หน้าหลัก
ค้นหา
บทความ
คำนวณ
ล๊อกอิน
สมัครสมาชิก
Tue 23/Apr/2024
อ่านไม่เข้าใจ - สงสัยเรื่องไหน - คำถามเพิ่มเติม ต่อกระทู้ได้เลยครับ
ถ้าผมตอบไม่ได้ / ยังไม่ได้ตอบ ใครพอทราบรบกวนช่วยตอบด้วยนะครับ
************************************
วันนี้ขอเขียนเกี่ยวกับสิ่งที่ผมชอบมากที่สุด ในบรรดาสิ่งที่อยู่ในตู้ทะเลหน่อยนะครับ
แต่ก่อนนู้นผมเริ่มลงทะเลเพราะปลาทะเล ที่สีสันสวย รูปทรงแปลกตา แต่ปัญหาคือ ลงอันนั้นไม่ได้ อันนี้กัดกัน อันนั้นกินกุ้ง อันนี้ห้ามเลี้ยง เม็ดไม่กิน โรคต่างๆ ลูกจะคลอด จนสุดท้ายก็ยุบไปตามระเบียบ...
ใจมันรักเลิกไปแล้วรู้สึกเหมือนขาดอะไรไปในชีวิต หาเวลาว่างประจำวันได้ซะหน่อย ขอลองอีกที..ความนี้กลับหลงไหลใน Soft Coral ไปซะแล้ว ผ่านมาก็1ปีพอดี ยังไม่ล่ม น่าจะรอดแล้วนะ....แต่ปัญหาก็ยังมีประปรายตามประสาตู้ทะเลที่ไม่มีจบ
เลยขอรวบรวมที่เคยอ่าน เคยผ่าน เคยฟัง มาเป็นสรุปให้ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ เผื่อใครอยากรู้ อยากนำไปใช้ นะครับ
FAQ: หนูอยากรู้จัง ก้นตู้คืออะไรคะ มีก้นแล้วมีปากไม๊?
ตอบ: ก้นตู้ เขาเป็นคำเรียกรวมๆน่ะหนู จริงๆแล้วไม่เกี่ยวกับอวัยวะเลย เป็นเรื่องของปะการังล้วนๆรวมๆ
FAQ: แล้วคำว่าของอ่อนล่ะ ใช่ไม๊ แล้วมันxxxxxxอ่อนจริงเหรอ?
ตอบ: อ่อนจริงๆ ครับ แต่มันไม่ x นะ คือว่ามันไม่แข็ง มันอ่อนที่โครงไง โครงอ่อนมั่้ง ไม่มีโครงมั่งเขาเลยเรียกว่าของอ่อน ถ้าแบบอินเตอร์ก็ Soft Coral ครับ แปลตรงๆตัวเลย ปะการังอ่อน
FAQ: ทีนี้ปะการังอ่อนมันมีอะไรบ้าง ใช่พวกพริ้วไหวตามสายน้ำหรือเปล่าเหมือนเวลาดูสารคดี?
ตอบ: ใจเย็น ถามทีละข้อ ตอบไม่ทัน.... เดี๋ยวแยกตอบทีละอันก่อน
-พวกพริ้วๆ บางอันก็ไม่อ่อน เอาง่ายๆดูที่โครง(กะโหลก)ของมัน ถ้าไม่มีโครงสร้างของหินปูนก็ใช่ ถ้าพวกเวลาหุบจะยิ่งเห็นชัด ถ้าหุบ-หดเฉยๆไม่หายไปไหนก็เป็นปะการังอ่อน ถ้าหุบเข้าไปในโครงสร้างหินปูนเขาเรียก LPS เช่น แฮมเมอร์ อแคน ซาลาเปา ถ้วยประมาณนี้
-ปะการังอ่อนมีอะไรบ้างก็ 036 เยอะมากครับ เอาที่เห็นบ่อยๆ หาง่ายๆก็แล้วกัน แบบพวกหายากๆ เห็นแล้วก็ไม่รู้จะไปหาที่ไหนมาลงตู้น่ะ ฝรั่งเขาแยกเป็น ID ไว้จะได้ผมก็ขอยืมเขามาใช้หน่อย เขาอุตส่าห์ทำไว้ให้แล้ว เราก็ใช้ซะ..ส่วนการเลี้ยงขออ้างอิงกับ liveaquaria.com นะครับ เพราะมีครบพอสมควร อีกทั้งแยกแค่ Family พอนะครับ อย่าให้ลึกถึง Species เลยปวดตับครับ
Alcyoniidae - กลุ่มนี้เป็นกลุ่มพวก ปะการังนิ้ว ปะการังหนัง ขาหมู(ไม่ใช่เห็ดนะคนละตัวกัน) อันนี้ไม่เคยเลี้ยงไม่ชอบรูปทรง..555 เป็นกลุ่มที่มีพิษแรงชนิดนึงสำหรับกลุ่มปะการังอ่อน
Care Level: Easy
Temperament: Peaceful
Lighting: Moderate to High
Waterflow: Medium
Placement: All
Water Conditions: 72-78° F, dKH 8-12, pH 8.1-8.4, sg 1.023-1.025
Supplements: Strontium, Iodine, Trace Elements
Briareidae - กลุ่มนี้จะเป็นสตาร์ทั้งหลาย ซึ่งปกติจะแยกเป็น หนวด กับ ปาก คือ หนวดเขียว เขียวมาก เขียวสะท้อนแสง เขียวแก่ น้ำตาล ฯลฯ กับดูสีที่ปาก(ตรงกลาง) ปากเขียว ปากขาว ปากม่วง ปากชมพู..555 ประมาณนี้ แต่ฝรั่งเขาเรียก starburst หรือ star polyp นะ ถ้า star เฉยๆอาจจะได้เป็นอย่างอื่น
ส่วน "บลูสตาร์" ไม่เกี่ยวกันนะ อันนั้นเป็น โกรฟ (Clavulariidae) ดูรูปที่ Clavulariidae
และ บางทีอาจจะสับสนกับไปป์ (สีเขียวปกติ) ให้ดูที่เวลาหุบนะครับ ถ้าเป็นสตาร์โพลิปเวลาหุบก็จะเป็นเนื้อลื่นๆ ส่วนออแกนไปป์จะเป็นท่อแข็งๆ (Tubiporidae)
http://aqua.c1ub.net/forum/index.php?topic=153070.0 <---สตาร์แต่ละชนิดแตกต่างกันยังไง
Care Level: Easy
Temperament: Peaceful
Lighting: Moderate to High
Waterflow: Medium to Strong
Placement: Middle to Top
Water Conditions: 72-78° F, dKH 8-12, pH 8.1-8.4, sg 1.023-1.025
Supplements: Iodine, Trace Elements
Clavulariidae - กลุ่มโกรฟเขียว ปลายส้ม ปลายทอง รวมถึงบลูสตาร์ เดซี่โกรฟ(ฝรั่งเรียกJasminePolyp) ก็จัดอยู่ในกลุ่มนี้ครับ ส่วนตัวมันก็เลี้ยงง่ายนะ แต่บอบบางไปหน่อย สัมผัสแรงไม่ค่อยได้ เขาว่าแพ้ตะไคร่อย่างแรงแต่ผมว่าตะไคร่ก็ไม่ดีกับปะการังอยู่แล้ว
Care Level: Easy
Temperament: Semi-aggressive
Lighting: Moderate
Waterflow: Medium
Placement: Middle to Top
Water Conditions: 72-78° F, dKH 8-12, pH 8.1-8.4, sg 1.023-1.025
Supplements: Iodine, Trace Elements
Discosomatidae - กลุ่มเห็ดทั้งหลาย เห็ดม่วง แดง ส้ม ฟ้า ขนเขียว ขนยาว หูช้าง อยู่ในกลุ่มนี้ แต่ไม่รวมยูม่า-ฟลอริด้านะครับคนละกลุ่ม เลี้ยงง่ายมั่กๆ แต่แสงแรงเกินไปเขาว่ามันละลาย ถ้าอยู่ในตำแหน่งแสงหรือกระแสน้ำที่ไม่ชอบ บางทีอาจจะมีการสลัดตัวออกจากหินได้เอง แล้วก็ปลิวไปเกาะในตำแหน่งใหม่ ซึ่งสังเหตุเห็นบ่อยๆว่ามักจะไปกองอยู่บริเวณกระแสน้ำเบาๆ
Care Level: Easy
Temperament: Semi-aggressive
Lighting: Moderate
Waterflow: Low to Medium
Placement: All
Water Conditions: 72-78° F, dKH 8-12, pH 8.1-8.4, sg 1.023-1.025
Supplements: Calcium, Strontium, Iodine, Trace Elements
Ricordeidae - เห็ดของแพงครับ เห็ดยูม่า อะไรประมาณนี้ ไม่เคยเลี้ยง....ไม่มีตังค์ซื้อ [on_007] แต่ก็เลี้ยงง่ายนะสีสวยดี จริงๆมันไม่เชิงเป็นเห็ดซะทีเดียว มันกึ่งๆไปทางแอนนิโมนมากกว่า
Care Level: Moderate
Temperament: Semi-aggressive
Lighting: Moderate to High
Waterflow: Low
Placement: Bottom
Water Conditions: 72-78° F, dKH 8-12, pH 8.1-8.4, sg 1.023-1.025
Supplements: Iodine, Trace Elements
Nephtheidae - เป็นกลุ่มของพวก Tree ซะเป็นส่วนมาก เคนย่าทรี หรือ ช่อสังเคราะห์ก็จะอยู่ในกลุ่มนี้ บางตัวก็เลี้ยงในระบบปิดยาก-ไม่ได้น่าจะเป็นคาร์เนชั่น หรือ พวกช่อสี (ถ้าผมแปลไม่ผิด ถ้าผิดบอกด้วยนะครับ) แต่ดูจากชื่อแล้ว ส่วนใหญ่น่าจะเลี้ยงได้ (ส่วนมากที่เป็นสีน้ำตาล) ตามรูปครึ่งบนเลี้ยงรอด ครึ่งล่างไม่น่ารอดเพราะถ้ารอดป่านนี้คงเกลื่อนตู้แล้วล่ะครับ สวยออกขนาดนั้น พวกนี้ก็เป็นชนิดนึงของปะการังอ่อนที่มีพิษแรง (แรงคือแรงสำหรับของอ่อนอื่นๆนะแต่ไม่ได้แรงเท่ากับพวก LPS)
Care Level: Easy
Temperament: Peaceful
Lighting: Moderate
Waterflow: Medium to Strong
Placement: Middle to Top
Water Conditions: 72-78° F, dKH 8-12, pH 8.1-8.4, sg 1.023-1.025
Supplements: Strontium, Iodine, Trace Elements
Carnation Tree Coral (Dendronephthya sp.) 3รูปด้านล่าง สวย แต่ ....
Care Level: Expert Only
Temperament: Peaceful
Lighting: Low
Waterflow: Medium to Strong
Placement: All
Water Conditions: 72-78° F, dKH 8-12, pH 8.1-8.4, sg 1.023-1.025
Diet: Plankton Eater
Supplements: Iodine, Trace Elements
ตามรายละเอียดก็ต้องการแพลงตอน เหมาะกับ Expert Only ไอ้เรามัน Amature ไม่สามารถครับ มันไม่สังเคราะห์แสง ฉะนั้นต้องป้อนอาหารซึ่งมีผลกับสภาพน้ำในตู้แน่นอนเนื่องจากอาหารส่วนนึงปะการังได้รับ แต่ส่วนที่เหลือก็จะปลิวอยู่ในตู้นั่นเอง
Tubiporidae - พวกไปป์ครับผม ออร์แกนไปป์ ไปป์ฟิจิ เดซี่ (Daisy Coral คนไทยไม่รู้เรียกอะไร แต่เราเรียกเดซี่โกรฟเขาดันเรียกJasmine ว่ากันไป คนละภาษาแรกๆผมงงเพราะชื่อไทยชื่อฝรั่งหาข้อมูลทีปวดมากเลย)
เขาว่าบางทีก็สับสนเป็น Hard Coral เพราะตัวโครงของมันนี่แหละมันจะมีท่อแข็งๆ แต่สรุปก็จัดเป็น Soft Coral อันนี้ก็ยังไม่เคยมีเหมือนกันราคามัน... อยากมีกับเขาบ้าง ใครมีเศษๆเหลือๆ ทิ้งใส่ตุ้ผมก็ได้นะครับจะดูแลเป็นพิเศษ ยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอมเลย ส่วนรูปท้ายๆ จะเห็นเป็นโครงแข็งๆซึ่งเป็นท่อของมันนะครับ บางครั้งมองผ่านๆบางตัวจะคล้ายกับสตาร์แต่เวลาหุบจะเห็นชัดเจนว่าสตาร์ตอนหดจะเป็นเนื้อเยื่อเกาะหิน ส่วนไปป์จะเป็นท่อแข็งๆ ส่วนท่อที่กลวงๆคือมันตายแล้ว...
Care Level: Moderate
Temperament: Peaceful
Lighting: Moderate to High
Waterflow: Medium
Placement: All
Water Conditions: 72-78° F, dKH 8-12, pH 8.1-8.4, sg 1.023-1.025
Supplements: Iodine, Trace Elements
Xeniidae- กลุ่มซีเนีย เป็นกลุ่มใหญ่กลุ่มนึง รายละเอียดเยอะมาก ID เพียบ บางครั้งผมยังสับสนกับชื่อไทยชื่อฝรั่ง แต่ช่างมันเถอะ เอาเป็นว่ากลุ่มนี้ก็เป็นยอดฮิตกลุ่มนึงที่มักจะมีกันทุกตู้เพราะความสวยงามและมีชีวิตชีวา เป็นปะการังตัวนึงที่ถือจัดว่าเลี้ยงง่าย แต่ถึงอย่างนั้นบางคนกลับเลี้ยงไม่ได้หรือไม่สวย บางตู้ปั๊มและลามกระจาย แต่อีกตู้กลับเลี้ยงแล้วหายไป
ส่วนตัวผมถึอว่าเหมาะกับมือใหม่พอสมควรเพราะค่อนข้างทนทั้งในเรื่องของค่าน้ำ หากซีเนียIDนั้นๆสามารถปรับตัวให้อยู่ในตู้ได้แล้วอาจจะมีการต้องดึงทิ้งเลยเพราะลามเร็วสุดๆ ผมเปรียบเสมือนเป็นวัชพืช/พืชล้มลุกในตู้ทะเลทีเดียว เพราะบางครั้งอาจจะหายไปแล้วหรือเหลือเพียงเนื้อเยื่อเล็กๆ แต่ก็สามารถกลับฟื้นขึ้นมาได้ภายในเวลาไม่กี่เดือนครับ
ส่วนผู้นิยมเขาทั้งหลาย อาจจะไม่ชอบ กลุ่มซีเนียเพราะมีความเข้าใจกันว่าหากมีแล้วเขาอาจจะเติบโตได้ช้าเพราะถูกปล่อยสารบางอย่างจากพวกซีเนีย อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจเพราะไม่ได้นิยมเขา
ลักษณะของซีเนีย แม้ตัวเดียวกัน แต่การเลี้ยงสภาพแวดล้อม กระแสน้ำ แสง ที่เปลี่ยนแปลง-แตกต่างกัน ก็ทำให้ซีเนียแตกต่างกันไปด้วย เช่น บางตู้สีชมพูแต่บางตู้เลี้ยงกลายเป็นสีน้ำตาล บางครั้งฟูฟ่องแต่บางทีก็ไม่ฟู ก้านโพลิปยาวบ้างสั้นบ้าง ฯลฯ
ส่วนกลุ่มย่อยๆของซีเนียหลักๆก็มี
--Anthelia น่าจะเป็นกลุ่มของพวก บลูซีเนีย ไจแอนท์ซีเนีย(ไจแอนท์แอนทีเลีย) ไวท์แอนทีเลีย(ไทยเรียกแอนทีเลียเฉยๆ) ฝรั่งเขาว่ากลุ่มนี้เลี้ยงยาก ไม่รู้เขาใช้อะไรเป็นตัววัด
Care Level: Difficult
Temperament: Peaceful
Lighting: Moderate to High
Waterflow: Medium to Strong
Placement: Bottom
Water Conditions: 72-78° F, dKH 8-12, pH 8.1-8.4, sg 1.023-1.025
Supplements: Iodine, Trace Elements
--Xenia ถ้าเข้าใจไม่ผิดจะเป็นกลุ่มพวกปั๊มๆทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น อีลองกาต้า เทาซันแฮนด์ ปั๊มปิ้ง(Normal) ปอมปอม กลุ่มนี้เข้าใจยากครับ ผมว่าเลี้ยงยากกว่ากลุ่มข้างบนนะ บางที่ก็เหี่ยวไปเฉยๆ แต่อยู่ดีๆก็ฟื้น แต่ยอมตรงที่มาตู้ผมแล้วไม่ปั๊มนี่แหละ วันไหนอยากก็ปั๊มซะกระจาย วันไหนไม่อยากก็เงียบกริบ สังเกตุว่าถ้าวันไหนบานเป็นกระด้งจะไม่ค่อยปั๊ม วันไหนฟูๆเป็นพุ่มสวยๆจะปั๊มแรง ส่วนเรื่องสีกลุ่มนี้ ถ้าเลี้ยงไฟที่ต่างกันสีที่ได้ก็จะต่างกันด้วย บางคนเลี้ยงแล้วขาวนวล บางคนเลี้ยงเป็นชมพู บางคนสีเข้มๆ ไม่ต้องแแปลกใจครับ ในตู้ผม อยู่ด้านบนกับด้านล่างยังคนละสีเลย
Care Level: Moderate
Temperament: Peaceful
Lighting: Moderate
Waterflow: Medium
Water Conditions: 72-78° F, dKH 8-12, pH 8.1-8.4, sg 1.023-1.025
Supplements: Iodine, Trace Elements
--Heterexenia เป็นตัวที่ผมยังหาไม่เจอ ตู้เก่าเคยมีแต่เปลี่ยนตู้แล้วหายไป คล้ายๆอีลองแต่ต้นหนาๆ โตช้ากว่ามาก หากใครต้องการซีเนียที่เป็นต้นๆ แล้วไม่อยากให้ลามกินพื้นที่ตัวอื่น แนะนำตัวนี้เลยครับ ผมเลี้ยงยังไงก็ไม่ลาม...5556
Care Level: Easy
Temperament: Peaceful
Lighting: Moderate
Waterflow: Medium
Placement: Bottom to Middle
Water Conditions: 72-78° F, dKH 8-12, pH 8.1-8.4, sg 1.023-1.025
Supplements: Calcium, Magnesium, Strontium, Iodine, Trace Elements
--Sympodium อันนี้ก็ถูกจัดอยู่ในกลุ่มซีเนีย (มันก้ำกึื่่งระหว่างโกรฟกับซีเนียแต่เขาก็จัดให้อยู่ในกลุ่ม Xeniidae) ผมว่าเลี้ยงง่ายพอควร
Care Level: Moderate
Temperament: Peaceful
Lighting: Moderate
Waterflow: Medium to Strong
Placement: Bottom to Middle
Water Conditions: 72-78° F, dKH 8-12, pH 8.1-8.4, sg 1.023-1.025
Supplements: Strontium, Iodine, Trace Elements
-- Cespitularia อันนี้เป็นพวก บลูแอฟฯ เพอเพิ่ลแอฟฯ ปลายม่วง ปลายทอง ปลายส้ม ปลายขาว ฯลฯ บางอย่างก็เลี้ยงง่าย โตเร็วลามเร็ว อย่างพวกบลูแอฟ แต่บางอย่างก็โตช้า สังเกตุว่า ถ้าเป็นพวกเนื้อสีธรรมดาไม่มีวิ๊งๆ จะโตเร็วกว่าพวกเนื้อมีเกล็ดวับๆแว๊บๆ ส่วนบางครั้งมองจากไฟในตู้อาจจะดูไม่ออกว่าตัวไหนเป็นตัวไหน ให้ลองปิดไฟหลัก แล้วเอาไฟขาว-ไฟฉาย-ไฟนีออนบ้านๆส่องดู จะเห็นสีที่เนื้อลำต้น-ก้าน-โพลิปชัดเจนครับ
Care Level: Moderate
Temperament: Peaceful
Lighting: Moderate
Waterflow: Medium
Water Conditions: 72-78° F, dKH 8-12, pH 8.1-8.4, sg 1.023-1.025
Supplements: Iodine, Trace Elements
ส่วนตัวผมชอบซีเนียมากๆ เพราะรู้สึกว่ามันเหมือนทะเลดี มีการเคลื่อนไหว
Zoanthidae - กลุ่มของกระดุมเขาแบ่งเป็นย่อยๆ หลายแต่ผมแยกไม่ค่อยออก น่าจะเป็นโพลิปเล็ก ใหญ่ อะไรประมาณนี้ เยลโล่โพลิปก็จัดอยู่เป็นพวกกระดุมเหมือนกัน การเลี้ยงก็ง่ายพอควรทน-ทนมาก แต่ศัตรูก็เยอะมากเหมือนกัน ส่วนมากก็เป็น ทาก(Nudi) ดาวกินกระดุม ที่เห็นบ่อยๆนะ แต่สำคัญคือกระดุมมีพิษนะครับ สัมผัสแล้วล้างมือด้วยระวังอย่าให้เข้าตาเวลาแฟรกนะครับ โดยเฉพาะพวก Palythoa (สังเกตุง่ายๆคือพวกกระดุมดอกใหญ่ๆ) ซึ่งจะมี Palytoxin เป็นอันตรายมากๆ
Care Level: Easy
Temperament: Semi-aggressive
Lighting: Moderate
Waterflow: Medium
Placement: Middle to Top
Water Conditions: 72-78° F, dKH 8-12, sg 1.023-1.025, pH 8.0-8.4
Supplements: Iodine, Trace Elements
FAQ: โอ๊ยทำไมมันเยอะจัง จะจัดใส่ตู้ยังไงล่ะ ความต้องการไม่เหมือนกันซักตัว?
ตอบ: อย่าไปดูมากครับ เอาว่ายึดปัจจัยหลักๆก่อนคือ
Water Conditions: 72-78° F, dKH 8-12, sg 1.023-1.025, pH 8.0-8.4
ส่วนเรืองการวาง ไฟ กระแสน้ำ ก็ค่อยๆปรับเอาครับ อันไหนชอบไฟแรง ก็ไว้บนๆ อันไหนชอบน้ำแรงก็ไว้ใกล้ๆปั๊ม อันไหนวางไป3-4วัน ไม่บานซักทีก็เริ่มที่ไฟกลางๆ น้ำเบาๆก่อน ค่อยขยับทีหลัีงครับ
FAQ: ปลาก็มีลำดับการลง ก้นตู้ล่ะมีลำดับการลงไม๊ แบบว่าอันไหนก่อน อันไหนหลัง?
ตอบ: เอาจริงๆ เลยนะ ตอบแบบตรงๆ สั้นๆ เลย คือ ไม่มีครับ เพราะมันไล่กัดกันเหมือนปลาไม่ได้แต่ที่ก้นตู้เหล่านี้ทำได้คือ ค่อยๆลามไปครับ เพราะฉะนั้น ควรเว้นระยะห่างซักหน่อยเผื่อมันลามชนกัน หรืออาจจะมีการทับกันได้ แต่ไม่ได้เหมือนขนาด LPS ที่พิษแรงพอโดนกันแล้วหายไปซีกอะไรแบบนี้ ของอ่อนลามเร็วมาก ภายใน1เดือนถ้าวางห่างกัน1นิ้วอาจจมีการลามชนกันแล้วครับ(ลามมาหากัน) แต่ก็ไม่ต้องวิตกมาก ขอให้มันลามก่อนเถอะเรื่องถอนไม่ยากเลยครับ
FAQ: แล้วถ้ามันลามเร็วมากๆ มาชนกันบ่อยๆล่ะ ตู้มันเล็ก
ตอบ: ไม่ต้องคิดมาก จับถอนออกซะก็สิ้นเรื่อง ใบคัตเตอร์ซักอันกรีดๆออกก็จบครับ
FAQ: แล้วถ้าตู้ผมใหญ่ล่ะ
ตอบ: ก็แฟรกขายไปซะก็จบ ได้ค่าไฟด้วย..
FAQ: วิธีการแฟรกล่ะ ทำยังไง อยากได้ตังค์มาช่วยค่าไฟ
ตอบ: ที่ต้องมีคือ
1. ถุงมือ อันนี้สำคัญเพราะสัตว์ทะเลหลายๆตัวมีพิษ ไม่รู้คุณจะโดนอะไรบ้าง หรือเผื่อมีแผล
2. กาวติดปะการัง กาวตราช้างก็ได้
3. ยางรัดของ เชือก ไนล่อน อะไรก็ได้ที่ช่วยทำให้ปะการังมันยึดกับวัสดุที่เราจะไปแปะไว้
4. ฐานแฟรก ไม่จำเป็นต้องเป็นฐานปูน จะใช้หินเป็น แม่เหล็กขัดกระจก กระเบื้องปูพื้น จานรองแก้วโดเรม่อน อะไรก็ได้ที่ไม่มีส่วนผสมที่คิดว่าจะเป็นพิษกับของในตู้ ใช้ได้หมด ถ้าเป็นปูนก่อนใช้แช่น้ำทิ้งไว้เป็นเดือนกันphและเคมีที่ติดมา
5. ใบคัตเตอร์ เอาแบบคมๆนะ กรีดปุ๊บขาดเลย ถ้าพวกสนิมเขรอะ ทื่อๆทู่ๆ ไม่ต้องเลย
6. กะละมังใส่น้ำ เอาน้ำในตู้่ก็ดี
7. ผ้าแห้ง ไว้เช็ดก่อนติดกาว
ซีเนีย- ใช้มีดกรีดที่ฐาน/โคม เอาแบบติดเศษหินที่มันเกาะมาด้วยก็ดี ติดกาวง่ายผ้าเช็ดๆที่หินซะหน่อยค่อยติดทากาวที่ฐานแฟรกแล้วเอามาแปะ ถ้าตัดมาเป็นต้นๆใช้ยาง-เชือกมัดเอา
กระดุม/สตาร์-เหมือนกัน กรีดที่ใต้เนื้อติดเศษหินมาเลยจะได้ไม่ช้ำมาก ติดกาวง่าย ผ้าเช็ด ติดกาวแล้วค่อยแปะ
โกรฟ - มันบอบบางเหลือเกิน ผมเอาฐานแฟรกไปวางใกล้ๆ ไม่กล้ากรีดเอง มือหนักครับ ถ้าจะทำก็คล้ายกับด้านบนแต่ต้องมือเบาๆ เดี๋ยวกลายเป็นฝุ่น.555
เห็ด - กรีดที่โคนมันก่อน พอได้มาเป็นแผ่นๆ ก็เอามีดกรีดผ่านปากเป็นชิ้นๆเหมือนตัดเค้ก แปะไม่ได้มันหด หาแก้วใส่เศษหินปะการังหักแล้วเอาชิ้นที่เราตัดโรยลงไป ถ้ามีตาข่ายก็คลุมปากแก้วไว้ซะหน่อยกันปลิว ไม่กี่วันก็ติดแล้ว
นิ้ว/หนัง/ช่อ/เคนย่า - มีดตัดเป็นชิ้น-ต้น แล้วเอายาง-เชือกมัดกับวัสดุได้เลย
ซิมโพเดียม - ไม่เคยลองเพราะมือไปโดยมันกลายเป็นเนื้อติดหิน ผมใช้เหมือนโกรฟคือเอาฐานไปวางติดๆ เดี๋ยวมันก็มาเอง แต่วันไหนว่างๆ จะลองหั่นดู
ทั้งหมดแปะ-มัดเสร็จก็ลงกะละมังไว้ก่อน ค่อยเอาลงตู้ วางไว้ไฟไม่ต้องแรงมาก น้ำเบาๆ รอมันฟื้นตัวซักอาทิตย์ ค่อยวางตำแหน่งที่มันชอบ ถ้าต้องการคลิปการแฟรก ลองค้นหาจาก google นะครับ ใส่ Family (ชื่อกลุ่มปะการัง) กับ Fragging หรือ Propogation จะได้คลิปต่างๆมา โดยมากจะใกล้เคียงกันในเรื่องของวิธีการครับ
FAQ: แฟรกแล้วจะไปขายที่ไหน?
ตอบ: ก็ขายในเวปไง ขายฟรี แต่รบกวนลงรูป ราคา เบอร์โทร ชื่อ การรับสินค้าให้ครบนะครับ ถ้ายังไม่พร้อมก็อย่าเพิ่งตั้งกระทู้ครับ รอถ่ายรูปให้เสร็จแล้วค่อยลงขายจะดีกว่า ไม่ต้องเตือนกันบ่อยๆ แต่แฟรกที่จะนำมาขายก็ขอแบบเริ่มมีการลามบนฐานก่อนก็ได้ ไม่เอาแบบแปะเสร็จปุ๊บขายปั๊บ เห็นใจคนซื้อหน่อย จะได้ซื้อขายกันนานๆ
FAQ: ร่ายมาตั้งยาว ไม่เห็นพูดถึงเรื่องศัตรูของปะการังเลย...
ตอบ: ก็มันเยอะมากครับ หลักๆเลยคือ
1. ค่าน้ำต่างๆ เช่น อุณหภูมิ ของเสีย NH4 NO2 NO3 PO4 KH pH ความเค็ม ถ้าค่าเหล่านี้ไม่ได้มาตรฐานผมถือเป็นศัตรูอันดับหนึ่งเลยครับ เพราะไปเร็วกว่าโดนทากกินซะอีก อย่างเรื่องอุณหภูมิถ้าสูงเกินเพียงแค่1วัน ทุกอย่างอาจสลายหายไปหมดเลย
2. ตะไคร่และสาหร่ายที่ไม่ดีต่างๆ เพราะพวกนี้อาจไปคลุมโพลิป หรือบังแสง ทำให้ก้นตู้ของเราขาดแสงได้ ผมถือเป็นอันดับ2ครับ เพราะปัญหาตะไคร่ถ้าแก้ไม่ได้ จะกระทบถึงก้นตู้เกือบทั้งหมด
3. ทาก หนอน หอย ปู ต่างๆ ส่วนมากจะกินเฉพาะที่เป็นอาหารของมันเช่น หนอนปั๊มปิ้งก็กินพวกซีเนีย ทากnudibranch กินกระดุม ส่วนปูอาจหนีบกระจุยได้
4. ปลาในตู้เราเองครับ เช่น แองเจิ้ลชอบตอดไปทั่ว ผีเสื้อเห็นกระดุมเป็นจานหลัก กุ้งมดแดงที่ส่วนมากกินกระดุม อันนี้ก่อนลงต้องตรวจสอบดูก่อนนะครับ
หลักๆก็ประมาณนี้ ส่วนถ้าเป็นตัวๆต้องลองสังเกตุเอาเองครับ อันไหนไม่บาน อันดับแรกให้ย่องมาดูตอนดึกๆ เอาไฟส่องดูว่ามีอะไรประหลาดๆอยู่ที่ชิ้นนั้นๆหรือเปล่า
FAQ: อยู่ดีๆ ซีเนียไม่บานครับ มันเหี่ยวๆ
ตอบ: ก่อนอื่นเมื่อปะการังมีปัญหา อยากให้ตรวจสอบค่าน้ำที่ใช้เลี้ยงซะก่อนครับ ไม่จำเป็นต้องซีเนีย...ทุกกลุ่มทุกตัวต้องเช็คก่อน เผื่อมีคนจะมาตอบจะได้รู้ว่าค่าต่างๆเป็นอย่างไร ลักษณะการเลี้ยงเป็นอย่างไร ถามมาแบบนี้มันกว้างมาก ให้ผมตอบตอนนี้ผมก็ตอบยาก ตอบไม่ตรงจุดครับ ขอตั้งคำถามใหม่นะครับ แต่ไหนๆก็ถามมาแล้ว ขอตอบเลยละกัน
ค่าน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติหรือเปล่า เค็ม33-35สำหรับก้นตู้ เย็น25-28ถ้าเกินนี้บางตัวก็ไม่ชอบ ถ้า29พอได้ 30เริ่มทำการละลายตัวเอง ของเสีย NH4/NO2ควรเป็น0 NO3ให้น้อยที่สุดยิ่งเยอะยิ่งไม่ดีซัก10กว่าๆพอรับได้ PO4ยิ่งน้อยยิ่งดี0.1พอรับได้ น้ำแรงไปหรือเปล่า ไฟไม่พอหรือเปล่า ปลาหรือสัตว์เลี้ยงไปกวนไม๊เหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุหลักๆที่ก้นตู้ไม่บาน ถ้าปัจจัยด้านบนดีครบ ต้องหันมาดูศัตรูรบกวนอื่นๆครับ ทากหอยหรืออะไรก็แล้วแต่ต้องสังเกตุด้วยตาก่อน ปิดไฟกลางคืนดึกแอบมาดูเผื่อเห็น ถ้าเจอคีบออกครับ ลงโถส้วมไปเลย
FAQ: กระดุมไม่บานครับ ค่าน้ำปกติ แต่คอมันยาวๆ
ตอบ: ฟันธง ไฟไม่พอครับ ใช้ไฟอะไร หลอดฟลูฯธรรมดาหรือPLไม่พอนะครับสงสารมัน
ไฟสำหรับการเลี้ยงก้นตู้อย่างน้อยต้อง MH T5HO LEDpi-power นะครับ ส่วนวัตต์หรือปริมาณหลอดขึ้นอยู่กับขนาดของตู้ กว้าง*ยาว ต้องสว่างเพียงพอและครอบคลุม ความลึกต้องส่องถืงสว่างที่พื้น
สูง18นิ้ว ไม่มีปัญหาMH150W T5 LED ได้หมด
ไม่เกิน24นิ้ว MH250Wกำลังดี T5 LED อัตให้เยอะเข้าไว้
ถ้า30นิ้ว MH400W T5HO VHO LED อัดเข้าไปเลย อย่าไปกลัวเปลืองไฟครับ อยากได้ตู้ลึกๆ ต้องแลกกับค่าไฟครับ
เปิด 6-8 ชั่วโมงต่อวัน ถ้ากลัวค่าไฟเยอะให้ใช้ตู้เตี้ยๆ ซักไม่เกิน18-20นิ้ว อย่าไปทำตู้สูง
ปะการังไม่มีคำว่าไฟเยอะเกิน กลัวคำว่าไฟไม่พอจะดีกว่า ไฟแรงไปวางต่ำๆก็ยังได้ แต่ไฟไม่พอเนี่ย วางนอกตู้ไม่ได้นะครับ...
FAQ: กระดุมไม่บานครับ บานบางส่วน ค่าน้ำปกติ ไฟMH150 ตู้36*18*18 อย่างอื่นปกติ เป็นเพราะอะไร
ตอบ: น้ำดี ไฟถึง อย่างอื่นปกติ ลองย่องตอนดึกๆ แล้วมาเทียบกับ ลิงค์นี้
http://www.coralpedia.com/index.php?module=Gallery2&g2_itemId=384 (คุณ Puzzle หามา)
ถ้ามีตามในตารางใช่เลยครับ
FAQ: ถ้ามี.....ตามในตาราง กำจัดยังไง?
ตอบ: คีบออก ใช้น้ำยาดิปปะการัง (กระดุมทนได้ครับถ้าใช้ตามโดสข้างขวด) บางอย่างก็ต้องเลาะส่วนที่ไม่ดีทิ้งไปเพื่อกันแพร่กระจาย ตามอาการครับและตามชนิดของศัตรู
FAQ: ต้องเติมแร่ธาตุเพิ่มเติมไม๊ ไอโอดายน์ อะไรประมาณนี้?
ตอบ: ไม่ต้องครับ นอกจากจะรู้ว่าสิ่งที่จะเติมมีปริมาณเท่าไหร่ในตู้ แต่ผมว่าเปลี่ยนน้ำตามกำหนดในปริมาณที่เหมาะสม เพียงพอแล้วครับ
FAQ: เห็ดหลุดจากหิน ต้องทำยังไงบ้างครับ
ตอบ: ผมเดาว่าจะเป็นเพราะมันไม่ชอบตำแหน่งที่มันอยู่ ถ้ายังไม่หลุดก็ย้ายไปน้ำเบาๆครับ เห็ดชอบไฟเบาน้ำเบา ส่วนถ้าหลุดมาแล้วก็ทำเหมือนเวลาแฟรกคือใส่เศษหินในแก้วแล้วใส่เห็ดลงไปจะติดเอง หรือจะหาท่อPVCใหญ่ๆ เอาเห็ดวางแล้วเอาท่อครอบไว้กันปลิว..
FAQ: ตะไคร่บูมครับ ก้นตู้จะเป็นอะไรหรือเปล่า
ตอบ: วัดค่าน้ำอันดับแรกครับ และพยายามลดค่าของเสีย ด้วยวิธีการต่างๆ เช่น ปรับสกิมให้wet(ปรับฟองสูงๆให้ของเสียออกมาเยอะพร้อมกันน้ำ) ล้างถ้วยสกิม ล้างใยกรองถุงกรอง ขัดตะไคร่ ดูดตะกอน เปลี่ยนน้ำ+ใส่แบคฯ เป็นวิธีการง่ายๆ แต่ได้ผลชงัดนัก(ค่อยเป็นค่อยไปครับ) เมื่อของเสียลด ตะไคร่จะค่อยๆลดตามไปเอง
ส่วน ถ้ามีตะไคร่คลุมโพลิปปะการัง สามารถใช้พู่กันปัดๆส่วนที่คลุมออก เสมอๆ เพื่อให้ลดอาการแพ้ตะไคร่และได้รับแสงไฟครับ
FAQ: ปั๊มปิ้ง เหี่ยว แต่ไม่ตาย แต่ไม่สวยเหมือนคนอื่น เป็นอะไรเหรอคะ?
ตอบ: ผมก็เป็นครับ 036 ผมเคยพยายามหาคำตอบอย่างหนักอยู่ช่วงนึง แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ครับ มักจะได้ยินบ่อยๆ คือ ซีเนียเป็นบางตู้ มีความหมายว่า บางตู้ก็เลี้ยงได้ บางตู้ก็เีลี้ยงไม่ได้ บางตัวก็เอาใจไม่ถูก อาการแพ้ทาง ปั๊มปิ้ง-ปอมปอมเหมือนผู้หญิงบอบบาง เอาใจยาก...... ประมาณนี้ครับ
ตู้ผม NO3=5 PO4=น้อยมากวัดไม่ค่อยเห็นสี น้ำเย็นลองมาหมด 25 26 27 28 ก็ยังหาคำตอบไม่ได้
ตอนนี้ทำใจครับ ไม่มีก็ช่างมัน เลี้ยงอย่างอื่นดีกว่า..
FAQ: ปั๊มปิ้งไม่ปั๊ม
ตอบ: ผมก็ไม่ปั๊มครับ สงสัยผมคงหมดไฟแล้วมั๊ง แบตเลยหมด... [on_007] ใครรู้ช่วยบอกที
FAQ: สตาร์ไม่บานครับ เอามาลง3วันแล้ว
ตอบ: บางอย่างต้องรอการปรับตัวครับ อย่างสตาร์ก็มักจะเป็นกันบ่อย บางคนเป็นเดือน ระหว่างรอการปรับตัว คอยดูอย่าให้ตะไคร่เกาะ-คลุม ถ้ามีก็พู่กันปัดๆซะหน่อย
FAQ: ก้นตู้ไม่บาน..
ตอบ: สั้นไปตอบไม่ได้ แบบนี้ครับ
http://aqua.c1ub.net/forum/index.php?topic=222723.0 คนตอบอยากตอบ แต่ตอบยากเพราะไม่ชัดเจน
FAQ: ตู้ผมเป็นกรองมุมครับ จะเลี้ยงได้หรือเปล่า?
ตอบ: เลี้ยงได้ครับ ตู้นาโน อะไรยังไงก็ได้ เพียงแต่คุณต้องคุมค่าต่างๆให้ได้ครับทั้ง ความร้อน-ความเค็ม-ของเสีย ถ้าคุมให้ได้ค่าที่ก้นตู้ต้องการ คุณก็เลี้ยงได้แล้วครับ
FAQ: แล้วต้องคุมให้ได้เท่าไหร่บ้างครับ
ตอบ: ข้างบนๆ น่าจะตอบไปแล้วทีนึง แต่จะซ้ำให้อีกซักทีนะครับ แต่สุดท้ายแล้วนะ
ความเค็ม 33-35 ครับ จืดกว่านี้ไม่แนะนำถ้าคิดจะเลี้ยงก้นตู้
ความเย็น 25-28 ครับ สูงกว่านี้ไม่แนะนำ ควรเผื่อช่วงที่มีปัญหาไว้ซะหน่อย อย่าให้พอดีเป๊ะ หากมีผิดพลาดยังพอแก้ไขได้
ของเสีย NH4 = 0 หรือให้น้อยที่สุดไม่ควรเกิน 0.1ppm (แอมโมเีนีย)
NO2 = 0 หรือให้น้อยที่สุด (ไนไตร์ท)
NO3 = 0 หรือ ให้น้อยที่สุด < 12 (ไนเตรท)
PO4 = น้อยกว่า 0.03ppm แต่ถ้าระดับที่รับได้ก็ไม่เกิน 0.1ppm ครับ (ฟอสเฟต)
pH 8-8.4 มากกว่าหรือน้อยกว่านี้ ไม่ค่อยแนะนำ (ความเป็นกรด-ด่าง)
KH 8-12 ครับเป็นค่ามาตรฐาน ต่ำ-สูงไปมีผลแน่นอนครับ (alkalinity ความกระด้าง/การรักษาความเป็นกรด-ด่าง)
Ca = 380-420 ppm (แคลเซียม - อาจจะไม่วัดก็ได้ แต่วัดก็ดี)
Mg = 1250-1350 ppm (แมกนีเซียม - อาจจะไม่วัดก็ได้ แต่วัดก็ดี)
FAQ: ตัววัดยังไม่มี ต้องซื้อยี่ห้อไหนครับ
ตอบ: ถ้าคิดจะเลี้ยงก้นตู้ ควรต้องมีนะครับอย่างน้อย NO3 pH KH PO4 ตามลำดับความสำคัญ แต่จะมีมากกว่านี้ก็ได้ ส่วนยี่ห้อไหนก็ดูเอาครับมาตรฐานหน่อยก็ดี ให้ดีมากอย่าใช้พวก 3in1 6in1 ความแม่นยำก็จะลดลงครับ
FAQ: ไม่วัดได้ไม๊
ตอบ: ได้ครับ แต่อยู่บนความเสี่ยงที่ต้องพิจารณาเอาเองครับ แต่ถ้าเลือกได้ควรมีครับ อย่างน้อยเวลามีปัญหาจะได้รู้ถึงค่าน้ำในตู้ว่าอยู่ในระดับไหน ไม่งั้นตอนเพื่อนๆพี่น้องตอบคำถามเขาจะตอบได้ไม่เต็มที่และไม่ถูกต้องครับ
FAQ: pH KH วัดทำไม ไม่ใช่ของเสีย
ตอบ: ก็ความต้องการของปะการังมันบอกอยู่นี่ไงครับว่า pH 8-8.4 KH8-12 มีผลกระทบถึงของอ่อนแน่นอนครับ แต่ก่อนผมก็ไม่เชื่อ โดนมาแล้ว ซึ้งแล้วครับ ไม่เคยวัดเหมือนกัน พอมีปัญหาค่อยวัด แต่ทีนี้ปัญหาเกิดแล้วก็ต้องแก้ ผมจึงมาบอกให้เพื่อนๆทราบก่อนที่จะเกิดปัญหาไงครับ จะได้ไม่ต้องมานั่งแก้ ไม่คุ้มครับ เทสเตอร์ไม่กี่ร้อย ของในตู้เสียหายมากกว่านั้นครับ [กระซิกๆ] แต่ก่อนก็ไม่คิดหรอก KH จะมาเกี่ยวกับ soft coral ได้ยังไงมันต้องเป็น LPS กับ SPS สิ เคยคิดอย่างนั้นจริงๆ ตอนนี้รู้แล้วครับ
FAQ: แล้วถ้า pH KH ตกทำยังไงครับ
ตอบ: มันต้องแยกเป็น 2 ส่วนครับ ส่วนแรกทำไมถึงตก ส่วนที่2ตกแล้วทำยังไง
คร่าวๆคือค่า pH มันตกโดยมากจะเป็นเรื่องของเสียมากทำให้แบคทำงานกินเติบโตขยายพันธ์ตายเกิดใหม่เยอะมากดึง O2 ไปใช้ในการดำรงชีวิตของมันกลับคืนมาเป็น CO2 พอมีมากค่าน้ำเป็นกรด pH เลยตกครับ KH ก็ตกไปในทิศทางเดียวกันครับ
การเพิ่ม pH KH ก็ใช้ pH buffer พวก pH Up ส่วน KH เพิ่มง่ายโดยการใช้ โซเดียมไบคาร์บอเนต(NaHCO3-เบกกิ้งโซดา) แต่ไม่ใช่ผงฟูนะครับอันนั้นมีผสมอยู่เหมือนกันแต่มีอย่างอื่นด้วยเราไม่ใช้นะครับ ทั้ง pH และ KH อย่าปรับรวดเดียวนะครับค่อยๆ
http://www.ultimatereef.net/info/calculators/alkcalc.php <--ลิงค์การคำนวนการเติม แต่อย่าปรับเกิน 1dKHต่อวันนะครับ เดี๋ยวมีเสียว
FAQ: ไฟแบบไหนถึงจะเลี้ยงของอ่อนได้ครับ
ตอบ: เอาแบบลงทุนทีเดียวนะครับ ไม่ใช่อยากเลี้ยงเห็ดใช้ฟลูฯ แต่ดันไปซื้อโกรฟมาเพิ่มประมาณนี้ ถ้าแบบจบๆ คง MH เพราะครบสเปคตรัม แต่ปัญหาความร้อนคงหนีไม่พ้น เลยแยกข้อดีข้อเสียให้นะครับ
MH ข้อดี มีอันนี้จบทุกความต้องการของปะการัง แสงสีสวยมีให้เลือกหลายโทนสี มีพรายน้ำระยิบระยับ ราคาไม่สูงมาก คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปพอควร
MH ข้อเสีย ร้อนกว่าไฟชนิดอื่น ถ้าไม่มีชิลเลอร์คงตัดทิ้งไปได้ หลอดอายุไม่มากต้องเปลี่ยนตามชั่วโมงการใช้งานเพราะความร้อนทำให้เป็นแบบนั้น
T5HO VHO ข้อดี ไม่ใช่ T5 ธรรมดานะครับ ข้อดีสีสวย หวาน ปรับเปลี่ยนสีได้ตามความชอบ ไม่ร้อนมากเมื่อเทียบกับ MH เลี้ยงได้ครอบคลุมมากพอสมควร ตัวโคมราคาไม่สูงมาก
T5 ข้อเสีย มันไม่แรงเท่า MH พรายน้ำเลยหายไป หลอดคุณภาพดีๆ ถ้าเปลี่ยนทีนึงก็หลายบาทอยู่ครับ อายุการใช้งานก็ไม่ยาวนานซักเท่าไหร่ มันทรมานตอนเปลี่ยนหลอดนี่แหละ
LED ข้อดี ความแรงไม่น้อยไปกว่า MH หากเทียบกันวัตต์ต่อวัตต์ พรายน้ำมีให้เห็น เย็นสบายหากเทียบกับไฟอื่น อายุยาวนาน(ตามสเปคโรงงานนะครับ5ปีว่างั้น) เดี๋ยวนี้มีให้เลือกหลายโทนสี ลูกเล่นเพียบ ปรับแสงแรงเบาได้ถ้าเงินถึง เป็นได้ทั้งไฟหลักไฟเสริม กินไฟน้อย
LED ข้อเสีย แพง...สำหรับโคมดีๆซักอันหากจะมีไว้ครอบครองแล้วต้องการครบทุกย่านแสง แบบเลี้ยงได้จริงและสีปะการังสวย ไม่ซีด ไม่ดำ แดงเป็นแดง ฟ้าเป้นฟ้า เขียวเป็นเขียว
FAQ: ไฟเลี้ยงของอ่อนต้องกี่เค ครับถึงจะโต? (K=Kelvin อุณหภูมิของแสง)
ตอบ: 3K ครับเพราะพรีเซนเตอร์ยังโตเลย 5555 เกี่ยวไม๊ คงไม่เกี่ยว อาจจะมีโดนแบนได้ครับ เอาแบบจริงๆนะครับ มันเป็นเรื่องของอุณหภูมิของแสง 6500K ก็เหลืองๆ โตดีแต่รับได้ไม๊อ่ะดูตู้แล้วเหลืองเชียว เลี้ยงไปสักพักสีคงไม่ได้ครับ 10000Kก็โตเหมือนกันแต่มันขาวๆ รับได้ไม๊แต่สีก็คงไม่ได้ ถ้างั้นทำไง
14000K-25000K อันนี้ก็โตครับ สีแล้วแต่ชอบ ขาวน้อย ฟ้าน้อย ขาวมาก ฟ้ามาก เลือกกันไป ขอให้โตแบบสวยด้วยดีกว่านะครับ เน้นโตอย่างเดียวสีไม่สวยคงไม่ดี
ทั้งนี้ทั้งนั้น เป็นเพียงเรื่องของสี(อุณหภูมิของแสง)หลอดไฟ แต่ต้องไม่ลืมเรื่อง Watt นะครับ ถ้าไม่พอมันจะทั้งไม่โตและไม่สวย ควรให้กำลังไฟที่เหมาะสมนะครับ ไม่น้อยเกินไม่สัมพันธ์กับขนาดและความลึกของตุ้ครับ อันนี้สำคัญกว่า K เยอะ
FAQ: ถามเรื่องกระแสน้ำหน่อยครับ Waterflow: Medium คือแค่ไหน [on_007]?
ตอบ: มันไม่มีหน่วยวัดซะด้วย ไม่รู้ฝรั่งมันจะเขียนมาทำไม ผมก็ดันไปก๊อปมาทำไมเหมือนกัน เอาเป็นว่า ของอ่อนชอบกระแสน้ำก็แล้วกันครับ แรงได้กลางได้ แต่อย่าจ่อ ส่วนเห็ดเป็นข้อยกเว้น อันนี้ผ่านๆก็พอ นอกนั้นลองวางดูครับ ไม่ต้องขนาดพายุนะครับ แบบก้านพับครึ่งนึงทั้งวันแบบนี้ก็ไม่ไหว หากพัดแบบไปกลับได้ก็ดีจะได้โดนแสงกันทั่วหน้า ลองสังเกตุดูเอาครับ อะไรที่มันเยอะเกินน้อยเกินไม่ดีครับ
FAQ: ของอ่อนก็รู้แล้วว่ามีอะไร วัดค่าน้ำอะไรบ้าง ไฟยังไง พอเอามารวมกัน จะวางยังไงที่นี้
ตอบ: ขอยืมคุณ แม่หญิงเอกมณี ศรีเรไร มาแปะซะหน่อยนะครับ
http://aqua.c1ub.net/forum/index.php?topic=217813.0
ดูเอาว่าที่มีในตู้เรา อยู่ในเคสไหน ก็จัดวางตามนั้น แต่อย่าลืมว่าอย่าวางใกล้กันจนเกินไปนะครับ ของอ่อนลามเร็ว เผลอแป๊บๆมันทับกันอีกแล้ว
FAQ: ถ้าตู้ที่เลี้ยงอุณหภูมิอยู่ประมาณ 27-29 จะเลี้ยงของอ่อนได้หรือเปล่าครับ?
ตอบ: ถ้าเป็นตามที่บอกจริงๆคือ 27-29 ต้องบอกว่าเลี้ยงได้ครับ ส่วนจะมีปัญหาเล็กน้อยตามมาก็อาจจะมีบ้างเพราะบางตัว29ก็ไม่ชอบครับ แต่มีติดใจนิดนึงคือ
1. 27-29 แกว่งถึง 2 องศา ผมถือว่าแกว่งสูงครับ หาทางคุมให้อยู่ในช่วง 1 องศาจะดีกว่า
2. 29 ที่หมายความถึง เป็น 29 จริงหรือเปล่า เป็นแบบ 29.9 หรือ 29เทมป์วัดไม่ตรง หรือช่วงร้อนจะไปสูงกว่านี้ อันนี้สำคัญอย่างมาก มักพบได้บ่อยกับ กผช "กลุ่มผู้เลี้ยงไม่นิยมชิลเลอร์" หรือ กผป "กลุ่มผู้เลี้ยงแบบประหยัดไฟเบอร์5" ขอพูดตรงๆนะครับ ค่าไฟกับตู้ทะเลมันเกี่ยวกันในทางวิทยาศาสตร์กล่าวคือตู้เล็กค่าไฟแพง ตู้ใหญ่ค่าไฟโคตรแพง ถ้าคุณคิดจะเลี้ยงก้นตู้ให้สวย อย่ากลัวค่าไฟครับ ต้องยอมโดนด่าเรื่องค่าๆฟ ถ้ากลัวเปลืองไฟ ต้อง ปลาล้วน...
หากอุณหภูมิที่พีคสูงสุดของตู้คือ 29.0 ตอบได้เต็มปากครับว่าได้ กลัวอย่างเดียวคือ 29ไม่ใช่จุดสูงสุดครับ
FAQ: งั้นทำไงดี ถ้าไม่มีชิลเลอร์ แต่ใจมันรักอยากเลี้ยง
ตอบ: พยายามทำทุกวิถีทางครับ ให้ไม่เกิน จะพัดลม+เทมป์คอนโทรล หรือจะ DIY
http://aqua.c1ub.net/forum/index.php?topic=211341.0 <-วิธีแก้ตู้ร้อนของคุณไอซ์
หรือจะ DIY จากอะไรก็ได้ต้องค้นหาและทำดู ไม่ลองไม่รู้ครับ หรือจะวางในตำแหน่งที่ไม่ร้อน เลือกใช้/เปลี่ยนปั๊มและอุปกรณ์ที่ก่อให้เกิคความร้อนในตู้ให้มีความร้อนน้อยลง ก็สุดแล้วแต่ครับ ทำไงได้ถ้าใจรักต้องศึกษาและทดลองเพื่อทำให้ได้ครับ
ส่วนตัวผมก็เคยไม่ใช้ชิลเลอร์นะครับมี500Aแต่หมกอยู่ในห้องเก็บของ จาก สค.53-พค.54 ผมก็ไม่ได้ใช้ชิลเลอร์ ก็มีเสียหายบ้างแต่ไม่ใช่จากเรื่องของอุณหภูมิโดยตรง รวมๆก็เลี้ยงได้ครับทั้ง แฮมเมอร์ อแคน ชาลิซ เห็ด กระดุม ซีเนียเพียบ สตาร์ โกรฟ เขาแมว เกรป มอนติ แต่ก็อย่างว่าพอไม่มีชิลเลอร์ตลอดการเลี้ยงผมยอมรับว่าวิตกพอสมควร ยิ่งช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมาบางครั้งเมื่อว่างจากการทำงานยังอดคิดเป็นห่วงตู้ไม่ได้ ทำอะไรก็วิตก สุดท้ายก็ต้องงัดมาปัดฝุ่นใช้งานในที่สุด....
http://www.siamreefclub.com/forums/index.php?/topic/46151-%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B9%87%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%88%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89-%E0%B8%95%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%9C%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%87/ เป็นตู้ผมที่บันทึกไว้เป็นระยะตั้งแต่เริ่มลงของจนถึงการเปลี่ยนตู้และปัญหาต่างๆที่เคยพบมา อยากให้ดูเป็นแนวทางว่าถ้าไม่มีชิลเลอร์ก็เลี้ยงได้แต่ต้องดูแลติดตามพอสมควรครับ
ไม่ได้อยากโชว์ตู้นะครับอย่าเข้าใจผิดเพราะมันไม่มีอะไรให้โชว์อยู่แล้ว555 ส่วนข้อมูลที่นำมาเขียนในFAQนี้โดยมากเป็นประสบการณ์ตรง บางส่วนก็เปิดเอาในเนต บางส่วนก็ก็อปเขามา ใช้เวลาหา รวมรวมพอสมควร ก่อนที่จะเขียนเป็น FAQ นี้ ผมเองไม่ได้มีความเก่งกาจอะไรเป็นพิเศษ ปัญหาก็มี มีแล้วก็ถามเขาเอา มีคนตอบก็เอามาปรับใช้ ส่วนตัวผมโลว์เทคมากๆ อุปกรณ์หลักต่างๆ อุปกรณ์เสริม เคมี ไม่เคยรู้มาก่อน แต่ถ้าใจมันรักอยากให้มันออกมาดีกว่าเดิมต้องศึกษาไปเรื่อยๆ มันไม่จบครับ พรุ่งนี้ยังมีอะไรให้เราเรียนรู้อีกเยอะ
******************
ด้านล่างเป็น Link ข้อมูลต่างๆที่ผมได้เคยทำไว้ครับ หวังว่าจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆได้บ้าง
FAQ ตุ้ทะเลต้องแบบไหน nano กรองมุม กระจกบาง ห้องแอร์ ในหอ ตั้งตู้ - เรืองของตู้
FAQ ปะการังโครงแข็งโพลิปใหญ่ LPS เป็นยังไง มีอะไร เลี้ยงยังไง แก้ยังไง
FAQ ปะการังอ่อน Soft Coral เป็นยังไง มีอะไร เลี้ยงยังไง แก้ยังไง
FAQ ตะไคร่-พืชรบกวน ที่มา ปัญหา และ การแก้ไขเบื้องต้น
FAQ ปลา - กลุ่ม การซื้อ การเลือกเลี้ยง การลง การเลี้ยง วิธีแก้ เรื่องปลาๆ
*****
ระบบกรอง...ล้วนๆ
Angelfish ปลาสินสมุทร
Aquascape อยากจัดหินสวยๆ เรามีตัวอย่างให้ครับ
ตรงกลางรูปคือปอมปอมครับ จะเล็กนิดเดียว.ไม่ชัด.5555
