ร้านกาแฟ

[ปาป้าซีซ่าร์ *0*]

คือเมื่อปี 52 อาม่าผมอยู่ๆก็ซื้อเครื่องกรองน้ำของ บ. เธีxรสุรัด ยี่ห้อ safอี น่ะครับ มาซะเฉยๆ
(เมื่อก่อนผมซื้อน้ำจากข้างบ้านครับเค้าทำโรงงานน้ำขวด แต่ทีนี้เลิกกิจการไปเปิดร้านเนตแทน)
อยู่ๆเค้าก็มาติดตั้งให้ซะงั้นบอกว่าอาม่าซื้อแล้ว
ผมก็อือๆ ออๆ ก็ใช้ๆไปๆมาๆก็สองปีแล้ว กินมั่งใส่ตู้ปลามั่ง

พอมาวันนี้เซลล์เค้าก็มาอีก อาม่า พามาดูเหมือนเดิม (ไม่รู้พวกนี้เค้าเล็งคนแก่ๆไว้รึเปล่า)
เค้าก็มาถอดไส้กรองดู แล้วก็แบบ มันต้องเปลี่ยนแล้วนะ ถ้าเปลี่ยนตัวนี้ทั้งชุดก็ 2500 เปลี่ยนทุกๆสองปี
แต่เค้าแนะนำว่าถ้าซื้อรุ่นใหม่เลยก็ 6500 ทีนี้ไส้กรองก็ไม่ต้องเปลี่ยนแล้วเป็นไส้กรองอมตะใช้จนเหลนบวชยังได้
กรองปั๊ปออกมาเป็นน้ำแร่อีกต่างหาก  ถ้าเปลี่ยนก็เปลี่ยนแค่ตัวพรีฟิลเตอร์ 260 บาท สองปีสี่ปีค่อยเปลี่ยนก็ได้

ผมก็คิดอยู่ในใจนะ ว่าไอ้นี่โม้ป่าววะ ก็เลยขอเบอไว้แล้วเอายังไงเดี๋ยวติดต่อไป
แม่งก็ตื๊อจัง แบบติดอะไรเหรอ ผ่อนก็ได้นะ นึกว่าจะซื้อแล้วนะเนี่ย
ผมก็แบบ เฮ้ย ขอเวลาผมคิดมั่งดิ เดี๋ยวจะโทรไปว่าเอาไง

สรุป คือผมว่าจะซื้อใหม่ยี่ห้ออื่นดีกว่า เกลียดเซลล์มันขี้ตื๊อ ไม่เคารพความเห็นลูกค้า กุบอกขอคิดก่อนก็ไม่ได้

เลยอยากถามความเห็นจากทุกท่านหน่อยน่ะครับ

ปกติเครื่องกรองมันราคาสักเท่าไหร่กัน เปลี่ยนไส้สักครั้งละเท่าไหร่ อยากทราบราคาเฉลี่ยน่ะครับ
แล้วใช้ยี่ห้อไหนกันบ้างครับ
หรือท่านใดพอจะมีความรู้เรื่องเครื่องกรองน้ำบ้างก็ช่วยแชร์เป็นวิทยาทานหน่อยนะครับ

ขอบพระคุณมากครับ

[jiggalo จำหน่ายเครื่องกรองน้ำ]

คือพอดีขายเครื่องกรองน้ำอยู่เหมือนกัน ขายสงน้ำดื่มบรรจุขวด และเคยผลิตน้ำพร้อมทั้งเป็นผู้ดูแลบำรุงรักษาเครื่องกรองน้ำของโรงงาน ด้วย  พอรู้จักเครื่องกรองน้ำของบ.นี้อยู่บ้างน่ะค่ะ แต่พูดอะไรมากไปมันก็ไม่ดี เพราะคนอาชีพเดียวกัน เอาเป็นว่าเครื่องกรองน้ำที่ใช้ยาวโดยไม่ต้องเปลี่ยนไส้กรองเลย ลองคิดถึงผ้าที่เราเอามาเช็ดสิ่งสกปรกเอาละกัน เช็ดทุกวัน ไม่ซักไม่ล้าง ไม่เปลี่ยน มันจะสะอาดหรอคะ แถมเราต้องดื่มน้ำที่ผ่านเครื่องกรองนี้เข้าสู่ร่างกายเรานะคะ จะเสี่ยงหรอ ขนาดโรงงานผลิตน้ำดื่มยังไม่ทำแบบนี้กันเลยน่ะค่ะ 
ที่จริงเครื่องกรองน้ำส่วนมากจะมาจากแหล่งเดียวกันแล้วแต่ว่าบริษัทไหนจะไปติดยี่ห้ออะไร ฉลาดหน่อยก็ออกแบบผลิตภัณฑ์เป็นรูปแบบเฉพาะของตัวเองถึงเวลาบำรุงรักษาก็ต้องซื้อกะบริษัทเค้าเท่านั้น

อยากให้ดูที่ความจำเป็นมากกว่าว่าต้องการเครื่องกรองน้ำเพื่อไปบำบัดอะไร ก็เลือกเครื่องกรองที่มีสารกรองรองรับให้เหมาะสม และควรต้องดูแหล่งน้ำที่บ้านด้วย เช่น ตจว. น้ำมีปัญหาอะไรมากเป็นพิเศษ อย่าดูยี่ห้อเป็นหลัก คุณจะได้ของแพง แต่รูปลักษณ์สวย ไม่คุ้มค่าเงินที่เสียไป เพราะบางทีก็กรองน้ำได้ไม่สะอาดเพียงพอ เช่นกำจัดกลิ่นได้ แต่กำจัดหินปูนให้ไม่ได้ เครื่องกรองน้ำที่ติดแล้วติดเลย ไม่เปลี่ยนสารกรองตามอายุ ก็เท่ากับสะสมเชื้อโรคและสิ่งสกปรก ให้เรากินดีๆนี่เอง ( ไม่เชื่อดูกรองตู้ปลาเอาก็แล้วกัน [on_008])

[กะทิ]

เอาง่ายๆนะครับ
ประมาณว่า
ไส้กรองที่ผลิตจากวัสดุต่างๆ ยกตัวอย่าง 2 ชนิด
1.ไส้กรองแบบ ceramic ใช้นานๆไปมันก็ตัน แต่ล้างได้มีความคงทนสูง ซึ่งผมคิดว่าต้องมีราคาแพง
2.ไส้กรองที่ผลิตจากเส้นใย มันก็เหมือนกับใยแก้วที่เรากรองขี้ปลานี่หละครับ เพียงแต่ละเอียดกว่า ตันและมีอายุการใช้งาน จะล้างมันก็จะเปื่อยยุ่ย มันไม่คุ้มกับที่ล้าง ล้างมาคุณภาพก็ดรอปลง เปลี่ยนโลด

ถ้ามีขนาด pore size ที่เล็กมาก ก็สามารถที่จะกรองเอาแร่ธาตุออกไปได้ เหมือนน้ำกลั่นเลยครับ (ต้องใช้ปั๊ม ปั๊มน้ำผ่าน filter เพราะแรงโน้มถ่วงของโลกหรือการแพร่ของน้ำมันช้า จนถึงกับผ่านไม่ได้เลย ล้างไส้กรองโดยการปั๊มน้ำสวนทางเพื่อดันตะกอนออก)
กินแล้วก็อาจจะจับกับแร่ธาตุในร่างกาย อย่างที่เขาว่ากินน้ำกลั่นนั่นแหละครับ
จะให้มันมีแร่ธาตุเราก็ให้น้ำนี้มันผ่านตัวกลางที่มีแร่ธาตุก็ได้ครับ
ลองออกแบบระบบกรองใช้เองก็ดีนะครับ [on_026]
เรื่องราคาผมไม่รู้ลองดูจากหลายๆเจ้าแล้วเปรียบเทียบรายละเอียด เลือกตามควาเหมาะสมและความจำเป็นเลยครับ [on_055]
อีกวิธีที่ทำให้น้ำสะอาดได้ก็คือการกลั่นครับ
บ้านผมกินน้ำฝน แต่แม่ซื้อกรองอมเวรมาซึ่งผมคิดว่ามันไม่ค่อยจะจำเป็นนะ แต่ก็โอเคตรงที่มันกรองฝุ่นผงออกไปได้ครับ

[ปาป้าซีซ่าร์ *0*]

ขอบคุณสำหรับความรู้นะครับ สงสัยต้องศึกษากันอีกสักหน่อยล่ะ

[Atom]

อันดับแรกเราต้องดูว่าแถวบ้านเราน้ำมีคุณภาพอย่างไร เช่น น้ำประปาฆ่าเชื้อด้วยคลอรีนแล้ว ก็ไม่ต้องใช้เครื่องแพงมาก  แต่ถ้าเป็นน้ำบาดาลอาจต้องติดตัวกรองหยาบและ UVเพิ่มเติม

ที่ผมดูมาพวกยี่ห้อในห้างรุ่นที่เป็นท่อยาวๆห้อยลงมา 3 ท่อและมีหลอดเล็กๆตั้งข้างบน พวกนี้จะมี
-กรองกลิ่นและสี โดยใช้คาร์บอน
-ปรับสภาพน้ำให้ไม่กระด้าง โดยใช้เรซิ่น
-กรองละเอียดกำจัดแบคทีเรีย สารพิษต่างๆ โดยแต่ละยี่ห้อใช้แตกต่างกันที่เห็นใช้กันมาก คือ เซรามิก(กรองได้0.3micron) บางยี่ห้อใช้ PE (กรองได้ 0.3 micron) และอื่นๆ แต่ทำหน้าที่เหมือนกัน คือ ไว้กรองสิ่งที่ไม่พึงประสงค์จิ๋วๆ
-กรองpost carbon ทำหน้าที่คล้ายกรองคาร์บอนตัวแรกแต่มาใช้ตบท้ายกระบวนการ
-UV ฆ่าเชื้อโรค

ไม่รวม uv ในตลาดอยู่ราวๆ2000 กว่าๆ ถึง 4500 ครับ (ถ้าไปซื้อที่แหล่งและไม่สนยี่ห้อจะถูกลงกว่านี้อีกครับ)
แต่ถ้ามีUV ก็จะบวกไปราวๆ 2000 ครับ

ไส้กรองปกติเปลี่ยนที่ราว 5000 ลิตร หรือ 1ปีครับ ถ้าซื้อแบบมียี่ห้อก็ราวๆ 1000-2500 แต่ถ้าไม่เอายี่ห้อก็ไม่ถึงพันครับ (ไม่รวม UV)


ปล. เซลล์ที่มาขายผมว่าฟ้อง สคบ. เลยดีไหมครับ โม้กันเห็นๆหากินกับคนสูงอายุ
      ผมลองดูพวกยี่ห้อแพงๆบางยี่ห้อ(เป็นหมื่น)ไส้กรองเท่าเครื่องสามพันเลยครับ
      ไส้กรองเซรามิกไม่แพงครับ พวกเมมเบรนแพงกว่าครับ
      พยายามอย่าซื้อไส้กรองที่เป็นเส้นใยหยาบครับเพราะเปลี่ยนบ่อย

[~][Natto][~]

ผมไม่ได้แทรกแซงเรื่องการค้าของใครนะครับ แต่ที่บ้านผมใช้อยู่แค่ 2 ยี่ห้อ แล้วใช้ดีมากๆ
ตัวแรกของ amway : แพงสมชื่อ คุณภาพสมราคา ครับ ถ้าบ้านมีตังค์มากหน่อยใช้ของบริษัทนี้เลยไม่ผิดหวังแน่นอน
ตัวที่สองของ mazuma : การใช้งานดีมาก แต่ตัวนี้ผมไม่ชอบเรื่องการบริการหลังการขายเลย ห่วยแตกมาก

[Atom]

ผมพึ่งซื้อ mazuma มาอ่่ะครับ อึ๋ย