อีกซักเรื่อง วันนี้ว่างครับ 036 ขออภัยหากซ้ำนะครับ [on_055]
ต้องเกริ่นนิดนึงบทความนี้สำหรับมือสมัครเล่นนะครับ (ผมก็มือสมัครเล่นนะ) ผมคัดลอกบางส่วนมาจากบทความที่เกี่ยวกับการให้ปุ๋ย แบบ EI (Estimated Index) คือกะๆเอาแต่จะให้แบบออกไปทางเยอะโดยแบ่งให้สารอาหารหลัก และรองสลับวันจนครบ6วัน พอวันที่ 7ก็เปลี่ยนน้ำ 50% เป็นการรีเซ็ทระบบ เพื่อไม่ให้มีสารอาหารตกค้าง แล้ววันหลังถ้าอยากรู้เพิ่มแล้วจะมาเล่าให้ฟังอีกทีละกันครับเกี่ยวกับวิธีการ ผมเองก็เคยแต่เอามาประยุกต์ใช้ครับ
เข้าเรื่องก่อนนะครับ
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่ามันมีความหลากหลายของปัจจัยที่สามารถนำมาซึ่งการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วของตะไคร่ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับการให้ปุ๋ยเลย ต่อไปนี้เป็นปัจจัยสาเหตุที่อยากจะกล่างถึงครับ
1 การละลาย CO2ที่ไม่ดี และ การให้CO2 ที่ไม่เพียงพอ
2 การไหลเวียนที่ไม่ดีภายในตู้
3 การไม่บำรุงดูแลรักษาความสะอาดตู้ และ กรอง คือไม่ทำความสะอาดหรือ มีตะกอน สร้างขึ้นในถังกรอง
4 การให้อาหารมากเกินไป
5 การรบกวนของพื้นปลูกมากเกินไป
ปัจจัยเหล่านี้ทั้งหมดมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน....คือทั้งหมดส่งผลให้แอมโมเนียมีเพิ่มขึ้นในของน้ำ รายการ 1 และ 2 แอมโมเนียถูกปลดปล่อยโดยพืชเองเนื่องจากเมื่อพืชได้รับ CO2 และสารอาหารไม่เพียงพอเนื่องจากการหมุนเวียนที่ไม่ดี โครงสร้างของเซลส์ของพืชก็จะอ่อนแอลงเนื่องจากการอดอาหาร จึงไม่เพียงแต่ปล่อยแอมโมเนีย แต่ยังรวมถึงสารอาหารและสารอินทรีย์ต่างๆด้วย นี่คือเหตุผลที่ทำไมตะไคร่หลายๆชนิดจึงเกาะเกิดขึ้นกับต้นไม้น้ำ อาการเช่นเดียวกันนี้ ก็พอจะเข้าใจได้ว่าต้องเกิดกับต้นไม้น้ำที่ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอเช่นกัน
รายการ 3 และ 4 แอมโมเนียที่ถูกผลิตโดยการสลายตัวของสารอินทรีย์ที่เน่าสลาย และ จากอาหารปลาที่ตกค้างบริเวณพื้นปลูกเหล่านี้ หากไม่มีการจัดการไดๆเลยก็มักจะทำให้บริเวณพื้นปลูกเต็มไปด้วย แอมโมเนีย, ไนไตรท์ และ ไนเตรท เป็นธรรมดา
ในรายการที่ 5 แอมโมเนียถูกปล่อยออกมาเนื่องจากภายในดินหรือพื้นผิวนั้นเป็นที่อยู่อาศัยของแบคทีเรียจำนวนมาก เป็นพันๆล้านตัว แบคทีเรียหลากหลายชนิดเหล่านี้บางส่วนทำหน้าที่แปลงรูปแบบต่างๆของไนโตรเจนเป็นแอมโมเนีย ในขณะที่เชื้อแบคทีเรียชนิดอื่นๆ มีหน้าที่เปลี่ยนแอมโมเนียให้เป็นไนไตรท์ ในขณะที่แบคทีเรียอีกบางส่วนยังแปลงไนไตรท์เป็นไนเตรต พื้นผิวนี้เปรียบได้กับเป็นโลกของแบคทีเรียซึ่งมีผลต่อระบบนิเวศของตู้ไม้น้ำโดยตรงเลยทีเดียว ดังนั้นการรบกวนพื้นผิวเช่น การรื้อปลูกต้นไม้ใหม่ จึงเป็นการทำให้ แอมโมเนีย, ไนไตรท์, ไนเตรท เหล่านี้กระจายตัวกลับสู่น้ำ แอมโมเนียจำนวนมากเหล่านี้เมื่อเจอเข้ากับ แสงสว่างจำนวนมาก ผลลัพท์ก็ไม่พ้นตะไคร่บลูมไปได้เลย ดังนั้นเราจึงต้องเปลี่ยนน้ำทันทีหลังจากที่พื้นผิวถูกรบกวนอย่างมาก ในทุกกรณีที่กล่าวไว้เหล่านี้ ระดับความเข้มข้นของแอมโมเนียที่สามารถทำให้เกิดการบลูมของตะไคร่นั้นต่ำมากจนกระทั้งไม่สามารถวัดได้ด้วยชุดทดสอบแอมโมเนีย
สุดท้ายผู้เขียนทิ้งท้ายไว้น่าสนใจดังนี้ครับ
ถ้าเราต้องการจะประสบความสำเร็จกับรูปแบบการให้ปุ๋ยแบบทุกวัน(EI) เราจะต้องปล่อยทิ้งความเชื่อเก่าๆที่ไม่ถูกต้องที่ว่าไว้ว่าการเกิดตะไคร่บลูมนั้นมาจาก สารอาหารต่างๆ ในทางตรงกันข้าม ก็จะเห็นได้ว่าการแพร่ระบาดของตะไคร่นั้น เป็นผลมาจากการที่ไม่มีสารอาหารเพียงพอในน้ำร่วมกับรายการปัจจัยสาเหตุข้างต้นซะมากกว่า
คัดลอกบางส่วนจาก
http://www.ukaps.org/EI.htm
ผิดพลาดประการได วานบอกด้วยนะครับ
|