http://clubaquaplant.org/forum/index.php?topic=24074.0
หลังจากเปรี้ยวแยกเลี้ยงกุ้งถ้วยละตัวได้ 2 อาทิตย์ ก็เริ่มเกิดปัญหาคะ ตอนแรกลูกกุ้งทยอยตายวันละตัว
จนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ไปเดินละลายทรัพย์ที่ Platinum Mall กลับมาถึงบ้านก็ดึกแล้ว มาดูถ้วยลูกกุ้ง แม่มมมตายไปเกือบ 10 ตัวคะ
แถมลูกกุ้งที่ตายส่วนใหญ่เป็นลูกกุ้งที่เพิ่งลอกคราบ หรือตายขณะที่กำลังลอกคราบคะ
สันนิฐานว่าสาเหตุมาจากถ้วยเล็ก น้ำน้อย ทำให้อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงง่าย
แล้วตอนกลางวันเราไม่อยู่บ้าน เพราะฉะนั้นก็จะไม่ได้เปิดแอร์ทิ้งไว้ (บ้านไม่รวยถึงขั้นเปิดแอร์ให้กุ้งอยู่ได้) ทำให้อุณภูมิสูงขึ้น
พอกลับมาบ้านเราก็เปิดๆ ปิดๆ แอร์อยู่ตลอด (เจ้าของมันติงต๊อง เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว) ทำให้อุณหภูมิแกว่ง
เลยทำให้ลูกกุ้งที่เพิ่งลอกคราบ หรือกำลังลอกคราบซึ่งอ่อนแออยู่แล้วปรับตัวไม่ทัน ชิงลาโลกไปเฝ้ายมบาลก่อนวัยอันควร
ขอไม่ถ่ายกองศพลูกกุ้งมาให้ดูนะคะ มันสะเทือนใจ (เมื่อคิดว่าถ้ามันโตแล้วจะเป็นเงินเท่าไหร่)

สภาพตู้อนุบาลลูกกุ้งอันใหม่คะ
คืนนั้นเราก็เลยเอาตู้ 14" มาแล้วก็เติมน้ำให้เต็มตู้ ใส่กรองแขวนตัวเล็ก เอาฟองน้ำยัดไว้ในท่อกันมันดูดลูกกุ้ง
แล้วก็เอาสาหร่ายหางกระรอกที่ซื้อตุนเอาไว้ ไปล้างแล้วล้างอีกให้สะอาด แล้วอัดลงไปในตู้เยอะๆ
ใส่อ๊อกซิเจน (อีกหนึ่งสาเหตุที่คิดว่ากุ้งตายเพราะไม่มีอ๊อก) แล้วก็ขยี้ๆ แคลเซียมแบบก้อนลงไปในน้ำ แล้วก็คนๆ ให้มันกระจายทั่วกัน
แถมด้วยแคลเซียมแบบหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ กระจายอีกจำนวนหนึ่ง หยดวิตามินกุ้งลงไป 5 หยด คนให้เข้ากับน้ำอีกที
หยอดไส้เดือนน้ำลงไปอีก 1 กระจุก และเตตร้าบิตครึ่งช้อน จากนั้นก็ปล่อยลูกกุ้งเดนตายลงไปในตู้

ตู้ไม่ได้สกปรกนะคะ มันเป็นแคลเซียม
ลูกกุ้งมันคงตะลึงพรึงเพริดกับความกว้างใหญ่ไพรศาล และจำนวนพี่น้องมากมายที่มันไม่เคยพบหน้ากันมาก่อนอ่ะคะ
มันก็เดินทะแลดแพร่ด เดินสำรวจไปทั่วตู้ บางตัวก็ไต่สาหร่ายหางกระรอกเล่น บางตัวก็สวมสัญชาตญาณเสือ ตรงเข้าขยุ้มกองไส้เดือนทันที
เรานั่งเฝ้าจนเห็นว่าลูกกุ้งทั้งหลายอยู่สุขกันดี แล้วก็เข้านอนไปตอนประมาณตี 5 ได้คะ (คนอื่นเลี้ยงมันลำบากแบบนี้ไหมว่ะเนี่ยะ)

ตื่นมาอีกทีบ่ายวันอาทิตย์ สิ่งแรกที่ทำคือคลานจากเตียงกลับไปที่หน้าตู้กุ้ง ดูแล้วไม่มีซากศพลูกกุ้งอยู่ ก็เลยไปอาบน้ำ แล้วก็ไปจตุจักรคะ
ไปถึงก็ซื้อถ่านไม้ไผ่ (เห็นเค้าใส่กันเลยใส่บ้าง) แร่ทิดิไมต์กับเกรย์สโตน จากร้านพี่กบ
แล้วก็อาหารปลาฮิคาริซองม่วง ตามคำแนะนำของพี่หมีบัง (เตตร้าบิตว่าแพงแล้ว ฮิคารินี่ราคาโคตรแพงอ่ะ -"-)

น้องกุ้งกับถ่านไม้ไผ่
ซื้อของเสร็จแล้วก็รีบแจ้นกลับบ้านมาดูลูกๆ ต่อคะ ลองเอาฮิคาริใส่ให้ลูกกุ้งกินดู 1 หยิบมือ ปรากฎว่าเค้าเข้ามารุมกินกันอย่างเมามันส์
คนเลี้ยงเห็นกุ้งกินอย่างมีความสุขก็สุขใจคะ ใส่เพิ่มไปให้อีก ครึ่งช้อน เฝ้าดูลูกกุ้งกินอาหารจนหลับคาตู้ไป

รุมกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย
ตื่นเช้ามา เจริญพรเถอะญาติโยม น้ำขุ่นคะ เพราะใส่อาหารเยอะเกิน ลูกกุ้งกินไม่หมด (พี่หมีบังเค้าก็เตือนแล้วนะ แต่ของอย่างนี้ไม่เจอกะตัวไม่รู้สึก)
เดชะบุญลูกกุ้งไม่ตายคะ เราก็รีบเปลี่ยนน้ำครึ่งตู้ ดูดเศษอาหารกะไส้เดือนน้ำออกให้หมด แล้วก็เติมน้ำลงไปใหม่ เสร็จแล้วก็ไปทำงาน
กลับมาถึงบ้านเกือบสามทุ่ม น้ำยังไม่หายเน่าคะ มันเริ่มขึ้นฟอง แต่ลูกกุ้งทรงพลังก็ยังคงมีชีวิตรอดครบทุกตัว
คราวนี้เราเลยเอาสาหร่ายออกให้หมด (ก่อนเอาออกสะบัดๆ ให้ลูกกุ้งที่ซ่อนตัวอยู่ในสาหร่ายหลุดออกมาก่อน)
ดูดเศษอาหารที่ตกค้างทิ้งออกให้หมด แล้วเปลี่ยนน้ำ 80% แล้วเอาสาหร่ายไปล้างน้ำให้สะอาด แล้วใส่กลับเข้าไปใหม่
ขยี้แคลเซียม หยดวิตามินลงไปเหมือนเดิม แล้วให้อาหารแต่พองาม ตอนนี้น้ำก็กลับมาใสเหมือนเดิมแล้วคะ


บางตัวก็เริ่มจับจองมุมของตัวเอง

บางตัวก็ตบตีกัน
ส่วนขนาดลูกกุ้งตอนนี้ประมาณ 1.5 cm. แล้ว ไม่ได้เอามาวางกะไม้บรรทัดให้ดูเหมือนทุกทีที่ผ่านมาเพราะงวดนี้ไม่มีตัวไหนตาย
แต่หาไม่ค่อยเจอ เพราะพากันไปซ่อนในกอสาหร่ายกันหมด
จากประสบการณ์ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา สอนให้รู้ว่า อย่าริอาจคิดพิสดารแยกเลี้ยงลูกกุ้งเป็นตัวๆ
เพราะนอกจากจะเหนื่อยโดยใช่เหตุแล้ว ยังทำให้เสียลูกกุ้งไปโดยใช่เหตุอีกด้วย
ถ้ามีเหตุการณ์อะไรใหม่ๆ จะมาอัพเดทให้ทราบกันโดยถ้วนหน้าคะ