เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อราวๆเดือนมีนาคม
คุณพ่อหยี่ได้ซื้อดินดำชั้นสองที่ปลูกต้นไม้ได้(ในสัญญาระบุชัดเจนปลูกต้นไม้ได้ด้วย)
เสร็จคราวนี้ปัญหามันเริ่มจาก คนถมที่เค้าโกงดินโดยนำดินมาให้ไม่เต็มคันรถตามที่ตกลง
พ่อหยี่จับได้เขาก็ขอโทษ และก็ดูเหมือนไม่มีปัญหาอะไรจนถมเสร็จ
ทางบ้านหยี่ก็ทิ้งที่ไว้แบบนั้นให้ดินยุบตัว จนถึงหน้าฝน ปัญหาก็เริ่มเกิดขึ้น
เมื่อปรากฏว่าน้ำฝนที่ไหลลงดินชะล้างน้ำจากดินลงบ่อปลาเป็นสีแดงแบบสนิทเหล็ก
ทำปลาตายหมดทุกบ่อ โดยเฉพาะบ่อใกล้เคียงบริเวณที่ถมดินใหม่
บนผิวดินเวลาแห้งจะมีคราบขาวๆ น้ำในบ่อปลาไม่มีสิ่งมีชิวิตอะไรอยู่ได้
แม้ว่าพ่อจะทำการสูบน้ำออกทุกๆวันที่ฝนตก น้ำที่ไหลลงไปเติมเต็มบ่อก็เป็นสีสนิมเหล็กเหมือนเดิม
หยี่เคยไปวัด PH น้ำในบ่อปรากฏว่าอยู่ในระดับ 3 - 4 หรือเป็นกรดสูง
(แม้ว่าจะมีการล้างด้วยน้ำฝนมาสองสามเดือนแล้วก็ตาม)
ซึ่งไม่ว่าจะปลูกต้นไม้อะไรก็ตายหมด หยี่กับพ่อเลยคิดว่าปัญหาน่าจะอยู่ที่ดินเป็นดินเปรี้ยว
ความเป็นไปได้ก็คือพอพ่อหยี่จับได้ว่าเค้าโกงปริมาณดิน เขาเลยนำดินเปรี้ยวมาถมที่ แทนที่จะเป็นดินดำชั้นสอง(หน้าดินชั้นสอง)
สิ่งทึี่จะมาขอความรู้ชาวคลับเป็นวิทยาทานคือ
ด้านกฏหมาย
1. เราสามารถฟ้องคดีได้ไหม โดยอายุความจะเริ่มนับจากวันที่เรารู้ว่าดินมีปัญหาใช่ไหมคะ แล้วอายุความต้องฟ้องภายในกี่วันคะ
2. สามารถฟ้องเป็นคดีฉ้อโกงทางอาญาได้ไหมคะ เพราะทางคนถมที่เค้าต้องมีความรู้เรื่องดินอยู่แล้ว การที่นำดินแบบนี้มาให้แสดงว่าตั้งใจโกงกันเลย เพราะในสัญญาระบุว่าต้องปลูกต้นไม้ได้
ด้านดิน
1. ดินแบบนี้คือดินเปรี้ยวตามที่หยี่กับพ่อคิดใช่ไหมคะ มีวิธีแก้ยังไงบ้างคะ นอกจากให้น้ำชะล้างไปเรื่อยๆแล้วคลุกปูนขาว เพราะตอนนี้น้ำที่ไหลจากดินลงบ่อทำปลาตายหมด และตัวดินเองก็ปลูกต้นไม้ไม่ได้เลย
2. ดินดำหน้าดินชั้นสองนี่มีโอกาสเป็นดินเปรี้ยวไหมคะ (ไม่นับดินป่าพรุนะคะ)
ขอบคุณมากๆนะคะ [on_051] [on_051]
|