วันที่/Date : 16 ส.ค. 2546
เรื่อง/Story by : นณณ์ ผาณิตวงศ์
ภาพ/Photo by : นณณ์ ผาณิตวงศ์
ที่มา/Referer : -
สถานที่/Locale : -
ภาค/Province : -
กล้อง
น่านแหล่ะครับของสำคัญที่สุด ไม่มีกล้องก็ถ่ายรูปไม่ได้ ผมว่ากล้องที่เหมาะจะถ่ายรูปปลาคือกล้องดิจิตอลซึ่งตอนนี้ก็พัฒนามาไกลมากแล้ว ปลาไม่อยู่นิ่งๆให้คุณถ่าย ภาพหาง ภาพฉากหลัง และ ภาพอื่นๆที่ไม่ต้องการถ้าเป็นกล้องฟิล์มถ่ายแล้วก็ต้องเสียตังค์ล้างแล้วถึงทิ้งได้ ถ้าเป็นดิจิตอลก็แค่ลบทิ้งไปเฉยๆ
ถ้าจะแค่ถ่ายลงเว็บเฉยๆ สักสองล้านพิกเซลก็พอแล้วครับแต่ถ้าจะเอาไปล้างเป็นกระดาษหรือลงหนังสืออย่างน้อยๆก็คงต้องสักสามล้านพิกเซล ผมใช้ แคนนอน G3 ที่มีสี่ล้านพิกเซล และนี่จะเป็นกล้องที่ผมใช้เป็นฐานในการเขียนเทคนิคในการถ่ายภาพปลาต่อไปครับ
นอกจากพิกเซลแล้วความสามารถในโหมด “แมคโคร” ก็เป็นเรื่องสำคัญในการเลือกซื้อกล้อง แมคโคร คืออะไร? แมคโครคือความสามารถในการโฟกัสวัตถุเล็กๆใกล้ๆ เอาเป็นว่ายิ่งเข้าใกล้ได้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีครับ ถ้าจะถ่ายปลาเล็กๆ ให้เจ๋งๆ อย่างมากก็ไม่ควรเกิน 5 ซ.ม. ครับ แต่ถ้าจะถ่ายตัวควายๆ ก็ไม่ต้องคิดถึงแมคโครมากนัก
แสง
แสงทำให้เกิดภาพ ดังนั้นอะไรก็ตามที่มาขวางระหว่างแสงที่กระทบตัวปลากลับมาที่กล้องจึงเป็นอุปสรรค ปัญหาใหญ่ในการถ่ายภาพปลาคือกระจก ปลาอยู่ในตู้กระจก ซึ่งกระจกจะสะท้อนแสง ทั้งแสงจากแฟลช และแสงสะท้อนจากภายนอก ไม่ว่าจะเป็นภาพตัวเอง ผนัง หรือ ลูกหมา
วิธีแก้ปัญหาแสงสะท้อนเอาสิ่งอื่นๆมาอยู่บนกระจกง่ายๆคือ กำจัดแสงภายนอกออกไปให้หมด ถ้าเป็นตอนกลางคืนก็ปิดไฟซ่ะ ถ้าเป็นตอนกลางวันก็ปิดม่านซ่ะ แค่นี้คุณก็สามารถจะลดแสงสะท้อนภาพอะไรต่อมิอะไรบนกระจกไปได้แล้วครับ
ไฟในตู้ปลาควรจะเปิดให้สว่างที่สุดเท่าที่จะสว่างได้ อย่าลืมใช้ ไฟที่ให้แสงสีขาว เพื่อจะได้สีปลาที่ถูกต้อง ที่นี้ปัญหาก็คือไฟที่เปิดจนเต็มที่แล้วพอหรือยังที่จะถ่ายรูปปลา? พอคือกล้องโฟกัสได้ดี และภาพปลาออกมาคมชัด นั่นคือกล้องสามารถทำความเร็วชัตเตอร์ได้พอที่จะ “หยุด” ปลาได้ ปัญหายังเกิดขึ้นกับปลาต่างชนิดด้วย ถ้าเป็นปลาช้าๆอย่างพวกกระดี่ ปลาหมอตัวใหญ่ๆ หรือปลาทอง ที่ไม่ค่อยขยับไปไหน ก็ถ่ายง่ายหน่อย ถ้าเป็นพวกว่ายไปว่ายมาอย่างพวกปลาซิวหรือเต็ทตร้า ก็ต้องใช้ความอดทนกันมากพอสมควร นอกจากจะหาจังหวะที่ปลาหันมาให้ถูกทางแล้ว ยังต้องรอจังหวะที่ปลาว่ายช้าลงด้วย
วิธี “หยุด” ปลาให้ได้อีกอย่าง (โดยที่ตอนนี้ยังไม่พึ่งแสงจากแฟลช) คือการตั้งค่า ISO บนกล้องให้สูงๆหน่อย ISO คืออะไร? ตอบอย่างงูๆปลาๆ อ้างอิงกรณีของฟิล์มธรรมดา ก็คือค่าความสามารถในการรับแสง (โห มั่วสุดๆ) เอาเป็นว่า ISO ยิ่งมาก ก็ยิ่งรับแสงได้มากขึ้น หมายความว่าที่จำนวนแสงเท่ากัน ฟิล์มที่มี ISO สูงกว่าอย่าง 200 หรือ 400 เราก็สามารถถ่ายภาพด้วยความเร็วชัตเตอร์ที่เร็วกว่าซึ่งก็จะหยุดปลาได้ดีกว่า “ถ้าอย่างนั้นผมก็ใช้ ISO สูงๆดิ จะใช้ต่ำๆทำลิงอะไร?” คุณอาจจะถาม ผมก็เคยถาม ความเร็วไม่ได้ๆมาฟรีๆ ปัญหาของฟิล์มที่ ISO สูงๆก็คือ เกรน ครับ “เกรนคืออะไร?” เกรนคือความไม่เรียบของภาพ ยิ่ง ISO สูงภาพก็ยิ่งไม่เรียบ กล้องดิจิตอลรุ่นใหม่ๆแก้ปัญหานี้ไปได้เยอะแล้วครับ สำหรับผมถ้าถ่ายปลาช้าๆ ผมก็ตั้งไว้ที่ 50 ถ้าถ่ายปลาว่ายเร็วหน่อยก็ตั้งไว้สัก 200 ครับ ถ้าสิ้นคิดจริงๆผมถึงจะไปสูงกว่านั้น (กล้องรุ่นใหม่ๆเดี๋ยวนี้บางทีไปถึง ISO 1600 เกรนยังไม่แตกเลยครับ)
ถ้าคุณทำทั้งหมดที่ผมว่ามาแล้วยังหยุดปลาไม่อยู่ อีกวิธีซึ่งจริงๆแล้วควรจะเป็นวิธีแรกคือใช้แฟลชครับ แต่การใช้แฟลชก็มีปัญหาของมันเอง เพราะระหว่างแสงแฟลชกับปลาและกล้องของคุณ คือกระจกตู้ปลา ซึ่งจะคอยสะท้อนแสงแฟลชกลับเข้ามาในกล้อง ร้อยทั้งร้อย ใครที่เคยถ่ายภาพปลาต้องเจอมาแล้วทั้งนั้น วิธีแก้ได้ง่ายๆคือ ถ่ายภาพโดยให้กล้องทำมุม 45 องศากับกระจก จะซ้าย จะขวา จะล่าง จะบนเหมือนกันครับ แสงแฟลชส่วนที่ผ่านกระจกไปก็จะกระทบตัวปลาดีๆ ส่วนที่กระเด้งออกไปก็จะกระเด้งไปทางอื่นไม่ย้อนกลับมาที่กล้องให้ลำคาญใจ หรือถ้าคุณถ่ายภาพปลาตัวเล็กๆซึ่งต้องให้กล้องอยู่ใกล้ๆกับกระจกก็นั่นแหละครับ จ่อกล้องจ่อแฟลชให้ติดกระจกไปเลย ไม่ต้องเหลือมุมไว้ให้สะท้อน ซึ่งการนี้ก็สามารถประยุคใช้ได้อีกนั่นคือ แฟลชยิ่งอยู่ติดกระจกมากเท่าไหร่โอกาสสะท้อนกลับมาหากล้องก็ยิ่งน้อยลงเท่านั้น ดังนั้นถ้ากล้องของคุณเป็นแบบ G3 คือมีแฟลชอยู่ทางด้านซ้ายของตัวกล้อง เวลาเอียง 45 องศาอย่างที่ผมว่าก็เอียงกล้องข้างซ้ายที่มีแฟลชเข้าไปให้ใกล้กระจกไว้ครับ วิธีนี้ช่วยได้เยอะเลย
หรือถ้าคุณมีแฟลชแบบที่มีสายต่อแยกออกมาจากตัวกล้องได้ คุณก็สามารถจ่อกล้องตรงๆกับกระจก แต่จ่อแฟลชเฉียงๆได้ครับ เหมือนเดิมคือ จะซ้ายขวาล่างหรือบนก็ได้ทั้งนั้นหล่ะขอให้เป็น 45 องศาเป็นใช้ได้ครับ
ปัญหาจากการใช้แฟลชที่ผมพบคือในกรณีที่ปลามีเกล็ดสีเงินๆอย่างพวกปลาตะเพียน เกล็ดปลาเจ้ากรรมนี่แหละครับที่จะสะท้อนแสงกลับมาหากล้อง ซึ่งยิ่งถ้าใช้แฟลช บางครั้งแสงสะท้อนกลับเข้ากล้องจะสว่างมากจนปลากลายเป็นสีขาวๆขาดละเอียดของเกล็ดไปเลย วิธีแก้ก็คือลดความแรงของแฟลชลงครับ กล้องผมลดได้ถึง -2 ส่วนใหญ่แล้วถ้าเป็นปลาสีเงินมากๆอย่างพวกตะเพียนขาว ซิวหางแดง ผมจะลดไปถึง 2 เลย ถ้าพวกกลางๆอย่างบาดิส ผมก็จะลดไปสัก 1 โดยทั่วไปแล้วผมเลือกเอาภาพปลามืดดีกว่าภาพปลาที่สว่างครับ ภาพที่มืดจะยังมีรายละเอียดของปลาและสีอยู่เกือบครบ ซึ่งสามารถปรับแต่งแสงภายหลังให้สว่างขึ้นได้ แต่ถ้าภาพสว่างไปจนขาดรายละเอียดแล้วละก็ กู่ไม่กลับครับ
Chela caeruleostigmata (Smith, 1931) หรือ ปลาหัวตะกั่วสุโขทัย
Rasbora rubrodorsalis (Donoso-Buchner & Schmidt, 1997) ปลาซิวครีบแดง - สวยแต่ถ่ายรูปยาก
Aphiprion percula (Lacepede) ปลาการ์ตูนเพอคูล่า และ Homo sapiens (Linnaeus, 1758) และ Pagalangnoides resin (Panitvong, 2003) - ตัวที่สองนี่คือคนถ่าย ตัวที่สามคือปะการัง เรซิ่น
Handpod เอามือด้านซ้ายวางทาบลงไปกับตู้ปลากดลงไป ยึดให้มั่น (ตู้สะอาดจะฝืดๆอยู่แล้ว) วางกล้องลงระหว่างนิ้วโป้งและนิ้วชี้ เท่านี้ Handpod ก็เสร็จสมบูรณ์ กล้องจะนิ่งเชียวหล่ะ โปรดสังเกตในภาพเอียงกล้องทำมุมกับตู้ 45 องศาและจัดให้ด้านที่มีแฟลชอยู่ติดกับตู้เพื่อลดแสงสะท้อนกลับเข้ามาที่กล้อง