เกริ่นมาเยอะแล้วลองมาทดสอบดูเลยดีกว่า ทางตัวแทนจำหน่ายแจ้งว่าวิธีการ Set ตู้ สามารถใช้ได้กับ แบคทีเรียของทุกค่าย จะเซ็ตแบบ Beni โดยใช้ BeeMax , Micronecton , bee 3 รองด้วย bacter base ก็ได้ หรือจะเซ็ตแบบ ADA ใช้ Bacter 100, Clear Super , รองด้วยพัมมิส ก็ได้ หรือไม่ก็ set แนว Breeder Soil คือใช้ Baif board รองพื้น แล้วใช้ Bicom starter bacteria ก็ได้ หรือจะแนวอื่นแล้วแต่ใครชอบอะไรก็ได้เหมือนกัน
สำหรับตู้นี้ผมเลือกใช้ Bicom starter กับ Bafi เนื่องจากง่ายดี และอีกอย่างคือ พัสมิส รองพื้น กับ bacter base ที่ร้านหมด ครั้นจะใช้ power sand รองพื้น ก็ขึ้เกียจแยกปุ๋ยอีก
มาดูอุปกรณ์ที่ใช้กันครับ

อุปกรณ์ที่ใช้ก็มี
1. ดินที่ได้รับมา มีแบบ Normal 1 ถุง และ Powder 1 ถุง ไม่มีโลโก้ใดๆทั้งสิ้น ขนาดเม็ดก็เท่าๆ กับของ ADA
2. Bicom starter 110ml
3. Bafi board
4. Nisso
5. กรองฟองน้ำ (อันนี้ลืมถ่ายรูป)
มาเริ่มตั้งกันเลย เริ่มจากประกอบแผ่น nisso

เสร็จแล้วก็ใส่แผ่น Bifi ลงไป พอดีกับแผ่น nisso เลย ฮิๆๆ งานนี้ใช้ 2 แผ่น เปลืองเล็กน้อย [on_018]

ประกอบร่างเสร็จ ก็จัดไป Bicom starter bacteria 110ml ในชุดประกอบด้วย Bacteria ที่มีชีวิต (เจ้าของ product เค้าว่าไว้) ที่ใช้ oxygen สำหรับย่อยสลายแอมโมเนีย และ bacteria ที่ไม่ใช้ oxygen เพื่อช่วยลด ไนเตรต ในอนาคต แถมด้วย หลอดสีฟ้าๆ เป็นสารอาหารตั้งต้นสำหรับแบคทีเรียตัวน้อยของเรา มาถึงก็ราดลงไปให้หมดทุกขวดเลย ง่ายม่ะอ่ะ


เสร็จแล้วก็เติมดินเม็ดใหญ่ลงไปเลยทั้งถุง ประมาณ 4 โล แล้วเอาเม็ด powder ทับไปอีก 4 โล หนากำลังดี

หลังจากนั้นก็เดิมน้ำพอท่วมๆ ดิน เพื่อให้ bacteria เข้าไปเกาะอยู่ใน Bafi board ของเรา ทิ้งไว้ซัก 30 นาทีก็น่าจะพอ หลังจากนั้นก็เติมน้ำโลด เอาให้เต็ม (งานนี้ผมใช้น้ำก๊อก ผ่านเครื่องกรองนะ เช็ค คลอรีนแล้ว ผ่านสบายๆ พอดีตั้งหยอดน้ำ RO หมด)

ต่อกรองฟองน้ำ และ ปั๊มอ๊อก เข้ากับกรองใต้กรวด พร้อมเดินเครื่องทำงานทันที

ขอบอกว่าน้ำใสมั๊กๆ ไม่รู้เพราะดินดี หรือว่าเป็นที่ผมเอาถุงพลาสติกรองพื้น ก่อนใส่น้ำกันดินฟุ้งก็ไม่รู้ แต่เดาว่าเป็นเพราะดินดีละกั้น ฮิๆๆ [on_026]
ทิ้งไว้ 1 คืน เดี๋ยวมาวัดค่าน้ำกันเน้อ