Aqua.c1ub.net
*
  Tue 09/Sep/2025
หน้า: 1   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ร่องกล้า ทับเบิก  (อ่าน 4405 ครั้ง)
Rapee ออฟไลน์
Club Brother
« เมื่อ: 15/12/10, [12:38:31] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ


    กลับจากเชียงคาน ขับรถตามจีพีเอสด้วยความเคยชิน ลืมต่อล้อต่อเถียงกะมันเลยวิ่งตรงไปทางท่าลี่  จะไปออกด่านซ้ายแล้วไปนครไทยเข้าภูหินร่องกล้า  ทางจากเชียงคานไปท่าลี่แย่สำหรับรถเล็กๆอย่างแจ๊ส มาก
เพราะหลุมและขึ้นลงเขาตลอดเวลา บางช่วงก็ทำใหม่เหมือนจะเตรียมไว้สำหรับสะพานข้ามแดนแห่งใหม่ที่ท่าลี่   ขับไปไม่ค่อยมีรถคาดว่าคงไม่ใช่เส้นทางยอดนิยม แล้วก็จริงดังที่คาดจากร่องรอยบนถนนพบว่ามีรถบรรทุกขนาดใหญ่วิ่งไปมาพอดู  เจอรถบรรทุกแบบพ่วงยาวทะเบียน ໄຊຍະບູລີ ประเทศลาว สองสามคัน  หนึ่งในนั้นมีรถขนไม้แปร
รูปด้วยคาดว่าจะข้ามจากฝั่งโน่น หรือว่าไม้บ้านเราสวมตอไม้นอกเข้ามาก็ไม่รู้  ไปถึงท่าลี่ ผ่านช่วงที่เป็นสะพานกำลังทำอยู่คาดว่ากลางปีหน้าคงเรียบร้อยได้ข้ามไปเที่ยวทางนี้ได้อีกทางจริงๆแล้วฝั่นโน้นเดิม ໄຊຍະບູລີ (แขวงไซยะบูลี ออกเสียงว่า ไชยบุรี)เคยเป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทยก่อนเสียดินแดนเมื่อปี พ.ศ. 2447 ทำให้แขวงนี้ไปขึ้นกับอินโดจีนของฝรั่งเศส ไทยได้กลับคืนมาชั่วคราวในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อได้กลับคืนมาจึงตั้งเป็นจังหวัดลานช้าง แต่ต้องคืนกลับไปเหมือนเดิมหลังสงคราม
ถ้าสะพานเรียบร้อยคงได้ข้ามไปเที่ยวดินแดนที่เคยเป็นของเรามาเล่าสู่กันฟังอีกครั้งครับ  จากท่าลี่ถนนก็ยังคงชำรุดอยู่ตลอดทางไปเกือบถึงด่านซ้าย  ส่วนจากด่ายซ้ายไปถึงนครไทยทางดีมาก กว้างขวางรถมีเล็กน้อยขับสบาย  ออกจากเชียงคานสิบโมงมั๊ง ไปถึงบ่ายสอง  ไวเหมือนกันทั้งที่ทางไม่ได้วิ่งได้เร็วเท่าไรเลย T___T
ออกจากนครไทยได้แป๊บเดียวก็มาถึงเส้นทางเข้าไปยังภูหินร่องกล้าเข้าด่านไปโดยเสียตังค์ 70 บาท เด็ก30บาทผู้ใหญ่ 40 บาท ที่นี่ไม่เสียค่ารถผ่านด่าน  ไม่รู้ทำไม ที่เขาใหญ่ผมต้องเสีย 50 บาท เหมือนกับว่ารถมันจะเข้าไปเที่ยวเองได้เนอะ ไม่รู้ว่ารถพ่วงต้องเสียด้วยหรือเปล่าใครเคยลากรถพ่วงไปนอนบนเขาใหญ่กระซิบบอกผมที
ที่ภูหินร่องกล้ามาครั้งนี้เป็นการมาครั้งที่สองและเป็นการมาทางรถครั้งแรกของผมด้วยเลยตื่นเต้นกับเส้นทางเล็กน้อย(แต่ขอบอกว่าทางขับง่ายมากๆ)
ลิงหิวข้าวมากเมื่อถึงที่จอดรถของฐานพัชรินทร์



 เลยหาอะไรใส่ปากลิงหน่อย วันที่ไปเป็นวันหยุดเลยมีอาหารขายเยอะหน่อย



กินข้าวกินปลาแล้วก็โทรถามพี่ชายเห็นว่ากำลังออกมาเลยตัดสินใจเดินเที่ยวลานหินปุ่มจุดชมวิวที่เคยมองมาไกลๆทางอากาศเมื่อครั้งที่มาครั้งก่อน



เส้นทางไปลานหินปุ่มนั้น แห้งมากเนื่องจากเป็นช่วงที่แล้งมาเป็นเวลานานมอสและต้นไม้หลายอย่างพากันแห้ง
และกรอบมาก







ในเส้นทางนี้มีไม้พวกกล้วยไม้หลายกอที่ยังใบเขียว ทนทานต่อความแห้งแล้งอย่างมากแต่ไม่มีดอกแล้ว





บางต้นอยู่บนลานก็ยังอดทนได้ดีมาก





แต่ที่เขียวแน่ๆและยังคงสภาพสวยๆมันอยู่ในช่องหินแตก อันนี้ไม่ได้ลงไปกลัวไม่ได้ขึ้นมาอีกรอบ







เส้นทางที่เดินมีสะพานข้ามร่องหินเป็นระยะๆ มั่นคงและปลอดภัยดี



ไปงวดนี้ไม่ได้เห็นดอกกุหลาบพันปีสีขาวที่ลือชื่อของที่นี่เห็นแต่ตาดอกจวนจะเป็นดอกใน อีกสองเดือนข้างหน้า
คาดว่าจะออกดอกให้ได้ยลโฉมกันแน่ๆ แต่มันจะร้อนหน่อยช่วงนั้น

 มีการกำหนดตำแหน่งทิศทางที่เดินอย่างครบถ้วนไม่ต้องกลัวหลงทางไม่อยากบอกว่า 400 เมตร มันไม่ไกลเลย





แต่เคยได้ยินว่าพลัดตกลงไปหลายคนก่อนที่จะมีสะพานนี้เนื่องจากกระโดดข้ามไปมาหลงร่องที่เดินกัน







ที่ลานหินปุ่มเนี่ยอากาศเย็นสบายมากทั้งที่แดดจัดแต่ไม่ร้อนเลย
 


รูปเล็กไปหน่อยเนอะ  เอาๆ  ถ่ายรูปใหญ่ๆหน่อยก็แระกัน



เนื่องจากไม่มีฝนตกเป็นเวลานานแล้ว ลิงอากให้ป่าชุ่มชื้นเลยพยายามเต้นขอฝนบนลานหินปุ่ม





ไม่อยากบอกว่าได้ผล คืนนั้นที่ทับเบิกมีฝนตกเล็กน้อยและในสองวันต่อมาฝนถล่มทั้งพิษณุโลกสองห่า





เจอต้นอะไรไม่รุเหมือนพวกบลอมิเลียดแต่ไม่รู้จักชื่อ ฟอร์มสวยดี



แล้วพี่ชายก็มาถึงพร้อมหลานสองหน่อ...ดูเหมือนจะเป็นงานรวมลิง  ดูท่าจะมีรายการหนุมานบุกร่องกล้า



เจอลูกไทรสุก ถามว่ามันกินได้ไม๊  เลยบอกว่าลองชิมดูดิ





อร่อยรึเปล่า ดูหน้า



พอเจอกันก็วิ่งเล่นกันพักใหญ่ กว่าจะตามกันครบเล่นเอาขาสั่น เพราะว่าวิ่งเล่นกันไปทั่วลานหิน จับลิงในป่ามันช่างยากยิ่งนัก









บนเส้นทางระหว่างลานจอดรถไปยังลานหิน มีแหล่งน้ำเล็กเหลืออยู่เพียงแห่งเดียว คาดว่าจะแห้งหมด
ลงในไม่ช้าแต่ก็ยังคงความชุ่มชื้นไปอีกพักใหญ่แน่ๆเพราะมีพืชพวกข้าวตอกฤาษีคอยเก็บน้ำไว้ส่วนนึง











พื้นที่บริเวณนี่เป็นป่าดิบเขาที่มีสนสามใบขึ้นอยู่ อากาศสะอาดและมีความชื้นสูงมาก









เย็นมากแล้วเลยรีบออกเดินทางไปภูทับเบิกต่อ แต่เนื่องจากเส้นทางค่อยข้างคดเคี้ยวจึงไม่มีภาพระหว่างทางสวยๆให้ดู
ทั้งที่บนเส้นทางที่ผ่านไปในวันนี้มีต้นเมเปิลใบเปลี่ยนสีเป้นสีแดงทั้งต้นสามสี่ต้นอยู่ใกล้ๆทางแต่จอดรถไม่ทัน
ได้แต่ภาพเบรอๆของเฟินส์หัสดำที่มีอยู่มากมายบนเส้นทางนี้ เนื่องจากขับไปถ่ายไป



เส้นทางนี้เราจะพบเจ้าถิ่นเป็นรถบรรทุกผักวิ่งไปมาขวักไข่ว เนื่องจากใกล้กับแหล่งผลิดกล่ำอันลือชื่อของประเทศ

นั่นคื่อภูทับเบิก



มาถึงก็วิ่งไล่จับลิงอีกรอบ



ลงรถได้วิ่งไปโน่น



ตรงที่มาถึงเนี่ยเค้าเรียกว่าด่านภูหินร่องกล้าแต่มันมีป้ายภูทับเบิกอยู่ด้วย



จริงๆมันก็อยู่ด้วยกันนี้แหละ



มีตลาดเล็กๆที่ชาวเขามาค้าขายกัน นักท่องเที่ยวเยอะกำลังซื้อแยะ



ทำแล้วก็ดึงดูดนักท่องเที่ยว สินค้าแปลกตาน่าสนใจเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวได้อีกรูปแบบนึง





ด้วยที่ว่าคนไทย ซื้อแหลกไม่ว่าจะอยู่มุมใหนของโลก

ตัวเล็กวิ่งเก่งมาก วิ่งไปล้มไป





มุมนี้เป็นจุดที่มีคนมาถ่ายรูปทะเลหมอกมากที่สุดจุดนึงของที่นี่ แต่วันนี้ไม่มีทะเลหมอก มันหมอกทั้งหมดภูเลย





แล้วเราก็ต้องไปหาที่กางเต้นท์ ช่วงที่เข้าไปยังไม่มืด  ที่จอดรถข้างบนไม่มีแล้วเท่าที่ทำได้คือ
เดินขึ้นไปแล้วให้พี่ที่มารับขับรถไปส่งของที่จุดกางเต้นท์แล้วก็ขับลงอีกทาง เกือบสองกิโลถ่ายของ
ขึ้นรถอีกคันเดินแบกไปด้วยส่วนนึงเด็กๆนั่งรถขึ้นไป เดินขนของสองสามรอบ
คนเยอะร้านค้ามาก
มีอาการไม่ชอบคนขึ้นมาซ่ะงั้นทั้งที่เราเองก็เป็นหนึ่งใหนคนที่มาแสวงหาความสงบที่นั่นเหมือนกัน ใจตรงกันเยอะเนอะ

บนที่กางเต้นท์ มันรวมจอดรถด้วย  เราได้จองที่กางไว้ก่อนหน้าแล้วแต่มันดูเหมือนมีคนมาแอบอ้างชื่อพี่สาวที่เป็นครูอยู่บนทับเบิก
เอาไปกางเต้นท์เสียแล้ว  เอาไงดี....เค้าพาเราไปดูที่เลยไปหน่อนึงมันเอียงหน่อยและไม่ได้เกรดให้เรียบไว้อยูบนแปลงดอกผักกวาง
ตุ้งดอกสีเหลือง ไม่เรีบไม่ราบ แต่ก็ยังดีลงไปจากขอบทางนิดนุง  เอาว่ะ  รีบกางเต้นท์ด้วยความรีบเร่งเพราะมืดมากแล้วน้ำค้างลงแรงมาก
เหมือนว่าของที่เอามามันเปียกไปหมดเลยทุกชิ้น กว่าจะเอาของเข้าที่จุดตะเกียงและจับลิงใส่เข้าไปในเต้นท์หมดก็เกือบชั่วโมง 
แต่ก็ยังดีกว่าเต้นท์ข้างๆ เต้นท์ขนาดใหญ่  คาดว่าเพิ่งจะซื้อมา  เห็นเปิดโฉนดกางอยู่คนเดียว น่าจะกางอยูเกือบสองชั่วโมง
ฝากบอกนอยไว้เลยว่าถ้าจะใช้เต้นท์ขนาดนั้น หัดกางมาก่อนใช้งานจริงซักสองสามครั้ง  ไม่งั้นก็ไปก่อนมืดซักสองชั่วโมง เผื่อหน่อย
จะได้ไม่งมกางเต้นท์ที่ไม่เคยเห็นหน้าตากลางความมืดอย่างเต้นท์ข้างๆวันนั้น  คิดว่าเค้าคงไม่สนุกนักตอนกาง
เช้าวันต่อมากอนกลับออกมาเค้าเอาเต้นท์โกยใส่หลังรถโดยไม่ได้พับ..คงอีกนานกว่าจะรู้ว่ากางยังไงเก็บยังไง

ความมืดมาถึงเราเร็วมากพร้อมกับอาหารเย็นคืนแสนอร่อยที่เตรียมมาจากข้างล่าง   หลังกางเต้นท์เสร็จเรายังเหลือของที่ต้องเดินลง
ไปเอาสองสามอย่างในรถที่อยู่ปากทางขึ้น  หมายถึงไฟฉายด้วย  ไม่ได้เอาไฟฉายมากันทิ้งไว้ในรถหมด  เราเดินขึ้นไปยังลานกลาง
ที่กางเต้นท์แล้วเดินลงเขาไปที่รถ ทำไมมันช่างไกลเหลือเกิน  ยังมีคนเดินขึ้นมาอยู่อย่างไม่ขาดสาย รถยนต์บางคันที่ขั้นมาวางแผน
จอดกางเต้นท์กันกลางถนนที่รถติดๆอยู่นั้นแหละ อ้อ ไม่อยากบอกว่ารถติดมาก  พี่สาวที่เป็นคนพื้นที่นั้น เอารถลงไม่ได้ ต้องนอนค้าง
กันกับเราข้างบนนั้นทีเดียว

ตอนหัวค่ำเรามีสามสี่เตนท์ตรงนั้นไม่เท่าไร  อยู่กันเงียบๆ แต่ช่วงดึกมีกลุ่มแว๊นมาจากข้างล่าง สำเนียงออกบ้านแยงมากๆ ตามมาสมทบ
กับพวกที่กางเต้นท์ที่อยู่เหนือเราไปสี่ห้าเมตรมาถึงสามทุ่มกว่ากางเต้นท์แล้วก็เริ่มดื่ม แล้วก็ร้องเพลงกับโทรศัพที่เปิด
เสียงงุ้งงิ้งมาก...คงสนุก...บนความไม่สงบของคนอื่น เค้าร้องเพลงตีกระป๋องจนตีหนึ่งได้มั๊ง คาดว่าเหล้าหมดก็เงียบเสียงไป

ด้วยที่ว่าเอาเต้นท์ไปกางบนแปลงผักที่ไม่ได้ราบเรียบอะไร มันจึงเป็นการทรมานมากๆเจ็บหลังเนื่องจากเอาผ้าห่มไปปูให้ลูกชายแทน
เพราะว่ากลัวจะนอนไม่ได้ แล้วนอนยิ่งดึกก็ยิ่งไหลไปกองทางด้านที่มันต่ำกว่าใหนจะเสียงเพลงที่แบ่งปันมาให้อย่างไม่ต้องการเลยนอนไม่สนุกนัก
กว่าจะหลับคาดว่าคงตีสาม มีฝนลงบางๆแล้วก็มีลม  ดีใจที่นอนอยู่ด้านล่างไม่ได้นอนบนลาน  เพราะได้ยินเสียงคนข้างบนวิ่งไล่เก็บของมั่ง
เก็บผ้าใบมั่งกันอลวนมากเพราะคงโดนลมตีกันกระจาย หุหุ


ลิงยังไม่ตื่น  นอนอยู่ในกองผ้าที่เห็นนั้นแหละ

ตื่นเช้ามาด้วยเสียงลมที่กระหน่ำไม่เลิก  พบว่าเรานอนกันห่างจากชายขอบของหน้าผาไปไม่ถึงสิบเมตร ดีแล้วที่ไม่ปล่อยให้ลิงวิ่งเล่นเมื่อคืน
ไม่งั้นคงได้เจ็บตัวกันแน่ๆ





หวังว่าจะเจอทะเลหมอกแต่ไม่ได้เจอแน่ๆเพราะว่าหมอกมาล้อมตัวเราอยู่ไม่ลงไปข้างล่าง







ฟ้าใสๆหม่นๆตลอดเวลา ทั้งหมอกก็ไหลผ่านไปรอบๆตัวตลอดเวลา



ผู้คนเดินถ่ายรูปกันกับแปลงกล่ำและดอกกวางตุ้งสีเหลืองแสนสวยงาม





หิวเชียวอยากกินผักกาดจอ.....









บนขอบทางก็ยังมีคนมากางเต้นท์นอนกัน คนเยอะมาก แต่เราได้นอนตรงนี้



ที่นี่มีแต่กล่ำ



กล่ำ



กล่ำ



และกล่ำครับ



และมีคนไม่เคยเห็นไร่กล่ำมาถ่ายรูปคู่กล่ำมากมาย  โลล่ะบาท...ขนไปเลย



ถูกๆแต่ลิงไม่ยอมกินผักถามว่าเอามัยลูก ดูทำหน้า





จริงๆบนนี้มันเฉ่ำมากในหน้าฝนแต่ก็เละมากด้วย





ชอบอากาศ ทั้งที่ไปเนี่ยก็ไม่ได้หนาวอะไรนักหายใจเป็นไอเฉยๆ  ไม่รู้ปีนี้ทำไมหน้าร้อนมาไวนัก



ไปเดินใส่เสื้อยืดกะขาสั้นนั่งมองนักท่องเที่ยวจาก กรุงเทพ ใส่โอเวอร์โค้ทมากันตัวใหญ่ ๆ
มองหน้ากะลิงบอกว่า สงสัยเค้าไม่สบายอะลูก ลิงหัวร่อฮ่าๆ


ห้องน้ำที่เห็นสองสามที่ก็มีน่าจะเพียงพอน่ะ แต่ให้สบายเหมือนที่บ้านคงไม่ต้องมาเที่ยวกันหรอก

ขากลับเก็บของไวมากรีบกลัวรถติด แล้วก็ยังเหลือวันที่หยุดอีกวัน
คนแห่ขึ้นมาอีกแน่ๆเลยรีบลงก่อน



แอบได้ของฝากจากข้างบนมาเป็นผักหลายอย่าง แล้วก็ได้มันปิ้งด้วยอร่อยมากกินร้อนๆตอนอากาศเย็นๆ



 อร่อยมวากกกกก กินไม่ทันลิง



ขากลับวิ่งลงเส้นทางที่สวยมากแต่ถ่ายรูปไม่ได้เลย หมอกเต็มไปหมด





ทางลงตลอด คดเคี้ยวมาก
ลงมาวิ่งตามรถหลายคันมีกลิ่นเบรคใหม้ น่ากลัวมาก  ขับลงมาไม่ได้นับว่ากี่โค้งมัวแต่มองวิวข้างทางที่สวยงาม
จนเลยงานปีใหม่ม้ง ไม่ได้ลงถ่ายรูปแหมเสียดาย
ได้มาเท่าที่เห็น ฝากไว้ก่อน ทับเบิกไว้ฝนเยอะๆจะมาเยือนอีกครั้ง




ผู้มาแวะชม ออฟไลน์
Club Champion
« ตอบ #1 เมื่อ: 15/12/10, [12:49:49] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ







ชอบสองรูปนี้ครับ [เจ๋ง]

ปล. เห็นรูปลูกน้า Rapee วิ่งเล่นแล้วน่ากลัวแทน อยู่บนเขาด้วย [on_abe]
นอยสะตอรี่™ ออฟไลน์
C.A.P. Army
« ตอบ #2 เมื่อ: 15/12/10, [13:13:18] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ


รูปถ่าย 3 นิ้ว


รูปถ่าย 2 นิ้ว
 ้hahaha ้hahaha

ปะน้าไปเที่ยวกันอีก ชอบอ่าน หนุกดี  [เจ๋ง]
kp_phoenix ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #3 เมื่อ: 15/12/10, [13:20:34] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ไม่ทราบว่า วันธรรดา จันทร์ถึงศุกร์ ที่ไม่ตรงกับวันหยุด คนจะเยอะแบบนี้ไหมอ่ะคะ น๊าพี  036

ปล. ชอบรูปนี้จัง
ZeroDeathAttack™ ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #4 เมื่อ: 15/12/10, [13:47:55] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เห็นคน ล่ะ n032 มากมายแท้

อ่านล่ะสนุก เที่ยวงวดหน้า ให้น้าพี บรรยาย ต่อ [on_003]
LiNG_NOi ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #5 เมื่อ: 15/12/10, [14:19:14] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ว้าววววววววววว  036
Champies ออฟไลน์
Hot Member
« ตอบ #6 เมื่อ: 15/12/10, [16:18:46] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

อ่านไป ดูรูปไป เพลินเลย   [เจ๋ง]

ทีหลังถ่ายสาวๆมามั่งนะน้า ลูกน้าอ่ะผมไม่อยากดู  ้hahaha
mandypoolz ออฟไลน์
Hot Member
« ตอบ #7 เมื่อ: 16/12/10, [13:32:29] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

น่าไปจริง ๆ เลยคร๊าบบ.บ.....  [on_055]
Mr.MAI ออฟไลน์
Hot Member
« ตอบ #8 เมื่อ: 19/12/10, [13:52:57] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

  ขอบคุณครับน้า              [เดะแว๊น]
Rapee ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #9 เมื่อ: 20/12/10, [21:38:07] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ไม่ทราบว่า วันธรรดา จันทร์ถึงศุกร์ ที่ไม่ตรงกับวันหยุด คนจะเยอะแบบนี้ไหมอ่ะคะ น๊าพี  036

ปล. ชอบรูปนี้จัง


ไม่เยอะครับ นอนสบายๆ ถ้ามีฝนจะยุ่งหน่อย  เละ..
binary ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #10 เมื่อ: 12/01/11, [17:37:41] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ภูทับเบิกไปเมื่อปีที่แล้ว ยังประทับใจมาถึงตอนนี้ครับ

บรรยากาศสุดๆๆ ปีนี้ก็ไปเพชรบูรณ์แต่ไปที่น้ำหนาว อุทยาทุ่งแสลงหลวง

แต่ก็กลับมาประทับใจอุทยานใกล้ๆบ้านเราอีกทีนึง อุทยานแห่งชาตน้ำตกเขาสามหลั่น จ.สระบุรี ใกล้กรุงเทพมากๆ พอเข้าไปก็ประทับใจในบรรยากาศ ที่สำคัญคนน้อยด้วย ธรรมชาติสุดๆ
The Boy ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #11 เมื่อ: 14/09/11, [10:52:33] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ภูหินร่องกล้าได้ขึ้นไปถึงผาชูธงป่าวคับ ผมก็ไปมาเมื่อกุมภาพัน เล่นเอาเหนื่อยเลย ว่าจะเอารูปมาลงบ้าง

โชว์ดีจังที่ของคุณไปช่วงหนาวอยู่ผมไปแบบหมดหนาวเซงเลย
MPOWER ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #12 เมื่อ: 16/09/11, [10:11:11] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เราก็นึกว่าไปมาอีกรอบ  036
หน้า: 1   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: