มีความรู้ทางการแพทย์มาฝากครับ เป็นเรื่องราวของโรคผิวหนังชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในกลุ่มคล้ายคลึงกับวัณโรค โรคนี้ในต่างประเทศอาจเรียกว่า Swimming pool granuloma, fish tank granuloma, fish-handlers nodules ซึ่งผู้ป่วยจะมีอาการคือ เป็นผื่น หรือตุ่ม อาจแตกเป็นแผลที่ผิวหนัง ลักษณะคล้ายๆ ดังในรูปครับ
สาเหตุเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า Mycobacterium Marinum (M. marinum) ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่มีการเจริญเติบโตช้า มีการดำเนินโรคที่ไม่รุนแรง สามารถก่อโรคได้ในปลาทั้งปลาน้ำจืด ปลาทะเล และในมนุษย์ โดยทั่วไป การติดเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้ในคนพบได้ค่อนข้างน้อย อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เลี้ยงปลาอย่างเช่นชาว clubaquaplant ก็อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อ ซึ่งผู้ที่มีโอกาสติดเชื้อก็คือผู้ที่มีบาดแผลที่ผิวหนังมาก่อน เช่นแผลถลอก รอยขีดข่วนที่ผิวหนังซึ่งอาจเกิดจากการขูดกับขอบตู้กระจก แผลที่ปลายนิ้วหลังจากตัดเล็บหรือเล็บขบ เป็นต้น การติดเชื้ออาจเกิดขณะสัมผัสน้ำในตู้ปลา เช่น ขณะทำความสะอาดตู้กระจก เปลี่ยนน้ำ ขัดตะไคร่ ขณะเคลื่อนย้ายปลา จับปลา หรืออาจติดจากการว่ายน้ำในสระธรรมชาติซึ่งไม่ได้ใส่คลอรีนฆ่าเชื้อโรค หรือสระว่ายน้ำซึ่งไม่ได้มาตรฐานก็อาจเกิดการติดเชื้อได้ จึงมีชื่อโรคอย่างที่กล่าวมาข้างต้นครับ
ส่วนใหญ่จากที่เคยพบผู้ป่วยโรคนี้เกือบทั้งหมดเป็นผู้ที่ทำงานกับฟาร์มปลา เลี้ยงปลา เช่นปลากัด ปลาตู้ มีประวัติมีบาดแผลเล็กน้อยๆ มาก่อน แล้วก็กลายเป็นตุ่มหรือแผลอย่างในภาพ โรคนี้ไม่สามารถติดเชื้อจากคนสู่คนได้ครับ ติดได้จากปลาและน้ำเท่านั้น
หากเรามีบาดแผลและได้รับเชื้อนี้เข้า โดยทั่วไปอาจก่อให้เกิดอาการได้ภายใน 2-4 สัปดาห์ แต่ก็เคยมีรายงานการเกิดโรคหลังจากมีประวัติสัมผัสสัตว์น้ำนานถึง 2-4 เดือนเลยก็มี เนื่องจากเชื้อนี้เป็นเชื้อที่โตช้ามากครับ
ส่วนใหญ่อาการจะเริ่มจาก เป็นตุ่มที่ผิวหนังบริเวณที่มีการติดเชื้อ ตุ่มนี้จะค่อยๆ โตขึ้นช้าๆ ส่วนใหญ่มักเกิดที่บริเวณมือและแขน บางคนเมื่อปล่อยไว้นานเข้าตุ่มนี้ก็อาจแตกเป็นแผลเรื้อรัง ซึ่งลักษณะของแผลนี้จะแปลกคือ ไม่ตอบสนองต่อยาปฏิชีวนะที่ใช้รักษาบาดแผลอักเสบทั่วๆ ไป เช่น ยากลุ่มเพนนิซิลิน เป็นต้น การรักษาโรคนี้จำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะร่วมกันหลายขนาน ผู้ป่วยอาจต้องรับประทานยานานถึง 6 เดือนขึ้นไป
ในผู้ป่วยที่มีร่างกายไม่แข็งแรง เช่นมีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือเป็นโรคเบาหวาน อาการของโรคอาจรุนแรงและลุกลามมากได้
โดยทั่วไป การวินิจฉัยโรคนี้ได้ก็ต้องอาศัยประวัติเป็นสำคัญครับ คือประวัติการเลี้ยงปลา สัมผัสปลา อย่างเช่นชาว clubaquaplant เนี่ยแหละ ร่วมกับลักษณะตุ่มหรือแผล แพทย์จะต้องเจาะเอาหนองหรือขูดเอาหนองที่แผลไปย้อมหรือเพาะเชื้อ เพื่อให้การวินิจฉัยที่แน่นอน และถ้าเป็นโรคนี้จริงล่ะก็ คงต้องรับประทานยากันยาวเลยละครับ แต่ก็เคยมีรายงานว่าผู้ป่วยหลายรายที่สามารถหายได้เร็วเช่นกัน
ก่อนที่จะจบ ก็ขอฝากคำแนะนำสำหรับชาวเวป clubaquaplant ทุกคน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เป็นโรคนี้ ได้แก่
1. ถ้าหากมีบาดแผลที่ผิวหนัง ไม่ว่าจะเป็นแผลถลอก มีดบาด แมวข่วน โดน crayfish หนีบ เล็บขบ น้ำร้อนลวก ฯลฯ พยายามเลี่ยงที่จะสัมผัสกับปลาหรือน้ำในตู้ปลาโดยตรง อาจหาถุงมือมาสวม หรือให้คนอื่นทำแทนไปก่อน อย่าให้น้ำมาโดนแผลของเรา
2. ระมัดระวังอย่าให้เกิดแผล โดยเฉพาะผู้ที่มีภูมิคุ้มกันผิดปกติ เช่น ภูมิคุ้มกันบกพร่อง เป็นเบาหวาน เป็นต้น
3. กรณีที่มีบาดแผลที่บริเวณมือและแขน แต่เลี่ยงไม่ได้ จำเป็นต้องเปลี่ยนน้ำ หรือขัดตะไคร่ เพราะตู้สุดที่รักเริ่มจะดูไม่ได้ น้องกุ้งปลาเริ่มทยอยร่วง ก็ลงมือลุยได้เลยครับ ไม่เป็นไร หาถุงมือมาสวม หรือถ้าไม่มีก็ถุงก๊อปแก๊ปนี่แหละ แก้ขัดไปก่อน หลังเสร็จกิจกรรมแล้ว ให้รีบล้างมือด้วยน้ำและสบู่ทันที ก็จะช่วยลดโอกาสติดเชื้อได้มาก จริงๆ แล้วถึงแม้จะไม่มีแผลก็ตาม เราก็ควรล้างมือด้วยน้ำและสบู่ทุกครั้ง เพราะบางที่เราอาจมีรอยถลอกที่ผิวหนังโดยที่เราไม่รู้ตัวได้ เช่น ขูดกับขอนไม้ ขอบกระจก เป็นต้น
4. ว่ายน้ำในสระที่ได้มาตรฐาน มีการเติมคลอรีนฆ่าเชื้ออย่างถูกต้อง
เพียงเท่านี้ ชาว clubaquaplant ก็จะมีความสุขกับการดูแลตู้สวยๆ ของเรา โดยปลอดภัยจากโรคนี้แล้วล่ะครับ
ปล. รูปที่เอามาให้ดูเอามาจากเวปครับ ไม่ได้ถ่ายรูปคนไข้เก็บไว้อะ
มีข้อสงสัย หรือมีอาการที่สงสัยล่ะก็ สอบถามได้ครับ ชาวclubaquaplant ถ้าเป็นโรคนี้ล่ะก็รักษาฟรี (หรือแลกกับต้นไม้ก็ได้ครับ อิอิ lau02) เฉพาะโรคนี้นะครับ โรคอื่นไม่เกี่ยว nono1
รูปลักษณะตุ่มหรือแผลที่เป็นโรคครับ
|