
กราบสวัสดีมิตรรักแฟนเว็บทุกท่าน
วันนี้สาระน่ารู้แบบบังๆขอเสนอตอน LED ทำไมรุ่ง? ทำไมร่วง?
หลายท่านคงจะรู้จักมักคุ้นกับไฟสำหรับตู้ปลาและไม้น้ำที่เรียกกันว่า LED กันมาบ้างแล้ว
ส่วนใครจะแค่รู้จักชื่อหรือสนิทสนมหยอดเอินเล่นหัวหรือถึงขั้นพาไปกินข้าวที่บ้านมาแล้วก็สุดแล้วแต่วาสนาและกรรมนำพา
เผื่อไว้สำหรับคนที่ยังไม่รู้จักมันดี ผมจะแนะนำคร่าวๆให้พอกระเดือกลงคล่องคอก็แล้วกัน
LED นั้นย่อมาจาก light emitting diode หรือภาษาไทยรุ่นพ่อเค้าแปลไว้ว่า ไดโอดเปล่งแสง
ตัวมันนี่ก็คล้ายๆหลอดไส้นี่แหละ เป็นเม็ดสารอะไรซักอย่างที่ปล่อยไฟฟ้าใส่มันแล้วมันจะมีแสงขึ้น
แต่มันจะเกิดขึ้นด้วยกระบวนการอะไรยังไง ทำมาจากอะไรก็อย่าไปรู้มันเลย รกสมอง และไม่ใช่ประเด็นน่าสนใจ
ยกเว้นว่าจะมีใครอยากประดิษฐ์หลอด led ใช้เองจากดินข้างตุ่มหลังบ้าน ซึ่งมันก็คงจะเกินความสามารถที่ผมจะแนะนำได้อยู่ดี
แต่เรามาเข้าประเด็นที่เราๆท่านๆสนใจกันดีกว่า คือ มันใช้ดีไหม?
คำตอบก็คือ ดีครับ แต่....
ต้องเป็นหลอดที่เขาทำมาสำหรับเลี้ยงไม้น้ำโดยเฉพาะด้วยนะ
ทำไมมันถึงต้องเป็นยังงั้น เดี๋ยวผมจะอธิบายให้ฟัง แต่ต้องท้าวความไปถึงโคตรเหง้าศักราชของพืชกันก่อน
คืองี้ครับ ไอ้พืชเนี่ย สันดานมันเหมือนๆกันหมดครับ คือมันสังเคราะห์แสง ใช่มะ มันอาบแดดแล้วก็ได้พลังงานกันดื้อๆนี่แหละครับ ทีนี้ไอ้แสงแดดสีขาวๆที่ส่องกบาลเราอยู่ทุกวันๆเนี่ย มันไม่ได้เป็นสีขาวซะทีเดียวครับ ถึงแม้ว่ามันจะส่องขานักศึกษาขาวๆออกมาเป็นสีขาวก็เหอะ
แต่มันประกอบไปด้วยสีต่างๆหลายสีรวมกันทำให้เราเห็นเป็นสีขาว คล้ายๆกับหลักการผสมสีน้ำนี่แหละ

http://americanaquariumproducts.com/Aquarium_Lighting.html
เนี่ยครับ มันมีสีเยอะแยะแบบนี้เลย แถมบ้านผมเค้าเรียกสเปคตรัมครับ ในแสงมันจะแบ่งออกเป็นช่วงสีแบบนี้แหละ
เวลาเกิดรุ้งกินน้ำนั่นก็คือไอน้ำมันช่วยแยกสีออกมาให้เรามองเห็นเป็นแถบๆ 7 สีไง
แต่ต้นไม้แม่งเลือกแดกครับ มันใช้แค่สีแดงกับสีน้ำเงิน และเขียวนิดหน่อย ไอ้ม่วงๆหม่นๆ หรือส้มๆมันไม่เอาครับ
มีบ้างก็เล็กน้อย แต่ยังไงมันก็มุ่งไปที่สีแดงและสีน้ำเงินเป็นหลัก เรื่องมากจริงๆ
ถ้าไม่มี เป็นไงครับ แม่งงอนครับ! ไม่โตกันดื้อๆ หรืออาจจะออกอาการซีดขาว เหลือง หรืออะไรก็แล้วแต่อาการที่มันจะสำแดงในสภาพนั้น แต่เป็นอันว่า กูจะเอาสีแดงก๊ะสีน้ำเงิน ถ้ามีแต่สีอื่นมา กูเคือง!
ทีนี้มันก็แล้วแต่หลอดไฟที่ใช้ ว่าจะให้สีออกไปทางไหนมากกว่ากัน มีสีโดนๆที่ต้นไม้มันชอบมากแค่ไหน
มีถูกใจมันมาก มันก็โตดี มีน้อยหน่อยก็ไม่ค่อยโต ถ้ามีน้อยมากๆกูตายให้มึงดู

http://americanaquariumproducts.com/Aquarium_Lighting.html
ถ้าดูตามกราฟนี่จะเข้าใจได้ง่ายขึ้นครับ เส้นสีฟ้าๆนี่คือสเปคตรัมแสงที่ต้นไม้ส่วนใหญ่มันต้องการ
ส่วนอีสีน้ำเงินนี่คือที่หลอด LED สีขาว 6500K ที่มีขายทั่วไปมันให้ออกมา ส่วนสีม่วงคือหลอด MH 6500K แต่ยี่ห้อไหนต้นทางข้อมูลเขาก็ไม่ได้ระบุมาเสียด้วย
ไอ้ความตรงกันกับแสงที่ต้นไม้ที่ต้องการนี่ฝรั่งเขาเรียกค่า PUR ครับ (Photosynthetically Usable Radiation) เป็นค่าของ "Useful Light Energy" หรือพลังงานแสงส่วนที่นำมาใช้ได้ หรือมีประโยชน์นั่นแหละ บอกไว้ประกอบบทความให้มันดูวิชาการไปงั้นแหละ
ไอ้เรื่องPUR หรือนาโนเมตร เวฟเล้งอะไรพวกนี้ไม่ต้องไปสนใจมากหรอกครับ ดูแค่ว่ากราฟเส้นน้ำเงินกับฟ้ามันไม่ค่อยจะทับกัน เห็นไหมครับ หมายความว่าในแสงของ LED 6500K เนี่ย มันไม่ค่อยจะมีแสงที่ต้นไม้ต้องการเท่าไหร่นั่นเอง ถึงแม้มันจะดูสว่างแสบตาขนาดไหนก็เหอะ
เพราะ LED สีขาว 6500K ที่ขายกันทั่วไปนั้นจะใช้สารที่ให้สีฟ้า มาผสมกับตัวสะท้อนที่เป็นสีเหลือง เ้พื่อให้แสงนั้นออกมาเป็นสีขาว มันเลยแทบจะไม่มีสีน้ำเงินหรือสีแดงจริงๆในช่วงที่ต้นไม้ต้องการอยู่เลย และมันก็คือหลอด LED ส่วนใหญ่ที่เราใช้กันอยู่เนี่ยแหละครับ
หรือพูดง่ายๆว่าหลอดที่เราใช้ๆกันเนี่ย มันให้แสงในช่วงที่แทบจะไม่มีประโยชน์อะไรกับต้นไม้เลย
ให้เวลาแต่ละคนสิบนาทีเดินไปทุบโคม LED ที่บ้านครับ....
ยังก่อนครับ ผมมุข มันไม่ได้หมายความว่าจะห่วยเสมอไปครับ
เพราะหลอดมันมีหลายแบบครับ หลอด LED ชนิดที่เค้าทำมาสำหรับไม้น้ำหรือตู้ทะเลโดยเฉพาะ และเค้าว่ากันว่าใช้ได้อยู่ก็มีครับ เพียงแต่ยังไม่ตกมาถึงมือให้ผมมีโอกาสได้ลอง

http://americanaquariumproducts.com/Aquarium_Lighting.html
ของ Aqua Ray เนี่ยครับ เค้าเคลมว่าของเค้าใช้ได้จริง อะไรจริง
ฉะนั้นดีไม่ดี ก็ต้องมาดูกันอีกทีครับว่าหลอดไหน รุ่นไหน ไม่ใช่ว่าจะกากไปซะหมดนา
แต่ถึงต้นไม้หลายชนิดจะโตไม่ดี หรือถึงขั้นตายห่านตายหองกันไป แต่ต้นไม้น้ำบางชนิดแม่มันก็สอนมาดีครับ ไม่ค่อยเลือกกิน ใช้หลอด LED ธรรมดากูก็โต เช่นเฟิร์นในตระกูลรากดำ และมอสทุกชนิด ไม่ปรากฎว่ามีอาการเดือดร้อนใดๆครับ ยังคงโตกันได้ปกติ รวมถึงตะไคร่ทุกชนิดด้วย :D ถ้าจะมีก็อาการคล้ายๆกับเวลาได้แสงไม่มาก โตช้าไปนิดหน่อย
โดยรวมก็พวกที่ต้องการแสงไม่มากทุกชิดน่ะครับ เลี้ยงได้แน่ๆ แต่พวกที่ต้องการแสงจัด เรื่องมากๆนี่ค่อนข้างแน่นอนว่าไม่รอด ก็ขึ้นอยู่กับความสว่างของ LED ที่ใช้ด้วยนะครับ เพราะที่ทดลองมาถ้ากดจ่อผิวน้ำให้สว่างกันจริงๆชนิดไฟบนเตียงผ่าตัดมันก็พอจะโตเหมือนกัน
แต่ถ้ามองกันถึงประโยชน์ด้านอื่น มันก็เอามาใช้งานได้หลายอย่างทีเดียว
1. มันเล็ก สามารถติดแอบๆไว้ในฝาตู้ หรือเป็นไฟเสริมได้ง่ายมากๆ โคมหนีบเล็กๆก็มีเยอะ
2. มันสวย ลำแสงกระทบผิวน้ำเป็นคลื่นๆมันสวยอย่าบอกใคร เราก็ใช้มันทำแทน MH ได้สบาย ไม่เปลืองไฟ วิ๊งๆเลยนา
3. มันไม่ร้อน ยิ่งถ้าเป็นแบบหลอดเล็กๆที่ไม่ใช่แบบ HO แล้วโคมจะแค่อุ่นๆเองครับ มีตู้ปลา,กุ้งหรือตู้ที่ไม่ใช่ตู้ไม้น้ำแล้วไม่อยากให้บ้านร้อนหรือเปลืองแอร์ โคม LED เป็นตัวเลือกที่ดีมากครับ
4. มันประหยัดไฟ กินไฟน้อยมากๆครับ เมื่อเทียบกับแสงสว่างที่ส่งลงตู้ได้ชนิดวัดกันวัตต์ต่อวัตต์กับหลอดชนิดอื่นๆ
เหนื่อยและ พอเหอะ
เอาเป็นว่าคงจะพอเก็ตสาเหตุว่าทำไมบางทีใช้แล้วต้นไม้มันถึงโตไม่ดี ทำไมบางคนใช้แล้วดีกันมั่งแล้วนะ
ไอ้เรื่องของสเปคตรัมนี่ก็ไม่ได้ใช้เฉพาะกับหลอด LED เท่านั้นนะครับ มันใช้ได้กับแหล่งของแสงที่ให้กับต้นไม้ทุกชนิด ทั้งบกและน้ำเลยล่ะ หลอดไฟทุกชนิดที่เปิดให้แสงกับพืชล้วนอยู่ในหลักการนี้หมด
http://americanaquariumproducts.com/Aquarium_Lighting.html
http://en.wikipedia.org/wiki/Light-emitting_diode
http://www.barrreport.com/showthread.php/2089-Lighting-Spectrum-topic <-เรื่องของสเปคตรัมกับไม้แดง คุณ barr ตอบไว้ดีครับ
แถมท้าย
ว่ากันด้วยเรื่องสเปคตรัมที่ต้นไม้ต้องการ คือสีแดงและสีน้ำเงิน
เลยมีไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้เกิดนึกขึ้นมาได้ว่า อยากได้อยู่สองสี งั้นมึงเอาไปแต่สีแดงกะน้ำเงินแล้วกัน ไอ้ห่าราก
แล้วก็ทำโคมไฟ LED ที่มีแต่หลอดสีแดงและสีน้ำเงินมาส่องต้นไม้ และก็ได้ผลดีเสียด้วย แม้จะส่องแค่ริบหรี่ๆพอสว่างเท่านั้น
ต้นไม้สามารถเติบโตได้ดีกว่าหรือพอๆกับที่ส่องด้วยหลอดไฟสีขาวจนสว่างจ้า โดยไม่ต้องสิ้นเปลืองไฟไปโดยใช่เหตุ
ก็เลยเกิดเป็นไฟโรงงิ้วชนิดที่เรียกว่า Grow light ขึ้นมา สีชมพูแหลๆยังกับไฟหน้าเกะจับนมเลยล่ะ
หลอด LED ที่ใช้เขาจะใช้แค่หลอดสีแดง 660nm กับหลอดสีน้ำเงิน 450nm แค่สองสี
บางทีก็อาจจะใช้ชนิดที่ให้ความยาวคลื่นแตกต่างกันไปเล็กน้อย หรือใช้สีเขียวปนมาบ้างก็มี แล้วแต่สูตร
ด้วยข้อดีที่ประหยัดไฟมาก และเกิดความร้อนน้อยมาก จึงเป็นที่นิยมในหมู่ผู้เลี้ยงสมุนไพรในบ้านและผักไฮโดรโพนิกส์ในเวลาอันรวดเร็ว

ลองดูผลที่ฝรั่งเขาเทสดูได้ครับ ต่างเอาการ

ผมก็เลยลองเอามาทดสอบหลอดหนึ่งครับ เป็นหลอดแบบตูดขั้วเกลียว E27 นี่แหละ ราคาก็ล่อไปเกือบพัน
จริงๆมันไม่ควรแพงขนาดนี้ เพราะแค่หลอด LED ธรรมดา แต่อยากลองแบบที่เขาทำขายดูก่อน ว่ามันจะเป็นยังไง เอาไว้เทียบกับที่ทำเอง ก็เลยสั่งมาลอง

Specifications:
Power: 13W
Voltage: 110v/220v
Red Led Wavelength: 645-650 nm
Blue Led Wavelength: 460-465 nm
LED Bulb Diameter: 5mm
LED color: Red+blue mix
Number of LED: 168
Diameter: 125mm
Length of bulb: 135mm
Socket Type: E27
ผลการใช้เพียงแค่ชั่วโมงกว่าๆก็ตามนี้ครับ


คายฟองกันจะๆ เฉพาะตรงที่ส่องเท่านั้นด้วย ส่วนอื่นๆแม้จะโดนไฟ LED สีขาวขนาด 20w ก็ยังเฉย
แต่พอโดนหลอดนี้เข้าไป แค่ 13w เท่านั้น ยังกับโดน MH สัก 150w ส่องเอา
และยังคงคายฟองแม้จะใช้แค่หลอด Grow light 13w หลอดนี้หลอดเดียวโดยไม่เปิดหลอดอื่นเลยด้วยครับ
และเฟิร์นกอนี้ก็โตดิบดีจนงามในระดับที่น่าพอใจทีเดียว ในระยะเวลาใช้งานไม่ถึงเดือน แต่ผมไม่ได้ถ่ายไว้และรื้อกอนี้ไปลงตู้ใหม่เสียแล้วด้วย
น่าเล่นดีไหมครับ เอาไว้เปิดเวลาที่ไม่ได้ดูตู้ น่าจะประหบัดไฟดีทีเดียว