คุยเรื่องตู้ทะเล

[battle]

เป็นแบบกรองล่างที่คิดเองครับ ขนาด 60x18นิ้ว จะไม่ได้ใช้ระบบน้ำลอดล้นเหมือนปกติ แต่ผมจะใช้ระบบน้ำไหลวนในทางระดับ คือไหลมาหน้าตู้-หลังตู้ สลับกันไป โดยกั้นกระจกขวางเต็มแผ่น แล้วเจาะช่องหรือรูให้น้ำไหลได้ครับ
ช่องที่ 1.เป็นท่อน้ำลง แล้วใส่สกิมเมอร์เล็กๆเอาไว้สำหรับปั่นโอโซน(ต่อตรงเข้าสกิม)
ช่องที่ 2.เป็นสกิมหลักตัวที่ 1(อาจเอาไว้แยกปลาเกเรด้วย)
ช่องที่ 3.เป็นสกิมหลักตัวที่ 2(อาจเอาไว้แยกปลาเกเรด้วย)
ช่องที่ 4.เป็นระบบกรองแบบ moving bed
ช่องที่ 5.เป็นฮีตเตอร์ หลอดยูวี และปั๊มน้ำขึ้นตู้

ไม่ทราบว่า ใช้ระบบแบบนี้ มันจะมีข้อดี-ข้อเสีย ต่างจากแบบน้ำลอดล้นของตู้ปกติมั้ยครับ รบกวนช่วยแนะนำด้วยครับ

[Romeo_Pop]

เฉพาะเรื่องอุปกรณ์นะครับ...มันดูซ้ำซ้อนในระบบทั้งสกิมเมอร์เอาดีๆสเปกสูงหน่อยตัวเดียวดีกว่าสเปกต่ำกว่าแต่หลายตัวครับ
UV หรือ Ozone ก็ใช้แค่ 1 อย่างก็พอไว้ช่องก่อนน้ำขึ้นถ้าอยากให้ทำงานมีประสิทธิภาพขึ้นก็ต่อท่อน้ำออกจากกระบอก
กลับคืนมาช่องก่อนหน้าที่จะดูดเข้ากระบอก UV ก็ได้แล้วระบบน้ำลอดถ้ากั้นได้ดีมันทำให้อุปกรณ์ต่างๆทำงานได้เต็มประสิทธิภาพกว่านะ

[battle]

ขอบคุณที่แนะนำครับพี่ มีเรื่องจะขอคำแนะนำเพิ่มเติมครับ
- เรื่องสกิมก็คงมีสกิมดีๆ ไว้เป็นหลักตัวนึงครับ อีกตัวนึงก็จะทยอยซื้อทีหลัง เอาไว้สำรองครับ ที่คิดไว้ก็คงซื้อ curve9 มาใช้เป็นหลักก่อน แล้วค่อยซื้อ curve7 มาเป็นตัวเสริมครับ มือสองทั้งหมด ฮ่าๆๆ
- เรื่องยูวี ผมอ่านมาว่าต้องใช้แบบที่หลอดแก้วเป็นควอทซ์ ถึงจะดีใช่มั้ยครับ ไม่ทราบว่าที่มีขายอยู่นี่ ยี่ห้ออะไรใช้ควอทซ์บ้างครับ มอง odyssea ไว้ครับ weipro ไม่ไหวราคาแพงไป atmanกับresun เห็นว่าไม่ใช่ควอทซ์ครับ
- เรื่องการโฟลวของน้ำ ผมคิดเอาเองว่าถ้าเป็นระบบลอดล้นปกติ มันก็จะมีน้ำบางส่วนที่ไม่ได้ผ่านอุปกรณ์บำบัด เลยเปลี่ยนเป็นแบบนี้ เพราะน้ำจะมาเป็นสาย ตามทางที่เราเว้นไว้ น่าจะผ่านอุปกรณ์ได้ทุกชิ้นครับ
รบกวนชี้แนะเพิ่มเติมด้วยครับขอบคุณครับ

[Romeo_Pop]

สินค้าเกือบทุกชนิดก็ You got what you pay ทั้งนั้นแหละครับเลือกสเปกให้ดีที่สุดเท่าที่อยู่ในงบเราพอครับ
ระบบกั้นกระจกน้ำเวียนถ่ายเททั่วครับไม่นั้นคงไม่ได้รับความนิยมมาเรื่อยๆ

[Tum...]

ผมนึกไม่ออกว่าถ้ามีแอนหรืออะไรไปเกาะช่องน้ำลงจะเกิดอะไรขึ้น น้ำกรองล่างทั้งหมดก็จะถูกดูดไปตู้หลักเกิดอะไรขึ้นไม่อยากจะคิด เพราะช่องทั้งงหมดที่ว่ามามันเก็บน้ำไม่ได้เพราะมันอยู่ในแนวตั้ง คงนึกภาพออกนะครับ แต่ถ้าเป็นแบบปกติถ้ามีไรไปอุดท่อนำ้ลง กว่าตู้หลักจะล้น ช่องปั๊มน้ำขึ้นก็คงจะแห้งก่อนเกิดอุทกภัย เพราะน้ำไม่ไหลลงมาเพิ่ม ผมว่านี่แหละครับ....ความแตกต่าง...ผิดถูกประการใดรอผู้รู้มาเสริมครับ

[Lolicon]

คิดเหมือนสมัยแรกๆเลยต้องเยอะไว้ก่อน
สุดท้ายรื้ออกหมดเหลือแค่ กรองใยแก้ว
หินเป็นก้อนใหญ่ กับสกิมเม่อร์ตัวเดียว

ก็เห็นที่ร้านเขาเลี้ยงสวยๆสมบูรณ์
เขาเปิดตู้กรองล่างให้ดู ก็ใช้แค่นี้ ที่เหลือกิเลศล้วนๆ

ทีแรกคิดว่าสกิมแค่จำเป็น แต่ถึงวันนี้ สกิมสำคัญที่สุด
มูฟวิ่งเบดอะไรอย่าไปสน น้อยไปไม่เวิรค์

[bakapuchino]

อุปกรณ์ยิ่งเยอะก็ยิ่งเสียเวลาทำความสะอาดครับ พอเบื่อๆปล่อยไว้ก็กลายเป็นแหล่งหมักหมมของเสีย เปลืองไฟอีกตะหาก

ปล่อยโล่งๆไป ทำความสะอาดง่ายดี กัดฟันซื้อสกิมเมอร์ดีๆ ใหญ่ๆ สักตัวก็พอแล้ว

เอาเวลาไปดูปลาดูก้นตู้ดีกว่า อย่าเสียเวลากับการทำความสะอาดกรองล่างกับอุปกรณ์ที่รกเกินความจำเป็นเลย

[pongs]

ออกความเห็นในส่วน มูฟวิ่งเบด นิดนึงครับ เพราะใช้ในบ่อปลาคราฟอยู่

ใช้เวลานานในการ set ตัวต้องรอ ไบโอฟิล์ม เกาะก่อน ซึ่งใช่เวลา 3-6 เดือน
กว่าระบบจะเข้าที่ ใข้ลมเยอะ กับตู้ทะเลน่าจะไม่เหมาะ เพราะน้ำกระเด็นเลอะเทอะแน่

ที่เคยเห็นทำคือ เอาขวดใส่ ดักท่อน้ำลง ไม่ต้องใช้ป๊มลม

แนะนำใช้ระบบเรฟู จะดีกว่าผมเอาไปใช้กับระบบบ่อปลาคราฟผม เห็นผลเร็วกว่า
น้ำใส ปลากินดีกว่าเดิมที่ใช้มูฟวิ่งเบด อย่างเดียว

[Puzzle]

เปลี่ยนใยกรองบ่อยๆ หรือล้างถุงกรอง
เอาค่าสกิมหลายๆตัวมารวมไว้ตัวดีๆสักตัว
ปั๊มน้ำขึ้น เท่านี้ก็พอ
พื้นที่ที่เหลือก็เผื่อจำเป็นต้องใส่อุปกรณ์อย่างอื่น

[battle]

ขอบคุณครับสำหรับทุกๆคำแนะนำ สรุปว่าเอาแบบเดิมดีสุดแล้วสินะครับ 555

[skyrider]

เปลี่ยนช่อง Moving Bed เป็น Skimmer ดีกว่าครับ ตัว Moving Bed ก็ไม่ได้ช่วยในการลดไนเตรท แถมต้องใช้ปั้มลมแรงๆ
ดังนั้นใช้ Skimmer คุ้มค่าไฟกว่า

[Mixzer]

  ไม่ต้องกังวลเรือ่งน้ำที่ลงมาแต่ล่ะช่องจะไม่ผ่านระบบบำบัดมากนะครับ ถ้าบนตุ้มีกระแสน้ำที่ดี น้ำที่ตกลงมายังไงมันก็จะผ่านอุปการณ์ต่างๆ ครับ ตู้ไม่ได้ใหญ่มากจนจะมีน้ำนิ่งได้ ยังไงมันก็ผ่าน ไม่รอบนี้ก็รอบหน้าครับ