Aqua.c1ub.net
*
  Thu 25/Apr/2024
หน้า: 1   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: [รีวิว] เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง 8 วัน 8 คืน By champies [ยาว]  (อ่าน 7519 ครั้ง)
Champies ออฟไลน์
Hot Member
« เมื่อ: 29/10/14, [13:43:34] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

    เห็นหลายๆคน อยากให้เขียนรีวิว ที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นมา ก็เลยจัดให้ครับผม
    
    เริ่มต้นจากที่ตัวเองมีความฝันมาตลอดว่าอยากไปเที่ยวญี่ปุ่น เห็นแต่ในรูป คิดว่าวันนึงต้องไปให้ได้
ประจวบเหมาะกับมีเพื่อนร่วมอุดมการ อีก2คนที่อยากไปเหมือนกัน แถมคอเดียวกันอีกตะหาก
จึงตกลงจะไปด้วยกัน แบบไปกันเองไม่ง้อทัวร์ วางแผนการเดินทางอยู่หลายเดือน จนกระทั่งลงตัว
จองเครื่องบิน จองโรงแรม ซื้อตัวรถไฟ ทั้งหมดเรียบร้อย เราจึงออกเดินทางกันในวันที่ 17 ตุลาคม ตอนเย็นๆ และกลับ วันที่ 26 ตุลาคม  รวมเวลาเที่ยวทั้งสิ้น 8 วัน 8 คืน

ช่วงที่ไปพอดีเป็นช่วงเริ่มต้นของฤดูใบไม้เปลี่ยนสี อุณภูมิประมาณ 8 - 20 องศา
จึงพอได้เห็นใบไม้สีเหลืองๆแดงๆบ้างประมาณ 20-30% ถ้าจะเต็มที่คงต้องช่วงปีใหม่

เมืองที่ผมไปมาทั้งหมด จะเน้นไปที่ แถบโตเกียว กับ คันไซ
เป็นการเที่ยวผสมๆกันระหว่างในเมือง กับนอกเมือง
หมายความว่า ดูแสงสีครึ่งนึง เอาธรรมชาติครึ่งนึง
นอน โรงแรมธรรมดา 5 วัน และ เรียวกัง(แบบญี่ปุ่น) 3 วัน
กลางวันกินง่ายๆ ข้าวกล่องเซเว่นและร้านสะดวกกินต่างๆ กลางคืนจะจัดหนักหน่อย ทั้งอาหารและเครื่องดื่ม


**เตรียมพร้อมก่อนไป**

- สิ่งที่ต้องมีและสำคัญที่สุดคือ Passport ที่ยังเหลืออายุเกิน 6 เดือน

- ตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ ในที่นี้ผมจองผ่านเวบ Expedia.com

- จองโรงแรม การจองโรงแรมมีหลายเวบไซต์ให้จองมากมาย เช่น Agoda,Booking.com ฯลฯ
  ควรจะวางแผนการเที่ยวก่อนแล้วก็ หาโรงแรมที่ใกล้กับที่เที่ยวของเรา (ใกล้สถานีรถไฟฟ้าด้วยนะดีมาก)

- ปริ๊นท์ แผนการเดินทางคร่าวๆของเรา และ ตารางการจองโรงแรม ไปด้วย เพราะ ตรวจคนเข้าเมืองที่ญี่ปุ่นเค้าจะถามว่าเรา
  มาทำอะไร กรณีที่คนที่ไม่เคยมาญี่ปุ่นมาก่อนเค้าจะถาม ถ้าเคยมาแล้วก็จะเข้าง่ายกว่า

- เงินสด แลกเงินเยน ไปกะว่าให้พอดีหรือเกินพอกับการใช้จ่ายของเรา ถ้าเหลือค่อยมาแลกคืนที่สนามบิน
  แต่ถ้าไม่พอสามารกดเงินสดได้ที่ ATM ของ ร้านเซเว่นได้ แต่จะมี charge ด้วย

- JR PASS หรือ บัตรโดยสารรถไฟหรือรถประจำทางต่างๆ ในเครือ JR ทั้งหมด มีหลายรูปแบบ หรือจะเป็นพาสแบบต่างๆของบริษัทอื่นๆ ก็มีเยอะแยะมากมายหลายแบบ ลองศึกษาดูว่าแบบไหนเหมาะกับเรา อันนี้ไม่ได้จำเป็น ไปหาซื้อที่นู่นหรือซื้อเป็นเที่ยวก็ได้ แต่ใช้เป็นจะประหยัดได้พอควร เวบนี้อธิบายได้ดีมาก http://goo.gl/bdndO1

- Pocket Wifi อันนี้ส่วนตัวคิดว่าสำคัญมาก เพราะมันจะช่วยเราในการเดินทาง เช่นการติดต่อสื่อสารระหว่างเพื่อนร่วมทริป
  หรือใช้หาข้อมูลได้อย่างมาก รวมทั้งอัพรูปลงโซเชียลด้วย อิอิ ราคา 1400 บาท ตลอดทริป (DATA 3 GB )
  สัญญานของ NTT DOCOMO สัญญานแรงตลอดเวลา เครือข่ายที่ญี่ปุ่นเค้าดีจริง อยู่ป่าอยู่เขา อยู่ที่ไหนก็ตาม มีสัญญานตลอด
  





  

**ระยะเวลาการเดินทาง**
เครื่องบิน จะบินจาก กทม-ญี่ปุ่น ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง ข้อดีคือเร็ว สะดวกไม่ต้องลงไปต่อเครื่องวุ่นวาย
แต่ถ้าต่อเครื่องอันนี้ก็แล้วแต่ที่เราจองมา เช่นผม ขาไปต่อเครื่อง ต้องรอ 2 ชม. ขากลับรอ 1 ชม. ที่ฮ่องกง โดยสายการบิน Carthay Pacific
ก็บวกเวลาเพิ่ม จาก 6 ชั่วโมงไป แต่ข้อดีก็คือ ราคาจะถูกกว่า ได้ยืดเส้นยืดสายและเดินเล่นซื้อของที่สนามบินที่เราไปต่อเครื่อง


 **Day 1** ประเดิมวันแรกที่โตเกียว  

เครื่องลงที่สนามบินนาริตะ ซึ่งอยู่ห่างจากโตเกียวราวๆ 50 Km มีหลายวิธีที่จะเข้าเมือง เช่น รถประจำทาง แทกซี่ รถไฟ
แต่แนะนำรถไฟ N'EX (Narita Express) ความเร็วสูงเข้าเมืองได้เลย ประมาณ 1 ชั่วโมง


 


ระหว่างทางก็นั่งดูบ้านดูเมืองเค้าไปเพลินๆ





ลงสถานี Shinagawa ซึ่งเราก็จองโรงแรมใว้แถวนี้อยู่แล้ว เพื่อความสะดวก เนื่องจากกระเป๋าเดินทางจะใหญ่พอสมควร เป็นภาระ
จึงควรจะนำไปฝากใว้ที่โรงแรมซะก่อน การเดินทางระหว่างสถานที่นั้นไม่ขอเล่ารายละเอียด เพราะมันยิบย่อยมากๆ
แนะนำว่าให้ใช้เวบ www.Hyperdia.com ในการหาสถานีที่เราจะไปลง ควบคู่กับใช้ Google Map รวมทั้งการถามเจ้าหน้าที่สถานี (ซึ่งพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้...ฮ่วย!)


โปรแกรมเที่ยวที่แรกของวันคือ Imperial Castle Tokyo หรือ พระราชวังโตเกียว ส่วนตัวคิดว่าไม่น่าสนใจเทาไหร่ ก็งั้นๆ ไม่ค่อยแนะนำ




โปรแกรมที่ 2 ย่าน Ginza ดูอลังการ มีร้านรวงต่างๆของแบรนด์เนมให้ช็อปปิ้งมากมาย ใครชอบก็จัดไป





ตอนเย็นขึ้นเรือTokyo Criuse เป็นเรือที่รูปร่างอวกาศมากๆ จาก Hinode ไปลง Odaiba แล้ว ต่อไปลงที่ Asakusa เพื่อที่จะไปถ่ายรูปที่วัดอาซากุสะ





ลงป้ายวัดอาซากุสะ ไปถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ไปถึงค่ำแล้วแต่ไม่ซีเรียสเพราะเรามาเองชิลๆ ที่ญี่ปุ่นจะค่ำเร็วมาก 5 โมงเย็นนี้แทบจะมืดแล้ว





จบวันปิดท้ายด้วย การแฮงเอาท์หน้าวัด มีร้านขายอาหารขายเหล้า เบียร์ เพียบ 5555+



จบวันแรก ค่าใช้จ่าย ราวๆ 4,000 บาท/คน
ค่าโรงแรม Toyoko Inn Tokyo Shinagawa คนละ 1,350 บาท
รวม ประมาณ 5,350 บาท


**Day 2** Go To Osaka


โปรแกรมแรกคือ นั่ง "Shinkansen" หรือ รถไฟหัวกระสุนความเร็วสูง จากสถานี Shinnagawa ---> สถานี Shin Osaka
ระยะทาง 550 กิโลเมตร แต่ใช้เวลาเดินทางแค่ 3 ชั่วโมงเท่านั้น ถ้าใช้ JR PASS แนะนำว่าให้จองที่นั่งในสถานีก่อนจะไปขึ้น
รถไฟหรูหรา นิ่ง เร็ว นั่งสบายมากๆ หลับยาวกันได้เลย
รูป





เช็คอินกันก่อนที่โรงแรม "Hotel Hillarys" ค่าที่พักถูกมาก ห้องก็ดีมาก 3 คน 2500 บาท ตกคนละ 800 กว่าบาทเท่านั้น
โรงแรมตั้งอยู่ในย่าน ขายโมเดล ใครชอบพวกโมเดล แนะนำว่าโรงแรมนี้อาจเป็นสวรรค์สำหรับท่าน





โปรแกรมแรก "Osaka Aquarium" หรือ ไคยูคัง อควาเรียม
เป็นอความเรียมริมทะเลที่มีทิวทัศน์สวยเลยทีเดียว





ไฮไลท์ของที่นี่คือ ฉลามวาฬในตู้ใหญ่มาก ใช้อคิลิคหนา 1 ฟุต
โดยรวมแล้วก็ดีกว่า อควาเรียมที่สยามพารากอนไม่มากมาย ค่อนข้างผิดหวังนิดๆ ฮ่าๆๆ






ผิดหวังที่ตู้ไม้น้ำ กากๆ ขาดการดูแลเป็นอย่างยิ่ง ทั้งๆที่เป็นประเทศเจ้าตำรับไม้น้ำซะเอง





โปรแกรมที่สอง "ปราสาทโอซาก้า" เนื่องจาก เวลาล่วงเลยมาจนค่ำ ถึงจะไปถึงปราสาท
ทำให้ต้องถ่ายรูปตอนกลางคืนแทน แต่ก็ได้อีกอารมณ์นะ





สุดท้ายแหล่งท่องเที่ยวยามราตรีของโอซาก้า ก็คือ Namba กับ ป้ายไฟ กูลิโกะ อันเลื่องชื่อ
แต่...ตอนนี้ปิดปรับปรุง เอารูปผู้หญิงมาโชว์ไปก่อน ก็น่ารักดี
คนเยอะ ของกินมีให้เลือกเยอะมาก จัดกันตามสบาย








จบวันที่สอง ค่าใช้จ่ายราวๆ 2,500 บาท/คน
ค่าโรงแรม 800 บาท/คน
รวม 3,300 บาท/คน

**Day 3** กินเนื้อเทพที่โกเบ

เริ่มต้นที่นั่งรถไฟชินคันเซ็นไปโกเบ จากสถานี Shin Osaka --> Shin Kobe
เนื่องจากเราอยู่คันไซการเดินทางจึงง่ายมากระหว่างเมือง เพราะชินคันเซ็นไปถึงทุกเมือง
ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็ถึง
ต่อแท็กซี่ไปหาสเต็กเนื้อเทพก่อนเลยที่ Staek land ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ สถานี JR sannomiya ใครมี JR Pass ก็นั่งต่อไปจาก Shin Kobe ได้เลย
ร้านนี้มีเงินอย่างเดียวกินไม่ได้ ต้องต่อแถวด้วย ใช้เวลาต่อแถวประมาณ 1 ชั่วโมงถึงได้กิน  





จัดไปชุดมื้อเที่ยงแบบแพงสุด พันกว่าบาท
สำหรับมนุษที่เกิดมาเพื่อกินเนื้อวัวอย่างผม เนื้อโกเบจึงเป็นเนื้อที่อร่อยที่สุดที่เคยกินมาในชีวิต ละลายในปากกันเลยทีเดียว





อิ่มหนำสำราญ ก็ออกเดินทางสู่เมืองแห่งการแช่ออนเซ็น Arima Onsen
จาก Shin Kobe ใช้เวลาเดินทางราวๆ 45 นาทีก็ถึง แต่หลายต่อหน่อย



Arima Onsen เป็นเมืองเล็กๆในหุบเขา ของภูเขา Rokko เป็นเมืองที่เงียบสงบ น่ารัก แนะนำว่าถ้าได้ไปแถบคันไซ ห้ามพลาดเด็ดขาด
เราพักที่ Arima Onsen Negiya เป็นโรงแรมเก่าแก่ ทีเด็ดคือ ห้องแช่ออนเซ็นกลางแจ้ง แต่ไมได้ถ่ายมาเพราะเค้าไม่ให้ถ่ายรูป





มีร้านปิ้งย่างที่แนะนำใน Arima Onsen คือ ร้าน Miraku แนะนำว่าสั่งเนื้อเทพมาย่างเอง อร่อยมากกกกกกกกกก





และเป็นคืนแรกที่ได้นอนห้องแบบ เรียวกัง (แบบญี่ปุ่น)




ค่าใช้จ่ายวันที่สาม ค่าเที่ยว+กิน ประมาณ 4,000 บาท/คน (กินเนื้อเทพไม่ยั้ง)
ค่าโรงแรม Arima Onsen Negiya 3,000 บาท/คน (แพงเอาเรื่อง)
รวมค่าใช้จ่าย 7,000 บาท/คน


**Day 4** มุ่งหน้าสู่เมืองหลวงเก่า Kyoto

เช่นเดิม รถไฟชินคันเซ็นจาก Shin Kobe ---> Kyoto ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ก็ถึง
เช็คอิน ที่โรงแรมเรียบร้อยก็เดินทางไป Arashiyama เพื่อไปชม วัดเก่าแก่และ ทางเดินป่าไผ่
ก็ไม่มีอะไรมากวันนี้ เดินชิลๆ ถ่ายรูปหมดวัน ที่นี่คนเยอะมาก นักท่องเที่ยวเยอะ คนไทยเยอะ
ถ้ามาตอนใบไม้เปลี่ยนสีแบบ 100% ช่วงปีใหม่ น่าจะสวยงามมาก






ด้านหลังวัดจะมีป่าไผ่อันเลื่องชื่อ เป็นถนนอยู่ด้านหลังวัด มีป่าไผ่ขึ้นอยู่ 2 ข้างทาง ความยาวน่าจะประมาณ 400 เมตร สวยงาม






ทีเด็ดมันอยู่ที่ แหล่งแสงสียามค่ำคืน คือย่าน Gion จะเป็นแหล่งรวมของกิน มีเกอิชา Bar girl มากมาย ในบรรยากาศเก่าๆ แต่ไม่ได้ดูนะ หาไรกินดื่มเฉยๆ เพราะมันแพง เหอๆๆๆ




สรุปค่าใช้จ่าย ค่าเที่ยว+กิน ประมาณ 3,000 บาท/คน
ค่าโรงแรม Kyoto Rich 700 บาท/คน
รวม 3,200 บาท/คน


**Day 5** Kyoto วันที่สอง

ประเดิมวันแรกด้วยวัดน้ำใส Kiyomizu dera กับมุมมหาชนคือมุมของโบสถ์วัดที่สูงตระหง่าน ถ้าช่วงใบไม้เปลี่ยนสีคงงามมิใช่น้อย
แต่ก็คนเยอะมาก





ต่อกันที่ วัด Fujimi Inari ที่เด่นก็คือ เสาแดงเป็นหมื่นๆต้น สวยงามน่าไปถ่ายรูปกัน





สุดท้ายไฮไลท์ของการมาเกียวโตคือ เทศกาลไฟแห่งเมืองคุราม่า จัดทุกวันที่ 22 ตุลาคม ของทุกปี
ชาวบ้านที่นี่จะทำการจุดไฟแล้วแห่ไปรอบหมู่บ้าน เพื่อเป็นการบูชาเทพพระเจ้า
ใช้เวลาเดินทางมาจากในเมืองประมาณ 1 ชั่วโมง งานจะเริ่ม 1 ทุ่ม แนะนำว่าถ้าอยากดูให้รีบมาก่อน
เพราะคนเยอะม๊ากกกก







แอบมีบ้านนึงเลี้ยงไม้น้ำด้วย



สรุปค่าใช้จ่าย ค่าเที่ยว+กิน ประมาณ 2,500 บาท/คน
ค่าโรงแรม Kyoto Rich 700 บาท/คน
รวม 3,200 บาท/คน



**Day 6** Kawagushiko Lake ในวันฟ้าหม่น

อยู่แถบคันไซมา 4 วัน ได้เวลาย้ายวิกไปแถบฟูจิกันบ้างล่ะ
เริ่มด้วยการนั่งชินคังเซ็น ไปลงสถานี Mishima ใช้เวลาราวๆ 2 ชั่วโมง
ตอนนี้เราก็อยู่ด้านล่างของฟูจิกันแล้ว ต่อไปก็ต่อรถบัส เพื่อไปยังทะเลสาบ คาวากูชิโกะ
คาวากูชิโกะ เป็นเมืองเล็กๆที่สวยงามมาก บรรยากาศคล้ายๆยุโรป อากาศเย็น
เป็นที่นิยมมากๆ คนไทยไปเที่ยวกันเยอะมาก

โรงแรมที่ไปพัก Mizuno Hotel เรียกได้ว่าวิวสวยที่สุดในคาวากูชิโกะ ก็ว่าได้
เนื่องจากห้องจะหันหน้าเข้าหาฟูจิซัง โดนมีทะเลสาบคาวากูชิโกะ อยู่ด้านหน้า
แต่วันที่ไปฝนตก ฟ้าปิด อดเห็นฟูจิซัง
ในภาพ Mizuno Hotel จะอยู่บนสุดที่มีจั่วเป็นสามเหลี่ยม ทำให้ได้วิวมุมสูง สวยมากๆ (ถ้าเห็นฟูจิ)





ในเมื่อฟูจิซังขี้อาย แถมฝนตก แต่เราไม่กลัวปั่นจักรยานเล่นก็ได้ ทางโรงแรมมีให้ยืมปั่นฟรี
การปั่นจักรยานรอบทะเลสาบเป็นอะไรที่ชิลมาก เพราะจะได้เห็นทะเลสาบโดยรอบอย่างใกล้ชิด และถ่ายรูปกันมันเลยทีเดียว








สรุปค่าใช้จ่าย ค่าเที่ยว+กิน ประมาณ 2,000 บาท/คน
ค่าโรงแรม Mizuno Hotel 2,000 บาท/คน (เรียวกัง)
รวม 4,000 บาท/คน


**Day 7**  Lake Shoji ในวันที่ฟ้าสดใส

โชคดีที่วันนี้ ท้องฟ้าสดใสต่างจากเมื่อวาน ฟูจิซังจึงปรากฏตัวให้เห็น เห็นครั้งแรกน้ำตาจิไหล


 


ออกเดินทางจาก คาวากูชิโกะด้วยรถบัส ไปทะเลสาบโชจิ ใช้เวลา ครึ่งชั่วโมง
เนื่องด้วยทริปนี้ เป็นความอยากส่วนตัวที่อยากจะไปในที่ที่ไม่มีใครเค้าไปกัน จึงตัดสินใจเลือก ทะเลสาบโชจิ
เป็นทะเลสาบที่เล็กที่สุดในทะเลสาบทั้ง5ที่ล้อมรอบฟูจิซัง แล้วก็ไม่ผิดหวัง มันช่างสวยจริงๆ








ความความที่เป็นทะเลสาบที่เล็กมากๆ โรงแรมมีให้เลือกไม่กี่แห่ง จึงเลือกไปที่ Yamadaya Hotel หน้าโรงแรมเป็นทะเลสาบ แล้วถัดไปเป็นภูเขาไฟฟูจิ วิวสวยสุดๆ
และจุดเด่นของโรงแรมแห่งนี้นอกจากห้องแบบเรียวกัง ก็คือ ออนเซ็นบนดาดฟ้า แบบเห็นวิวที่สวยสุดๆ  




เวลาอยู่ที่นี่จะไม่ต้องการไปไหนเลย เดินเตร็ดเตร่อยู่แถวโรงแรมถ่ายรูปก็ฟินแล้ว  มันสวยจริงๆ





ใบไม้ที่นี่จะเปลี่ยนสีเยอะกว่าที่อื่น คงเพราะอากาศเย็นมาก กลางคืน ประมาณ 4-5 องศา








แถวโรงแรมจะมีร้านกาแฟร้านนึง มีป้าแก่ๆเป็นเจ้าของร้าน อัธยาศัยดี ร้านเล็กๆ อาร์ทๆ
ที่นี่ น่าจะเป็นร้านกาแฟที่วิวสวยอันดันต้นๆของประเทศแล้วมั้ง
มีขายรูปถ่ายฟูจิด้วย ถ่ายโดยสามีป้าแกนั่นเอง ถ่ายสวยมากกกกกกกกกกก





จิบกาแฟ นั่งดูฟูจิซัง ข้างหน้าเป็นทะเลสาบ ปล่อยใจสบายๆ เฮ้ออออ อยากมาอยู่ที่นี่ซะเลยจริงๆ





วันที่7ถ่ายรูปเยอะหน่อยเพราะ มันสวยจริงๆ

ตื่นมาตอนเช้า ก็ยังไปถ่ายรูปที่ทะเลสาบต่อ มีคนมากางเต้นท์นอนกันด้วย ซักวันฉันจะไปกางเต้นท์บ้างงงง




เงาฟูจิซังสะท้อนน้ำ ตอนยืนดูน้ำตาจะไหล สวยจริงๆ มีคนมาถ่ายรูป ตกปลา กับประปราย




สำหรับคนชอบตกปลา ทะเลสาบนี้ น่าจะเป็นสวรรค์เลยทีเดียว เงียบสงบ  วิวสวยจริงๆ




ที่สำคัญมีไม้น้ำชนิดหนึง คล้ายอเมซอน แต่เป็นพุ่มๆ จึงได้ทำการเก็บกลับมาเลี้ยงด้วย ฮ่าๆๆ
แต่คาดว่าไม่น่ารอด เพราะน้ำอย่างเย็น ขอตั้งชื่อว่า Lake soji sp.





สรุปค่าใช้จ่าย ค่าเที่ยว+กิน ประมาณ 2,000 บาท/คน
ค่าโรงแรม Yamadaya Hotel 2,000 บาท/คน (เรียวกัง)
รวม 4,000 บาท/คน
 


**Day 8** บ้านนอกเข้ากรุง

กลับเข้าเมืองโตเกียว
ออกจาก โซจิเลค ด้วยรถบัส มาที่คาวากูจิโกะก่อน และต่อรถไฟเข้าโตเกียว ใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่ง
วันนี้คิดกันใว้แล้วว่าจะเป็นวันสบายๆ เดินช็อปปิ้ง ดูชีวิตคนเมือง ดูสาวญี่ปุ่น ดูร้าน Sexshop ดูร้านเล่นปาจิงโกะ ไปเรื่อย
ดูอะไรที่บ้านเราไม่มี





ปาจิงโกะ ไม่ได้เล่น เพราะเล่นไม่เป็น แถมอ่านไม่ออกซักอย่าง ภาษาญี่ปุ่นล้วนๆ





Sex Shop แหม่ มีของปลอมแบบจำลองของมิยาบิด้วย แต่ที่เด็ดคือมีถาษาไทยบอกว่าอย่าเปิดกล่อง ซะงั้น!!  [on_026]






กลางคืนก็ไปรปปงงิ เจอพวกแต่งคอสเพลฮัลโลวีนกัน เพราะเป็นเทศกาลฮัลโลวีนพอดี วันรุ่นที่นี่กล้าแสดงออกและเปิดเผยมากๆ แอบถ่ายมาไม่ค่อยได้มันมืด T T





สุดท้ายแฮงค์เอ้าท์อำลาญี่ปุ่นด้วยร้านดริ๊งค์ใต้ดิน ของคนญี่ปุ่นเค้าไม่มีนักท่องเที่ยวเลย
ได้บรรยากาศชีวิตกลางคืนของญี่ปุ่นแท้ๆ แต่แพงเอาเรื่อง





สุดท้ายกึ่มๆ กลับโรงแรม เตรียมตัวกลับบ้านพรุ่งนี้เช้า

สรุปค่าใช้จ่ายวันสุดท้าย ค่าเที่ยว+กิน ประมาณ 4,500บาท/คน
ค่าโรงแรม Toyoko Inn Tokyo Shinagawa 1,200 บาท/คน
รวม 5,700 บาท/คน
 
สรุปค่าใช้จ่ายรวมทั้งหมด 8 วัน กินเที่ยว+ที่พัก 35,750 บาท/คน

ค่า JR Pass 9,000 บาท/คน

Wifi 1,400 บาท / คน

ค่าเครื่องบิน ไป-กลับ 18,500 บาท/คน

+9,000+1400+18,500 = 64,650 บาท

ก็ราวๆ 65,000 +/- บาท  

ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้ากินแบบประหยัด และ นอนแบบประหยัด น่าจะลดค่าใช้จ่ายไปได้ราวๆ 1-2 หมื่นบาทเลยทีเดียว  [เจ๋ง]

ปล.1 อาจจะอธิบายได้ไม่ละเอียด แต่ก็ให้ Keywords ใว้แล้ว ยังไงก็เอาไปทำการบ้านกันต่อละกันถ้าจะไปตาม
ปล.2 รูปทั้งหมดถ่ายเองนะครับ ด้วย DSLR และ มือถือ

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย

- ที่ญี่ปุ่นเวลาเดินขึ้นบันไดเลื่อน คนที่ไม่เดินจะต้องยืนชิดด้านใดด้านหนึ่ง ให้คนรีบเค้าเดินไปอีกด้าน โดยที่จะแตกต่างกันตามภูมิภาคด้วย โตเกียวชิดซ้ายคันไซชิดขวา
- ห้องน้ำที่นี่จะเป็นแบบฉีดอัตโนมัติเกือบ 100% และ กระดาษชำระเช็ดก้นแล้วทิ้งใส่โถได้เลย
- ข้ามถนนหยุดรอสัญญานไฟคนข้ามทุกครั้ง แม่แต่แยกเล็กๆเข้าซอยยังมีสัญญานไฟ
- คนจะใช้จักรยานกันเยอะมากและปั่นเร็ว ปั่นบนฟุตบาทด้วย ต้องคอยระวังดีๆ
- ร้านขายอาหารแบบจานด่วน จะต้องไปหยอดตังในตู้สั่งอาหารก่อน และจะได้คูปองมา ไปยื่นให้พนักงาน สรุปคือแทบไม่ต้องคุยกันกับพนักงานเลย
- บ้านเมืองนี้หาซื้อแป้งเด็กยากมาก ไป 8 วัน หาซื้อไม่ได้เลย
- ร้านนั่งกินส่วนใหญ่จะเป็นเค้าเตอร์แคบๆ ซอกเล็กๆ ใต้ดินบ้าง ชั้นบนๆบ้าง เรียกว่าพื้นที่เค้ามีน้อย ใช้คุ้มสุดๆ
- ค่าครองชีพแพงกว่าเราประมาณ 4 เท่า เช่น ข้าวเริ่มต้นจานละ 120+
- ค่าแทกซี่โหดสุดๆ สตาร์ท 720 เยน หรือ 280 บาท และนับไปกิโลละ 100 บาท แพงสาสสสส ไม่จำเป็นอย่านั่งเลย
- รถไฟใต้ดินในเมืองโยงใยเป็นใยแมงมุมเลย ไม่ต้องกังวลว่าจะหลง เพราะหลงแน่ ทางที่ดีควรใช้แผนที่ในมือถือควบคู่ไปด้วย หรือไม่ก็ถามเจ้าหน้าที่สถานี แต่เค้าพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้หรอกนะ
-ญี่ปุ่นจะเป็นประเทศที่อนุรักษ์นิยมมากๆๆๆ ป้ายต่างๆจะแทบไม่มีภาษาอังกฤษ เพราะฉะนั้น อย่าคาดหวังว่าจะขึ้นรถโดยสารได้ง่ายๆ แม้แต่รถไฟใต้ดินก็ตาม  
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30/10/14, [09:45:04] โดย Champies »
พะละลอย ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #1 เมื่อ: 29/10/14, [15:03:29] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

รีวิวเจ๋ง รูปสวยยยย :)

เดี๋ยวต้นปีนี้ว่าจะไปซ้ำอีกรอบ ประทับใจประเทศนี้มากๆ ^^"
checkshake ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #2 เมื่อ: 29/10/14, [16:59:18] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

บรรยายได้อารมณ์มาก ภาพประกอบอย่างงาม รายละเอียดการใช้เงินมีประโยชน์มาก

เห็นแล้วแทบอยากเอาเงินเก็บไปเที่ยวซะให้ได้  [on_066]
Longhairguy ออฟไลน์
Shrimp Admin
« ตอบ #3 เมื่อ: 16/12/14, [04:12:46] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ไอ้ห่าแชมป์มาแปะไว้ตั้งกะเมื่อไหร่เนี่ยเพิ่งมาเห็น = =

เห็นละอยากไปเที่ยวมาก อยากไปดูชนบทและธรรมชาติที่นั่นสุดๆ

สรุปว่าต้องเตรียมงบประมาณไว้ซักแสนนึงเผื่อเหลือเผื่อขาดสินะ เมื่อไหร่จะมีเงินไปเที่ยววะตู T T
My Scape ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4 เมื่อ: 02/01/15, [11:29:49] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

โอ้ววว เพิ่งมาเห็น  อยากไปมากกกกกกกกกก
ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆครับ  [โห่..ฮี้..โห่]
ณ~ใชเหมี่ยง ออฟไลน์
Club Champion
« ตอบ #5 เมื่อ: 17/04/15, [11:37:18] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เป็นประเทศที่อยากไปประเทศนึงเลยครับ อิจฉาจุง  [เจ๋ง]
หน้า: 1   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: