บทความนี้เป็นหัวข้อต่อเนื่องมาจากหัวข้อเดิมของคุณ PEATSOIL มารู้จักสัตว์ประหลาดในตู้ไม้น้ำ : Monster in Aquatic Tank ที่โพสไว้ตั้งแต่ปี 55 และก็ใช้เป็นเหมือนหนังสืออ้างอิงกันมาเรื่อยๆ จนตอนนี้ข้อมูลมันก็เริ่มเก่าไปบ้างแล้ว และก็ย้ายมาเว็บใหม่แล้ว ผมเลยเขียนอันนี้ขึ้นมาใหม่แต่คงอยู่ในคอนเซ็ปเดิม เอามารวมกับบทความพลานาเรียของผมเอง เพื่อให้ครบสมบูรณ์และหาได้ง่ายขึ้นครับ ตัวที่เหลือจะทยอยลงเรื่อยๆตามเวลาที่มีนะครับ
พลานาเรีย (Planaria)
พลานาเรีย เป็นหนอนตัวแบนชนิดหนึ่ง เป็นสิ่งมีชีวิตในไฟลัมแพลทีเฮลมินทีส (Platyhelminthes มาจากภาษากรีกสองคำคือ platy (แปลว่าแบน) และ helminth (แปลว่าหนอน)) ไฟลัมเดียวกับพวกพยาธิใบไม้ พยาธิตัวตืด ลักษณะของสัตว์ในกลุ่มนี้คือ มีร่างกายอ่อนนุ่ม ไม่มีกระดูกสันหลัง มีสมมาตรแบบแบ่งเป็นสอง ลำตัวแบนจากบนลงล่าง (dorso-ventrally) ลักษณะคล้ายริบบิ้น พบประมาณ 25000 ชนิด จัดได้ว่าเป็นสัตว์กลุ่มที่ไม่มีช่องว่างลำตัวที่แท้จริง (Accoelomate)
ปัจจุบันมีการจำแนกสัตว์ในกลุ่มนี้ออกเป็น 4 ชั้น คือ
- พยาธิใบไม้ (Trematoda) ลักษณะลำตัวไม่แบ่งเป็นปล้อง เช่น กลุ่มพยาธิใบไม้ในตับ (Opisothorchis viverini) ในเลือด ในลำไส้ (Fasciolopsis buski) พบในบุคคลที่บริโภคสัตว์น้ำดิบๆ เช่น หอบ ปลา เนื่องจากตัวอ่อนของพยาธิ (cercaria) เหล่านี้จะอาศัยอยู่ในน้ำ
- พยาธิตัวตืด (Cestoda) ลักษณะลำตัวยาวแบ่งเป็นปล้องต่างๆ โดยแต่ละปล้องสามารถเจริญสืบพันธุ์เป็นตัวใหมได้ อาทิเช่น พยาธิตืดหมู (Taenia holium) พยาธิตืดวัว(Taenai haginata) โดยในระยะตัวอ่อนจะฝังตัวในกล้ามเนื้อของสัตว์ที่ชาวบ้านเรียกว่า เม็ดสาคู
- พยาธิภายนอก Monogenea
- พลานาเรีย (Turbellaria) ลักษณะลำตัวไม่แบ่งเป็นปล้อง คล้ายพวกพยาธิใบไม้ ส่วนใหญ่อยู่อาศัยอย่างอิสระ (free living)
พลานาเรียอยู่อาศัยอย่างอิสระ (free living) ไม่ใช่ปรสิต ไม่ใช่พยาธิ ไม่ดูดเลือดหรืออาศัยในร่างกายสัตว์อื่น อาศัยในน้ำจืด
ลักษณะร่างกายมีสมมาตรครึ่งซีก ( bilateral symmetry ) ประกอบด้วยเนื้อเยื่อ 3 ชั้น ไม่มีช่องลำตัว ( acoelom ) ไม่มีระบบหายใจ ระบบหมุนเวียน เเลกเปลี่ยนก๊าซโดยการเเพร่กับสิ่งเเวดล้อมโดยตรง ทางเดินอาหารเเบบไม่สมบูรณ์ มีเเต่ปากไม่มีทวารหนัก เรียกว่า ช่องเเกสโทรวาสคิวสาร์
การกินอาหาร พลานาเรีย ใช้อวัยวะเรียกว่า ฟาริงซ์ ( pharynx ) เป็นเเท่งกล้ามเนื้อยื่นออกมาทางปาก ดูดอาหารติดขึ้นมา เเล้วหดกลับเข้าปากไปในทางเดินอาหาร
ระบบขับถ่ายของพลานาเรียทำหน้าที่ควบคุมสมดุลของน้ำด้วย มีลักษณะเป็นท่อยาวเเตกเเขนงตรงปลายของทุกเเขนงมีเฟลมเซลล์ ( flame cell ) ที่มีซิเลียโบกพัดน้ำให้ไหลออกทางรูที่ผิวหนัง
พลานาเรียมีระบบประสาทเเบบวงเเหวน มีกลุ่มเซลล์ประสาท ( สมอง ) บริเวณหัว มีเส้นประสาท 2 เส้นยาวตลอดลำตัว มีจุดรับเเสง 2 จุดบนหัวทำให้บอกทิศทางได้ มีเซลล์ที่ไวต่อสัมผัสเเละสารเคมีบางชนิดที่ผิวหนัง
สืบพันธุ์โดยการอาศัยเพศ และ เเบบไม่อาศัยเพศ โดยการงอกใหม่ หรือเเบ่งตัวเป็นท่อน
Institute for Water Research Rhodes University - Grahamstown - South Africa
วิธีจัดการกับพลานาเรีย
พลานาเรีย สามารถพบได้บ่อยในตู้ที่มีเศษอาหารตกค้าง พลานาเรียไม่เป็นอันตรายกับปลาและกุ้ง แต่พลานาเรียเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการมีของเสียในชั้นกรวดมากเกินไป มีเศษอาหารตกค้างมากเกินไป ซึ่งไม่ดีกับสัตว์น้ำ ทั้งกุ้งและปลา ฉะนั้น ในการควบคุมและจัดการกับพลานาเรีย จึงควรพยายามแก้ไขที่ต้นเหตุก่อน ซึ่งก็คือเศษอาหารปลาที่เหลือตกค้างภายในตู้
- จำกัดปริมาณอาหารให้พอดีกับจำนวนปลา ให้ปลากินหมดภายในเวลาไม่เกิน 5 นาที ถ้านานกว่านั้นแสดงว่าเราให้อาหารมากเกินไปแล้ว ควรปรับลดปริมาณและความถี่ในการให้ลงบ้าง
- พยายามให้อาหารสดให้น้อยลง สลับให้อาหารแห้งมากขึ้น เพราะอาหารสด เช่น หนอนแดงแช่แข็ง, ไส้เดือนน้ำ, กุ้งฝอย, กุ้งตาย, ไรแดง นอกจากจะเป็นแหล่งที่มาของพลานาเรียแล้ว เศษอาหารสดและอาหารเป็นที่ตายลงในตู้เหล่านี้จะกลายเป็นแหล่งอาหารอย่างดีของพลานาเรีย
- อย่าปล่อยให้มีเศษอาหารตกค้างตามซอกหลืบและช่องว่างในพื้นกรวดที่ปลาเข้าไม่ถึง เพราะเมื่ออาหารปลาลงไปอยู่ในซอกพวกนี้ ก็จะกลายเป็นบุฟเฟ่อิ่มไม่อั้นให้พลานาเรียที่สามารถแทรกตัวเข้าช่องแคบๆได้ดีทันที พยายามเลือกกรวดที่มีขนาดช่องว่างเล็กกว่าอาหารที่เราให้ หรือไม่ต้องมีกรวดเลยถ้าทำได้ จัดพื้นที่ในตู้ให้มีมุมอับน้อยที่สุด หรือลงปลา,กุ้งที่ช่วยเก็บเศษอาหารเล็กๆพวกนี้ก็ช่วยได้อีกแรง
นอกจากการแก้ไขที่สาเหตุแล้ว ถ้ามันไม่ทันการณ์ หรือพยายามแล้วก็ยังไม่สามารถลดจำนวนพลานาเรียลงได้ เราก็จำเป็นต้องใช้วิธีที่รุนแรงกว่าเดิมเสียหน่อย
เอาปลาลงไปกิน
ปลาเล็กๆที่กินเนื้อทุกชนิดมักจะกินพลานาเรีย ถึงบางตัวจะไม่ค่อยชอบนัก แต่ก็มักจะกิน โดยเฉพาะตอนหิว ในการเซ็ตตู้ ไม่ว่าจะเป็นตู้ปลาใหญ่ ปลาเล็ก ปลาโหด ตู้กุ้ง ตู้หอย ตู้ไม้น้ำ ก็ควรพยายามให้ทุกตู้มีปลาเล็กที่คอยเก็บกินพลานาเรีย เช่น ปลาสอด, ปลาหางนกยูง ฯลฯ ปลาพวกนี้จะคอยควบคุมจำนวนพลานาเรียและสัตว์ไม่พึงประสงค์อื่นๆได้ดี บางตัวอย่างปลาสอดยังกินฝ้าผิวน้ำและตะไคร่ได้ด้วย
ดักด้วยกับดัก
พลานาเรียเป็นหนอนตัวแบนที่สามารถแปลงร่าง รีดตัวมันเองให้เป็นรูปร่างได้หลายทรง จึงทำให้มันแทรกเข้าไปในช่องว่างเล็กๆได้ดี แม้แต่ช่องว่างที่มีขนาดไม่ถึง 1mm มันก็ยังเข้าไปได้
เราจึงสามารถอาศัยจุดเด่นในข้อนี้ของมัน มาทำกับดักที่มีแต่เฉพาะพลานาเรียเท่านั้นที่เข้าไปได้ โดยการนำอาหารที่พลานาเรียชอบ เช่น กุ้งตาย, ปลาตาย, ตับไก่, หัวใจไก่, เอาไปล่อมันไว้ในภาชนะที่มีทางเข้าแคบๆขนาดเล็ก เฉพาะให้พลานาเรียสามารถเข้าไปได้ แคบเกินกว่าที่ปลา กุ้ง หอย จะสามารถเข้าไปได้ พอพลานาเรียเข้าไปรุมกันเยอะๆ เราก็ยกกับดักออกมาเอาพลานาเรียไปทิ้ง ซึ่งกับดักพลานาเรียก็มีทั้งแบบที่บริษัทผลิตขายและแบบทำเองง่ายๆไม่ยุ่งยาก
กับดักพลานาเรียที่ทำด้วยแก้ว
การใช้ซากปลาตายเป็นเหยื่อล่อพลานาเรีย
กับดักพลานาเรีย D.I.Y. ทำเองจากหลอดฉีดยา
ดูวิธีทำ กับดักพานาเรีย 2นาที ของคุณ golfie13 ได้ในลิ๊งนี้เลยครับ
หรือจะเป็นแบบวีดิโอ ใน youtube ก็มีคนทำให้ดูเยอะครับ
กำจัดด้วยเกลือแบบ Softcore
- ทำความสะอาดตู้ให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ โดยเฉพาะกรวดรองพื้น ให้ใช้ท่อดูดทำความสะอาดพื้นกรวด (Gravel Washer) เป็นประจำทุกวัน จนกว่าพลานาเรียจะหายไปหมด และนำกรองออกมาล้างวัสดุกรองให้สะอาดหมดจด (นำกรองและวัสดุกรองออกมาล้างด้วยน้ำร้อน หากปัญหาพลานาเรียไม่ดีขึ้นใน 2 อาทิตย์)
- เปลี่ยนน้ำทุกวัน วันละ 20% อย่าตื่นตกใจ อย่าเปลี่ยนน้ำมากกว่า 20% (รวมน้ำที่ดูดออกไปในข้อ 1. ด้วย) ซึ่งจะทำให้ปลาและสัตว์น้ำในตู้ปรับตัวตามค่าต่างๆในน้ำที่เปลี่ยนแปลงกะทันหันไม่ทัน
- ใส่เกลือเม็ด หรือเกลือสำหรับตู้เลี้ยงปลาทะเล 1 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 20 ลิตร และเติมให้ไดเอัตราส่วนเท่าเดิม หลังจากเปลี่ยนน้ำ เช่น คุณถ่ายน้ำออกไป 20 % ไม่ใช่ว่าใส่เกลือลงไป 1 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 20 ลิตร เหมือนเดิม ผิดครับ คุณจะได้ตู้หมักปลาร้าแทน ที่ถูกคือต้องเติมเกลือลงไปเพิ่มอีก 20% นั่นคือ เติมอีก 1 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 100 ลิตร (วิธีนี้สำหรับตู้ปลาใช้ไม่ได้กับตู้ไม้น้ำ และตู้กุ้งแคระ และการใช้กับเครฟิช ให้ระมัดระวังปริมาณและระยะเวลาการใช้)
- ใส่ปลาเล็กๆที่กินพลานาเรีย (ปลากินที่เนื้อเกือบทุกชนิด) เช่น ปลาหมอแคระ ปลาตระกูลเตตร้าและบาร์บชนิดต่างๆ ปลาสอด ปลาหางนกยูง
ทำซ้ำข้อ 1-3 จนกว่าจะไม่เห็นหัวพลานาเรียอีก
กำจัดด้วยเกลือแบบ Hardcore (Reset)
- เอาสัตว์น้ำทั้งหมดออกจากตู้ หาที่พักไว้ที่อื่น
- เอากรอง วัสดุกรอง กรวดรองพื้น ก้อนหิน ขอนไม้ และอุปกรณ์ตกแต่งตู้ทั้งหมด ออกมาล้างด้วยน้ำเดือดหรือน้ำเกลือเข้มข้น (ประมาณว่า ชิมแล้วต้องถุยทิ้ง) หมั่นคน อาจทำซ้ำ 2-3 ครั้ง หากต้องการเพิ่มรสชาติชีวิต
- ล้างตู้ด้วยน้ำเกลือเข้มข้น ล้างด้วยน้ำเปล่า แล้วนำไปตากแดดให้แห้ง (ระวังอย่าให้แดดจัดเกิน เดี๋ยวซิลิโคนเสีย) หรือวางคว่ำในร่มผึ่งลมให้แห้งสนิท ถ้าตู้ใหญ่ ล้างแล้วเช็ดให้แห้ง
- เซ็ตตู้ เดินกรองใหม่ ทิ้งไว้ 1-2 อาทิตย์ ค่อยนำปลาและกุ้งกลับที่เดิม อย่าลืมปรับอุณหภูมิปลาและกุ้งก่อนปล่อย
ใช้ยากำจัดพลานาเรีย
ยากำจัดพลานาเรียโดยตรง เท่าที่ผมเห็นมีขายก็จะเป็นซองของ Genchem ชื่อ No-planaria และ Benibachi Planaria Zero ซึ่งเป็นยากำจัดพลานาเรียสำหรับตู้กุ้งแคระโดยเฉพาะ ทั้งสองตัวนี้ผมก็ยังไม่เคยใช้เหมือนกัน เลยบอกไม่ได้ว่าผลจะเป็นยังไง เพราะบ้านผมไม่มีพลานาเรียมานานหลายปีมากแล้ว แต่เห็นคนอื่นใช้แล้วก็บอกว่าได้ผลดี มีรีวิวเยอะอยู่ แต่ดูจากการทำงานแล้ว น่าจะเป็นตัวยามีเบนดาโซล (Mebendazole) หรือ เฟนเบนดาโซล (fenbendazole) นี่แหละ
รีวิว No-planaria (ภาษาอังกฤษ)
Benibachi Planaria Zero
ใช้ยามีเบนดาโซล (Mebendazole)
กดลิ๊งไปอ่านเรื่อง การใช้ยาถ่ายพยาธิ ฟูกาคาร์, เบนด้า 500 กำจัดพลานาเรีย ไส้เดือนน้ำ, ไฮดร้าและหอย ได้เลยครับ
ในการกำจัดพลานาเรีย เราสามารถใช้ยากำจัดปรสิตภายนอกสำหรับปลาได้เกือบทุกชนิด เช่น ยาที่รู้จักกันดีอย่าง ดิมีลีน 100 (Diflubenzuron), ไซเตส, Sites (ยากำจัดปรสิตภายนอกของ Whitecrane) เพียงแต่ว่า ตู้ที่มีปัญหาพลานาเรียนั้น ส่วนใหญ่มักจะเป็นตู้กุ้งแคระและเครฟิช เพราะไม่สามารถลงปลาเล็กไปช่วยกำจัดพลานาเรียได้เพราะปลานั้นไปกินลูกกุ้งแคระ หรือโดนเครฟิชจับกินไปเสียก่อน
ซึ่งในตู้ที่มีสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังประเภทกุ้งและหอยนั้น จะไม่สามารถใช้ยากำจัดปรสิตภายนอกเหล่านั้นได้ เพราะตัวยาเหล่านั้นออกฤทธิ์ฆ่าสิ่งมีชีวิตกลุ่มนี้โดยตรง ยกเว้น มีเบนดาโซล (Mebendazole) ที่มีการออกฤทธิ์ฆ่าสัตว์จำพวกหนอนโดยเฉพาะ ที่สามารถใช้ในตู้ที่มีกุ้งอยู่ได้
ยากำจัดปรสิตภายนอก Sites ใช้กำจัดพลานาเรียในตู้ปลาได้ แต่ห้ามใช้ในตู้ที่มีกุ้งและหอย!
หรือจะใช้ยารักษาพยาธิภายใน ทั้งของปลาและของคน (ยาถ่ายพยาธิตัวกลม, เส้นด้าย) ก็ใช้ได้ครับ
สองตัวนี้เป็นยากำจัดพยาธิภายในของ Azoo ครับ ใช้กำจัดไส้เดือนน้ำได้ แต่ไม่ควรใช้กับตู้ที่มีกุ้งแคระ เพราะในฉลากส่วนมากจะบอกขนาดการใช้กับตู้ปลา ไม่ได้บอกขนาดการใช้ยาที่ปลอดภัยกับกุ้งแคระมาด้วย ถ้าจะลองก็ลองเริ่มจากครึ่งโดสก่อนแล้วกันนะครับ คอยสังเกตอาการด้วย
สำหรับท่านที่เลี้ยงหอย ยากำจัดพวกพยาธิปลาพวกนี้ส่วนมากใส่แล้วหอยตายนะครับ ตายแหง๋แก๋ ต้องเอาหอยออกก่อน และไม่เอาหอยกลับไปลงจนกว่าจะถ่ายน้ำไปหลายๆครั้ง แล้วลองเอาหอยกากๆ พวกหอยเจดีย์ใส่ไปลองยาก่อน จริงๆแล้วถ้าโดสไม่เกินหอยก็จะไม่ค่อยตายหรอกครับ แต่ยาปลาพวกนี้เค้าไม่ค่อยบอกตัวยาและปริมาณมาให้ ทำให้เวลาใช้ยาพวกนี้คำนวณโดส (ที่ไม่ใช่โดสที่บอกมาที่ฉลาก) ได้ยาก
ถ้าจะใช้ยาเพื่อกำจัดไส้เดือนน้ำ, พลานาเรียและหนอนต่างๆ ในตู้ที่มีหอย ผมแนะนำให้ใช้ยาถ่ายพยาธิคน มีเบนดาโซล (Mebendazole) มากกว่า เพราะบอกปริมาณยามาเรียบร้อย การใช้ยามีเบนดาโซลก็ตามลิ๊งนี้เลยครับ การใช้ยาถ่ายพยาธิ ฟูกาคาร์, เบนด้า 500 กำจัดพลานาเรีย ไส้เดือนน้ำและหอย