เพลงที่น่าสนใจในอัลบั้มนี้ ลองLand of the Giantsดู ด้วยความยาวที่ฟาดเข้าไปตั้งสิบกว่านาที เริ่มต้นที่เสียงริฟท์ให้อารมณ์แบบความเวิ้งว้างทะเลทรายชายหาดร้างๆหน่อย
ข้างบ้านยังไม่เฝี้ยงหลังคาก็ยังไม่หยุด เราจะต่อกันด้วย Playing with Fire นี่ก็ควบจี๋อีกเหมือนกัน ถึงจังหวะจะออกมาคล้ายกันกับเพลงแรก แต่เพราะการแต่งเพลงของป๋า Axelแกเจ๋งมาก เลยทำให้เพลงชนิดเดียวกันถูกแยกด้วยเมโลดีที่ชัดเจน
เช่นกัน หลังThe Arrivalอินโทรจบ Earls of Black ก็ขึ้นตามมาทันที แค่กีตาร์ขึ้นท่อนต้นก็รู้แล้วมันส์ของแทร่ส์ เมโลดีงามเลย กลองรัวฟาดไม่ยั้ง เสียงลงสแนร์นี่ชัดมาก เสียงของ Johnny Gioeli อย่างเท่ห์ ก้าวร้าว ดุดัน มั่นใจ ฟังแล้วให้อารมณ์คล้าย Ralf Scheepers วงPrimal fear ผสมรวมกับ Thomas Rettke ของวง Heaven gate แพ๊ครวมกันมา คือความก้าวร้าว ดุดัน รุนแรง แบบราล์ฟ กับเสียงแห่งความมั่นใจ มุ่งมั่น อลังการ ห้าวหาญ แบบโธมัส คือเสียงของพี่จอห์นนี่ทำให้รู้สึกได้แบบนี้จริงๆ
The Line เพลงบัลลาดช้าๆ ไม่มีเทคนิคการเล่นอะไรมากมายแค่แต่งเพลงให้มีเมโลดีงามๆวิ้งๆ แล้วก็ให้เสียงร้องเจ๋งๆของ Johnny Gioeli พาเพลงไปจนจบ แค่นี้แหละ แล้วก็เพราะดีซะด้วยนะ เพลงนี้
Shadow Zone 2002
Edge of the World เพลงไททิลแทรคอัลบั้มนี้มาแปลก ลดจังหวะจากม้าควบ gallop beatลงไปหน่อยนึง แล้วไปเพิ่มลูกเล่นจากการเล่นจังหวะกระตุกๆนิดๆ เมโลดีสวยดี เพลงนี้ ไม่ดุเท่าไหร่ ซาวด์ออกมาสว่างๆไม่มืดทึบ
Only the Strong Will Survive เพลงจังหวะกลางๆสนุก มีความก้ำกึ่งระหว่าง ฮาร์คร๊อค กับเฮฟวี่ เสียงของ Johnny Gioeli เค้าเหมาะกับแนวนี้จริงๆ ชุดนี้ได้รับเสียงตอบรับ และคำนิยมจากแฟนๆดีอย่างแวรงงส์ อะฮ้าาาาา
สรุปโดยรวม สำหรับงานของป๋า Axel และชาวคณะเนี่ย ตัวดนตรีจะเป็นส่วนผสมระหว่าง Hard rock + Heavy + power และในส่วนผสมทุกอย่างนี่ เท่าที่ได้ติดตามมาไม่เจอสิ่งแปลกปลอม งานทดลองอื่นใดผสมอีก เรียกว่า มันเป็นงานแบบ Tradition pure metal รสดั้งเดิม เพิ่มเติมแค่เกลือป่นแค่นั้นเอง อิอิอิ