หน้าหลัก
ค้นหา
บทความ
คำนวณ
ล๊อกอิน
สมัครสมาชิก
Tue 15/Jul/2025
Enjoy Slow Life With
NATURE AQUARIUM
การได้ชื่นชมกับภาพอันสวยงามของพรรณไม้น้ำที่เคลื่อนไหวปลาที่กำลังว่ายอย่างสบายภายในตู้พรรณไม้น้ำ เป็นความสุขที่ทุกคนอยากสัมผัส
หลายๆคนคิดว่าการจัดตู้พรรณไม้น้ำที่สวยงามเช่นนี้เป็นเรื่องที่ยาก แต่คุณสามารถจัดตู้พรรณไม้น้ำเช่นนี้ได้ไม่ยากเพียงปฏิบัติตามขั้นตอนง่ายๆต่อไปนี้ เพียงเท่านี้คุณก็สามารถนำธรรมชาติที่สวยงามเข้ามาอยู่ำภายในบ้านได้ เสมือนการเปิดประตูสู่ธรรมชาติี่ที่คุณยากจะปฎิเสธ
[Step 1]
อ้างอิงจาก ADA Thailand (ใช้ของแพงล้วนๆ)
1. เริ่มด้วยการหาตู้ขนาดที่เหมาะสม (ในตัวอย่างนี้ ใช้ตู้ขนาด 60x30x36 cm) เริ่มด้วยการปรับระดับของตู้ให้อยู่ในแนวระดับทั้งแนวซ้ายขวา และ หน้าหลัง
2. ใส่สารอาหารหลักภายใต้พื้นปลูก (ในตัวอย่างใช้ของ ADA) คือ POWER SAND, BACTER 100 (แหล่งแบคทีเรียที่มีประโยชน์) และ CLEAR SUPER (สารอาหารเริ่มต้นสำหรับแบคทีเรีย)นอกจากนี้สามารถเพิ่ม Penac P, Penac W, Toumalin BC โดยการโรยบนกระจกพื้นตู้ก่อนใส่ POWER SAND หรือใส่ลงบน POWER SAND เพื่อช่วยสร้างและรักษาสภาวะที่เหมาะสมภายใต้พื้นปลูก
แล้ว เทPOWER SANDปริมาตร 2 ลิตรลงในตู้ให้ทั่วและปรับระดับให้เรียบด้วย SAND FLATTER โดยเว้นระยะระหว่างPOWER SANDกับขอบตู้ประมาณ 1-2 cm จะทำให้ไม่เห็นPOWER SANDอยู่บริเวณใต้ตู้และดูเรียบร้อยขึ้น
*** POWER SAND เป็นแหล่งสารอาหารสำหรับการดูดซึมทางรากในระยะยาว POWER SAND SPECIAL เหมาะอย่างยิ่งหากใช้กับ Cryptocoryne หรือ Ehchinodorusที่ดูดซึมทางรากเป็นหลัก AQUASOIL มีให้เลือกใช้ตามความชอบ 3 ชนิด เป็นที่ทราบโดยทั่วไปว่า AQUA SOIL AMAZONIA เป็นตัวเลือกที่สามารถปลูกพรรณไม้น้ำได้ดีที่สุด
3. ค่อยๆเท AQUA SOIL AMAZONIA หนึ่งถุงปริมาตร 9 ลิตร ลงบน POWER SAND โดยทำเป็นทางลาดที่มีความหนาของดินทางด้านหน้าตู้ 4 cm และด้านหลังตู้ 8 cm ตามลำดับ เพื่อทำให้เกิดมิติ
*** อาจจะใช้ดินชนิดอื่นเท แทน AQUA SOIL AMAZONIA ก็ได้ครับ ตรงนี้เป็นดินที่ใช้ในการปลูกไม้น้ำ
4. ค่อยๆเท AQUA SOIL AMAZONIA POWDER เป็นชั้นบางๆในส่วนหน้าตู้AQUA SOIL ชนิด POWDER มีลัษณะเป็นเม็ดขนาดเล็ก ทำให้ดูเป็นระเบียบและปลูกพรรณไม้น้ำได้ง่ายขึ้น
*** ขั้นตอนนี้ไม่ต้องก็ได้ครับ มันจะช่วยให้พื้นดูเรียบมากขึ้นเฉย ๆ และปลูกง่ายขึ้น
5. ค่อยๆเกลี่ยหน้าดินให้เรียบ ปรับให้ระดับดินบริเวณด้านหน้าตู้ให้ขนานกับพื้นซึ่งระดับดินหน้าตู้นี้นับถือว่ามีความสำคัญเนื่องจากจะมีผลต่อภาพโดยรวมของตู้พรรณไม้น้ำ
[Step 2]
การจัดวางองค์ประกอบของตู้พรรณไม้น้ำองค์ประกอบหลักของตู้พรรณไม้น้ำถือว่าเป็นพื้นฐานสำคัญในขั้นตอนการจัดตู้วัสดุหลักที่เลือกนำมาใช้ก็คือ หิน หรือ ขอนไม้ สำหรับในขั้นตอนนี้จะเลือกใช้ขอนไม้ในการจัดวางองค์ประกอบ
***ขอนไม้จากอาจทำให้น้ำมีสีน้ำตาลอ่อนได้ในช่วงแรกเนื่องจากสาร tanninจากธรรมชาติที่ยังคงค้างอยู่ในเนื้อไม้
1. เริ่มจากเลือกขอนไม้สำหรับการจัดองค์ประกอบโดยใช้มาประมาณ 2-3 ชิ้น ในขนาดที่เหมาะสมสำหรับตู้ 60 cm เพื่อสามารถจัดวางระยะห่าง และสร้างมิติให้ตู้ได้ง่ายยิ่งขึ้น
2. วางมอสเลียนแบบธรรมชาติ ใช้ด้าย หรือเอ็นพันมอสติดกับขอน โดยนำออกมาพันนอกตู้เพื่อความสะดวก
*** ที่เห็นแพคสีเงินนั่นเป็น MOSS COTTON จาก ADA ไปด้ายที่เอาไว้พันมอสโดยเฉพาะนะครับ
*** เนื่องจากมอสจะตายอย่างรวดเร็วหากปล่อยทิ้งให้แห้ง ป้องกันโดยใช้กระบอกฉีดน้ำค่อยฉีดให้มอสและพรรณไม้น้ำอื่นมีความชื้นอยู่ตลอดเวลาขณะที่จัดตู้
3. ใช้ด้ายหรือเอ็นผูก RICCIA ติดกับก้อนหิน แล้วนำไปวางรอบๆขอนไม้ เลือกก้อนหินที่มีขนาดและรูปร่างพอเหมาะที่จะช่วยพยุงขอนไม้และดูกลมกลืนเป็นธรรมชาติในเวลาเดียวกันระมัดระวังไม่ใช้ก้อนหินจำนวนมากเกินไปจนทำให้เหลือที่ว่างไม่เพียงพอสำหรับพรรณไม้น้ำ
*** ใช้ถ้วยเล็กๆรองขณะเติมน้ำเพื่อช่วยไม่ให้แรงของน้ำทำลายองค์ประกอบที่จัดเอาไว้
[Step3]
เริ่มปลูกพรรณไม้น้ำอย่างไร?
ขันตอนต่อไปคือการปลูกพรรณไม้น้ำลงพื้นปลูก เริ่มจากใช้น้ำจากกระบอกฉีดน้ำฉีดลงบนพื้นปลูกให้มีความชื้นหรือเติมน้ำให้พื้นปลูกเปียก แต่ไม่ต้องเติมน้ำให้พื้นปลูกอยู่ใต้น้ำทั้งหมด เนื่องจากจะสามารถปลูกพรรณไม้น้ำได้ง่ายยิ่งขึ้นในพื้นปลูกที่เปียก โดยเริ่มปลูกจากหน้าตู้ไปยังกลางตู้และหลังตู้ตามลำดับ
ชื่อไม้น้ำจากรูปจากบนลงล่าง Glossostigma, Echinodorus tenellus , Cryptocoryne wendti "Green"
1.เริ่มปลูก Glossostigma(กรอสโซ) จากรอบๆขอนไม้และก้อนหินไปยังบริเวณหน้าตู้ ขั้นตอนนี้จะง่ายยิ่งขึ้นเมื่อเติมน้ำลงในตู้ให้พื้นปลูกเปียกก่อน
2. ปลูก Echinodorus tenellus(หญ้่าเทเนลุส) บริเวณกลางตู้รอบๆ ก้อนหินและขอนไม้ เพื่อให้มีความหนาแน่นของพรรณไม้น้ำบริเวณนี้มากยิ่งขึ้น
*** การปลูกพรรณไม้น้ำหน้าตู้หลีกเลี่ยงการใช้พรรณไม้น้ำที่เจริญเติบโตในแนวราบมากเกินไป
การปลูกพรรณไม้น้ำกลางตู้เลือกใช้พรรณไม้น้ำที่มีความสูงต่อเนื่องทั้งในบริเวณกลางตู้และหลังตู้ ให้สอดคล้องกับระดับของปลายขอนไม้
รายชื่อไม้น้ำในรูปจากบนลงล่าง Rotala indica , Bolbitis, Microsorum sp., Eleocharis vivipara
พรรณไม้น้ำที่ปลูกในกระถางก่อนนำมาปลูกในตู้จะต้องแยกเอาส่วนที่เป็นใยหิน(rockwool) ออกอย่างระมัดระวังไม่ทำให้ส่วนรากช้ำ หลังจากแยก Echinodorus tenellusจากกระถางตัดส่วนใบที่เสียออกไปแล้วแยกเป็นกลุ่มเล็กๆ
3. ควรตัดพรรณไม้น้ำ (stemplant) ให้มีีความยาวเท่าๆกันใช้ก้านไม้ไผ่เล็กๆนำมาปักเพื่อแบ่งบริเวณที่จะปลูกพรรณไม่น้ำชนิดต่างๆ ให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้
4. ใช้ด้ายหรือเอ็นเพื่อผูกBolbitis heudiloii และ MIcrosorum sp.ติดกับขอนไม้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ผูก anubius ติดกับก้อนหินเล็กๆได้อีกด้วย
*** โรยดินเพิ่มลงบนพรรณไม้น้ำที่ปลูกเสร็จแล้วเพื่อป้องกันไม่ให้พรรณไม้น้ำหลุดลอยขึ้นมา
*** ควรปลูกพรรณไม้น้ำประเภทไม้ข้อชิดกันตั้งแต่แรก รวมถึงปลูก Eleocharis vivipara ในส่วนหลังตู้เพิ่มเข้าไป
[Step 4]
ติดตั้งอุปกรณ์อื่นๆ
เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนการจัดแต่ง layout แล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือการติดตั้งอุปกรณ์ การติดตั้งอุปกรณ์อย่างถูกต้องมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยของตู้พรรณไม้น้ำ รวมถึงการจัดตำแหน่งของข้อต่อต่างๆ ก็ควรเป็นไปอย่างมีระเบียบเช่นกัน
ระบบ CO2 ทำให้การละลาย CO2 มีปริมาณละลายอยู่ในน้ำอย่างเพียงพอ
วัดปริมาณ CO2 การวัดปริมาณ CO2 ในน้ำดูแล้วอาจเป็นเรื่องยาก แต่ DROP CHECKER ทำให้เป็นเรื่องง่ายๆ เพียงใส่น้ำในตู้พรรณไม้น้ำและน้ำยาลงใน DROP CHECKER ก็สามารถรู้ถึงปริมาณ CO2ในน้ำได้จาการเปลี่ยสีของน้ำยา
สี่ฟ้าCO2น้อยไป
สีเขียวCO2พอดี
สีเหลืองCO2มากไป
เตรียมแสงสำหรับพรรณไม้น้ำ
แสงเป็นปัจจัยที่สำคัญมากสำหรับการปลูกพรรณไม้น้ำ และการให้แสงที่เพียงพอจะช่วยกระตุ้นการสังเคราะห์แสง สำหรับผู้ที่เริ่มต้นการใช้หลอดฟลูออเรสเซนท์จะสามารถควบคุมได้ไม่ยาก
***หลอด spectrum ในช่วงสีฟ้าซึ่งสามารถส่องลงในน้ำได้ลึกดี
แนะนำให้เขียนวันที่เริ่มใช้งานติดไว้ที่หลอดไฟ เพิ่อการเปลี่ยนหลอดไฟในเวลาที่เหมาะสมเป็นระยะ
การกรองน้ำสำหรับตู้พรรณไม้น้ำ
เครื่องกรองอุปกรณ์สำคัญในการรักษาคุณภาพน้ำ และให้น้ำมีการถ่ายเทไหลเวียนตลอดเวลา
การกระตุ้นการสังเคราะห์แสงของพรรณไม้น้ำการเติม CO2 ในน้ำเป็นการช่วยส่งเสริมการสังเคราะห์แสง ทำให้พรรณไม้น้ำเติบโตได้ดีขึ้นมาก
การทำความสะอาดผลิตภัณฑ์แก้ว
การเติบโตของตะไคร่น้ำบนผลิตภัณฑ์ที่ทำจากแก้วนอกจากจะบดบังความสวยงามแล้วยังลดประสิทธิภาพของ
อุปกรณ์อีกด้วย
[Step5]
การดูแลรักษาตู้พรรณไม้น้ำ
การใส่ใจดูแลรักษาตู้พรรณไม้น้ำเป็นประจำทุกๆวันคือเบื้องหลังของความสำเร็จของตู้พรรณไม้น้ำรวมถึงการเฝ้าสังเกตุอย่างใกล้ชิดในเรื่องของคุณภาพน้ำความใสของน้ำสภาพของพรรณไม้น้ำและปลา ทำให้สามารถเห็นปัญหาตั้งแต่แรกและสามารถแก้ไขได้อย่างรวดเร็วก่อนที่ปัญหาจะรุกลามกลายเป็นปัญหาใหญ่
โปตัสเซียมและสารอาหารรองช่วยเสริมความสมบูรณ์ของพรรณไม้น้ำ
สารอาหารหลักนอกเหนือจาก ไนโตรเจน และฟอสฟอรัส ซึ่งได้จากการย่อยสลายตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นในตู้พรรณไม้น้ำแล้ว ยังมีโปตัสเซียมซึ่งไม่ได้มาจากขบวนการย่อยสลายดังกล่าวทำให้พบอยู่เสมอว่ามีการขาดโปตัสเซียมในตู้พรรณไม้น้ำ Brighty K(จาก ADA เราอาจใช้ปุ๋ยโปตัสเซียมสูตรอื่นแทนได้ครับ) จะช่วยเสริม โปตัสเซียม ได้อย่างมีประสิทธิภาพและกระตุ้นการสังเคราะห์แสงในเวลาเดียวกัน และเมื่อไม่มีปัญหาตะไคร่น้ำเกิดขึ้นการเสริมด้วยสารอาหารรองซึ่งมีอยู่อย่างครบถ้วนใน GREEN BRIGHT STEP SERIES(จาก ADA ซึ่งใช้สารอาหารอื่น ๆ แทนได้) โดยเริ่มจาก STEP1-2-3 ตามอายุของตู้พรรณไม้น้ำจะเพิ่มความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ตรวจสอบคุณภาพน้ำและระบบนิเวศน์
ของตู้พรรณไม้น้ำในะระหนึ่งถึงสองสัปดาห์แรก ควรสังเกตุการเกิดตะไคร่ ความใสของน้ำ และการว่ายของปลาและกุ้งอย่างใกล้ชิดตรวจสอบคุณภาพของน้ำด้วยการวัดความเข้มข้นของ ไนเตรท ไนไตรท์ และ CO2 และเมื่อพรรณไม้น้ำเริ่มเติบโตตามปกติแล้วควรตรวจสอบค่า pH เป็นประจำและปรับการจ่าย CO2 ให้อยู่ในความเข้มข้นตามที่ต้องการ
การเปลี่ยนน้ำพื้นฐานสำคัญในการดูแลตู้พรรณไม้น้ำ
การเปลี่ยนน้ำอย่างสม่ำเสมอจัดว่าเป็นการดูแลรักษาที่สำคัญที่สุด ใน 1-2 สัปดาห์แรกควรเปลี่ยนน้ำออกอย่างน้อยครึ่งตู้ หลังจากพรรณไม้น้ำเริ่มมีการเติบโตแล้วควรเปลี่ยนน้ำออก 1/2 ถึง 1/3 ของตู้ทุกๆสัปดาห์
ตู้พรรณไม้น้ำสวยได้ด้วยการตัดแต่ง
เมื่อพรรณไม้น้ำเติบโตจนถึงผิวน้ำหรือเมื่อพรรณไม้น้ำบริเวณพื้นตู้มีความหนามากแล้วก็ถึงเวลาของการตัดแต่ง หลักการของการตัดแต่งพรรณไม้น้ำประเภทข้อ (STEM PLANT) ก็คือการตัดส่วนบนออกคงเหลือส่วนล่างและรากเอาไว้ วิธีนี้จะทำให้ได้ความหนาของพรรณไม้น้ำประเภทข้อมากขึ้นเนื่องจากจะมีการแตกยอดใหม่ 2หรือมากกว่าจากยอดเดิม นอกจากนี้ยังสามารถตัดแต่งรูปร่างของกลุ่มพรรณไม้น้ำให้เป็นไปตามความต้องการเพื่อให้เกิดความสวยงามขององค์ประกอบโดยรวมเพื่อคงสภาพความสวยงามโดยรวมของตู้พรรณไม้น้ำไว้ควรตัดแต่งเป็นประจำก่อนที่พรรณไม้น้ำจะเติบโตมากเกินไป
กำจัดตะไคร่ทันทีที่พบ
2-3 สัปดาห์หลัง set up อาจพบตะไคร่สีน้ำตาลหรือแม้แต่ตะไคร่เส้นผมบางๆเกิดขึ้นได้ ขั้นแรกควรใช้สายยางขนาดเล็กดูดตะไคร่ออกไปให้มากที่สุด แล้วใส่กุ้ง Caridina Japonica ประมาณ 10 ตัว(สำหรับตู้ 60 cm) หลังจากนั้นหากยังเกิดตะไคร่ขึ้นอีกให้ใช้วิธีการเดิมคือดูดเอาตะไคร่น้ำออกไปให้มากที่สุดและใส่ปลาหรือกุ้งที่
ช่วยกินตะไคร่ส่วนที่เหลือให้หมด หากปล่อยให้ตะไคร่เกิดขึ้นมากจนทำให้พรรณไม้น้ำอ่อนแอมากๆเนื่องจากกำจัดตะไคร่ช้าเกินไปควรตัดแต่งใบที่เสียออกไป ส่วนตะไคร่ที่ติดกระจกในบริเวณที่ไม่สามารถทำความสะอาดได้ถึง สามารถใช้ PRO LAZOR ช่วยได้
นอกจาก Caridina japonica แล้ว Otocinclus sp. และ Crossocheilus siamensis ก็สามารถกำจัดตะไคร่ได้ดีเพียงใส่ในตู้ในจำนวนเล็กน้อยก็สามารถแก้ใช้และป้องกันตะไคร่น้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพควรลดจำนวนหากพบว่ามีการทำลายพรรณไม้น้ำจากกุ้งหรือปลาที่กินตะไคร่น้ำ
ขั้นตอนสุดท้าย ปล่อยปลา!
หนึ่งเดือนหลังจาก set up เป็นเวลาที่เหมาะสมในการปล่อยปลา เนื่องจากพรรณไม้น้ำเริ่มมีการเจริญเติบโตได้ดีและสามารถควบคุมตะไคร่ได้แล้วเมื่อสิ่งแวดล้อมในตู้พรรณไม้น้ำอยู่ในสถาพสมดุลปลาจะว่ายน้ำอย่างสบายและมีสุขภาพดีหลักในการเลือกปลาสำหรับตู้พรรณไม้น้ำนั้นสามารถเลือกได้้สองแบบคือ ใช้ปลาเพียงชนิดเดียวสำหรับตู้พรรณไม้น้ำที่มีพื้นที่ว่างมากเพียงพอใน concept แบบ minimalistหรือใช้ปลาหลากหลายชนิดสำหรับตู้พรรณไม้น้ำที่มีการปลูกแบบหนาแน่นและมีพรรณไม้้น้ำหลากหลายชนิด
1.scarlet gem/ แม้ปลาชนิดนี้จะขี้อาย่มีความสวยงาม และมีลีลาการว่ายน้ำที่สวยงาม
2.InpaicticKelly/ จัดอยู่ในกลุ่ม Characin สีม่วงธรรมชาติจะดูเด่นเมื่อมีพรรณไม้น้ำเป็นฉากหลัง 3.Aplocheirictic macrofuturamus/ เป็นปลาในตะกูลkillfish มีจุดเด่นที่ตาสีฟ้าอ่อนสะท้อนแสง และชอบว่ายอยู่ที่ผิวน้ำ
4.Paracheirodon axelrodi ปลาในตระกูล tetra เป็นที่นิยมอย่างมากจากสีน้ำเงินและแดงสะท้อนแสงคล้ายนีออนที่สวยงามโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยู่ในตู้พรรณไม้น้ำ
5. Red Phantom Tetra/ มีลำตัวสีแดงเป็นจุดเด่นเมื่ออยู่ในตู้พรรณไม้น้ำ มีลักษณะการว่ายไปมาในวงกว้างเหมาะอย่างยิ่งสำหรับตู้ที่ปลูกพรรณไม้น้ำอย่างหนาแน่น
***** อันนี้เค้าแนะนำมา
ในการให้อาหารปลาต้องแน่ ใจว่าปลากินหมดให้อาหารปลาทีละน้อย และหยุดให้เมื่อปลาเริ่มกินอาหารช้าลงหรือมีการคายอาหารออกมาอย่างไรก็ตามควรให้อาหารให้เพียงพอต่อความต้องการของปลา การให้อาหาร มากไปจะทำให้คุณภาพเสียไปและเกิดปัญหาตะไคร่ตามมา
ชื่นชมกับโลกใต้น้ำที่มีชีวิตชีวาในตู้พรรณไม้น้ำที่คุณสรรสร้างขึ้นมาเอง แม้จะเป็นเพียงตู้พรรณไม้น้ำขนาดเล็กแต่ก็สามารถบรรจุธรรมชาติที่สวยงามคือพรรณไม้น้ำที่เติบโตอย่างสมบูรณ์สวยงามและปลาที่ว่ายอย่างมีความสุข ไม่ว่าจะมองสักกี่ครั้งหรือมองนานสักเพียงใดก็ทำให้จิตใจมีความสุขสงบได้เสมอ
[on_066]
อ้างอิง : http://www.adana-th.com/howto%20new.htm
