Aqua.c1ub.net
*
  Sun 16/Jun/2024
หน้า: 1   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: รบกวนช่วยแนะนำด้วยครับ  (อ่าน 4716 ครั้ง)
jusup8 ออฟไลน์
Club Member
« เมื่อ: 13/10/14, [12:56:28] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

 ชุดนี้เลี้ยงมานานเป็นปีแล้วครับมีเกือบยี่สิบตัว ผ่านหนอนสมอ เห็บ ว่ายเอียงมาหมดแล้วเพราะผมชอบซื้อปลามาเพิ่มมีรอดบ้างตายบ้าง ส่วนใหญ่ถ้าเป็นว่ายๆเอียงๆซึมๆผมจะรีบถ่ายน้ำ ล้างกรองเลย ตัวป่วยแยกใส่เกลือ หนอนเห็บเอาแหนบคีบ
 ผมเลี้ยงบ่อปูนหน้าบ้านยาวสองเมตร สูง และ กว้าง ประมาน 60เซน กรองนอก ใช้ถังพลาสติกใส่ประการังและถ่านคารบอนจากล่างขึ้นบนมาลงถังที่ซ้อนไว้มีใยแก้ว เปลี่ยนถ่านทุกสามเดือน ปะกาลังล้างทุกสามเดือน ใช้สองกิโลไม่เคยเปลี่ยน ใยแก้วล้างทุกอาทิตย์ถ้าเปื่อยมากเปลี่ยนใหม่ น้ำถ่ายทุกสามวัน 20 - 30 เปอรเซนต์พักน้ำใส่โอ่งไว้ตลอด โดนแดดบ้างในตอนเช้ามีหลังคาไม่โดนน้ำฝนโดยตรงแต่อาจมีละอองสาดบ้างเล็กน้อย
 ก่อนหน้านี้พึ่งตายไปสองตัว เป็นเกล็ดพองเล็กน้อยแต่ท้องบวม ผมไม่มั่นใจกลัวอาการหนักเลยจับแยกอดอาหารใส่อมอกซี่วันละเม็ด อาการดีขึ้นในหนึ่งสับดาห์ผมจึงเริ่มให้อาหารเล็กน้อยที่คลุกอาม้อกซี่ ผ่านไปสามวันตัวเปื่อยมีเลือดออก ผมเริ่มงง แต่อากาศช่วงนั้นเย็นมาก ผมไม่แน่ใจว่าเกิดจากอะไรผ่านไปวันเดียว หงายเอียงผงาบๆกันและตายในทีสุด สังเกตุว่าคายอาหารเม็ดออกมาด้วย
 เข้าประเด็นนะครับ ปลาตัวนี้อายุแก่สุดมีซึมๆช่วงนี้อากาศเย็น หลังจากล้างกรอง เปลี่ยนน้ำอาการดีขึ้นแต่ช่วงนี้ผมงดอาหารนะครับ อากาศเย็นเห็นเค้าว่าให้อาทิตย์ละครั้ง ไม่รู้จริงหรือ แต่ตอนนี้เริ่มเห็นคราบๆดำๆที่หัวและแก้ม และมีเกล็ดอ้า ผมควรจะจับแยกตอนนี้เลยรึปล่าว การรักษาเกล็ดพองใช้อม็อกซี่อย่างเดียวถูกหรือปล่าวครับ
 ขอถามอีกข้อผมซื้อปลาตัวเล็กมาขนาดเท่าหัวนิ้วโป้มือตัวละสิบบาทมาครั้งละ ห้าหกตัว แยกไว้อาทิตย์นึงก่อนรวม พอรวมแล้วอยุ่ได้เดือนนิดๆ ก็ตายหมด ซื้อมาสองครั้งแล้วไม่เคยรอด น่าจะเกี่ยวกับเค้ากลัวปลาใหญ่รึปล่าวครับ หรือบ่อใหญ่เกินไป

รบกวนช่วยตอยด้วยนะครับ คือขออภัยที่ยาวหน่อย คิดว่าซักประวัติผู้ป่วยนะครับ




toontoon ออฟไลน์
Club Veteran
« ตอบ #1 เมื่อ: 13/10/14, [23:27:53] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

  อาการเกล็ดพองเกิดได้จาก  2 กรณี คือ ปริสิตและแบคทีเรีย  ถ้าควบคุม 2 ปัจจัยนี้ได้ ก็ไม่ต้องกลัวปลาจะเป็นอีก  โรคชนิดนี้เป็นโรคติดต่อครับ เพราะฉะนั้น ควรแยกรักษาจะดีกว่าครับ  
  การรักษา เกล็ดพองที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย คือ ต้องแช่ยาต้านแบคทีเรีย ไม่ว่าจะเป็น แอมม๊อกซี่ เตตร้าไซครีน ยาเหลือง หรือยา Anti Bac แล้วต้องให้ยากินด้วยครับ คือ ถ้าปลายังกินได้อยู่ให้แช่ยากับอาหารเม็ดแล้วให้ปลากิน  แต่ถ้าปลาไม่กินให้ใช้หลอดดูดยาฉีดเข้าปากปลาครับ ตัวยาที่ให้ปลากินได้แก่ ยา Clear ของหมอหนึ่ง ซื้อได้ที่ Smile pet shop หรือยาแอมมีอกซี่ก็ได้ แต่ปริมาณเท่าไหร่จำไม่ได้  แต่ถ้าเกล็ดพองเกิดจากปริสิต คือ ปลาติดเชื้อแทรกซ้อนจากการโจมตีของปรสิต ต้องใส่ยากำจัดปริสิตควบคู่กับยาต้านแบคทีเรียด้วยครับ  การใส่เกลือ 3 กรัมต่อน้ำลิตร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกำจัดปรสิตได้ด้วยครับ
 การป้องกัน ลดปัจจัยที่ทำให้เกิดแบคทีเรีย เช่น เอาหินหรือวัสดุก้นบ่อออกให้โล่งๆจะดีกว่า เพราะ เศษอาหาร ขี้ปลาจะไม่สะสมจนก่อให้เกิดเชื้อแบคทีเรีย การใส่เกลือไม่มีสารไอโอดีนทุกครั้งที่เปลี่ยนน้ำใหม่ 1-2 กรัม ช่วยป้องกันการแพร่ของปรสิตได้ เพราะ เกลือเป็นพิษต่อปรสิต  ปริมาณน้ำใหม่ที่เปลี่ยนไม่จำเป็นต้อง 20-30% เสมอไป ควรดูจำนวนปลาที่เลี้ยงด้วย อาจเปลี่ยนน้ำใหม่ 50%-80%ก็ได้ถ้าจำนวนปลาเยอะ การใช้หลอด UV หรือ เครื่องโอโซนกำจัดเชื้อแบคทีเรียในน้ำ

  การรวมปลาแล้วเกิดโรคตามมา ที่ผมเคยเจอ คือ เฝ้าสังเกตุไม่เกิน สัปดาห์  ถ้าติดต่อกันก็ช่วงนี้เท่านั้น  ผมมองว่ากรณีนี้น่าจะเกิดจากสภาพบ่อ เอื้อต่อการให้เกิดโรคให้ปลาตายมากกว่า  
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13/10/14, [23:29:47] โดย toontoon »
โอ' โย๊ะโย๋ ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #2 เมื่อ: 14/10/14, [11:00:24] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

บ่อปูนใหญ่ขนาดนี้ ทำไมยังมีปัญหาเนี่ย?  ผมท่อ 1 เมตร ยังเลี้ยงสบาย อุณหภูมิก็ไม่แกว่ง ปัญหาที่เจอมากสุดคือ ปลาชอบว่ายเอาวุ้นถูพื้น-ขอบปูนจนวุ้นถลอก TT 

ระบบกรองผมว่าเอาปะการังออกเถอะครับ  ใส่หินภูเขาไฟ หรือวัสดุกรองอย่างอื่นดีกว่า  แล้วก็ถ่านคาบอน ใยแก้ว

สาหร่ายหรือเปล่าครับในบ่อ  เอามาจากไหน?  ระวังปสิตที่มาจากสาหร่ายด้วยครับ
♜ AKE ♜ ออฟไลน์
Club Champion
« ตอบ #3 เมื่อ: 15/10/14, [17:07:27] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เกล็ดพองทำใจ ครับ   ถึงรักษาหายก็เป็นอีก 

การรักษาต้องใช้ ยาฆ่าเชื่อ  หาตามร้านขายยาทั่ว เป็นยาที่ใช้กับ มนุษย์ 

1 แคป ซูล  แกะออกมาจะได้ผง  เอาผง 80% ใส่ลงไปในน้ำ  อีก 20 ผสมอาหารให้ปลากิน ( ถ้าปลายังกินอาหารอยู่ )

เพราะโรคเกร็ดพอง เป็นอาการที่ติดชื่อภายใน  ถ้าจะรักษาให้ตรงจุด ต้องให้มันยาเข้าไป  [on_008]
jusup8 ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #4 เมื่อ: 16/10/14, [13:49:21] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ตอนนี้ผมรือหินในบ่อ เอาสาหร่ายออก คือผมมีอีกบ่อข้างๆขนาดเดวกันแต่เลี้ยงปลาหางนกยูง ผมไม่แน่ใจว่าเอามาจากไหนบ้่อนี้ทำมามากกว่าสิบปีแล้ว พอดีพึ่งกลับมาเลี้ยงปลาทองเมื่อปลายปีก่อน เลยเอาสาหร่ายมาใส่ดูครับ แต่เคยเอาออกแล้วมันเกิดได้ตลอดเลย ส่วนปลาที่เกล็ดพองหายแล้วครับ เอาอม้อกซี่ให้กิน ผมแช่ยาตากแดดใส่โหลไว้ครับ ตอนนี้ร่าเริงดีแต่รอยดำๆยังมีอยุ่ครับ เด่วกรองผมจะเพิ่มขนาดถังให้ใหญ่สักหน่อย แล้วจะเอาปะการังออกนครับ ขอบคุณทุกคอใเม้นครับผม
♜ AKE ♜ ออฟไลน์
Club Champion
« ตอบ #5 เมื่อ: 18/10/14, [22:43:54] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ปัจจุบันเป็นไงบ้างครับ
jusup8 ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #6 เมื่อ: 20/10/14, [11:21:42] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ช่วงนี้ปกติดีหลังจากที่ผมรื้อเอาเศษหินอ่อนก้อนกรวดกับสาหร่ายออกแล้วครับ ดูร่าเริงดีอีกอย่างอากาศที่บ้านผมกำลังดี มีแดดในตอนเช้าไม่ร้อนมาก ตอนดึกก็เย็นหน่อยๆ ผมว่าจะรื้อระบบกรองใหม่ครับ คือผมอ่านๆตามหน้าต่างๆ ผมไม่แน่ใจเรื่องกรอง เค้าบอกว่ากรอง1/3ของบ่อ ซึ่งผมไปซื้อถังน้ำ50ลิตรมาแล้วต่อท่อเรียบร้อยน้ำลงก้นถังขึ้นบน มีท่อน้ำทิ้งด้านล้างไว้ล่างถัง
 เรื่องปะการังเห็นบอกว่าทำให้น้ำเป็นกรดอ่อนๆไม่เหมาะกับปลาทอง ผมเลยมองหาหินภูเขาไฟ และ เซรามิคริง หรือจะเอาอย่างใดอย่างนึงดีครับ
แล้วถ่านคารบอนยังคงจะใส่อยุ่เพราะผมเปลี่ยนอยุ่ทุกสามเดือน แล้วด้านบนคงเปลี่ยนจากใยแก้วเป็นแผ่นสกอตไบร์สีเขียวดีมั้ยครับเห็นแม่ผมซื้อมาถุงเบอเริ่ม ว่าจะขโมยมาสักโหลนึงครับ แผ่นประมานครึ่งกระดาษa4 หนาราว1cm
 มีอีกเรื่องที่ผมอ่านเจอในหน้าพันทิพ เค้าบอกว่ากรองไม่ต้องทำยาก ใส่อวนหรือมุ้งเก่า กับเปลือกหอยนางรมก็พอ จริงหรือไม่ครับ คือผมสงสัยว่ามันได้ทั้งกายภาพชีวภาพเลยหรือครับ
skyrider ออฟไลน์
Club Veteran
« ตอบ #7 เมื่อ: 20/10/14, [11:49:03] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

แผ่นสกอตไบรท์ไม่ดีครับ ใช้ไปนานๆ เปื่อยยุ่ย
ไปหาพวกใยกรองละเอียดแบบบาง สีน้ำเงินดูครับ ใช้ทนใช้นาน ซักล้างแล้วเอากลับมาใช้ได้อีกบ่อยๆ

ส่วนพวกประการัง จะช่วยรักษาสภาพด่างของน้ำ ไประยะเวลาหนึ่ง เป็นพวก PH Buffer ใช้ไปสักพักก็หมดสภาพ ค่า PH จะสวิง ไม่เหมาะครับ

ใช้พวกหินภูเขาไฟอย่างเดียวก็พอแล้วครับ พวกถ่านคาร์บอนก็ใช้ดี แต่ต้องคอยเปลี่ยน แถมเวลาใส่ยาต้องเอาออก

พวกอวนหรือมุ้งเก่าก็ใช้ได้ แต่พื้นที่ผิวการกรองจะไม่เท่าหินภูเขาไฟ พวกบ่อปลาคาร์ฟนิยมใช้อวนเพราะว่า น้ำหนักเบา ใช้ในบ่อกรองขนาดใหญ่ เวลาเอามาล้างไม่เหนื่อยแรงมาก

เปลือกหอยนางรม ก็มีคุณสมบัติเหมือนหินภูเขาไฟ และช่วยรักษาสภาพด่างเหมือนประการังเช่นกัน  แต่ถ้าดูเรื่องการอนุรักษ์ ก็ไม่ควรใช้ทั้งเปลือกหอยและประการังครับ
skyrider ออฟไลน์
Club Veteran
« ตอบ #8 เมื่อ: 20/10/14, [11:56:04] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

บ่อปลาที่บ้านผมใช้ ระบบ Wet Dry แบบนี้ครับ ใช้ปั้มดูดน้ำมาปล่อยลงด้านบนของถัง ใช้ถังสูงสักเมตร ต่อท่อทำ Spray Bar พ่นน้ำให้กระจายทั่ว
ชั้นบนใส่ใยแก้วละเอียด ดักขี้ปลา เอามาซักล้างทุกอาทิตย์ ใส่ใยกรองหยาบบนใยละเอียดอีกทีก็ได้ ใยละเอียดจะได้สกปรกน้อย
ชั้นสองใส่ใบโอบอล ชั้นนี้ให้น้ำไหลผ่านเฉยๆ ไม่ต้องท่วม ให้น้ำเกิดการแลกเปลี่ยนก๊าช ออกซิเจนจะได้ละลายน้ำได้ดี
ชั้นสามใส่หินภูเขาไฟ ให้น้ำไหลท่วมชั้นนี้ (ชั้นนี้จะเปลี่ยนไปใช้พวก JFM หรือ Matala ก็ได้ น้ำหนักเบาล้างง่ายมาก)
ท่อน้ำออกอยูด้านล่างสุด ไหลกลับเข้าบ่อ
หรือจะต่อลงกระถางเปล่าที่ใส่ต้นพลูด่าง แล้วน้ำไหลจากกระถางลงท่ออีกที เป็นการบำบัดไนเตรทเล็กๆ ต้นพลูด่างจะงอกสวยงาม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20/10/14, [11:59:25] โดย skyrider »
jusup8 ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #9 เมื่อ: 24/10/14, [10:50:26] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ตอนนี้ผมทำกรองใหม่ครับ ถังน้ำ50ลิตรใช้หินภูเขาไฟ2/3ของถังใส่ถ่านคารบอนไปถุงนึงครับแล้วก็ใยกรองสีฟ้าและใยกรองสีขาว ตัวสีขาวนี้จำเป็นรึปล่าวครับ เป็นแบบน้ำลงล่างขึ้นบน ผมไม่ได้ปิดฝาถังกรองคับไม่แน่ใจว่าควรต้องปิดรึปล่าว ส่วนเรื่องการล้างถังกรองผมยังล้างทุกอาทิตย์เพราะปลาแน่นขี้ปลาเยอะ ถ้าจะลองทิ้งไว้สักเดือนไม่ร฿้ปลาจะตายก่อนล้างกรองรึปล่าว ยังไงขอขอบคุณทุกคำแนะนำที่ผ้่านมาด้วยครับ ปล. ผมคิดว่าถ้าใช้ถัง50ลิตรตัวนี้ใส่แต่หินภูเขาไฟ น้ำล่างขึ้นบน แล้วมาปล่อยใส่อีกถังที่มีแต้่ใยสีฟ้าและใยสีขาว แบบบนลงล่าง จะเหมาะสมรึปล่าวครับ
skyrider ออฟไลน์
Club Veteran
« ตอบ #10 เมื่อ: 24/10/14, [15:23:52] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ตอนนี้ผมทำกรองใหม่ครับ ถังน้ำ50ลิตรใช้หินภูเขาไฟ2/3ของถังใส่ถ่านคารบอนไปถุงนึงครับแล้วก็ใยกรองสีฟ้าและใยกรองสีขาว ตัวสีขาวนี้จำเป็นรึปล่าวครับ เป็นแบบน้ำลงล่างขึ้นบน ผมไม่ได้ปิดฝาถังกรองคับไม่แน่ใจว่าควรต้องปิดรึปล่าว ส่วนเรื่องการล้างถังกรองผมยังล้างทุกอาทิตย์เพราะปลาแน่นขี้ปลาเยอะ ถ้าจะลองทิ้งไว้สักเดือนไม่ร฿้ปลาจะตายก่อนล้างกรองรึปล่าว ยังไงขอขอบคุณทุกคำแนะนำที่ผ้่านมาด้วยครับ ปล. ผมคิดว่าถ้าใช้ถัง50ลิตรตัวนี้ใส่แต่หินภูเขาไฟ น้ำล่างขึ้นบน แล้วมาปล่อยใส่อีกถังที่มีแต้่ใยสีฟ้าและใยสีขาว แบบบนลงล่าง จะเหมาะสมรึปล่าวครับ

1 ใยสีขาวเป็นใยละเอียดครับ ดักขี้ปลาได้ดี ต้องค่อยหมั่นซักล้าง แต่ซักได้ไม่บ่อย ก็จะเปื่อยยุ่ย ด้วยราคาแล้วเหมาะต่อการใช้แล้วทิ้ง ซื้อใหม่เอา
2 ปลาทองขี้เยอะ ระบบกรองขั้นแรก ควรจะเน้นไปที่กรองกายภาพ ดักขี้ปลาออกให้มากที่ สุด แล้วน้ำจากกรองกายภาพ ค่อยต่อไปเข้าระบบกรองขีวภาพ (หินภูเขาไฟ) อีกที เพราะการล้างหินทุกอาทิตย์ พวกแบคทีเรียก็ตายหมด แถมเหนื่อยแรงอีก
ดังนั้นถ้าจะทำกรองสองถัง ถังแรกแนะนำใหเน้นพวกใยละเอียดดักขี้ปลา ดักตะกอน พวกถ่ายคาร์บอนก็ใส่ถังนี้ ล้างทุกอาทิตย์ ถังสองใส่หินภูเขาไฟ ล้างเดือนละครั้งพอ

หรือไม่ก็ทำถังเดียว แบบ Wet Dry ที่แนะนำมาก็ได้นะ
 
jusup8 ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #11 เมื่อ: 19/01/15, [14:20:22] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

วันนี้มีข้อสงสัยนิดหน่อยอาจจะเป็นคำถามที่ง้ายง่ายแต่ผมสงสัยเหลือเกินไม่รู้จะหันไปพึ่งใคร คือว่าเรามีอากาศที่มาการไหลของน้ำจากกรองนอก จำเป็นต้องเปิดออกซิเจน เพิ่มอีกมั้ยครับ ตอนนี้ผมใช้อ๊อกตราเบนซ์แบบสองหัวเปิดตลอดยังไม่เคยลองปิด เห็นบางคนว่าอากาศจากถังกรองก็เพียงพอแล้ว คือถังกรองผมปล่อยน้ำมาผ่านท่อพีวีซีตั้งลงบ่อ ให้พ่นผิวน้ำและใต้น้ำ หันไปใส่ปั้มที่อยุ่อีกฝั่ง
ส่วนอีกข้อ คือบ่อปลาผมสองปียังไม่เคยขัดครับ มีตะใครน้ำที่พื้นนิดหน่อย สมควรจะลองขัดให้เกลี้ยงๆสักครั้งมั้ยครับ

ยังไงรบกวนชอบแนะนำด้วยนะครับ อ่านแล้วดูขำๆไปสักหน่อย ขออภัยด้วยครับ55
skyrider ออฟไลน์
Club Veteran
« ตอบ #12 เมื่อ: 22/01/15, [18:14:27] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

วันนี้มีข้อสงสัยนิดหน่อยอาจจะเป็นคำถามที่ง้ายง่ายแต่ผมสงสัยเหลือเกินไม่รู้จะหันไปพึ่งใคร คือว่าเรามีอากาศที่มาการไหลของน้ำจากกรองนอก จำเป็นต้องเปิดออกซิเจน เพิ่มอีกมั้ยครับ
ขึ้นอยู่กับเลี้ยงปลาหนาแน่นหรือไม่ครับ แต่ต้องอย่าลืมว่า อากาศในถังกรอง พวกแบคทีเรียในระบบกรองก็ต้องใช้ด้วยนะครับ

ตอนนี้ผมใช้อ๊อกตราเบนซ์แบบสองหัวเปิดตลอดยังไม่เคยลองปิด เห็นบางคนว่าอากาศจากถังกรองก็เพียงพอแล้ว คือถังกรองผมปล่อยน้ำมาผ่านท่อพีวีซีตั้งลงบ่อ ให้พ่นผิวน้ำและใต้น้ำ หันไปใส่ปั้มที่อยุ่อีกฝั่ง

ที่บ้านเลี้ยงปลาทอง 4 ตัว ก็ไม่เป่าอ้อค อาศัยให้น้ำจากถังกรอง ลงใส่ผิวน้ำ ให้น้ำกระจาย เกิดการแลกเปลี่ยนก้าซ
แต่การเปิดอ็อคทิ้งไว้ ก็ไม่เสียหายนะ ค่าไฟสำหรับอ็อค ไม่กี่ Watt เปรียบเสมือน เปิดแอร์ ให้ปลาอยู่

แต่ถ้าตามรูปที่โพสท์มา ผมแนะนำเอาสายอ็อค ไปปล่อยอีกด้าน (คนละด้านกับทางน้ำลง) กระจายทั่วๆ บ่อ

ส่วนอีกข้อ คือบ่อปลาผมสองปียังไม่เคยขัดครับ มีตะใครน้ำที่พื้นนิดหน่อย สมควรจะลองขัดให้เกลี้ยงๆสักครั้งมั้ยครับ
ยังไงรบกวนชอบแนะนำด้วยนะครับ อ่านแล้วดูขำๆไปสักหน่อย ขออภัยด้วยครับ55
ที่บ้านก็ไม่เคยขัดครับ เพียงแต่ถ้ารำคาญมากๆ ก็ดึงๆ ถอนๆ ไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22/01/15, [18:18:24] โดย skyrider »
jusup8 ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #13 เมื่อ: 24/01/15, [16:04:51] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ขัดไปแล้วครับตอนนี้ ค่อยสบายตาหน่อยครับ ส่วนเรื่องิออกซิเจนผมเอาลงหัวเดียวจากที่มีอยึุ่สองหัว คือมันไปรบกวนกระแสน้ำวนครับ ส่วนตอนนี้ปลาก็แข็งแรงดีช่วงนี้หน้าหนาว ก็พอถูพอไถไปได้ครับอาศัยให้อาหารน้อย เปลี่ยนน้ำทุกวัน ส่วนเรื่องวัสดุกรองก็คงยังโอเคอยุ่ คือ มีถังนึง หินภูเขาไฟหนึ่งกระสอบปุ๋ย และอีกใบ ถ่านคารบอนสามถุงใยแก้วหยาบ และใยแก้วละเอียด ผมไม่แน่ใจว่าหินภูเขาไฟจะใช้ได้น่านแค่ไหนคงต้องดูๆเรื่องวัสดุกรองไปเรื่อยๆกะว่าจะทำบ่ใหม่อีกบ่ครับ ทำจากอิฐประสาน ยังไงขอบคุณท่านสกายไรเดอร์ครับ ที่คอยตอบตลอดมา

จากศิษย์ น้อง 555 พบกันอีกครั้งในมูฟวี่ตัวใหม่ครับ
หน้า: 1   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: