สำหรับตัวผม เวลาไปไหน ผมมักจะพกมีดไว้ตลอดเวลา <สาเหตุที่พกคือ ป้องกันตัว ใช้ในการตัดสิ่งของใช้เพราะเป็นสิริมงคล> แล้ววันนึงผม ดันไปเจอ ตำรวจขอค้นตัว เค้ากับบอกผมว่า น้องพกเอาไว้ก่อเหตุใช้หรือป่าว ลืมบอก มีดของผมนั้น ถ้าคนใต้จะรู้จัก เค้าเรียกว่า เดือยไก่ ตัวใบมีดยาว4นิ้ว ผมจึงเถียงกับเจ้าหน้าที่อยู่พักนึง เค้าจึง เอา กฎหมายอะไรก็ไม่รู้มาบอก คือ บอกว่าพกพาอาวุตในที่สาธารณะ มีโทษปรับ500บาท ถึง1000 ผมไม่บอกนะครับว่า สน.ไหน ผมจึงถามไปว่า พี่ ตามจริงมันปรับไม่เกิน100บาท เพราะผมโดนบ่อยมาก ก็ตั้งแต่เรียนปวช. จนตอนนี้มหาลัยแล้ว เจ้าหน้าที่พูดว่างันเอาแบบนี้ พี่ขอริบมีดของน้อง อ่าวอยู่ดีดี มาริบ ผมเลยสุดจะทน เลยโทรให้พ่อมาเครียๆ ไปๆมาๆ จะเอาทั้งมีดทั้งเงิน500 สุดท้ายโชคดีที่คนรู้จักมาพอดี ประมาณว่า ยศมากกว่า เลยปรับ100 แล้วคืนมีด
เจ้าหน้าที่มีทั้งดีและไม่ดี ใครที่ดีเราก็ยกย่อง ใครที่ไม่ดี ผมคนนึ่งละ ที่จะเยียบซ้ำ
มาดูกฎหมายอาวุธมีดกัน
กฎหมายอาวุธมีด
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1 (๕)
ถ้าเริ่มกันจาก...ชื่อของกรอบ "กฎหมายอาวุธมีด" ตั้งไว้
เรามาตีความกันก่อนว่า "อาวุธมีด" หมายถึง "อาวุธ"
ต่อมาที่ คำว่า "อาวุธ" มีระบุไว้ในประมวลกฎหมายอาญา ครับ
ตามมาตรา 1(5) ระบุว่า "อาวุธ" หมายความรวมถึงสิ่งซึ่งไม่เป็นอาวุธโดยสภาพ
แต่ซึ่งได้ใช้หรือเจตนาจะใช้ประทุษร้ายร่างกายถึงอันตรายสาหัสอย่างอาวุธ
ถ้าเมื่อไหร่...ท่านนำพาหรือใช้ "มีด" ให้เป็นอาวุธโดยสภาพ...
สภาพ หมายถึง ลักษณะในตัวเอง
ก็หมายความถึง การใช้มีดเป็นอาวุธ ครับ
อาวุธ หมายความรวมถึงสิ่งซึ่งไม่เป็นอาวุธโดยสภาพ แต่ซึ่งได้ใช้หรือเจตนาจะใช้ประทุษร้ายร่างกายถึงอันตรายสาหัสอย่างอาวุธ
อาวุธ จึงหมายถึงสิ่งที่เป็นอาวุธโดยสภาพและไม่โดยสภาพ สิ่งที่เป็นอาวุธโดยสภาพ เช่น ปืนหรือมีด สิ่งที่ไม่เป็นอาวุธโดยสภาพ เช่น cutterตัดกระดาษ
สิ่งที่ไม่เป็นอาวุธโดยสภาพแต่นำมาใช้หรือเจตนาจะใช้ประทุษร้ายร่างกายถึงอันตรายสาหัส สิ่งนั้นก็ถือว่าเป็นอาวุธ
จึง เห็นได้ว่ากฏหมายไทยไม่ได้กำหนดเรื่องขนาดของมีดหรือลักษณะของมีดว่าต้องมี สปริงหรือไม่ ชึ่งต่างกับกฏหมายของต่างประเทศ ดังนั้นมีดอย่างที่คนรักมีดทั้งหลายมีกัน จึงน่าจะเป็นอาวุธโดยสภาพทุกเล่ม
ส่วนโทษที่เกี่ยวกับอาวุธ เช่น
ม. 335 (7) ลักทรัพย์โดยมีอาวุธเป็นเหตุให้ต้องรับโทษหนักกว่าลักทรัพย์โดยไม่มีอาวุธ
ม. 337 (2) กรรโชกทรัพย์โดยมีอาวุธติดตัวมาขู่เข็ญต้องรับโทษหนักกว่าการกระทำผิดโดยไม่มีอาวุธ
ม. 340 วรรค 2 ปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธติดตัวไปด้วยต้องรับโทษหนักขึ้น
ความผิดข้างต้นมีโทษทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนโทษที่อาจจะเกี่ยวข้องกับคนรักมีดทั้งหลายเป็นส่วนใหญ่คือโทษตามมาตราข้างล่างนี้ที่เป็นความผิดลหุโทษ คือ เป็นโทษเบา
มาตรา ๓๗๑ ผู้ใดพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณ โดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุสมควร หรือพาไปในชุมนุมชนที่ได้จัดให้มีขึ้นเพื่อนมัสการ การรื่นเริงหรือการอื่นใด ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งร้อยบาทและให้ศาลมีอำนาจสั่งให้ริบอาวุธนั้น
มาตรา ๓๗๙ ผู้ใดชักหรือแสดงอาวุธในการวิวาทต่อสู้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบวัน หรือปรับไม่เกินห้าร้อยบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ตำรวจมีสิทธิตั้งข้อหา เพื่อส่งให้อัยการฟ้องศาลเพื่อริบอาวุธนั้นๆ
ถ้า ว่ากันอย่างเคร่งครัด ถ้าใครพกปืนหรือมีดเชิงบู๊โดยไม่ถูกกฏหมาย ตำรวจจับและตั้งข้อหาได้ทั้งหมด ส่วนการใช้ดุลยพินิจน่าจะเป็นเรื่องของสิ่งไม่เป็นอาวุธโดยสภาพแต่นำมาใช้ เป็นอาวุธมากกว่า เช่น อุปกรณ์การเรียนของนักศึกษาอาชีวะที่จะนำมาเป็นอาวุธ ที่เราเห็นตำรวจตรวจค้นและยึดบ่อยๆทางโทรทัศน์
ตามทฤษฎี ตำรวจไม่มีสิทธิ์ยึดครับ........... หากจะเก็บไว้ก่อน เนื่องจากกลัวเอาไปก่อเหตุ ก็ต้องลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
แต่ ในทางปฏิบัติ พอจับแล้วมันจะเริ่มขู่ว่าต้องโดนดำเนินคดี.......... ถ้าไม่อยากยุ่งยาก มันเก็บมีดไว้ แล้วรีบไปซะ........... ถ้าเป็นอย่างนั้น แนะนำให้บอกมันว่าช่วยพาไปโรงพัก เพื่อเทียบปรับครับ.......... หากที่โรงพักบอกจะยึดไว้ ก็แจ้งข้อกฎหมายให้รับรู้.......... พวกนี้มันก็ไม่อยากยุ่งกับคนที่รู้ความครับ เดี๋ยวจะเดือดร้อนซะเปล่าๆ
มีด ที่จะยึดเป็นของกลางได้ ต้องเป็นมีดที่ใช้ก่อเหตุครับ.......... หากมันยังคงยืนยันจะยึดไว้ ก็ขอให้ออกหลักฐานที่ถูกต้องไว้ด้วย จะได้เก็บไว้ฟ้องร้องทีหลัง.......... การยึดไปเฉยๆ เราแจ้งความกลับฐานยักยอกทรัพย์ได้ครับ.......... อ้อ ความจริงพอมันทำท่าจะตุกติก ก็แจ้งราคามีดให้รู้ว่า อย่าทำเป็นเล่นไปนะโว้ย มีดอั๊วเล่มละสองแสนห้า หากยักยอกไป อั๊วตามเล่นไม่เลิกเลยล่ะ
เครดิด www.gunland.net
|