Aqua.c1ub.net
*
  Sun 03/Aug/2025
หน้า: 1 ... 162 163 164 165 166 ... 201   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: มาเล่นเกมทายภาพจากภาพยนตร์เรื่องดังกัน  (อ่าน 758280 ครั้ง)
จอมใจไร้รัก ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4890 เมื่อ: 09/11/13, [11:12:57] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เจอหนังเก่ากันเข้าไปตอบกันไม่เป็นเลย  ้hahaha
เอสวา ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4891 เมื่อ: 09/11/13, [11:30:53] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

Walking Tall ไอ้ก้านยาว
ถูกต้องครับ  [เจ๋ง]
อดีตกองทัพสหรัฐกองกำลังพิเศษคริสจอห์นจ่า ( ดเวย์นจอห์นสัน ) กลับไปที่บ้านในเมืองเล็ก ๆ (ของเขาKitsap, วอชิงตัน ) หางานทำเขาก็พบว่าโรงงานซีดาร์ท้องถิ่นได้ปิดตัวลงสามปีก่อนและมีคาสิโนใหม่ในเมืองเป็นของเพื่อนที่โรงเรียนเจย์แฮมิลตันของเขา ( โอนีลดอนนา ) ว่าขณะนี้บัญชีสำหรับส่วนใหญ่ของรายได้สำหรับพื้นที่ . ในขณะที่การตรวจสอบจากคาสิโน, จอห์นสะดุดกับเพื่อนในวัยเด็ก Deni (ของเขาแอชลีย์สกอตต์ ) ซึ่งขณะนี้ทำงานเป็นนักเต้นระบำเปลื้อง หลังจากนั้นเขาสังเกตเห็นลูกเต๋าชนิดหนึ่งเจ้ามือใช้ลูกเต๋าโหลดและแสดงให้เห็นถึงนี้เพื่อลูกค้าโดยการวางเดิมพันและเรียกม้วนออกก่อนจะโยนลูกเต๋า เมื่อfloormanประกาศการจ่ายเงินไม่มีจอห์น instigates ต่อสู้และอ่อนต่อมาเนชันและหมดสติไป พนักงานรักษาความปลอดภัยที่ใช้จอห์นเข้าไปในห้องใต้ถุนและทรมานเขาด้วยการตัดลำตัวของเขาด้วยมีดสแตนเลย์ก่อนที่จะทิ้งเขาบนถนน เขาถูกพบโดยคนขับรถบรรทุกและนำส่งโรงพยาบาล แต่กู้คืนได้อย่างรวดเร็วhome town (
จอห์นไปที่นายอำเภอ ( ไมเคิลจิลลี่ ) กดฟ้องยาม แต่นายอำเภอปฏิเสธที่จะอนุญาตให้เขาทำเช่นนั้นเพราะคาสิโนที่ถูกมองว่าเป็นสิ่งสำคัญเกินทางเศรษฐกิจของเมืองที่ระบุว่าเพราะตำแหน่งของคาสิโนที่ได้รับการยกย่อง “ไม่หนีโซน” หลังจากนี้จอห์นก็รู้ว่าหลานชายของพีท (ของเขาKhleo โทมัส ), ทดลองกับตกผลึกซึ่งถูกขายให้กับเพื่อนของเขาโดยคาสิโนยามรักษาความปลอดภัย โกรธแค้นจอห์นเดินไปที่คาสิโนและการใช้ชิ้นส่วนของไม้เป็นสโมสรเริ่มทำลายทรัพย์สินคาสิโนและไร้ความปราณีเต้นยามรักษาความปลอดภัยเมื่อพวกเขาพยายามที่จะหยุดเขา จอห์นถูกจับโดยนายอำเภอและเจ้าหน้าที่ของเขาในขณะที่เขาขับรถออกไปจากที่เกิดเหตุsecurity guards. Infuriated, Vaughn goes to the casino, and using a piece of
ในการทดลองที่ตามมาทั้งหมดของการรักษาความปลอดภัยแฮมิลตันและเจ้าหน้าที่เป็นพยานกับจอห์น เมื่อผู้พิพากษาช่วยให้จอห์นที่จะนำเสนอการป้องกันของเขาเขายิงทนายความของเขาได้รับการแต่งตั้งซึ่งเป็นปริยายภายใต้อาณัติแฮมิลตัน หลังจากการพูดของพลเมืองเกี่ยวกับตัวอดีตของเมืองที่ยิ่งใหญ่จอห์นบอกคณะลูกขุนและส่วนที่เหลือของเมืองที่ว่าถ้าเขาเคลียร์ข้อหาเขาจะวิ่งไปหานายอำเภอและทำความสะอาดเมือง เพื่อเน้นข้ออ้างของเขาจอห์นเผยให้เห็นรอยแผลเป็นประหลาดบนลำตัวของเขาจากการถูกทรมานโดยเจ้าหน้าที่ของเขาคาสิโน เขาได้รับการปล่อยตัวแล้วและชนะการเลือกตั้งนายอำเภอ รับงานเขาห้ามกองกำลังตำรวจทั้งหมดและ deputizes เพื่อนเรย์เทมเปิล (ของเขาจอห์นนี่นอกซ์วิล ) ซึ่งจอห์นรู้สึกว่าเขาสามารถเชื่อถือได้เช่นเดียวกับจอห์นช่วยให้เรียนรู้เกี่ยวกับยาเสพติด
เอสวา ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4892 เมื่อ: 09/11/13, [11:36:19] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

Sin City ซิน ซิตี้ เมืองคนบาป
ถูกต้องครับ [เจ๋ง] Sin City ซินซิตี้ เมืองคนบาป
ซินซิตี้ คือเมืองแห่งฆาตกรรมและคอรัปชั่น คือเมืองแห่งความรักและการล้างแค้น ซึ่งทุกสิ่งนั้นเป็นเรื่องราวที่ง่ายดายเหมือนกับเรื่องราวของหัวใจทุกคน มาร์ฟ หนุ่มวัยกลางคนสุดคลั่งที่เส้นทางชีวิตนั้นถูกปะติดปะต่อขึ้นมาจากเศษเดนอัน กักขฬะของเมืองคนบาปแห่งซินซิตี้ เพียงชั่วข้ามคืนของความสุขอันดื่มด่ำกับ โกลดี้ หญิงสาวผู้ปฏิบัติกับเขาราวกับเทพเจ้าตัวน้อยแบบที่ไม่เคยมีหญิงใดเคยคิดจะ ทำอย่างนั้นกับเขามาก่อน เมื่อแสงแรกของวันใหม่มาถึงร่างอันไร้วิญญาณของหญิงสาวก็แน่นิ่งอยู่ข้างกาย เขาพร้อมกับเสียงไซเรนตำรวจที่กำลังดังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ เขารู้แน่ชัดว่าต้องมีใครสักคนที่สร้างสถานการณ์เลวร้ายครั้งนี้ขึ้นมาเพื่อ ใส่ความเขา แต่ว่านั่นก็ไม่เท่ากับเพลิงแค้นในใจที่พร้อมจะเผาไหม้ทุกคนที่ทำให้หญิงสาว คนเดียวที่เขารักและรักเขาต้องจบชีวิตลง ในขณะที่เหล่าตำรวจออกตามล่าเขา มาร์ฟ ต้องวิ่งฝ่าทางเดินมืด ๆ จากหลังตึกหนึ่งไปยังอีกตึกหนึ่ง ผ่านไปยังใจกลางของซินซิตี้เมืองคนบาปและเรื่องราวลึกลับซับซ้อนที่มากไป กว่าโสเภณีคนหนึ่งที่ถูกฆ่า ก็เริ่มเผยให้เห็นถึงเรื่องราวเบื้องลึกเบื้องหลังที่สลับซับซ้อนและร้ายแรง เกินกว่าที่มาร์ฟจะคาดคิด อาจดูเหมือนว่าคือเรื่องราวความโหดเหี้ยมและไร้ศีลธรรมแต่ทุกสิ่งที่เขา กำลังจำทำลงไปนั้นหมายความว่าเขาจะต้องกลับเข้าคุกไปอีกครั้งเช่นกัน ทว่าเขานั้นเชื่ออย่างสุดใจว่านั่นคือสิ่งถูกต้องที่เขาจะทำให้แก่หญิงสาวคน รักที่จากไปได้ หลังจากการเดินทางออกตามล่าล้างแค้นและต่อสู้กับคำถามถึงศีลธรรมในใจของมาร์ ฟที่มีต่อการฆ่าอย่างไม่ปรานีแล้ว เรื่องราวที่อีกด้านหนึ่งของเมืองก็กำลังก่อตัวขึ้นอย่างดุเดือดที่เต็มไป ด้วยสงคราม หมัด เสียงปืนดังกึกก้อง และเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว ใครต่อใครก็เดินทางมายังซินซิตี้กันทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นคนค้าของเถื่อน เซียนพนันหรือแม้แต่นักการเมืองนับตั้งแต่แม่หญิงคนแรกได้ตั้งร้านขึ้นมาใน ย่านเมืองเก่าฟุตบาทริมทางทั้งหลายก็ถูกครอบครองไปด้วยเหล่าผู้หญิงกลางคืน ซึ่งตอนนี้กฎหมายต่าง ๆ ก็ไม่สามารถเข้ามาถึงดินแดนแห่งนี้ได้อีกแล้ว และเรื่องราวความวุ่นวายก็กำลังก่อตัวขึ้นเมื่อเหล่าอันธพาลหัวไม้ทั้งหลาย กำลังจะเอาถิ่นของเขาคืนกลับมา และมีเพียงชายคนเดียวเท่านั้นที่จะช่วยเหลือพวกเธอเหล่านั้นได้
เอสวา ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4893 เมื่อ: 09/11/13, [11:39:26] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

Aeon Flux อิออน ฟลัคซ์ สวยเพชฌฆาต
ถูกต้องครับ [เจ๋ง] Aeon Flux อิออน ฟลัคซ์ สวยเพชฌฆาต
“อิออน ฟลัคซ์ สวยเพชฌฆาต” (AEON FLUX) ภาพยนตร์แอคชัน ไซไฟ ที่จะพาคุณตื่นตาตื่นใจไปกับโลกอนาคตอีก 400 ปีข้างหน้า เมื่อเทคโนโลยีอันล้ำยุคสามารถช่วยให้มนุษย์อย่างเราอยู่ได้อย่างสบายโดยปราศจากโรคภัย แต่บางสิ่งบางอย่างวิทยาศาสตร์ก็ไม่สามารถเลียนแบบได้ เช่นเรื่องของจิตใจและอารมณ์ของมนุษย์ นำแสดงโดย ชาร์ลิซ เธอรอน นักแสดงสาวฝีมือดี การันตีด้วยรางวัลออสการ์ รับบทเป็นสายลับสาวผู้มีเสน่ห์เหลือล้น ที่ต้องใช้ความสามารถในการเหาะเหินตีลังกาตลอดทั้งเรื่อง เพื่อลอบสังหารผู้นำของเมืองอันล้ำยุค
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกอนาคตอีก 400 ปีข้างหน้า เมื่อประชากรโลกถูกทำลายล้างจนเกือบหมดด้วยโรคร้าย เหลือแต่คนในเมืองเบรคน่า ซึ่งปกครองโดยคณะนักวิทยาศาสตร์ซึ่งมีผู้นำชื่อ เทรเวอร์ กู๊ดไชลด์ (มาร์ตัน โชแคส) เขาพยายามที่จะสร้างสังคมที่สมบูรณ์แบบแห่งโลกอนาคตเป็นสังคมที่ไร้เชื้อโรค ไร้ผู้คนหิวโหย และไร้สงคราม แต่ในขณะเดียวกันก็มีกลุ่มคนที่ต่อต้านสังคมอันจอมปลอมหลอกลวงนี้ นั่นคือกลุ่มกบฏใต้ดิน “โมนิกัน” และ อิออน ฟลัคซ์ (ชาร์ลิซ เธอรอน) เธอคือสุดยอดมือสังหารของกลุ่มกบฏใต้ดิน และเธอถูกส่งไปปฏิบัติภารกิจการปลิดชีพผู้นำอย่าง กู๊ดไชลด์ แต่แล้วเธอกลับไม่สามารถที่จะฆ่าเขาได้เพราะเธอรู้สึกเหมือนว่าเธอรู้จักเขามาก่อน ทำไมเขาทั้งคู่ถึงมีความรู้สึกเช่นนี้ต่อกัน เธอและเขาจะเป็นอย่างไรต่อไปในเมื่อเธอจำเป็นต้องฆ่าเขาให้ได้ การสังหารครั้งนี้ทำให้เธอได้ค้นพบความลับที่พลิกโฉมหน้าโลกใบนี้อย่างคาดไม่ถึง..!
TeW ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #4894 เมื่อ: 09/11/13, [20:51:35] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

สาวสวยคนนี้มาจากเรื่องอะไรหว่า  [งง]
TeW ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #4895 เมื่อ: 09/11/13, [20:53:01] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เรื่องอะไรครับ ??

จอมใจไร้รัก ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4896 เมื่อ: 09/11/13, [20:59:49] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เรื่องอะไรครับ ??



เทอร์โบ หอยทากจอมซิ่งสายฟ้า
เอสวา ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4897 เมื่อ: 09/11/13, [22:20:46] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

สาวสวยคนนี้มาจากเรื่องอะไรหว่า  [งง]

R.I.P.D.หน่วยพิฆาตสยบวิญญาณ
จอมใจไร้รัก ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4898 เมื่อ: 10/11/13, [00:36:58] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ








เรื่องอะไรครับ ?

master and commander ผู้บัญชาการล่าสุดขอบโลก
จอมใจไร้รัก ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4899 เมื่อ: 10/11/13, [00:40:49] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เรื่องอะไรครับ ?

ถูกต้องครับ

tai chi hero 2 ไทเก๊ก หมัดเล็กเหล็กตัน 2

เป็นหนังจีนที่แอบเข้าฉายแบบเงียบๆในบ้านเรามาตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว ซึ่งผมต้องขอบอกว่าน่าเสียดายมากที่ไม่ค่อยมีพูดถึง หรือให้ความสนใจกับตัวหนังเรื่องนี้ เพราะส่วนตัวผมรู้สึกกับตัวหนังไปในแนวทางด้านบวกตั้งแต่ที่เห็นทีเซอร์แรกสุดกวนของหนัง และก็เป็นเคราะห์ดีเสียจริง ที่ตัวหนังจริงๆก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวัง

หยางลู่ฉานเกิดมาพร้อมกับ พรสวรรค์พิเศษในตัว แต่กระนั้นเขาก็ถูกล้อเลียนว่าเป็นตัวตลกประจำเมือง แม่ของหยางจึงกระตุ้นให้เขาฝึกฝนวิชาการต่อสู้ โดยการเดินทางไกลไปหมู่บ้านเฉินอันเลื่องชื่อเพื่อเรียนเพลงมวยไท้เก๊ก ทว่าในหมู่บ้านเฉิน มีกฎเหล็กอยู่หนึ่งข้อคือห้ามเผยแพร่วิชาไท้เก๊กแก่คนภายนอก แต่หลังจากเจอกับลูกสาวคนสวยของปรมาจารย์เฉิน เจ้าหนุ่มหยางก็ยิ่งเลื่อมใสในวิชาไท้เก๊ก และยิ่งอยากพบปรมาจารย์เฉินเพื่อขอฝากตัวเป็นศิษย์ แต่หยางหารู้ไม่ว่าภัยร้ายกำลังจะมาเยือนหมู่บ้านเฉิน โดยการที่ ฝางซื่อชิง เพื่อนในวัยเด็กของยื่อเหนียง ได้เดินทางมาเพื่อกวาดล้างหมู่บ้านทั้งหมดเพื่อจะนำไปเป็นทางรถไฟ

Tai Chi 0 กำกับการแสดงโดย ฝงเต๋อหลุน ผู้ที่เคยฝากผลงานการแสดงไว้หลายเรื่อง รวมถึงงานกำกับเช่นกัน ที่ถึงแม้ผลงานล่าสุดของเขาอย่างหนังแนวแอ็คชั่น คอมเมดี้ อย่าง Jump จะล้มไม่เป็นท่าทั้งคำวิจารณ์และรายได้ แต่กระนั้นเขาก็กลับมาแล้วพร้อมกับผลงานใหม่อย่าง Tai Chi 0 ที่สร้างทีเดียว 2 ภาครวด นั่นคือจะมีภาคต่อตามออกมาในเร็ววันนี้ในชื่อว่า Tai Chi Hero พร้อมเนื้อเรื่องที่ต่อกันเลยก็ว่าได้ ซึ่งก็ดูเหมือนว่าผู้กำกับ ฝงเต๋อหลุน จะพยายามหาแนวทางใหม่ๆสำหรับหนังแนวกังฟูอยู่สม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็น การต่อสู้ที่ดูตลกๆ แต่เข้มแข็่ง หรือแม้แต่ลูกเล่นใหม่ๆในการต่อสู้ ที่เราเห็นในเรื่อง Jump แต่มันก็ยังไม่ลงตัวสักที จนกระทั่งมาถึงในเรื่อง Tai Chi 0 ก็ดูเหมือนผู้กำกับจะยิ่งหาแนวทางใหม่ๆมาให้หนังแนวกังฟูอีกครั้ง โดยในครั้งนี้ก็ใช่ว่าจะจัดมาให้ผู้ชมแบบธรรมดาๆ

เพราะใน Tai Chi 0 ถือได้ว่าเป็นหนังกังฟู ที่ดูแล้วแปลก แต่ สนุก ค่อนข้างใช้ได้เลยทีเดียว ด้วยการที่ผู้กำกับ ฝงเต๋อหลุน ได้ใส่ทั้งเรื่องของ โรแมนติค , แอ็คชั่น , ตลก และ ไซไฟ เข้ามารวมกันอยู่ในเรื่องเดียว ซึ่งฟังดูแล้วมันไม่น่าจะเป็นสิ่งที่เข้ากันได้เลยสักนิดเดียว แต่มันก็เป็นไปแล้ว เพราะการที่หนังมีหลายแนวอย่างที่ว่า มันดูจะเป็นสิ่งที่เกื้อหนุนให้เรื่องราวของ Tai Chi 0 ออกมาสนุกสนานเกินคาด ด้วยการที่หนังเต็มไปด้วย ฉากแอ็คชั่น ปนตลก ที่ทำออกมาได้หนักแน่นตลอดทั้งเรื่อง พร้อมทั้งการพากย์ไทยของ พันธมิตร ก็ยิ่งเรียกเสียงฮาได้อย่างพองาม แถมสิ่งที่ขาดไม่ได้ที่จะพูดถึงเลยว่าเป็นอีกสิ่งที่ค่อนข้างโดดเด่น

นั่นคือการที่ตัวหนังได้มีการใส่เสียง และ เอฟเฟกต์ คล้ายคลึงกับเกมส์อาเขต พร้อมทั้งวิธีการบอกสถานที่ และ นักแสดง ด้วยชื่อตัวหนังสือ ที่ยิ่งทำให้ดูเหมือนกับว่า เรากำลังเล่นเกมส์ตะลุยด่านขนาดย่อมๆอยู่ แถมด้านของตัวนางเอกของเรื่องอย่าง แองเจล่าเบบี้ ยังถือว่าสอบผ่านทั้งด้านของ หน้าตา ที่สามารถทำให้หนุ่มๆหลงใหลได้ตลอดเรื่อง และทางด้านของการแสดง ร่ายรำวิชามวยก็ยังออกมาดี เพราะฉะนั้นสิ่งที่ตัวหนังพยายามขายอย่างการหาแนวทางใหม่ๆให้หนังกังฟู และ ความสนุก ของหนัง สำหรับผมจึงถือว่าสอบผ่านแบบคะแนนเต็มเลยก็ว่าได้ แต่ถ้าหากว่ากันถึงอย่างอื่น ผมยังถือว่าตัวหนังในภาคนี้ยังไม่สามารถสอบผ่านได้มากนัก โดยเฉพาะด้านของ ตัวบท ที่ถึงแม้ว่าด้านความสนุกจะมาเยอะ แต่ตัวเนื้อในของหนังผมยังกลับรู้สึกว่ามันเป็นหนังที่ว่างเปล่าในระดับนึง

ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการที่ตัว Tai Chi 0 มันเหมือนกับเป็นหนังที่สร้างขึ้นมาเพื่อปูทางไปให้ของจริงใน Tai Chi Hero เสียมากกว่า เพราะตัวเรื่องใน Tai Chi 0 แทบจะเรียกได้ว่าว่างเปล่า และ ไร้มิติ โดยเฉพาะทางด้านของ ตัวเรื่อง ที่ยิ่งเป็นแนวเดินทางฝึกฝนวิชากังฟู ตัวหนังก็ควรคู่ที่จะมีประเด็นแฝง จากสื่อการสอนวิชามวยของอาจารย์เข้ามาพอเป็นน้ำจิ้มบ้าง แต่มันไม่ใช่กับใน Tai Chi 0 เพราะตัวหนังแทบจะไม่มีเรื่องราวไหนสอดแทรกเข้ามาเลยสักนิด จึงทำให้โดยรวมแล้วถึงแม้ว่า Tai Chi 0 จะเป็นตัวหนังที่สามารถทำออกมาได้สนุกกว่าที่คาดไว้เยอะพอสมควร แต่ตัวหนังก็ยังขาดด้านของ มิติ และ เนื้อหนังมังสา อยู่ในระดับนึง

เพราะฉะนั้นโดยสรุปแล้ว Tai Chi 0 จึงถือว่าเป็นหนังที่สามารถให้ความบันเทิงในด้านของ ฉากแอ็คชั่น และ มุกตลกฮาๆ ได้อย่างเต็มที่ แถมยังเหมาะกับคนที่มองหาหนังจีนแนวใหม่อีกด้วย แต่ถ้าหากพูดถึงด้านของตัวบท ยังถือว่าทำออกมาได้ไม่ดีนัก เพราะมันเหมือนเป็นภาคที่สร้างมาปูทางไปภาคต่อมากกว่า

เรื่องนี้ผมให้ 8/10 ครับ
จอมใจไร้รัก ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4900 เมื่อ: 10/11/13, [00:42:21] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เรื่องอะไรครับ ?

ถูกต้องครับ

wolf children คู่จี๊ด ชีวิตอัศจรรย์

เป็นอนิเมชั่นที่เตรียมจะเข้าฉายในบ้านเราอาทิตย์หน้าเป็นต้นไป แต่ตัวหนังมีจัดรอบสื่อตั้งแต่เมื่อ 2-3 อาทิตย์ที่แล้ว เพราะฉะนั้นผมจึงได้รับชมมาก่อน กับอนิเมชั่นที่มองผิวเผินอาจจะนึกว่าของ สตูดิโอ จิบลิ ทั้งที่แล้วมันกลับเป็นอนิเมชั่นน้ำดีอีกเรื่องที่ไม่ได้อยู่ในสตูดิโอ จิบลิ ของผู้กำกับจาก Summer Wars ตั้งหาก

The Wolf Children คู่จี๊ดชีวิตอัศจรรย์ เรื่องราวของ ฮานะ สาววัย 19 ปีที่ตกหลุมรักมนุษย์หมาป่า จนมีพยานรักเป็นลูก 2 คน ครอบครัวที่ประกอบไปด้วย 4 ชีวิตเลือกที่อยู่อย่างสงบในมุมหนึ่งของเมือง แต่เมื่อหัวหน้าครอบครัวต้องจากไปอย่างกะทันหัน ฮานะ จึงตัดสินใจที่จะย้ายไปอยู่ในเขตชนบท ซึ่งจะเป็นที่ที่ปราศจากผู้คน เพื่อที่ ลูก ของเธอที่มีร่างกายเป็นครึ่งมนุษย์ ครึ่งหมาป่า จะได้ไม่ตกอยู่ในอันตราย ซึ่งที่นั่นเธอก็ยังได้พบกับเพื่อนบ้านที่แสนดีอีกมากมาย ที่จะมาคอยช่วยเหลือเธอเพื่อใช้ชีวิตอยู่ในชนบท แถมยังต้องเจอกับบททดสอบที่ยิ่งใหญ่ เมื่อลูกๆของเธอได้เปลี่ยนไป และต้องเลือกเส้นทางของตัวเองในที่สุด

Wolf Children กำกับการแสดงโดย มาโมรุ โฮโซดะ ผู้กำกับน้ำดี ที่ฝีมือเทียบชั้นกับอนิเมชั่นของ สตูดิโอ จิบลิ จากเรื่อง The Girls Who Leapt through Time และ Summer Wars ที่เรื่องหลัง คออนิเมชั่น คงจะรู้จักกันดี เพราะถือได้ว่าเป็นอนิเมชั่นที่มีชื่อเสียงวงกว้างในบ้านเรามากๆหลังจากออกแผ่น แถมตัวหนังก็ยังทำออกมาซะดีจนแผ่นในบ้านเราขายหมดเกลี้ยงกันเลยทีเดียว โดยในผลงานเรื่องใหม่อย่าง Wolf Children ของผู้กำกับคนนี้ ก็ดูเหมือนว่าผู้กำกับจะยังคงหยิบเรื่องราวแนวถนัด มาสอดแทรกใส่ในตัวอนิเมชั่นอยู่เช่นเคย ซึ่งหนึ่งในนั่นคือเรื่องราวของ ครอบครัว และ ความสามัคคี ที่ถ้าหากใครคิดว่าเรื่องราวเหล่านั้นใน Summer Wars กินใจแล้ว ขอให้แนะนำมาชม Wolf Children เพราะมันจะออกมากินใจกว่า และเต็มไปด้วยโทนหนังอารมณ์ที่มืดม่นและสมจริง

โดยเฉพาะเรื่องราวของ แม่ม่าย ที่ต้องดูแลลูกตามลำพัง หลังจาก หัวหน้าครอบครัว ต้องจากไปอย่างกระทันหัน ที่หนังใช้เวลาครึ่งแรกของเรื่อง ปูถึงเรื่องราวของ แม่ ที่มอบทุกสิ่งทุกอย่างให้แก่ลูกน้อย ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาเรื่องราวชีวิตของหมาป่า หรือแม้แต่เรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อที่จะทำให้เธอ และ ลูก ต้องมีชีวิตอยู่ได้ต่อไปในชีวิตชนบท ที่ตัวหนังก็ต้องยอมรับเลยว่าสามารถทำออกมาจี้ใจของคนมีครอบครัว และ ในเวลาเดียวกันก็เป็นนิทานสอนใจให้กับเหล่าเด็กน้อยให้รักแม่มากขึ้นได้ดีอีกด้วย แถมการที่ตัวหนังเปรียบเสมือนจะเปรียบให้ตัวละคร มนุษย์หมาป่า เป็นตัวละครที่สังคมไม่ยอมรับ เพียงแค่รูปร่างอันตราย

โดยที่ไม่ได้มีการเข้าไปศึกษา หรือว่ารู้เบื้องลึก เบื้องหลัง ของพวกเขาก่อน แต่ก็ต้องโดนตีตราไปก่อนแล้วว่าเป็น ตัวอันตราย ประจำหมู่บ้าน ก็เปรียบเสมือนกับเหล่าเด็กที่เพื่อนไม่คบที่โรงเรียน เพียงแค่เพราะว่าพวกเขาอาจจะมีแผลใจบางอย่างก็เป็นได้ ซึ่งนอกจากนั้นหนังก็ยังมีเรื่องของ ความร่วมมือร่วมใจ ความสามัคคี ของคนในหมู่บ้าน ที่ยังคงตอกย้ำอยู่เช่นเคยว่า เพียงแค่เราสามัคคี ก็ไม่มีสิ่งใดที่เราทำไม่ได้ คล้ายกับ Summer Wars อย่างไงอย่างงั้น โดยในตัวครึ่งแรกของหนัง ผมก็ต้องขอยอมรับเลยว่าตัวหนังสามารถเล่าเรื่องออกมาได้อย่างลื่นไหล สนุก และ สอดแทรกประเด็น ได้อย่างยอดเยี่ยม จนเทียบ จิบลิ ได้

แต่ก็น่าเสียดาย ที่เมื่อตัวหนังเข้าสู่ครึ่งหลังของหนัง ที่ถึงแม้ว่าตัวหนังยังจะคงประคับประครองประเด็นที่หนังตั้งมาตั้งแต่ต้น และยังคงใส่เรื่องราวใหม่ๆเกี่ยวกับ การเลี้ยงลูก ออกมาได้อย่างสม่ำเสมอ แต่กระนั้นในอีกด้านนึงอย่าง ความสนุก ของหนัง ส่วนตัวผมกลับรู้สึกว่ามันดรอปลงจากครึ่งแรกอย่างเห็นได้ชัด โดยหนึ่งในนั้นคงหนีไม่พ้นการที่หนังใส่เรื่องราวกระจุกกระจิก มาเยอะแยะเกินไป ไม่ว่าจะเป็น ด้านของ ตัวเลือก , ความรัก และ การใช้ชีวิต ที่ก็ต้องยอมรับเลยว่าหนังปิดบทสรุปของเรื่องเหล่านั้นได้ดี แต่มันก็เปรียบเสมือน ดาบสองคม ไปในพร้อมกัน เพราะเรื่องเหล่านั้นก็กลับกลายเป็นสิ่งที่ทำให้ชะลอความสนุกของหนังลงไปมากพอสมควร แต่ยังไงก็ตาม โดยรวมแล้วเมื่อ ชั่งน้ำหนัก ความดีความชอบ ของตัวหนังทั้งเรื่อง ครึ่งแรก ของหนังก็ถือว่าเป็นสิ่งที่หักล้างครึ่งหลังได้

และผมก็ยังถือว่าอนิเมชั่นจากญี่ปุ่นเรื่องนี้ ถือว่าเป็นอนิเมชั่นที่สามารถทำออกมาได้ดี และเน้นน้ำหนักทั้งด้านของ ความรัก ครอบครัว ความสามัคคี และสิ่งอื่นๆต่างๆนานา โดยเฉพาะด้านของ ความสนุก ที่ทำออกมาเอาใจได้ทั้งครอบครัว เด็กสนุกสนาน ส่วนผู้ใหญ่ก็จะจี๊ดจ๊าดไปกับเรื่องราวทั้งหลายที่หนังใส่เข้ามาครับ

เรื่องนี้ผมให้ 8/10 ครับ
จอมใจไร้รัก ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4901 เมื่อ: 10/11/13, [00:43:36] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เรื่องอะไรครับ ?

ถูกต้องครับ

James Bond 007 SkyFall พลิกรหัสพิฆาตพยัคฆ์ร้าย

กลับมาแล้วกับหนังสายลับอมตะตลอดกาลอย่าง เจมส์ บอนด์ ที่ทิ้งช่วงห่างจากภาคที่แล้วมานานถึง 4 ปี ไม่รู้ว่าเพราะต้องการจะรอให้ถึงปีที่จะฉลองสายลับคนนี้อายุครบ 50 ปีรึปล่าว ตัวหนังจึงได้มีคิวฉายในปีนี้ ที่ทางด้านตัวละครสายลับ เจมส์ บอนด์ ก็ยังคงได้ เดเนียล เคร็ก จาก 2 ภาคก่อน มารับหน้าที่เช่นเคย

ความซื่อสัตย์ของบอนด์ที่มีต่อเอ็มกำลังจะถูกทดสอบอีกครั้ง เพราะอดีตของเธอนั้นกลับมาตามล่าเธอ หลังจากที่ บอนด์ ได้บาดเจ็บสาหัสจากการตัดสินใจอันผิดพลาดของ เอ็ม จึงทำให้ชะตากรรมของคนอังกฤษ ตกอยู่ในช่วงวิกฤตอยู่พักนึง หลังจากได้มีอดีตคนรู้จักของ เอ็ม อย่าง สายลับ ซิลว่า กลับมาเพื่อตามล้างแค้นด้วยเหตุผลบางอย่าง จึงทำให้หนุ่ม บอนด์ ต้องกลับมารับภารกิจเพื่อปกป้องคนที่เขารัก และ เคารพ อีกครั้งนึง โดยภาคนี้จะเป็นภาคที่ 23 ของสายลับ เจมส์ บอนด์ ที่กลับมาพร้อมนักแสดงชุดเดิม ไม่ว่าจะเป็น แดเนียล เคร็ก ในบท เจมส์ บอนด์ , ราล์ฟ ไฟนส์ และ จูดี้ เดนช์ พร้อมด้วย ฮาเวียร์ บาร์เด็ม ด้วย

Skyfall กำกับการแสดงโดย แซม แมนเดส ผู้กำกับสายหนังดราม่าหนักๆที่เราคงรู้จักกันดีไม่ว่าจะเป็น American Beauty และ Revolutionary Road ซึ่งที่จริงแล้ว ทางด้านของ แดเนียล เคร็ก และผู้กำกับ แซม แมนเดส ก็เคยได้ร่วมงานกันมาก่อนแล้วครั้งนึงในหนังเรื่อง Revolutionary Road เพียงแต่ในตอนนั้นเป็นเพียงแค่บทสมทบ ซึ่งตอนที่แฟนๆของ สายลับ เจมส์ บอนด์ ได้ข่าวการมากำกับของ แซม แมนเดส ต่อหนังชุดนี้ ก็คงจะแอบมีใจหล่นกันบ้างเล็กน้อย ที่ว่าตัวหนังในภาคนี้จะไปเน้นทางด้านดราม่าตามสไตล์ของผู้กำกับมากเกินไป จนขาดแคลนดราม่าเด็ดๆแบบที่ Quantum of Solace ทำมารึปล่าว และก็ดูเหมือนกับว่าจะเป็นอย่างที่แฟนๆคาดกันไว้นั่นแหละ เพราะใน Skyfall ถือว่าเป็นตัวหนัง เจมส์ บอนด์ อีกภาค ที่อุดมไปด้วยความดราม่า ไม่แพ้กับภาคก่อนเลยก็ว่าได้

แต่จุดเด่นของมันกลับอยู่ที่ว่า ไอ้ดราม่าใน Skyfall เนี่ย มันถือได้ว่าเป็นดราม่าที่มีความเป็นน้ำเป็นเนื้อ มากกว่าดราม่าที่เหลวไหลใน Quantum of Solace ที่ตัวหนัง Skyfall ถือได้ว่าเป็น เจมส์ บอนด์ ภาคที่ไม่ได้อิงมาจากเนื้อเรื่องตามในนิยายของ เอียน เฟลมมิ่ง เลยสักตอน แต่เป็นตอนที่เขียนใหม่ขึ้นมาเพื่อหนังโดยเฉพาะ แต่ก็กลับสามารถทำออกมาได้ดีเกินคาด ด้วยการที่ตัวหนังเต็มไปด้วยเรื่องราวการลงเจาะลึกในด้านของ ความสัมพันธุ์ของ เอ็ม และ เจมส์ บอนด์ ที่ถึงแม้ช่วงท้าย ตัวหนังจะไม่ได้สามารถขยี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบนัก แต่การที่หนัง 143 นาที และเต็มไปด้วยเรื่องราวแบบนี้ก็คงจะพอแล้วสำหรับแฟนๆเดนตาย

แถมสิ่งที่สำคัญที่จะทำให้แฟนชื่นชอบหนังภาคนี้ได้อย่างแน่นอน คงหนีไม่พ้นการที่ตัวหนังได้มีฉาก และ อารมณ์ ที่เต็มไปด้วยการให้ความเคารพหนังชุดภาคเก่าๆของ เจมส์ บอนด์ ซึ่งถึงแม้ส่วนตัวผมจะไม่ได้ดูครบทุกภาค แต่ก็สามารถจับได้ถึงอารมณ์บางอย่าง ที่ตัวหนังได้มีเคารพฉบับเก่าๆอยู่มากพอสมควร แถมทางด้านของนักแสดง ทั้งชุดเก่าและชุดใหม่ ก็ถือว่าผู้กำกับสามารถถ่ายทอดเสน่ห์ของแต่ละตัวละครออกมาได้ดีไม่แพ้ภาคเก่าๆ โดยเฉพาะ แดเนียล เคร็ก และ จูดี้ เดนซ์ ที่ยังคงสามารถรับหน้าของ เจมส์ บอนด์ และ เอ็ม แถมเมื่อรวมกับตัวบทที่หนักแน่นใน 2 ตัวละครนี้อยู่แล้ว จึงทำให้ภาคนี้ ตัวละครเหล่านี้ดูมีเนื้อหนัง

ส่วนตัวร้ายในภาคนี้ที่นำแสดงโดย จาเวียร์ บาเด็ม ที่ต้องยอมรับว่า บาเด็ม สามารถแสดงออกมาได้อย่างมีลูกเล่น และ น่าจดจำ พร้อมกับแอบมีกลิ่นไอของ โจ๊กเกอร์ ใน The Dark Knight มากพอสมควร ส่วนการที่ภาค Skyfall ไม่ได้อัดแน่นฉากแอ็คชั่นมามากพอควร จึงเปรียบเสมือนเป็นดาบสองคมอยู่เหมือนกัน ส่วนนึงก็ดีคือการที่หนัง ได้มีเวลาจริงจังกับเรื่อง ดราม่า และ แอ็คชั่น ควบคู่กันไป แต่ในอีกด้านนึงก็อาจจะทำให้แฟนๆไม่สะใจเต็มที่กับฉากแอ็คชั่นกันนัก

เพราะฉะนั้นโดยสรุปแล้ว ใน Skyfall จึงถือว่าเหมาะกับแฟนหนังชุด เจมส์ บอนด์ มากกว่า ขาจร อยากดูฉากแอ็คชั่น เพราะตัวหนังส่วนมากจะเล่นด้านของ ความสัมพันธุ์ และ เบื้องลึกเบื้องหลัง ของเหล่าตัวละครมากกว่า จะเน้นหนักที่ด้านฉากแอ็คชั่นอย่างที่ตัวอย่างบอกเอาไว้ ซึ่งแฟนๆส่วนใหญ่คงจะมีถูกใจกันแน่

เรื่องนี้ผมให้ 8/10 ครับ
จอมใจไร้รัก ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4902 เมื่อ: 10/11/13, [00:45:11] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เรื่องอะไรครับ ?

ถูกต้องครับ

Silent Hill:Revelation  (เมืองห่าผี เรฟเวเลชั่น )

ก็เพราะว่าภาคแรกเป็นหนังจากเกมส์ที่ได้รับคำวิจารณ์ไปในทางที่ดีจากคอเกมส์ และ คนดูทั่วไป แถมยังทำให้ตัวหนังนั่นเก็บรายรับทั่วโลกไปเกือบ 100 ล้านเหรียญอีกด้วย เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกถ้าหากว่า หุบเขา เมืองห่าผี ยังจะขอมาต่ออีกภาคนึง โดยในคราวนี้ก็ยังจะมาในรูปแบบของ 3D ทะลุจอกันอีกด้วย

หลายปีที่ผ่านมา เฮทเธอร์ (อเดเลด เคลเมนส์) กับพ่อของเธอ (ฌอน บีน) ต้องพากันหนีปีศาจร้าย และต้องฉลาดกว่าพลังอำนาจมืดที่เธอไม่เข้าใจอยู่หนึ่งก้าวเสมอ แต่เมื่อวันที่อายุ 18 ปี ของเธอมาถึง ฝันร้ายอันสยดสยองได้เกิดขึ้นกับเธอ เมื่อการหายตัวไปของพ่อ ทำให้เธอได้ค้นพบว่าเธอไม่ใช่คนที่เธอคิดว่าเธอเป็นอยู่ เรื่องราวค่อย ๆเผยว่าเธอได้ถลำลึกสู่โลกของมารร้าย และต้องหาทางหนีออกมาก่อนที่เธอจะติดอยู่นรกขนาดย่อมๆที่เรียกว่า ไซเลนท์ ฮิลล์ ที่เต็มไปด้วยเหล่า สัตว์ประหลาดสยอง และ ลัทธิแปลกประหลาด ที่เธอต้องรีบหนีออกมาให้ทัน พร้อมทั้งยังต้องช่วยเหลือพ่อและแม่ของเธอที่ติดอยู่ในหุบเขาเงียบสงบด้วย

Silent Hill : Revelation ได้เปลี่ยนตัวผู้กำกับจากภาคแรกอย่าง คริสโตเฟอร์ แกนส์ มาเป็น ไมเคิล เจ บาสเซ็ท ที่คนไทยเราคงรู้จักกันจากหนัง ตัดหัวผี เรื่อง Solomon Kane ที่เคยได้เข้าฉายไปเมื่อ 2-3 ปีก่อน โดยก่อนอื่นผมต้องขอบอกเลยว่า ตัวผมไม่เคยได้เล่นเกมส์ Silent Hill มาก่อน เพราะฉะนั้นตัวผมจึงไม่สามารถนำไปเปรียบเทียบกับตัวเกมส์ได้ แถมหนำซ้ำยังเป็นคนที่ค่อนข้าง ไม่ค่อยชอบ ตัวหนังภาคแรกอยู่มากพอสมควร เนื่องจากความน่าเบื่อ และ เรื่องราวที่หลวมๆของโลกคู่ขนาน แต่ก็ดูเหมือนว่าในภาค 2 การเปลี่ยนผู้กำกับจะกลายเป็นสิ่งที่ดีเหมือนกัน เพราะโดยส่วนตัวผมกลับเป็นคนที่ชอบภาค 2 มากกว่าภาคแรกอยู่หลายเท่า และสิ่งที่ถือได้ว่าขาดไม่ได้เลยสำหรับ Silent Hill : Revelation คงหนีไม่พ้นระบบ 3D ที่สามารถทำออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบและสวยงาม

พร้อมทั้งมันยังเต็มไปด้วยฉากทะลุจอ ที่หนังหยิบจับเอาสิ่งของต่างๆกระแทกใส่ตาคนดู ที่เรียกได้ว่า ใครชอบ 3D ของหนังชุด Final Destination 4 และ 5 ก็น่าจะถูกใจกันแน่นอนกับของกระแทกตาชุดใหญ่กว่านั่นใน Silent Hill : Revelation แถมดูเหมือนการที่ผู้กำกับ ไมเคิล เจ บาสเซ็ท จะสามารถทำหนังออกมาได้ถูกจุด นั่นคือการให้ตัวละคร นางเอก เปรียบเสมือนเป็นหนึ่งในตัวละครของเกมส์ ที่จะต้องเดินผ่านเพื่อไปเจอกับสัตว์ประหลาดตัวต่อไปเรื่อยๆ โดยถึงแม้ว่าด้านบทจะยังอ่อนปวกเปียกเช่นเคย แต่ด้านของตัวเรื่อง และ ความบันเทิง ผมกลับขอยกให้ Silent Hill ในภาคนี้เป็นหนังที่สร้างความบันเทิงได้ดีกว่าภาคแรก

โดยสิ่งที่อยู่ในความสำเร็จดังกล่าว คงหนีไม่พ้นการที่หนังได้จับยัดเอาสัตวประหลาดจากเกมส์มาหลายตัว ไม่ว่าจะเป็น พีรามิด เฮดด์ หรือแม้แต่ แมนน์ควินท์ ที่สามารถออกมาสร้างสีสันให้กับขาจร ขาประจำ ได้ค่อนข้างสนุก โดยเฉพาะในด้านของ ไอเดียการออกแบบ ที่ต้องขอชื่นชมที่ดึงเอาออกมาจากเกมส์ได้โดยที่โครงสร้าง และ ส่วนประกรอบ ของตัวประหลาดเหล่านี้ ออกมาได้อย่างมีลูกเล่นมากมาย และดูไม่แปลกถึงแม้จะดึงเอาออกมาจากเกมส์ก็ตาม เพราะฉะนั้นถ้าหากให้ผมตีความ Silent Hill : Revelation ผมจึงถือว่าเป็นหนังภาคต่อที่สามารถสร้างความบันเทิงให้กับคนดูได้ดีกว่าภาคแรก เพราะตัวหนังเต็มไปด้วย ฉากแอ็คชั่น และ ฉากสยองขวัญ ที่อัดแน่นเข้ามาทั้งเรื่องจนไม่มีเบื่อ แต่สิ่งที่ผมคิดว่ายังคงเป็นข้อเสียของหนังชุดนี้ยังคงเป็นเรื่องของ บทหนัง อยู่เช่นเคยแหละนะ

เพราะถ้าหากใครคิดว่าภาคแรกทำบทออกมาน่าผิดหวังแล้ว ผมขอบอกเลยว่าภาคนี้แย่กว่าอีกหลายเท่า เพราะตัวบทในภาคนี้ ตัวหนังกลับทำออกมาแบบ มาเร็วไปเร็ว โดยการวางตัวเรื่องให้มีความง่ายดาย เพื่อจะรีบให้นางเอกไปเจอกับเหล่าตัวประหลาดเร็วๆ แต่กลับขาดเรื่องราวของ ความซับซ้อน แบบที่ภาคแรกเคยทำไว้ แถมหนำซ้ำหนังยังไม่มีการอธิบายเกี่ยวกับเรื่องราวของ โลกแห่งความจริง และ ไซเลนท์ ฮิลล์ ออกมาได้อย่างชัดเจน หรือแม้แต่เรื่องของ ภาคีลัทธิ ที่ตัวหนังใช้วิธีแถเอาเพื่อให้ตัวหนังเชื่อมต่อกับภาคแรก ก็อาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้คอเกมส์ไม่ถูกใจกัน แต่ถ้าใครเป็นขาจร ภาคนี้ก็ถือว่าทำออกมาดูเพลินดีนะ

โดยสรุปแล้วสำหรับผม Silent Hill : Revelation จึงถือว่าเป็นหนังที่ทำออกมาดีกว่าภาคแรก ด้วยการที่หนังเต็มไปด้วยฉากแอ็คชั่น ปนสยอง ขายเรื่องราวไอเดียตัวประหลาด จึงทำให้หนังดูเพลินและไม่น่าเบื่อเหมือนภาคแรก แต่ยังไงซะในด้านของ ตัวบท ของหนังก็ยังคงเป็นข้อเสีย ที่ค่อนข้างมั่วและแถเช่นเคยหละ

เรื่องนี้ผมให้ 7/10 ครับ
จอมใจไร้รัก ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4903 เมื่อ: 10/11/13, [00:45:51] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เรื่องอะไรครับ ?

ถูกต้องครับ

frankenweenie คืนชีพเพื่อนซี้สี่ขา

ไม่รู้ว่าเป็นปีทองของ ทิม เบอร์ตั้น รึปล่าว ที่เขาอุตส่าห์มีไอเดียผลิตหนังมาให้เราชมได้ถึง 2 เรื่อง โดยเรื่องแรกคือ Dark Shadows ที่เข้าฉายไปเมื่อกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยนี้คือเรื่องที่ 2 ที่เขากำกับเอง แต่ก็น่าเสียดายที่ทั้ง 2 เรื่องกลับทำรายได้ไม่ดีในตารางหนังทำเงิน ถึงแม้คำวิจารณ์จะดีก็ตามครับ

แฟรงเคนวีนนี่ คือเรื่องราวของเด็กชายคนหนึ่งกับ ?สปาร์คกี้? สุนัขตัวโปรดของเขา หลังจากการสูญเสียเพื่อนสุดที่รักอย่างไม่ทันตั้งตัว ?วิคเตอร์? หนุ่มน้อยหัวใจสลาย จึงใช้พลังแห่งวิทยาศาสตร์ในชั้นเรียนของเขา เพื่อคืนชีพเพื่อนผู้ซื่อสัตย์ให้กลับมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้งแต่ความ โกลาหล วุ่นวาย ป่วนปนสยอง ก็เกิดขึ้นเมื่อสปาร์คกี้ ได้หลุดออกไปสู่โลกภายนอก เพื่อนๆของวิคเตอร์, คุณครู, และชาวเมืองทั้งหลายจึงได้รู้ว่า ?การคืนชีวิตใหม่’ ให้กับเหล่าสัตว์เลี้ยงที่ตายไปแล้วมันไม่ใช่เรื่องสยองขวัญ จึงทำให้ทั้งเหล่า เด็กเกเร และเพื่อนๆของ วิคเตอร์ ร่วมกันฟื้นคืนชีพเหล่าสัตว์เลี้ยงสยอง ที่ทำให้วิคเตอร์ ต้องหยุดพวกมันให้จงได้

Frankenweenie กำกับการแสดงโดย ทิม เบอร์ตั้น ที่ในผลงานเรื่องนี้เป็นการหวนคืนสู่หนังอนิเมชั่นอีกครั้ง หลังจากห่างหายจากหนังแนวนี้ไปถึง 7 ปี นับจากผีเจ้าสาวอย่าง Corpse Bride ซึ่งสำหรับ แฟรงเคนวีนนี่ เป็นหนังที่สร้างต่อยอดมาจากหนังสั้นของตัว ทิม เบอร์ตั้น เอง ที่เคยสร้างไว้เมื่อปี 1984 โดยตอนนั้นก็ใช้ทุนสร้างไปอย่างน้อย 1 ล้านเหรียญ ซึ่งก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนเลยว่า ใครที่ไม่ชอบดูหนัง ขาว-ดำ ก็ควรหลีกเลี่ยง Frankenweenie อย่างแรก เพราตัวหนังจะเป็นอนิเมชั่น ขาวดำ ตลอดเรื่อง แต่ถ้าหากสำหรับใครที่ไม่มีปัญหากับข้อดังกล่าวเช่นผม ก็ดูเหมือนว่ามันจะเป็นฟังก์ชั่นที่ตอบสนองความเป็น ทิม เบอร์ตั้น ได้ดีเลยทีเดียว เพราะดูเหมือนสิ่งที่โดดเด่นในหนังทุกเรื่องของ ทิม เบอร์ตั้น ก็ยังคงจะเป็นด้านของ งานศิลป์ ที่ยิ่งนับวันก็ยิ่งเพี้ยน แต่ก็ยิ่งสวยงามไปในตัว

โดยด้านของงานศิลป์ใน Frankenweenie ต้องขอยอมรับเลยว่าสามารถทำออกมาได้ เพี้ยนแต่สวย ได้โดนใจผมมากกว่า Corpse Bride เสียอีก เพราะไม่ว่าจะเป็นด้านของ โลเคชั่นเมือง และ ลักษณะของตัวละคร ต่างก็เป็นสิ่งที่สร้างสีสันให้กับตัวหนังได้อย่างชัดเจน ไม่แพ้ไปกับด้านของ ความสนุก ในตัวหนัง และ ประเด็นเรื่องราวการ ฝืนกฏธรรมชาติของมนุษย์ ที่ตัวหนังค่อนข้างให้ความใส่ใจในทุกรายละเอียด โดยเฉพาะด้านของ ความสนุกสนาน ที่ ทิม เบอร์ตั้น สามารถใส่เข้ามาเอาใจผู้ใหญ่โตๆได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ โดยการเลือกที่จะให้ไคล์แมกซ์ในตัวหนังเปรียบเสมือนเป็นการ คารวะ หนังสยองขวัญยุคเก่าๆได้ดี

ที่ผลลัพธ์ที่ออกมาถือว่าน่าพอใจ และเข้าไปกับตัวเรื่องได้อย่างไม่ยัดเยียด ซึ่งฉากที่หนังหยิบเอามาคารวะก็มาจากหนังจำพวก แฟรงเคนสไตน์ , แดร็คคูล่า และ อีกมากมาย ที่คอหนังสยองขวัญยุคเก่าๆคงจะคุ้นหูคุ้นตากันอย่างแน่นอน พร้อมทั้งในด้านของประเด็นแฝงในหนังอย่างเรื่องของ วิทยาศาสตร์ และ การฝืนกฏธรรมชาติ ของมนุษย์ ตัวผู้กำกับ ทิม เบอร์ตั้น เอง ก็ยังถือว่าสามารถประครองสิ่งเหล่านี้มาได้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย และนำมันมาผสมเข้ากับความสนุกได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะเรื่องของ การฝืนกฏธรรมชาติ ที่หนังเปรียบเสมือนเสียดสีมนุษย์ไปในตัวว่า การที่ไม่ยอมรับในความเป็นไปตามธรรมชาติ ก็จะก่อเกิดสิ่งที่เหนือธรรมชาติ แถมนอกจากนั่นหนังยังแอบใส่เรื่องราวของการพูดถึง ผู้ใหญ่ ที่หนังให้ ผู้ใหญ่ เป็น ไม้แข็งดัดยาก ที่ไม่ฟังใครนอกจากตัวเอง

ที่หนังพยายามจะบอกว่าไม่ว่าจะสมัยไหน ผู้ใหญ่ ก็ยังเป็นบุคคลที่ยังคงอ้างถึงเรื่องราวของ ความอาวุโส และ ประสบการณ์ เพื่อที่จะได้ให้ตัวเองดูดี และไม่ฟังเหตุผลจากบุคคลอื่น ยกตัวอย่างเช่น เด็ก โดยจะถูกหาว่าไร้ประสบการณ์ ทั้งที่จริงแล้ว ผู้ใหญ่ เหล่านั้น กลับไม่รู้เลยว่า แต่ละบุคคล แต่ละช่วงอายุ กลับมี ความอาวุโส ในด้านของ ประสบการณ์ ต่างรูปแบบกันไป ซึ่งนี้ก็ไม่ใช่อนิเมชั่นที่พูดถึง ผู้ใหญ่ เรื่องแรก เพราะก่อนหน้านั้นก็ได้มี ParaNorman ได้พูดถึงเรื่องราวแบบนี้ไปแล้วเช่นเดียวกัน แถมด้านของความสนุกในอนิเมชั่นแปลกๆ 2 เรื่องนี้ ก็ยังถือว่าทำออกมาได้สูสีกัน ที่แฟนหนัง สต๊อป โมชั่น คงจะได้อิ่มกันแน่

โดยสรุปแล้ว Frankenweenie จึงถือว่าเป็นอนิเมชั่นอีกเรื่องของปี ที่ทำออกมาได้สนุกสนานทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดดเด่นด้านของ งานศิลป์ และ ประเด็น ที่กลับมาเป็นหนัง ท๊อปฟอร์ม ของ ทิม เบอร์ตั้น ได้ไม่ยาก แต่ตัวหนังน่าจะไม่เหมาะกับคนที่ไม่ชอบหนังขาวดำ และอนิเมชั่นที่ดูประหลาดๆแถมยังเป็นดินน้ำมันอีก

เรื่องนี้ผมให้ 8/10 ครับ
จอมใจไร้รัก ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4904 เมื่อ: 10/11/13, [00:48:46] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เรื่องอะไรครับ ? ภาคไหน
จอมใจไร้รัก ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4905 เมื่อ: 10/11/13, [00:49:48] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เรื่องอะไรครับ ?
จอมใจไร้รัก ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4906 เมื่อ: 10/11/13, [00:50:11] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เรื่องอะไรครับ ?
จอมใจไร้รัก ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4907 เมื่อ: 10/11/13, [00:50:43] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เรื่องอะไรครับ ?
จอมใจไร้รัก ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4908 เมื่อ: 10/11/13, [00:51:06] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เรื่องอะไรครับ ?
เอสวา ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4909 เมื่อ: 10/11/13, [01:17:57] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เรื่องอะไรครับ ?
the four 4 มหากาฬพญายม
เอสวา ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4910 เมื่อ: 10/11/13, [01:19:01] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เรื่องอะไรครับ ?
Sinister เห็นแล้วต้องตาย
เอสวา ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4911 เมื่อ: 10/11/13, [01:21:23] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เรื่องอะไรครับ ?
Alex Cross
ROMMY ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4912 เมื่อ: 10/11/13, [01:40:53] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เรื่องอะไรครับ ?

สาระแน โอเซกไก  [เจ๋ง]
เอสวา ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4913 เมื่อ: 10/11/13, [08:53:02] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ






เรื่องอะไรครับ ?






เอสวา ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4914 เมื่อ: 10/11/13, [09:02:37] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ






เรื่องอะไรครับ ?
เอสวา ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4915 เมื่อ: 10/11/13, [09:03:49] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ






เรื่องอะไรครับ ?
เอสวา ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4916 เมื่อ: 10/11/13, [09:04:19] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ






เรื่องอะไรครับ ?
เอสวา ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4917 เมื่อ: 10/11/13, [09:04:59] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ







เรื่องอะไรครับ ?
จอมใจไร้รัก ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4918 เมื่อ: 10/11/13, [10:33:42] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ





เรื่องอะไรครับ ?

elysium เอลิเซียม ปฏิบัติการยึดดาวอนาคต
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10/11/13, [16:07:07] โดย จอมใจไร้รัก »
จอมใจไร้รัก ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4919 เมื่อ: 10/11/13, [10:34:25] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ






เรื่องอะไรครับ ?

Warm Bodies ซอมบี้ที่รัก
หน้า: 1 ... 162 163 164 165 166 ... 201   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: