วันเสาร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2567 [12:31:41]

Trigonostigma espei

ซิวข้างขวานเล็ก, Lambchop Rasbora
ภาพอัพโหลดโดย : BanQ[แบงค์]™ เมื่อ : 15/11/10
ชื่อวิทยาศาสตร์ Trigonostigma espei
ชื่อสามัญ (อังกฤษ) Lambchop Rasbora
ชื่อสามัญ (ไทย) ซิวข้างขวานเล็ก
ขนาดโตเต็มที่ 2.5-3 ซม.
อุณหภูมิ 23-28 °C
อัตราการเจริญเติบโต
เร็ว
การอยู่ร่วมกัน -
ความยาก-ง่าย -
บันทึกเมื่อ: 11/10/2561 โดย บัง แก้ไขล่าสุด: 11/10/2561 โดย บัง
รายละเอียดอื่นๆ
ซิวข้างขวานเล็ก Trigonostigma espei เป็นปลาน้ำจืดขนาดเล็กชนิดหนึ่งจำพวกปลาซิว ในวงศ์ปลาตะเพียน (Cyprinidae) มีรูปร่างและพฤติกรรมเหมือนปลาซิวข้างขวานใหญ่ (T. heteromorpha) ซึ่งเป็นปลาที่ลักษณะใกล้เคียงกันมากที่สุดทุกประการ เพียงแต่มีขนาดเล็กกว่า คือ มีขนาดใหญ่ได้สุดเพียง 2.5 เซนติเมตร และแถบดำรูปสามเหลี่ยมที่ลำตัวก็เล็กกว่า

ถิ่นที่อยู่อาศัย
พบอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศไทยและอีกแหล่งหนึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศใกล้ชายแดนกัมพูชา รวมไปถึงลุ่มน้ำ Prek Tuk Sap ใกล้กับเมือง Sihanoukville ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศกัมพูชา และไม่นานมานี้ก็มีรายงานการค้นพบในเกาะ Phu Quoc ของเวียดนาม สีของปลาอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับท้องที่ เช่นตัวอย่างจากจังหวัดกระบี่มีสีแดงเข้มกว่าจังหวัดจันทบุรี

โดยทั่วไปซิวข้างขวานเล็กจะมีที่อาศัยอยู่ในส่วนของลำธารและคลองสาขาซึ่งมีพืชน้ำขึ้นอยู่หนาแน่น บางครั้งก็พบอยู่ในน้ำคล้ายป่าพรุหรือน้ำเหลือง เนื่องจากมีแทนนินและสารเคมีอื่นๆ ที่ปล่อยออกมาจากการย่อยสลายอินทรียวัตถุจากใบและกิ่งไม้ที่ร่วงหล่นลงในน้ำ

สภาพน้ำเช่นนี้ทำให้น้ำมีคุณสมบัติเป็นน้ำอ่อนและเป็นกรด และมักจะมีแสงสว่างน้อยเนื่องจากป่าด้านบนมีพืชพรรณขึ้นอยู่หนาแน่น แต่ในจังหวัดกระบี่ สามารถพบซิวข้างขวานเล็กได้ในสระมรกต ซึ่งเป็นพื้นที่หินปูนที่น้ำมีสภาพ pH 7.0-7.4 ทำให้น้ำใสและมีเฉดสีฟ้า-เขียวสด เนื่องจากการสะท้อนของแสงจากแคลเซียมคาร์บอเนตในปริมาณสูง บ่อน้ำเหล่านี้ยังมีความสำคัญเนื่องจากเป็นแหล่งที่รู้จักกันเพียงแหล่งเดียวที่สามารถพบ Betta simplex ได้

การเลี้ยงดู
ซิวข้างขวานเล็กเป็นปลาที่รักสงบ ทำให้เลี้ยงรวมกับปลาขนาดเล็กอื่นๆ เช่นปลาในกลุ่มเตตร้าและปลาสอดได้ดี และควรจะเลี้ยงปลาชนิดนี้เป็นฝูงอย่างน้อย 8-10 ตัว ซึ่งจะทำให้ปลาไม่ตื่นกลัวและมีการแสดงออกที่ดูเป็นธรรมชาติ

การแยกเพศ
ตัวเมียที่โตเต็มวัยมักจะมีส่วนท้องกลมและขนาดใหญ่กว่าตัวผู้ที่มักจะมีขนาดเล็กกว่าและมีสีสันมากกว่า โดยเฉพาะเวลาที่ตัวผู้ขับสีเพื่อแย่งตัวเมีย

การขยายพันธุ์
ปลาชนิดนี้ไม่มีการดูแลไข่และลูกอ่อน โดยมันจะไข่ติดกับด้านล่างของใบไม้หรือวัสดุอื่นๆ แทนที่จะไข่กระจัดกระจายไปทั่วเหมือนปลาตะเพียนขนาดเล็กอื่นๆ ยิ่งปลาอยู่ในสภาพดีก็จะยิ่งวางไข่บ่อย ในตู้ที่สภาพดีๆ อาจจะได้เห็นลูกปลาออกมาโดยไม่ต้องไปยุ่งกับมันเลยก็ได้

อย่างไรก็ตามหากต้องการให้ได้ลูกปลาเยอะขึ้นก็ควรจัดตู้เพื่อการเพาะพันธุ์โดยเฉพาะ โดยเซ็ตตุ้ที่มีแสงเพียงสลัวๆ  จะปล่อยพื้นตู้โล่งหรือรองพื้นด้วยตาข่ายที่มีขนาดใหญ่พอที่จะทำให้ไข่ที่ไม่สามารถยึดติดกับใบไม้สามารถร่วงผ่านได้ แต่มีขนาดเล็กพอที่จะกั้นพ่อแม่ปลาไม่ให้สามารถเข้าถึงได้ หญ้าเทียมพลาสติกก็สามารถใช้ได้ดี

ค่าน้ำควรอยู่ในช่วง pH 5.0-6.0, 1-5°GH ใส่เฟิร์นตระกูลรากดำ (Microsorium) หรือคริป (Cryptocoryne) และพืชที่มีใบกว้างอื่นๆ หรือใช้ต้นไม้เทียม ส่วนระบบกรองไม่มีความจำเป็นแต่จะใช้กรองฟองน้ำขนาดเล็กๆก็ได้

ผู้เพาะพันธุ์ Trigonostigma spp. แนะนำว่าปลาที่มีอายุมากกว่าหนึ่งปีหรือมากกว่านั้นเป็นช่วงที่ดีที่สุดสำหรับการวางไข่ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้เพาะพันธุ์ปลาสายพันธุ์นี้มักจะบอกว่าผสมพันธุ์ได้ยาก

ควรเตรียมพ่อแม่พันธุ์ด้วยการให้อาหารสดและอาหารแช่แข็งจำนวนน้อยๆ 2 หรือ 3 ครั้งต่อวันสัก 2-3 สัปดาห์ก่อนเริ่มการผสมพันธุ์ จนเมื่อเห็นตัวเมียมีไข่เต็มท้องและตัวผู้ขับสีแข่งกัน ควรเปลี่ยนน้ำเย็น (40-50% ของปริมาตรถัง) ควรเปลี่ยนน้ำเย็น และนำพ่อแม่พันธุ์ย้ายไปไว้ในตู้เพาะพันธุ์ตู้ละหนึ่งหรือสองคู่ในอีกสักสองสามชั่วโมงต่อมา และจะให้ดีก็ควรจะเป็นช่วงเวลาเย็น

การวางไข่มักเกิดขึ้นในช่วงเช้ามืดและเกิดขึ้นก่อนที่จะมีกิจกรรมการเกี้ยวพาราสี และบ่อยครั้งที่ตัวผู้จะทำการ "dry runs" เหนือพื้นที่วางไข่ที่มันเลือกไว้ 2-3 ชั่วโมงก่อนวางไข่จริง จากนั้นตัวเมียจะเริ่มวางไข่กลุ่มเล็กๆ ไข่จะถูกปฏิสนธิโดยตัวผู้ก่อนที่จะมีการวางชุดต่อไป ถ้าตัวเมียยังไม่วางไข่ก็สามารถปล่อยพ่อแม่พันธุ์ไว้ในตู้เพาะพันธุ์ก่อนได้ โดยไม่จำเป็นต้องให้อาหารแก่พ่อแม่พันธุ์ในขณะที่อยู่ในตู้เพาะพันธุ์ แต่หากผ่านไป 3-4 วันแล้วก็ยังไม่วางไข่ ควรจะเปลี่ยนพ่อแม่ปลาชุดอื่น

พ่อแม่ปลาจะกินไข่ ดังนั้นควรจะแยกพ่อแม่ปลาหรือไข่ออกมาโดยเร็วที่สุด การฟักขึ้นอยู่กับอุณหภูมิแต่โดยปกติแล้วจะใช้เวลาระหว่าง 24 ถึง 48 ชั่วโมง และลูกปลาจะสามารถว่ายน้ำอย่างอิสระในเวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ อาหารเริ่มต้นควรเป็นพารามีเซียม (Paramecium) โรติเฟอร์ (Rotifer) หรืออาหารอื่นคล้ายๆกัน ควรจะให้ตัวอ่อนของอาร์ทีเมีย, ไรแดง, หนอนจิ๋วเมื่อลูกปลามีขนาดใหญ่พอที่จะกินได้
c1ub.net Aquapedia database v0.8b Licensed under
(CC)BY-SA
with attribution required.