
ปี พ.ศ. 2481 ทรงมีกล้อง ELAX LUMIEREและเมื่อใช้จนชำนาญทรงเปลี่ยนกล้อง ELAX LUMIERE อีกกล้อง และในปี2484เป็นปีที่ตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

อานันทมหิดล กลับเมืองไทย ได้ทรงใช้กล้อง ELAX บันทึกภาพระหว่างตามเสด็จโดยตลอด หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงใช้กล้อง LINHOF ของประเทศ เยอรมันนี (ไม่มีภาพกล้อง) และทรงใช้กล้อง HASSELBLAD ของประเทศสวีเดน ใช้ฟิล์ม 3 นิ้ว หรือ 120 เป็น กล้องสะท้อนภาพแบบเลนซ์เดี่ยว จุดเด่นของกล้องนี้ คือ เปลี่ยนเลนซ์ได้ มีแมกกาซีน(MAGAZINE)ใส่ฟิล์มให้เปลี่ยนได้หลายขนาด (ไม่มีภาพกล้อง)
ปี พ.ศ. 2494 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทดลองใช้กล้องIKOFLEX เป็นกล้อง
สะท้อนภาพแบบเลนซ์คู่กล้องนี้เมื่อจัดลำดับกล้องถ่ายภาพที่ทรงใช้นับเป็นลำดับ
ที่ 12 เลขที่ตัวกล้อง2592052 LENS ZEISSOPTONTESSAR 1:35 f. 75 mm.
No. 637288 กล้องนี้ทรงมีพระราชดำรัสว่าใช้ง่าย เลนส์ดี ได้ภาพสวยคมชัด

พ.ศ. 2493 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงใช้กล้อง CONTACT II เลนส์
ZEISS-OPTION NO. 821255 กับ ZEISS-OPTION NO. 885584
SONNAR 1:2 f 50 mm. เป็นกล้องแบบใหม่ทันสมัยมาก เพราะเป็นกล้องที่
เปลี่ยนเลนส์ได้ ทั้งมีเครื่องวัดแสงในตัวด้วย กล้องนี้ทรงได้จากประเทศ
สิงคโปร์เป็นที่พอพระราชหฤทัยมาก ปัจจุบันได้พระราชทานไว้ที่สวนหลวง ร.9

ในขณะที่วงการถ่ายภาพมีกล้อง CONTAX II ทางบริษัท E.LEITZ WETZ LAR ประเทศเยอรมันนี ได้ออกกล้อง LEICA ระบบ M ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดัง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงได้กล้อง LEICA มากล้องหนึ่ง เป็นกล้องมือสอง ทรงลองใช้อยู่ระยะหนึ่ง (ไม่มีภาพ) กล้องบริษัทไซส์ ชื่อ SUPER IKONTA ใช้ฟิล์มเบอร์ 120 ได้ภาพขนาด 6 x 9 ซ.ม. 8 ภาพ และยังแบ่ง เป็นภาพ 6 x 4.5 ซ.ม. 16 ภาพได้ด้วย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงใช้อยู่พักหนึ่งจึงได้พระราชทานให้หัวหน้าช่างภาพประจำพระองค์ (นายอาณัติ บุนนาค) ใช้ในงานราชการต่อไป(ไม่มีภาพ)
บริษัท ROBOT ได้ผลิตกล้องรุ่นใหม่ไม่ซ้ำใคร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงใช้รุ่น ROTOT ROYAL NO.G 125721 MOD. III LENS SCHNEIDER-KREUZNACH XENON 1.1.9/3542375 ลักษณะเป็นกล้อง กะทัดรัดมาก ใช้ฟิล์มเบอร์ 135 แต่ภาพที่ได้เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส ฟิล์มม้วนหนึ่งได้ภาพมากกว่ากล้อง ที่ใช้ฟิล์มขนาดเดียวกัน และหมุนฟิล์มขึ้นชัตเตอร์ได้เร็วกว่ากล้องชนิดอื่น พ.ศ. 2495 ประเทศไทยได้จัดฉลองรัฐธรรมนูญขึ้นบริเวณสวนลุมพินี

เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ภายในงานมีการแสดงกิจกรรมของหน่วยงานต่างๆ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นประธานเปิดงาน เมื่อเสด็จทอดพระเนตรกิจการร้านสถานฑูตรุสเซีย เจ้าหน้าที่ได้ทูลเกล้าฯ กล้องถ่ายภาพยี่ห้อ KIEV กล้องหนึ่งซึ่งเป็นกล้องที่ทำได้คล้ายกับกล้องไซส์อิคอน ขนาด 6 x 9 ซ.ม. เป็นที่พอพระราชหฤทัยมากปัจจุบันไม่ทรงทราบว่าอยู่ที่ไหน (ไม่มีภาพกล้อง)
พ.ศ. 2514 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงใช้กล้องญี่ปุ่น ได้แก่ CANON-7 แต่เปลี่ยนเลนซ์ไม่ได้

ต่อมาทรงเปลี่ยนมาใช้ CANON A-1 เพราะเป็นรุ่นมาตรฐาน A1/2097120 CANON FD 1:1.4/50 mm. 2052111 กับอีกกล้องหนึ่ง CANON AE-1 2307372 LENS RMG TOKINA ZOOM 1:3.5-4.3, 35-105


ต่อมาทรงได้กล้องใหม่ ที่อะไรเป็นอัตโนมัติทุกอย่างได้แก่ กล้อง CANON 35 AUTO FOCUS LENS f=38 mm.เป็นกล้องขนาดเล็กน้ำหนักเบา(ไม่มีภาพ)
กล้อง MINOLTA DYNAX 5000I พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงลองใช้
ซึ่งสร้างความสะดวกสบายและถ่ายภาพได้ผลเที่ยงตรง รวดเร็ว

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงลองใช้กล้องคอมแพ็คแบบต่างๆ หลายๆ แบบ เป็นต้นว่า
CANON I HS LENS CANON ZOOM EF 28-80 mm.
CANON AUTOBOY TELE 6 LENS 35-60 mm. f 1:3.5/f5.6
CANON XL LENS
CANON ZOOM X2 LENS CANON ZOOM 39-85 mm. f 1 : 35



พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจับสลากได้รางวัลกล้อง RICOH EF-9D LENS 35 mm. f 1:35 พอในปีต่อมา จึงทรงพระราชทานเป็นของขวัญจับสลากต่อไป กล้อง PENTAX AF ZOOm 35-70 mm. กับ MONOLTAL WEATHER MATIC 35 DL และ NIKON TW ZOO
-ข้อสังเกต : กล้องรุ่นล่าสุดที่พระองค์ท่าใช้ถ่ายรูปประชาชนเมื่อเสด็จกลับจากรพ.ศิริราช คือรุ่น canon EOS 30D

ชื่อรุ่นคล้ายกับกล้องดิจิตอล SLR ตัวแรกของ Canon รุ่น EOS D30 ที่วางจำหน่ายเมื่อ 3 ปีก่อน โดยปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพที่สูงมากขึ้นหลายอย่าง เซ็นเซอร์ภาพใช้ CMOS ความละเอียด 8.2 ล้านพิกเซล พร้อมใช้งานหลังจากเปิดสวิตช์กล้องใน 0.15 วินาที เร็วที่สุดในบรรดากล้องดิจิตอล SLR ของ Canon
credit : http://www.thaigov.go.th/pageconfig/blessing/page3/level_camera.html
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ