Aqua.c1ub.net
*
  Sun 03/Aug/2025
หน้า: 1 ... 145 146 147 148 149 ... 201   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: มาเล่นเกมทายภาพจากภาพยนตร์เรื่องดังกัน  (อ่าน 758426 ครั้ง)
เอสวา ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4380 เมื่อ: 17/10/13, [09:43:19] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เรื่องอะไรครับ ?
Silver linings playbook ลุกขึ้นใหม่หัวใจมีเธอ
เอสวา ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4381 เมื่อ: 17/10/13, [09:44:58] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

Stoker


เรื่องอะไรครับ ?
Stoker
เอสวา ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4382 เมื่อ: 17/10/13, [10:04:26] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

21 And OverAbout TimeBlack Hawk Down

ถูกต้องครับ  [เจ๋ง] 21 and Over  21 ทั้งทีปาร์ตี้รั่วเวอร์

เอสวา ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4383 เมื่อ: 17/10/13, [10:12:36] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

21 And OverAbout TimeBlack Hawk Down

ถูกต้องครับ  [เจ๋ง] About Time ย้อนเวลาให้เธอ(ปิ๊ง)รัก  หนังน่ารักดีครับ ให้ 7.5/10 ครับ

ในวัย 21 ปี ทิม เลค (โดห์นัลล์ กลีสัน) ค้นพบว่าตัวเองสามารถเดินทางย้อนเวลาได้...
          ในคืนหลังจากงานปาร์ตี้ที่ห่วยแตกในนิวยอร์ก พ่อของทิม (บิลล์ ไนฮีย์) ได้เล่าให้ลูกชายของเขาฟังว่า ผู้ชายในตระกูลเขามีความสามารถในการเดินทางย้อนเวลาเสมอ ทิมไม่สามารถเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ได้ แต่เขาสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เกิดขึ้นและเคยเกิดขึ้นมาแล้วในชีวิตของเขาได้ เขาก็เลยตัดสินใจจะทำให้โลกนี้สวยงามขึ้น...ด้วยการหาแฟนซักคน น่าเศร้า ที่มันอาจไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คุณคิด
          หลังจากที่ย้ายจากคอร์นวอล ไปสู่ลอนดอน เพื่อฝึกฝนการเป็นทนายความ ในที่สุด ทิมก็ได้พบกับแมรี (เรเชล แม็คอดัมส์) สาวสวยที่ไม่มั่นใจในตัวเอง พวกเขาตกหลุมรักกัน แต่การเดินทางย้อนเวลาที่ผิดพลาดก็หมายความว่าเขาไม่เคยได้พบเธอเลย ดังนั้น พวกเขาก็เลยได้พบกันเป็นครั้งแรกอีกครั้ง และก็อีกครั้ง และท้ายที่สุด หลังจากการเดินทางข้ามเวลาหลายครั้งหลายหนอย่างชาญฉลาด เขาก็เอาชนะใจเธอได้สำเร็จ
          หลังจากนั้น ทิมก็ใช้พลังของตัวเองในการเนรมิตฉากขอแต่งงานที่โรแมนติกที่สุด ในการกอบกู้งานแต่งงานเขาจากคำอวยพรเพื่อนเจ้าบ่าวที่เลวร้ายที่สุด ในการช่วยเพื่อนรักของเขาจากหายนะทางหน้าที่การงานและในการพาภรรยาที่ตั้งครรภ์ของเขาไปโรงพยาบาลให้ทันเวลาคลอดลูกสาวของพวกเขา แม้จะมีรถติดอย่างวายป่วงนอกแอ็บบี้ โร้ดซักแค่ไหน
          แต่ยิ่งชีวิตที่ไม่ธรรมดาของเขาเดินหน้าไปเท่าไหร่ ทิมก็ค้นพบว่าพรสวรรค์พิเศษนี้ของเขาไม่สามารถช่วยเขาไม่ให้เจอกับความโศกเศร้าและเรื่องราวดีและร้ายที่ส่งผลกระทบต่อทุกครอบครัว ทุกหนทุกแห่งได้ มันมีข้อจำกัดในสิ่งที่การเดินทางย้อนเวลาสามารถทำได้ และมันก็เป็นเรื่องอันตรายด้วยเช่นกัน  About Time เป็นคอมมิดี้เกี่ยวกับความรักและการเดินทางย้อนเวลา ซึ่งค้นพบในท้ายที่สุดว่า การใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่าที่สุดอาจจะไม่ต้องอาศัยการเดินทางย้อนเวลาเลยซักนิด
เอสวา ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4384 เมื่อ: 17/10/13, [10:19:00] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

21 And OverAbout TimeBlack Hawk Down

ถูกต้องครับ  [เจ๋ง] Black Hawk Down ยุทธการฝ่ารหัสทมิฬ หนังดีมากครับ ดูมา 3 รอบแล้ว ให้ 8.5/10 ครับ
สหรัฐส่งกองกำลังพิเศษเข้าไปในโซมาเลีย เพื่อลำเลียงอาหารและ.ให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชน ที่กำลังอดอยากโดยใช้เฮลิคอปเตอร์ Black Hawk แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำถูกยิงโดยกองกำลังของโซมาเลีย ทำให้เหล่าทหาร ที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ตก ต้องพยายามดิ้นรนเพื่อให้มีชีวิตรอดภายใต้สถานการณ์ที่มีชีวิต เป็นเดิมพัน เมื่อเครื่องบินตรวจการณ์แบบ โอไรออน จับภาพเป้าหมายจากภาคพื้นดินได้แล้ว ฮ. ลิตเติลเบิร์ดจะนำทีมเดลต้าบุกอาคารเข้าจู่โจมจับกุมเป้าหมาย ในขณะเดียวกันกับทีมเร็นเจอร์อีก 4 หมู่ที่มากับฮ. แบล็คฮ็อค จะทำหน้าที่คุ้มกันรอบ ๆ บริเวณเป้าหมาย เมื่อทีมเดลต้าปฏิบัติภารกิจสมบูรณ์ จะส่งวิทยุให้ขบวนลำเลียงที่ประกอบด้วยรถยนต์บรรทุกทหารที่คุ้มกันด้วยรถรบแบบ ฮัมวี่ เข้ามาลำเลียงเชลย และ หน่วยรบทุกทีมกลับยังกองบัญชาการ โดยมีฮ. แบล็คฮ็อค และฮ. ลิตเติลเบิร์ด คอยเป็นกำลังคุ้มกันทางอากาศในขณะถอนตัว การประสานงานกันระหว่างหน่วยรบจะผ่านศูนย์บัญชาการลอยฟ้าที่บินอยู่กับ ฮ. แบล็คฮ็อค อีกลำที่ในระยะสูงหนึ่ง ภารกิจครั้งนี้ แกริสันกำหนดเวลาไว้ว่าไม่น่าเกิน 30 นาที ในชื่อรหัสปฏิบัติการว่า Irene
แต่......
เอสวา ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4385 เมื่อ: 17/10/13, [10:25:50] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

Step up 3 ครับ ชอบมากกก [กรี๊ดดดด]
ถูกต้องครับ  [เจ๋ง]  Step Up 3 สเตปโดนใจ หัวใจโดนเธอ 3
เมื่อ มูส (อดัมส์ เซวานิ) นักเต้นมากพรสวรรค์จากภาคที่แล้ว สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนสอนศิลปะเอ็มเอสเอ มุ่งหน้าไปกรุงนิวยอร์คเพื่อศึกษาต่อ เขาพบกับ ลุค (ริค มาลามบรี้) หนึ่งในสมาชิกทีมเต้น "เฮ้าส์ ออฟ ไพเรท" ที่ ถือเป็นทีมอันดับหนึ่งบนเวทีแดนซ์อันเดอร์กราวน์ ซึ่งเป็นสวรรค์ของนักเต้นรุ่นใหม่ไฟแรงทั่วทุกมุมโลก เขามองเห็นแววของ มูส จึงชวนเข้ามาเป็นหนึ่งในสมาชิก เพื่อจัดการกับทีมเต้น "เฮ้าส์ ออฟ ซามูไร" คู่ปรับตลอดกาล ในการแข่งขัน เวิร์ล แจม ที่จะมีทีมนักเต้นจากทั่วทุกมุมโลกเข้าร่วมแข่งขัน เพื่อช่วงชิงเงินรางวัลก้อนโตกลับบ้าน มูส และ ลุค ยังพบกับนักเต้นสาวมากพรสวรรค์อย่าง นาตาลี (เชย์นิ วินสัน) โดย ทั้งสามช่วยกันคิดค้นท่วงท่าการเต้นที่พิเศษเพื่อใช้ ในการแข่งขัน แต่แล้วก็ถูกทีมคู่ปรับขโมยนำไปใช้ มูส จึงตัดสินใจหันไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อน ๆ ในโรงเรียนเก่าของเขา ทีมเต้นไพเรท และ ทีมเต้นเอ็มเอสเอ ตัดสินใจร่วมมือกันแบบเฉพาะกิจ แต่พวกเขาจะสร้างท่วงท่าการเต้นเหนือจินตนาการได้ทัน เวลาหรือไม่? แล้วท่วงท่าการเต้นนั้นดีพอที่จะเอาชนะนักเต้นฝีมือด ีจากทั่วโลกได้หรือ เปล่า? พิสูจน์การเต้นแห่งทศวรรษ
เอสวา ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4386 เมื่อ: 17/10/13, [10:35:25] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

พยัคฆ์ร้าย กิโยติน ครับบ
ถูกต้องครับ  [เจ๋ง] The Guillotine พยัคฆ์ร้ายกิโยติน
หน่วยมือสังหารลับของฮ่องเต้ที่ใช้กงจักรโลหิตเป็นอาวุธสังหารผู้ที่พยายามล้มราชบัลลังก์ แต่แล้วพวกเขาก็ต้องถูกฮ่องเต้หักหลัง ด้วยการส่งทีมสังหารที่ใช้อาวุธที่ทันสมัยกว่าอย่างจ้าวปืนใหญ่มาจัดการทำลายล้าง ทำให้พวกเขาต้องหนีและพยายามที่จะเอาชีวิตรอด
เอสวา ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4387 เมื่อ: 17/10/13, [10:43:58] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ







เรื่องอะไรครับ ?
เอสวา ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4388 เมื่อ: 17/10/13, [10:45:39] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ









เรื่องอะไรครับ ?
เอสวา ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4389 เมื่อ: 17/10/13, [10:48:36] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ







เรื่องอะไรครับ ?
เอสวา ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4390 เมื่อ: 17/10/13, [10:52:04] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ








เรื่องอะไรครับ ?
เอสวา ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4391 เมื่อ: 17/10/13, [10:53:43] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ








เรื่่องอะไรครับ ?
จอมใจไร้รัก ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4392 เมื่อ: 17/10/13, [10:54:00] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ







เรื่องอะไรครับ ?

Total Recall  คนทะลุโลก

8/10
Wars ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #4393 เมื่อ: 17/10/13, [16:31:51] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ








เรื่องอะไรครับ ?

Monster University คร๊าบบบบ
Wars ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #4394 เมื่อ: 17/10/13, [16:34:31] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ









เรื่องอะไรครับ ?

Liar Liar  คร๊าบบบ  [เจ๋ง]
T.Dark ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #4395 เมื่อ: 17/10/13, [20:28:08] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ








เรื่่องอะไรครับ ?
Bullet to the Head
เอสวา ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4396 เมื่อ: 18/10/13, [07:06:16] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

white house down วินาทียึดโลก 8.5/10
ถูกต้องครับ  [เจ๋ง] white house down วินาทียึดโลก
White House Down ว่าด้วยเหตุการณ์เมื่อ จอห์น เคล พลาดท่าจากตำแหน่งหน่วยอารักขาประธานาธิบดี เจมส์ ซอว์เยอร์ ที่เขาตั้งเป้าหมายเอาไว้ และด้วยความที่ไม่อยากให้ลูกสาวผิดหวัง เขาจึงพาเธอไปเดินชมรอบทำเนียบขาว แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ทำเนียบกลับถูกยึดโดยกองกำลังจากพวกกลุ่มทหาร ที่หมายจะเอาชีวิตประธานาธิบดีโดยไม่คาดคิดมาก่อน จอห์นจึงต้องรับภารกิจอันใหญ่หลวงในการทำหน้าที่ปกป้องประธานาธิบดี และลูกสาวที่เขารักสุดหัวใจด้วยชีวิต
เอสวา ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4397 เมื่อ: 18/10/13, [07:13:03] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

รักนะ 24 ชั่วโมง 7/10
ถูกต้องครับ  [เจ๋ง] รักนะ 24 ชั่วโมง Seven days twentyfour hours
ที่ร้านสะดวกซื้อแห่งนี้ ... ความแตกต่างของ “เบิ้ลเอ”กับ “เบิ้ลบี”(ฟิล์ม - รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ) ถึงจะสร้างความงุนงง สับสนให้กับเพื่อนสนิท พนักงานร่วมร้าน อย่าง “ซ่า” (บ๊วย-เชษฐวุฒิ วัชรคุณ) หรือ ลูกค้า อยู่บ้าง แต่ก็แค่ขำๆ ไม่ใหญ่โต เพราะที่นี่เต็มไปด้วยผู้คนนับล้าน พกเอาอารมณ์หลากหลายผ่านมาประจำอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น นักเรียน แม่บ้าน สาวออฟฟิศ หมอนวด ตลกคาเฟ่ แต่ละคนมีมุมมอง ความรัก เรื่องราวของหัวใจที่แตกต่างกันไปผ่านเข้ามาในร้าน
เบิ้ลเอ และ เบิ้ลบี จึงมีความสุขกับอาชีพพนักงานร้านสะดวกซื้อกะกลางคืนมาตลอดหลายปี จนกระทั่งความรักมาเยือน .... ชีวิตที่เคยเหมือนเดิมทุกวัน ตลอดเจ็ดวัน ยี่สิบสี่ชั่วโมง ก็เปลี่ยนไป เพราะเขาได้เปิดใจรักเพื่อนร่วมงาน “เต๊าะ” (เจี๊ยบ - ลลนา ก้องธรนินทร์) พนักงานสาวห้าวประจำร้านนั่นเอง
และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ปัญหาของเบิ้ล คือ เบิ้ลไม่สามารถให้เวลา 7 วัน 24 ชั่วโมง กับผู้หญิงที่ตนรักได้ เพราะเบิ้ลตื่นมาเหมือนเป็นคนอีกคนหนึ่ง มีหัวใจอีกดวงหนึ่งทุก ๆ เช้าแบบนี้ แล้วเขาจะรักเธอได้อย่างไร ??! ตลอดทั้ง 7 วัน และเต๊าะจะเชื่อได้อย่างไรว่า ในเจ็ดวัน ยี่สิบสี่ชั่วโมงมีผู้ชายที่รักเธออย่างหมดหัวใจอยู่จริง...


เอสวา ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4398 เมื่อ: 18/10/13, [07:19:33] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

Juno : โจ๋ป่อง ใจเกินร้อย 8.5/10
ถุกต้อองครับ  [เจ๋ง] Juno จูโน่ โจ๋ป่องใจเกินร้อย
เป็นภาพยนตร์วัยรุ่นสะท้อนสังคมที่เปิดตัวอันดับ 1 บนบ็อกซ์ออฟฟิศอเมริกา และทำรายได้รวมไปกว่า 143 ล้านดอลลาร์ พร้อมกลายเป็นภาพยนตร์ขวัญใจนักวิจารณ์ ด้วยการคว้ารางวัลออสการ์ สาขาบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมมาครองอีกด้วย ความโดดเด่นของภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่ที่เนื้อหาที่พูดถึง จูโน เด็กสาวในวัยเรียน ที่ตั้งท้องด้วยความบังเอิญจากการมีเพศสัมพันธุ์ กับเพื่อสนิทของเธอเป็นครั้งแรก แต่เธอได้เลือกทางเดินที่แตกต่างจากเด็กทั่วไป ด้วยการปฏิเสธการทำแท้ง และเลือกอุ้มท้องลูกของตัวเอง และเชิดหน้าเดินต่อในสังคมต่อไป ด้วยพลังใจจากครอบครัวและคนรอบข้าง นำแสดงโดย: Ellen Page - เอลเลน เพจ รับบท จูโน่ Michael Cera - แม็คกัฟฟ์ ไมเคิล ซีร่า รับบท พอลลี่ Jennifer Garner - บลีกเกอร์ เจนนิเฟอร์ การ์เนอร์ รับบท วาเนสซ่า ลอริ่ง กลายเป็นภาพยนตร์ที่อยู่ในกระแสมากที่สุดในขณะนี้ สำหรับภาพยนตร์เรื่อง Juno หรือ จูโน่ โจ๋ป่องใจเกินร้อย ภาพยนตร์เล็ก ๆ แต่ใจใหญ่ที่กล้าพูดถึงประเด็นสังคม ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ตลอดมาเรื่องการตั้งท้องในวัยเรียน จนถึงขนาดที่ว่าครั้งหนึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ เคยถูกห้ามเข้าฉายในประเทศไทยมาแล้ว แต่สุดท้ายด้วยความดีเด่นของเนื้อหาทำให้ Juno ได้แหวกคมกรรไกรเซ็นเซอร์ ได้เข้าฉายในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เอสวา ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4399 เมื่อ: 18/10/13, [07:24:16] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

 ครับ  [เจ๋ง]
ถูกต้องครับ  [เจ๋ง] The Lone Ranger หน้ากากพิฆาตอธรรม
หน้ากากพิฆาตอธรรม การผจญภัยสุดตื่นเต้นที่เต็มไปด้วยแอ็คชั่นและอารมณ์ขัน ที่ซึ่งวีรบุรุษภายใต้หน้ากากได้ถูกปลุกชีพขึ้นมาผ่านมุมมองใหม่ ทอนโต้ (จอห์นนี เดปป์) นักรบพื้นเมืองอเมริกันกลับมาอีกครั้งกับเรื่องราวของการเปลี่ยนแปลง จอห์น รีด (อาร์มี แฮมเมอร์) ชายผู้ผดุงกฎหมาย ให้กลายเป็นตำนานแห่งความยุติธรรม ที่จะพาผู้ชมไปสู่มหากาพย์การผจญภัยสุดตื่นเต้น น่าประหลาดใจ และเต็มไปด้วยอารมณ์ขัน ของ 2 วีรบุรุษต่างขั้วที่ต้องเรียนรู้ในการร่วมมือกันปราบอธรรม ความโลภ และคนโกง

เอสวา ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4400 เมื่อ: 18/10/13, [07:30:32] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

KILLERS  ครับ

ส่วนอีกเรื่องเคยดูครับเเต่จำชื่อไม่ได้ 5555
ถูกต้องครับ  [เจ๋ง] Killers เทพบุตรหรือนักฆ่าบอกมาซะดีดี
สเปนเซอร์(แอชตัน คุทเชอร์) คือชายหนุ่มสุดเพอร์เฟ็กซ์ ใบหน้าหล่อขั้นเทพ หน้าท้องซิกแพ็ค ขับรถสปอร์ตคันงาม และใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายในยุโรป พรหมลิขิตทำให้เขาพบกับ เจน (แคทเธอรีน ไฮเกล) สาวออฟฟิศที่หนีรักมาพักร้อนที่ฝรั่งเศส เจนได้ใช้เวลาร่วมกับสเปนเซอร์ จนพบว่าเขาคือผู้ชายในฝัน เธอมั่นใจว่าเขานี่แหละคือรักแท้ของเธอ ทั้งสองแต่งงานกันอย่างมีความสุขตลอด 3 ปีเต็ม แต่มีเพียงสิ่งเดียวที่สเปนเซอร์ไม่บอกเจนก็คือ เขามีอาชีพเป็นโคตรเพชฌฆาตมือสังหารของรัฐบาล… ขณะที่เจนกลับมาบ้านเพื่อเตรียมฉลองวันเกิดครบ 30 ปีให้กับสเปนเซอร์ เธอพบว่าเขากำลังต่อสู้กับเพื่อนบ้านอย่างถึงพริกถึง ขิง ซึ่งแท้จริงแล้วคือนักฆ่าปลอมตัวมา เพื่อต้องการสเปนเซอร์ไปขึ้นค่าหัวที่ถูกตั้งเอาไว้ห ลายล้านเหรียญ เจนต้องยอมทิ้งชีวิตแสนเรียบง่ายเพราะดันแต่งงานกับม ือสังหาร ในขณะเดียวกันสเปนเซอร์ต้องคอยพาเจนเพื่อหนีเอาชีวิต รอดจากเหล่านักฆ่านานา ชาติ และพยายามสืบหาว่าใครกันที่เป็นคนออกใบสั่งเก็บเขา
เอสวา ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4401 เมื่อ: 18/10/13, [07:56:29] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ







เรื่องอะไรครับ ?
เอสวา ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4402 เมื่อ: 18/10/13, [07:58:37] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ







เรื่องอะไรครับ ?
เอสวา ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4403 เมื่อ: 18/10/13, [07:59:32] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ







เรื่องอะไรครับ ?
เอสวา ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4404 เมื่อ: 18/10/13, [08:00:43] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ








เรื่องอะไรครับ ?
เอสวา ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4405 เมื่อ: 18/10/13, [08:01:40] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ







เรื่องอะไรครับ ?
จอมใจไร้รัก ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4406 เมื่อ: 18/10/13, [08:12:28] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เรื่องอะไรครับ ?

ถูกต้องครับ

World War Z มหาวิบัติสงคราม Z

จัดได้ว่าเป็นหนัง บล๊อคบัสเตอร์ เรื่องนึงของปี ที่ตัดต่อตัวอย่างออกมาน่าดู และ ทำให้คอซอมบี้ได้ฟินกันมากแน่ๆ กับ World War Z ที่ดัดแปลงมาจากนิยายในชื่อเดียวกัน นำแสดงโดย แบรด พิทต์

กับเรื่องราวในวันธรรมดาวันหนึ่ง เจอร์รี่ เลน และครอบครัว พบว่าการเดินทางบนท้องถนนที่เคยเงียบสงบของพวกเขา ต้องเผชิญหน้ากับการจราจรติดขัดกลางเมือง เลนที่ในอดีตเคยเป็นเจ้าหน้าที่สืบสวนขององค์การสหประชาชาติ รู้สึกว่านี่ไม่ใช่รถติดธรรมดา และเมื่อมีเฮลิคอปเตอร์ของตำรวจบินอยู่ร่อนอยู่เหนือท้องฟ้า และมีมอเตอร์ไซค์ของตำรวจวิ่งไปมาอยู่เบื้องล่าง ทั้งเมืองต้องเผชิญกับเหตุโกลาหล เมื่อผู้คนต่างติดเชื้อ และกลายเป็น คนตายเดินดิน เขาต้องสืบหาว่าเรื่องทั้งหมดนี้เกิดมาจากอะไรกันแน่

World War Z เป็นผลงานการกำกับของ มาร์ค ฟอสเตอร์ ผู้กำกับที่เราน่าจะคุ้นหน้าคุ้นตากันมาบ้าง จากหนังเรื่อง The Kite Runner และหนัง เจมส์ บอนด์ ภาค Quantum of Solace ที่ในครั้งนี้เขากลับมาพร้อมกับหนังสเกลใหญ่กว่าเดิม แต่ยังจับต้องหนังทุนสูงระดับ 170 ล้านเหรียญ อีกด้วย โดยส่วนตัวถ้าหากเราดูจากตัวอย่างของ World War Z เราก็คงจะไม่หวังอะไรมากไปกว่า ความบันเทิง ที่หนังจะมอบให้เราจากการฟัดแหลก แหวกฝูงซอมบี้ และฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ ซึ่งดูเหมือนผู้กำกับ มาร์ค ฟอสเตอร์ จะรู้ดีว่า โจทย์ของคนดูที่ต้องการคืออะไร และจัดคำตอบให้โจทย์ข้อนั้นแบบไม่ยั้ง ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดของหนัง กับการที่ World War Z เลือกที่จะตัดสิ่งต่างๆที่ทำให้คนดูหนักสมองทิ้ง ไม่ต้องคิดเยอะ และยัดเข้ามาแทนด้วย ฉากแอ็คชั่น ระทึกขวัญ ที่ไม่ปล่อยให้คนดูพักหายใจกัน เพราะเรียกได้ว่า 5 นาทีแรก ก็เข้าเนื้อเรื่องกันแบบไม่ต้องปูบทกันแล้ว

ซึ่งฉากแอ็คชั่น สเกลใหญ่ๆ ของตัวหนัง World War Z ก็จัดได้ว่าออกมาน่าพอใจ ถึงแม้หลายฉากเราจะเห็นในตัวอย่างหนังกันแล้ว แต่พอเอาเข้าจริงๆ มันก็ยังทำให้เรารู้สึกขนลุกไปกับความยิ่งใหญ่ของฝูงซอมบี้ 4×100 ที่เนื่องจากเรื่องนี้เป็นหนังฟอร์มยักษ์ จึงทำออกมาได้เพียงเรท PG-13 ซึ่งอาจจะไร้เลือด ไร้ฉากแหวะ แบบที่หนัง ซอมบี้ ควรจะเป็น แต่หนังก็ทดแทนของเหล่านั้นด้วย ซอมบี้ 4×100 ที่วิ่งเร็วขนาด ยูเซน โบลต์ อาจจะต้องยอมโดนกัด ซึ่งน่าจะถูกใจคอหนังแนว ซอมบี้ เป็นอย่างแน่นอนที่ได้เห็นอะไรแปลกใหม่ในการ วิวัฒนาการ เหล่าเชื้อไวรัสนี้

พร้อมทั้งการรับบทนำของ แบรด พิตต์ ในหนังฟอร์มใหญ่อีกเรื่อง ที่ยังทำหน้าที่นักแสดงนำคนเดียว ที่คุมโทนเรื่องได้อยู่หมัด โดยเฉพาะช่วงท้ายของหนังที่ต้องขอบคุณ ออร่า นักแสดง ที่ทำให้คนดูต้องสะใจ พร้อมกับปรบมือไปกับความเก๋าของเฮียแกได้

ซึ่งมากไปกว่านั้นบางฉากที่ผู้กำกับ มาร์ค ฟอสเตอร์ แอบใส่ลูกเล่นให้มีอารมณ์แอบคล้ายเกมส์ Resident Evil และ Dead Rising อยู่บ้าง พร้อมกับแทรกอารมณ์ขัน สนุก และ สะใจ เป็นจังหวะช่วงๆ จึงทำให้ World War Z จัดได้ว่าเป็นหนังป๊อปคอร์น ที่ขายความบันเทิงของแท้ แบบไม่ต้องแคร์องค์ประกอบด้านอื่น จึงอาจจะทำให้หลายสิ่ง ที่หนังสเกลใหญ่ขนาดนี้สามารถหยิบจับต้อง เอามาเล่นให้เป็นประเด็นเสียดสีได้มาก ต้องตกหล่นไปอย่างน่าเสียดายบ้างก็ตาม แต่กระนั่นแล้ว ในเมื่อมันเป็นหนังซัมเมอร์ ความบันเทิง อย่างเดียวในหนัง มันก็น่าจะพอแล้วไม่ใช่หรือ ?

7/10
จอมใจไร้รัก ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4407 เมื่อ: 18/10/13, [08:14:07] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เรื่องอะไรครับ ?

ถูกต้องครับ

Vehicle 19 ฝ่าวิกฤตเหยียบมิดไมล์

ดูท่ายังไงก็คงไม่ขอเปลี่ยนไปเล่นหนังแนวอื่นแล้วกระมั้ง สำหรับ พอล วอร์คเกอร์ ดาราหนุ่มที่โด่งดังจากหนังชุด Fast & Furious ที่ในหนังเรื่องใหม่ของเขาก็ยังคงเป็นการวนเวียนอยู่กับรถเช่นเคยใน Vehicle 19 เพียงแต่ว่า รถของเขาหน่ะไม่ได้เจ๋งเหมือนเรื่องก่อน แต่เป็นเพียง มินิแวน คันเล็กๆเท่านั้นเอง

Vehicle 19 เป็นเรื่องราวของ ไมเคิล วิลค์ส (พอล วอล์คเกอร์) อดีตอาชญากรที่พยายามจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ เขาเดินทางมายังแอฟริกาใต้เพื่อขอคืนดีกับภรรยาเก่าและเช่ารถเพื่อขับไปหา เธอ แต่ระหว่างเดินทางอยู่นั้นเขาก็พบทั้งปืนและโทรศัพท์ที่บอกว่าไม่ควรเช่าคัน นี้ แต่ก่อนที่ ไมเคิล จะนำไปคืนเขาก็พบผู้หญิงที่ถูกมัดอยู่ในกระโปรงหลัง และพบว่าตำรวจมีส่วนเกี่ยวกับการลักพาตัวครั้งนี้ ไมเคิล ต้องใช้ความสามารถทั้งหมดในการขับทะลุเมืองฝ่าดงตำรวจชั่ว เพื่อออกจากสถานที่แห่งนี้ เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเขา

โดยส่วนตัวต้องขอบอกเลยว่า ผมเองค่อนข้างที่จะเป็นแฟนๆตัวยง ที่ติดตามและชื่นชอบ Fast & Furious มาตั้งแต่ภาคแรก แต่กระนั้นถึงแม้จะมี พอล วอร์คเกอร์ อยู่ในหนังคู่กับ วิน ดีเซล ก็ดูเหมือนเขาจะได้เป็นแค่พระรองเท่านั้น เพราะฉะนั้น Vehicle 19 จึงไม่ต่างจากหนังที่มาเพื่อให้เขาพิสูจน์ว่า เขาคนเดียวก็สามารถคุมหนังให้สนุกได้เหมือนกัน

ซึ่งถ้าหากว่ากันตรงๆแล้ว การที่ พอล วอร์คเกอร์ มาโชว์เดี่ยวในหนังซิ่งรถเรื่องนี้ ด้านการคุมตัวเรื่องด้วยการแสดงของเขานั้นออกจะไม่ค่อยมีปัญหา จะมีปัญหาก็แค่ตรงด้านความบันเทิง และ ตัวบท ที่อาจจะยังจัดเต็มให้กับแฟนๆของเฮีย พอล ได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก โดย Vehicle 19 เป็นหนังที่จะบ่งบอกถึงเรื่องราวการล้างบาป การแก้ไข ตัวของ ไมเคิล ตัวเอกของเรื่อง ที่กำลังจะมาขอคืนดีกับภรรยา และเริ่มต้นชีวิตใหม่ทุกๆอย่าง จนกระทั่งถึงทางแยก เมื่อต้องเจอสถานการณ์ที่เลวร้ายยิ่งกว่า เพียงแต่มันไม่ใช่เรื่องของเขา แล้วคราวนี้คนที่ทำผิดมาตลอดทั้งชีวิต ต้องมาเจอเส้นทางที่ทำให้เขาต้องเลือกว่า อันไหนที่ถูกต้อง สำหรับเขากันแน่ ซึ่งการเปิดเรื่องปูบทมาของตัวละครเอก สามารถทำให้คนดูอยากติดตามเรื่องราวต่อไป ได้อย่างไม่ติดขัดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ เพียงแต่ว่าน่าเสียดายเมื่อเข้าสู่ตัวเรื่องจริงๆแล้วมันกลับปิดตัวได้ไม่ตรงจุด และ ไม่สามารถมอบความบันเทิงได้ดีเท่าที่ควร

เพราะเอาเข้าจริงๆฉากแอ็คชั่นของ Vehicle 19 อาจจะมีเข้ามาพอประมาณที่หนังแอ็คชั่นเรื่องนึงจะมีได้ แต่ผู้กำกับกลับไม่สามารถสร้างฉากแอ็คชั่นเหล่านั้นออกมาให้ตื่นเต้น ตื่นตา ได้ดีนัก ทำได้แค่พอสนุกเพลินๆเท่านั้น โดยการจัดวางมุมกล้องให้คนดูเปรียบเสมือนอยู่ในรถร่วมกับ ตัวละคร นั้น ก็กลับไม่สามารถใช้ประสิทธิภาพจากวัตถุดิบชิ้นนี้ได้ดีเท่าที่ควรนัก รวมไปถึงการปิดตัวประเด็นหนังที่สร้างไว้ ก็เร่งรีบให้จบเพื่อเข้าไปสู่ฉากแอ็คชั่น และ เนื้อเรื่อง ต่อไปเสียมากกว่าจะกลับมาเน้นย้ำเสมือนในช่วงแรกที่เคยทำเอาไว้

โดยถ้าหากช่วงนี้คุณหวังอยากจะดูหนังอะไรเพลินๆ แก้เครียด Vehicle 19 ก็อาจจะมอบสิ่งนั้นให้แก่คุณได้ เพราะโดยรวมตัวหนังก็ไม่ได้จัดว่าเลวร้าย เพียงแต่ว่าอาจจะทำออกมาไม่ได้มันส์เท่าที่แฟนๆของ Fast ได้หวังไว้จากนักแสดงนำ ซึ่ง พอล วอร์คเกอร์ พอมารับบทลุยเดี่ยวในหนังแอ็คชั่นแล้วก็ถือว่าไปได้สวย ถึงแม้รัศมีนักแสดงอาจจะยังไม่เท่ากับคู่หูอย่าง วิน ดีเซล ก็ตาม

 6/10
จอมใจไร้รัก ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4408 เมื่อ: 18/10/13, [08:15:29] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เรื่องอะไรครับ ?

ถูกต้องครับ

jack the giant slayer แจ็คผู้สยบยักษ์

Jack The Giant Slayer คือตัวอย่างที่ดีของหนังที่นำเรื่องราวจากนิทานที่ผู้คนต่างรู้จักนำมา ดัดแปลง ผ่านการตีความ และปรุงแต่งเพิ่มเติม จนออกมาเป็นหนังเรื่องหนึ่งที่มุ่งเน้นกับการมอบความบันเทิง ที่รู้ว่าตัวเองมีดีอะไร ก็ขายเพียงสิ่งเหล่านั้น ไม่พยายามสร้างเสริมอะไรลงไปที่มันเกินตัว ผลลัพธ์ที่ได้จึงนับว่าน่าพอใจกับหนังแอ็คชั่นที่สนุกดูเพลิน ที่มีกลิ่นนิยายอบอวลตลอดทั้งเรื่อง

Jack The Giant Slayer เป็นผลจากการผสมคลุกเคล้าระหว่าง Jack and the Beanstalk และ Jack the Giant Killer พร้อมแต่งแต้มจินตนาการลงไปเพิ่มเติมและกำกับโดยผู้กำกับ X-Men ไบรอัน ซิงเกอร์ เล่าเรื่องราวของ แจ็ค (นิโคลัส โฮลท์) เจ้านายากจนในชนบท ที่ชะตาทำให้เขาได้กับเจ้าหญิงอิซาเบล (เอเลียนอร์ ทอมลินสัน) ผู้สูงศักดิ์และได้ถั่ววิเศษโดยบังเอิญ และด้วยความบังเอิญอีกเช่นกันที่ทำให้ถั่ววิเศษงอกออกมาขยายใหญ่ส่งองค์หญิง ขึ้นสู่ฟากฟ้า แจ็ค, เแอลมอนท์ (ยวน แม็กเครเกอร์) องค์รักษ์ของอาณาจักร, ลอร์ดร็อตเดอริค (สแตนลี่ ทุชซี่) และทหารหาญจำนวนหนึ่งอาสาปีนขึ้นต้นถั่วยักษ์เพื่อนำเจ้าหญิงกลับมา แต่เมื่อเข้าขึ้นไปสุดทางกลับพบว่าข้างบนมีอาณาจักรของยักษ์ตั้งอยู่!

การปูประเด็นต่างๆ ทั้งเรื่องราวตำนานโบราณของต้นถั่วยักษ์และมงกุฎ สงครามระหว่างยักษ์และมนุษย์ ความสอดคล้องแบบมีนัยยะระหว่างแจ็คและเจ้าหญิงอิซาเบลที่ทำให้เรารู้สึกว่า ทั้งคู่เป็น Soul Mate ของกันและกัน ซึ่งจุดนี้นำเสนอออกมาได้ดีมาก ทั้งรวบรัดและใช้เวลาไม่มาก หนังเล่นประเด็นเรื่องความจริงกับเรื่องเล่าที่ผ่านกาลเวลาจนเป็นตำนาน ด้วยการนำเสนอภาพในช่วงปูเรื่องในตอนต้นแบบการ์ตูนที่ทำให้รู้สึกว่าเรื่อง ราวเป็นนิทานมากยิ่งขึ้น ซึ่งพอหลังจากเรื่องราวได้เผยต้นถั่วสูงเทียมฟ้าและอาณาจักรยักษ์ที่เหล่า ตัวละครได้เผชิญ จึงทำให้เรารู้สึกเหมือนดั่งตัวละครว่าตำนานหรือเรื่องเล่าสืบต่อกันมานั้น คือเรื่องจริง! ซึ่งประเด็นเรื่องนิทานกับความเป็นจริงยังถูกนำมาใช้อีกครั้งกับตอนจบที่ทำ ออกมาได้เก๋ไก๋ทีเดียว

ด้วยการให้ข้อมูลทั้งหมดมาตั้งแต่ต้น ซึ่งเป็นการปูพื้นฐานที่ดี ทำให้หลังจากนั้นเราสามารถติดตามเรื่องราวในแบบที่ไม่รู้สึกติดขัดหรือเกิด ข้อสงสัยอะไรที่รู้สึกว่าเป็นปัญหา และหนังก็ไม่หลุดจากแนวเรื่องที่ปูไว้แต่ต้น ซึ่งวิธีการนี้อาจจะมีผลเสียบ้างอยู่ตรงที่มันไม่มีอะไรพลิกแพลงหักมุมให้ ผู้ชมได้ประหลาดใจ แต่ก็ไม่รู้สึกว่ามันน่าเบื่อจนเกิดความรู้สึกที่ไม่ดีต่อตัวหนัง และจะว่าไปมันดูสนุกเพลิดเพลินมากกว่าที่คิดด้วยซ้ำ เป็นความบันเทิงแบบตรงไปตรงมาที่ทำออกมาได้ดี กับการนำเรื่องราวที่คนส่วนใหญ่ต่างรู้จัก มาดัดแปลงตีความเรื่องราวใหม่และยังสามารถทำให้เราสนุกสนานไปกับเรื่องราว ได้อยู่ แม้ว่าจะไม่ถึงกับเซอร์ไพรซ์อะไรมากมายก็ตาม!

ดังที่กล่าวในข้างต้นทำให้ Jack the Giant Slayer เป็นหนังที่ขับเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยเนื้อเรื่อง โดยไม่ต้องพึ่งพาฝีมือทางการแสดงของเหล่านักแสดงเท่าใดนัก นิโคลัส โฮลท์ ในบทของแจ็คที่ใช้แอ็คชั่นเป็นตัวนำมากกว่าแสดงมิติทางด้านอารมณ์ ทำให้แจ็คเป็นตัวละครที่แบนราบ ทั้งที่ได้ชื่อว่าเป็นพระเอก ผิดกับ ยวน แม็กเครเกอร์ เป็นบทองค์รักษ์ (ที่ความสามารถของเขาควรจะเรียกว่าแม่ทัพมากกว่า) เขาดูดีมากในบทนี้ ที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นข้ารับใช้ผู้จงรักษ์ภักดี และเป็นผู้นำที่พึ่งพาได้ ในขณะที่เอเลียนอร์ ทอมลินสัน ดูดีมากในชุดเกราะสีทองของเจ้าหญิงผู้รักการผจญภัย ที่เรื่องราวพยายามใส่ความโรแมนติคเข้ามา โดยวางไว้ตั้งแต่ต้นเรื่องแต่ก็ดูจะเป็นการจืดจางลงไปเมื่อเรื่องราวค่อยๆ เข็มข้นขึ้นจนรู้สึกกลายเป็นส่วนเกินที่ไม่ต้องใส่เข้ามาก็ได้!

ผิดกับฉากแอ็คชั่นต่างๆ ที่ใส่เข้ามา ซึ่งมีทั้งฉากเล็กๆ ที่เรียกเสียงหัวเราะได้ (แม้จะดูรุนแรง) หรือฉากแอ็คชั่นกองทัพยักษ์บุกอาณาจักรที่ให้อารมณ์ความรู้สึกเหมือน The Lord of the Rings ไม่ว่าฉากเล็กหรือฉากใหญ่ต่างทำออกมาได้ดีและไม่ยืดเยื้อจนเกินไป แม้จะไม่รู้สึกถึงความแปลกใหม่แต่ก็ไม่ได้ส่งผลให้เกิดความรู้สึกเบื่อหน่าย ในการชม เทคนิคพิเศษของการสร้างยักษ์ขึ้นมาถึงจะดูไม่แนบเนียนนักแต่ก็ไม่ทำให้ รู้สึกตะขิดตะขวงใจระหว่างชม และดูเพียงพอกับตัวหนังที่ไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากนัก และเหนืออื่นใดมันดูสนุกเพลิดเพลินใช้ได้ กับการแสดงให้เห็นว่าฝ่ายมนุษย์ก็สามารถต่อสู้กับกองทัพยักษ์ได้แบบไม่เป็น รอง แม้ขนาดของร่างกายจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

6.5/10
จอมใจไร้รัก ออฟไลน์
Club Leader
« ตอบ #4409 เมื่อ: 18/10/13, [08:17:51] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ



เรื่องอะไรครับ ?

ถูกต้องครับ

Silver Linings Playbook ลุกขึ้นใหม่ หัวใจมีเธอ

คนเราทุกคนต่างถวิลคนที่เข้าใจและคอยปลอบใจในยามท้อแท้และหมดหวังกับ ชีวิต แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะโชคดีมีโอกาสได้พบกับคนๆ นั้น เคยสังเกตไหมว่าบางครั้งคนที่เข้าใจความรู้สึกของเรา ก็คือคนที่เคยประสบเหตุการณ์ร้ายที่คล้ายคลึงกับเรา ถ้าหากเราได้พบคนๆ นั้น มันก็คล้ายกับการที่เราได้เจอกระจกที่ช่วยสะท้อนตัวเราให้เราสามารถเข้าใจ ตัวเราเองมากขึ้น จนบางทีเราอาจค้นพบมุมมองอีกด้านจากเรื่องราวๆ แย่ๆ ที่เราได้พบเจอก็เป็นได้ ที่สุดท้ายเราอาจจะรู้สึกขอบคุณเหตุการณ์ร้ายๆ ที่เกิดขึ้น ที่ช่วยเราได้พบคนที่ใช่สำหรับเราจริงๆ เสียที!

เช่นเดียวกันกับ แพท (แบรดลี่ย์ คูเปอร์) ผู้ป่วยโรคไบโพล่าร์ (Bipolar Disorder หรือ?โรคอารมณ์ 2 ขั้ว ) ที่ต้องเข้ารับการบำบัดหลังจากเขาได้พบเหตุการณ์ที่ส่งผลต่อสภาพจิตใจเมื่อ ภรรยาของเขานอกใจ หลังจากผ่านไป 8 เดือนเขาได้รับโอกาสให้ออกมาใช้ชีวิตตามปกติอีกครั้ง แต่ก็ยังอยู่ในการควบคุมของศาล แพทต้องการทำตัวให้ดีขึ้นเพื่อให้เขากับภรรยากลับมามีชีวิตครอบครัวร่วมกัน อีกครั้ง ท่ามกลางเสียงทัดทานของพ่อ (โรเบิร์ท เด นีโร) และแม่ (แจ็คกี้ วีเวอร์) ที่ต้องการให้ต่างฝ่ายแยกย้ายกันไปมีชีวิตใหม่ของแต่ละคนมากกว่า รวมถึงอาการของเขาที่กำเริบขึ้นมาเป็นบางครั้ง!

สถานการณ์นำพาให้เขาต้องไปพบกับ ทิฟฟานี่ย์ (เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์) แม่ม่ายที่สามีเสียชีวิต ซึ่งเธอก็เคยได้รับการบำบัดมาเหมือนกัน ความสัมพันธ์ของทั้่งคู่คล้ายไม่ลงรอยกันนัก แต่แพทต้องการให้ทิฟฟานี่ย์ช่วยเหลือในการติดต่อกับภรรยาเขาด้วยการส่ง จดหมาย ทิฟฟานี่ย์ยินดีจะช่วยเหลือโดยมีเงื่อนไขว่า เขาต้องมาเป็นคู่เต้นรำในการแข่งขันที่กำลังจะเกิดขึ้น แพทยอมทำตามเงื่อนไข ซึ่งนั่นทำให้เขาเกิดความรู้สึกพิเศษบางอย่างขึ้นมาที่ทำให้เขาไม่ใช่คนเดิม อีกต่อไป!

Silver Linings Playbook เป็นผลงานการกำกับเรื่องใหม่และเขียนบทของ เดวิด โอ. รัซเซลล์ ที่หลายคนเคยประทับใจกับ The Fighter (2010) มาแล้ว ในครั้งเขาหยิบจับเรื่องราวของคนป่วยทางจิตที่เพิ่งออกจากสถานบำบัดมาใช้ ชีวิตเยี่ยงคนทั่วไป โดยดัดแปลงมาจากงานเขียนของ แม็ทธิว ควิก ที่ชื่อ The Silver Linings Playbook อีกที (ซึ่งคำว่า Silver Linings มาจากสำนวนที่ว่า Every Cloud has Silver Lining ที่หมายถึง ในความมืดมนยังมีความสดใส หรือ ในสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้น ก็ยังพอมีสิ่งดีๆ ปรากฎให้เห็น Playbook คือ ตำรา กลยุทธ์ หรือคู่มือ ชื่อหนัง Silver Linings Playbook เลยมีความหมายประมาณว่า คู่มือในการมองโลกในแง่ดี หรือ กลยุทธ์ในการก้าวผ่านเรื่องเลวร้ายของชีวิต)

เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ นักแสดงสาวดาวรุ่งที่พัฒนาฝีมือด้านการแสดงมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในเรื่องนี้เธอรับบท ทิฟฟานี่ย์ ที่รัศมีความเป็นซูเปอร์สตาร์ของเธอช่างเปล่งประกายเหลือเกิน กับตัวละครหญิงที่มีทางจิตจากการสูญเสียคนรักและรอคอยใครสักคนมาเติมเต็ม ช่องว่างนั้น เป็นตัวละครที่ตอนแรกดูไม่น่ารัก แต่เรากับค่อยๆ หลงเสน่ห์ของเธอ และให้อภัยกับการกระทำของเธอที่ผ่านมา

แบรดลี่ย์ คูเปอร์ แสดงได้เยี่ยมกับผู้ชายที่มีปมทางจิตใจที่พยายามจะทำตัวให้เป็นคนปกติ คูเปอร์สามารถแสดงให้เรารู้สึกสงสารกับสิ่งที่ตัวละครแพทต้องเจอ และเห็นใจในความพยายามที่จะนำอดีตอันสวยงามกลับมาในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังเขาแสดงเข้าคู่กันได้ดีกับ ลอว์เรนซ์ ที่รัศมีดาราไม่มีใครข่มใคร ช่วยให้บทสนทนาที่โต้กันไปมาระหว่างแพทกับทิฟฟานี่ย์นั้นออกรสออกชาติ

นอกจากนี้ เหล่านักแสดงคนอื่นในเรื่องต่างทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี แต่โดดเด่นที่สุด คือ โรเบิร์ด เด นีโร ในบทของพ่อผู้คลั่งไคล์การชมและการพนันอเมริกันฟุตบอล ที่มีปรัชญาการดำเนินชีวิตที่แปลกประหลาด รวมถึงวิธีแสดงออกของความรักที่มีต่อลูกในแบบเฉพาะตัวอย่างที่สุด คริส ทัคเกอร์ ที่ถือเป็นเซอร์ไพรส์ของเรื่องก็ว่าได้ เมื่อเขาได้บทสมทบเล็กๆ แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้ชมจดจำเขาได้ และด้วยฝีมือทางด้านการแสดงอันน่าประทับใจของทีมนักแสดงนี่เอง ที่ทำให้ระหว่างชมบางครั้งเกิดความรู้สึกว่าที่เรากำลังติดตามอยู่ไม่ใช่ เรื่องราวในหนัง แต่เป็นการแสดงอันดึงดูดใจของทีมนักแสดงต่างหาก

กล่าวแบบตรงไปตรงมาเรื่องราวใน Silver Linings Playbook ก็คือเรื่องของการปรับตัวและการพยายามกลับไปเป็นคนปกติของผู้ป่วยทางจิต แต่มันก็แฝงไปด้วยวิธีการรับมือต่อสิ่งเลวร้ายที่มันฝังอยู่ในจิตใจของเรา ซึ่ง เดวิด โอ. รัซเซลล์ เก่งมากในการนำเสนอเรื่องราวๆ หนัก ให้ออกมาดูอ่อนโยนง่ายต่อการเข้าถึง แต่ไม่เบาบางจนทำให้ความเข้มข้นของเรื่องราวนั้นหมดไป นอกจากนี้การที่หนังเจือเรื่องราวความรักระหว่างชายหญิงที่เคยมีแผลในจิตใจ เข้ามา และเติมอารมณ์ขันฉลาดๆ เข้าไป ทำให้ภาพรวมของหนังเรื่องนี้ดูสดใสจนคล้ายกับงานฮอลลีวู๊ด (ทั้งที่หน้าหนังมันดูอินดี๊?อินดี้!)

ตัวหนังโดดเด่นในด้านการตัดต่ออันเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้มุขตลกที่หนัง พยายามแทรกเข้าไปเพื่อเบรกอารมณ์ที่เริ่มหนักของเรื่องได้อย่างแนบเนียนและ เป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยในการเล่าเรื่องที่สำคัญ กับการตัดภาพที่แสดงให้เห็นว่าตัวละครนั้นอยู่ในภาวะไม่ปกติ มีอดีตที่ทำร้ายเขาตามมาหลอกหลอน รวมถึงการตัดฉากในช่วงที่ควรหยุด จุดประสงค์หนึ่งเพื่อคุมระดับความเข้มข้นทางดราม่าของหนังให้อยู่ในระดับที่ ย่อยง่ายๆ สำหรับผู้ชมทั่วไป! แต่ที่เด็ดที่สุดและถือเป็นฉากขาย คือฉากแข่งขันเต้นรำ ที่เป็นฉากที่แสดงให้เห็นว่าแพทและทิฟฟานี่ย์ได้รับการปลดปล่อยจากอดีต คูเปอร์และลอว์เรนซ์เจ๋งมากกับฉากนี้ ซึ่งการตัดต่อมีส่วนช่วยอย่างมากที่ทำให้คู่พระนางนั้นดูเต้นเก่งและทำให้รู้สึกเพลิดเพลินไปฉากนี้

อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องชมเชย เดวิด โอ. รัซเซลล์ ผู้กำกับคือ การใส่รายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ ลงไป ที่ทำให้ตัวละครมีชีวิตชีวาและมีเลือดเนื้อมากขึ้น ทั้่งการแสดงสีหน้าและการกระทำของตัวละคร ที่เมื่อเหตุการณ์เฉลยออกมาเราก็จะเข้าใจย้อนกลับไปตั้งแต่ต้นๆ เรื่องว่่า ทุกอย่าง ทุกการกระทำมีเหตุผลรองรับทั้งสิ้น ที่หากไม่ได้ผู้กำกับที่มีความเข้าใจในการทำหนังที่มีรายละเอียดแบบนี้ก็คง ไม่สามารถสื่อออกมาได้หมด! นอกจากนี้ Silver Linings Playbook ยังมีบทสนทนาที่ยอดเยี่ยม ซึ่งมีหลายฉากสนทนามากที่ถือเป็นความยอดเยี่ยม นอกจากจะยกความดีความชอบใหักับฝีมือการดัดแปลงบทภาพยนตร์ของผู้กำกับรัช เซลล์แล้ว ยังต้องให้เครดิตกับ แม็ทธิว ควิก เจ้าของบทประพันธ์อีกด้วย ที่สามารถสร้างบทสนทนาอันชวนติดตามได้ขนาดนี้!

Silver Linings Playbook เป็นอีกงานคุณภาพมีเนื้อมีหนังที่เล่าออกมาด้วยท่าทีอันเป็นมิตร กับบทสรุปที่จบลงในแบบตามสูตร แต่ก็แฝงความเก๋ไก๋กับการแพนกล้องออกมาจากคู่พระนาง (จะลงตัวมากถ้าหนังจบตรงจุดนี้) ที่คล้ายเป็นสัญญาณบอกว่าเขาและเธอหายดีแล้ว แพทกับทิฟฟานี่ย์ต่างเข้าใจแล้วว่าฝ่ายตรงข้ามคือสิ่งที่เข้ามาเติมเต็ม ชีวิตให้แก่กันและกัน และก็ถึงเวลาที่คุณผู้ชมจะต้องไปค้นหามุมมองด้านบวกในชีวิตของคุณบ้างแล้ว แต่ก็เหมือนรู้ว่าเรายังอยากรู้ว่าพวกเขาอยู่ดีมีสุขกันไหมด้วย ด้วยฉากสุดท้ายที่ทำให้รู้สึก?..Excelsior!

8/10
หน้า: 1 ... 145 146 147 148 149 ... 201   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: