Aqua.c1ub.net
*
  Wed 01/Oct/2025
หน้า: 1   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: แปลบทความเรื่อง Mything the Point ของ Eric Borneman  (อ่าน 5608 ครั้ง)
T777 ออฟไลน์
Club Brother
« เมื่อ: 25/02/11, [18:36:34] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ที่เลือกแปลส่วนที่ 2 เพราะผมเห็นเนื้อหาที่น่าสนใจ แต่เนื่องจากไม่มีความรู้ด้านชีววิทยาและความรู้ด้านตู้ทะเล อาจมีการทับศัพท์บ้าง หรืออาจสื่อความหมายได้ไม่ดี หากแปลผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยมา ณ ทีนี้ด้วยครับ

Coralmania with Eric Borneman
Mything the Point: Part Two


Link ของบทความ   http://reefkeeping.com/issues/2003-12/eb/index.php

ในบทความที่แล้ว ผมได้เริ่มอธิบายลงลึกถึงส่วนที่เป็นเรื่องเล่าขาน และความเข้าใจที่คลาดคลื่อนในงานตู้ทะเล บทความชิ้นนั้นรวมทั้งบทปัจจุบันล้วนเป็นบทบรรยายที่ผมเคยได้ให้ไว้ในงานประชุมวิชาการ 2003 International Marine Aquarium ในชิคาโก และ ณ ที่นี้ ผมจะเข้าสู่ประเด็นในหัวข้อที่ยังเป็นเรื่องเล่าขานอื่นๆที่ยังขาดข้อมูลยืนยันหรือหลักฐานอ้างอิง ซึ่งความเชื่องมงายทั้งหลายเหล่านี้จะต้องถูกกำจัดให้หมดไป เพื่อความก้าวหน้าในงานตู้ทะเลและสาขาที่เกี่ยวข้องจะบังเกิดขึ้น

เรื่องเล่าขานที่ 7: ปูขนเป็นสิ่งไม่ดี (มันกินปะการัง) เราควรเอามันออก

เส้นขนหรือหนวดของปูขนเป็นอวัยวะที่ใช้รับรู้ทั้งด้านการสัมผัสและจากสารเคมี โดยมีพฤติกรรมเป็นตัวกำหนดลักษณะ ตั้งแต่การกินถึงการป้องกันตัวตลอดจนถึงการเคลื่อนไหว ปูที่มีขนแข็งที่เรียก setae ตรงบริเวณอวัยวะที่ใช้กิน ซึ่งปรกติขนเหล่านี้มักจะถูกใช้เป็นอุปกรณ์ในการกรองหรือเป็นแปรง และปูลักษณะนี้ก็เป็นหนึ่งในหลายชนิดที่อาศัยอยู่ร่วมกับปะการัง ปูที่คล้ายกันแต่ไร้ขนที่กินพืชเป็นอาหารเช่น Mithrax จะกินปะการัง (แต่ชนิดอื่นอย่าง Portunids ก็จะกินปลาเป็นอาหาร) ปูที่มีขนรุงรังอาจไม่แตะปะการังเลยด้วยซ้ำแต่กลับเป็นพวกกินซากสัตว์เป็นอาหาร ด้วยเหตุนี้เราจึงควรเฝ้าสังเกตปูให้ดีว่ามันกินหรือไม่กินอะไร แต่จากประสบการณ์ผมแล้ว ปูที่พบบริเวณแนวปะการังส่วนใหญ่จะอยู่ด้วยกันได้และไม่ค่อยเป็นนักล่า

Potential: ไม่ค่อยอันตราย, ปูกลายเป็นเยื่อของความเข้าใจผิด หลักฐานหลายอย่างได้บ่งชี้ว่าปูปะการังจะเอื้อประโยชน์ต่อปะการัง ถึงแม้จะมีความแคลงใจอยู่บ้างกับการเลี้ยงไว้ในตู้

Distribution: แพร่หลาย, ผมเคยได้ยินสิ่งเหล่านี้ซ้ำๆตั้งแต่ผมเริ่มตั้งตู้






Figure 1 & 2. Two hairy crabs from the family Pilumnidae that are commensal with Pocillopora corals.
Click picture for larger image.

เรื่องเล่าขานที่ 8: The statement, “คุณภาพน้ำอยู่ในสภาพดี”

บทความจนถึงข้อคิดเห็นใน Reef Central ของ Reef Chemistry forum คุณ Randy Holmes-Farley ได้ให้ข้อมูลที่น่าสนใจมากมายเกี่ยวกับลักษณะของเคมีในตู้ทะเล ส่วนคุณ Ron Shimek และท่านอื่นก็ให้ข้อมูลอีกหลากหลายคลอบคลุมถึงเรื่องเคมีและชีวเคมีตลอดระยะเวลามากกว่า 10 ปี ซึ่งในปัจุบันมีเพียงเคมีในตู้ทะเลไม่กี่ตัวที่ได้รับการพูดถึงกัน และวิธีการวัดค่าเคมีในน้ำเหล่านั้นอย่างถูกต้องก็ยังทำได้ไม่ดี

ประเด็นผมคือ คนเลิ้ยงปลาทะเลมักตรวจค่าน้ำด้วยอุปกรณ์ต่างเพื่อจะได้บอกว่า “คุณภาพน้ำในตู้อยู่ในสภาพดี” อย่างที่เคยบอกครับว่า มันเป็นการยากที่จะแน่ใจว่าคำพูดเหล่านั้นเชื่อถือได้ และข้อมูลล้าสุดก็มองถึงเรื่องเคมีซึ่งมีพิษซับซ้อนจากสายพันธ์ ที่รวมทั้งโลหะเคมี และชีวะโลหะเคมี (organometallics) จึงยืนยันได้ว่ามันยังมีเหตุผลอื่นอีกที่ต้องคำนึงถึงว่าน้ำในตู้มีคุณภาพจริง ทั้งๆที่มีการตรวจค่าน้ำสม่ำเสมอ

เพื่อลงลึกในประเด็นนี้ ทุกท่านที่มีตู้ทะเลต้องคิดถึงอินทรีย์เคมีจากสิ่งมีชีวิตในตู้ที่เรียกว่า secondary metabolites ส่วนตัวแล้วผมดีใจกับคำว่า allelopathy ที่กลายเป็นคำธรรมดาซึ่งพูดกันในหมู่นักเลี้ยงปลาทะเลแต่ก็เป็นกังวลกับคำนี้ เพราะมันเป็นการยากที่จะอธิบายถึงสารเคมีในทะเลจากกระบวนการ metabolism ซึ่งสิ่งมีชีวิตทุกตัวในตู้ปลาทะเลล้วนมีมัน สร้างมัน และปล่อยมันออกมา ซึ่งเคมีจำพวกนี้ส่งผลต่อสภาพน้ำมากและบางครั้งก็กระทบรุนแรงต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งงานสัมมนา หนังสือ และงานวารสารต่างๆล้วนกล่าวถึง และผมได้นำเสนอวารสาร Journal of Natural Productsให้แก่ผู้อ่าน เกี่ยวกับหัวข้อนี้ ซึ่งในแต่ละประเด็นจะประกอบด้วยเอกสารหลายร้อยหน้าเกี่ยวกับ metabolites จากธรรมชาติ และบางประเด็นยังอธิบายถึงผลกระทบจากสารเหล่านี้ ซึ่งในหัวข้อมีสารเคมีประมาณ 20-50% มาจากสิ่งชีวิตในทะเล และส่วนใหญ่เป็นสิ่งมีชีวิตจากเขตร้อน


Novel Oxylipin Metabolites from the Brown Alga Eisenia bicyclis
Isolation and Structure Determination of Lyngbyastatin 3, a Lyngbyastatin 1 Homologue from the Marine Cyanobacterium Lyngbya majuscula. Determination of the Configuration of the 4-Amino-2,2-dimethyl-3-oxopentanoic Acid Unit in Majusculamide C, Dolastatin 12, Lyngbyastatin 1, and Lyngbyastatin 3 from Cyanobacteria
Semiplenamides A-G, Fatty Acid Amides from a Papua New Guinea Collection of the Marine Cyanobacterium Lyngbya semiplena
Komodoquinone A, a Novel Neuritogenic Anthracycline, from Marine Streptomyces sp. KS3
Placidenes C-F, Novel -Pyrone Propionates from the Mediterranean Sacoglossan Placida dendritica
Plakortides M and N, Bioactive Polyketide Endoperoxides from the Caribbean Marine Sponge Plakortis halichondrioides.
New Polyhydroxy Sterols: Proteasome Inhibitors from a Marine Sponge Acanthodendrilla sp.
New Brominated Labdane Diterpenes from the Red Alga Laurencia obtusa
Briaexcavatolides S-V, Four New Briaranes from a Formosan Gorgonian Briareum excavatum
The Synthesis of SO-3, a Conopeptide with High Analgesic Activity Derived from Conus striatus
New Cembrane Diterpenes of the Marine Octocoral Eunicea tourniforti from the Eastern Caribbean
Isolation and Structure Determination of an Antimicrobial Ester from a Marine Sediment-Derived Bacterium
Identification of New Okadaic Acid Derivatives from Laboratory Cultures of Prorocentrum lima


ใครจะคิดได้ถึงความคุ้มค่า 20 ปีของการทำงานวิจัยลักษณะนี้ ในบทความของ 2 ประเด็นหลัง พวกเราจะเห็นถึงสารเคมีจากฟองน้ำ, ปะการังอ่อน, จุลชีพพวก (dinoflagellates), แบคทีเรีย, สาหร่าย, แบคทีเรียพวก(cyanobacteria) และสัตว์ทะเลตระกูลหอย ซึ่งเราพบว่าบางสายพันธ์ของฟองน้ำ สาหร่าย และปะการังอ่อน สามารถแยกองค์ประกอบเคมีออกมามากกว่า 40 รายการ

การที่เราเรียกพวกมันว่า “secondary metabolites” เนื่องจากในหลายกรณีองค์ประกอบเคมีเหล่านี้ไม่มีหน้าที่ใดๆในระบบกระบวนการเผาผลาญ แต่ก็มีเคมีหลายตัวที่ส่งผลมากมายต่อสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นที่อาจทำให้ถึงตาย เคมีบางตัวก็อาจไม่ส่งผลใดๆต่อสิ่งมีชีวิตอื่น และบางตัวก็ส่งผลแบบไม่เจตนา แต่บางเคมีก็จะส่งผลต่อสายพันธ์เฉพาะ ซึ่งเรามีข้อมูลน้อยมากเกี่ยวชีวะเคมีเหล่านี้ในทะเล และน้อยกว่ามากๆในตู้ทะเล ท้ายสุดนี้ปริมาณน้ำในตู้ทะเลที่น้อยจะมีผลต่อความเข้มข้นของเคมีเหล่านี้ โปรดดูตัวอย่างเรื่องเกี่ยวกับ secondary metabolites chemistry ใน boxes ด้านล่างซึ่งผมได้การบรรยายในหลายปี

ผมลังเลที่จะใช้ถอยแถลงการเพื่อแจ้งเตือน เพราะสิ่งที่ยังไม่เข้าใจนี้ย่อมเป็นเชื้อให้ตำนานความเชื่อมากขึ้น ซึ่งมันเป็นการง่ายสำหรับข้อมูลที่จะถูกนำมาอ้างเป็นเรื่องการตาย หรือความล้มเหลวของตู้ทะเล แต่อย่างไรก็ตาม เป็นความจริงที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง ที่ว่าทุกตู้ทะเลล้วนแล้วแต่กำลังผลิตสารชีวะเคมี ที่ส่วนใหญ่เรายังไม่ทราบถึงผลของมัน และอาจกำลังทำปฏิกิริยากับผู้ปล่อยเคมีตัวอื่นๆทั้งสารอินทรีย์และอนินทรีย์ซึ่งทำให้ตู้เราเป็นเหมือนซุปที่ไม่อาจคาดเดาได้

สื่อของเรื่องเล่านี้คือคำพูดที่ว่า “น้ำในตู้ฉันถูกทดสอบแล้วยังสภาพดี” สิ่งที่เราทำได้คือการเข้าใจความจริง ในความคิดเห็นและประสบการณ์ผม วิธีการที่สมเหตุผลคือการเจือจางและการดูดซับ โดยการเปลี่ยนถ่ายน้ำ การใช้ตัวกำจัดโปรตีน (Protein Skimming) และถ่านกัมมันต์ (activated carbon) ผมทราบอยู่แล้วว่าอีกหลายประเด็นอาจบังเกิดขึ้นจากการแนะนำนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับข้อมูลจากผู้แต่งที่ได้เคยกล่าวถึง

Potential: ไม่มีอันตรายจนถึงเป็นอันตรายถึงตาย ผมยังเชื่อว่าปัญหาที่ยังอธิบายไม่ได้ในการตายของสิ่งมีชีวิตในตู้ทะเลจะมาจากสาร secondary metabolites สารเคมีบางตัวเราอาจเข้าใจดีแต่ก็มีหลายตัวที่เรายังไม่เข้าใจ อย่างไรก็ตาม ความจริงที่เถียงไม่ได้อันหนึ่งคือสารเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อระบบและตู้ทะเลทุกตู้จะมีสิ่งมีชีวิตที่ผลิตสารชีวะเคมี bioactive

Distribution: แพร่หลาย ทุกวันนี้เจ้าของตู้ทั่วโลกจะใช้ชุดทดสอบเพื่อวัดค่าน้ำ 1-6 อย่างที่ชุดจะวัดได้ แต่ยังไม่มีชุดทดสอบสำหรับ 4-2 อะมิโน-2, 2-dimethyl-3-oxopentanoic acid unit in Majusculamide C, Dolastatin 12, Lyngbyastatin 1, and Lyngbyastatin 3 from Cyanobacteria ซึ่งได้ถูกค้นพบเมื่อเดือนที่แล้ว กับทุกอย่างที่เรารู้ สิ่งนี้เป็นสาเหตุของการตาย 100% ในดอกไม้ทะเล (Trachyphyllia geoffroyi) แต่ก็อีกแหละที่มันอาจจะไม่เป็นต้นเหตุก็ได้


Box 1
Some Typical Reactions Of Marine Invertebrates To Bioactive
Compounds
(Compiled from various sources)
           - Tissue hypertrophy
           - Mucus
                      - Increased secretion
                      - Change in mucosal composition
                      - Change in mucus secreting cells
           - Feeding response initiated
           - Polyp withdrawal
           - Formation of sweeper tentacles (stony/soft corals, gorgonians)
                                        Marginal tentacles (corallimorphs)
           - Formation of acrospheres
           - Change in growth pattern
           - Change in growth form/direction + or -
           - Change in nematocyst composition
           - Tissue necrosis - local or general
           - Initiation of spawning
           - Cessation of gonad development
           - Change in metabolism
           - Change in behavior (non-sessile invertebrates)
           - Increased or decreased susceptibility to disease
           - Increased or decreased growth rate and survivability
           - Increased or decreased settlement of larvae
           - Iincreased or decreased fecundity
           - Bleaching
           - Mortality

Box 2
Potential Roles of Marine Bioactive Compounds for the Producer
(Compiled from various sources)
          - Defense against predation
                     - Ichthyotoxicity
                     - Other anti-predation (mollusks, echinoderms, etc.)
                     - Foul odor
                     - Bad taste
           - Antifouling
           - Antibiotic
           - Antialgal
           - Antifungal
           - Antiviral
           - Inflammatory/Anti-inflammatory
           - Antisettlement (larvae, competitors, etc.)
           - Mediator of growth form, growth hormones
           - Phototaxis, geotaxis?
           - Discharge of nematocysts
           - Inter- and Intra-specific communication, chemotaxis
           - Immunity
           - Admittance, specificity and non-digestion of algal symbionts
           - Allelochemcials
                     - Allelopathy against allogeneics and xenogeneics, b/t and w/in taxa
                                - Stunting, necrosis, avoidance, mortality
                     - Immunological responses
           -Reproduction
                     - Planulation
                     - Mass spawning, spawning release factor?
                     - Polyp contraction/egg release
                     - Pheromones
                     - Surface brooding/mucus sheet formation
                     - Nocturnal spawning
                     - Egg buoyancy
                     - Sperm attractants
                     - Egg and planulae anti-predation
                     - Species recognition molecules
[/size]


เรื่องเล่าขานที่ 9: ยาหยด Lugol’s dips หรือที่มีขายทั่วไปสามารถใช้รักษาปะการังเป็นโรคได้

เรื่องเล่าขานที่ 10: การติดเชื้อแบคทีเรียเป็นเรื่องปรกติของตู้ทะเล

ผมเคยกล่าวถึงสิ่งที่บรรยายไว้และจะพูดสั้นๆอีกครั้ง ณ ที่นี้ว่า เราปฏิเสธไม่ได้ว่าแบคทีเรียสามารถเป็นสาเหตุของโรคในตู้ทะเลและเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ทั่วไป อย่างไรก็ตามผมก็ยังสงสัย เพราะแบคทีเรียอย่างน้อยหนึ่งสายพันธ์ที่จะไม่ยุ่งกับดอกไม้ทะเลตระกูล Euphyllia ได้แก่ Catalaphyllia jardinei และ zoanthids แต่กลับเป็นแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคในทะเล แบคทีเรียที่ว่านั้นคือสายพันธ์ Beggiatoa ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่เราเห็นได้ลักษณะเป็นเส้นใยขาว ที่บ่อยครั้งมันรวมตัวกันเป็นกระจุกเมือกเมื่อมันทวีจำนวนมากก็จะแผ่ขยายไปในที่ต่างๆ ซึ่งพวก Beggiatoa เป็นแบคทีเรียที่สามารถอยู่ได้ในพื้นที่มีและไม่มีอ๊อกซิเจน อยู่ได้ทั้งในน้ำจืด และในทะเล พวกมันสามารถอ๊อกซิไดส์ไฮโดรเจนซัลไฟด์เป็นพลังงานในสถานที่ที่มีอ๊อกซิเจนต่ำมาก โดยเจริญเติบโตได้ด้วยการใช้สารอะซิทิท (กรดน้ำส้ม กรดอะซีทิค) เป็นแหล่งคาร์บอน และบางกลุ่มก็สามารถใช้คาร์บอนไดอ๊อกไซค์ได้ด้วย จุลชีพพวกนี้พบได้ทั่วไปในตะกอน บนพื้นผิวชั้นดิน และบนปะการัง พวกมันทำหน้าที่ผลิตสารอาหารและเรากำจัดมันไม่ได้ และเป็นความจริงที่ว่าดอกไม้ทะเลก็อาจติดโรคแบคทีเรีย Beggiatoa แต่เราต้องพิจารณาถึงปัจจัยที่เป็นสาเหตุที่แท้จริงซึ่งทำให้ดอกไม้ทะเลติดเชื้อนี้

แบคทีเรียสายพันธ์ Vibrio พบว่าเป็นอีกกลุ่มซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคในตู้ทะเล Vibrioส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณผิวปะการังซึ่งอาจทำให้เกิดโรค แต่สภาวะที่ทำให้มันเกิดโรคได้นั้นยังเป็นที่ไม่เข้าใจ ยิ่งกว่านั้นยังไม่เคยพบว่ากรณีใดที่มันสาเหตุของโรคในตู้ทะเล

ถึงแม้ว่าแบคทีเรียจะเป็นปัญหาหนึ่งสำหรับตู้ทะเล การสังเกตแยกแยะร่องรอยการติดเชื้อจากแบคทีเรียก็เป็นสิ่งที่ทำได้ยากมาก ดังนั้นการหาทางรักษาให้ถูกวิธีก็เป็นไปได้ยาก เช่นการเสื่อมโทรมลงของดอกไม้ทะเลอาจเป็นเพราะแสงไม่พอ น้ำไหลไม่ดี พิษในน้ำ หรือแบคทีเรีย บางครั้งคุณก็หาคำตอบไม่ได้

ถ้าเป็นกรณีติดเชื้อแล้วทำไมเราไม่ใช้ยาปฏิชีวนะหรือยาฆ่าเชื้อจัดการ คำตอบคือ ทั้งดอกไม้ทะเลและแบคทีเรียดีปรกติจะผลิตสารปฏิชีวนะบนผิวของมันเอง ซึ่งเป็นกลไกทางธรรมชาติ ดังนั้นทุกสิ่งที่ฆ่าแบคทีเรียเลวก็ฆ่าแบคทีเรียดีไปด้วย อีกทั้งเรายังขาดข้อมูลที่ว่ายาหรือสารเคมีที่ใช้เป็นสารปฏิชีวนะกับดอกไม้ทะเล และยาบางตัวก็ค่อนข้างเป็นพิษต่อปะการังอีกด้วย (โปรดดูต่อด้านล่าง)

ในการใช้เคมีบำบัดกับมะเร็ง หลักการมันอยู่ตรงที่เราหวังว่าตัวเคมีจะฆ่าเซลล์มะเร็งมากกว่าเซลล์ดี ในกระบวนการนี้มีทั้งโอกาสประสบความสำเร็จและล้มเหลว และบางครั้งคนไข้อาจตายได้จากการรักษาวิธีนี้ จากประสบการณ์ผม การรักษาโรคในดอกไม้ทะเลกับสารที่เรายังไม่รู้ และยิ่งเป็นต้นที่เพิ่งได้มา และมันยังเครียดอยู่ แถมต้องเครียดจากการให้ยาอีก เหล่านี้อาจส่งผลให้มันตาย

จากประสบการณ์ผม สารไอโอดีนของ Lugol ค่อนข้างใช้ได้ดีกับการรักษาการติดเชื้อของวุ้นสีน้ำตาล (brown Jelly) ซึ่งเป็นการบำบัดที่ดีกับกับปะการังหลายชนิดแต่ไม่ทั้งหมด นอกจากนี้แล้วผมก็ไม่คิดว่า สารไอโอดีนของ Lugol จะใช้ได้กับการบำบัดปัญหาในด้านอื่นๆ

เรื่องเล่าขานที่ 11: โรควุ้นน้ำตาลเกิดจากเชื้อโปโตรซัว Helicostoma nonatum

บางครั้งมีการอ้างถึงเชื้อ Helicostoma notata ที่อยู่ในตระกูล Family Philasteridae of the Ciliophora ผมได้ค้นหนังสือกลุ่มเชื้อ ciliates แต่ก็ไม่เคยพบความเกี่ยวพันระหว่างเชื้อ Helicostoma กับปะการัง และไม่พบข้อมูลที่จะบอกได้ว่าการติดเชื้อวุ้นสีน้ำตาลเกิดจากเชื้อโปรโตซัวหรือ ciliates ยกเว้นแต่หนังสือและบทความของแม๊กกาซีน aquarium เยอรมันช่วงกลางยุค 1980 ซึ่งเป็นแม่แบบของความเชื่อนี้ทั่วโลก แม้กระทั่งข้อมูลที่เผยแพร่ในอินเตอร์เนตยังมีข้อมูลเกี่ยวกับ genus Helicostoma น้อยมาก ผมเคยพบข้อมูลบางส่วนที่กล่าวถึง Helicostoma ว่าเป็นพวกโมโนไทปิคที่อยู่ในกลุ่ม H.oblongum แต่ลักษณะของ H.oblangum ดูไม่ค่อยตรงกับลักษณะของ ciliates ที่ผมได้พบในวุ้นสีน้ำตาลสักเท่าไร (brown jelly) แม้แต่หนังสือวิทยาศาสตร์ของออสเตเรียก็ยังพลาดที่กล่าวอ้างว่าโรคแผ่นน้ำตาล (brown band) เกิดจาก ciliate ตัวนี้ (โดยไม่มีหลักฐานอ้างอิงใดๆ) ประเด็นของเรื่องจึงอยู่ที่ว่า ciliates ที่พบอยู่ในวุ้นน้ำตาลเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคนี้จริงหรือ ซึ่งเป็นเรื่องปรกติจะมีพวก ciliates ในทุกตัวอย่าง แล้วมีใครจะเดาได้ว่ามันเป็น ciliates ตัวไหนล่ะ สำหรับผมแล้วผมคิดว่ามันอาจเป็น Helicostoma nonatum แต่ยังไรผมก็ไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นเจ้าตัวนี้ที่เป็นสาเหตุของโรควุ้นน้ำตาลในปะการัง





Figure 3. In this photo, a brown jelly infection has begun on a Pocillopora damicornis colony.



Figure 4. A few hours later, the jelly like material has consumed the branch tips
still visible above. The outlines of the branches are still visible in this
amorphous mass of digested tissue and zooxanthellae.


สิ่งที่ผมได้ทำคือการตรวจตัวอย่างวุ้นสีน้ำตาล (brown jelly) จาก 3 ปะการัง ได้แก่ Euphyllia ancora, Pocillopora damicornis และ Plerogyra sinuosa ตัวอย่างถูกเก็บจากคนละตู้และเก็บห่างกันหลายปี และผมก็เคยเก็บตัวอย่างวุ้นสีน้ำตาลจากแนวปะการังในทะเล Caribbean ซึ่งตัวอย่างปุยเมือกลื้นสีน้ำตาลนี้มีอยู่กันดาษดื่น อย่างไรก็ตามตอนนี้ตัวอย่างชิ้นหนึ่งเก็บอยู่ที่ Registry of Coral Pathology และบทความของผู้เชียวชาญว่าด้วยโรคในปะการังอย่างคุณ Esther Peters ยืนยันเรื่องการพบเนื้อเยื่อปะการังทั้งจากสาหร่ายและสิ่งมีชีวิตใน vacuoles of the protists ส่วนเนื้อเยื้อปะการังในสภาพเปื่อยตาย และความจริงที่เราไม่เคยตรวจพบเชื้อ ciliates ในปะการัง หรือแม้กระทั้งเนื้อเยื้อที่ยังแข็งแรงดี ได้บ่งชี้ว่าเป็นเพียงเนื้อเยื้อตายธรรมดามากกว่าที่จะเป็นจากเหตุอื่น ซึ่งตอนนี้ผมกำลังค่อยๆเก็บรวบรวมข้อมูลตัวอื่นๆและหวังว่าจะได้ข้อมูลมากขึ้นเร็วๆนี้

Potential: ตั้งแต่ไม่อันตรายไปถึงเป็นอันตรายมาก การรักษาเชิงทดลองอาจไม่ได้ผลหรืออาจส่งผลถึงตายต่อตัวปะการัง ผมเคยเห็นกิ่งปะการัง Pocilloporids ลอกออกจากโครงปะการังภายใน 1 ชม หลังการรักษาเชิงทดลองแบบต่างๆที่รวมถึงการใช้สาร Lugol การใช้ยาปฏิชีวะก็เป็นอันตรายได้หากไม่ค่อยๆให้ยา ซึ่งการเล่นบทหมอดูประหนึ่งว่าต้องใส่ใจดูแลแต่คนส่วนใหญ่มักไม่ค่อยแยแสกันเท่าไร ซึ่งบ่อยครั้งที่หลายท่านทำไปเพียงเพื่อหวัง ว่าการรักษานั้นจะช่วยปะการังจากโรคที่เราไม่รู้จัก

Distribution: แพร่หลายมาก และเกิดขึ้นมาตลอดเป็นเวลานานแล้ว

เรื่องเล่าขาน12: ตู้ทะเลต้องการสารเสริมต่างจากร้านขายปลา

ผมได้แนะนำผู้อ่านเกี่ยวกับผลงานต่างๆของคุณ Holmes-Farley และคุณ Shimek ซึ่งมันเป็นเรื่องจริงที่ว่าเรารู้เกี่ยวกับเคมีในตู้ค่อนข้างน้อย และก็รู้น้อยมากเกี่ยวกับสิ่งที่ดอกไม้ทะเลและปะการังต้องการ และเห็นได้ชัดว่าการใช้อาหารและเกลือแบบต่างๆ ย่อมส่งผลต่อองค์ประกอบเคมีในน้ำให้ผิดเพี้ยนไป

เคมีที่จะหมดไปเร็วมากในตู้ทะเลซึ่งมีผลต่อการดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิต ได้แก่ แคลเซียม คาร์บอเนต เหล็ก อ๊อกซิเจน และแพลงตอน ในทั้งหมดนี้สารไอโอดีนกลับเป็นสารหนึ่งที่เจ้าของตู้ทะเลให้ความสนใจ แม้ว่าการใช้สาหร่ายใน rufugia จะเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากกว่าก็ตาม

ผมก็จะไม่อาจคาดเดาถึงความต้องการต่างๆของสิ่งมีชีวิต ไม่ทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่หรือได้ตายไปจากตู้ แต่ที่ผมพูดได้คือผมไม่เคยเติมสารเสริมใดจากร้านขายปลาลงตู้เป็นเวลา 6 ปี และก็ไม่เคยเติมสารเสริมใดลงตู้บ่อยๆเป็นเวลา 8 ปี ยกเว้นแต่แคลเซียม คาร์บอเนต และอาหาร ช่วงนั้นผมไม่เห็นการลดลงของสิ่งมีชีวิต ความล้มเหลวต่างๆ หรือการล้มสลาย แต่เพราะผมศึกษายังไม่สมบูรณ์พอที่จะนำมาใช้ยืนยันกับสิ่งที่เห็นนี้ หรือแน่ใจว่าไม่ทำอะไรตกหล่น หรือมองข้ามไป อย่างไรก็ตามผมพูดได้เลยว่ายังไม่มีหลักฐานใดที่แสดงถึงสารเสริมที่นอกเหนือจากที่กล่าวไว้ จะส่งผลต่อการเติบโต สุขภาพ และการดำรงค์ชีวิตของสิ่งมีชีวิตในตู้

การค้าอะแควเลี่ยมปรับตัวเข้ากับตลาดได้อย่างรวดเร็ว พวกเอกสารอ้างสรรพคุณของผู้ผลิตเป็นเหมือนแผ่นเสียงตกร่องที่พูดเกินจริงเพื่อให้ขายของได้ อย่างความสนใจในการเพิ่มขึ้นสารโลหะในตู้ทะเลเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ก็กลายเป็นหัวข้อหลักที่สนใจกันในช่วง 2 ปีหลัง และผู้ผลิตต่างก็ได้ออกสินค้าที่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างอัศจรรย์ ผมคิดแล้วงงว่าทำไมไม่มีทีมงานวิจัยและพัฒนา ทำแล๊บเกี่ยวกับเรื่องปะการัง (corals) จนกระทั้งนักวิจัยสมัครเล่นอย่างเจ้าของตู้ทะเลที่ค้นพบสิ่งใหม่ๆ และได้ผลิตสินค้าใหม่ๆที่ตอบสนองกับความต้องการของตลาด

Potential: ไม่อันตราย ถึงอันตรายจนถึงตาย อันตรายหลักๆคือการเสียเงิน ในอีกกรณีตู้ทะเลอาจโดนสายพันธ์อื่นแย่งสารอาหารในตู้ที่มีอยู่จำกัด แต่ที่เลวร้ายสุดๆคือสารเสริมที่ใส่เป็นพิษต่อระบบ

Distribution: แพร่หลาย การซื้อสารเสริมที่ไม่จำเป็นคงต้องคิดถึงผลจากคำกล่าวอ้างนั้น

เรื่องเล่าขาน13: แนวคิดเรื่องระบบนิเวศเกื้อกูล refugium

เรื่องการมี refugia เป็นที่นิยมในงานตู้ทะเล แนวคิดที่ผมพูดถึง ได้มาจาก Smithconian Caribbean mesocosm ในปี 1980 ซึ่งเทคโนโลยี algal turf scrubber ลิขสิทธิ์ของ Inland Aquatics ได้นำเสนอการมี refugia ในตู้ที่ยังไม่ได้ใช้ turf scrubbers ในหนังสือ Dynamic Aquaria เขียนโดย คุณAdey และคุณ Loveland ได้เขียนถึงความสำเร็จของ microcosms (นิเวศขนาดเล็ก), mesocosms, และระบบนิเวศในตู้ทะเล โดยอาศัยการจัดการพื้นที่ (refugia)

จนปัจจุบัน refugia แบบทำใช้เองและแบบทำมาขาย มีอยู่มากมายจนเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับตู้ทะเล

แนวคิดของ refugia คือการมีสถานที่ปลอดภัยให้กับสิ่งมีชีวิตตัวเล็กได้ลอดจากการถูกจับกินจากปลาหรือสัตว์ที่ไร้กระดูกสันหลัง ซึ่งบ่อยครั้งที่สาหร่ายพวก Macroalgae ถูกนำมาใช้ใน refugia ที่จะเป็นทั้งแหล่งอาหารและที่อยู่อาศัย ในไม่ช้า การงอกงามของนิเวศพืชและสัตว์ที่โตใน refugia สามารถใช้เป็นเขตรักษาปลาป่วย และบางกรณีทำหน้าที่เป็นที่อนุบาลสัตว์น้ำ ซึ่งขนาดพื้นที่ของ refugium จะเป็นตัวกำหนดจำนวนของนักล่าที่จะมีได้ในบริเวณนั้น

นักเลี้ยงปลาทะเลหลายท่านพยายามใช้กรองติดตู้ตัวเล็ก แนวคิดนี้อาจเป็นได้ทั้งทำให้ดีขึ้นและแย่ลง ไม่นาน พวกโคลนและสาหร่าย Caulerpa ที่แพร่เข้าระบบกรองก็จะทำหน้าที่เป็นกรองธรรมชาติ นักเลี้ยงปลาทะเลท่านอื่นมีการใช้ประโยชน์จากการตั้งแท๊งค์ใหม่ โดยใช้น้ำเดียวกันกับที่ๆปะการังกำลังเติบโต ซึ่งต่อมา refugia นั้นก็กลายเป็นแหล่งเพาะพันธ์ปะการัง แน่นอนครับว่าปะการังก็ชอบอาหารที่มีมากนั้นด้วย รูปถ่าย refugia ที่มีปลา1-2 ตัว และกุ้งอีกนิดหน่อยก็ปรากฏในเว็ปไซต์มากมาย แต่ Refugiumที่ถูก ต้องมีการไหลของน้ำช้าๆ โดยในถังของปะการังจะมีนักล่าร่วมอยู่ด้วยที่ทำหน้าที่กำจัดไนตริก (denitrification) ร่วมกับการใช้กรองทรายและสาหร่ายพิษจำนวนมากๆอย่างพวกสายพันธ์ Caulerpa

แนวคิดเรื่องการใช้ macroalgae และกรองพื้นทราย (sand beds) ใน refugia ให้เป็นแหล่งดูดสารอาหารได้เริ่มตั้งแต่ 1980 อย่างไรก็ตาม แนวคิดนี้เป็นที่แพร่หลายและเป็นการดีที่จะนำไปใช้ร่วมในหลายระบบ พูดอีกอย่างว่า refugia ขนาดเล็กที่ใช้กรองทรายและสาหร่าย macroalgae ถูกใช้เป็นส่วนเสริมให้กับระบบได้ นักเลี้ยงปลาทะเลส่วนใหญ่มักจะปล่อยปลากินพืช หรือพวกสัตว์กินพืชไร้กระดูกสันหลังไว้ด้วยเพื่อเป็นตัวหลักในการกินพืชเขียว ซึ่งในสภาพระดับสารอาหารที่ต่ำของตู้ทะเล การควบคุมสาหร่าย เป็นกระบวนที่ถูกควบคุมโดยใช้สัตว์กินพืช หากใครอยากรู้ให้ลองเอาสัตว์กินพืชออกจากตู้ให้หมด แล้วเราจะเจอ turf alga เจริญเติบโตรวดเร็วในตู้ซึ่ง ซึ่งเป็นปัญหาจากความไม่สำมดุลของระบบนิเวศ

ผมไม่อาจว่ากล่าวการใช้ macroalgae ใน refugia ผมชอบวิธีเหล่านี้ถึงแม้ว่ามันจะมีสารต่างปล่อยจากสิ่งมีชีวิตเหล่านี้อยู่บ้าง อย่างพวกปะการังอ่อนและฟองน้ำ ในรูปที่ 5 เป็น Caulerpa หนึ่งที่ผมไม่ชอบ เพราะมันรุกรานสิ่งแวดล้อมและยากที่จะทำลายให้หมดไป Caulerpa เป็นพิษต่อปลาและปล่อยสารพิษต่างๆที่มีผลต่อน้ำ และยังปล่อยพิษต่อสิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอระหว่างการวางไข่ พวกไรโซมพิษอย่าง Acidic rhizomes etch carbonate ในรูปที่ 6 สามารถฆ่าสิ่งมีชีวิตต่างจากการทวีจำนวนของมัน ซึ่งเจ้าของตู้ทะเลหลายท่านอาจคิดว่าการใช้พวก Caulerpa อาจไม่เป็นปัญหามาก แต่ผมคิดว่าทำไมยังต้องไปใช้มันในเมื่อยังมีสายพันธ์ที่ดีๆกว่านี้ให้เลือกอย่าง Chaetomorpha และอื่นอย่างในรูปที่ 7 และ 8





Figure 5. One of many species of Caulerpa, this is C. racemosa var. peltata.
 



Figure 6. Caulerpa uses its rhizomes to attach tenaciously to substrates - a factor
that makes it difficult to remove.




Figure 7. Dragon's tongue algae, Halymenia sp.




Figure 8. A hardy version of the red algae, Gracilaria sp.


อีกครั้ง refugium เป็นสถานที่ที่ให้สิ่งมีชีวิตบางสายพันธ์ได้เติบโต การนำกุ้ง ปลา และดอกไม้ทะเลลงใน refugium ผลคือความล้มสลาย เพราะการใส่กุ้งหรือดอกไม้ทะเล zoanthids ลงไป พวกมันจะไปทำลายสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆที่ค่ำจนระบบนิเวศในตู้ทะเล ส่วนท่านที่ต้องการมีพื้นที่ไว้แพร่พันธ์ การทำตู้เลียนแบบที่อยู่อาศัยซึ่งอาจดูเหมือน refugium แต่มันไม่ใช่  refugium ผู้ที่ต้องการให้ตู้ทะเลได้รับการบำบัดด้วยกระบวนการทางธรรมชาติ เราควรให้ระบบบำบัดใหญ่กว่าตู้เสมอ ไม่อย่างนั้นแล้วระบบกรองธรรมชาติก็ควรจะมีขนาดใหญ่เพียงพอที่ตู้ทะเลทั่วไปใช้กันอยู่ ในระบบกรองธรรมชาติควรมีหินเป็น live rock และชั้นทราย (Berlin, ATS, and Jaubert methods) ตัวโปรตีนสกิมเมอร์ช่วยเสริมระบบกรองได้อย่างมาก (Berlin method) การออกแบบ refurium เราควรออกแบบให้มันเป็นทั้งแหล่งอาหารและที่อยู่อาศัยซึ่งจะช่วยให้สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กได้เจริญเติบโตเพื่อเป็นอาหารให้สิ่งมีชีวิตอื่นในตู้ต่อไป

ในส่วนสุดท้าย นักเลี้ยงปลาทะเลหลายท่านแนะถึงปริมาณ crustacean  (สัตว์มีกระดองขนาดเล็ก) ใน refugia ซึ่ง crustacean เหล่านี้เป็นซูแพลงตอนในน้ำที่จะอยู่ตามโครงสร้างปะการัง การที่มีเศษหินให้เพียงพอเป็นสิ่งที่ดี โดยส่วนตัวแล้วคนส่วนใหญ่มักจะพบ crustaceans มากใน refurium ที่ใช้เศษหินเป็น live rock rubble ที่จะช่วยให้ turf algae ได้เติบโต ซึ่งจะดีกว่า refugia ที่มีเพียง macroalgae และทราย ที่เป็นระบบซึ่งนิยมทำกัน แต่อย่างไรก็ตามความยากก็ยังอยู่ที่การรักษาระดับ turf algae ให้โตได้เร็วพอที่ amphipods จะกินมัน

Potential: ธรรมดาไปถึงปานกลาง ในส่วนใหญ่การมี refuriumจะให้ประโยชน์ ถึงแม้ว่าอาจทำงานไม่ได้ตามเป้าหมายเพราะขึ้นอยู่กับสายพันธ์ที่อยู่ในนั้น ความเสี่ยงแท้จริงคือการขยายจำนวนอย่างไม่ตั้งใจ และการตายของ macroalgae species ระหว่างการแพร่พันธ์

Distribution: ปานกลาง การใช้ refugia ค่อนข้างแพร่หลาย แต่แพร่หลายมากในประเทศสหรัฐ ขณะที่refugia เป็นเรื่องทั่วไป แต่มันก็ยังไม่เป็นมาตรฐานที่ตู้ทะเลส่วนใหญ่มีกัน

นี่ก็สรุปส่วนที่สองของซีรีย์ของผมเกี่ยวกับเรื่องเล่าขานต่างๆของงานตู้ทะเล บทความส่วนนี้จะมีข้อมูลมากทำให้ดูยืดยาว อย่างไรเสีย ผมอยากให้กลับไปดูส่วนแรกของบทความเดือนที่แล้วในความหมายของเรื่องราวเล็กๆน้อยๆ และประโยชน์ของความคิดเชิงวิพากษ์ งานตู้ทะเลมันเต็มไปด้วยเรื่องข้อมูลที่ไม่แน่ชัด ข่าวลือต่างทั้งจริงและปลอม ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของเราที่ต้องคิด ต้องอ่าน และเรียนรู้ก่อนทำ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25/02/11, [18:41:25] โดย T777 »
บัง! ออฟไลน์
in Wonderland
« ตอบ #1 เมื่อ: 25/02/11, [21:48:50] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ในที่สุดก็มีคนแปล  [เจ๋ง]
เด๋วพรุ่งนี้มาแจกอวอด ต๊ะไว้ก่อง
Art_of_Nature ออฟไลน์
Club Champion
« ตอบ #2 เมื่อ: 25/02/11, [22:04:56] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ขยันเอามาแปลได้ยาวดีจริงๆ มีความรู้มากมาย [เจ๋ง] [เจ๋ง] [เจ๋ง]+ไปเลยอย่างงี้
Romeo_Pop ออฟไลน์
Level 5 Moderator
« ตอบ #3 เมื่อ: 25/02/11, [23:36:17] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

 [กู้ดครับ!] Great Man!!!
~Nu kwan~ ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #4 เมื่อ: 26/02/11, [03:44:13] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ขอบคุณงับ
T777 ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #5 เมื่อ: 26/02/11, [07:30:48] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ในที่สุดก็มีคนแปล  [เจ๋ง]
เด๋วพรุ่งนี้มาแจกอวอด ต๊ะไว้ก่อง

มีอวอดด้วย งั้นถ้าว่างเดียวแปลให้อีก

ขยันเอามาแปลได้ยาวดีจริงๆ มีความรู้มากมาย [เจ๋ง] [เจ๋ง] [เจ๋ง]+ไปเลยอย่างงี้

ขอบคุณครับป๋ากิ๊ก  ้hahaha

[กู้ดครับ!] Great Man!!!
ขอบคุณงับ

ขอบคุณครับ
note_Chonburi ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #6 เมื่อ: 26/02/11, [09:11:41] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

 [เจ๋ง] [เจ๋ง] [เจ๋ง] [เจ๋ง] [เจ๋ง] [เจ๋ง]
Go2dz ออฟไลน์
Club Veteran
« ตอบ #7 เมื่อ: 26/02/11, [13:41:56] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

โอ้ววว  สุดยอดเลยครับ  [เจ๋ง] [เจ๋ง] [เจ๋ง]
mewrider ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #8 เมื่อ: 26/02/11, [15:55:28] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

กระจ่างซะที่
หน้า: 1   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: