Aqua.c1ub.net
*
  Tue 02/Dec/2025
หน้า: 1   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ถามเรื่องหลอดแสงยูวีในโคม led หน่อยครับ  (อ่าน 3351 ครั้ง)
Common-Akkie ออฟไลน์
Club Follower
« เมื่อ: 27/09/14, [14:20:14] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ


คือว่าโคมแบบfull spectrum อ่าครับ มันจะมีหลายช่วงสี(หลายแสง)ไช่ไหมครับส่วนไหญ่ที่มีก็ขาว แดง เขียว uv บลู แล้วทีนี้โคมแบบนี้เบสิกมันจะมี2 แชนแนล คือ ชุดไฟขาวกับไฟฟ้า

พอดีผมดูหลายรุ่นที่หน้าตาคล้ายๆกัน ความต่างมันจะอยู่ที่ตัวuv นี่แหละ คือบางรุ่นก็เอาไว้กับชุดไฟขาว(ซึ่งทุกรุ่นไฟชุดขาวจะประกอบไปด้วยไฟขาวย่านต่างๆ ไฟแดง ไฟเขียว ไม่ต่างกัน)แต่บางรุ่นก็เอา uv ไว้กับชุดไฟบลู(ซึ่งประกอบไปด้วยไปบลูย่านต่างๆ)

คำถาม1 คือ ปกติทั่วฟไป uv ควรอยู่แชนแนลไหนครับ ขาวหรือฟ้า

คำถาม2 คือ ท่าอิงแบบการเปิดของผมคือครึ่ง ชม แรกจะเปิดเฉพาะไฟบลูก่อน1 ชม(วอมอั้พ) ต่อมาอีก4ชมจะเปิดทั้ง2ชุดผสมกันขาวฟ้า(สมมุตเป็นช่วงกลางวัน) อีก1 ชมสุดท้ายจึงเปิดเฉพาะไฟบลู(เตรียมเข้านอน) รวมเป็น 6 ชม แบบนี้ uv ควรอยู่แชนแนลไหนครับ ขาวหรือฟ้า

หน้าตาโคมก็ประมานนี้ครับ ดิมได้แบบแมนนวล เปิดปิดได้2ชุดฟ้ากับขาว full spectrum 165 w เพื่อนๆว่าคุณภาพน่าไช้ไหมครับ ดีรึป่าว ราคามันไม่ค่อยแพงดีหน้าตาเรียบร้อย ฟังชั่นก็พอครบถ้วนไม่เทพมากเมือเทียบกับไฟระดับเทพที่ปรับออโต ตั้งเวลาได้

[/url

][url=https://upic.me/show/52889520]






ถามเท่านี้ก่อน ขอบคุณครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27/09/14, [14:23:22] โดย Common-Akkie »
bill2517 ออฟไลน์
Club Champion
« ตอบ #1 เมื่อ: 27/09/14, [15:10:24] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ไม่ได้มาช่วยตอบนะครับ  dea02

แต่มาขอถามเพิ่มเติมหน่อย ความรู้ยังไม่มากเพียงพอที่จะตอบ

คือยังสงสัยเรื่องของ UV ว่ามันมีผลกับก้นตู้ยังไงบ้างครับ เคยอ่านมาบ้าง แต่ยังไม่ชัดเจนเพียงพอ ความรู้สึกในใจคือมันยังคลุมเครืออยู่

ใครพอมีความรู้ รบกวนช่วยแชร์ให้ทราบหน่อย

เมื่อรู้หน้าที่ของ UV ต่อปะการังแล้ว จะได้จัดถูกครับ ว่าควรลงไฟไว้ที่ CH. ไหน และ เปิดยังไง ใช้งานแบบไหนจึงเหมาะสมครับ

(ปล.ไม่ได้อมภูมินะ ไม่รู้จริงๆ และ อยากรู้เพิ่มครับ)
Common-Akkie ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #2 เมื่อ: 27/09/14, [15:43:07] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เหมือนเคยได้ยินมาว่าท่าโคมที่มีย่านแสงยูวีหรือ ultra violet (ท่าไม่ผิดน่าจะประมาณ420)ปะการังจะสีสดสวยและจัดจ้านขึ้นเนื่องจากจะขับสารหรือเม็ดสีสักอย่างมาสู้และป้องกันตัวจากรังสียูวีนะครับ คิดว่าคล้ายๆคนจะผิวสีเข้มขึ้นเพราะโดนแสงแดดเยอะ ในทางกลับกันท่าโคมที่ไมีมีหลอดยูวีก้นตู้ก็จะสังเคราะก์แสงอย่างเดียวไม่สร้างเม็ดสีหรือสารตัวที่ไช้เพื่อป้องกันตัวจากรังสียูวีส่งผลทำไห้ก้นตู้ยังบานปกติแต่สีจะไม่สดเท่าไร จะชืดๆแต่ก็ไม่ฟอกนะ (ซึ่งตอนนี้ผมกำลังมีปัญหาเพราะโคมที่ได้มาไหม่เช็คดูแล้วปรากดว่าย่านแสงค่อนข้างครบขาดแต่ย่านแสงยูวี สังเกตุแล้วก้นตู้ชืดไปมาก ไม่เปล่งปลั่งเหมือนแต่ก่อน)

ถูกผิดประการไดรอผู้รู้มาแก้อีกทีครับ

Lolicon ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #3 เมื่อ: 27/09/14, [16:32:35] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เปลี่ยนมาใช้ขาวฟ้าเพียวๆ ก้นตู้ตอบสนองด้วยการเปลี่ยนสี  มันน่าจะมีผลนะ
Common-Akkie ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #4 เมื่อ: 27/09/14, [16:46:26] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เปลี่ยนมาใช้ขาวฟ้าเพียวๆ ก้นตู้ตอบสนองด้วยการเปลี่ยนสี  มันน่าจะมีผลนะ
เปลียนไปไนทางที่ดีหรือตรงข้ามครับ
Lolicon ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #5 เมื่อ: 27/09/14, [21:19:29] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เปลียนไปไนทางที่ดีหรือตรงข้ามครับ
n032 n032 n032 n032 n032
bill2517 ออฟไลน์
Club Champion
« ตอบ #6 เมื่อ: 29/09/14, [10:25:01] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

สมัยก่อน ตอนมีLEDใหม่ๆ
เคยลองใช้ ขาวกับฟ้า (ฟ้ารู้สึกจะประมาณ460-470nmถ้าจำไม่ผิด ขาว20000k)
ก้นตู้ก็บานดี และ โต+ลามใช้ได้ แต่เรื่องสีตอนที่ใช้ไม่ได้สังเกตุว่ามันซีดลง
พอได้ของชิ้นใหม่มาลงตุ้ เทียบกันกับก้นตู้เดิมปุ๊บ รู้สึกแตกต่างเรื่องสีอย่างเห็นได้ชัดเจนครับ (ไม่ได้คิดไปเองนะ)

พอเริ่มมี LEDแบบ3สี (ขาวแดงฟ้า) เรื่องของสีก้นตู้พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น สีเริ่มดีกว่าใช้แค่ขาว+ฟ้า แต่ยังเทียบไม่ได้กับ MH เรื่องของสีปะการัง (ในสมัยนั้น)

พอเริ่มมี FullSpectrum เรื่องสีดีขึ้นกว่าอันเก่าอีก(แระ)  แต่ในตัวFullSpectrumที่ใช้ช่วงนั้นไม่ได้เห็นหลอดUVติดมาด้วยเลยยังไม่รู้ว่าถ้ามีUV สีจะดีกว่า FullSpectrum หรือเปล่า
เลยเป็นเหตุให้ยังไม่รู้ว่า UV กับเรื่องของสีปะการังยังผลต่อกันมาก/น้อย ขนาดไหน หากเปรียบเทียบกับFullSpectrumที่ไม่มีหลอดUV

แต่ส่วนตัวคิดว่า LED พัฒนามาถูกทางแล้ว

ปล. 420nm ไม่น่าจะใช่ UV นะครับ น่าจะเป็นแสงสีม่วงมากกว่า   ถ้าเป็นหลอดUVน่าจะประมาณ 390nm(เดาเอา)

ปล. (อีกที)  ใครพอมีประสบการณ์หรือข้อมูลเกี่ยวกับ UVมีผลกับสีปะการังอย่างไรบ้าง รบกวนช่วยแชร์ด้วยนะครับผม
K"BankRetro ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #7 เมื่อ: 29/09/14, [20:16:02] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

UV คือช่วงแสงที่ 395-410 ครับ บ้านเราจริงๆนั้นที่ DIY อยู่ยังไม่เห็นช่วงแสงนี้(แต่ทราบว่าเจ้านึงมี แต่ราคาค่อนข้างสูง) มีแต่ 420 พอใช้แทนได้แต่ต้องเพิ่มจำนวน  [on_026]
ณชช โคม ปะการัง ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #8 เมื่อ: 30/09/14, [23:25:08] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ขอตอบจากบทความเก่าๆ หากมีข้อผิดพลาดประการณ์ใดขออภัยด้วยนะครับ

แสงยูวี (UV light) สิ่งจำเป็นสำหรับปะการัง หรือ แค่ลูกเล่นสนุกๆ ในโคมไฟ โดย ณชช โคม ปะการัง

เป็นที่ทราบดีอยู่แล้วว่า แสงยูวี หรือ รังสีเหนือม่วงนั้นเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อส่งมีชีวิตที่รูปแบบ ตั้งแต่การเผาไหม้ผิวหนังเมื่อแสงยูวีมาพร้อมกับรังสีความร้อนจากดวงอาทิตย์ กลไกการเหนี่ยวนำโครโมโซมให้เกิดมิวเทชั่นจนนำไปสู่มะเร็ง รวมถึงสิ่งของบางชนิด อย่างเช่น พลาสติกที่ถูกย่อยโครงสร้างพันธะภายในโดยแสงยูวี ความรุนแรงและความอันตรายแบ่งได้ตามระดับช่วงคลื่น (wavelength) ต่างๆ โดยสามารถแบ่งออกเป็นได้ 3 ระดับ คือ UV-A UV-B และ UV-C

UV-A ที่ความยาวช่วงคลื่นระหว่าง 315-400 นาโนเมตร

แสงในช่วงคลื่น UV-A เป็นช่วงแสงที่มีมากในธรรมชาติ หรือเรียกว่าเป็นแสงแบบสามัญเลยก็ว่าได้ ร่างกายของมนุษย์สามารถตอบสนองด้วยการสร้างเม็ดสีขึ้นมาในเวลาที่ไปอาบแดดตามชายหาด หรือลักษณะผิดคล่ำเมื่อออกไปในสถานที่ที่แดงแรงๆ ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดสภาวะผิวไหม้แดดขึ้นได้ ซึ่งในชั้นบรรยากาศ atmosphere สามารถป้องกันการผ่านทะลุมาได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

UV-B  ที่ความยาวช่วงคลื่นระหว่าง 280-315 นาโนเมตร

ความความรุนแรงและอันตรายยกให้เจ้า UV-B นี้ไปเลย ความเข้มข้นของพลังงานในช่วงคลื่นนี้ สามารถส่งผลให้เกิดกลไกการเหนี่ยวนำโครโมโซมให้เกิดมิวเทชั่นจนนำไปสู่มะเร็ง หรือเรียกง่ายๆว่า ทำให้พันธะ DNA ภายในเซลล์ของสิ่งมีชีวิตอ่อนแอลงนั้นเอง ผลก็คือกลายพันธุ์ เกิดความไม่สมบูรณ์ของเซลล์

UV-C  ที่ความยาวช่วงคลื่นระหว่าง 200-280 นาโนเมตร

ที่สุดของความรุนแรงและอันตรายมากกว่า UV-A และ UV-B ยกให้เจ้า UV-C เรียกได้ว่าหายนะของเหล่าสิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลก เพียงแค่ได้รับเพียงน้อยนิด ก็ถูกทำลายอย่างราบคาบ หรือหลงเหลืออยู่เพียงน้อยนิด แม้กระทั้งเจ้าสิ่งมีชีวิตเหล่าจุลชีพก็ไม่เหลือหลอด  UV-C จะพบใน หลอดไฟฆ่าเชื้อโรค (germicidal lamps) และในเครื่องทำสเตอไลน์แบบยูวี (UV sterilizers) ตามโรงพยาบาลเป็นที่นิยมใช้กัน

แล้วแสงยูวีจำเป็นต่อปะการังไหม?

จำเป็นอย่างยิ่ง แต่จะต้องให้ในความเข้มแสงที่เหมาะสม และช่วงเวลาที่พอเหมาะ ในโคม Metal halide ที่นิยมใช้มากันทุกยุคทุกสมัยในวงการตู้ทะเล จะปลดปล่อยแสงยูวีออกมาจากสภาวะ Electric Arc ของไส้หลอด ส่งผลกับพวกปะการังโครงแข็งทำให้เกิดสภาวะการฟองสีของพวกสาหร่าย Zooxanthellae ซึ่งไม่สามารถปรับตัวตามแสง เมื่อไม่มีสาหร่ายกลุ่มนี้อยู่จึงทำให้สีของพวกโครงแข็งดูสดขึ้น เพราะหามีสาหร่ายพวกนี้อยู่จะทำให้ปะการังโครงแข็งมีสีคล้ำนั้นเอง  โดยธรรมชาติของปะการังต้องการแหล่งพลังงานจากแสงอาทิตย์ เพื่อใช้ในกระบวนการสร้างอาหารเพื่อเลี้ยงตัวเอง และส่วนมากปะการังจะอยู่บริเวณน้ำตื้น ทำให้ได้รับแสงยูวีทั้ง UV-A และ  UV-B เป็นที่แน่นอนว่าแสงยูวีทั้งสองชนิดสามารถสร้างความเสียหายในระดับเซลล์ และเป็นอันตรายต่อเนื้อเยื่อของปะการังโดยตรง ปะการังจะเกิดกระบวนการป้องกันตัวเอง โดยสร้างกลุ่มเม็ดสีขึ้นมาเพื่อป้องกันตัวเองจากการทำลายโดยแสงยูวี มันเกิดขึ้นในพวกปะการังของอ่อนทั่วไป แสงยูวีจึงเป็นการกระตุ้นให้ปะการังกลุ่มของอ่อนมีสีสันสดมากขึ้น หลักการคล้ายๆก็คนอาบแดด ถ้าผิวถูกแสงยูวีเผา หรือเกิดการไหม้แดด ร่างกายก็จะตอบสนองโดยการสร้างเม็ดสีขึ้นมาปกป้องตัวเซลล์เอง ส่วนในพวกโครงแข็งก็เช่นกันที่จะสร้างส่วนปกป้องแสงยูวีขึ้นมา เพื่อลดการทำลายและความอันตรายของแสงยูวีลง แต่จะยอมให้แสงบางส่วนในช่วงคลื่นที่ปลอยภัยเข้าสู่ตัวเซลล์ได้เพื่อให้สาหร่าย Zooxanthellae ภายในเซลล์ปะการังสามารถสร้างอาหารได้ จากกระบวกการสังเคราะห์ด้วยแสงนั้นเอง ส่วน UV-C เราจะไม่กล่าวถึง เพราะมันได้ถูกดูดซับและสะท้อนกลับจากชั้นโอโซน แต่ถ้าหากหลุดรอดลงมา ปะการังจะเกิดการฟองขาวและตายในที่สุด ทั้งของอ่อนและโครงแข็งทุกชนิด เพราะปะการังไม่สามารถตอบสนองทันการณ์ต่อการป้องกันรังสีชนิดนี้ รวมถึงสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นๆ ด้วย

พูดถึงโคม Metal halide แล้ว ขอเข้าเรื่องพูดถึงหลอด LED กันบ้าง ที่กำลังเป็นที่นิยมกัน ทั้งในเรื่องแสงสีที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ ความร้อนที่น้อยกว่า และค่าไฟที่ประหยัดมากกว่าเล็กน้อย ปกติแล้วในหลอด LED จะให้แสงอยู่ในช่วงคลื่น 400-700 นาโนเมตร ซึ่งเป็นช่วงคลื่นปกติที่ตามนุษย์สามารถมองเห็นได้ ซึ่งในหลอด LED นั้นจะไม่ปลดปล่อยแสงยูวีทุกชนิดเลยแม้แต่น้อย ลองสังเกตหลอดไฟ LED ว่าทำไมถึงไม่มีแมลงตอม เพราะมันไม่ปลดปล่อยแสงยูวีนั้นเอง แล้วจะทำอย่างไรที่จะใช้ LED เลี้ยงปะการังแล้วให้มีแสงยูวีด้วย คำตอบคือ หลอด UV LED ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้แสงยูวีโดยเฉพาะ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม?  ถึงต้องมีหลอด UV อยู่ด้วย แล้วหลอดที่ใช้ก็ต้องเป็น UV-A ที่อยู่ในช่วงคลื่น 395-400 นาโนเมตร ให้แสงสีม่วงฟ้าจางๆ เพื่อให้ไฟ LED สามารถเลี้ยงปะการังได้ผลดีกว่าไฟปกติที่มีขายตามท้องตลาด ช่วยในเรื่องขับสีสันปะการังให้ดูสดใสขึ้น และช่วยให้ปะการังสามารถสร้างอาหารจากกระบวนการสังเคราะห์แสงได้ดีขึ้น
Common-Akkie ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #9 เมื่อ: 01/10/14, [00:37:08] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ขอตอบจากบทความเก่าๆ หากมีข้อผิดพลาดประการณ์ใดขออภัยด้วยนะครับ

แสงยูวี (UV light) สิ่งจำเป็นสำหรับปะการัง หรือ แค่ลูกเล่นสนุกๆ ในโคมไฟ โดย ณชช โคม ปะการัง

เป็นที่ทราบดีอยู่แล้วว่า แสงยูวี หรือ รังสีเหนือม่วงนั้นเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อส่งมีชีวิตที่รูปแบบ ตั้งแต่การเผาไหม้ผิวหนังเมื่อแสงยูวีมาพร้อมกับรังสีความร้อนจากดวงอาทิตย์ กลไกการเหนี่ยวนำโครโมโซมให้เกิดมิวเทชั่นจนนำไปสู่มะเร็ง รวมถึงสิ่งของบางชนิด อย่างเช่น พลาสติกที่ถูกย่อยโครงสร้างพันธะภายในโดยแสงยูวี ความรุนแรงและความอันตรายแบ่งได้ตามระดับช่วงคลื่น (wavelength) ต่างๆ โดยสามารถแบ่งออกเป็นได้ 3 ระดับ คือ UV-A UV-B และ UV-C

UV-A ที่ความยาวช่วงคลื่นระหว่าง 315-400 นาโนเมตร

แสงในช่วงคลื่น UV-A เป็นช่วงแสงที่มีมากในธรรมชาติ หรือเรียกว่าเป็นแสงแบบสามัญเลยก็ว่าได้ ร่างกายของมนุษย์สามารถตอบสนองด้วยการสร้างเม็ดสีขึ้นมาในเวลาที่ไปอาบแดดตามชายหาด หรือลักษณะผิดคล่ำเมื่อออกไปในสถานที่ที่แดงแรงๆ ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดสภาวะผิวไหม้แดดขึ้นได้ ซึ่งในชั้นบรรยากาศ atmosphere สามารถป้องกันการผ่านทะลุมาได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

UV-B  ที่ความยาวช่วงคลื่นระหว่าง 280-315 นาโนเมตร

ความความรุนแรงและอันตรายยกให้เจ้า UV-B นี้ไปเลย ความเข้มข้นของพลังงานในช่วงคลื่นนี้ สามารถส่งผลให้เกิดกลไกการเหนี่ยวนำโครโมโซมให้เกิดมิวเทชั่นจนนำไปสู่มะเร็ง หรือเรียกง่ายๆว่า ทำให้พันธะ DNA ภายในเซลล์ของสิ่งมีชีวิตอ่อนแอลงนั้นเอง ผลก็คือกลายพันธุ์ เกิดความไม่สมบูรณ์ของเซลล์

UV-C  ที่ความยาวช่วงคลื่นระหว่าง 200-280 นาโนเมตร

ที่สุดของความรุนแรงและอันตรายมากกว่า UV-A และ UV-B ยกให้เจ้า UV-C เรียกได้ว่าหายนะของเหล่าสิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลก เพียงแค่ได้รับเพียงน้อยนิด ก็ถูกทำลายอย่างราบคาบ หรือหลงเหลืออยู่เพียงน้อยนิด แม้กระทั้งเจ้าสิ่งมีชีวิตเหล่าจุลชีพก็ไม่เหลือหลอด  UV-C จะพบใน หลอดไฟฆ่าเชื้อโรค (germicidal lamps) และในเครื่องทำสเตอไลน์แบบยูวี (UV sterilizers) ตามโรงพยาบาลเป็นที่นิยมใช้กัน

แล้วแสงยูวีจำเป็นต่อปะการังไหม?

จำเป็นอย่างยิ่ง แต่จะต้องให้ในความเข้มแสงที่เหมาะสม และช่วงเวลาที่พอเหมาะ ในโคม Metal halide ที่นิยมใช้มากันทุกยุคทุกสมัยในวงการตู้ทะเล จะปลดปล่อยแสงยูวีออกมาจากสภาวะ Electric Arc ของไส้หลอด ส่งผลกับพวกปะการังโครงแข็งทำให้เกิดสภาวะการฟองสีของพวกสาหร่าย Zooxanthellae ซึ่งไม่สามารถปรับตัวตามแสง เมื่อไม่มีสาหร่ายกลุ่มนี้อยู่จึงทำให้สีของพวกโครงแข็งดูสดขึ้น เพราะหามีสาหร่ายพวกนี้อยู่จะทำให้ปะการังโครงแข็งมีสีคล้ำนั้นเอง  โดยธรรมชาติของปะการังต้องการแหล่งพลังงานจากแสงอาทิตย์ เพื่อใช้ในกระบวนการสร้างอาหารเพื่อเลี้ยงตัวเอง และส่วนมากปะการังจะอยู่บริเวณน้ำตื้น ทำให้ได้รับแสงยูวีทั้ง UV-A และ  UV-B เป็นที่แน่นอนว่าแสงยูวีทั้งสองชนิดสามารถสร้างความเสียหายในระดับเซลล์ และเป็นอันตรายต่อเนื้อเยื่อของปะการังโดยตรง ปะการังจะเกิดกระบวนการป้องกันตัวเอง โดยสร้างกลุ่มเม็ดสีขึ้นมาเพื่อป้องกันตัวเองจากการทำลายโดยแสงยูวี มันเกิดขึ้นในพวกปะการังของอ่อนทั่วไป แสงยูวีจึงเป็นการกระตุ้นให้ปะการังกลุ่มของอ่อนมีสีสันสดมากขึ้น หลักการคล้ายๆก็คนอาบแดด ถ้าผิวถูกแสงยูวีเผา หรือเกิดการไหม้แดด ร่างกายก็จะตอบสนองโดยการสร้างเม็ดสีขึ้นมาปกป้องตัวเซลล์เอง ส่วนในพวกโครงแข็งก็เช่นกันที่จะสร้างส่วนปกป้องแสงยูวีขึ้นมา เพื่อลดการทำลายและความอันตรายของแสงยูวีลง แต่จะยอมให้แสงบางส่วนในช่วงคลื่นที่ปลอยภัยเข้าสู่ตัวเซลล์ได้เพื่อให้สาหร่าย Zooxanthellae ภายในเซลล์ปะการังสามารถสร้างอาหารได้ จากกระบวกการสังเคราะห์ด้วยแสงนั้นเอง ส่วน UV-C เราจะไม่กล่าวถึง เพราะมันได้ถูกดูดซับและสะท้อนกลับจากชั้นโอโซน แต่ถ้าหากหลุดรอดลงมา ปะการังจะเกิดการฟองขาวและตายในที่สุด ทั้งของอ่อนและโครงแข็งทุกชนิด เพราะปะการังไม่สามารถตอบสนองทันการณ์ต่อการป้องกันรังสีชนิดนี้ รวมถึงสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นๆ ด้วย

พูดถึงโคม Metal halide แล้ว ขอเข้าเรื่องพูดถึงหลอด LED กันบ้าง ที่กำลังเป็นที่นิยมกัน ทั้งในเรื่องแสงสีที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ ความร้อนที่น้อยกว่า และค่าไฟที่ประหยัดมากกว่าเล็กน้อย ปกติแล้วในหลอด LED จะให้แสงอยู่ในช่วงคลื่น 400-700 นาโนเมตร ซึ่งเป็นช่วงคลื่นปกติที่ตามนุษย์สามารถมองเห็นได้ ซึ่งในหลอด LED นั้นจะไม่ปลดปล่อยแสงยูวีทุกชนิดเลยแม้แต่น้อย ลองสังเกตหลอดไฟ LED ว่าทำไมถึงไม่มีแมลงตอม เพราะมันไม่ปลดปล่อยแสงยูวีนั้นเอง แล้วจะทำอย่างไรที่จะใช้ LED เลี้ยงปะการังแล้วให้มีแสงยูวีด้วย คำตอบคือ หลอด UV LED ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้แสงยูวีโดยเฉพาะ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม?  ถึงต้องมีหลอด UV อยู่ด้วย แล้วหลอดที่ใช้ก็ต้องเป็น UV-A ที่อยู่ในช่วงคลื่น 395-400 นาโนเมตร ให้แสงสีม่วงฟ้าจางๆ เพื่อให้ไฟ LED สามารถเลี้ยงปะการังได้ผลดีกว่าไฟปกติที่มีขายตามท้องตลาด ช่วยในเรื่องขับสีสันปะการังให้ดูสดใสขึ้น และช่วยให้ปะการังสามารถสร้างอาหารจากกระบวนการสังเคราะห์แสงได้ดีขึ้น

410 mn กับ 420 mn ใช่ หลอดแสง uv ป่าวครับ ท่าไม่ไช่ไช้แทนได้ไหมครับ เพราะเท่าที่ดู มันไม่มี 400 อ่าครับ ไกล้เคียงสุดก็ 410/420
bill2517 ออฟไลน์
Club Champion
« ตอบ #10 เมื่อ: 01/10/14, [10:21:31] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ขอบคุณคุณ ณชช โคม ปะการัง นะครับสำหรับคำตอบ
ถามเพิ่มเติมนะครับ
1. ควรมี UV กี่หลอดในโคม สำหรับตู้ 24 / 30 / 36 / 48
2. ชั่วโมงการเปิดหลอด UV ผมเดาเอาว่าน่าจะเท่ากับ/หรือน้อยกว่า จำนวนชั่วโมงการเปิดไฟ ถูกต้องไม๊ครับ


410 mn กับ 420 mn ใช่ หลอดแสง uv ป่าวครับ ท่าไม่ไช่ไช้แทนได้ไหมครับ เพราะเท่าที่ดู มันไม่มี 400 อ่าครับ ไกล้เคียงสุดก็ 410/420
เป็น Violet ครับ ไม่ใช่ UV (Ultra Violet)
ส่วนทำไมจึงมี 410 กับ 420 ผมเดาเอาจากพื้นฐานการสังเคราะห์แสงของพืช(รวมถึงซูซานฯ)
ช่วงPeak ของคลื่นแสงที่พืชต้องการที่สุดคือ 432nm
ทีนี้ LED อาจจะไม่มี(หรือมี)หลอดที่ให้ความยาวช่วงคลื่นนี้
จึงทดแทนด้วยหลอด 410 / 420 / 450 / 470 / 620 / 660  nm เพื่อให้ได้ช่วงคลื่นที่ใกล้เคียงกับ 432nm มากที่สุดครับ
หากดูจากกราฟ หลอดที่มีช่วงคลื่นด้านบน แม้จะไม่ใช่ช่วง Peak ที่ตรงเป๊ะที่สุด แต่ก็พืชยังต้องการอยู่เช่นกัน

ดังนั้นขอตอบ จากคำถามใน Rep.cแรกสุดคือ
คำถามที่1. หลอดUV ควรอยู่ใน CH.ฟ้าครับ
คำถามที่2. ลักษณะการเปิดแบบนี้ หากเป็นผม ผมจะจัดหลอด UV ให้อยู่ใน CH.ขาวครับ เพราะตามข้อมูลที่คุณณชช โคม ปะการัง ให้มา การได้รับ UV ที่มากเกินไป ย่อมไม่ส่งผลดีกับก้นตู้ครับ
หน้า: 1   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: