Aqua.c1ub.net
*
  Mon 08/Sep/2025
หน้า: 1   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ปอมผม หางเปื่อยรึป่าวครับ T^T *  (อ่าน 4678 ครั้ง)
Mick Paramate ออฟไลน์
Club Member
« เมื่อ: 20/09/10, [19:43:42] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

รูปอาจไม่ค่อยชัดนะครับหวังว่าคงพอดูออก ผมอยากรู้ว่ามันหางเปื่อยรึป่าว ถ้าเปื่อย ต้องทำไงมั่งครับ ชี้ทางสว่างทีครับ *




Mick Paramate ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #1 เมื่อ: 20/09/10, [20:39:15] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ลองตั้งค่าโทรสับไหม่ ถ่ายอีกที ช่วยดูทีนะครับ






munrukaqua ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #2 เมื่อ: 20/09/10, [20:42:06] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ตอบให้หน่อยละกัน

ผมว่าหางมันน่าจะเปื่อยนะครับ

รอดูอีกสัก 2-3 วัน

ถ้ามันยังลามเข้าไปเรื่อยๆ

ให้แยกปลาออกมา

แล้วแช่ด้วย AQ1 หรือ AQ2 (ผมจำไม่ได้)

เปลี่ยนน้ามทุกวัน ติดฮีตเตอร์ 32 องศา

2-3 วันน่าจะดีขึ้น

ถ้ายังไงรอผู้รู้มาช่วยแนะอีกทีครับ
Mick Paramate ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #3 เมื่อ: 20/09/10, [20:43:42] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ตอบให้หน่อยละกัน

ผมว่าหางมันน่าจะเปื่อยนะครับ

รอดูอีกสัก 2-3 วัน

ถ้ามันยังลามเข้าไปเรื่อยๆ

ให้แยกปลาออกมา

แล้วแช่ด้วย AQ1 หรือ AQ2 (ผมจำไม่ได้)

เปลี่ยนน้ามทุกวัน ติดฮีตเตอร์ 32 องศา

2-3 วันน่าจะดีขึ้น

ถ้ายังไงรอผู้รู้มาช่วยแนะอีกทีครับ

แล้วถ้ามันไม่ลาม แต่มันไม่หายล่ะครับ ทัมไง ?
บอลลูน ออฟไลน์
Club Brother
« ตอบ #4 เมื่อ: 20/09/10, [22:20:57] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เปื่อยแน่นอนครับ แต่ทำไมคีบบน กับ คีบล่าง มันแปลกๆ

เป็นนานยังครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20/09/10, [22:49:03] โดย น้องบอลลูน ~* »
jobby ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #5 เมื่อ: 20/09/10, [22:57:19] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ไม่ทราบว่าได้ปลามานานยังครับ
แล้วในตู้ที่เลี้ยงอยู่มีกี่ตัว
มีอาการแบบนี้กี่ตัวครับ

เพราะว่าถ้าไม่หายคงต้องใส่ยาซักหน่อยครับ

ในกรณีนี้ผมว่าใส่ยาทั้งตู้เลยก็ดีครับเพราะถ้ามีโรคปลาติดมา ตอนนี้คงลัลล้ากันในตู้
Mick Paramate ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #6 เมื่อ: 20/09/10, [23:13:21] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

เปื่อยแน่นอนครับ แต่ทำไมคีบบน กับ คีบล่าง มันแปลกๆ

เป็นนานยังครับ


ไม่ทราบว่าได้ปลามานานยังครับ
แล้วในตู้ที่เลี้ยงอยู่มีกี่ตัว
มีอาการแบบนี้กี่ตัวครับ

เพราะว่าถ้าไม่หายคงต้องใส่ยาซักหน่อยครับ

ในกรณีนี้ผมว่าใส่ยาทั้งตู้เลยก็ดีครับเพราะถ้ามีโรคปลาติดมา ตอนนี้คงลัลล้ากันในตู้
ได้ปลามาอาทิตนึงแล้วครับมี 2เซท เซทแรก3ตัว ครีบแหว่งๆแบบนี้ 2ตัว อีกตัวและอีกเซทนึงปกติดี แต่พอมาดูมะวานมันเริ่มเปนเหมือนขุยๆ เรยว่าจะแยกออกสะน่อย แล้วถ้าใส่ยาทั้งตู้นี่ใส่ลงไปในตู้เรยป่าวครับ ตู้ผมตู้ 36 กรองข้าง(เต้ม) แล้วจะใ้ช้ยาอะไรดีครับ *
Mick Paramate ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #7 เมื่อ: 20/09/10, [23:14:25] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

แล้วก้อีกเรื่องครับ จุดขาวๆที่หางปลาคือไรอ่าครับ วานผู้รู้ชี้ทาง
Meduza ออฟไลน์
Club Follower
« ตอบ #8 เมื่อ: 20/09/10, [23:28:27] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ผมไม่แน่ใจว่าเป็นโรคที่เขาเรียกว่า fin rod หรือเปล่า
อันนี้ต้องให้ผู้ที่มีประสพการณ์มาตอบ
แต่ถ้าเป็นผมนะ ผมรักษาแบบนี้เลย
ซึ่งผมเรียกว่า เป็นการรักษาแบบครอบจักรวาล

อ้างถึง
โรคพุ่มพวง คือ โรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียภายนอกชนิดหนึ่ง
 
สาเหตุ   เกิดจากการนำปลาใหม่ที่มีเชื้อโรคนี้เข้ามาในบ้าน โดยไม่ได้กักไว้ในที่มิดชิดก่อนนำลงตู้ปลาของเรา แต่ถึงกระนั้น บางครั้งต่อให้เรากักไว้จนมั่นใจ แต่พอปล่อยลงตู้ กลับติดกันทั้งตู้  เพราะปลาที่เคยเป็นโรคนี้อาจจะมีเชื้ออยู่ในตัว แต่เนื่องจากได้รับการรักษาจนหายแล้ว แต่ยังไม่หายสนิทดี (ยังไม่หมดเชื้อ)  เลยไม่แสดงอาการของโรคนี้ออกมา แต่จะกลายเป็นพาหะนำโรคนี้แทน  ปลาตัวที่เป็นต้นเหตุส่วนใหญ่จะไม่เป็นอะไรเลย ลั้ลลา กินอาหารได้อย่างสบายใจ พุงกาง แต่ตัวอื่นนี่เพียบเลยครับ นอนพะงาบ พะงาบ เลย  (เหตุผลที่ปลาตัวต้นเหตุยังแข็งแรงดีอยู่นั้น ก็เพราะว่า ปลาที่เคยเป็นโรคนี้ จะมีภูมิคุ้มกันอยู่ในตัว จะไม่กลับมาเป็นอีก หรือถึงจะเป็นอีกก็จะไม่หนักเท่ากับเป็นครั้งแรก)

อันนี้คือลิงค์การพักปลาในแบบฉบับของผมครับ
http://th.discuscommunity.com/index.php?topic=3.0

อาการ คือ ปลาจะตัวดำ คล้ำ (เฉพาะในปลาที่มี Base เป็นพวก Brown พวกสีเข้มๆ อ่ะครับ พวก 7 สี, Snake skin, Blue Diamond ฯลฯ) ครีบ เครื่องจะห่อ ลู่ หุบ แนบชิดกับลำตัว (เหมือนจรวด) ไม่กินอาหาร  ตามลำตัวจะมีเมือก และคราบสีขาวๆ ปกคลุมอยู่ทั่วตัว  มองแล้วเหมือนมีหมอกเมฆขึ้นที่ตัว (คือที่มาของชื่อโรคตกหมอกครับ) ตาขุ่น มัว ที่ลำตัวรวมถึงบริเวณหัวจะมีแผลถลอก เปื่อย เน่า ครีบและหางขาด แหว่ง  บางตัว ถึงขนาดลงไปนอนก้นตู้เลยก็มี ปลาจะไม่ว่ายน้ำเหมือนปกติ แต่จะลงไปจับตัวกันเป็นกลุ่ม เป็นก้อน ที่ก้นตู้ เป็นพวงๆ เหมือนกำลังประชุมเพลิงกันอยู่ (คือที่มาของชื่อ พุ่มพวงครับ)  น้ำในตู้จะเป็นสีขาวขุ่น มัว  และเต็มไปด้วยเมือกเน่ามากมาย มีกลิ่นคาว เหม็น อย่างรุนแรง ถ้ารักษาไม่ทัน หรือไม่ถูกวิธี  ปลาจะค่อยๆ ทยอย ตาย วันละตัว สองตัว จนตายหมดตู้ในเวลาอันรวดเร็ว
 
ปลาที่ป่วยเป็นโรคนี้ ถ้าคุณไม่กักโรคหรือสกัดการแพร่ระบาดของโรคไว้ เชื้อจะลุกลามและระบาดอย่างรวดเร็วมาก เพียงชั่วข้ามคืน จะเป็นทั้งตู้ และทุกตู้ เชื้อตัวนี้สามารถลอยในอากาศได้  ประมาณว่าลอยข้ามตู้ ว่างั้นเถอะ (ควรหาฝาปิดตู้ที่เป็นให้มิดชิด) และบางทีเจ้าเชื้อโรคมันก็ใช้คนล้างตู้ (ตัวเราเอง) เป็นพาหะนำโรคได้ด้วย   และหรือไม่ก็ติดจากการให้อาหารปลา หรืออุปกรณ์ทุกอย่างเช่นกระชอน ฟองน้ำขัดตู้ สายยาง เป็นต้น

เท่าที่ทราบมา ฟาร์มบางแห่ง ถ้าเกิดมีการเริ่มระบาดของโรคนี้เข้ามาในฟาร์มจนยากต่อการควบคุมแล้ว  ทางฟาร์มก็จะปล่อยให้ปลาในฟาร์มเป็นโรคนี้ทั้งหมด โดยการตักน้ำจากตู้ที่เป็น นำไปใส่ตู้ทุกตู้ในฟาร์ม เพื่อให้ติดให้หมด และจะทำการรักษาทีเดียวพร้อมกันหมดเลย ซึ่งจะง่ายต่อการควบคุมมากกว่าปล่อยให้ระบาดเองไปเรื่อยๆ (เด๋วตู้นี้ดีขี้น อ่ะตู้นี้เริ่มเป็นอีกละ เซ็งเป็ด..เลย แบบนี้ยากครับ ไม่จบ) ผมเองเคยคุยกับเจ้าของฟาร์มๆ นึง เค้าบอกว่า ถ้าเกิดมีปลาเข้ามาใหม่ในฟาร์มและติดโรคนี้มาด้วยนั้น เค้าจะทำการทำลายปลาเหล่านั้นทิ้งเสียทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น 10 ตัว หรือ 100 ตัว ก็ตาม จะไม่รักษา เค้าให้เหตุผลว่ามันไม่คุ้ม คุมยาก ยืดเยื้อ เด๋วเป็น เด๋วหาย ทำให้ไม่สามารถนำปลาออกขาย หรือนำปลาเข้ามาใหม่ได้ อย่างต่ำๆก็เป็นเดือนละครับ สูญเสียรายได้ จึงต้องตัดไฟ ก่อนต้นลม ครับ
 
วิธีรักษา ยาที่ต้องใช้ = AQUARIAM 1 , AQUARIAM 2 , OXY (TETRACYCLIN) , FORMALIN DEHYDE  , ด่างทับทิม  และ ฮีทเตอร์     

การ นำปลาเข้ามาใหม่ ให้สังเกตอย่างใกล้ชิดประมาณ 7-10 วัน โดยการกักแยกปลาไว้ที่ตู้แยก และนำปลาเก่าของเราตัวนึงใส่ลงไปเลี้ยงด้วยกันหลังจากลงตู้กักเลี้ยงรวมแล้ว สังเกตุทุกวันว่าปลาเก่าตัวที่นำมาอยู่ในตู้ มีอาการดังที่กล่าวไว้ข้างต้นหรือไม่ ถ้ามีอาการดังกล่าวให้ พึงสงสัยได้เลย ว่า ถูกหวย เป็นโรค พุ่มพวง เข้าให้แล้ว

กรณีที่ ไม่ได้กักแยกไว้ แต่ลงเลี้ยงรวมเลย ถ้าปลาในตู้ตัวที่เริ่มเป็นก่อนคือปลาตัวที่อ่อนแอที่สุดครับ วิธีสังเกตง่ายๆ อีกวิธีคือ ถ้าปลาทั้งตู้ไม่ยอมกินอาหารเลย นั่นแสดงว่าเริ่มติดกันทั้งตู้แล้ว บางตัวก็เริ่มแสดงอาการออกมาแล้ว แต่บางตัวก็ยังไม่แสดงอาการออกมาเท่านั้นเอง แต่ติดแล้วแน่นอนครับ  ถ้าในตู้ปลาที่เป็น มี วัสดุ ปูพื้นตู้, ไม้น้ำ หรือ ปลาชนิดอื่น  ก็ควรหาตู้เปล่ามาใช้รักษาจะดีกว่านะครับ อ๊อกซิเจน ควรใช้เป็นปั๊มลม หัวทรายฟู่  ธรรมดา ๆ  อย่าใช้ ตู้กรอง หรือ อะไรที่มันกรองๆ ทุกชนิดครับ เพราะมันจะกรองยาด้วย ใช้การดองยาดีกว่าครับ ที่สำคัญอีกข้อนึง คือ ปลาของเราจะไม่ถึงขั้นตายหมดแน่นอน ถ้าหากว่าเรารู้ทันแต่แรก และรีบรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ อย่างถูกวิธี ครับ (แต่ต้องเข้าใจนะครับ ว่ามันต้องมีตัวตายบ้าง เป็นธรรมดา)

วันแรก   นำปลาทุกตัวมาใส่ตู้ พยาบาล (ย้ำทุกตัวนะครับ อย่าเอาเฉพาะตัวที่แสดงอาการเท่านั้น)  เติมน้ำครึ่งตู้ หรือ3 ส่วน 4 ตู้  แล้วแต่จำนวนปลา จะได้ไม่เปลืองยา ใส่น้ำกรองใหม่ทั้งหมดเลย (อย่าใช้น้ำเก่าในตู้ผสมอีกนะ) เปิดฮีทเตอร์ที่ 32-33 องศา (ถึงแม้อากาศจะร้อนตับแตก ก็เปิดไปเหอะ เพราะกลางคืน อุณหภูมิมันจะแกว่ง) เพื่อให้ยาออกฤทธิ์ได้ผลดีที่สุด  นำยา AQ2 มาละลายในน้ำเปล่าก่อนเทใส่ตู้ อัตราส่วน 1 ช้อนชา ต่อน้ำ 50 ลิตร หลังจากนั้น 1 ชั่วโมง นำยา AQ1 มาละลายในน้ำเปล่าแล้วใส่ลงตู้เหมือนกัน (ปริมาณน้ำในตู้ก็ กว้าง x ยาว x สูง x 0.016)  ใส่ยาตามโดสเลย ดองยาไว้ ไม่ต้องให้อาหาร (ให้ก็ไม่กิน จะให้ทำไม?) 

วันที่สอง     ขัดตู้ด้วยสกอร์ตไบรท์ และเปลี่ยนน้ำใหม่ 80-90% ก่อนเปลี่ยนให้ใส่ด่างทับทิมลงไป ให้เป็นสีชมพูกลางๆ ถึงเข้ม ยังเห็นตัวปลาได้อยู่ แช่ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที (รวมเวลาดูดน้ำออกแล้วนะครับ) เติมน้ำ เติมยา ตามโดส (ทำเหมือนกับวันแรก)   ป.ล. ควรละลายด่างทับทิมในน้ำก่อนใส่ตู้ เพราะถ้าไม่ละลายก่อน และใส่ลงไปโดนปลา ด่างทับทิมจะกัดผิวปลาจนไหม้และเป็นแผลได้ แล้วเด๋วมันจะไปกันใหญ่ครับ

วันที่สาม-วันที่ห้า    ปลาจะเริ่มแตกกลุ่มออกมา ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีมาก แต่อาจจะยังไม่กินอาหาร ให้ทำเหมือนวันที่สอง ต่อไปเรื่อยๆ

วันที่ หก-วันที่เจ็ด    ถ้าครีบเริ่มกาง ไม่ลู่ ตัวไม่ดำ แล้ว ให้ลองให้อาหารอีกครั้ง ปลาจะเริ่มกินอาหารได้แล้ว ควรให้เป็นไรทะเลเป็นๆ ปลามันจะได้ตื่นตัวและว่ายออกมากินกัน อย่าให้เยอะ ค่อยๆ ให้ดู ให้กินให้หมด พยายามอย่าให้เหลือ และทำเหมือนวันสองต่อไปอีก

วันที่ แปด-วันต่อๆไป     ลองเปลี่ยนอาหารเป็นอาหารที่ปลากินประจำอยู่ดู (ใช้หนอนแดงแช่แข็งก็ได้ครับ) ถ้ากินได้เหมือนปกติแล้ว ก็หายห่วงครับ แต่ยังคงต้องใส่ยา และ ล้างด่างทับทิม ไปก่อน จนกว่าฝ้าคราบขาวที่บริเวณตัว จะหายไปจนหมด 

หลังจากนั้นเริ่ม เปลี่ยนยา เป็นการคุมยาแทน (ไม่ใช่ยาคุมนะครับ) โดยใช้ OXY (TETRACYCLIN) 1 ช้อนชาต่อน้ำ 200 ลิตรครับ (ประมาณตู้ 36)  + FORMALIN DEHYDE 1 ฝา ต่อ ตู้ 36 + เปิด ฮีทเตอร์ที่ 31 องศา เปลี่ยนน้ำ เติมยา ทุกวัน ทำอย่างนี้ ไปเรื่อยๆ สักอีกอาทิตย์ จนเราแน่ใจแล้วว่าหายสนิท ก็งดยา และก็เลี้ยงตามเดิมเหมือนปกติครับ

วิธีสังเกตว่า ตู้ปลาของเรานั้น ปลอดเชื้อแล้วแน่นอนรึเปล่านี่ ตัวผมจะใช้วิธีนำปลาตัวเล็กๆ ราคาถูกๆ ที่มั่นใจว่าไม่มีเชื้อ ใส่ลงในตู้ปลาดูครับ สังเกตุอาการสัก 5-7 วัน ถ้าปลาใหม่ไม่มีอาการใดๆ ก็ปลอดเชื้อแน่นอนแล้วครับ
     
ส่วนตู้ปลาที่เกิดโรคพุ่มพวงระบาด ในตอนแรก ที่มีปลาอื่นและไม้น้ำอยู่ด้วยนั้น ให้ทำการแช่ด่างทับทิมสัก 15 นาที และถ่ายน้ำออกสัก 70%  เติมน้ำ และ ใส่ FORMALIN DEHYDE ฆ่าเชื้อ ทิ้งไว้ 2 วัน ค่อยเปลี่ยนน้ำ และใส่ FOMALIN อีกต่อไปครับ สัก 3-4 น้ำ เชื้อน่าสิ้นจะหมดไป

จำไว้อย่าง สำคัญมากสำหรับโรคนี้ "การป้องกัน ดีกว่าการรักษา เป็นตู้เดียว ดีกว่าเป็นหลายตู้"

ป.ล. จากประสบการ์ณจริง ไม่ได้อิงนิยาย วิธีการรักษาอาจแตกต่างกันไป มีหลายวิธี บางฟาร์มอาจจะใช้แค่ FORMALINE + OXY เท่านั้น

อันนี้ผมต้องให้เครดิตกับพี่กล้าครับ
http://aqua.c1ub.net/forum/index.php?topic=65357.0

ส่วนตัวผมจะทำไป พอรู้สึกว่าปลาหาย ก็ทำต่ออีกซัก 4-5 วัน


ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้น
ให้ลองศึกษาดู
http://www.discusnews.com/article/cat-02/fin-rot-1.shtml
กล้าทำหรือไม่ อันนี้ต้องวัดใจกันครับ

Mick Paramate ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #9 เมื่อ: 20/09/10, [23:48:09] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ผมไม่แน่ใจว่าเป็นโรคที่เขาเรียกว่า fin rod หรือเปล่า
อันนี้ต้องให้ผู้ที่มีประสพการณ์มาตอบ
แต่ถ้าเป็นผมนะ ผมรักษาแบบนี้เลย
ซึ่งผมเรียกว่า เป็นการรักษาแบบครอบจักรวาล

อันนี้ผมต้องให้เครดิตกับพี่กล้าครับ
http://aqua.c1ub.net/forum/index.php?topic=65357.0

ส่วนตัวผมจะทำไป พอรู้สึกว่าปลาหาย ก็ทำต่ออีกซัก 4-5 วัน


ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้น
ให้ลองศึกษาดู
http://www.discusnews.com/article/cat-02/fin-rot-1.shtml
กล้าทำหรือไม่ อันนี้ต้องวัดใจกันครับ


ขอบคุนมากครับ ผมว่าเด๋วเอาปลามากัดโรคใหม่ทั้งตู้เรย ขัดล้างตู้ให้ดี หวังว่าอะไรๆจะดีขึ้น ถ้ามีใครจะแนะนำทางไหนอีกก้ขอบคุนมากครับ แต่เท่าที่ดูปลาของผมปกติทุกตัวไม่ค่อยรวมตัวกันนะ กินดีว่ายตามปกติ แต่ก้นะ กันไว้ดีกว่าแก้  [on_018]
Mick Paramate ออฟไลน์
Club Member
« ตอบ #10 เมื่อ: 21/09/10, [18:23:41] »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ

ครับ ที่ครีบแหว่งๆนั่นเพื่อนผมบอกว่าเหมือนมันโดนกัดมาก่อนหรืออะไรทัมให้แหว่งซักอย่างแร้วที่ร้านเค้าตัดอีกทีน่ะครับ ผมก้ไม่แน่ใจ แต่ตอนนี้ ตัวที่ดูไม่เหมือนตัวอื่นผมเอามากักโรคเรียบร้อยแร้วครับ หวังว่าจะหายวันหายคืน  [on_066]
หน้า: 1   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: