เลยออกตามหา หินที่ว่าใช่...ใครเราที่รอ
เพราะกว่าจะเจอครบทั้งจำนวนและลักษณะหินตามที่คิด ก็เกือบถอดใจ
หินชุดนี้ผมเริ่มหาตามจากหน้าปากซอยบ้าน...ตลาดนัดJJ...อ่างทอง...เชียงใหม่...เรื่อยเปื่อยไปเจออยู่ไกลถึงแถบสแกนดิเนเวีย
มาครับ....เรามาตั้งตู้ใหม่กันดีฝ่า dan01 dan01 dan01
ขั้นแรกสิ่งที่ต้องมีก็คือ ... ตู้ ... เล็กใหญ่ ตามกำลัง

สิ่งต่อไปก็คือ...วัสดุปลูกครับ จะใช้กรวดแม่น้ำ ดินภูเขาไฟ หินดาวอังคาร อะไรก็ได้ ตามกำลัง

ขั้นต่อไป... ปูวัสดุรองพื้น จะเป็น หินพิมมัส ดินบัว หรือจะเป็น กระจกพื้นตู้เลย ก็ได้ ตามกำลัง
เกลี่ยให้เรียบๆ ไม่ต้องโรยมาจนถึงหน้าตู้ เดี๋ยวคนอื่นรู้หมดว่าเรารองพื้นด้วยอะไร
เหมือนกกน. ใส่ไว้ภูมิใจคนเดียวพอ ไม่ใส่ก็ไม่มีใครรู้

เอาตาข่ายวางทับหน่อย ต่อไปเวลาถอนต้นไม้รากมันจะได้ไม่ดึงวัสดุรองพื้นขึ้นมาข้างบน เหมือนคนใส่กกน.ปลิ้นออกมาข้างนอก

เอากระดาษกาวตัดตามยาวสี่เส้น แปะกับหน้าตู้ เพื่อแบ่งตู้ออกเป็นห้าส่วนเท่าๆกัน
เพราะโดยคร่าวๆแล้ว เส้นที่สอง หรือ เส้นที่สาม จะอยู่ใกล้เคียงกับจุด Golden Ratio 1: 1.618 เวลาเทดินให้ลาดจากหลังมาหน้าตู้ จะได้คะเนได้ง่ายๆว่าจะวางจุดสูงของวัสดุปลูก หรือจุดเด่นของเลย์เอาท์ไว้ตรงไหน อันนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวกับกกน.

ตู้นี้ผมจะพยายามวางหินตามหลัก iwagumi แบบอิวากูมั่ว โดยแบ่งหินออกเป็นสองฝั่ง ให้ฝั่งซ้ายกินพื้นที่เกือบๆสามส่วน ฝั่งขวากินพื้นที่สองส่วน เป็นสัดส่วน สามต่อสอง จะเห็นว่าเส้นที่เราแปะไว้ช่วยเราได้มาก

นั่งมองกลุ่มหินที่วางไว้กับดินแห้งๆนี้อยู่สามวัน มองทุกวัน จนเห็นว่ามีหินบางก้อนขี้เหร่เกินไป ลองสังเกตดีๆจะหินว่ามีหินบางก้อนโดนเปลี่ยนตัวแสดง
และยิ่งพอไปฟังลุงอามาโน่ แกพูดถึงเทรนด์ที่กำลังร้องแรงอยู่ในตอนนี้คือ หินผสมไม้ คนที่คิดอะไรไม่ค่อยออกอย่างผม จึงรีบเอาตามทันที :bor02: ออกมาเพี้ยนๆแบบนี้

ใช้ไม้ลูกชิ้น หมูปิ้ง ไก่ย่าง ที่เค้าทิ้งๆแล้ว เอามาปักๆลงไปเพื่อกำหนดขอบเขตของพรรณไม้แต่ละชนิดว่า จะปลูกกินเนื้อที่เท่าไหน และปลูกเป็นรูปอะไร
ปักๆๆๆ มันลงไป evi01

ต่อการนั้น ก็ลงมือปลูก ... ปลูกมันแห้งๆแบบนี้แหละ ก่อนปลูกอาจจะเอาที่ฉีดน้ำ ฉีดๆๆๆลงไปบนดินหน่อยพอให้ชื้นๆ
ระหว่างที่ปลูก ควรมือลูกมือแผนกฉีดๆๆๆ น้ำลงบนพรรณไม้ที่เราปลูกลงไปแล้ว ไม่งั้นอาจได้ไม้น้ำอบแห้ง
แล้วจะพบว่าการปลูกต้นไม้แบบแห้งนี้ ช่วยให้ปักได้ง่ายมาก และมันยังมีข้อดีอีกอย่าง เดี๋ยวจะบอก
ห้าชม.ผ่านไป ปลูกเสร็จ คราวนี้ก็เทน้ำลงตู้ แนะนำให้เทลงบนหิน เพื่อให้หินรับแรงน้ำ ปล่อยให้น้ำค่อยท่วมดินขึ้นมาเอง ช้าๆๆ.... แบบนี้สโลปของดินแทบจะไม่มีการยุบตัวเลย
แล้วพอน้ำเต็มตู้ เราจะพบข้อดีอีกอย่างของการปลูกแบบแห้ง นั่นคือ น้ำใสโครตตต แทบจะไม่มีตะกอน สารแขวนลอยอะไรในน้ำเลย เพราะเราไม่ได้ปักต้นไม้ในน้ำซึ่งก็เหมือนเราไปคุ้ยดินนั่นเอง
ที่เห็นยังมีความขุ่นนิดๆ เพราะพอรันระบบกรอง มันพ่นเอาเศษของวัสดุกรองออกมาจนทำให้น้ำข่นนิดๆอย่างที่เห็น
แต่ทว่า...........
ขอนครับ... ขอนอันกลางมันไม่รักดี ดันลอยขึ้นมา เลยเอาไปแยกแช่น้ำไว้
เอาไว้ขอนอันกลางจมเมื่อไหร่และได้พรรณไม้ครบชนิดและจำนวนที่ต้องการ จะถ่ายรูปตอนเลย์เอาท์ครบๆกว่านี้มาให้ดูกันนะครับ











