หน้าหลัก
ค้นหา
บทความ
คำนวณ
ล๊อกอิน
สมัครสมาชิก
Sat 20/Apr/2024
อ่านไม่เข้าใจ - สงสัยเรื่องไหน - คำถามเพิ่มเติม ต่อกระทู้ได้เลยครับ
ถ้าผมตอบไม่ได้ / ยังไม่ได้ตอบ ใครพอทราบรบกวนช่วยตอบด้วยนะครับ
************************************
วันนี้ขออนุญาต เขียนเรื่องเกี่ยวกับตู้นะครับ ว่าตู้แบบไหน เหมาะกับการทำตู้ทะเล อาจจะไม่ละเอียดมาก หรือครบทุกคำถาม
FAQ: ตู้มีปัญหาครับ/ค่ะ รบกวนช่วยดูให้หน่อยครับ/ค่ะ?
ตอบ: ผมจะรู้ไหมเนี่ย ว่าปัญหาคืออะไร อะไรเป็นสาเหตุของปัญหา ตู้เป็นไง มีอะไรยังไงบ้างก็ไม่รู้ จะตอบได้ไม๊น้อ ยังไงรบกวนตั้งคำถามใหม่ด้วยนะครับ แล้วก็ขอรายละเอียดตู้ด้วย ขนาดไหน+กรองอะไร เค็มเท่าไหร่ ร้อนแค่ไหน ตุ้นานยัง มีอะไรมาเพิ่มไม๊ บลาๆๆๆๆๆๆ คนตอบจะตอบได้ตรงเป๊ะเลยครับ เร็วด้วย ถูกต้องด้วย แก้ได้ทันทีครับ
FAQ: มีตู้นาโน มีตู้24นิ้ว มีตู้เล็กๆ ไม่มีช่องกรอง อยากทำตู้ทะเลได้ไม๊?
ตอบ: ได้ครับ เลี้ยงได้อยู่แล้ว.... แต่สิ่งที่คุณต้องมีคือ เวลาและความใส่ใจครับ คุณต้องขยันเปลี่ยนน้ำบ่อยกว่าตู้ใหญ่ๆอย่างน้อยอาทิตย์ละ10% อีกทั้งต้องคอยตรวจสอบค่าน้ำสม่ำเสมออย่างน้อยคือค่าความเค็ม แอมโมเนีย ไนไตร์ท ไนเตรท (ถ้ามากกว่านี้ก็ยิ่งดี) เพราะคุณต้องเข้าใจว่าตู้เล็กๆปริมาณน้ำน้อย แค่น้ำระเหยออกไป1ชามก๋วยเตี๋ยว ก็มีผลกับสิ่งมีชีวิตในตู้แล้วครับ จากนั้นที่ต้องมีคือกรองแขวนและสกิมเมอร์แขวนเพื่อช่วยทำงานในระหว่างที่กำลังรอเปลี่ยนน้ำในครั้งต่อไป
แต่ก็ต้องทำใจเลี้ยงปลาได้2-3ตัว ก้นตุ้อีกนิดหน่อย ถ้าลงเยอะกว่านี้คุณก็ต้องเปลี่ยนน้ำบ่อยกว่าอาทิตย์ละครั้ง
FAQ: ถ้ามีตู้24-30-36-48 กรองมุมล่ะ จะเลี้ยงได้หรือเปล่า? (กรองหลัง กรองซ้าย-ขวา กรองเต็มก็ใช่นะ)
ตอบ: ได้ครับ ดีกว่าตู้โล่งๆหน่อยตรงมีที่ให้ยัดหินเป็น(ก้อนๆนะไม่ใช่แบบถุงๆ) ลงในช่องกรอง เพิ่มพื้นที่ให้แบคทีเรียมากขึ้น แต่ข้อจำกัดคือตู้ใหญ่ขึ้นเท่าไหร่ สกิมเมอร์คุณก็ยังใช้ได้แค่แบบแขวนซึ่งไม่สัมพันธ์กันปริมาณน้ำ แต่ยังดีที่น้ำเยอะกว่าตู้เล็กๆ แกว่งน้อยกว่า แต่ยังต้องหมั่นเช็คค่าน้ำอยู่ดี ส่วนการเปลี่ยนน้ำ ซักอาทิตย์ละ10%ก็ได้หรือ2อาทิตย์20%ก็ไม่น่าเกลียด มีข้อสังเกตุนิดนึงคือ ปลากับก้นตู้ ยิ่งลงเยอะยิ่งต้องเปลี่ยนน้ำและเช็คค่าน้ำบ่อย ตู้แบบนี้ผมว่าน่ากลัวกว่าตู้เล็กเพราะผู้เลี้ยงมักลงปลาเยอะเพราะตุ้มันใหญ่ เป็นผลให้คนใช้ตู้กรองมุมมักมีปัญหามากกว่าตู้เล็กๆ ด้วยเืรื่องของกิเลศและความประมาท
FAQ: ตู้ 24-48 กระจก2หุนบางไปไม๊?
ตอบ: บางหรือไม่บางยังคลุมเคลือครับ มันมีปัจจัยหลายอย่างมาเกี่ยว คือ
-ขอบคานเสริม เสริมให้เยอะเข้าไว้
-การยิงซิลิโคน ต้องเนียนเพื่อให้หน้าสัมผัสของซิลิโคนกับกระจกทำได้ดีที่สุด
-กระหน่ำคลื่น โยกซ้ายขวา หรือเกิดพายุในตู้ คงทำไม่ได้ ทำใจ
-ระดับน้ำของตำแหน่งการวางตู้ ห้ามเอียงซ้ายขวาหน้าหลัง
-อายุตู้ เก่ามากก็เสีียว เก็บไว้ตากแดดก็เสื่อม ต้องตรวจสอบก่อนใช้ ไม่ใช่แค่ไม่รั่วไม่ซึม
FAQ: ตู้ผมจะทำกรองล่างด้วย แล้วควรเจาะรูน้ำลงแบบไหนดีครับ?
ตอบ: แง่มมมม ไม่ค่อยเข้าใจคำถามเท่าไหร่ เอาเป็นตอบแบบกว้างๆไปก่อน
1. เจาะรูน้ำลงด้านข้าง/หลัง - โดยการเจาะกระจกเป็นรู เพื่อต่อท่อลงมายังกรองล่าง มีข้อดีคือ ไม่เสียพื้นที่ ไม่เกะกะตา แต่ข้อเสียก็มีคือ หากเจาะไม่ถูกตำแหน่ง ของเสียก็อาจจะลงกรองล่างได้ไม่สะดวก และการเจาะริมขอบกระจกเกินไป/กระจกบางนิด/มีการขยับตัวของท่อน้ำ/กระจกรับน้ำหนักมากเกินไป อาจจะเป็นสาเหตุให้ตู้ราวได้ ดั้งนั้น การเจาะรูน้ำลงควรเจาะบริเวณกระจกแผ่นเล็กด้านข้างตู้ น่าจะทำให้แข็งแรงกว่าเจาะที่บานหลัง
ส่วนขนาดของรูน้ำลงก็ควรสัมพันธ์กับปั๊มน้ำขึ้นด้วย หากเล็กไปก็ระบายน้ำไม่สะดวก ใหญ่ไปกระจกต้องรับน้ำหนักท่อที่มากขึ้นทั้งน้ำหนักของตัวท่อเองที่ใหญ่ขึ้นและปริมาณน้ำที่อยู่ในท่อด้วย คร่าวๆก็
ตู้24-30นิ้ว รูน้าลงก็ประมาณ 1 นิ้ว
ตู้36-48นิ้ว รูน้ำลงก็ประมาณ 1.5นิ้ว
และควรมีสายรัดหรืออะไรก็ตามที่ช่วยรับน้ำหนักท่อเพิ่มเติม กระจกจะได้รับน้ำหนักน้อยลงครับ
2. กั้นมุม แล้วเจาะพื้นตู้ - เป็นการใช้กระจกอีกบานกั้นเป็นช่องน้ำลง แล้วเจาะรูที่พื้นตู้ ก็มีข้อดีคือ ได้ความแข็งแรงครับ เพราะน้ำหนัก+แรงดันน้ำจะส่งมาถึงรอบๆบริเวณกระจกที่เจาะรูน้อยมาก รวมถึงการยิงซิลิโคนก็ยังช่วยเสริมความแข็งแรงของตู้เพิ่มขึ้น และการไหลลงของของเสียสู่กรองล่าง ก็มีพื้นที่มากกว่าและดีกว่าการเจาะรูเฉยๆ แต่ข้อเสียก็คือ เสียพื้นที่ของตู้ไปส่วนนึง ต้องเลือกเอาครับ
ส่วนขนาดรูน้ำลง ก็เหมือนกันข้อ1ครับ ปกติ
3. ทำโอเวอร์โฟล - เป็นการเพิ่มส่วนที่เป็นโอเวอร์โฟลบริเวณด้านข้าง ด้านใดด้านหนึ่งเพื่อนำน้ำลงสู่กรองล่าง อาจจะเป็นโอเวอร์โฟลเต็มด้านข้าง หรือ ตัดกระจกเป็นช่องเพื่อให้แลดูสวยงาม ข้อดีก็คือ นำของเสียลงสู่กรองล่างไ้ด้ดีเหมือนการกั้นมุม โดยไม่เสียพื้นที่ในตู้ แต่ข้อเสียอาจจะเป็นกระจกบานนั้นคงไม่แข็งแรงเหมือนเดิม(มั๊ง ไม่ใช่ช่าง+คำนวนก็ไม่เป็น..555)
ทั้ง3แบบมีข้อดีข้อเสียปนๆกัน เราต้องเลือกเอาเองครับ ว่าอยากแบบไหน แต่มีสิ่งสำคัญคือ
1. ท่อน้ำลงต้องมีการรัดที่แน่นหนา เพื่อกันการขยับของท่อ รวมถึงแบ่งการรับน้ำหนักของกระจก เพื่อลดโอกาสที่กระจกบริเวณนั้นจะร้าว
2. กระแสน้ำ ต้องดีพอ ไม่ว่าจะทำน้ำให้ลงกรองล่างแบบไหน หัวใจสำคัญคือการนำของเสียลงไปให้มากที่สุด การจัดกระแสน้ำไม่ดี กั้นแบบไหนก็ไม่เกิดประโยชน์ครับ วิธีดูง่ายๆคือ ฝ้าบริเวณผิวน้ำถ้าไม่มีแปลว่าพอได้ ถ้ายังมีแปลว่าต้องจัดใหม่ หากไม่มีฝ้าที่ผิวน้ำค่อยมาดูตะกอนสะสมว่าไม่มีเลย มีน้อยๆ มีน้อยๆเท่าเดิม หรือมีมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ไปจัดการแก้ไขต่อไป
FAQ: ตู้หลัก+กรองล่าง+ขาไม้ เลี้ยงได้ไม๊?
ตอบ: ได้ครับ ดีเลย ชอบมาก รักเลย จุ๊บๆ [on_026] [on_026]
FAQ: ถ้าเป็นขาเหล็กล่ะ?
ตอบ: มันก็ผุซิครับ แต่ถ้าดูแลให้ดีคงไม่มีปัญหา กลัวแค่ถ้ามันผุแล้วจะทำยังไง ต้องยุบตู้หรือเปล่า ไปคิดเอาเองครับ
FAQ: อยากได้อารมณ์แบบ น้ำลึก เป็นไปได้ไม๊ ชอบตู้สูงๆ มีภูเขาด้านหลัง?
ตอบ: ได้สิ จัดไป แต่ขาตุ้ต้องแข็งแรง กระจกต้องมีการเผื่อหน่อย ไฟต้องแรงถ้ามีก้นตู้ แต่ถ้าสูงเกิน30นิ้ว จะหาอุปกรณ์ยากครับ ราคาแรงพอควร ค่าไฟจะตามมา เพราะไฟแรง แต่ของแบบนี้แล้วแต่ความชอบครับ แย่หน่อยตอนขัดตู้-ล้วงตู้ จั๊กกะแร๊เปียกพองามครับ
FAQ: แล้วถ้าอยากเป็นแบบตู้ชายหาดริมทะเล ล่ะ?
ตอบ: ตู้เตี้ยก็เป็นทางเลือกที่ดี แต่ความชอบ ของใครของมัน ตู้เตี้ยสามารถเลือกใช้ไฟได้หลากหลาย ประมาณ18นิ้วลงมา มีให้เลือกเพียบ ราคาตามคุณภาพครับ แต่ข้อเสียคือชอบโผล่ ปะการังมันชอบโผล่พ้นน้ำ จัดตู้ได้ไม่สูงมากถ้าตู้เตี้ยเกินไป จริงๆแล้ว อะไรที่มันไม่พอดี คุณต้องทำใจนิดนึงเพราะความไม่พอดีนี่แหละตัวดี ชอบทำเรื่อง
FAQ: อยากตัดตู้ใหม่ ร้านไหนแนะนำ ไม๊?
ตอบ: ไม่มีพิเศษครับ ร้านเดิมๆ ชื่อเสียงเดิมๆ ก็สั่งไป ถ้าชอบของแปลก ชอบความถูก หรือเ็ป็นคนใจร้อน ต้องยอมรับความเสี่ยงครับ ถ้าไม่ถูกใจแล้ว แย่เหมือนกัน ยังไงรบกวนเสียเวลาค้นหาซักนิดนะครับ จากในเวปนี้ก็ได้ใช้คำว่า "ตัดตู้" แล้วก็ค่อยๆอ่านไปร้านไหนดี ร้านไหนมีปัญหา ร้านไหนไม่ถูกใจก็ว่ากันไป
เสียเวลาหาดีกว่า เสียตังค์แล้วยังเสียความรู้สึกครับ เพราะเวลาหาเวลานั่งอ่านไม่เกินวันนึงหรอกครับ แต่เวลาโดนเลื่อนนานกว่านั้น ผมว่า...
FAQ: ตั้งตู้ในห้องนอน เป็นไรไม๊?
ตอบ: ถ้าทนเสียงอุปกรณ์ได้ และ เรื่องไอเกลือทำให้เกิดสนิม-ความชื้นใกล้ๆตู้ได้ ก็ตั้งได้ครับ แต่ขอการระบายอากาศที่ดีหน่อยเพื่อสุขภาพของคุณเอง
FAQ: อยู่หอครับ อยากตั้งตู้ทะเล
ตอบ: ก็ตั้งเลย แค่คุมค่าไฟให้ดี ปลาล้วนก็ได้ใช้พัดลมช่วย แต่ถ้ามีก้นตู้ระวังค่าไฟ เพราะหอส่วนมากกลางวันร้อน พัดลมคงเอาไม่อยู่ คงต้องมีชิลเลอร์หรือจะDIYชิลเลอร์แล้วแต่ศรัทธาครับ แต่ยังไงควรต้องมีจากประสบการณ์ นศ.ส่วนมากถ้าไม่ยุบก้นตุ้ก็ต้องสู้กับค่าไฟครับ ไม่มีอะไรได้มาโดยไม่เสียไปครับ คุณต้องเลือกเอง แต่ถ้าจะเอาแบบค่าไฟถูกๆ ก้นตู้สวยๆโดยไม่มีชิลเลอร์คงต้องคุมเรื่องอุณหภูมิทั้งวันไม่ให้เกิน29องศา (ยากนะครับ)
FAQ: อยากมีตู้ปะการังจัง แต่กลัวแม่บ่นเรื่องค่าไฟ ไม่อยากใช้ชิลเลอร์ ทำไงดี....
ตอบ: ต้องไปดูตู้คุณ Romeo_PoP ครับดูที่ลายเซนต์แกมีหมด ละเอียดด้วยเป็นขั้นเป็นตอน แต่ถ้าคร่าวๆคือ พัดลมหรือDIYชิลเลอร์จากกล่องโฟม วิธีแก้ตู้ร้อน เชิญชมครับ ของคุณ Pongsatorn35 หรือจะใช้อะไรก็ได้เพื่อให้คุณคุมอุณหภูมิให้ไม่สูงเกิน 29องศา (ผมไม่ใช้30นะเผื่อเหลือไว้อีก1องศา) หาตำแหน่งวางตู้ดีดี จากนั้นก็ไปดูเรื่องแหล่งที่ก่อให้เกิดความร้อน ไฟคงเป็นT5หรือLED ปั๊มทุกอย่างเป็นไฟDCยิ่งดีเพราะร้อนน้อยกว่า ที่เหลือต้องไปหาทางเอาเอง ถ้าทำไม่ได้ ตายเรียบครับ
FAQ: งบน้อยอยากมีตู้ทะเลกับเขาบ้าง ต้องทำยังไง?
ตอบ: แหม! อันนี้ตอบยากแฮะ ก็ค่อยๆซิครับ ค่อยๆสะสม มือ1มือ2 เยอะแยะ ค่อยเป็นค่อยไป แล้วก็เลี้ยงตามสิ่งที่มีไปก่อน อัพอุปกรณ์ได้ ค่อยอัพสิ่งที่เลี้ยงครับ ห้ามใจตัวเองบ้างครับ ส่วนขั้นตอนและวิธีก็
งบเบา-นาโน คุณ Romeo_Pop
FAQ: อยากตั้งตู้ทะเล มีงบxxx รบกวนช่วยจัดด้วย
ตอบ: ก็นะเอาแบบที่ต้องมีก่อน เฉพาะอุปกรณ์ที่ต้องมีหรือควรต้องมี เรียงตามลำดับความสำคัญ คือ
1.ตู้หลัก+กรองล่าง+ขาไม้
2.เกลือหรือน้ำทะเล คำนวนเองครับ ชอบแบบไหน ยี่ห้อไหน เลือกตามสบาย เผื่อไว้เปลี่ยนน้ำซักหน่อยก็ดี
3.สกิมเมอร์ สัมพันธ์กับตู้ 2เท่าของปริมาณน้ำรวมโดยประมาณ ยี่ห้อดีหน่อยจะได้ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย
4.ปั๊มหลัก และ ปั๊มทำคลื่น เลือกตามความเหมาะสม เยอะแยะมากมาย
5.เทสเตอร์ วัดค่าน้ำต่างๆ ซื้อเถอะ จะได้ไม่เป็นปัญหาให้ลูกหลาน ถ้ามีแล้วจะตอบคำถามได้เยอะเวลาตู้มีปัญหา
6.ไฟ เลือกเอาให้เหมาะกับสิ่งที่จะเลี้ยง ฟลู-PL-T5-MH-LED เลือกเอาเลย เห็นกับตายิ่งดีบางทีภาพมันหลอน
7.ชิลเลอร์ และ เทอร์โมมิเตอร์ดีดี หรือ เทมป์คอนโทรล ถ้าอยากเลี้ยงปะการัง ควรมีไว้
8.รีแอคเตอร์ และ รีมูฟเวอร์ ต่างๆ ตามศรัทธา ถ้าอยากใช้
แล้วก็บวกลบคุณหารกับงบที่มีครับ ข้อ1-5ควรต้องมี ข้อ6-7เป็นตัวเลือกเสริมถ้าคิดจะมีก้นตู้กับเขา ข้อ8ตามกำลังทรัพย์
FAQ: ถามกันบ่อยจัง สกิมเมอร์รุ่นไหนดี?
ตอบ: แบ่งเป็นตัวๆเลยนะ
สกิมเมอร์ - รุ่นไหนดี ตอบได้ครับ ว่า BK(Bubble King) แต่งบไม่ถึงทำไงดีน้อ... ก็จัดเอาแบบพอเหมาะพอควรครับ จะ BM(Bubble Magus) หรือ AE (AquaExcel) หรือ M+ (Marine Plus) หรือ ปลาหมึก(Reef Octupus) หรืออะไรก็ตามงบครับ ราคาแพงหน่่อยก็น่าจะดีกว่าถูกหน่อย เป็นเรื่องปกติทางการค้าครับ แบบรุ่นดีสุดยอดปั่นน้องๆBKแต่ราคาจิ๊บๆเท่าDymaxอย่าไปคาดหวังครับ ไม่มีแน่ๆ ไม่ต้องค้นหา แต่สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ "ปริมาณน้ำในตู้ + ความหนาแน่นและของเสียในตู้"
ผมให้ดู 2 อย่างแบ่งเป็น
1.ปริมาณน้ำในตู้ - ก็ไปคำนวนเอาครับสูตรคร่าวๆก็
- ปริมาณน้ำตู้หลัก = กว้าง*ยาว*สูง (เป็นนิ้ว)*0.016667
- ปริมาณน้ำตู้กรอง = กว้าง*ยาว*สูง (เป็นนิ้ว)*0.016667
- ปริมาณน้ำรวม = ปริมาณน้ำตู้หลัก+ปริมาณน้ำตู้กรอง (ไม่ต้องคิดเล็กคิดน้อยเช่น หักมีหินเยอะ มีกั้นมุม มีนั่น มีนี่ คิดไปเลยเต็มๆ)
2. ความหนาแน่นและของเสียในตู้ ก็เป็นเรื่องของจำนวนสิ่งมีชิวิตในตู้มากน้อยแค่ไหน ความสามารถในการทำของเสียในตู้เก่งแค่ไหน เช่น ตู้36มีปลา 10ตัวเอง แต่เป็นแทงก์ซะ9ตัว ไซส์ประมาณฝ่ามือ แบบนี้ก็เรียกหนาแน่นแล้วครับ หรือแบบตู้24นิ้ว ก้นตู้แทบทะลักระเบิดออกมาได้เลย ก็เรียกว่าหนาแน่นเช่นกัน หรือ มีปลา5ตัว ให้อาหารบ่อยมาก เดินผ่านทีหย่อนที แบบนี้ก็ใช่
ทีนี้ก็มาดูขนาดของสกิมเมอร์ว่าจะเลือกขนาดไหน
**ถ้ามีความหนาแน่นน้อย ทั้งในวันนี้และวันต่อไป ซัก 2 เท่าของปริมาณน้ำในตู้ก็หรูครับ
**ถ้ามีความหนาแน่นน้อย แต่คาดว่าจะเยอะแน่ๆ ซัก 3 เท่าของปริมาณน้ำในตู้เป็นตัวเลือกที่ดี
**ถ้าปลาบิ๊กๆ + มีก้นตู้เต็มตู้ ผมขอแนะนำให้จัด BK ไปเลยครับ ถ้าไม่ได้ ให้ซัก 3 เท่าของปริมาณน้ำแล้วขยันเปลี่ยนน้ำให้บ่อยกว่าชาวบ้านเขาเป็นวิธีที่ดีที่สุดครับ
ส่วนถ้ายัดเบอร์ใหญ่ๆลงไปในช่องกรองไม่ได้ ก็ึคงต้องยัดเบอร์ที่สูงที่สุดแล้วอาศัยการเปลี่ยนน้ำเอาครับ
FAQ: สกิมเมอร์แบบขนาดกลางๆใช้2ตัวไปเลย หรือจัดตัวใหญ่ๆ ตัวเดียว อันไหนดีกว่า?
ตอบ: เป็นเรื่องนานาจิตตังครับ ถ้าอยากใช้2ตัวก็ต้องลองครับ ถ้าไม่นิยมความเสี่ยงหรือเอาแบบทีเดียวจบก็จัดตามขนาดที่ควรจะใช้ไปเลย
ืทั้งนี้ทั้งนั้น ขอยืมคำคุณป๊อบ(RomeoPop) หน่อยนะครับ
"เปรียบเทียบง่ายๆนะครับ เครื่องปั่นน้ำผลไม้
- เครื่อง A แบบธรรมดา homeuse 2 เครื่อง
- เครื่อง B แบบปั่นสมูทตี้ 1 เครื่อง
แบบ A 2 เครื่องต่อให้ปั่นนานแค่ไหนก็ทำเป็นสมูทตี้ไม่ได้
แบบ B ปั่นออกมาเป็นสมูทตี้ได้ด้วยประสิทธิภาพเครื่องเอง"
ไปคิดเอาครับ [on_026] ไม่ต้องแปลเป็นไทย
FAQ: ชิลเลอร์ล่ะ เลือกขนาดไหน?
ตอบ: ที่ตัวเครื่องสเปคก็มีบอกนิครับว่าใช้กับน้ำกี่ลิตร แต่ถ้ายังไม่แน่ใจหรือยังไม่ได้ซื้อหรือคาดว่าจะซื้อก็ต้องดูก่อนครับ ว่า
1. ปริมาณน้ำกี่ลิตร (คำนวนตามแบบสกิมเมอร์ด้านบน)
2. ตำแหน่งฮวงจุ้ยของตู้ร้อนมากน้อยแค่ไหน อากาศถ่ายเทดีหรือเปล่า
3. แหล่งกำเินิดความร้อนอื่นๆ เช่น ไฟMH
ปกติเห็นเขาโอเวอร์กัน 2 เท่าของปริมาณน้ำครับ แต่ปัจจัยอื่นก็มีเอี่ยวนิดๆ คือ ถ้าที่วางตู้ไม่ร้อน หรือไฟไม่ร้อน หรือมีการเปิดแอร์ อาจจะลดลงมาได้เหลืออซัก1เท่า-1เท่ากว่าๆก็พอได้ครับ
สำคัญคือ ห้ามนับอุณหภูมิในช่วงหน้าหนาว ให้ยึดถือช่วงมีนาคม-เมษายนเป็นหลักก็ดีครับ เพราะเป็นช่วงที่ชิลเลอร์ทำงานหนักมาก
ปกติการทำงานชิลเลอร์ทั่วไป น่าจะอยู่ที่ "ทำงาน1ส่วนเวลา หยุดพัก2ส่วนเวลา" ถ้าพักได้นานกว่านั้นก็ประหยัดไฟไปอีกหรือแปลได้ว่าปัจจัยความร้อนภายนอกตู้มีน้อยทำให้อุณหภูมิในตู้ขึ้นแบบช้าๆ
แต่ช่วงหน้าร้อนในเวลาที่ร้อนสุดๆ อาจถึงขึ้น "ทำงาน1ชั่วโมง ตัด1ชั่วโมง" ก็ไม่ถือเป็นเรื่องแปลก แต่ช่วงกลางคืนควรจะตัดนานกว่าช่วงทำงานน่าจะเป็นเรื่องที่ดีกว่า
FAQ: ปั๊มหลักขนาดเท่าไหร่ดีครับ?
ตอบ: สั้นๆ ห้วนๆ คือ 10เท่าของปริมาณน้ำครับ เช่นน้ำรวม 250ลิตร ก็ใช้ซัก3000L/Hr เพราะใช้ไปซักพักแรงมันจะตกเอง งงไม๊.... ไม่งงนะ
แต่ปัจจุบัน มีปั๊มพวกDC ซึ่งกินไฟต่ำ ทำน้ำได้มากกว่าปั๊มAC~ ก็เป็นทางเลือกที่ีดีแน่นอนว่า
หากมีการต่อพ่วงอุปกรณ์อื่นก่อนขึ้นตู้หลัก หรือ มีการต่อท่อเลี้ยวไปเลี้ยวมา ลดแรงดันของปั๊มได้ เพราะสามารถปรับความแรงได้
หรือ อาจจะต่อท่อน้ำขึ้นเป็น 2 หรือ 3 ทางก็ยังได้ เพื่อกระจายกระแสน้ำไปอีกทางนึง ดีไ๊ม๊ล่ะ...
FAQ: อยากตั้งตู้ทะเล ต้องทำยังไงบ้าง?
ตอบ: อ่านอันข้างบนทั้งหมดก่อน แล้วเริ่มตั้งตู้ครับ ตั้งยังไง ก็ดูเอาครับที่ปักหมุดไว้ หรือ
มือใหม่หัดตั้งตู้ทะเลทั้งหลายอ่านทางนี้ก่อนตั้งคำถามครับ ...รวม Link บทความที่น่าอ่านไว้ให้แล้ว เขารวมไว้แล้วครับ
อย่าขี้เกียจอ่านนะครับ แล้วก็อยากจะบอกว่าตั้งตู้ทะเลแบบทางลัดด่วนๆ ใจร้อน มีปัญหาตามมาเยอะครับ จะรับฟังหรือไม่ก็แล้วแต่ แต่ที่แน่ๆคือ ไม่ง่ายเหมือนเลี้ยงปลาน้ำจืดแต่ไม่ยากเกินความสามารถครับ กล้าเสียเงินตั้งเยอะเพื่อซื้ออุปกรณ์และปลาทำไมถึงไม่กล้าอ่านและรอเวลาให้ระบบเซตตัวมันเองล่ะครับ... อีกประเภทคือมีเงินแต่ไม่มีความรู้..พอไปเสียค่าความรู้แล้วมันช้ำใจนะครับ โดนหลอกและล่อมีให้เห็นเยอะแยะครับ ใจเย็นๆ อย่าให้ใครเอาเปรียบเราอย่าให้ใครหลอกเราภูมิใจกว่า..
FAQ: อยากตั้งตู้ทะเลแบบเร่งด่วน ใช้เทคโนโลยีขั้นเทพ มีทางเป็นไปได้ไม๊?
ตอบ: เอาเป็นว่า ถ้าคุณถามแบบนี้ แปลว่าคุณยังต้องสะสมความรู้ความเข้าใจอีกเยอะครับ ขอตอบว่าไม่มีครับ ยังไงก็ต้องรันเป็นเดือน ทำไมล่ะ? คุณจะได้มีเวลาหาข้อมูลเพิ่มเติมไงครับ อ่านเข้าไป ปลาชอบแบบไหน ลงรวมกันได้เปล่า ก้นตู้ชอบแบบไหน-ต้องการอะไรบ้าง อ่านเข้าไป....
แต่ถ้าคุณเป็นเทพ ไม่ต้องเทคโนโลยีขั้นสูงครับ คุณรันน้ำอาทิตย์เดียวอยากลงอะไร ลงได้เลย แค่คุมทุกอย่างให้ได้แค่นั้นเอง
ไม่ใช่เรื่องง่ายนะครับ ปัญหาตามมาอีกเยอะ หลีกเลี่ยงได้ใ้ห้หลีกเลี่ยงการทำแบบนี้ครับ...
-- 30กย57 --
FAQ: เห็นวันก่อนมีสินค้าตัวนึง แบบว่าเมพมากๆ (เทพนั่นแหละ) ว่าใส่ปุ๊บวันสองวัน ลงปลาได้ปั๊บเบย (เลย)?
ตอบ: มีครับ สินค้าแบบนี้มีจริงๆ
FAQ: แล้วใช้ดีไม๊?
ตอบ: ต้องลองครับ
FAQ: อ้าวพี่ กวนแล้ว ถามดีๆนะเนี่ย!!!!
ตอบ: เอ่อ... 036 ผมก็ตอบตรงแล้วนะ ถามว่ามีไม๊? ผมก็ว่ามี ถามว่าดีไม๊? ผมไม่เคยลอง+ไม่คิดลอง ผมก็ตอบว่าต้องลองไงครับ คือ ให้เราน่ะไปเป็นหนูทดลองไง.. [on_026]
คือขอให้เหตุผลว่าทำไมไม่ลอง หรือ ไม่คิดลองนะครับ
บนพื้นฐานตู้ทะเล จริงๆ ก็คือการจำลองเอาทะเลมาไว้ในตู้ โดยนักเลี้ยงหรือผู้ผลิต พยายามใส่ทุกอย่างตามธรรมชาติลงไปเพื่อให้อาศัยอยู่ในตู้รวมกันได้และเกิดประโยชน์ ส่วนอันที่มีประโยชน์ในทะเลจริงแต่มีโทษมากกว่าในตู้ของเรา ก็ไม่ควรที่จะลงในตู้
ที่นี้ เมื่อระบบนิเวศน์ขาดหายไปบางอย่าง(สิ่งที่เราไม่เลือกลงตู้+ไม่มีประโยชน์/มีโทษมากกว่าในตู้ ผู้ผลิตสินค้าจึงคิดค้นสินค้าต่างๆออกมาทั้งการใช้เคมีบำบัดหรือธรรมชาติบำบัด งงป่ะ
เคมีบำบัดก็คือ พวกสินค้าที่ใช้กระบวนการทางเคมี เพื่อลด-กำจัดส่วนที่มีโทษในตู้ออกไป
ธรรมชาติบำบัดก็คือ พวกสินค้าที่ใช้กระบวนการทางธรรมชาติเข้ามาช่วยในการลด-กำจัดสิ่งที่มีโทษออกไป
ตัวอย่างเช่น ฟอสเฟตรีมูฟ ก็เป็นการเริ่มกระบวนการในการลดฟอสเฟตโดยใช้เคมีมาช่วยเร่งให้สามารถลดฟอสเฟตได้มากกว่าปล่อยไว้ให้มันลดเองตามธรรมชาติ หรือเช่น คัดเลือกแบคฯต่างๆที่มีประโยชน์มาขายเพื่อจะได้ลดเวลาในการรอให้มันเพิ่มจำนวนตามธรรมชาติ
FAQ: ยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่อ่ะ มันเกี่ยวกับสินค้าเทพๆยังไง?
ตอบ: เอาง่ายๆ สินค้าที่เขาใช้กันเยอะๆ ผ่านการทดสอบมาแล้วว่าทำได้จริง (โดยที่มันไม่เทพฯเท่าไหร่) อาจจะใช้เวลานานหน่อยไม่ใช่3วัน7วันถึงจะเห็นผล สินค้าเหล่านี้ทำได้จริงๆครับ
ส่วนสินค้าที่อ่านดูแล้วโคxรเทพฯ เลยอ่ะ (เคยมีความรู้สึกแบบนี้ไม๊เมื่ออ่านฉลาก) 3วันเห็นผล 7วันลงของ มีสถาบันแห่งชาติรับประกัน นักวิชาการระดับโลกเป็นผู้คิดค้น และอาศัยกระบวนการผลิตโดยเทคโนโลยีขั้นสูงในระดับสุริยจักรวาล แบบนี้ต้องรอบคอบนิดนึงว่าทำได้จริงหรือเปล่า อย่าเพิ่งตัดสินใจซื้อครับเพราะอาจจะไม่เหมาะกับตู้ทะเลเล็กๆของเรา อาจจะเหมาะกับทะเลสาปมากกว่า
FAQ: สินค้าเทพฯแบบนี้ มีอยู่ที่ไหนบ้าง?
ตอบ: มันเคยมีครับ เฉพาะช่วงที่ผมเริ่มเลี้ยง มันเคยมีมาหลายๆเคส มาเป็นระยะ ล่อเป้ากันไป ขายไม่นานก็ต้องเลิกขายครับ เพราะไม่เหมาะกับตู้เล็กๆของเราเท่าไหร่ เหมาะกับการเลี้ยงเอเลี่ยนมากกว่า
FAQ: สังเกตุคร่าวๆ ได้อย่างไรว่าเป็นสินค้าเทพ?
ตอบ: ตามฉลากข้างขวดเลยครับ สรรพคุณที่ไม่เว่อร์จนเกินพอดี อย่างน้อยมีตู้ที่ทำการรีวิวสวยๆจากผู้เลี้ยงในไทยจริงๆ เข้าของตู้จริงๆมายืนยันจริงๆ ผ่านการเลี้ยงโดยใช้สินค้าแบบนั้นมาจริงๆ เป็นระยะเวลาที่นานจริงๆ ไม่ใช่ก๊อปรูปใครมาก็ไม่รู้ หรือตู้โฆษณาดูไม่น่าเชื่อถือเท่าไหร่ [on_026] และ ...
แอดมิน หรือ ผู้เลี้ยงที่มีประสบการณ์มาพอสมควร ไม่มาเบรค ไม่มาท้วงซะก่อน (ไม่นานหรอกในเวปนี้มีตาหลายคู่คอยจับผิดอยู่) หรือเมื่อมีการทักท้วง แล้วสามารถหาเหตุผลมาประกอบ(ไม่ใช่ตอบน้ำขุ่นๆ) ถือว่าสินค้านั้นผ่านครับ
จบนะ ผมแนะว่า อย่าเพิ่งรีบซื้อ ให้รอฟีดแบค(Feedback)ก่อน เสียดายเงินแทน เปลีี่ยนเรื่องดีกว่า เดี๋ยวกลายเป็นประเด็น [on_026] [on_026]
FAQ: แบบนี้ใช่หินเป็นรึเปล่าครับ? (มีรูปยืมมาประกอบ 555)
ตอบ: แบบนี้ใช่ไม๊ ที่ถามน่ะ
ถ้าในรูปนี้ก็ตอบว่าใช่ครับ หินเป็นแน่นอน
FAQ: หนูเห็นรูปด้านบนแล้ว มันจะใช่หินเป็นเหรอ.. ไม่เห็นมีหู มีตาเลย
ตอบ: ถามแบบนี้เกรียนนะครับ...
FAQ: งั้นหนูถามใหม่ ขอโทษด้วย หนูไม่รู้จริงๆ อะไรคือหินเป็นคะ?
ตอบ: ถามแบบนี้ค่อยน่าตอบหน่อยครับ
หินเป็น (Live Rock) คือ หินที่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ สิ่งมีชีวิตไม่ได้หมายความถึงแค่สิ่งที่เรามองเห็นจากภายนอกนะครับ ไม่ใช่แค่มีสาหร่าย มีตะไคร่ มีกระดุม มีเอปฯ ติดอยู่ด้านนอก มองเห็นด้วยตาเปล่า
แต่หินเป็นจริงๆเอาแบบง่ายๆคือ หินที่มีแบคทีเรียที่มีประโยชน์พร้อมใช้งานในการบำบัดน้ำให้ตู้เราครับ
(ไม่ต้องมีหู มีตา หรือเดินได้นะครับ เข้าใจใหม่)
FAQ: ถามเพิ่มอีกนิด แบคทีเรียที่อยู่ในหินเป็น ใช่แบคฯตัวเดียวกับ แบคฯเทพรึเปล่า?
ตอบ: อาจจะใช่ หรือ ไม่ใช่ก็ได้ครับ
แบคทีเรียที่มีประโยชน์ในระบบตู้ทะเล มันมีชื่อเรียกเป็นกลุ่มๆน่ะครับ ในแต่ละกลุ่มก็มีสายพันธ์ย่อยๆลงไปอีก
เช่น กลุ่มบาซิลัส กลุ่มไนโตร(อะไรซักอย่าง [แคะขี้มูก] จำไม่ได้ ขำๆเท่ๆ ไปงั้นแหละ)
แต่ละกลุ่มก็ทำหน้าที่แตกต่างกันไป หินก้อนนึงก็มีหลายๆกลุ่ม แยกย้ายกันไปทำงานของตัวเอง ทั้งลดแอมโมเนีย ทั้งลดไนไตร์ท ทั้งลดไนเตรท ฯลฯ เยอะแยะจำไม่ไหว
เอาเป็น ลองดู รีวิวนี้ประกอบนะครับ ต้องดูให้ครบทุกรีวิวเลยนะครับ มีเป็นขั้นเป็นตอน
รีวิว แบคทีเรีย Enzbactor คุณภาพ(ตามนั้น) ดูให้จบ!!!!!!!
ต้องขอบคุณคุณ Pongsatorn35 ที่เป็นผู้รวมรวมมาให้ และทาง LikeNemoFarm ที่เป็นผู้ทำการทดสอบและทดสอบจนเห็นผลจริงๆ รวมถึงข้อมูลประกอบ ว่าทำไมทำได้ ทำไมทำไม่ได้ เพราะอะไร
-- 30 กย 57 --
FAQ: หินเป็น ต้องมีหรือเปล่า เลือกซื้ออย่างไร?
ตอบ: หินเป็น กับตู้ทะเล เป็นสิ่งที่จำเป็นลำดับที่2ในการมีตู้ทะเลดีๆซักตู้รองจากตู้ครับ
เหตุที่ว่าทำไมจึงเป็นลำดับที่2 เพราะ ความสวยงามของตู้ก็อยู่ที่การจัดหิน ระบบการบำบัดของเสียก็อยู่ที่หินเป็น เราจะไม่พูดถึงหินตายนะครับ เพราะเอามาใสตู้แล้วรันไปซักพักก็จะกลายเป็นหินเป็นแล้ว หรือหินเป็นเทียมก็จะกลายเป็นหินเป็นอยู่ดี
พอมันมีประโยชน์ เราก็ต้องซื้อหรือต้องมีครับ จะเลือกซื้ออย่างไร
1. หินเป็นที่ดี ต้องมีกลิ่นครับ แต่เป็นกลิ่นทะเล คาวนิด ไม่ใช่กลิ่นเน่า รู้ได้อย่างไร ก็ ต้องดมครับ
2. หินเป็นทีดี ต้องไม่มีรา ขาว-ดำ ถ้าเป็นรา เลือกได้ก็อย่าเอามา เพราะต้องมาบำบัดต่ออีก
3. หินเป็นที่ดี ไม่ควรมีตะไคร่ตรีม (ตะไคร่ที่สามารถถูออกได้)
4. หินเป็นที่ดี ถ้ามีคลอรัลไลน์ (Coralline Algae หรือ สาหร่ายหินปูน) โดยมากจะมีสีม่วง-แดง-ชมพู จะเป็นแข็งๆติดที่หิน หรือจะขึ้นเป็นแผ่นๆเหมือนมอนติโพลา ให้เลือกเป็นลำดับที่1 แสดงว่าิหินมีสภาพที่สมบูรณ์มาก หากไม่มี ย้อนไปข้อ1 ... 555
5. หินเป็นที่ดี ต้องอยู่ในน้ำ จะอยู่ในกระบำ ตู้บำบัด ถังบำบัด ยังไงก็ได้ แต่ไม่ใช่กองไว้หน้าร้าน
6. หินเป็นที่ดี อาจจะของแถม คือ กระดุมหรือปะการังติดมาถือว่าดีไป ของแถมไม่ใช่จะดีเสมอไป บางครั้งอาจจะได้แถม Aiptesia หรือปูดำๆตัวเล็กๆ หากเจอกำจัดก่อนลงตู้ครับ
7. หินเป็นที่ดี หากมีรูพรุนเยอะๆ น้ำหนักเบาๆ อันนี้ดีครับ รูพรุน ทำให้เพิ่มหน้าสัมผัสกับน้ำได้มากขึ้น น้ำหนักเบาทำให้ไม่หนักตอนแบก---อำครับ น้ำหนักเบา ลดภาระกระจกได้ แต่ไม่ใช่เรื่องสำคัญลำตับต้นๆครับ
รูปทรงของหินเป็น ต้องใช้จินตนาการเอาครับ หากเลือกซื้อก็เอาหลายๆแบบหน่อย ก้อน กลม แบน กิ่งเล้ก กิ่งใหญ่ จินตนาการล้วนๆ ว่า จะเอาอันนี้มาต่ออันนี้ อันนี้ไว้วางก้นตู้เยอะ อันนี้เหมาะเป็นฐาน อันนี้เอาไว้ขึ้นสูงๆ อันนี้ไว้โก้งโค้ง ความคิดใครความคิดมันครับ
FAQ: ช่วงรันน้ำ ต้องเปิดสกิมเมอร์ไม๊ เปิดอุปกรณ์อะไรบ้าง?
ตอบ: เปิดปั๊มหลักครับ จะได้หมุนเวียนน้ำในตู้ทั้งหมด
ปั๊มทำคลื่น-จะเปิดก็ได้จะได้ดูตะกอนหรือจุดอับ(ถ้ามองเห็น)จะได้แก้ไข
สกิมเมอร์-ไม่เปิดก็ได้ แต่เปิดก็ดีจะได้ดูฟองว่าเล็ดลอดออกไม๊ ตอนใส่แบคทีเรียก็ปิดซะหน่อยแค่นั้น
ไฟ-เปิดให้ตะไคร่มา้ก็ได้ ช่วยลดฟอสเฟตและของเสีย แต่ยังไงมันก็มาอยู่ดีแค่มาวันไหน จะไม่เปิดก็ไม่แปลก
ทั้งหมดข้างบน อาจจะเปิดหมดเพื่อเช็คอุณหภูมิน้ำในตู้ บางคนดีใจ น้ำเย็น27 ไม่ต้องใช้ชิลเลอร์พอเลี้ยงจริงกลับสูงกว่าเป็นเพราะ โดนไฟกับโดนปั๊มต่างๆ ความร้อนเลยสูงขึ้นตามปกติของการเลี้ยง อันนี้ของจริง
ชิลเลอร์-จะลองดูก็ได้ว่าทำความเย็นดีไม๊ ทำงานบ่อยไม๊ ตัดนานหรือเปล่า แต่ไม่ซีเรียส เปิดแค่เช็คเท่านั้น เปิดตลอดเปลืองตังค์
รีมูฟ รีแอคเตอร์ อุปกรณ์เสริม - ถ้าอยากรู้ว่าทำงานยังไงก็เปิด แต่ของจริงต้องตอนเลี้ยงครับ
FAQ: ตั้งตู้ทะเล โดยใช้น้ำทะเล ต้องรันเป็นเดือนหรือเปล่า?
ตอบ: รันครับ แทบไม่ต่างจาก น้ำเกลือที่ตีเองเลยครับ
FAQ: ที่ร้านบอกว่า ซื้อน้ำกับเขา ซื้อตู้ ซื้อของกับเขา ซื้อปลา+ก้นตู้ ใส่นู่นนี่นั่น แล้วเลี้ยงได้เลย มีใน3โลกไม๊คะ?
ตอบ: จำร้านแบบนั้นไว้ให้ดี อย่าไปอีกเด็ดขาด ถ้าทำแบบนั้นได้ ไม่ต้องมีเวปทะเลคอยตอบคอยแก้ปัญหาให้แล้วครับ ถือว่าร้านแบบนั้นไม่ควรคบเป็นอย่างยิ่ง ขาดความจริงใจ และ จรรยาบรรณ
FAQ: รันน้ำเป็นเดือนเพื่อรอให้แบคทีเรียเกิด เราเพิ่มแบคทีเรียได้ไม๊ จะได้ไม่ต้องรอ?
ตอบ: แยกก่อน มันเป็น 2 ประเด็น อันที่สองก่อนเพิ่มแบคทีเรียได้ไม๊ เพิ่มได้ครับ ใส่ไปเยอะๆ ถ้าไม่กลัวเปลือง แต่เดี๋ยวมันก็ตายครับ เพราะอาหารไม่พอ/ต่อเนื่อง แล้วย้อนกลับมาที่ประเด็นที่1คือต้องรอไงครับให้มันค่อยเป็นค่อยไปสร้างสมดุลในตัวมันเองครับ อย่าลืมนะครับ ตู้ทะเลคือระบบนิเวศน์แบบย่อมๆในบ้านเราเอง...ธรรมชาติอย่าไปเร่งมัน
FAQ: รันน้ำมานานแล้ว แต่ชอบหินแม่น้ำ สีสวยดี หรือหินภูเขามีส่วนเว้าส่วนโค้ง ใช้ได้ไม๊?
ตอบ: หินเหล่านั้นใช้ได้ครับ แต่จะมีแร่ธาตุต่างๆที่ไม่เหมาะกับตู้ทะเลเท่าไหร่ อย่างเช่น ซิลิเกต อาจจะทำให้ตะไคร่มาไม่จบ และอาจจะมีโลหะหนักปนออกมาจากการโดนน้ำทะเลกัด คงมีผลกับก้นตู้ด้วย ผมไม่เสี่ยงดีกว่าครับ ใช้หินเป็นดีแล้ว หรือจะทำหินเป็นเทียมDIYก็ได้กำหนดรูปทรงได้ตามต้องการ
FAQ: ต้องเปิดอ๊อกซิเจนให้ตู้ไม๊ แบบหัวฟู่ๆ อ่ะ พอดีมีปั๊มลมเหลือ อยากใช้ให้เป็นประโยชน์?
ตอบ: จะไปเปิดทำไมล่ะครับ แค่ไม่เปิดโคมไฟสนิมกินไปครึ่งแล้ว ขืนเปิดโคมไฟได้กลายเป็นไฟใต้น้ำพอดี การแลกเปลี่ยนอ๊อกซิเจนเฉพาะท่อน้ำลงมากรองล่าง แถมด้วยสกิมเมอร์ฟองเพียบก็เหลือแล้วครับ อย่าไปใส่เชียว
FAQ: ไม่ว่างเปลี่ยนน้ำเลย ยุ่งมาก ซักปีเปลี่ยนทีได้ไม๊ครับ?
ตอบ: ได้สิครับ ทำไมจะไม่ได้ ตามสบายเลย ........ แต่ลองเข้าห้องน้ำไม่ต้องราดซักเดือนดูสิ นั่นแหละ คุณกำลังทำกับตู้คุณแบบนั้นแหละ
การเปลี่ยนน้ำสำคัญกับการเลี้ยงตู้ทะเลอย่างมาก หลักๆเป็นการเอาของเสียออกจากระบบได้เร็วที่สุด ตัดวงจรไนโตรเจนออกไปหากคุณดูดตะกอนตกค้างและล้างใยกรองหรือถุงกรอง อีกทั้งยังเป็นการเติมแร่ธาตุต่างๆไปในตัวด้วย โดยที่คุณไม่ต้องเติมแร่ธาตุใดๆเลย ยกเว้นคุณมีเขา(SPS) ลองเปลี่ยนน้ำดูสิปลาจะยิ้มให้คุณ ก้นตู้จะโบกมือขอบคุณ ความสุขก็แค่นี้เองครับ ให้เวลากับมันซักหน่อย คุณอาบน้ำทุกวัน สิ่งที่อยู่ในตู้ก็อยากทำเช่นเดียวกันเหมือนกับคุณนั่นแหละ
FAQ: ตั้งตู้ทะเล แต่กลัวปู หรือสัตว์ประหลาดแถม ทำไงดี?
ตอบ: ใช้หินตายครับ ถูกด้วย จัดรูปทรงแปะอีพ๊อกซี่ได้เต็มที่ ไม่ต้องกลัวหินเป็นกลายเป็นหินตาย วิธีก็ตามนี้ ตั้งตู้ใหม่ ลองสูตรนี้ไหม... ของคุณ Puzzle เป็นแนวทาง
FAQ: อยากใช้น้ำRO/DI แถวบ้านไม่มีตู้กด อยู่ไกลมาก ใช้น้ำประปาเซตตู้ได้ไหมค่ะ หนักมาก?
ตอบ: ได้ครับ แต่ตะไคร่มาหาแบบไม่ต้องสงสัย และไม่ยอมจากไปแน่ๆ ทำไงล่ะทีนี้ ก็มีให้เลือก3ทางครับ
1. ใช้น้ำประปา แล้วก้มหน้ารับชะตากรรม
2. แบกเอง หรือ รีบหาแฟนมาช่วยแบก หรือ จะใช้วิธีการใดก็ตามแต่ เพื่อให้ได้มาซึ่งน้ำ RO เป็นอย่างน้อย
3. ติดเครื่องกรองเป็นทางเลือกที่ดีพอควร เดี๋ยวนี้ไม่แพงมาก ในเวปก็มีขาย แต่อยากรู้จังว่าตอนนี้คุณดื่มน้ำอะไรอยู่? ถ้ามีเครื่องกรองน้ำ คุณไม่ต้องแบกน้ำดื่มแล้วนะ เดินไป-เปิดก๊อก-ดื่มเลย
FAQ: เอ๊ะเลี้ยงไปซัก3-4วัน ทำไมน้ำในช่องกรองมันลดลง ต้องเติมน้ำเข้าไปหรือเปล่า ใช้น้ำอะไร?
ตอบ: มันก็ระเหยออกไปครับ จะด้วยความร้อนและความชื้นหรืออะไรก็ตามแต่ ทำให้น้ำในตู้ลดลงเอง วิธีการก็ เติมน้ำจืดลงไปครับ ขอเป็นน้ำ RO หรือ RO/DI นะครับ อย่าใช้น้ำประปา แล้วก็อย่าเติมน้ำเค็มลงไป เดี๋ยวจะยิ่งเค็มกว่าเดิม มันจะเป็นเช่นนี้ไปตลอดตราบเท่าที่คุณยังเลี้ยงอยู่ ถ้าขี้เกียจเติมบ่อยๆลองค้นหาคำว่า "Auto Top-off" แล้วจะเจอครับ
FAQ: อยากตั้งตู้ทะเล หรือมีแล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะปูพื้นทราย หรือกรวด หรือไม่ปูดี
ตอบ: อ้าว! คุณไม่รู้แล้วใครจะรู้ล่ะครับ เปลี่ยนคำถามใหม่ดีกว่าไม๊เป็น "การปูพื้นแบบต่างๆ มีข้อดีข้อเสียอย่างไร" ผมว่าดูเข้าท่ากว่านะครับ เิริ่มเลยนะครับ
แยกออกเป็นความหนาของการปูพื้นก่อน
1. DSP - Deep Sand Bed - ปูหนาๆเข้าไว้ = อันนี้เก่าแล้วครับ ปูแบบหนาๆ 4นิ้ว เขาว่าดีเพราะใต้ชั้นหนาๆจะช่วยทำให้ไนเตรทแปรสภาพไปเป็นไนโตรเจน ออกไปจากระบบได้ดี (อย่าถามว่าไนเตรท ไนโตรเป็นยังไง มันยาว) แต่ข้อเสียคือดูแลไม่ดีอาจจะเกิด OTS-Old Tank Syndrome ได้เอาง่ายตู้ล่มเพราะหมักหมมไว้เยอะเกิน
2. SSP - Shallow Sand Bed - ปูบางๆพอเป็นพิธี = ปูซัก1-2นิ้วอย่าเกิน แต่บางกว่าก็ไม่น่าเกลียด ได้ความสวย ได้ที่อยู่ให้แบคทีเรียเยอะ แต่ดูแลยากหน่อยเพราะตะกอนส่วนนึงจะถูกเก็บไว้ ตะไคร่มาจะไม่สวย วิธีกแ้ก้คือปลิง-ปลามาคอยกลับหน้าทราย เดี๋ยวนี้ใช้กันเยอะ
3. BB - Bare Bottom นะครับไม่ใช่BlackBerry = ไม่ปูอะไรเลย ข้อดี ดูแลง่ายครับมองก็เห็นว่ามีอะไรอยู่ที่พื้นตู้ เก็บกวาดง่าย แต่ข้อเสียคือไม่สวยแบบธรรมชาติ และพื้นที่แบคทีเรียลดลงเพียบ ชดเชยด้วยสกิมเมอร์ดีๆซักตัวและความขยันในการเก็บกวาด
ต่อไปเป็นวัสดุปูพื้นครับ
1.ทราย เป็นทรายทะเลนะครับ ไม่ใช่ทรายก่อสร้าง มันคนละทราย ทรายก่อสร้างมีแร่ธาตุที่ตู้ทะเลไม่ชอบเยอะ อย่าใช้เลย ทรายทะเลจะเป็นทรายจากซากปะการังผุๆพังๆ กลายเป็นทรายทะเลครับ ข้อดีขาวเนียนดำเนียน ข้อเสียฟุ้งครับ ยิ่งคนชอบซาลาเปานี่เป็นของแสลงเลย เพราะไปกวนกันบ่อย
2.กรวดปะการัง ก็คือทรายนั่นและแต่ใหญ่กว่า แค่นั้นอย่าคิดมาก รูพรุนเยอะ แต่ตะกอนก็ลงไปเยอะ แต่ของแบบนี้แล้วแต่ครับ
FAQ: กรองล่างคืออะไรครับ?
ตอบ: กรองล่างเป็นระบบกรองที่เราแยกออกมาจากตู้หลัก เพื่อ
1. เพิ่มพื้นที่เลี้ยงให้ตู้หลัก
2. เพิ่มปริมาณน้ำรวมในระบบให้มาก ผลที่ได้คือค่าต่างๆมีการเปลี่ยนแปลง(แกว่ง)น้อยลง เช่น ค่าความเค็ม อุณหภูมิ ฯลฯ
3. เพื่อเพิ่มความสวยงามให้ตู้หลัก จะได้ไม่ต้องมีท่อเยอะๆ อุปกรณ์ต่างๆ เกะกะตู้เลี้ยง
4. เพื่อเป็นที่กักขัง จองจำ ควบคุม สัตว์ต่างๆ ทั้งที่ตั้งใจเลี้ยงและไม่ตั้งใจเลี้ยง เช่น ปลาที่อยู่ตู้หลักไม่ได้ กุ้ง ปู ฯลฯ
5. เพื่อเป็นที่ทำเรฟูเจี้ยม-เลี้ยงสาหร่ายเพื่อลด ไนเตรท-ฟอสเฟต
6. เพื่อวางสกิมเมอร์ รีมูฟ รีแอคเตอร์ ท่อน้ำชิลเลอร์ ใยกรอง ถุงกรอง
7. เพื่อเพิ่มหินเป็นให้ระบบ หากตู้หลักมีน้อย
FAQ: กรองล่างใส่อะไรลงไปดี
ตอบ: ใส่ถุงกรอง ใส่ใยกรอง ใส่ปั๊มหลัก ใส่สกิมเมอร์ ใส่ปั๊มชิลเลอร์-รีมูฟ-รีแอคเตอร์ ใส่หินเป็น(เอาแบบเป็นก้อนๆ แบบเศษเป็นถุงๆ อย่าใส่เลยไม่เหมาะ ถามใครเขาก็ตอบเหมือมผม) ใส่ปลาป่วน ใส่ปลาบาดเจ็บ ใส่สาหร่าย(เรฟูเจี้ยม) ใส่แฟรกก้นตู้ ใส่น้ำใหม่ ใส่น้ำจืด เป็นไงรู้ยังว่าทำไมต้องมีกรองล่าง ถ้าไม่มีคุณต้องใส่ทั้งหมดในตู้หลักไงครับ
FAQ: กรองล่างควรมีขนาดเท่าไหร่
ตอบ: ตอบยาก แล้วแต่ความต้องการ ยิ่งใหญ่ก็ยิ่งดี เพราะต้องมีอุปกรณ์ เล็กไปอาจจะใส่อุปกรณ์ที่เหมาะสมกับขนาดตู้ไม่ได้ แต่คร่าวๆก็ไซส์ตู้หลัก แต่ความสูง ซัก15-18 ต้องดูช่องว่างระหว่างขอบตู้กรองกับคาน หากแคบไปจะล้วงยาก ใส่สกิมฯสูงไม่ได้ หากเตี้ยไปน้ำล้น แต่หากเอาง่ายๆ ดูระดับน้ำตามสเปคของสกิมเมอร์ก่อน ค่อยจัดส่วนสูงของตู้กรอง
FAQ: กรองล่างแบ่งกี่ช่อง กั้นยังไง ใส่อะไรลงช่องไหน
ตอบ: ทั่วไปก็ 3-4 ช่อง หากตู้กรองเล็ก ซัก3ช่อง ช่องน้ำลงให้พอใส่สกิมฯได้ ช่องน้ำขึ้นให้ใส่ปั๊มหลักได้ หรือจะ2ช่องก้ได้หากกั้น3แล้วช่องกลางเหลือที่น้อย แต่ตู้ใหญ่จะจัด4ช่องก็ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด
ส่วนการใส่อะไรลงช่องไหน ปกติ
ช่องน้ำลง - ใส่ถุงกรองใยกรอง สกิมเมอร์
ช่องกลาง - อาจจะมี 1-2ช่อง ก็ใส่ปั๊มฟีดเข้าของ ชิลเลอร์ / รีมูฟต่างๆ หินเป็น สาหร่าย ใส่ช่องนี้
ช่องน้ำขึ้น - ใส่ปั๊มหลัก ใส่ทางน้ำออกของชิลเลอร์ / รีมูฟ
ส่วนแบบกรองล่าง และอุปกรณ์ ก็ลองคลิ๊กลิงค์ด้านล่างเพื่อดูเป็นตัวอย่างได้ครับ
SUMP (กรองล่างจาก Google)
FAQ: เรฟูฯ คืออะไร เห็นพูดถึง
ตอบ: ชื่อเต็มๆ คือ ระบบเรฟูเจี้ยม (Refugium ผมขอใช้คำว่าระบบเพราะมันมีหลายอย่างเข้ามาเกี่ยวข้องกันและมีการเชื่องโยงต่อกัน) เป็นระบบการบำบัดน้ำอย่างนึง ถูกนำมาประยุึกต์ใช้กับตู้ทะเลเพื่อให้มีทำหน้าที่หลายอย่าง ประกอบไปด้วยคือ
1.เลี้ยงสาหร่าย เพื่อดูดซับของเสียในระบบ ทั้ง ไนเตรท(NO3) ฟอสเฟต(PO4) ซิลิเกต มีผลดีทางตรงคือดูดซับของเสียออกจากระบบ ส่วนทางอ้อมคือ ลดตะไคร่ได้จำนวนนึงเพราะสาหร่ายที่เราตั้งใจเลี้ยงจะแย่งอาหารตะไคร่ไปในตัว อีกทั้งยังเป็นที่อยู่อาศัย หลบภัยของสัตว์เล็กใหญ่ทั้งหลายเช่น พอด(ทั้งดีและไม่ดีปนอยู่ในนั้นคัดเลือกเอาเองครับ) ปลา ส่วนตัวสาหร่ายบางชนิดและพอดยังเป็นอาหารของปลาที่เราเลี้ยงด้วย สาหร่ายแนะนำก็คือ คีโตมอร์ฟา รองมาก็พวก พวงองุ่น ใบเลื่อย ฯลฯ หรือจะเป็นพวกสาหร่ายสีแดงๆ ลูกปัด ก็สีสวยดี จัดสวยๆ โชว์กรองล่างได้เลยครับ สวยไม่แพ้ตู้หลัก
2.หินเป็น-ทรายเป็น อันนี้แน่อยู่แล้ว หากมีก็เพิ่มที่อยู่อาศัยของแบคทีเรียที่ช่วยเปลี่ยนสภาพของเสียให้เป็นของไม่เสีย
3.พอด ไม่ว่าจะเป็น แอมพิพอด(Amphipod) โคพิพอด(Copepod) หรือพอดขนาดใหญ่ต่างๆ เช่นกุ้งปู รวมถึงพอดไม่ดีเช่นพวกทากต่างๆ อย่างที่บอก ต้องไปคัดเลือกสายพันธ์ที่ต้องการเอาเอง อันไหนไม่ดีก็จัดการซะ ส่วนพอดมีอะไรบ้าง ก็ตามลิงค์ครับภาษาอังกฤษแปลเอา http://www.reefkeeping.com/issues/2004-08/rs/index.php
FAQ: ข้อดีของการทำเรฟูฯ?
ตอบ: ตามด้านบนครับ คร่าวๆก็ ลดของเสีย เป็นที่หลบภัย เป็นที่อาศัยของพอด เป็นที่กำเนิดของอาหารปลาทั้งสาหร่ายและพอด ลดตะไคร่ได้ เพิ่มO2ในระบบจากการสังเคราะห์แสงของสาหร่าย
FAQ: มีข้อดี แล้วข้อเสียล่ะ?
ตอบ: แน่นอนทุกอย่างเมื่อมีข้อดีต้องมีข้อเสียครับ
1.หมักหมมหากไม่การถ่ายเทน้ำไม่ดี อันนี้ต้องคอยดูดตะกอนตกค้างออกครับ
2.สาหร่ายส่วนที่ตายจะคายของเสียกลับคืนเข้าระบบและตัวมันเองเมื่อตายก็เป็นของเสียด้วยเช่นกัน ต้องมีการดูแล ดึงทิ้งส่วนที่ไม่โดนแสง หรือกลับด้านเพื่อให้โดนแสงทั่วถึง เยอะเกินไปก็ไม่ดี แต่ถ้ามีน้อยไปอาจจะไม่เห็นผลในเรื่องการดูดซับของเสีย
3.คาย CO2 ในช่วงกลางคืน พืชต้องหายใจเหมือนกัน หากมีเยอะไป CO2 จะดึง pH ให้ตก ค่าต่างๆจะเริ่มเพี้ยนตาม pH เป็นเหตุให้บางคน เปิดไฟเลี้ยงสาหร่ายในช่วงปิดไฟหลัก แต่ก็นะ ยังไม่ได้มีการยืนยันเป็นหลักฐานที่ชัดเจน ส่วนตัวผมว่าทุกอย่างเยอะไปก็ไม่ดี น้อยไปก็ไม่ดี เอาแบบพอดีๆ สาหร่ายไม่ต้องแน่นเเปรี๊ยะ แต่ก็ไม่หรอมแหรม
FAQ: อุปกรณ์มีอะไรบ้างที่ต้องใช้ทำระบบเรฟูฯ?
ตอบ: ไฟครับแน่นอน สาหร่ายต้องการแสงเพื่อสังเคราะห์แสงครับ ส่วนไฟไม่ต้องแรงขนาดเหมือนตู้หลักครับ ที่นิยมใช้ก็พวกหลอดฟลูออเรสเซนต์ชนิดต่างๆ (ตรง พับPL ม้วน) หลังๆLEDเริ่มมีบทบาทมากขึ้นกับวงการตู้ทะเลเพราะประหยัดไฟกว่ากันเยอะ ก็ใช้ได้ครับ อุณณภูมิแสงก็ Daylight-6500k หาง่าย หรือจะสูงกว่านี้ก็ไม่เป็นปัญหาครับ ส่วนเรื่องกระแสน้ำหากมีจุดอับก็ปั๊มเล็กๆซักตัวเพื่อลดการหมักหมมของตะกอน
FAQ: เรฟูฯต้องกรองล่างอย่างเดียวหรือเปล่า?
ตอบ: ถ้าได้ก็ดี แต่ถ้าที่ไม่พอ จะใส่ตะกร้าลอยน้ำ หรือทำกล่อง ไว้ตู้หลักเพื่อเลี้ยงสาหร่ายก็ตามความเหมาะสมครับแต่ต้องดูเรื่องกระแสน้ำให้มีการไหลผ่านด้วย ไม่งั้นก็ไม่เกิดประโยชน์ครับ
FAQ: อยากเปลี่ยนตู้ อยากย้ายตู้ ทำไงดี?
ตอบ: ต้องแยกออกก่อน ว่าจะเปลี่ยน หรือจะย้ายครับ ตู้ใหม่ให้ล้างและแช่น้ำดูว่ารั่วซึมและแช่ซิลิโคนให้เรียบร้อยเพื่อเตรียมพร้อมใช้งาน ส่วนภาชนะต่างๆที่ไว้เพื่อพักของ-น้ำ-ปลา ขอเรียกรวมๆว่าถังนะครับคีย์ง่ายดี น้ำใหม่เตรียมให้พร้อมถ้าทำได้ควรใช้น้ำเก่าซัก50%ของตู้ใหม่กำลังดีที่เหลือเอาไว้ล้างทรายและหิน ขั้นตอนคร่าวๆ ก็
1.ดูดน้ำในตู้ลงถังพัก ซักครึ่งถัง มีกี่ใบก็เฉลี่ยเอา แล้วขนทั้งหมดยกเว้นวัสดุปูพื้น ลงถัง ถ้ามีปั๊มลมก็ใส่ไว้ ส่วนน้ำที่เหลือในตู้ดูดใส่ถังไว้ถ้าทำได้อย่าเอาตะกอนและอย่าไปกวนทรายให้ฟุ้ง จนเหลือตู้เปล่ากับน้ำและทรายติดตู้ ทรายให้แยกใส่ถังไว้ต่างหากเพราะมีของเสียเพียบไม่ต้องห่วง (ตัวผมทำโดยใช้กรองล่างใบใหม่ ใส่น้ำเก่าแล้วลงของ เปิดสกิม+ปั๊มหลักตามรูปอยุ่ในตู้กรอง2-3วัน เพราะทำไม่ทัน ทำคนเดียว)
2.ถ้าจะเอาที่เดิมมาวางตู้ใหม่ ก็ย้ายตู้เก่าออก ถ้าตู้ไว้คนละที่ ก็ขนของไปไว้ใกล้ๆตู้ใหม่
3.ตั้งตู้ใหม่ เดินท่อต่ออุปกรณ์ให้เรียบร้อย เช็คทุกอุกรณ์ เดินน้ำ ถ้าเรียบร้อย ถอดปลั๊กออกเพื่อชีวิตของคุณเอง
4. ล้างทรายรอบแรก หรือ ล้างให้ดีเลยก็ได้ ใช้น้ำเค็มนะ แต่ถ้าเลือกได้ เปลี่ยนทรายดีที่สุด ไม่มีแบคทีเรียดีกว่ามีของเสียเยอะ
5.เริ่มทำการย้าย หิน จะจัดเลยหรือจะไว้ทีหลังก็ตามใจ
6.เอาน้ำเก่าลงในตุ้หลักนะครับซักครึ่งตู้หลักก่อน จากนั้น ลงทราย ทยอยเอาของลงตุ้ เอาปลาลงตู้ก่อน
7.ย้ายหิน-ทราย-สิ่งมีชีวิตลงตู้หลักเสร็จ เติมน้ำใหม่ ลงไปจนเกือบถึงท่อน้ำลง ค่อยเติมนะครับ
8.น้ำใหม่ส่วนที่เหลือ เติมลงกรองล่างครับ (ถ้าให้ดีเช็คค่าน้ำเก่า/ใหม่ ขั้นต้น ความเค็ม-อุณหภูมิ-pH-KH ต้องเท่ากันหรือใกล้เคียงนะครับ ไม่งั้นมีเฮ)
9.เดินระบบได้เลยครับ ติดตั้งทุกอย่างเรียบร้อยแล้วนี่ จะรออะไร
10. หลังจากนี้ไปจะเริ่มมีผลข้างเคียงตามมา ขั้นแรก ให้เปลี่ยนน้ำบ่อยอาทิตย์ละ20% ย้ำนะครับอาทิตย์ละ อย่าให้นานเกินไป ของเสียเก่า+ใหม่ บูมแน่ๆ อย่าเสียดายน้ำครับ เสียดายปลากับก้นตู้ดีกว่า
ส่วนเสริม
-ถ้าแค่ย้ายตู้ เป็นไปได้ ทรายอย่าไปยุ่งกับมัน ยกไปทั้งตู้ลดระดับน้ำเอา
-ถ้ามีการเตรียมพร้อมก่อนล่วงหน้ายิ่งดีครับ เช็คตู้ให้เรียบร้อย ส่วนผมเมื่อคิดจะเปลี่ยนตู้ ผมเปลี่ยนจากปูพื้นไปเป็นBBก่อนแล้วประมาณ2-4เดือนเพื่อหนีปัญหาของเสียจากทรายครับ ยุ่งตอนช่วงเปลี่ยนจากSHBเป็นBB นิดหน่อย ดีกว่าไปปรับตอนตู้ใหม่
-ขั้นตอนทั้งหมดเหมือนง่าย แต่จริงๆ ไม่ง่ายครับ ผมใช้เวลาเปลี่ยนตู้หลายวัน ค่อยๆทำเอา เตรียมพร้อมให้ดีนะครับ
-ปัญหาของผมตอนเปลี่ยน ผมไม่เคยใช้เทสเตอร์ จำได้ช่วงนั้นหลักจากเปลี่ยนไปซักเดือน KH ตกก้นตู้ร่วงเพียบ บางอันสลายหายไป ที่เหลือ 2-3 เดือนกว่าจะฟื้นตัว เลยอยากให้มีการเช็คค่าน้ำอย่าสม่ำเสมอ..
FAQ: ตู้ทะเล ที่บ้าน เน่ามากเลยค่ะ ปัญหาเพียบ มีใครรับแลกไม๊คะ อยากได้ตู้สวยๆค่ะ?
ตอบ: ใครเขาจะไปแลกล่ะคู๊นนนน อยากได้ตู้สวยๆ หัดอ่านซะบ้างเด่ะ อ่านแล้วก็ทำตาม วิธีการมีอยู่แล้วตั้งเยอะแยะ คนเขียนก็เขียนไป คนอ่านไม่ยอมอ่าน ซ้ำยังชอบลองนู่นลองนี่ ใครห้ามอะไรก็ไม่ฟัง ใครแนะนำอะไรก็พยักหน้า hmmmm กระพริบตาเสร็จก็ไม่สนใจ..ลืมแระ ทีนี้มาทำบ่น [on_048]
คำถามต่างๆมาจากประสบการณ์ตรงและพบเห็นในเวปบ่อยๆ [on_003]
ถ้าเขียนอะไรไป แล้วบังเอิญไปพาดพิงถึงใคร หรือสินค้าใดๆ หรือร้านค้าไหน ผมต้องขอโทษมา ณ ที่นี้ด้วย ผมตั้งใจครับ
ด้านล่างเป็น Link ข้อมูลต่างๆที่ผมได้เคยทำไว้ครับ หวังว่าจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆได้บ้าง
FAQ ตุ้ทะเลต้องแบบไหน nano กรองมุม กระจกบาง ห้องแอร์ ในหอ ตั้งตู้ - เรืองของตู้
FAQ ปะการังโครงแข็งโพลิปใหญ่ LPS เป็นยังไง มีอะไร เลี้ยงยังไง แก้ยังไง
FAQ ปะการังอ่อน Soft Coral เป็นยังไง มีอะไร เลี้ยงยังไง แก้ยังไง
FAQ ตะไคร่-พืชรบกวน ที่มา ปัญหา และ การแก้ไขเบื้องต้น
FAQ ปลา - กลุ่ม การซื้อ การเลือกเลี้ยง การลง การเลี้ยง วิธีแก้ เรื่องปลาๆ
*****
ระบบกรอง...ล้วนๆ
Angelfish ปลาสินสมุทร
Aquascape อยากจัดหินสวยๆ เรามีตัวอย่างให้ครับ
Tags:
