเป็นการใช้ประโยชน์จากน้ำอย่างประหยัดบนพื้นที่สูงแล้ว น้ำที่ปล่อยลงมายังมีอาหารเสริมที่เหลือจากการเลี้ยงปลาเรนโบว์เทร้าท์ ให้เกิดเป็นอาหารเสริมของกุ้งก้ามอีกต่อหนึ่ง
หลังจากเตรียมแปลงเสร็จแล้ว จึงเริ่มต้นปลูกข้าว รอระยะให้ข้าวตั้งตัว จึงปล่อยลูกกุ้งขนาด 5-10 กรัม หรืออายุประมาณ 2-3 เดือน เฉลี่ยพื้นที่ 2 ตัวต่อตารางเมตร จากนั้นจึงเลี้ยงอีกประมาณ 4-5 เดือน รวมเวลาที่เลี้ยงประมาณ 7-8 เดือน จะได้กุ้งขนาดน้ำหนัก 60-80 กรัม หรือประมาณ 12-15 ตัว ต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นขนาดที่ตลาดต้องการอาหารที่ใช้เลี้ยงเป็นอาหารที่ใช้เลี้ยงกุ้งทั่วไป ให้อาหารวันละ 1 มื้อในช่วงเย็น
จากการทดลองเลี้ยงกุ้งก้ามร่วมกับการปลูกข้าวในนา พบว่า กุ้งก้ามเลี้ยงง่าย ไม่มีโรครบกวน ไม่กัดกินข้าวในนา สามารถเลี้ยงร่วมกันได้ มูลจากกุ้งก้ามใช้เป็นปุ๋ยแก่ต้นข้าว อัตราการรอดสูงถึง 70% ตลาดมีความต้องการมาก ซึ่งปัจจุบันโครงการหลวงส่งผลผลิตจำหน่ายในภัตตาคารของโรงแรมใหญ่ๆ ในเขตกรุงเทพฯ และจังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้เครื่องหมายดอยคำ
...
มูลนิธิโครงการหลวง เปิดตัว กุ้งก้าม (Red Craw Crayfish) ที่มีความพิเศษอยู่ที่เนื้อ และรสชาติที่คล้ายกับกุ้งล็อบสเตอร์ ซึ่งโครงการหลวงสามารถเลี้ยงและขยายพันธุ์กุ้งก้าม ณ บ้านแม่กลางหลวง ดอยอินทนนท์ เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ชาวเขา และทดแทนการนำเข้ากุ้ง โดยคาดการณ์ว่าผลผลิตกุ้งก้ามตลอดปี ๒๕๕๐ จะมีประมาณ ๓๐,๐๐๐ ตัว และเพิ่มขึ้นปีถัดไป
กุ้งก้าม ซึ่งผลผลิตรุ่นแรกใช้ในการปรุงอาหาร เพื่อถวายเลี้ยงพระราชอาคันตุกะ ในค่ำคืนวันที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๕๔๙ ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เนื่องในงานฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี ของพระบาทสมเด็จฯ พระเจ้าอยู่หัว จะมีจำหน่ายเชิงการค้าอย่างเป็นทางการครั้งแรก ในราคากิโลกรัมละประมาณ ๙๐๐ บาท ในงาน โครงการหลวงเฉลิมพระชนมายุ ๘๐ พรรษา ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๔ ๙ กันยายน ๒๕๕๐ พ.ศ.๒๕๕๐ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
เครดิต :: www.nicaonline.com
////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
ข่าวอาจจะเก่าไปหน่อยนะคับ แต่ สำหรับเพื่อนๆ ที่ไม่รู้ อาจจะได้ความรู้เพิ่มก็ได้ และนี้ Link รายการ หมึกแดง พาไปชมโครงการหลวง เลี้ยงกุ้งก้าม แต่ผมว่า น่าจะเป็นพันธุ์ เดียว กับ เรนโบว์ ที่เรา เลี้ยงๆกันอยู่นะคับ
http://hiptv.mcot.net/player/hipPlayer.php?id=13791
คลิกแล้วก็ เลือกความเร็วเน็ต นะคับดูในช่วงแรกๆก็พอ หลังๆ จะเป็นการทำกับข้าวแล้ว