บทความ:Staurogyne sp.repens ไฮโกรปลายมน ไฮโกรใบกลม "ไม้หน้าตู้สุดคลาสสิค"

Staurogyne sp. repens "ไฮโกรปลายมน ไฮโกรใบกลม" ไม้หน้าตู้สุดคลาสสิค
ตั้งแต่ผมเริ่มเล่นไม้น้ำ ชื่อ Staurogyne sp. repens คำถามแรกเลยคือ อ่านยังไง? สะ-เตา-โร-จีน หรือ สะ-เตาโร-เจี่ย(อันนี้ออกแนวจีนๆแฮะ)
คงด้วยนิสัยคนไทยที่ทำ ~~เรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก~~ เรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย Staurogyne sp. repens ชื่อเรียกจึงเปลี่ยนเป็น "ไฮโกรปลายมน ไฮโกรใบกลม ไฮโกรปลายใบมน" ตามที่เข้าใจในตลาดซื้อขายกันไปเสียแล้ว

Staurogyne sp. repensไฮโกรปลายมน VS Hygrophila ไม้น้ำตระกูลไฮโกรฟิลา(plant)แท้จริง เกี่ยวข้องกัน เหมือนกัน คล้ายกัน หรือแตกต่าง?
ความสัมพันธ์ของ ทั้งคู่เปรียบกันไปตาม Taxonomy พูดภาษาชาวบ้านคือ อยู่ในนามสกุลหรือตระกูลเดียวกัน บ้านเดียวกัน คือ family Acanthaceae (or Acanthus family) แต่ไม่จะเป็นต้องรู้จักกัน เพราะลูกของตระกูล Acanthaceae มีญาติพี่น้องรวมกันกว่า 246 genera ความสัมพันธ์จึงลงเอยว่าเป็นญาติห่างๆ

สิ่งที่เหมือนกันคงจะเป็นที่ เป็นพืชมีดอก อยู่ในกลุ่มของใบที่มักมีการสะสมของหินปูนในใบมองเห็นเป็นเส้นขีดสีสว่าง และยังมี DNAคล้ายกัน

สิ่งที่ทำให้ Staurogyne sp. repens VS Hygrophila แตกต่างกันอย่างชัดเจนที่สุดคือ ลักษณะของใบ ทรงพุ่ม
โดนทั่วไปเรามักจะเห็น Hygrophila เป็นใบที่มีการเรียงตัวชัดเจน การที่มีลักษณะใบเป็นรูปขนนก
ตามลักษณะของไฮโกรฟิลา ใครสนใจมีอยู่ที่นี่ครับ http://en.wikipedia.org/wiki/Hygrophila_%28plant%29

ยกตัวอย่างไม้น้ำตระกูลไฮโกรฟิลา ให้ดูลักษณะกันก็เช่น...
hygrophila difformis ดาวกระจาย

Hygrophila balsamica ดาวกระจายขนนก

Hygrophila Polysperma 'Rosanervig' ขาไก่ด่าง

Hygrophila sp. 'Pinnatafida' ไมยราพ ก็เป็นไฮโกรฟิลานะครับ เหรียญไม่กลับหัว [on_065]

แต่ในส่วนของ Staurogyne sp. มีลักษณะการเติบโตในรูปทรงพุ่มเตี้ย หนาแน่น และมีลักษณะใบเล็กสีเขียวมากกว่าไฮโกรฟิลานั่นเอง

เข้าเรื่องเลยนะครับ [on_062]
Staurogyne sp. repens

ที่มาที่ไป Staurogyne repens (Tropica No 049G)
ในปี ค.ศ.2005(พ.ศ.2549)บริษัท Tropica ยักษ์ใหญ่ ผู้รวบรวมไม้น้ำพันธุ์ใหม่ๆ (ราคาไม้น้ำก็แพงโครตๆ คริปพอตเดียวราคาร่วม 300 บาท) ได้รับกิ่งพันธุ์ไม้น้ำชนิดหนึ่งที่พบบนว่าขึ้นบนก้อนหินในแม่น้ำ Rio Cristalino จากเมืองMato Grosso (เมืองที่พบ Eriocaulon sp. 'Mato Grosso' เช่นกันใคร ใครมีขอแบ่งด้วยนะครับอยากได้มากๆๆๆๆ) ทางตอนใต้ของลุ่มน้ำอเมซอนประเทศบราซิล

สภาพที่พบในธรรมชาติ บนก้อนหินในแม่น้ำ Cristalino

ในปี 2007 ได้นำเสนอ Staurogyne sp. repens (Tropica No 049G) ที่พบ ให้มีการทดลองเลี้ยง
ในปี 2008 บุคคลแรกๆที่ได้ทดลองเลี้ยงคือคุณ George Farmer (นักเลี้ยงไม้น้ำตัวฉกาจของฝั่งยุโรปและเป็นผู้ก่อตั้งเวป http://www.ukaps.org ของอังกฤษ) หลังจากที่ได้ทดลองเลี้ยงได้ระยะหนึ่ง คุณGeorge Farmer ได้ให้ข้อเสนอแนะ และอธิบายรายละเอียดไว้ในกระทู้หนึ่งอย่างน่าสนใจ

"Tropica ได้ให้ผมช่วยทดสอบปลูกต้นไม้ใหม่ของบริษัท ที่ได้เพาะเลี้ยงไว้แล้วเมื่อปีก่อน ผมตื่นเต้นมากที่จะได้เพาะเลี้ยง ไม้น้ำกลุ่ม Staurogyne sp.ซึ่งหาได้ยาก ซึ่งเป็นโครงการล่าสุดหลังจากที่ก่อนหน้านี้ผมได้ ทดลองเพาะเลี้ยงดาวน้อย (Pogostermon belferi)
ผมคิดว่า Staurogyne sp. เหมาะมากที่จะเป็นไม้หน้าตู้ในตู้ที่มีขนาดใหญ่ และควรใช้เป็นไม้กลางตู้หรือเป็นไม้หลังตู้ในตู้ขนาดเล็ก หรือตู้นาโน(nanos<<<ฝรั่งก็เรียกตู้นาโนนะครับ)

สภาพการปลูก และความต้องการของ Staurogyne sp. เป็นไม้ที่ดูแลไม่ยาก ผมทดลองปลูกในตู้แสงกลาง ไม่มี CO2 และในตู้ที่แสงแรง(1.58 WPL) CO2 30 ppm ใส่ปุ๋ย NPK ทุกวัน
ในสภาพการเลี้ยงที่ทดสอบพบว่าอัตราการเติบโตของ Staurogyne sp. ค่อนข้างช้า ถึงแม้จะอัดไฟอัดปุ๋ย ผมว่ามันเหมาะสำหรับตู้ที่มีเลย์เอาท์ที่ใช้เวลาตั้งนานที่ตะไคร่จะไม่มากเมื่อไม้ในตู้แน่นแล้ว(คงหมายถึงตู้ที่เลี้ยงรากดำ หวีดจิ๋วอะไรแบบนี้ ที่พอแน่นแล้วตะไคร่ก็น้อยลงไปเอง)

ทดสอบโดยการใช้ดินปลูกไม้น้ำโดยเฉพาะ จะเติบโตได้ดีกว่า(กรวด)มาก ดินที่เหมาะที่สุดคือดิน ada(ฟกฟ)

ผมคิดว่าเป็นไม้น้ำที่จะน่าสนใจชนิดหนึ่งในวงการไม้น้ำเลยทีเดียว(เห็นจะจริงเพราะพี่ท่าน review ไว้3ปีแล้ว ปัจจุบันไม้หน้าตู้ ก็มีน้อยชนิดเสียเหลือเกิน [on_051])
Staurogyne sp. สามารถปรับใช้กับเลย์เอาท์ได้หลายรูปแบบ ผมจะใช้มันในการประกวดของ ada ด้วยล่ะ [on_066]

ภาพบางส่วนจากตู้ของ George Farmer เมื่อ 3 ปีก่อน

Anti-Pjerrot mod ของเวป http://www.aquascapingworld.com ได้ review ไว้เช่นกัน
"Staurogyne sp. สามารถเลื้อยไปกับก้นตู้ โดยมี stemlike rhizome (Not a true rhizome)และ มีรากที่ออกจากข้อ และทุกข้อที่มีรากก็มีกิ่งงอกขึ้นอีก การโตของมันดูคล้ายกับ อนูเบียส และดาวน้อยมาก แต่ Staurogyne sp. สามารถปรับใช้กับตู้ไม้น้ำได้หลากหลายกว่า อีกทั้งเติบโตได้ดีในดินไม้น้ำมากกว่ากรวด ในสภาวะที่ให้ปุ๋ยน้ำพอๆกัน"

มุมมองของ Tropica กันบ้าง

รู้จัก Staurogyne repens จากต้นฉบับ(เวป tropica http://www.tropica.com/advising/plant-articles/staurogyne-repens.aspx)
Staurogyne repens เป็นไม้น้ำที่มีสีเขียวสด มีลำต้นสีน้ำตาลแข็ง ใบมีลักษณะเล็กกว่าไม้น้ำกลุ่ม Hygrophila genus การเจริญเติบโตที่ช้ากว่า Hygrophila มาก ในตลาดไม้น้ำ Hygrophila มักจำหน่ายเป็นกิ่ง แต่ Starogyne repens มักจำหน่ายเป็นพุ่มที่เกิดจากกิ่งเดียวกัน

การใช้ Staurogyne repens มักใช้เป็นไม้หน้าตู้ และไม้กลางตู้ ซึ่งต่างจากกลุ่มไฮโกรฟิลาที่เหมาะกับการเป็นไม้หลังตู้มากกว่า

การปลูก กิ่งที่สูงที่สุดควรตัดออก แบ่งเป็น 2-4 ส่วน(หมายถึงติดข้อมาด้วยนะครับ asspain)แล้วลง ปลูกเป็นกลุ่มแน่น ใบบกมักละลายไปทั้งหมด ซึ่งสามารถตัดแต่งออกได้ภายหลังการปลูก การใช้เป็นไม้หน้าตู้นั้นหลังจากการปลูกควรมีการตัดแต่งให้เป็นพุ่มเตี้ยอยู่เสมอจะทำให้แตกกิ่งใหม่ดูแน่นขึ้น

การปลูกร่วมกับไม้ที่มีสีเหลือง อ่อนพวกเพิลหวีดจิ๋ว หญ้ากระดาษจะทำให้พื้นตู้ดูกลมกลืนเป็นธรรมชาติขึ้น

Staurogyne repens เป็นไม้น้ำที่ทน ต้องการแสงปานกลาง-แรง และต้องการเลี้ยงในสภาวะที่เติม CO2 และมีการฝังปุ๋ย ปุ๋ยน้ำ หลังจากการปลูกควรมีการตัดแต่งยอดทุก 1 เดือน หลังจากไม้ตั้งตัวได้แล้วควรตัดยอดใหม่ทุกสัปดาห์ (เพิ่มเติม อย่าทิ้ง แล้วนำมาขายในเวปถูกๆ หน่อย [on_026])

สภาพ การเลี้ยง Staurogyne repens ในน้ำ
Family:    Acanthaceae
Origin:    Brazil
Height:    3 cm - 10 cm
Width:    5 cm - 10 cm
Temperature:    20 - 28° C
pH:    6 - 8
GH: 4-30dH

สภาพ การเลี้ยง Staurogyne repens บก
อุณหภูมิ 25-27 องศาเซลเซียส
ความชื้น: 75-85% พ่นละอองน้ำ 15 นาทีวันละสองครั้ง
วัสดุปลูก: ADA Amazonia I

ทดลองปลูกต้นบกในดิน ปนโคลน

เที่ยวฟาร์ม Staurogyne repens ขอสงวนชื่อฟาร์มครับ

กี่กิ่ง กี่บาท กันเนี่ย[mo_001]

ปลูก-ตัด-โต http://www.bcaquaria.com/forum/aquaflora-nurseries-53/staurogyne-repens-3984/

เทคนิคปลูกง่ายๆจากผู้เขียน

ตัวนี้ขอมีข้อติด 1-2 ข้อ ตั้งตรงแตะดินได้รากขาวๆก็ติดเพียบเลยครับ
ตอนปักถ้าสั้นมาก ให้ริดใบออก1-4ส่วน สักข้อนึง จะเป็นเหมือนสมอบก จะปักลงวัสดุปลูกได้ง่าย
โตได้ทุกสภาพ มี-ไม่มี CO2 แสงแรงใบจะบางสีอ่อน แสงน้อยใบจะใหญ่สีเขียวเข้ม
การตัดแต่ละครั้งจะแตกกิ่งใหม่จากข้อบนสุดที่ตัดมากกว่า 2 กิ่งขึ้นไป ทำให้แน่นไว อยากให้ติดพื้น เลี้ยงจนรากเดินดีแล้ว 2 สัปดาห์ขึ้นไป ตัดชิดดินไปเลยครับ

ขอบคุณที่สนใจบทความนะครับ และทุกคนที่กด+ให้ครับ [mo_001]
เครดิต
http://www.ukaps.org/about.htm
http://www.aquascapingworld.com/magazine/August-2008/August-2008/Aquascaping-with-George-Farmer.html
http://www.aquascapingworld.com/forum/aquatic-plants/543-new-plant-hobby-staurogyne-sp.html
http://www.tropica.com/advising/plant-articles/staurogyne-repens.aspx

แก้คำผิด หัวข้อ เนื้อหา 19.6.54